สายลมตะวันตก - นิยาย สายลมตะวันตก : Dek-D.com - Writer
×

    สายลมตะวันตก

    เมื่อยามทิวาลาลับพลันบังเกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้น ณ โรงพยาบาลเล็ก ๆ ชานเมืองมีแสงสีทองสว่างลงมา สว่างจนมิอาจลืมตามาดูได้ หลังแสงนี้นจางหายไป มีเสียงร้องของเด็กชายคนหนึ่งร้องขึ้น " อุแว้ อุแว้"

    ผู้เข้าชมรวม

    127

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    127

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  ผจญภัย
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  19 ส.ค. 64 / 11:28 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

         "สวัสดีผู้อ่านทุก ๆ ท่านผมอาคเนย์ครับ แต่คนที่หมูบ้านผมเรียกผมว่าเจ้าดาว ชื่ออาจจะดูน่ารักดีนะครับ แต่ชื่อนี้ถูกเรียกบ่อย ๆ จนบางครั้งผมแอบเขินไปบ้างที่มาของชื่อก็คือวันที่ผมเกิดระหว่างที่แม่กำลังเบ่งคลอดผม ลมกำมะชะวาตมีกำลังพัดพาแรงกล้าอยู่นั้นเอง ทันใดนั้นบังเกิดแสงสว่างทั่วบริเวณและผมก็คลอดออกมาได้อย่างปลอดภัย เรื่องนี้ผมรับฟังจากพ่อและแม่ของผมซึ่งปัจจุบันท่านได้ลาจากผมไปยังที่ซึ่งไกลแสนไกล และทุกท่านที่ได้อ่านเรื่องราวของผมต่อไปนี้ แสดงว่าผมนั้นมิได้อยู่ในโลกใบนี้แล้วผมจึงขอให้ท่านชำระความแค้นแทนผมหลังจากที่ผมกล่าวขานตำนานบทนี้ให้ท่านฟังจนจบ..."


         ผมอาคเนย์ปัจจุบันอายุ 16 ปีอาศัยอยู่กับยายและน้องชายที่บ้านหลังเล็ก ๆ เขตชานเมืองแถบตะวันตก เมืองหลวงในตอนนี้นามว่า "สุวรรณรัตน์" ที่ซึ่งเป็นศูนย์รวมของสิ่งปติกุลทั้งหลายที่ซึ่งไม่ให้ค่าแกคน ที่ซึ่งเป็นสังคมชนชั้นที่ดูแคลนคนชั้นต่ำจนถึงที่สุด ถ้าถามว่าผมน้้นรู้เรื่องแบบนี้ได้อย่างไร เรื่องนั้นง่ายนิดเดียวเพราะผมสัมผัสมันอยู่ ณ ตอนนี้ 

         เมื่อ 5 ปีก่อนผมได้สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งถึงสองคนจากเหตุการณ์ภูเขาทลายลงและเหตุแผ่นดินไหวครั้งยิ่งใหญ่ในรอบสหัสวรรษ เพราะพ่อและแม่ของผมได้ขึ้นเขาเพื่อไปเก็บสมุนไพรนำมาทำยารักษาคนไข้ บ้านผมต้นตระกูลเป็นหมอหลวงอยุ่ในวัง สราญรมณ์ เมืองหลวงของประเทศนี้หรือ สุวรรณรัตน์มหานคร แต่ปู่ของผมมองว่าเมืองหลวงมีหมอที่เก่งและมีความสามารถอยู่มากแล้วแต่ประชาชนรากหญ้ายังขาดหมออีกมาก จึงตัดสินใจออกจากวังหลวงมาแต่เพราะเหตุนี้ปู่ของผมจึงถูกขับไล่ออกจากตระกูลโดยพี่ชายของปู่เอง เหตุผลเพราะขัดต่ออุดมการณ์และเสียเกียรติที่สังสมมาหลายชั่วอายุคน
         
