ถนนเล่าเรื่อง - นิยาย ถนนเล่าเรื่อง : Dek-D.com - Writer
×

    ถนนเล่าเรื่อง

    ถนนทุกเส้นมักจะมีเรื่องเล่าที่เล่าสู่กันมารุ่นต่อรุ่นดังนั้นถนนจึงมีเรื่องเล่าไม่ต่างจากชีวิตของคนเราผิดกันนิดเดียวที่ถนนมักจะมีแต่เรื่องเศร้าดำมืดน่ากลัวแบบที่คนเราไม่มี

    ผู้เข้าชมรวม

    78

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    9

    ผู้เข้าชมรวม


    78

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  25 ธ.ค. 64 / 15:54 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    "น้อย" น้อย" ครับเจ๊มีอะไรครับ

     "เจ๊ณี"เจ้าของ โรงงานอัดกระดาษที่น้อยทำอยู่

    ตะโกนเรียกน้อยเสียงลั่น

     เดียววันนี้เธอไปส่งลูกอัดแทนเตี้ยเขานะเมียเขาเพิ่งโทรมาลาว่าต้องกลับต่างจังหวัดด่วนแม่ยายเขาเสีย

     ได้ครับเจ้เดี๋ยวผมขอตัวไปอาบน้ำกินข้าวก่อนนะครับ น้อยบอก

     เออไปสิเพราะเธอเพิ่งกลับจากไปส่งที่ชลบุรีมาไม่ไช่หรอคงเหนื่อยแย่ แต่ครั้งนี้เจ๊ขอวานเธอ ช่วยหน่อยนะเจ๊ไว้ใจเธอ เธอขับรถดีคำพูดคำจาเธอก็สุภาพเถ้าแก่โรงต้มนี้เขาชอบคนขับที่สุภาพไม่ชอบคนที่มาส่งลูกอัดแบบพูดจาหยาบคายอะไรแบบนี้


     ครับเจ๊  น้อยรับคำ

     

     เมื่อถึงเวลาที่ต้องไปส่งของน้อยก็ไม่ลืมที่จะบอกพ่อของตนเหมือนทุกครั้ง 


    พ่อผมไปก่อนนะ 

    กว่าจะกลับคงเป็นพรุ่งนี้เช้านะพ่อ น้อยบอก อ้าวทำไหมวันนี้เอ็งไปส่งของดึกหละ 


    "พ่อพูดด้วยสีหน้าเป็นห่วง"

     เพราะตามหลักแล้วน้อยจะไปส่งของเที่ยวสุดท้ายไม่เกิน20.00และจะนอนค้างที่โรงต้มกระดาษเพื่อรอเอาลูกอัดลงจะกลับมาบ้านก็เช้า 

    ตาเตี้ยเขากลับบ้านนอกด่วนพ่อ เจ๊บอกว่าแม่ยายเขาเสียไม่มีคนส่งของผมเลยต้องส่งแทนเขาพ่อ 

    น้อยบอก

     แต่พ่อไม่ต้องห่วงผมหรอก มันเป็นเส้นทางที่ผมเคยไปส่งของประจำอยู่แล้วเพียงแต่ว่ามันต้องแยกไปอีกสายก็เท่านั้นเองพ่อ น้อยพูดจบก็ยกมือไหว้พระไหว้พ่อ ที่น้อยทำเป็นประจำอยู่แล้วเมื่อจะออกจากบ้านไปทำงาน


     น้อยเอากุญแจรถและเงินอีก300พิเศษ เจ๊ให้ เจ๊ณีพูดพร้อมยื่นกุญแจรถและเงินอีก300ให้


     น้อยมองดูนาฬิกาตอนนี้เป็นเวลา4ทุ่มแล้ว น้อยรีบขับรถออกจากโรงงานเพื่อจะได้แวะปั๊มเติมน้ำมันก่อนที่จะขับยาวแบบไม่พักเพราะน้อยคิดว่าจะพักตอนที่ถึงโรงต้มเลยจะได้นอนด้วย 

