เพียงตะวันเคียงดิน - นิยาย เพียงตะวันเคียงดิน : Dek-D.com - Writer
×

    เพียงตะวันเคียงดิน

    "เอารักไปทิ้งทะเลมันเก่าไปเเล้ว" ประโยคนี้นำพาให้บุตรออกเดินทางไปยังที่ที่เขาคิดอยากไป แต่เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไป

    ผู้เข้าชมรวม

    895

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    16

    ผู้เข้าชมรวม


    895

    ความคิดเห็น


    16

    คนติดตาม


    26
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  4 เม.ย. 62 / 20:25 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ



      “บุตร เราว่าเราเลิกกันดีกว่า..” เสียงหวานซึ้งของหญิงสาวตรงหน้าเอื้อนเอ่ยขึ้นมา ไม่ได้ต่าง

    อะไรจากฟ้าที่ผ่าลงกลางหัว บุตรนั่งนิ่งราวกับโดนสาป ใบหน้าของอาจารย์หนุ่มตึงขึ้นทันทีอย่าง

    เห็นได้ชัด ความเงียบเข้ามาปลกคลุมเต็มไปหมดจนน่าอึดอัด เเต่ไม่นานนักเขาก็ยอมปริปากเอ่ย



      “ฟ้าอยากเลิกกับบุตรจริงๆเหรอ… ทำไม?” น้ำเสียงที่ปรกติมักเอื้อนเอ่ยออกไปด้วยความมั่นใจ

    เเละขึงขัง เเต่ตอนนี้มันกลับสั่นเครือเเละประหม่าเป็นอย่างมาก มือข้างนึงกุมเเน่นพยายามอัดอั้น

    บางสิ่งไม่ให้เอ่อล้นออกมา



      “ฟ้าอยากได้สิ่งที่ดีกว่า ขอโทษนะ” เธอว่าก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าใบสวยที่วางอยู่ไม่ไกล

    นัก หยิบของจากด้านในที่มีไม่กี่อย่างออกมาก่อนจะใส่ในกระเป๋ากระโปรงตัวสวยเเล้วเลื่อนมัน

    มาตรงหน้าของบุตร



      “คืน” ใช่ กระเป๋าใบนั้นบุตรเป็นคนซื้อให้เธอด้วยเงินเดือนอาจารย์ที่ไม่ได้มากมายอะไร เทียบกับ

    ราคากระเป๋าใบนั้นเเล้ว เขาเเทบต้องกัดก้อนเกลือกินอยู่เกือบเดือน เพื่อซื้อสิ่งที่เธออยากได้เป็น

    ของขวัญวันเกิด แต่ตอนนี้มันคงไม่ได้สำคัญสำหรับเธอเเล้ว เธอลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินหันหลังเดิน

    ออกไปจากร้านอาหาร จนพ้นสายตา



      กล่องกำมะหยี่สีเเดงสดที่เขากำอยู่เมื่อครู่ถูกเอาขึ้นมาวางไว้บนโต๊ะ พร้อมน้ำตาที่เริ่มไหลริน

    ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่  วันนี้เป็นวันครบรอบ 7 ปีที่คบกันมา เเละใช่ วันนี้เป็นวันที่เขาพร้อมจะขอ

    เธอเเต่งงาน เเต่อะไรมันก็เกิดขึ้นได้ อย่างเช่นสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ พวกเขาเลิกกัน มันก็ย่อมเกิด

    ขึ้นได้



      บุตรลุกขึ้นจากเก้าอี้หลังจากจ่ายเงินค่าอาหารมือนี้เสร็จเรียบร้อยเเล้ว ในมือถือกระเป๋าใบสวย

    ที่ถูกทิ้งเอาไว้พร้อมกับกล่องเเหวนที่อยู่ในนั้น วิวยามค่ำคืนของมหานางงดงามเมื่อมองผ่าน

    กระจกใสรอบทิศของลิฟต์เเก้ว แต่สำหรับบุตรในตอนนี้มันไม่สวยเลยสักนิด ไม่เลยเเม้เเต่นิดเดียว



      อาจารย์หนุ่มเดินเลียบทางเท้าเรื่อยๆเหมือนคนจิตหลุด ล่องลอยไปเรื่อย สายลมอ่อนพัดผ่าน

    ร่างกายของเขาบัดนี้ราวกับพายุพัดโหมใส่กาย เเสงจากไฟสองข้างทางส่องสว่างวับวามเหมือน

    เเสงตะเกียงส่องผ่านให้เขาพ้นคืนนี้ไปอย่างไม่ยากลำบากนัก ไม่นานนักขาคู่นั้นก็พาอาจารย์หนุ่ม

