สะใภ้เจ้าสัว
"ตี๋ใหญ่ อากงหาเจ้าสาวให้ลื้อแล้วนะ" เอกดำรงเงยหน้าจากถ้วยข้าวต้มตรงหน้า แล้วหันไปมองชายชราที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ตะเกียบในมือของอากงยังคงคีบผัดผักบุ้งใส่ถ้วย ที่ข้าวสวยพร่องไปเกือบครึ่ง ด้วยท่าที ....
ผู้เข้าชมรวม
550
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
สะใภ้เจ้าสัว
บทนำ
By.
แก้วโมรา
"ตี๋ใหญ่ อากงหาเจ้าสาวให้ลื้อแล้วนะ"
เอกดำรงเงยหน้าจากถ้วยข้าวต้มตรงหน้า
แล้วหันไปมองชายชราที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
ตะเกียบในมือของอากงยังคงคีบผัดผักบุ้งใส่ถ้วย ที่ข้าวสวยพร่องไปเกือบครึ่ง
ด้วยท่าทีไม่สำคัญไปกว่าการชวนคุยเรื่องบอนไซกระถางใหม่
ชายหนุ่มหันไปมองหน้ามารดาและบิดาที่นั่งถัดมาจากแขกสูงวัยที่นานๆจะแวะมาค้างที่บ้านสักที
แล้วก็เห็นว่าเถ้าแก่และเถ้าแก่เนี้ยของบ้านมีสีหน้ากรุ้มกริ่มพอใจอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะที่น้องๆของเขานั่งอ้าปาหวอด้วยความประหลาดใจ
“วันนี้ไปลื้อหาอีด้วยนะ ไปเจอหน้าค่าตากันสักหน่อย
แล้วไปคุยรายละเอียดเรื่องการแต่งานด้วยว่าเขาจะให้จัดแบบไหน ยังไงบ้าง”
เจ้าสัวประภัสร์ได้ที ใช้ช่วงที่หลานชายคนโตกำลังช็อคนั้น
สั่งการอย่างต่อเนื่องเหมือนกับทุกครั้งตามความเคยชิน
แต่ก่อนที่การสนทนาจะพาไปไกลกว่านี้ เอกดำรงก็ทิ้งช้อนลงในถ้วยข้าวต้มและยกมือขึ้นห้ามชายชรา
และเอ่ยคำถามสำคัญ
“เดี๋ยวๆๆๆครับอากง แล้วทำไมผมถึงต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นด้วยล่ะครับ”
......................................................
“เอ่อ ... ผมชื่อเอกดำรง หลานของคุณประภัสร์น่ะครับ”
นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ชายหนุ่มรู้สึกประหม่าจนพูดอ้ำๆอึ้งๆ
ถึงแม้ว่าจะพยายามข่มความรู้สึกขัดเขินที่เกิดขึ้นจนแทบจะสำเร็จ
เพราะน้ำเสียงที่เอ่ยออกไปค่อนข้างจะราบเรียบเป็นปกติเหมือนกับการพูดคุยธุรกิจที่เขาถนัด
แต่ภายในหัวนั้นความคิดปั่นป่วนพลุ่งพล่านเหมือนเกิดพายุฤดูร้อนก็ไม่ปาน
และคิดหาหนทางตลอดเวลาตั้งแต่ย่างเท้าออกจากบ้านว่าจะหาวิธีกล่อมผู้หญิงตรงหน้าให้แต่งงานกับเขาสำเร็จได้อย่างไร
เพราะหากจะว่าไป ตัวของเขาเองก็คิดว่าเหตุการณ์ที่นำมาสู่การแต่งงานตามที่อากงสั่งนั้นช่างงี่เง่าสิ้นดี
และการที่ต้องทำในสิ่งที่ตนเองไม่ศรัทธาแม้แต่น้อยเป็นเรื่องที่ลำบากใจอย่างที่สุด
“อ๋อ หลานเจ้าสัวประภัสร์” เสียงหวานทวนคำ ส่งรอยยิ้มละมุนตามแบบคุณครูใจดีมาให้
เอกดำรงรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอนุบาลอีกครั้ง ทั้งที่หญิงสาวตรงหน้าตัวเล็กบอบบาง
