เทศกาลลอยดาราเป็นเหมือนช่วงที่หญิงสาวมากมายใฝ่ฝัน ค่ำคืนที่ครอบครัวจะได้อยู่พร้อมหน้าและช่วงเวลาในการพบรักของพรหมลิขิต
แต่ในคืนนี้หวังลี่หมิงมิได้มีตั้งใจจะลอยกับกับครอบครัวแม้ความจริงนางลอยกับท่านแม่ละท่านพ่อก่อนจะมาตามนัดหมายของบุรุษผู้หนึ่งที่นัดนางมาในยามนี้
แสงโคมลอยทั่วฟ้ากลบกลืนดวงดารามืดมน แต่กลับน่ามองเพราะมีดาวมากมายที่ถูกผู้คนมากมายลอยเคว่งเป็นนั้น ความสวยงามบนนั้นเป็นดั่งภาพวาดสวยงามที่หาได้ยากยิ่งกว่าสิ่งใด
นางจึงเงยมองท้องฟ้ายามค่ำคืนนานแสนหลงลืมเวลาและการนัดพบเสียสนิดใจ
"เจ้ามองโคมนานเสียลืมเวลานัดของข้าเช่นนั้นหรือ"
"อะ! องค์ชายมาตอนไหนเพค่ะ ข้าขออภัยจริงๆที่ลืมมัวแต่มองท้องฟ้า"
"เจ้าชอบหรือ" องค์ชายถามนางด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
"ข้าชอบที่สุดเลยเจ้าค่ะ เทศกาลลอยดารา" นางก็ตอบด้วยความสัตย์จริงดั่งเด็กสาวผู้มิค่อยได้ชมภาพเช่นนี้บ่อย
"เช่นนั้นหรือ ถึงเวลาแล้วไปกันเถอะ" องค์ชายเหมือนคบคิดเรื่องบางอย่างแต่มิใดกล่าวสิ่งเพิ่มแต่ชวนนางไปร่วทลอยดาราตามนัดหมายของเราแทน
"เจ้าค่ะ"
..
..
"เจ้าจะปล่อยโคมได้เช่นไร อธิษฐานสักหน่อย อยากได้สิ่งใด"
"ท่านเล่าเจ้าค่ะ"
"ข้าหรือ ข้าคือผู้ทำให้คำอธิษฐานของพวกเขาเป็นจริงต่างหาก"
นางได้ยินเขาพูดเช่นนั้นก็พลันปล่อยโคมจากมือและตะปบปากคนตรงหน้าด้วยความตกใจ
ชายหนุ่มมองกิริยาตรงหน้าด้วยความตื่นตระหนกเช่นกันและโคมก็ถูกปล่อยสู่ทองนภาที่อาบไปด้วยแสงไฟมากมาย
"ท่านพูดเช่นนั้นได้อย่างไร องค์ชายกล่าวเช่นนี้มีภัยถึงขั้นหมิ่นเบื้องสูงหรือเป็นกบฏด้วยซ้ำนะเจ้าค่ะ"
ชายหนุ่มมองนางด้วยความงงงันก่อนที่ปากจะค่อยๆแย้มยิ้มและหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง
"ฮ่า ฮ่า ฮ่า คงจะมีแต่เจ้าที่หวาดกลัว ผู้คนอยู่กันที่ใด"
เขาชี้ไปโดยรอบริมธารที่พวกเรายืนอยู่ในครั้งก่อนมามีผู้คนประปราย แต่ครานี้ไร้ผู้คนเสียแล้ว
"กะ...ก็ข้ามิรู้นี้!" นางปล่อยมือจากปากเขาแล้วมองตอบด้วยใบหน้าง้องอน นางเพียงเป็นห่วงความปลอดภัยของเขา ในวังการแย่งชิงสูงนัก มีแต่ภัยและอันตรายทั้งสิ้น
"ข้ามิได้ว่าเจ้าเสียหน่อย ไหนเจ้าอธิฐานสิ่งใดบอกข้าได้หรือไม่"
นางมองชายคนรักแล้วยิ้มแย้มน่ารักน่าชัง
"มิได้หรอกเจ้าค่ะ! ท่านแม่กล่าวว่าหากอยากให้พรเป็นจริงต้องห้ามบอกผู้ใด"
ความคิดเห็น