    เท่าไรพี่ "เด็กปั๊มถาม" 3000น้อง อ้าวพี่ตาเตี้ยไปไหนหรอพี่นี่มันคันที่ตาเตี้ยขับผมจำได้ 

    ตาเตี้ยเขากลับบ้านพี่มาขับแทนเขา2วัน

     และพี่จะไปส่งที่ไหนหละคืนนี้ "พี่จะไปส่งที่ลพบุรีโรงเถ้าแก่ซ้ง

    !!เด็กปั๊มทั้งสองทำหน้าตกใจ!!

    มีอะไรหรือเปล่าน้อง     ไม่มีจ๊ะพี่   โชคดีนะน้อยรีบขึ้นรถและรีบขับออกไป         

    น้อยขับรถมาตามที่GPSบอก

    แต่น้อยก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นทางที่จะเข้าไป โรงงานนั้นมันเปลี่ยวมากมากซะจนน้อยไม่อยากขับเข้าไปเลย

    ! เห้ย! มันไช่ที่นี้จริงหรอวะเนี้ย 

    แต่เมื่อน้อยเพ่งดูน้อยก็เห็นโรงงานที่เปิดไฟอยู่ไกลๆโรงงานตั้งอยู่ประมาณ 10 กิโลเมตร จากทางเข้าซอย

    น้อยไม่ได้แปลกใจอะไรที่โรงงานต้มกระดาษจะตั้งอยู่ในที่ไกลๆห่างจากชุมชนและถนนใหญ่แต่ที่น้อยแปลกใจคือทางเข้าของโรงงานนี้มันเปลี่ยวมากแถมเสาไฟข้างทางแต่ละต้นก็ห่างกันออกไปประมาณ 200 เมตร 

    !เอาวะสู้เป็นไงเป็นกัน

     และน้อยก็เลี้ยวรถหกล้อที่ข้างหลังเต็มไปด้วยลูกอัดขับเข้าไปในซอยขับมาได้ประมาณ5กิโลสายตาเจ้ากรรมมันก็ดันไปเห็นเงาตะคลุ่มอยู่ข้างถนน

    แต่เมื่อมองดูดีดีแล้วเงานั้นคือ " 

    ชายแก่ยืนอยู่ข้างทาง" 

    หลังค่อมมือถือไม้เท้าผมขาวโพนใส่เสื้อสีขาวคอกลมกางเกงสีดำขายาวสะพายย่าม


     น้อยหยุดรถหมุนกระจกลง "ลุง ลุง จะไปไหนครับ" ค่ำมืดแบบนี้อันตรายนะลุง 


    "อ้าวไอ้หนุ่ม "ลุงจะไปที่โรงงานต้ม กระดาษ ลุงมาจากบุรีรัมย์มาตามลูกสาวให้กลับบ้านไปงานศพแม่มัน 

    ลูกสาวลุงอยู่โรงงานนี้หละแต่ลุงหลงทางกว่าจะมาถึงที่นี้ก็มืดแล้วรถราก็ไม่มีผ่านมาสักคัน

    ลุงเลยเดินเข้าซอยมานี่หละหนุ่มเอ้ย 


    มามาลุงมาขึ้นรถผมผมจะไปที่นั้นพอดี น้อยเปิดประตูรถเพื่อที่จะไปช่วยพยุงลุงขึ้นรถ


     ลุงก้าวสูงๆนะลุงรถมันสูง

     เออขอบใจมากนะไอ้หนุ่ม 

    แต่น้อยก็ต้องแปลกใจ เมื่อจมูกมันได้กลิ่นหอมของดอกมะลิมันหอม

     มากหอมแบบที่เขาไม่เคยได้กลิ่นมะลิที่หอมแบบนี้มาก่อนน้อยหันซ้ายแลขวาก็ไม่เห็นมีต้นมะลิเลยนี่หว่าเห็นแต่ต้นหญ้าคาขึ้นเต็มไปหมด

