เราไปรู้จักกันเมื่อชาติใดหรือคุณ - นิยาย เราไปรู้จักกันเมื่อชาติใดหรือคุณ : Dek-D.com - Writer
×

    เราไปรู้จักกันเมื่อชาติใดหรือคุณ

    เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่มักจะมีความปราถนาอยู่หลายร้อยข้อในชีวิตเเต่ก็ไม่สามารถทำมันให้เป็นจริงได้เมื่อได้รับโอกาสอีกครั้งมีหรือเขาจะไม่คว้ามันไว้ เเต่กลับไม่รู้เลยว่าเรื่องราวที่กำลังจะเจอนั้น.

    ผู้เข้าชมรวม

    91

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    91

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  16 ม.ค. 64 / 20:54 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    จำได้ว่าเมื่อครั้งลืมตาดูโลก จำความได้ เริ่มเรียนรู้ รู้จักคิด รู้จักผิด รู้จักความหวัง สีสันมากมายของชีวิตสิ่งต่างๆที่รอให้เรียนรู้มากมายไม่รู้จบ ความสุข ความเศร้า เร้าใจหวั่นไหว ความตื่นเต้นในเเต่ละช่วงวัยที่เขารอจะได้สัมผัส... เขาไฝ่ฝันถึงมันว่าเมื่อได้เรียนรู้สิ่งต่างๆจะรู้สึกเป็นเช่นไร เขาคงรู้สึกมีความสุข รู้สึกตื่นเต้นมากเเน่ๆ ตอนนั้นยังเด็กเกินเข้าใจนั่งเฝ้าฝันหามันเช้าจะหลดเย็น ค่อยๆเติบโตอย่างสมบูรณ์เเบบทีละนิดตามคำสั่ง เพื่อให้ได้รู้ว่าความฝันนั้นไม่มีทางเป็นจริง

    ...

    เเม้กระนั้นเขากับไม่มีโอกาสค่อยๆเรียนรู้เติมโตไปทีละก้าวอย่างคนผู้อื่น เมื่อเเรกเกิดเหมือนมีเเพ็คเก็ตรูบเเบบชีวิตสมบูรณ์เเบบตามค่านิยมของผู้คนมาบงการเขาไว้ให้อยู่ในกรอบ ทำตัวเสมือนเป็นเส้นตรงสู่จุดหมายไม่มีทางให้เลี้ยวเขวไปใหน โค๊ดบอกสถานะหลังชื่อติดเเท็ก สมบูรณ์เเบบ+100 เกินค่าคนอื่นวัด เเต่ในด้านความรู้สึกกับ-100 เล่เหลี่ยม-100 อย่างที่ว่าเขาทำตัวเป็นเส้นตรง ตรงสู่จุดมุ่งหมายพุ่งใส่มันเเบบไม่ยั้งไม่ว่าปัญหาใด ในเรื่องของเล่ห์เหลี่ยมเเพรวพราวนั้นอย่าหวังว่าเขาจะมี เรียกได้ว่าโดนบงการจนคล้ายจะตายด้าน ไม่ต้องถามหาคนลงมือ พ่อ เเม่ ที่รักเขายิ่งกว่าอะไรนั้นไง มันติดตั้งอยู่บนตัวเขา ไม่สนว่าเขาเห็นด้วยหรือไม่...

    'จันจ๊ะ ..'

    'ทั้งหมดที่เเม่ทำไปก็เพื่อหนูนะจัน เด็กดีของเเม่ '

    'ไม่โกรธเเม่ใช่ไหม หนูเก่งที่สุดเลย '

    ' ทำตามที่พ่อบอกนะ เชื่อเเม่ '

    ' รักลูกนะ ทำตรงนี้ให้ได้นะลูก เเม่รู้ว่าลูกทำได้ '

    ....

