เพราะฝนตก [RAIN]
เธอกำลังจะเดินเข้าห้องไป ก็ถูกพ่อคว้าแขนไว้ และฟาดฝ่ามือมายังใบหน้าเธออย่างแรง ใบหน้าละมุนถึงกับสะบัดไปตามแรงมือ รอยแดงปรากฏขึ้นเห็นเป็นรูปฝ่ามืออย่างชัดเจน
ผู้เข้าชมรวม
165
ผู้เข้าชมเดือนนี้
2
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ติ๊ง......
ทันที่เสียงเปียโน เสียงสุดท้ายแห่งบทเพลงจบลง เสียงปรบมือจากผู้ชมชุดใหญ่ก็ตามมา และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆเสียด้วย
ร่างบางค่อยๆลุกจากเก้าอี้ที่ไม่มีพำนัก ออกมายืนข้างเปียโนสีดำสนิท ที่แม้คนดูเปียโนไม่เป็นก็รู้ว่าราคาสูงมาก จากนั้นก็ค่อยๆก้มศีรษะลงเล็กน้อยด้วยความนุ่มนวล เพื่อทำความเคารพผู้ฟัง ดอกไม้หลายชนิด ทั้งเป็นช่อและเป็นดอกถูกโยนขึ้นไปบนเวที จนกองอยู่เกลื่อนแทบจะหาที่เดินไม่ได้ ร่างบางยังคงก้มศีรษะนิ่งอยู่เช่นนั้น ไม่มีใครแปลกใจกับการกระทำของเธอ เพราะทราบกันดีว่านี้คือ วิธีการรับดอกไม้จากทุกคนของ Rain
ใต้ใบหน้าที่ก้มอยู่ ปากบางสีชมพูปรากฏรอยหยักขึ้นที่มุมปาก แล้วร่างบางก็ค่อยๆ เงยศีรษะขึ้น เผยให้เห็นดวงหน้านวลขาวกระจ่าง นัยน์ตาสีฟ้าเข้มดูนิ่งลึกมองภาพตรงหน้า...
บรรยากาศสลัวๆ สไตล์โมเดิร์นผสมศิลปะญี่ปุ่น ที่วันนี้เน้นโทนสีฟ้าอ่อนช่วยให้บรรยากาศดูสดชื่นขึ้น ผู้ฟังรู้สึกจะมีเพิ่มขึ้นกว่าครั้งแรกที่เธอแสดงมาก และรู้สึกจะมีขาประจำมาฟังเพลงเธอเยอะขึ้นด้วย เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดจนเผลอยิ้มออกมา เห็นฟันสีขาวสะอาดเรียงตัวเป็นระเบียบ สร้างความรู้สึกอ่อนโยนเกิดขึ้นในใจใครหลายคน
จากนั้นร่างบางก็เดินลงจากพื้นยกที่ไม่สูงมากนักไปยังห้องแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน เพราะคืนนี้สิ้นสุดการทำงานแล้ว
บ้าน...คำพูดที่สร้างความรู้สึกจี๊ดในจิตใจทุกครั้งที่เอ่ยถึง หึหึ เธอพยามยามแค่นยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ชิงชัง เจ็บปวด ต่างจากครู่ก่อนโดยสิ้นเชิง
Rain จะกลับแล้วหรอ มาเรียสาวสวยผมหยักศกสีน้ำตาลเข้ม พร้อมด้วยดวงตาระยับน้ำตาลเข้มชวนมอง ไม่ว่าเมื่อไหร่ ที่ไหนก็ตาม มาเรียก็ยังก็ดูเป็นนัมเบอร์วันเสมอ สมกับตำแหน่งนัมเบอร์วันประจำร้านจริงๆ วันนี้เธออยู่ในชุดสายเดี่ยวสีน้ำเงินผ่าสูง ดวงตาสีน้ำตาลเข้มกำลังจ้องมองการแก้มัดผมอย่างทุลักทุเลของ Rain
ค่ะ เธอหันไปตอบอย่างสั้นๆ และทุกคนในร้านรู้กันดีว่านี่เป็นนิสัยของ Rain
