ฝนโปรยปรายในป่าไผ่ - นิยาย ฝนโปรยปรายในป่าไผ่ : Dek-D.com - Writer
×

    ฝนโปรยปรายในป่าไผ่

    หนึ่งคนเป็นเชลยอีกคนเป็นองค์หญิงแม่ชี บัดนี้เขานั้นเป็นทรราช ส่วนนางคือสตรีขายชาติ นางอยากจะแก้แค้นก่อนตาย ส่วนเขาก็ไม่ยอมให้นางตาย

    ผู้เข้าชมรวม

    713

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    713

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    13
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  28 ก.ค. 64 / 13:42 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เรื่องนี้เป็น sequel (ภาคต่อ) ของ พิษรักทรราช

    ฝนโปรยปรายในป่าไผ่เป็นนิยายเรื่องแรกที่เราแต่งลง dek d เลย(ลบไปแล้ว สมัยปี 61 มีใครทันรึเปล่า555 ปกเป็นอันที่ใช้กับเรื่องเฉียนซวน) แต่แต่งได้แค่แปปเดียวก็ท้อ(และตัน)เลิกแต่งไป ทั้งๆที่กระแสดูดีกว่านิยายที่แต่งตอนนี้อีก แต่คำโปรยคนละอันกัน เป็นแนวพระเอกพระรองกินกันไม่ลง ส่วนตัวคือคิดถึงมาก แต่ยังไม่มีแพลนจะกลับมาแต่งในเร็วนี้เพราะมันค่อนข้างหดหู่ ถ้าหยางหยาเจินเป็นคนมองบนตลอดเวลา จ้าวฉิงนี่เป็นโรคซึมเศร้าเลยค่ะ เพลิงแค้นหนักๆแรงๆ

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ส่วนเรื่องนี้นางเอกแซ่จ้าว เป็นรุ่นลูกของเรื่อง ‘พิษรักทรราช’ เกี่ยวข้องกันยังไงไปเดากันเองเพราะลบสปอยไปแร้ววว เหอๆ //หลบรองเท้า แต่ว่าหยางหยาเจินกับจ้าวหมิงเจวี๋ยไปไหน อันนี้ต้องรอชม ‘พิษรักทรราช’ ค่า (ขายของ) 


    เขาต้องแต่งกับจ้าวฉิงหรือ ไฉนไม่ใช่จ้าวต๋าเล่า ทั้งๆที่เขาหลงรักนางมาเนิ่นนาน


    จ้าวฉิงขึ้นชื่อว่าเป็นองค์หญิงแม่ชีวันๆต้องหมกตัวแต่ในหอพระเป็นแน่แท้


    " อาเหลียน พวกข้าหล่อพระพุทธรูปทองคำนี้มาเป็นของขวัญสมรสให้เจ้าเลยนะ "

    เหล่ามิตรสหายก็พากันล้อเลียนเขา


    " อาเหลียน เห็นแก่น้องข้า เรายุติทั้งอย่างเพียงเท่านี้เถอะ "

    คนรักของเขาในที่สุดก็ยะงยอมแพ้


    " ซ่งเหว่ยเหลียน อย่าคิดจะเข้าใกล้ข้าเชียว!!! "

    ภรรยาผู้ละเว้นทางโลกชี้หน้าเขาด้วยนิ้วสั่นระรัว


    ที่แย่กว่านั้น..เขา..




    - ต่อมา -

    หลังจากฮ่องเต้องค์ก่อนสวรรคต กองทัพจากอู๋หรงก็บุกล้อมเมืองพร้อมประหารรัชทายาท จ้าวเฉิน แล้วตั้งจ้าวซิ่วขึ้นเป็นฮ่องเต้..