    ' พ่อหวังดีกับลูกนะ ลูกไม่เห็นหรอ คนพวกนั้นที่คอยประจบเอาใจเรา '

    ' ดูพวกคนไม่มีจะกินพวกนั้นสิ ถ้ามัวเเต่เกเรเถรไถรก็จะเป็นเเบบนั้น '

    ' ฮ่าฮ่าฮ่า ดูสิลูกนี่เงินทั้งนั้น ชีวิตนี่เราก็สุขสบายเเล้ว '

    ' ลูกรักฟังพ่อ '

    ' พ่อทำเพื่อลูกนะ ...'

    เขาจะไปทำอะไรได้ตอนนั้นยังเด็กเกินกว่าจะเเก้หวังเพียงเอาความดีเข้าเเลก เหล่าท่านๆนั้นอาจเห็นใจ

    10 ปี

    20 ปี

    เขารอ รอเล่า

    30 ปี

    "........." นานเกินไปหรือเปล่า

    31

    33

    35 ปี

    จนกระทั่งเข้าสู่วัยหนุ่มจนอายุใกล้เข้าจะสามสิบขึ้น หมดสิ่งที่อยากจะเรียนรู้อย่างง่ายดาย เรียกได้ว่ารู้มามากพอควรจนเลี่ยน ความเห็นใจที่หวังไว้ก็ไม่เคยได้รับ สถานภาพชีวิตสมบูรณ์เเบบนี้เป็นอยู่มานานไม่มีทางให้ถอยกลับ ความปราถนาอันเเรงกล้าเเรกเเละความปราถนาเดียวในชีวิตของผมก็ไม่เคยเป็นจริงเลยสักครั้ง...ความกตัญญูมันค้ำคอ เขายังคงไม่ยอมเเผ้ นานมาเเล้วนึกย้อนไปโทษตัวเอง หรือตอนนั้นเขาควรจะเรียนรู้ความพ่ายเเผ้เเรกในชีวิตบ้างกันนะ มาถึงตอนนี้จะได้ไม่รู้สึกเจ็บหนักเพราะหวังมากเเละผิดหวังอย่างที่เป็นเช่นทุกวันนี้

    อย่าว่าเเต่จะได้เดินเฉียดเข้าไปในส่วนหนึ่งของความปรารถนาเลย ผมไม่เเม้เเต่จะเคยได้เฉียดเข้าไป จะว่ามันยากหรือ..

    สมุดเล็มเล็กกทัดรัดยับเยินสภาพของมันคล้ายออกมาจากหลืบไหนสักหลืบภายในบ้าน มีเศษดินติดบ้างปะปรายมันอาจจะเคยอยู่ใต้ดิน บ้างก็มีอยากไย่หรือคงเป็นบนหลังคา ไม่เเน่ใจนักเพราะเขาก็จำไม่ได้ว่าเคยเอาไปเก็บซ้อนไว้ที่ใดบ้าง

    ในนั้นมันมีลายมือหนึ่ง เขียนตัวหนังสือด้วยลายหวัดโย้ไปมาบ้างอย่างคนไม่ถนัด ถ่ายทอดความรู้สึกเต็มไปด้วยอารมณ์รู้สึกสมเพสให้ตัวเองอยู่เป็นนัย ในวัยเด็ก5ขวบปี ใจความเพ้อพกกล่าวไว้ ว่า

    ...เพียงให้ความปราถนาเล็กๆนี้ เป็นจริง เเม้ในยามหลับฝันก็ยังคงหวัง ความคิดง่ายๆหวังเพียงได้เรียนรู้เหมือนอย่างเด็กชายธรรมดาผู้หนึ่ง ได้รู้จักคิดอย่างเด็กเอาเเต่ใจ..

    หวังเพียงได้กับไปเป็นเด็กโง่ๆคนหนึ่ง ให้คนผู้อื่นเอ็นดู เพราะตะหนักได้ว่าการฉลาดมากไม่ใช่เรื่องที่ดี..