ดูลำบากนะ เดี๋ยวช่วย เอามั้ย มาเรียนเสนอความคิดและยังไม่ทันที่ Rain จะตอบ เธอก็เดินมาช่วยแล้ว
กะแล้วว่าผม Rain ต้องนิ่ม ผมยาวขนาดนี้...ถึงเอวได้มั้ง ดูแลยังไงไม่ให้มันแตกปลายเนี่ย เก่งจริงๆ มาเรียตื่นเต้นกับผม Rain ยกใหญ่ แต่ Rain กลับนั่งนิ่งอยู่หน้ากระจก
ไม่คิดจะตัดบ้างหรอ
เคยค่ะ
แล้วตัดมั้ย อืม..ดูแล้วไม่น่าจะตัด ปากก็พูด มือก็ช่วยหวีผมให้ Rain
ตัดค่ะ เอาออกไปนเหลือแค่ไหล่
ว้าว...อยากเห็นจัง มาเรียค่อยๆถักเปียให้ Rain อย่างเบามือ เชื่อเลยว่ามันต้องดูน่ารักมากแน่เลย เมื่อก่อนฉันก็เคยตัดผมสั้นนะ มันเป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายมาก...เพื่อนในห้องล้อฉันว่าหัวฟูเป็นสิงโต เป็นรังอะไรสักอย่าง และเป็นอะไรอีกสารพัด ฉันล่ะอยากจะจับพวกนั้นมาโกนหัวให้มันโล้นๆไปให้รู้แล้วรู้รอด ล้อกันอยู่ได้ ตั้งแต่นั้นมาฉันก็ไม่เคยคิดจะตัดผมสั้นอีกเลย มันทำให้ฉันสูญเสียความมั่นใจไปแยะ เสร็จแล้วจ๊ะ มาเรียจับ Rain หันหน้ามา มองดูผลงานของตัวเองอย่างภูมิใจ ไม่รู้เปียสวยหรือคนสวยกันแน่
อืม..ดูแล้วน่าจะเป็นทั้งสองอย่าง
ขอบคุณ... ยังไม่ทันจะพูดจบเสียงจากบุคคลที่สามที่เดินหน้าตื่นมา ก็แทรกขึ้นก่อน
Rain เอ่อ...ขอโทษค่ะคุณมาเรีย เด็กสาวหน้าตาดีคนนี้ ดูจะเกรงๆมาเรียอยู่มาก ไม่สิ ต้องบอกว่าทุกคนในร้านเลยต่างหาก
มีอะไรจ๊ะ มาเรียถามไป
มีผู้ชายโต๊ะหนึ่ง อยากคุยกับ Rain ค่ะ มาเรียและ Rain ไม่แปลกใจกับคำตอบของเด็กสาวคนนี้ เพราะมันเกิดขึ้นทุกวันอยู่แล้ว และ Rain ก็ปฏิเสธทุกครั้งไป แต่คราวนี้ที่แปลกใจคือทำไมต้องทำหน้าตื่นเหมือนเรื่องใหญ่ขนาดนี้ด้วย
หน้าตาเป็นยังไง มาเรียยังถามต่อ
ดีค่ะ ดีมากๆ แต่ดูไม่น่าไว้วางใจ มาเรียหันมาสบตา Rain แต่ Rainยังเงียบอยู่
รูปร่าง ลักษณะล่ะ
สูง ขาว ตาสีดำดุๆ ผมยาว แล้วก็มีคนที่ดูเหมือนจะเป็นลูกน้องมาด้วยสองคนค่ะ มาเรียได้ยินถึงกับตกใจไปชั่วขณะ หวังว่าคงไม่เป็นคนที่คิดไว้หรอกนะ...
Rain ถ้าอยากกลับก็กลับได้เลย เรื่องแค่นี้เองเดี๋ยวเคลียร์ให้ มาเรียหันไปยิ้มขยิบตาให้ Rain ทั้งที่รู้สึกหวั่นอยู่ลึกๆ
อย่าลืมเปลี่ยนชุดนะ เดี๋ยวใครมาเห็นจะตกใจคิดว่านางฟ้าที่ไหน มาเรียทิ้งท้ายไว้แค่นั้นและเดินออกจากห้องไปด้วยความมั่นใจตามนิสัย พร้อมกับเด็กสาวคนที่มาแจ้งข่าว เรื่องแค่นี้มาเรียถึงกับต้องไปเองเลยหรอ?