    มายังห้องพักอาจารย์ที่ไม่ได้ห่างไกลจากละเเวกนั้นมากนัก


      ไฟเพดานสว่างวาบขึ้นมาทันทีทำให้เห็นสภาพห้องได้อย่างชัดเจน มันไม่ได้เป็นห้องที่ใหญ่อะไร

    มากนัก เเต่เป็นสัดเป็นส่วนเเละเป็นระเบียบเรียบร้อยตามนิสัยส่วนตัวของเจ้าของห้อง อาจารย์

    หนุ่มทิ้งตัวลงบนเตียงนอนนุ่มของตัวเองทันที ดวงตาสีเข้มจับจ้องเเสงไฟเพดานด้วยอาการเลื่อน

    ลอยเต็มที น้ำตาที่เคยไหลเลือนลางจางหายไปหมดสิ้นเเล้ว เหลือเพียงอาการเลื่อนลอยเหมือน

    ละเมออยู่เท่านั้น ทุกอย่างมันเคว้งไปหมด ราวกับตอนนี้เป็นอาการช๊อคหลังจากโดนรถชนก็ไม่

    ต่าง



      เปลือกตาสีมุกเหลือบหลับลงเชื่องช้า รูป รส กลิ่น เสียง ต่างๆยังคงตามหลอนใจอาจารย์หนุ่ม

    ไม่เลิกลาอย่างดื้อด้านมึนตึง ภาพต่างๆยังคงชัดเเจ่มอยู่ในความทรงจำ กลิ่นหอมอ่อนๆยังคงลอย

    อวลอยู่ในห้อง รสชาติบางสิ่งยังคงชัดเจนอยู่ในทุกสัมผัส หอมหวานเเละตราตรึง เสียงกระซิบ

    พร่ำบอกคำเเล้วคำเล่าเอ่ยวนไปเวียนมาซ้ำเเล้วซ้ำเล่าไม่จบสิ้น มันช่างเจ็บเเสบสะเหลือเกินจะ

    เอ่ย



      ความเหนื่อยล้าเเละท้อถอยฉุดรั้งสติของชายหนุ่มให้ดำดิ่งล้ำลึกหายเหือดไปจนหมดสิ้น ห้วง

    นิทราเเสนหอมหวานเกิดขึ้นราวความฝัน ใช่ มันเป็นเพียงฝัน เพราะร่างที่เขาโอบกอด

    ในห้วงฝันนั้นเมื่อยามตื่นขึ้นเเล้วนั้นเขาไม่มีทางได้พบมันอีก



     เขานอนไม่หลับ ใช่ เขานอนไม่หลับมาเป็นเดือนๆแล้ว สภาพแวดล้อมต่างๆราวกับกลั่นเเกล้ง

    คนอ่อนแออย่างเขาให้เศร้าหมอง ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็พบแต่ภาพเดิมๆที่เเสนคุ้นเคยย้อนวน

    มาราวกับฉายหนังซ้ำไปซ้ำมาไม่หยุด ไม่รวมกับเดือนเเห่งความรักที่เเสนหอมหวานอย่างเดือน

    กุมภาพันธ์ที่เขาต้องเผชิญด้วยเเล้ว เขาเเถบจะอยากกระอักเลือดตาย



      บอกตามตรงว่าเวลานี้ถ้าเห็นนักศึกษาที่เป็นแฟนกันกระหนุงกระหนิงกันในคาบเรียนเขาแทบจะอยากตัดเอฟให้มันรู้เเล้วรู้รอดไปข้อหาทำร้ายจิตใจคนเป็นอาจารย์ แต่จรรยาบรรณที่ค้ำคออยู่

    ก็ทำให้เขาทำได้เเค่เบ้หน้าอย่างไม่ชอบใจก็เท่านั้นเอง



         ข่าวล่าสุดที่เขาได้รับรู้เกี่ยวกับแฟนเก่าก็คงเป็นเรื่องไม่กี่วันก่อนที่เจ้าตัวลาออกจากการเป็นเลขาของอธิการบดีแล้ว ตอนนี้เหมือนว่าจะได้งานที่บริษัท อุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์หรืออะไรสัก

    อย่างนี้เเหละ ตัวเขาเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากมายนักเพราะถ้าอยากลืม ก็ไม่ควรสนใจถูกไหมละ

    แต่ก็เท่านั้น หลายคนที่ยังไม่รู้ข่าวการเลิกกันของเขากับฟ้าก็มักเข้ามาถามไถ่กันอยู่มาก จนเขา

    อยากจะตั้งโต๊ะเเถลงข่าวเหมือนพวกดาราให้มันรู้เเล้วรู้รอดไปว่าเขากับฟ้าเลิกกันไปเเล้ว