     น้อยได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ "เรียบร้อยแล้วนะครับลุง"


     เออข้านั่งดีแล้ว

     แล้วน้อยก็เดินออมหน้ารถเพื่อที่จะมาขึ้นรถฝั่งคนขับ

     ไปลุง ลุงหนาวไหมครับ เดี๋ยวผมหรี่แอร์ให้นะลุง

     ไม่เป็นไรหรอกแค่เอ็งไห้ลุงติดรถมาด้วยก็บุญมากโขแล้ว ลุงพูด

     ลุงอย่าพูดอะไรแบบนั้นบุญอะไรกันลุง

    ผมเห็นลุงเดินอยู่คนเดียวในซอยเปลี่ยวแบบนี้ผมก็ต้องช่วยลุงสิผมจะปล่อยให้ลุงเดินอยู่แบบนั้นได้อย่างไร

     น้อยพูดไปยิ้มไป ว่าแต่ลุงเถอะทำไมถึงไม่โทรศัพท์ให้ ลูกออกมารับละครับ

     ลุงไม่มีโทรศัพท์หรอกไอ้หนุ่มถึงมีลุงก็ไม่รู้เบอร์ของลูกสาวลุงด้วยว่าแต่เอ้งเถอะเพิ่งมาส่งที่นี้เป็นครั้งแรกไช่ไหม

     ลุงรู้ได้ยังไง น้อยถามแบบงง 


    ข้ารู้แล้วกัน ฮาฮ่า 

    555555

    แต่กว่า5กิโลเมตรกว่าจะถึงโรงงาน "จู่ๆลุงก็เกิดพูดขึ้นมาว่า" 

    หนุ่มเอ้งเชื่อเรื่องผีไหม 

    ลุงอย่านะลุง ผมเชื่อ สนิทเลยลุงว่าโลกนี้ มีผีมีวิญญาณแต่ผมก็ไม่เคยเจอและไม่อยากเจอด้วยลุงตอนแม่ผมเสียผมยังกลัวว่าแม่จะมาหาผมเลยลุง น้อยพูดไปขนลุกไป


     ถ้าลุงจะเล่าเรื่องอะไรให้เอ้งฟังจะได้ไหม


     เรื่องผีหรอลุงไม่เอานะลุงผมกลัว

     ลุงจะเล่า

    ให้เอ็งฟังเอ็งคิดเอาแล้วกันว่ามันเป็นเรื่องผีหรือเป็นเรื่องที่คนเขาแต่งขึ้นมาแล้วเอาผีไปผสมโรงให้มันกลายเป็นเรื่องผี 


    งั้นลุงเล่ามาเลยครับผมจะฟังและคิดตาม


     ถนนสายหลักของหมู่บ้านสร้าง มีต้นจามจุรีอยู่ต้นหนึ่งมันเป็นต้นไม้ที่ใหญ่ขนาด5คนโอบกิ่งของมันแผ่ออกมาปกคลุมแทบจะครึ่งหนึ่งของถนนชาวบ้านมักจะพูดกันว่าต้นจามจุรีต้นนี้มีนางไม้สิงสถิตอยู่


    ทุกวันที่15และวันที่1ก็จะมีน้ำแดงผ้า 3สี7สีบ้างชุดไทยบ้างขนมนมเนยต่างๆ เยอะไปหมดใครอยากให้ลูกหลานสอบติดนั้นนี้ก็ไปขอไปบนได้บ้างไม่ได้บ้างก็แล้วแต่บุญวาสนาเป็นเช่นนี้มานานนับสิบปี


    จนมีวันหนึ่งทางการเขาสั่งให้คนมาขยายถนนจากเลนเดียวไห้เป็นถนนสองเลน ทางการจึงจำเป็นต้องตัดกิ่งก้านของต้นจามจุรีออกเพื่อไม่ให้มันบดบังถนน " 