และเขาก็ไม่ใช่เด็กน้อยตัวเล็กๆเช่นนั้นอีกแล้ว เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบที่อีกฝ่ายถือไพ่เหนือกว่า
ทีท่าเย็นๆของคู่สนทนาทำให้คนใจร้อนเป็นไฟรู้สึกเคือง
จนเสียงที่เอ่ยต่อมากระด้างขึ้น
“อากงให้ผมมาคุยเรื่องแต่งงาน”
“ค่ะ”
เขาจับจ้องใบหน้าเรียวกับรอยยิ้มอ่อนๆเพื่อสังเกตทีท่าของเธอ
และเห็นได้ว่าแม้แต่แววตาก็ยังคงดูเป็นปกติ แสดงว่าเรื่องอากงบอกเขาเป็นความจริง
เธอรู้เรื่องแต่งงานแล้ว นั่นทำให้การพูดคุยง่ายขึ้น มธุรสาคงถือว่าอากงของเขาทาบทามหล่อนไว้แล้ว
เท่ากับมัดมือชกให้เขาต้องแต่งงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เอกดำรงก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่งที่ไม่ต้องใช้ความพยายามในการเกลี้ยกล่อมเธอมากนัก
“คุณสะดวกที่จะให้ผมไปพบคุณพ่อคุณแม่ของคุณเมื่อไร”
ดวงตากลมโตนั่นกระพริบปริบๆสองสามครั้ง
ก่อนที่เอกดำรงจะได้คำตอบ “ไม่ต้องหรอกมั๊งคะ คุณจัดการตามที่เห็นสมควรได้เลยค่ะ
แล้วจะให้ฉันทำอะไรบ้างก็บอกได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ”
ดูท่าว่าอากงคงจัดการไปพบว่าที่พ่อตาแม่ยายเขาเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน
ชายหนุ่มไม่อยากจะคิดเลยว่าจะถูกตัดหนทางขนาดนี้ แล้วถ้าหากเขาไม่ยอมแต่งงานขึ้นมา
ไม่รู้ว่าครอบครัวจะเสียชื่อกันขนาดไหน
“คงไม่มีอะไรมั๊งครับ เดี๋ยวทางผมจัดการเอง
ทางคุณคงไม่ค่อยสะดวกเรื่องธรรมเนียมของเรา” วันก่อนประภัสร์เรียกแม่สื่อมาคุยเรื่องงานแล้ว
ผู้หญิงวัยกลางคนท่าทางคล่องแคล่วที่เดินสวนกับเขาเมื่อวันอาทิตย์นั่นไง
“อ๋อ ค่ะ”
เมื่อมธุรสารับคำสั้นๆ แล้วทั้งสองก็ไม่มีเรื่องจะพูดคุยกันอีก
หลังจากนั่งบื้อใบ้เหมือนคนแปลกหน้าราวห้านาที ยกแก้วชาขึ้นจิบสองครั้ง
หล่อนก็เอ่ยปาก
“ถ้าคุณเอกดำรงไม่มีธุระอะไรแล้ว
ดิฉันขอกลับไปทำงานได้ไหมคะ”
“อ้อ ครับ เดี๋ยวผมไปส่งที่โรงเรียน
ผมไม่ทราบว่าคุณติดงานอยู่เลยไม่ได้นัดล่วงหน้า
แต่นี่มันก็เลยเวลาราชการแล้วนะครับ”
“พอดีพรุ่งนี้ทางโรงเรียนจะจัดนิทรรศการผลงานนักเรียนน่ะค่ะ
ดิฉันก็เลยจะเข้าไปดูความเรียบร้อยสักนิดก่อนกลับบ้าน”
เอกดำรงพยักหน้าและยิ้มสุภาพให้เธอ
แล้วผายมือให้มธุรสาเป็นฝ่ายเดินนำจากโต๊ะ
ร่างสูงสมาร์ทยังคงแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะประเมินคู่สนทนาตามประสาพ่อค้าไม่ได้
ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้ให้ความสำคัญกับนิทรรศการของเด็กนักเรียนมากกว่าการแต่งงานกับเขาเสียอีก!!
เปิดเรื่อง
14 ม.ค.60
ผลงานอื่นๆ ของ วิเซียร่า / แก้วโมรา /นันทรูป ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ วิเซียร่า / แก้วโมรา /นันทรูป
ความคิดเห็น