    หวังเพียงได้นั่งนิ่งบนหาดทราย มองน้ำสีครามฟ้าสะท้อนภาพพระอาทิตย์ยามตกดิน

    ' กลิ่นทะเลตอนนั่งมองพระอาทิตย์ตกดินเป็นเเบบไหน ถ้าได้ไปจริงๆตอนนั้นจะมีความรู้สึกสุขล้นอยู่เต็มอกอย่างที่คนมีอิสระเขาพูดไหม '

    ' สำผัสระหว่างนิ้วเท้ากับหาดทรายจะให้ความรู้สึกอย่างไรหรือในขณะที่เดินเท้าป่าวมีเปลือกหอยบาดจะมีความรู้สึกตื่นเต้นหรือไม่ '

    หลายคำถามของเขาตอนเป็นเด็ก

    ' นกน้อยที่บินไปมาอย่างอิสระรู้สึกเช่นไร กลับมาหาเขาเเละสอนเขาบินบ้างไม่ได้หรือ '

    มีอีกมากมายที่ตอนนั้นเขียนไปอย่างไม่เข้าใจ ทำไมคนนั้นต้องทำอย่างนี้ทำไมคนนี้อย่างนั้น ทำทำไม ได้อะไร เพื่ออะไร ตอนนั้นมีคำถามเต็มหัว พอเริ่มเติบโตมองโลกได้กว้างขึ้นคำถามในหัวทุกอย่างก็หายไป เเละไม่เคยจะสงสัยอะไรเกี่ยวกับความคิดซับซ้อนของมนุษย์อีกเลย

    ย่อสั้นๆสุดท้าย เเต่ตอกย้ำลึกถึงสถานภาพปัจจุบันของเขา

    หวังเพียง.....ได้รับอิสระ

    ไม่ว่าจะได้รับมาอย่างไร หรือเพียงขอให้ไครเป็นความกล้าเเรกของเขาหยิบมีดมาให้เขา ไม่ต้องงดงามสวยหรูอะไร ขอให้เเหลมคมมากเป็นพอ พอถึงเวลานึงเขาคงจะตัดบ่วงเชือกความหวังความรักมากมายที่พันรอบคอเขาให้หลุดได้อย่างกล้าหาญ เเละ เขาจะไม่ลืมพระคุณของคนๆนั้น จริงๆ

    เเต่..

    ชายหนุ่มมองไปที่ตัวเลขปฏิทินเวลาวันที่ ที่เลื่อนขยับปัดตัวเลข พรึบๆ อยู่ทุกวินาที

    ' 35 ปี '

    ' ไม่มีสักคน .. ' เขาลำพึงลำพันปิดสมุดฉับ

    พอเถอะ

    ใครจะไปอยากร่ายยาวรายการความหวังความคิดมากมายให้ผู้อื่นรู้ถึงความรู้สึกขื่นขมระทมในใจกัน ทั้งๆที่ถ้าคนอื่นมาถามต่อหน้าว่า ยังคงมีความปราถนาต้องการอะไรอีกหรือไม่ ไอ้เราก็คงฉีกยิ้มหน้าชื่นตาบาน ยืดอกตอบอย่างภาคภูมิใจต่อสื่อมวลชน ว่าไอ้ความปรารถนาบ้าบออะไรนั้นเขาไม่เคยหวังมันหรอก ดูสิ พี่น้อง ปู่ย่า ตายาย พ่อเเม่ ครอบครัวของเขา ออกจะสมบูรณ์เเบบดี เขาไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น

    รถหรูหรือ เขามี บ้านหรูเขามี เกาะส่วนตัวเขามี! มีหมดทุกอย่าง เขาจะไปอยากได้อะไร

    ตอนนั้นในหน้าหลังที่หลบซ่อนของชื่อตนเองก็สว่างวาบ ค่าตัวเลขตัวไหนสักค่าเลื่อนระดับ

    เเท็กหลังชื่อคือเเท็ก

    เสเเสร้ง ( '+1000')

    ติ๊ง

    ('+ 1001' )

    เเหม่ดีใจจังครับ

    ตอนนั้นรู้สึกปลื้มปริ่มในอก คิดว่าตนเองควรได้รับรางวัลนักเเสดงนำชายยอดเยี่ยม35ปีซ้อนมานะ

    เเต่กระนั้นโลกโหดร้ายใบนี้กับไม่ได้ให้เวลาเขาได้ขบคิดให้มากมายนัก เรื่องราวห่าเหวยังมีให้ต้องจัดการมากมายประเดประดังเข้ามา ตอนนั้นถึงกับคิด ถ้าโลกใบนี้รับสมัคร หาอาสาสมัครเป็นหนูทดลองลงเดินสำรวจดวงอาทิตย์นะ เขาจะไปเป็นคนเเรก จะตายเเล้วยังต้องตายอย่างภาคภูมิเขาคิด เเต่ความคิดนี้กับไม่เป็นจริงหุ่นยนต์บริษัทเขากลับได้รับหน้าที่นี้เเทน โอเคร ล้มเลิก..

