" Epic War Angel " มหากาพย์สงครามเทวดา - นิยาย " Epic War Angel " มหากาพย์สงครามเทวดา : Dek-D.com - Writer
×

    " Epic War Angel " มหากาพย์สงครามเทวดา

    มนุษย์ ถูกกิเลสตัณหาในใจตนเองล่อลวงเสียแล้ว ต่างรบราฆ่าฟันแย่งชิงอำนาจเงินทองอย่างไม่สิ้นสุด นี้คือบัญชาจากเรา เราจะอวตารไปเกิดเป็นมนุษย์ เพื่อจบปัญหาที่มนุษย์ก่อขึ้น !

    ผู้เข้าชมรวม

    29

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    29

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 ก.ค. 61 / 12:58 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    ปฐมบทมนุษยชาติ

                   “              ณ.วิหาร ราเดียทอร่า หรือ วิหารชุมนุมแห่งทวยเทพ

                   ได้มีการจัดงานเลี้ยงสวรรค์ขึ้นทุกๆ หนึ่งพันปี เพื่อให้เหล่าทวยเทพได้

                   พบปะสังสรรค์ และคลายความเหนื่อยล้าจากหน้าที่ของตนในการ

                   ดูแลจักรวาล เหล่าเทพต่างรื่นเริงในงานเลี้ยงอย่างเต็มที่เพราะเก็บกด

                   มานานกับการทำงานที่ยาวนานถึง1000ปี แต่หามีเทพองค์ไหนเลย

                   ที่จะล่วงรู้ถึงชะตากรรมอันวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า และเป็น

                   จุดกำเนิดเรื่องราวที่ต้องทำให้เหล่าทวยเทพปวดหัวไปอีกหลายพันปี

                   เสียงแตร์อันยิ่งใหญ่ดังขึ้นจากทุกทิศทางเป็นสัญญานบงบอกว่า                                                                     

                   ประธานในพิธีมาถึงแล้ว เทพทุกองค์ต่างเงียบและพร้อมใจคุกเข่า

                   ต่อหน้าต้นไม้แห่งชีวิต ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางวิหารและเป็นแกรนกลางของ

                   จักรวาลทั้งหมด ทันใดนั้นก็มีแสงสีทองเรืองรองส่องสว่างจ้าออกมา

                   จากใจกลางต้นไม้แห่งชีวิต บัดดลเมื่อแสงสว่างลับไปปรากฏ ร่าง

                   เทพผู้สง่างามองค์หนึ่งร่างกายกำยำ มีหกปีก ทรงชุดเกราะสีทอง

                   ยืนต่อหน้า เหล่าทวยเทพ อย่างองอาจและสง่าผ่าเผย ผมสีขาว

                   นัยน์ตาสีรุ้ง ชวนให้หลงใหล เขาผู้นี้คือ “เทพเซลาฟาส” เทพนักรบ

                   และเทพผู้มีหน้าตาหล่อเหลางดงามที่สุดในจักรวาลแห่งทวยเทพ

                   เขามียศศักดิ์สูงสุดในบรรดาทวยเทพ เป็นรองก็แต่”พระผู้สร้าง”

                   เท่านั้น “ ลุกขึ้นเถิดเหล่าทวยเทพ "เสียงอันสุขุมนุ่มลึก ได้เอ่ยขึ้น

                   

                   “ ในงานเลี้ยงครั้งนี้พระผู้สร้างมีของขวัญมอบแด่ท่านทั้งหลาย

                   ในฐานะที่ท่านทั้งหลายตรากตำทำงานมาอย่างยาวนาน

                   ปีนี้ครบหนึ่งแสนปีที่ต้นไม้แห่งชีวิตได้ออกผล และพระผู้สร้าง

                   ได้ตัดสินใจมอบผลไม้แห่งชีวิตให้พวกท่านคนละหนึ่งลูก”

                  

                   ทันทีที่เทพเซลาฟาสกล่าวจบ เสียงโฮ่ร้องดีใจก็ดังกึกก้องไปทั้ว

                   วิหาร ผลไม้แห่งชีวิต นอกจากเป็นยาสารพัดนึกแล้วยังสามารถ

                   เพิ่มพลังให้แก่ผู้ที่กินให้ชีวิตอมตะ และยังใช้ประโยชน์ได้อีก

                   มากมายหลายประการ ถือได้ว่าเป็นผลไม้วิเศษที่หาได้ยากยิ่ง

                   ในคืนวันนั้นเหล่าทวยเทพต่างพากันเฉลิมฉลองเต้นรำกันอย่าง

                   สนุกสนานเทพทุกตนต่างพากันกินผลไม้แห่งชีวิต อย่างมีความสุข

                   หนึ่งในนั้นคือเทพมีนนายา เทพแห่งการอวยพร ในขณะที่นาง

                   กำลังคบเคี้ยวผลไม้แห่งชีวิตอย่างเอร็ดอร่อยอยู่นั้น ผลไม้เกิดติดคอ

                   นางจึงไปตักน้ำพุแห่งมารดาดื่ม ประจวบเหมาะที่เทพหนุ่มสาว

                   สององค์เดินเข้ามาขอพรนาง

                   “พระนางมีนนายาได้โปรดอวยพรให้เราสองคนมีลูกด้วยเถิด”

                  “เจ้าทั้งสองประสงค์บุตรชายหรือบุตรตรีเล่า” เทพมีนนายาถามกลับ

                  นางพูดในขนะที่ปากก็ยังกัดและคบเคี้ยวผลไม้อยู่ เทพหนุ่มสาวสอง

                  สามีภรรยาต่างถกเถียงเรื่องบุตรเพราะ เทพหนุ่มอยากได้บุตรตรี

                  เทพสาวอยากได้บุตรชาย ด้วยความรำคาญ มีนนายานางจึงตัดบท

                  ด้วยการอวยพร

                 

                  “งั้นเอาเช่นนี้เถิด ข้าขออวยพรให้ท่านทั้งสองมีลูกแฝด

                  คนหนึ่งเป็น หญิง คนหนึ่งเป็น ชาย ก็แล้วกัน”

                                                

                  พอนางพูดจบนางก็ถ่มเมล็ดผลไม้แห่งชีวิต ลงบนพื้น แต่เมล็ดผลไม้

                  ดันกระเด็นไปตกลงในบ่อน้ำพุแห่งมารดา ด้วยพลังแห่งบ่อน้ำพุแห่ง

                  มารดาและเมล็ดผลไม้แห่งชีวิตบวกกับคำอวยพรของนาง

                  จึงก่อกำเนิดเกิดร่างกายชายหญิงคู่หนึ่งขึ้นมา

                          

                                               “และนั่นจึงคือจุดกำเนิดของมนุษยชาติ”

                               

     


                  

                 

                               


                 

                    

                    

                   

                   


                   

                  

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น