Rain ก้มมองดูชุดตัวเอง มันเป็นชุดเปลือยไหล่ ไล่สีจากขาวลงไปจนถึงชมพู มีจีบเล็กๆรอบตัว ใต้อกพันด้วยริบบิ้นสีชมพู ปล่อยชายพลิ้วยาวกรอมเท้า เหมือนนางฟ้า? ตลกน่า..
Rain เปลี่ยนชุดจากสุดสวยมาเป็นกางเกงวอร์มสีดำกับเสื้อยืดสีขาวไซต์พอดีตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนชุดสวยก็ห้อยคืนไว้ที่เดิม และคว้ารองเท้ากีฬาสีน้ำเงินกับหมวกเบสบอสสีเขียวเข้มมาสวม จากนั้นก็เดินออกทางหลังร้าน หรือเส้นทางประจำ
แกกลับมาแล้วหรอ ทันทีที่เปิดประตูเข้าไปในห้องเช่าเล็กๆโทรมๆ ในย่านที่หลายคนดูถูก เสียงบุคคลที่เรียกตัวเองว่าพ่อก็ทักขึ้น
ค่ะ
มีเงินมั้ย เธอเลี่ยงไม่ตอบคำถาม เดินไปเปิดประตูห้องนอนของตัวเองกับน้องชายที่อายุ 6 ขวบ เด็กชายตัวน้อยกำลังนอนหลับสบายอยู่บนที่นอน
นังนี่ ถามดีๆไม่ตอบ! พ่อเริ่มขึ้นเสียงอีกแล้ว
ไม่มีค่ะ เงินยังไม่ออก เธอกำลังจะเดินเข้าห้องไป ก็ถูกพ่อคว้าแขนไว้ และฟาดฝ่ามือมายังใบหน้าเธออย่างแรง ใบหน้าละมุนถึงกับสะบัดไปตามแรงมือ รอยแดงปรากฏขึ้นเห็นเป็นรูปฝ่ามืออย่างชัดเจน
มาทีไรก็บอกว่าไม่มีๆ ไหนว่าไปทำงานไง เห็นแกว่าไปเล่นเปียโนไม่ใช่รึไง แล้วเงินมันหายไปไหนหมด หรือเอาไปเที่ยวหมดแล้ว!! อาการติดเหล้าของพ่อทำให้พ่อห่างไกลจากคำว่าพ่อไปมาก พ่อเริ่มดุด่าและหนักข้อขึ้นเป็นลงไม้ลงมือเมื่อไม่ได้ดั่งใจกับเธอตั้งแต่เธออายุ 8 ขวบเห็นจะได้ จนวันนี้เธอเริ่มจะชินชาแล้ว แต่ก็ยังอยากจะออกไปจากที่นี่อยู่ดี ไม่ใช่เพื่อตัวเองแต่เพื่อน้อง แต่มันติดตรงคำว่า เงิน เท่านั้น
ทุกวันนี้เธอจึงพยายามเก็บเงินอย่างหนัก
ไปนอนได้รึยังค่ะ เธอพูดขึ้น สีหน้าไร้ความรู้สึก นี่รึเปล่าที่เค้าเรียก อยู่ก็เหมือนตาย
แม่แกล่ะ
ไม่ทราบค่ะ
หึ...ป่านนี้ไม่รู้ไปอยู่โรงแรมไหนแล้ว
ไปนอนได้แล้วรึยัง พูดจบก็เดินเข้าห้องไปโดยไม่รอคำตอบ แล้วล็อคประตูห้องแน่น
ภาพในห้องเป็นเหมือนยาสำหรับจิตวิญญาณดีๆนี่เอง เด็กชายตัวน้อยกำลังหลับอยู่บนที่นอน แขนไปทาง ขาไปทาง เธอมองภาพนั้นอย่างเอ็นดู และก็เข้าไปช่วยจัดแขนขาเด็กชายให้เข้าที่เข้าทาง แต่ขณะที่จับแขนข้างซ้ายให้เข้าที่อยู่นั้น ก็สังเกตเห็นรอยจ้ำแดงๆ พองๆ กระจายอยู่ตามแขนประมาณ 3-4 รอยจะได้ ความโกรธแล่นจี๊ดขึ้นสมอง เธอเปิดประตู (เกือบจะกระแทก) ออกไปอย่างรวดเร็ว เห็นพ่อนั่งอยู่กลางกองเบียร์กระป๋อง ข้างๆมีที่เขียบุหรีที่เต็มไปด้วยก้นบุหรี่