    แต่ไม่ได้ตัดต้นมันไช่ไหมลุง น้อยถาม


     ไม่ได้ตัดหรอกเพราะว่าต้นของมันอยู่ไกลจากถนนประมาณ1เมตร

    แต่ถึงจะเป็นแค่กิ่งก้านก็สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน


    แต่ถึงอย่างไรเมื่อมันเป็นคำสั่งของทางการก็ไม่มีใครกล้าขัดหลังจากทางการได้สร้างถนนเสร็จก็มีเรื่องแปลกๆเกิดขึ้น

     

    เรื่องอะไรหรอลุงมีคนตายหรอ น้อยถาม


              ไช่มีคนตาย   ตายโหงทั้งนั้น

        อย่างเช่น ขับรถชนประสานงากันตายทั้งคู่ ขับมอเตอร์ไซค์ชนกันตายทั้งคู่

     เมียน้อยใจผัวมาผูกคอตายที่ต้นจามจุรี

     หรือลูกน้อยใจแม่ก็จะมาผูกคอตาย มีคนเอาศพมาทิ้งบ้างโอ๊ย ไอ้หนุ่มเยอะไปหมด


     เรื่องนี้เป็นที่เล่าลือกันของชาวบ้าน เลยนะ


    บ้างก็ว่า 


    กูว่าแล้วมันต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นแต่ไม่มีใครเชื่อกูเลย

     อีกคนก็บอกว่าซวยกันหมดแน่มึง ที่นี้


     จากที่เคยเป็นต้นไม้ ที่ชาวบ้านศรัทธา กราบไหว้กลายเป็นต้นไม้อาถรรพ์ไปเสีย

     

    แต่เรื่องที่ทำให้หมู่บ้านนี้ต้องเหลือแต่ชื่อหมู่บ้าน..


     เรื่องมีอยู่ว่าเช้าตี5ของทุก วันยายนิดจะต้องไปซื้อของที่ตลาดเพื่อที่จะกลับ มาทำก๋วยเตี๋ยวขาย

    วันนั้นยายนิดก็ตื่นแต่ 5:00 น ขับมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกไปซื้อของ

     "ยายนิด" เมื่อไรจะรวยถูกหวยรางวัลที่1สักที่วะจะได้สบายสักที่


     อย่าบ่นนักเลยแม่ แม่อยากสบายคนเดียวหรือไงหนูก็อยากสบายนะแม่ 

    "เงียบไปเลยนังติ๋ม " 


    แหมมึงก็พูดได้นะสิกูนะต้องขับรถผ่านต้นไม้นั้นทุกวัน กูกลัวจนผมหัวลุกจนผมมันตั้งจะทะลุ หมวกกันน็อกออกมาแล้ว 


    แม่ก็พูดเกินไป


     เห็นแต่ก่อนวันพระ ตี1ตี2ไฟฉาย1กระบอกแป้ง1กระป๋อง ธูปนี้เป็นกำเดินออกจากบ้านแม้แต่หมาหอนยังไม่กลัว "


    หยุดพูดเลยนะนังติ๋ม" 


    ได้ที่ว่ากูเลยนะมึงน่าจะเอาขี้เถ้ายัดปากมึงตั้งแต่เกิด ไม่น่าเลี้ยงมึงมาเลย 


    ติ๋มหัวเราะชอบใจที่เห็นแม่โกรธ

     ว่าแล้วยายนิดก็บอกให้ติ๋มจัดร้าน อะไรให้เรียบร้อย ก่อนยายนิดจะไป ติ๋มยังไม่วายแย่แม่ว่า


     "แม่ระวังจะมีคนโบกมือเรียกนะแม่"


     และติ๋มก็หัวเราะชอบใจ


     นิดขับรถมาได้ถึงต้นจามจุรี นิดพยายามจะไม่หันไปมองแต่สายตาเจ้ากรรมมันไม่เชื่อฟังเอาซะเลย


     นิดเหลือบสายตาไปมองที่ต้นไม้ก็ต้องตกใจ ที่เจอกับ

     หุ่นชายหญิงแขวงเอาไว้ตรงกิ่งไม้ ขนาดใหญ่


    นิดไม่แน่ใจเลยลองหันไปดูให้เห็นกับตา ใครมันเล่นพิเรนทร์อย่างนี้วะตกใจหมดเลย !!!


