ไม่ได้เจ้าชู้ แต่เป็นผู้ตามหารักครับ
คนเราก็มีความหลากหลายในชีวิตมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเป็นอยู่ สไตล์ของแต่ละคน หรือจะรวมไปถึงด้านหญิงสาวมากหน้าหลายตาที่ได้ก้าวเข้ามาในชีวิตผม ผมพร้อมเปิดใจนะ แต่...ไม่ได้เจ้าชู้ แค่เป็นผู้ตามหารักครับ
ผู้เข้าชมรวม
165
ผู้เข้าชมเดือนนี้
10
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
‘ความรัก’
เป็นสิ่งที่ทุกคนต่างต้องการกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น รักจากครอบครัว ญาติ
มิตรสหายหรือคนรอบข้าง รวมไปถึง รักจากคนพิเศษที่สำคัญต่อหัวใจของเรา
บางคนอาจจะได้พบเจอรักที่แสนวิเศษนั้นแล้ว แต่สำหรับผม
ผมยังรอคอยและตามหาสิ่งนั้นอยู่ทุกวัน ใครคนหนึ่งที่จะคอยอยู่เคียงข้างกันและเป็นรักที่แสนพิเศษ
ให้กันและกันอยู่เสมอ
ในชีวิตผมเจอเรื่องราวความรักต่าง
ๆ มากมายเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย มีทั้งรักที่เต็มไปด้วยความสุขในช่วงวัยเยาว์
หรืออาจจะเป็นความรักที่เต็มไปด้วยความทุกข์ เศร้า ปะปนกันไป
แต่ถึงอย่างไรมันก็คือรสชาติของชีวิตที่ทำให้เราได้มีเรื่องราวในแต่ละวันไม่ซ้ำเดิม
ผมชื่อว่า สเตฟาน เป็นเด็กหนุ่มก๋ากั่น
เฮฮาและมีวาทศิลป์ในการพูด ผมรองทรงที่ถูกตัดมาตามระเบียบของนักเรียนที่ควรเป็นเข้ากับรูปหน้าผมที่มีความยาวแหลมเล็กน้อย
ผิวออกโทนเข้มดูเป็นผู้ชายลุคเท่ในสายตาคนอื่นไปเลย
ยังรวมไปถึงสายตาอันหวานเยิ้มของผมที่แอบสวยยิ่งกว่าผู้หญิงซะอีก
จมูกเรียวยาวเข้ากับใบหน้าพร้อมเคราเล็กน้อยพอมีเสน่ห์นั้นมันทำให้ผมเป็นที่จดจำได้ไม่ยาก แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าผมก็มีมุมที่มีโลกส่วนตัวของตัวเองเช่นกัน
ถึงแม้เรื่องความรักจะมีเข้ามาไม่เว้นวัน
แต่ผมก็ยังแอบปิดกำแพงกั้นพื้นที่ไว้เก็บให้ใครสักคนที่เป็น รักแท้ คู่ชีวิตผมจริง
ๆ เข้ามานั่งในหัวใจผมได้ ในตอนนี้ผมเพียงได้แค่ค้นหาใครคนนั้นไปเรื่อย ๆ
เพียงหวังว่าผมจะเจอเขาเข้าสักวัน ที่สามารถควบคุมใจผมได้อยู่หมัด
ชีวิตรักแรกของผมเกิดขึ้นในช่วงเยาว์วัย
เป็นรักเด็ก ๆ ที่มีแต่ความรู้สึกดีให้กัน เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงประถมศึกษาปีที่
3 เห็นจะได้ ในตอนเย็นวันนั้น ผมได้ทำการบ้านรอพ่อแม่ให้มารับที่โรงเรียน