คุณทำอะไร!!! เธอตวาดพ่อดังลั่น
เรื่องอะไร
อย่ามาทำเป็นไม่รู้เรื่อง คุณทำอะไรกับเรคิ เรคิ น้องชายเพียงคนเดียวของเธอ
ให้มันไปขอเงินแม่แกมา แค่นั้นมันทำไม่ได้ เลยสั่งสอนนิดหน่อย พ่อเธอพูดก็หยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมาดื่ม เหมือนการกระทำที่เขาทำมันเป็นเรื่องธรรมดา ทั้งที่เอาบุหรี่จี้แขนลูกนี่นะ! เด็กสาวโกรธจัดจนระงับารมณ์ไม่อยู่ ปัดเบียร์ออกจากมือพ่อทันที เบียร์กลิ้งไปหกลงบนเสื่อ
คุณช่างห่างไกลจากคำว่าพ่อเหลือเกิน เธอพูดอย่างเย็นชา ดวงตานิ่งลึกเหมือนทุกครั้งที่โกรธ พ่อมองเธอและแสยะยิ้ม
จะบอกอะไรให้ ฟังให้ดีๆคุณลูกสาวที่น่ารัก ฉันไม่ใช่พ่อของพวกแก!! และขนาดแม่แกยังไม่รู้เลยว่า ใครเป็นพ่อของพวกแก เด็กสาวถึงกับตัวชา ตลอดเวลา 16 ปีที่ผ่านมาเธอคิดว่าชายคนนี้เป็นพ่อผู้ให้กำเนิดเธอมาตลอด แต่ความจริงมันกลับไม่ใช่ คิดแล้วก็น้ำตาแทบจะไหล
ชีวิตเฮงซวยเอ๊ย!!
ยืนนิ่งเลยนะแก คงตกใจละซิ อืม..จะว่าไปแกก็หน้าตาดีอยู่นะ พ่อใช้สายตากวาดขึ้นๆลงๆ แล้วยืนขึ้นมาเผชิญหน้ากับเด็กสาว
หยุดความคิดของคุณซะ! เธอพูดพร้อมกับค่อยๆถอยร่นไปเรื่อย
มานี่!! พ่อคว้าแขนเธอไว้ และผลักเธอล้มลงนอนกับพื้น เด็กสาวตกใจมาก ทำอะไรไม่ถูกได้แต่หวีดร้องอย่างสุดเสียง
ปล่อย!!! รู้สึกสะอิดสะเอียดกับปากที่ไซร้อยู่แถวต้นคอ มือพ่อข้างหนึ่งรวบมือเธอไว้เหนือศีรษะ อีกข้างกำลังคลานเข้าไปในชายเสื้อและไล่สูงขึ้นเรื่อยๆ เด็กสาวพยายามขัดขืนสุดกำลัง ทั้งถีบ ทั้งยัน แต่ก็ไม่สำเร็จ
หยุดดิ้นสิโว้ย!! พ่อตะโกนใส่หน้าเธอ และต่อยเข้าที่ท้อง จนเด็กสาวรู้สึกจุก ความแรงของมันทำให้เธอหมดเรี่ยวแรงไปเฉยๆ ร่างกายชาหนึบ ตัวหนักอึ้ง แม้แต่จะหายใจก็ยังยาก เธอจึงได้แต่นอนนิ่งๆ พ่อเห็นก็ปล่อยมือที่ล็อคมือเธอไว้และแสยะยิ้ม ยิ้มที่น่าเกลียด น่ากลัวที่สุด
เด็กสาวรู้สึกกลัวขึ้นจับจิต เธอจะยอมให้เป็นอย่างนี้หรอ ไม่!! แต่จะทำอะไรได้ล่ะ น้ำตาค่อยๆไหลออกมา แม้ภายนอกจะทำอะไรไม่ได้ แต่ข้างในมันกำลังแข่งกันตะโกน กรีดร้องว่าเธอจะต้องรอด! จะต้องรอด!! ต้องรอด!!!