      บุตรกลับห้องมาด้วยอาการสโหล่สะเหล่อย่างคนไม่ได้นอน เขานอนไม่ค่อยหลับ กระซับกระ

    ส่ายมาหลายคืน หลับๆตื่นๆอยู่ทั้งคืน บางทีก็สะดุ้งตื่นมันสะกลางดึกเอาดื้อๆทุกที จนตอนนี้

    สภาพไม่ต่างอะไรจากผีตายซาก จนนักศึกษาที่เขาเป็นที่ปรึกษาทีซิสอยู่ถึงขั้นเข้ามาถามว่า

    อาจารย์เป็นอะไรไหม เขาก็ได้เเต่บอกปัดไปนั้นเเหละ ว่าผมโอเค เเต่เอาจริงๆตอนนี้มันโคตร

    จะไม่โอเคเลยเว้ยคุณ



      “อาจารย์บุตรคะ ปิดเทอมคราวนี้มีโปรเเกรมจะไปเที่ยวไหนไหมคะ ถ้ายัง ไปเที่ยวเกาหลีกับ

    พวกมิ้งไหมคะ” อาจารย์สาวคณะข้างเคียงเอ่ยชวนอย่างสนิทสนม ไม่ได้เเปลกเท่าไหร่นักที่เธอ

    จะชวนเขาเเบบนี้ เพราะมิ้งเป็นเพื่อนของบุตรตั้งเเต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเห็นผ่านกันไปมา

    ก็หลายทีไปๆมาๆ งานกีฬาก็เลยทำให้ทั้งคู่สนิทกันไปโดยปริยาย



      “ไม่ดีกว่าครับอาจารย์มิ้ง บุตรคิดอยู่ว่าน่าไปหาที่พักใจเงียบๆในไทยนี้เเหละครับ” เขาตอบไป

    ด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร



      “เป็นเดือนเเล้วนะบุตร มิ้งว่าบุตรไปเที่ยวกับมิ้งดีกว่าไหม เผื่อมันจะดีขึ้นเวลามีเพื่อนอยู่ด้วยมัน

    จะดีกว่านะบุตร” มิ้งพยายามกล่อมเพื่อนให้ไปด้วย เพราะความเป็นห่วงเพื่อนสนิทที่ตอนนี้สภาพ

    ไม่ควรไปไหนมาไหนคนเดียวเป็นอย่างมาก ถึงในใจจะรู้ว่าจริงๆเเล้วบุตรเป็นคนที่ใช้เหตุผลกับทุก

    เรื่องในชีวิตมากกว่าอารมณ์ เเต่เรื่องความรักมันจะเกิดอะไรขึ้นมาก็ได้ทั้งสิ้น จริงไหมละคะ?



      “กลัวบุตรจิตตกฆ่าตัวตายรึไงเล่า ไม่มีทางหรอกมิ้งก็รู้ว่าบุตรเป็นคนยังไง คืองี้ บุตรจองที่พักที่

    นึงไว้เเล้ว น่าจะเหมาะกับจิตใจบุตรตอนนี้ที่สุด มิ้งไม่ต้องห่างหรอก” บุตรว่า พร้อมหยิบขอสอบ

    ชุดสุดท้ายที่พึ่งตรวจเสร็จเรียบร้อยใส่ลงไปในซองน้ำตาลเพื่อเอาไปเก็บให้เรียบร้อย



      “บุตรกลับก่อนนะมิ้ง เก็บกระเป๋าเตรียมออกเดินทาง” บุตรว่าพร้อมรอยยิ้มกริ่ม เขาคิดอยู่นาน

    หลายปีตั้งเเต่คบกับฟ้า ว่าอยากไปพักที่รีสอร์ทเเห่งนึงอยู่นานมากเเล้ว เเต่ก็ไม่ได้ไปสักที เพราะ

    ฟ้าไม่ชอบอะไรเเบบนั้น ตัวเขาก็เลยต้องตามใจเธออยู่ทุกที เเต่ไหนๆก็เลิกกันเเล้ว ก็ขอทำตามใจ

    ตัวเองสักนิดก็เเล้วกัน



      เดินจากตึกคณะก่อนจะนั่งรถเเดงที่ผ่านหน้าคณะ ไม่นานนักก็มาถึงบ้านพักอาจารย์ เเม่บ้าน

    เอาจดหมายฉบับนึงมาให้ ก่อนจะถามไถ่กันสองสามคำก่อนที่บุตรจะเดินเเยกขึ้นห้องไป บุตร

    วางของลงในที่ที่มันควรอยู่ หันหลังไปนั่งลงบนโต๊ะทำงานก่อนจะค่อยๆเเกะจดหมายอย่างบรรจง

    ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ



      “เอารักไปทิ้งทะเลมันเก่าไปเเล้ว”


    T
    B

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น