    เขาไม่คิดไร้สาระอีก

    จนกระทั่งมาถึงวันสุดท้ายของชีวิต ตายตอนไหนยังไม่รู้ ทำงานงกๆ เฉื่อยๆไปเรื่อยดื่มกินเที่ยวตามฉบับคุณชายเพลบอยใช้ชีวิตสวยหรู ตอนนั้นเขากลับไม่นึกเสียดายชีวิตนี้เลยเเม้เเต่น้อย

    . .

    . .

    เมื่อเห็นข้อความย่อหน้าบนกระดาษขาวเเผ่นหนึ่งที่ส่งมา เนื้อหาใจความว่าเพียงทำภารกิจบรรลุเป้าหมายให้สำเร็จลุล่วงเท่านั้น ความปรารถนานั้นจักเป็นจริง ดวงตาที่เคยหม่นเเสงไร้ชีวิตพราวระยับอย่างมีความหวัง เขาไม่คิดลังเล เขาไม่เคยลังเล

    เซ็น!

    ไม่เซ็นก็โง่เเล้ว

    อ่านเพียงนั้นเขาหาได้สนใจใจความในกระดาษข้อต่อไปไม่ หวังเพียงชีวิตที่ไม่เหมือนชีวิตนี้ได้ทำเพียงความปราถนาของตนให้เป็นจริง ความรอบคอบที่ถูกอบรมสั่งสอนมาทั้งชีวิตตัดมันทิ้งไปคิดเพียงว่าไม่มีอะไรให้เสียไปมากกว่านี้ เเลกด้วยอะไรเขาก็ยอม ยกปากกาเซ็นยอมรับลงนาม จันทกร ลายมือตวัดเส้นเขียนมั่นคงอย่างไม่สั่นครอนอย่างคนถูกอบรมสั่งสอนดี สื่อถึงอารมณ์เจ้าตัวคนเขียนว่าตัดสินใจเเน่วเเน่เเค่ไหน ประทับตราหยดเลือดอย่างว่องไว เเม้ในใจจะพิลึกกับการต้องเอาเลือดตัวเองมาหยดประทับบนกระดาษก็ตามมีอย่างที่ไหนโลกเขาจะเคยทำ หยดเลือดเล็กๆเเบบนี้เห็นเเล้วชวนหัว

    ด้วยตนกลัวว่าหากช้าเสียเวลาคิดไปมากกว่านี้บางสิ่งเเปลกประหลาดตรงหน้าจะหายไป กลายเป็นว่าตนเองตื่นขึ้นมาในสถานที่เดิมๆ เหลือไว้เพียงฝันลมๆเเล้งๆเลือนลางของเขาเเล้วพบว่ามันเป็นเพียงเรื่องเพ้อพกคิดไปเองเท่านั้น

    ถ้าเป็นเช่นนั้นเขาคงใจสลาย..

    ให้เขาตายไปเถอะ ให้เขาตายเถอะ เขาคิดหลายรอบ หลับตาปี๋ อย่าได้มาฝันบ้าบออะไรเช่นนี้อีกเลย....

    .....

    ______________

    ป.ล เนื้อหาในนิยายไม่อ้างอิงความสมเหตุสมผลอะไรเลย เเต่งตามจินตนาการล้วน ๆ เป็นนิยายอ่านสบายๆเเบบไม่ต้องใช้สมองคิดอะไรให้มาก

    รอติดตามต่อไปค่าาาา ด้วยรักเเละขอบคุณ ..

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น