แต่ในความเป็นจริงมันช่างเป็นไปได้ยากเหลือเกิน พ่อกำลังจะปลดตะขอกางเกงของตัวเองแล้ว...
เด็กสาวยังไม่หยุดหวังง่ายๆ เธอจะต้องรอด! และทันใดก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่อยู่ในรัศมีมือพอดี เธอกำมันไว้แน่น รวบรวมพลังทั้งหมดไว้ที่แขน แม้จะยากเท่าไหร่ก็ตาม พ่อถอดกางเกงตัวเองเสร็จแล้ว และกำลังจะถอดกางเกงเธอ ใบหน้าก็ก้มลงมาไซร้ไม่หยุด เด็กสาวรู้สึกสะอิดสะเอียนอย่างที่สุด
ไม่นะ...แขนเธอไม่มีแรง ไม่! ไม่!! ไม่!!!
ผั๊วะ!!
เสียงที่เขียบุหรี่กระทบกับกะโหลกศีรษะพ่อ กลิ่นคาวเลือดกระทบโสตประสาท /span>พ่อจับไปที่ขมับตัวเอง พบน้ำสีแดงติดมือออกมาอย่างน่ากลัว จากสายตาที่ได้ใจ ตอนนี้มันกลับลุกโชนด้วยเพลิงโกรธ สาบานได้เลยว่า พ่อกำลังจะฆ่าเธอแน่
นังนี่ แกตาย!!! พ่อทำท่าจะต่อยเด็กสาวอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เรี่ยวแรงเธอพอจะกลับคืนมาบ้างแล้ว จึงฟาดที่เขี่ยบุหรี่ไปที่ศีรษะพ่ออย่างสุดแรงเกิด และลุกขึ้นยืนหอบ ทั้งตกใจ ทั้งกลัว ความรู้สึกทุกอย่างมันรวมกันไปหมดจนแยกไม่ถูก
ร่างของพ่อนอนราบลงกับพื้น ศีรษะมีเลือดไหลออกมากจนน่ากลัว ตาย?
ใช่ มันต้องตาย!
ความรู้สึกที่เธอเองยังกลัวเกิดขึ้นในใจ มันเป็นความรู้สึกด้านมืดที่เธอพยายามกดมันไว้ เด็กสาวทราบดีว่าตนเองเป็นพวกอารมณ์รุนแรง แต่ก็พยายามกดไว้ แต่วันนี้ดูมันจะมีอำนาจเกินจะเอาอยู่เสียแล้ว เธอเงื้อมือที่จับที่เขี่ยบุหรี่ขึ้นสูงหวังจะซ้ำอีกรอบ
จบกันสักที!