ซึ่งถือว่าเป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว ในระหว่างที่ผมกำลังทำการบ้านอยู่นั้น
ผมก็พลันได้ยินเสียงครูเรียกเด็กนักเรียนหญิงคนหนึ่งขึ้นมา
“ยูนิคะ
มาหาครูหน่อยค่ะ”
เด็กนักเรียนหญิงตัวเล็ก
มีแก้มนุ่มนิ่มน่าหยิก ผมด้านหน้าที่มัดจุกเอียงไปข้างหลังนั้นทำให้เธอดูน่ารักขึ้นเป็นกอง
รวมกับสีผิวแทน ตายิ้มเป็นสระอิ ที่ยิ้มแล้วโลกทั้งโลกสดใสขึ้นมา
ทำให้ผมต้องหันไปจ้องอย่างไม่ละสายตา
การบ้านที่เคยทำก่อนหน้านี้แทบจะหายไปในสมองผมทันที เธอคนนี้เรียนอยู่ห้องเดียวกับผม
ผมจึงเริ่มที่อยากจะทำความรู้จักเธอมากขึ้นกว่าเดิม
ตั้งแต่วันนั้นที่ผมได้รู้จักเธอจากการเรียกชื่อของครู
ทำให้ผมเริ่มอยากที่จะเข้าไปทำความรู้จักเธอมากขึ้น จนวันนั้นได้มาถึง
ผมเริ่มสนิทกับเธอมากขึ้นจากการแกล้งหยอกล้อกันไปมา มีบ้างที่ผมวิ่งเล่นไล่เธอ
เธอก็ไม่ยอมที่จะโดนวิ่งไล่อยู่ฝ่ายเดียว เธอจึงมีย้อนมาวิ่งไล่ผมเช่นกัน
เราต่างหยอกเล่นไปมาอย่างมีความสุข
“วิ่งไล่จีบกันอยู่ได้นะ
สองคนนี้” รองผู้อำนวยการที่เดินผ่านมาทางนี้พอดีได้ทักขึ้น
ผมที่กำลังวิ่งไล่เธอได้หยุดวิ่งและทำตัวไม่ถูกไปอย่างปริยาย จะให้ตอบยังไงละ
ก็มันเรื่องจริงนี่ครับ ผมคิดพลางหลบหน้าเธอ ไม่ได้ ผมต้องอย่าเขินให้เธอเห็น
มันไม่แมน!
ตามสัจธรรมของโลกนั่นละครับ
ความสุขมันอยู่ได้ไม่นาน
อุปสรรคที่คอยขัดความสุขก็ได้ก้าวเข้ามาระหว่างผมกับเธอเข้าจนได้
เมื่อผมและเธอได้เข้าเรียนระดับประถมศึกษาปีที่ 4
ก็ได้มีเด็กนักเรียนใหม่เข้ามาเรียนในห้องของพวกเรา เขาชื่อว่า เมฆ
เมฆเป็นคนที่หน้าตาถือว่าใช้ได้เลยและท่าทางเขาเริ่มชัดเจนมากขึ้นว่า... เขาชอบยูนิเหมือนที่ผมชอบเช่นกัน
สายตาที่เมฆมองมาที่ยูนินั้นไม่ต่างกับที่ผมมองยูนิเลย สัญชาตญาณผมรู้เลยว่า
ผมได้มีศัตรูหัวใจเข้าให้แล้ว
วันหนึ่ง ผมและยูนิกำลังเล่นอยู่ด้วยกัน
เมฆจึงได้ขอมาเล่นบ้าง และทุก ๆ ครั้งที่เราเล่นร่วมกันสามคน เมฆจะคอยเข้าใกล้ยูนิและผลักไสให้ผมห่างจากยูนิอยู่เสมอ
ผมเริ่มไม่พอใจบวกกับยูนิที่เริ่มรู้ตัวแล้วว่าทั้งคู่กำลังแอบชอบเธออยู่
เธอจึงได้ลองใจผมและเมฆ
“ถ้าชอบเราจริง
ลองต่อยกันแย่งเราดูสิ” เธอเอ่ยขึ้นพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“.....”