     และนิดก็ขับรถไปตลาดต่อ จนเวลาล่วงเลยมาถึง7โมงเช้าก็มีคนวิ่งมาบอกนิดที่ร้านก๋วยเตี๋ยว


    ว่ามีศพชายหญิงมาผูกคอตายที่ต้นจามจุรี โว้ยรีบไปดูเร็วเข้า นิดได้ยินถึงกับเป็นลมล้มไป ชาวบ้านต่างพากันมามุงดูศพแล้วก็พากันพูดว่าท่าทางน่าจะเฮี้ยนแน่ๆเล่นผูกคอตายกันทั้งสองคนแบบนี้ 



    และก็เป็นจริงอย่างที่ชาวบ้านว่า ทั้งคู่เฮี้ยนจริงๆออกมาหลอกหลอนชาวบ้านไม่เป็นอันทำมาหากินจนชาวบ้าน ต้องย้ายบ้านหนีกันไปหมด จนเหลือแต่ชื่อหมู่บ้านสร้างเอาไว้นี่หละ


     เรื่องก็มีเพียงเท่านี้หละพ่อหนุ่ม


     โฮลุงผม ว่าเรื่องทั้งหมดมันไม่เกี่ยว กับต้นไม้เลยนะลุงมันเกี่ยวกับความคิด ของคนทั้งหมดเลยลุง ต้นไม้มันก็ตั้งอยู่ของมันดีๆไม่ได้ไปทำอะไรใคร มีแต่คนเท่านั้นหละครับลุงที่ไปสร้างความเชื่อว่ามีนางไม้บ้างมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บ้างให้กับมัน น้อยบอก


     ถ้าเอ็งมีความเชื่อแบบนั้นก็ดีแล้ว คนเรานะมีความเชื่อได้แต่อย่างม งายกับมัน เชื่อได้แต่ต้องใช้สติ ใช้ปัญญาคิดพิจารณาว่ามันจริง ไหม ถูกไหม สมควรที่จะเชื่อไหม ก็แค่นั้น


     ครับลุงผมจะจำเอาไว้ครับ น้อยบอก


     เออถึงพอดีเลยเอ็งจอดให้ข้าลงหน้าประตูนี่หละเดี๋ยวข้าจะให้ยามตาม ลูกสาวข้าออกมาให้ 


    ลุงบอกกับน้อย


     ลุงนั่งรถเข้าไปกับผมเลยดีกว่า เดียวผมบอกยามไห้ 

    ไม่เป็นไรหรอกเอ้งนะก็เพิ่งมาเป็นครั้งแรกไม่ไช่หรอเอ้งจะรู้ได้ยังไงว่าเขาไห้คนนอกเข้าหรือเปล่าจริงไหมไอ้หนุ่ม 

    เออไช่จริงด้วยลุง เดี๋ยวผมเปิดประตูให้ลุงลง

    นะ ขอบใจมากนะพ่อหนุ่ม น้อยค่อยๆจับลุงลงจากรถ จนลุงลงรถเรียบร้อยแล้วน้อย จึงขอตัว


     ผมไปก่อนนะลุง 

    ขอให้พระคุ้มครองหลานชาย เช่นกันครับลุง น้อยพูดจบพร้อมกับยกมือไหว้ 

    หลังจากส่งลุงลงหน้าโรงงาน

     น้อยก็คิดถึงพ่อขากลับจากส่ง ของน้อยคิดว่าจะแวะซื้อน้ำอ้อยคั้นสดไปฝากพ่อสักหน่อยเพราะพ่อชอบกินตอนที่น้อยมาเห็นเขาติดป้ายขายน้ำอ้อยข้างทางเยอะไปหมด 


    !! ทำไหมประตูโรงงานเปิดอยู่!! 



