ไม่สิ้นไร้แสงชีวา

บุษบงหมื่นหนาวหอมจับจิต

ยามพ่องพิศเหี่ยวเฉาละอารัก 

แม้นสุคนธ์มิโชยตามวายุภัค 

แต่รสรักกลับฝังลึกถึงฤทัย

หน้าที่ มิตรภาพ ความรัก ความผูกพันธ์

หนึ่งเอกบุรุษประมุขพรรคธรรมะผู้ยิ่งใหญ่ 

ผู้มีภาพลักษณ์หมดจดดั่งหยกขาว

ทว่ารอยยิ้มพิสุทธิ์นั้นกลับส่งไปไม่ถึงดวงตา

หนึ่งหนักแน่นดังภูผา 

ความงดงามแฝงกลิ่นอายความแข็งแกร่ง

ทว่ากลับไร้ปราณ สุนัขรับใช้ราชวงศ์

“ใครในโลกล้วนทำตามหน้าที่ทั้งนั้น ทว่ากับละเลยหน้าที่ใจตรงนี้”

“ข้าถูกใจเจ้า เรามาเป็นสหายกันดีหรือไม่”

“กระหม่อมไม่มีวันหันหลังให้องค์ชายสามขอรับ”

มาทำความเข้าใจกับโลกยุทธภพแห่งนี้กันเถอะ

โลกยุทธภพแห่งนี้แบ่งออกเป็นสามฝ่ายใหญ่

ราชวงศ์: ผู้ปกครองแคว้นหยางและผู้เป็นใหญ่ในโลกยุทธภพ ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันคือ หยางเจี้ยน

พรรคธรรมะ: เหล่าผู้ฝึกตนที่ถือกฎแห่งความดีงามโดยมีผู้นำสามพรรคใหญ่ถ่วงดุลอำนาจกันอันได้แก่ พรรคเลี่ยงเฟิง พรรคลู่หลิน และพรรรหมื่นพิษ

พรรคอธรรมะ: เหล่าผู้ฝึกตนโดยใช้วิชาของพวกมารมาผสมเข้ากับการใช้ลมปราน โดยผู้ปกครองพรรคอธรรมะคนปัจจุบันคือ ชงหยวน ทว่าไม่มีใครเคยเห็นหน้าค่าตาเขามาก่อน โดยกล่าวกันว่าผู้ที่เคยเห็นหน้าไม่ใช่คนพรรคมารก็คนตาย

ระดับปราณ

ปราณสวรรค์: ส่วนมากผู้ที่มีพลังระดับนี้จะเป็นเซียนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสัตว์เซียน อสูรเซียน ทว่าก็หายากยิ่งและเป็นที่ต้องการในการทำพันธสัญญาของเหล่าชาวยุทธ พลังเทียบเท่าเซียนบนสวรรค์ ทว่าอาศัยอยู่บนโลกแห่งยุทธภพ

ปราณลิขิต: ชาวยุทธภพใฝ่ฝันที่จะฝึกตนในสำนักใหญ่ๆ เพื่อที่จะทะลวงปราณให้ถึงระดับนี้ ทว่าน่าเสียดายมีเพียงหนึ่งในล้านเท่านั้นที่บรรลุ โดยส่วนมากจะเป็นท่านประมุขพรรคใหญ่ทั้งสามแลผู้อาวุโสในพรรคบางท่านเท่านั้น การจะบรรลุปราณขั้นนี้ได้ก็ต้องแลกบางอย่างในร่างกายให้กับสวรรค์

ปราณพิชิต: เหล่าชาวยุทธผู้ฝึกตนเพียรพยายามอย่างหนักมิสามารถบรรลุถึงขั้นนี้ได้ อย่าลืมว่าพรแสวงมาพร้อมกับพรสวรรค์เสมอ ในขั้นนี้ส่วนมากจะเป็นเหล่าศิษย์ระดับสูง หรือผู้อาวุโสในพรรคใหญ่เท่านั้น

ปราณแท้: ส่วนมากแล้วเหล่าผู้ฝึกตนที่สามารถเข้าฝึกในสำนักเล็กหรือใหญ่ แล้วฝึกตนเพียรพยายามอย่างหนักจะสามารถบรรลุขั้นนี้ได้ โดยใช้พรแสวงของตนทำให้ตนยิ่งใหญ่ ความสามารถระดับนี้ จะพบได้ในผู้อาวุโสพรรคขนาดกลางไปถึงเล็ก หรือลูกศิษย์ระดับต้นถึงกลางของพรรคใหญ่