พี่... เด็กสาวถึงกับชะงัก หันไปมองบริเวณที่มาของเสียง เด็กชายตัวน้อย ผมดำยุ่ง ตาสีน้ำตาลเข้ม ผิวขาว อยู่ในชุดนอนลายตารางสีเขียวเหลือง กำลังยืนอยู่ตรงบานประตูที่เธอเปิดทิ้งไว้ตอนออกมา เหมือนความโกรธทั้งมันหายไปเฉยๆ ที่เขี่ยบุหรี่หล่นจากมือ เด็กสาววิ่งถลาไปหาเด็กชายตัวน้อย และปิดตาเด็กชายไว้แน่น
เราจะไปจากที่นี่ เรคิเราไปจากที่นี่กันนะ
พ่อเป็นอะไรครับ เด็กชายถามเสียงซื่อ
นอนจ๊ะ นอนที่ไม่รู้ว่าจะนอนไปตลอดกาลหรือเปล่า เด็กสาวรีบอุ้ม เรคิ น้องชายตัวน้อยไว้ในอ้อมกอดและยืนขึ้นยังไม่ทันที่จะหันหลังกลับ เสียงดังปานฟ้าที่ทำเอาถึงกับสะดุ้งก็ดังขึ้นก่อน
แก!!!!! พ่อยืนได้แล้วและกำลังถือที่เขี่ยบุหรี่อยู่ในมือ แย่ไปกว่านั้นคือกำลังวิ่งแบบมึนๆพร้อมเตรียมจะจับที่เขียบุหรี่ฟาดมาทางนี้! แต่โชคดี ที่หลบทันอย่างหวุดหวิด เธอรีบวิ่งอุ้มเด็กชายตัวน้อยออกจากประตูห้องไป ไม่สนใจหันกลับมามองแม้แต่น้อย
ตลอดระยะทาง เธอวิ่งโดยไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น วิ่ง...วิ่ง...และวิ่ง จนสรรพเสียงรอบตัวเงียบลง ปราศจากเสียพ่อ เสียงรถ เสียงเครื่องจักร เด็กสาวค่อยๆหยุดลง และวางน้องชายลงกับพื้น รู้สึกปวดแสบปวดร้อนที่เท้าไปหมด เพิ่งรู้ตัวว่าไม่ได้ใส่รองเท้า
เธอมองไปรอบๆตัว เห็นต้นซากุระบานสะพรั่งเต็มไปหมด คงจะเป็นสวนซากุระสักแห่งที่ตอนนี้ปลอดภัยจากพ่อ เธอถอนหายใจเอาความเลวร้ายออกไปให้หมด และทรุดนั่งแหมะลงกับพื้น เธอรอดแล้ว? ใช่ อย่างน้อยก็ตอนนี้
เรื่องในคืนนี้ช่างมากมายเหลือเกิน คิดแล้วก็รู้สึกร้อนๆ ที่ขอบตา อาการที่เธอไม่เป็นมาตั้งนานแล้ว นานจนเกือบลืมไปว่าnbsp; ร้องให้ มันเป็นยังไง
พี่ครับ อย่าร้องให้นะ น้องชายตัวน้อยพยายามจะปลอบ มือน้อยๆก็คอยเช็ดหยดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มพี่สาว เด็กสาวมองผ่านม่านน้ำ เห็นหน้าเด็กชายลางๆ และรู้สึกถึงมือน้อยๆที่กำลังวุ่นกับการเช็ดน้ำตาให้เธอ
เด็กสาวค่อยๆยกมืออันสั่นเทาของตัวเองกุมมือน้องชายไว้แน่น...ซบหน้าลงกับมือนั้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตยังปลอดภัย น้ำตาหยดแล้วหยดเล่า หยดลงมือเด็กชายตัวน้อยแต่ไร้ซึ่งเสียงจากพี่สาว เธอเก็บมันไว้ เพราะมันทำให้รู้สึกเหมือนเธออ่อนแอ...
พี่ครับ เจ็บตรงไหนหรอ
ไม่...ไม่เป็นไร เธอเงยหน้าขึ้นจ้องดวงหน้าบริสุทธิ์ตรงหน้า พยายามยิ้มให้ได้มากที่สุด
เรากำลังจะไปไหนกันครับ เด็กสาวเงียบไป เธอจะไปไหนดี?
เดี๋ยวเราพักตรงนี้ก่อนก็แล้วกัน เธอเลี่ยงไม่ตอบ ใช้การเปลี่ยนเรื่องแทน ซึ่งดูแล้วก็ได้ผล เด็กชายพยักหน้ารับอย่างน่ารักน่าชัง และลุกขึ้นเดินดูซากุระต้นนั้น ต้นนี้ไปรอบๆบริเวณที่นั่งอยู่ ส่วนเด็กสาวเลือกที่จะนั่งพักอยู่เงียบๆ มองตามเด็กชายตัวน้อยตลอด
ให้ตายเถอะ! คราวนี้จะไปอยู่ที่ไหนกันดี
ผลงานอื่นๆ ของ I_aM_P ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ I_aM_P
ความคิดเห็น