ผมและเมฆเงียบไปขณะหนึ่ง ผมที่นิ่งเงียบพลางคิด ผมถูกปลูกฝังว่าการใช้กำลัง ต่อย ทำร้ายร่างกายกันมันเป็นสิ่งที่ไม่ดี
นี่ถ้าผมเกิดเหตุชกต่อยทะเลาะวิวาทนะ พ่อผมคงเอาเรื่องผมแน่ ๆ
ผมคิดพลางส่ายหัวไปมาแต่ผมก็ดันไปสบสายตาเข้าหายูนิอย่างจัง
เธอที่น่ารักและมีเสน่ห์กับผมมาก ๆ ผมแอบชอบเธอมาตั้งนาน
ใครจะปล่อยให้คนอื่นไปง่าย ๆ เมื่อคิดได้ดังนั้นผมจึงเริ่มตั้งท่าจะชกเมฆแต่เมฆดันเริ่มต่อยเข้ามุมปากใส่ผมซะก่อน
เราต่อยกันอย่างเต็มที่ ยูนิตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะไม่คิดว่าจะทำกันจริงๆ
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ ผมโดนเข้าห้องปกครองพร้อมพ่อมาพบคุณครู
ไม่คิดเลยว่าแค่ผู้หญิงคนเดียวจะทำเอาผมกล้าเสี่ยงเพื่อเธอขนาดนี้
สงสัยผมคงรักเธอเข้าให้แล้วละมั้ง
เมื่อพวกเราเริ่มเข้าเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่
5 เมฆก็ถูกย้ายออกจากโรงเรียนด้วยเหตุผลอะไรที่ผมอาจไม่ทราบได้ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญเพราะสิ่งที่สำคัญคือ
ไม่มีใครมาจีบยูนิแข่งกับผมอีกแล้ว นับว่าเป็นโอกาสดีที่ผมจะเดินหน้าจีบเธอต่อไป
หลังจากนั้น ผมก็เริ่มเล่นกับเธอบ่อยขึ้น ถือว่าเป็นการออกหน้าจีบเธอต่อไป วันหนึ่ง
ผมและสายฟ้า เพื่อนสนิทที่สุดของผมได้ยืนคุยกันอยู่หน้าห้องเรียน ยูนิที่ได้วิ่งเล่นอยู่นอกห้องได้วิ่งเข้ามาในห้องเรียนผ่านทางผมและสายฟ้า
ไม่รู้ผมคิดยังไง อยู่ดีๆ
จึงตัดสินใจยื่นเท้าไปขัดเธอทำให้เธอล้มและพร้อมรับเธอที่ล่วงลงมาเหมือนในละครที่ผมชอบดูพร้อมแม่อยู่ทุกครั้ง
มันต้องเป็นภาพที่สวยงามเมื่อพระเอกรับนางเอกที่ล้มลงมา
สายตาได้จับจ้องกันผมคงสามารถกุมหัวใจเธอได้ไม่ยาก
แต่มันดันผิดคาด!
สิ่งที่เกิดขึ้นคือเธอล้มลงหน้าคะมำไปกับพื้นเข้าเต็มๆ
เธอร้องโอดโอยขึ้นมาก่อนจะหันไปมองคนรอบข้าง รวมทั้งมองหน้าผมด้วยสายตาโกรธแค้น
“นายทำเราใช่ไหม!?”
ผมมองไปหาสายฟ้าแทบจะทันทีพลางส่งสายตาขอความช่วยเหลือ
สายฟ้าก็ไม่ทันได้ตั้งตัวเช่นกัน สิ่งที่สายฟ้าคิดได้ตอนนั้นคือ
รีบลากผมให้ออกที่นั้นให้เร็วที่สุดก่อนที่ผมจะตะโกนตามหลังขอโทษเธอไป
เธอได้แต่ล้มนั่งร้องไห้อยู่ตรงนั้นก่อนจะตะโกนไล่หลังผมด้วยความโกรธ
“ฝากไว้ก่อนเถอะฟาน!”
ผลงานอื่นๆ ของ นักเพ้อฝัน ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นักเพ้อฝัน
ความคิดเห็น