    น้อยตกใจ แต่ก็ขับรถเข้าไปในโรงงาน 


    หยุดก่อนครับ หยุดก่อน



     น้อยหมุนกระจกลง ครับพี่ผมมาส่งของครับ




     ยังเข้าตอนนี้ไม่ได้ครับ




     มีอะไรหรอครับพี่ น้อยถามอย่างแปลกใจ



     มีโจรปล้นคนขับรถแอบ เข้ามาซ่อนตัวอยู่ในโรงงานพี่ 


    ตอนนี้ตำรวจยังจับตัวไม่ได้เลย





     !!จับได้แล้วจับได้แล้ว!!



     จับมันได้แล้วมันไปแอบอยู่ตรงโรงอาบน้ำ ตำรวจพาคนร้ายขึ้นรถไป






     "น้อย "แล้วเขาเข้ามาได้ยังไงพี่ 




    มันดักปล้นคนขับรถระหว่างทางเข้ามาโรงงานนี้หละน้อง มันยิงคนรอลงของ ไป5คนดีนะที่คนอื่นวิ่งหนีทัน พี่ก็วิ่ง หนีไม่คิดชีวิตเหมือนกันนี่พูดแล้ว ยังกลัวไม่หายเลย


    น้อง



     ดีนะที่น้องมาช้า ถ้าน้องมาเร็วกว่านี้ อาจจะเกิดอันตรายได้ 




    น้อยรอลงลูกอัดกว่าจะเสร็จก็6โมงเช้าพอดี


     ระหว่างที่น้อยกำลังม้วนพับเก็บผ้าใบอยู่นั้นน้อยก็คิดขึ้นได้ว่า ป่าน นี้ลุงจะเจอลูกหรือยัง




     พี่ครับ พี่ครับ 



    พอดีมีคนงานเดินผ่านมา ว่าไงน้องมีอะไร


     พี่ ผมอยากถามว่า เมื่อคืนมีลุงเขามาตามหาลูกสาว ลูกสาวเขาทำงานอยู่ที่นี้ 

    น้อง แสดงว่าเพิ่งมาส่งของที่นี้ ครั้งแรกใช่ไหมเนี่ย


     ครับพี่ครั้งแรกเลยครับ


     น้องโรงงานนี้เขาไม่รับพนักงานหญิง เขารับแต่ผู้ชายและพักอยู่ที่นี้เลยเพราะถนนทางเข้าโรงงานมันเปลี่ยว และน่ากลัวด้วยน้อง เถ้าแก่เขาก็เลยไม่รับพนักงานผู้หญิงเลย



     และที่น้องเจอ !!!คนหรือผี!!!





     น้อยรีบเก็บผ้าใบและรีบขับรถกลับ



    ขับรถ ออกมาจากโรงงานน้อยก็ต้อง ตกใจเมื่อมองเห็นต้นจามจุรีตั้งตะหง่าน อยู่ริมทาง


    กิ่งก้านปกคลุมถนน




     น้อยแปลกใจที่เมื่อคืนไม่เห็น หรือว่าเราไม่ได้มองวะ? 





    น้อยมองและคิดว่ามันใหญ่โตจริงๆ ใหญ่ขนาด5คนจะโอบลำต้นมิดไหมเนี้ย 




    ทันใดนั้นน้อยก็ขนลุก ไปดีกว่า


     แต่ยังไม่ทันที่น้อยจะเหยียบคันเร่งนั้น ก็ปรากฏร่าง



     !!! ของชายแก่ และ หญิงชรา!!! 






     ลุง น้อยอุทาน และ ร่างนั้นก็เลือนหายไป ...................................

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น