    " เพ่ยเอ๋อร์ ข้าได้ยินมาจากตลาดว่า องค์ชายของเรา ไม่ได้ตั้งองค์ชายจ้าวเฟิ่งเป็นฮ่องเต้แหละ "

    สาวใช้จากอู๋หรงนามเหยียนเอ๋อร์กระซิบบอกฝาแฝด

    "นั่นสิ ไม่ใช่ว่า เราต้องชูพระญาติขึ้นเป็นกษัตริย์เหรอ "

    เพ่ยเอ๋อร์ถามอย่างสงสัย

    " เจ้าก็เห็นด้วยกับข้าใช่หรือไม่ รู้องค์ชายประสงค์ให้เขาเป็นฮ่องเต้หุ่นเชิดจะได้ควบคุมง่ายๆ "

    เหยียนเอ๋อร์เอามือลูมคางคล้ายกำลังครุ่นคิดช่างน่าขัน

    "ใครจะไปรู้ ข้าเองได้ยินพวกทหารพูดกันว่า..."


    " พวกเจ้ากระซิบอะไรกัน! "

    เสียงเย็นกระแทกโสตประสาทพวกนางเล่นเอาสะดุ้งโหยง

    สตรีในอาภรณ์สีม่วงกลีบบัว มองพวกนางด้วยสายตาแข็งกร้าว 


    " เปล่าเจ้าค่ะ พวกบ่าวแค่กำลังชื่นชมว่าตำหนักเดิมของแม่นางงามยิ่งนักเจ้าค่ะ "

    เพ่ยเอ๋อร์ยังพอมีไหวพริบรีบยอสตรีตรงหน้า


    สตรีในอาภร์สีหม่นเลิกคิ้วโก่งดังคันศรอย่างไม่วางใจแล้วเดินเข้าห้องที่ทั้งสองยืนเฝ้าไว้

    " พวกเจ้าคิดว่าตำหนักร้างมันสวยก็ตามใจเจ้าเถอะ " 

    เจ้าของเสียงเย็นยะเยือกนั้นก้าวท้าวเข้าห้องไป ก็พบว่าเทียนถูกจุดไว้อยู่ นางแค่นยิ้มพร้อมกับเสียดสีผู้บุกรุกในยามวิกาล

    "องค์ชายเข้าห้องหับของสตรีในยามวิกาล ข้าเห็นว่ามันคงจะไม่เหมาะ โดยเฉพาะกับสตรีที่แต่งงานแล้ว "

    จ้าวฉิงยืนอยู่กลางห้องแค่นเสียงถากถางบุคคลหน้าหนาที่นั่งเล่นบนเตียงนางราวกับเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ


    ชายหน้าไม่อายยังคงยิ้มทะเล้น แล้วหยิบหมอนบนเตียงขึ้นมาสูดดม 

    " ทำไมผมเจ้าถึงได้หอมเช่นนี้...ตัวก็หอม "

    จ้าวฉิงยกมือเรียวมากุมขมับ

    " หลงจิ้ง ! เจ้าหยุดเล่นก่อน นี่ข้ากำลังจริงจัง "


    องค์ชายรูปงามเงยหน้าขึ้นมาสบตานาง แต่มือก็ยังไม่ปล่อยหมอนของนาง หากใครมาเห็นคงต้องอ้าปากค้างที่องค์ชายผู้เหี้ยมโหดกำลังอ้อล้อกับองค์หญิงแม่ชีที่ใครก็ว่ากันว่าสงบนิ่ง ละทิ้งทางโลก


    ละทิ้งกระทั่งสามีที่พึ่งแต่งงานกัน

    ใช่แล้วจ้าวฉิงเพิ่งแต่งงานกับซ่งเหว่ยเหลียนไปตามคำสั่งฮ่องเต้ นางและสามีอย่าว่าแต่รักกันเลย แค่เคารพก็ไม่เคารพกันด้วยซ้ำ ซ่งเหว่ยเหลียนนั้นแต่เดิมเป็นคนรักของพี่สาวต่างแม่ของนาง องค์หญิงใหญ่จ้าวต๋าผู้เลอโฉม มีหรือเขาจะเหลียวมามองนาง จ้าวฉิงเองวันๆก็เอาแต่ปลีกตัว หายไปไหนก็ไม่เคยมีใครทราบ ที่ไหนได้กลับไปสมคบคิดกับศัตรูเพื่อยึดครองต้าเหลียน