         ผมจึงถูกเลี้ยงดูโดยปู่และย่าซึ่งท่านชราภาพมากแล้ว หน้าที่ของผมคือการดูแลท่านและสานต่อกิจการโรงหมอของครอบครัวต่อไปแต่หน้าที่หลัก ๆ คือการเก็บสมุนไพรและต้อนรับแขกเท่านั้น เพราะผมยังไม่ได้ผ่านการทดสอบจิตวิญญาณเพื่อที่จะยืนยันความสามารถของตนเองแต่จะเข้ารับการทดสอบได้ต้องเป็นบุคคลที่มีอายุ 18 บริบูรณ์ก่อน ผมจึงได้เพียงศึกษาความรู้ของสมุนไพรไว้ติดตัวแต่ไม่อาจพูดได้เต็มปากว่าผมคือ "หมอ"... "เอ๊กอี้เอ้ก เอ้กกก" เช้าวันนั้นเป็นวันที่อากาศคลึ้มเล็กน้อย ดวงอาทิตย์กำลังเบิกแสงแรกของงวันใหม่ ผมถูกปลุกโดยเจ้า จ้วง ไก่แจ้ที่บ้านเลี้ยงไว้ ใคร ๆ ก๋็ต้องการมุลของมันเพราะมูลของเจ้าจ้วงมีราคาเทียบตำลึงทอง เหตุเพราะมันคือไก่พิเศษที่หาพบได้ยากในป่าลึก ลักษณะไก่ตัวนี้ไม่ต่างจากไก่แจ้ธรรมดาสามัญหากแต่ มูลทองของมันนี้แหล่ะเป็นยาเปลี่ยนชะตาได้เลยที่เดียว
         "ดาวเอ้ย มาอาบน้ำล้างหน้าเตรียมตัวเข้าป่าเร็ว " เสียงปู่เรียกเตือน
         
         "ครับปู่ ๆ " ผมรีบลุกขึ้นโดยไว ด้วยความที่ผมเป็นคนขี้เซาจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะลุกได้ หากแต่วันนี้เป็นวันสำคัญ หากพลาดโอกาศเพียงนาทีครึ่งนาที ฤกษ์เก็บสมุนไพรจะเคลื่อนไปได้ เพราะวันนี้ดจะไปเก็บว่านพญาเพชรมาทำยาอายุวัฒนะแจกให้คนในหมู่บ้านในช่วงวันเทศกาล "ซุย" 

         " ดาวหลานปู่ จำคำปู่ไว้ ก่อนทำการอันใดเราต้องทำโดยเคารพ หากเราไม่มีความเคารพเราจะเป็นดังไม้แก่ที่แข็งดัดไม่ลง ปรงไม่ตกสุดท้ายก็ถูกเขาตัดเอาไปใช้ประโยชน์ได้โดยง่ายสักวันหนึ่งเพราะความแข็งของมันนั้นเป็นภัย จงทำตัวให้เหมือนดังวารีที่ไหลไปตามกาลและแปรสภาพยามจำเป็น แต่มิใช้มิรู้จักไหลย้อนทวนชะตาที่มาขวางกั้น" 
           "ครับปุู่ผมจะจำไว้ขึ้นใจ แต่ตอนนี้คงยังไม่เข้าใจครับปู่ 5555"

         สินเสียงของผมนั้นบังเกิดเสียงเล็กแหลมดังขึ้น ทำเอาแก้วหูของผมแทบแตก มีลมพายุพัดผ่านอย่างรุนแรงวูบหนึ่ง "พวกมึงมาทำอะไรในเขตแดนของกู" เสียงเล็กแหลมคลายไม่ชายไม่หญิงดังขึ้น แต่ตรงหน้าผมเห็นเพียงต้นมะพร้าวสองต้นที่ใหญ่มากสุดลูกหูลูกตา
         

         "ไอ้ดาวถอยหลังมาเดี๋ยวนี้ เร็ว " เสียงปู่ตะโกนสั่งเสียงแข็ง ในแววตาแฝงความเป็นห่วงนั้นคือภาพสุดท้ายที่ผมเห็นก่อนทุกอย่างจะขาวไปหมด...

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น