ปราณก่อกำเนิด: ปราณระดับที่ชาวบ้านทั่วไปมีเพื่อใช้เลี้ยงชีพตนเอง โดยพลังจะเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ห้าขวบปี หากฝึกหนักก็มีโอกาศจะก้าวข้ามไปยังขั้นต่อไป แต่ถ้าคิดว่าชีวิตนี้มิได้ฝักใฝ่ในยุทธภพลมปราณเท่านี้ก็เพียงพอต่อการใช้ชีวิตแล้ว พวกเขามักจะประกอบอาชีพเกษตรกรรมแลปศุสัตว์

ไร้ปราณ: ผู้เกิดมาเปรียบดั่งไร้ชีวิต ในโลกยุทธภพลมปราณถือเป็นสิ่งสำคัญ ทว่าผู้ที่เกิดมาไร้ปราณก็เหมือนถูกตัดแขนขาไปข้างหนึ่ง บนโลกแห่งนี้มีคนไร้ปราณอยู่จำนวนหนึ่งซึ่งพวกเขาจะเป็นขอทานหรือไม่ก็ถูกตีหน้าว่าเป็นคนไร้ค่าอย่างแท้จริง ทว่าหากสวรรค์หรือนรกเมตตาอาจจะส่งสิ่งของบางอย่างที่ทำให้โลกแห่งลมปราณต้องสะเทือนดังเช่น กระบี่ตัดปราณของสุนัขรับใช้ราชวงศ์คนนั้น

*แต่ละขั้นของระดับปราณสามารถแบ่งย่อยได้อีกสามขึ้น เช่นปราณลิขิตระดับหนึ่ง ระดับสอง และระดับสาม*

ระดับโอสถ

โอสถสวรรค์: โอสถที่ทำมาจากวัตถุดิบหายาก และผู้ปรุงต้องอยู่ในระดับปราณลิขิตขึ้นไป สามารถรักษาได้อย่างรวดเร็วเพียงแค่รสสัมผัส โดยในโลกแห่งนี้มีปริมาณค่อนข้างน้อยและราคาสูงมาก

โอสถพิสุทธิ์: โอสถระดับสูงสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ทุกชนิดภายในเวลาหนึ่งวันแผลก็จะหายกลับมาเป็นปกติ ชาวยุทธภพที่ร่ำรวยหน่อย จะมีติดตัวไว้ยามออกท่องโลกกว้างรวมไปถึงกำจัดเหล่ามารร้าย

โอสถมอบชีวัน: เหล่าศิษย์ผู้ฝึกตนที่มิมีเงินตรามากพอ นิยมใช้โอสถนี้ยามฝึกตนแล้วเกิดธาตุไฟเข้าแทรกเพื่อปรับสมดุล มันจะช่วยทุเลาความเจ็บปวดได้ สำหรับผู้เจ็บไข้ได้ป่วยหากทานก็จะหายภายในสามวันเจ็ดวัน ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับรายได้ของชาวบ้านธรรมดา

โอสถมลายโศก: ยาสำหรับชาวบ้านทั่วไปที่เจ็บไข้ได้ป่วยแต่ไม่มีเงินซื้อโอสถแพงๆ เป็นโอสถขั้นต้นที่รักษาอาการบาดเจ็บทั่วไป รวมไปถึงโรคภัยไข้เจ็บ ราคาไม่แพงมาก

เงินตรา

100 เหรียญทองแดง = 1 เหรียญเงิน

1000 เหรียญเงิน = 1 เหรียญทอง

คุยกับนักเขียน

          สวัสดีค่ะนักอ่านที่น่ารักทุกท่าน จริงๆ เรื่องนี้ลงตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ แต่มีปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อยเลยลบแล้วลงวันนี้แทนค่ะ นิยายเรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจาก Sekiro ที่พี่เอกช่อง Heartrocker เล่นค่ะ พอดีว่างๆ เลยไปดูวิดีโอเก่าๆ ของพี่แก แล้วก็หลงรักความงดงามในความแข็งแกร่งของโอคามิ พ่อหมาป่าหนุ่มเข้าให้ โดยเราจิ้นพี่แกกับเก็นอิจิโร่ อิชชินค่ะ ฮ่าๆๆๆๆ เราชอบเคะที่แข็งแกร่งแต่คงความงดงามมากๆ เลยค่ะ สุดท้ายนี้ฝากเรื่องนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนด้วยนะคะ รักทุกคนนนนนนนน