    อ่า ที่ว่าละทิ้งทางโลกคงเข้าใจผิดกันแล้ว


    แน่นอนว่าไม่มีใครคาดคิดว่ากบฏจะเป็นนาง ขนาดได้ยินก็ยังไม่เชื่อหู หากไม่ใช่เพราะหลงจิ้งแต่งตั้งให้พี่ชายแท้ๆของจ้าวฉิงเป็นฮ่องเต้ มิหนำซ้ำยังบังคับให้ซ่งเหว่ยเหลียนหย่ากับจ้าวฉิง ก็คงนึกว่าตนฝันอยู่เป็นแน่แท้

    นอกจากนั้นทรราชจากอู๋หรงผู้นี้ยังสั่งให้เชื้อพระวงศ์หญิงทุกคนอภิเษกกับเขาอีก ช่างไม่ธรรมดาเสียจริง


    ดวงตาเย็นเฉียบของจ้าวฉิงมองตรงมาที่ใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย แม้ว่าหลงจิ้งจะเป็นนักรบที่โหดเหี้ยมในสงครามเพียงใด เมื่อถอดชุดเกราะออกทรราชอย่างเขามันก็แค่คุณชายเสเพลเท่านั้น คนพรรณนี้จะต่างอะไรจากสามีเก่านางสักเท่าไหร่เชียว


    “ องค์รัชทายาทแห่งอู๋หรงกับสตรีขายชาตินั้นแอบลอบมีความสัมพันธ์กันผิดประเวณี มีหรือจะพานางกลับวังไปเป็นชายาได้อย่างสง่าผ่าเผย เจ้าลองคิดดีๆว่าควรจะปล่อยข้าไปดีกว่าหรือไม่”

    ฝีปากบางยังยิ้มแย้มไม่เปลี่ยนไป เพียงแต่ดวงตาสีอ่อนคู่นั้นดูแข็งกร้าวขัดกัน

    “ฉิงฉิงของเปิ่นหวางทำไมถึงใจดีเช่นนี้  เปิ่นหวางยังทำตามข้อตกลงของเราไม่ครบเลย เจ้าจะปล่อยไปแล้วรึ แหม…แต่น่าเสียดายเปิ่นหวางนั้นรักในความยุติธรรม ไม่ยอมให้เจ้าเสียเปรียบแน่ๆ”


    “รึไม่ก็ข้ายังไม่หมดประโยชน์ ข้าพูดถูกไหม”

    ใบหน้าเย็นชาของจ้าวฉิงเริ่มไม่เย็นเหมือนเคย หึ! กลัวนางเสียเปรียบรึ คนเสียสติผู้นี้ต้องการพานางไปอู๋หรงด้วยจริงๆหรือนี่ เป็นไปไม่ได้! เขาควรจะดีใจเสียมากกว่าที่นางไม่ทวงสัญญา ไม่ว่าจะมองในแง่ไหน คนเจ้าเล่ห์อย่างหลงจิ้งก็ไม่มีทางทำตามสัญญาข้อที่เหลือแน่ๆ เขาช่วยนางแก้แค้นเล็กน้อยแค่นี้นางก็พอใจแล้ว ที่เหลือนางขอไม่ไว้ใจเขาจะดีกว่า


    นางจะใช้เวลาอันสั้นที่เหลืออยู่แก้แค้นพวกมันให้สาสม



    ก็เหมือนอันเดิมเลย พล็อตเดิมเลย แต่วิธีการเล่าเรื่องนี่น่าจะแก้หน่อย คือเรื่องมันมีอยู่ว่าไม่ได้อัพมานานนนนน..แสนนานก็เลยกลับมาเพราะคิดถึง


    ก็หวังว่าทุกคนจะเอ็นจอย ติชมได้แต่อย่าแรงมาก555 

    ขอแบบซอฟๆ







    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น