สะใภ้เจ้าสัว - นิยาย สะใภ้เจ้าสัว : Dek-D.com - Writer
×

    สะใภ้เจ้าสัว

    "ตี๋ใหญ่ อากงหาเจ้าสาวให้ลื้อแล้วนะ" เอกดำรงเงยหน้าจากถ้วยข้าวต้มตรงหน้า แล้วหันไปมองชายชราที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ตะเกียบในมือของอากงยังคงคีบผัดผักบุ้งใส่ถ้วย ที่ข้าวสวยพร่องไปเกือบครึ่ง ด้วยท่าที ....

    ผู้เข้าชมรวม

    550

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    8

    ผู้เข้าชมรวม


    550

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  14 ม.ค. 61 / 11:38 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สะใภ้เจ้าสัว บทนำ

    By. แก้วโมรา

     

    "ตี๋ใหญ่ อากงหาเจ้าสาวให้ลื้อแล้วนะ"

    เอกดำรงเงยหน้าจากถ้วยข้าวต้มตรงหน้า แล้วหันไปมองชายชราที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ ตะเกียบในมือของอากงยังคงคีบผัดผักบุ้งใส่ถ้วย ที่ข้าวสวยพร่องไปเกือบครึ่ง ด้วยท่าทีไม่สำคัญไปกว่าการชวนคุยเรื่องบอนไซกระถางใหม่ ชายหนุ่มหันไปมองหน้ามารดาและบิดาที่นั่งถัดมาจากแขกสูงวัยที่นานๆจะแวะมาค้างที่บ้านสักที แล้วก็เห็นว่าเถ้าแก่และเถ้าแก่เนี้ยของบ้านมีสีหน้ากรุ้มกริ่มพอใจอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่น้องๆของเขานั่งอ้าปาหวอด้วยความประหลาดใจ

    “วันนี้ไปลื้อหาอีด้วยนะ ไปเจอหน้าค่าตากันสักหน่อย แล้วไปคุยรายละเอียดเรื่องการแต่งานด้วยว่าเขาจะให้จัดแบบไหน ยังไงบ้าง”

    เจ้าสัวประภัสร์ได้ที ใช้ช่วงที่หลานชายคนโตกำลังช็อคนั้น สั่งการอย่างต่อเนื่องเหมือนกับทุกครั้งตามความเคยชิน แต่ก่อนที่การสนทนาจะพาไปไกลกว่านี้ เอกดำรงก็ทิ้งช้อนลงในถ้วยข้าวต้มและยกมือขึ้นห้ามชายชรา และเอ่ยคำถามสำคัญ

    “เดี๋ยวๆๆๆครับอากง แล้วทำไมผมถึงต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นด้วยล่ะครับ”

     

    ......................................................

     

    “เอ่อ ... ผมชื่อเอกดำรง หลานของคุณประภัสร์น่ะครับ”

    นี่คงเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ชายหนุ่มรู้สึกประหม่าจนพูดอ้ำๆอึ้งๆ ถึงแม้ว่าจะพยายามข่มความรู้สึกขัดเขินที่เกิดขึ้นจนแทบจะสำเร็จ เพราะน้ำเสียงที่เอ่ยออกไปค่อนข้างจะราบเรียบเป็นปกติเหมือนกับการพูดคุยธุรกิจที่เขาถนัด แต่ภายในหัวนั้นความคิดปั่นป่วนพลุ่งพล่านเหมือนเกิดพายุฤดูร้อนก็ไม่ปาน และคิดหาหนทางตลอดเวลาตั้งแต่ย่างเท้าออกจากบ้านว่าจะหาวิธีกล่อมผู้หญิงตรงหน้าให้แต่งงานกับเขาสำเร็จได้อย่างไร เพราะหากจะว่าไป ตัวของเขาเองก็คิดว่าเหตุการณ์ที่นำมาสู่การแต่งงานตามที่อากงสั่งนั้นช่างงี่เง่าสิ้นดี และการที่ต้องทำในสิ่งที่ตนเองไม่ศรัทธาแม้แต่น้อยเป็นเรื่องที่ลำบากใจอย่างที่สุด

     

    “อ๋อ หลานเจ้าสัวประภัสร์” เสียงหวานทวนคำ ส่งรอยยิ้มละมุนตามแบบคุณครูใจดีมาให้ เอกดำรงรู้สึกเหมือนกลับไปเป็นเด็กอนุบาลอีกครั้ง ทั้งที่หญิงสาวตรงหน้าตัวเล็กบอบบาง และเขาก็ไม่ใช่เด็กน้อยตัวเล็กๆเช่นนั้นอีกแล้ว เขาไม่ชอบความรู้สึกแบบที่อีกฝ่ายถือไพ่เหนือกว่า ทีท่าเย็นๆของคู่สนทนาทำให้คนใจร้อนเป็นไฟรู้สึกเคือง จนเสียงที่เอ่ยต่อมากระด้างขึ้น

     

    “อากงให้ผมมาคุยเรื่องแต่งงาน”

    “ค่ะ”

    เขาจับจ้องใบหน้าเรียวกับรอยยิ้มอ่อนๆเพื่อสังเกตทีท่าของเธอ และเห็นได้ว่าแม้แต่แววตาก็ยังคงดูเป็นปกติ แสดงว่าเรื่องอากงบอกเขาเป็นความจริง เธอรู้เรื่องแต่งงานแล้ว นั่นทำให้การพูดคุยง่ายขึ้น มธุรสาคงถือว่าอากงของเขาทาบทามหล่อนไว้แล้ว เท่ากับมัดมือชกให้เขาต้องแต่งงานอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่เอกดำรงก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่งที่ไม่ต้องใช้ความพยายามในการเกลี้ยกล่อมเธอมากนัก

    “คุณสะดวกที่จะให้ผมไปพบคุณพ่อคุณแม่ของคุณเมื่อไร”

    ดวงตากลมโตนั่นกระพริบปริบๆสองสามครั้ง ก่อนที่เอกดำรงจะได้คำตอบ “ไม่ต้องหรอกมั๊งคะ คุณจัดการตามที่เห็นสมควรได้เลยค่ะ แล้วจะให้ฉันทำอะไรบ้างก็บอกได้เลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ”

    ดูท่าว่าอากงคงจัดการไปพบว่าที่พ่อตาแม่ยายเขาเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน ชายหนุ่มไม่อยากจะคิดเลยว่าจะถูกตัดหนทางขนาดนี้ แล้วถ้าหากเขาไม่ยอมแต่งงานขึ้นมา ไม่รู้ว่าครอบครัวจะเสียชื่อกันขนาดไหน

    “คงไม่มีอะไรมั๊งครับ เดี๋ยวทางผมจัดการเอง ทางคุณคงไม่ค่อยสะดวกเรื่องธรรมเนียมของเรา” วันก่อนประภัสร์เรียกแม่สื่อมาคุยเรื่องงานแล้ว ผู้หญิงวัยกลางคนท่าทางคล่องแคล่วที่เดินสวนกับเขาเมื่อวันอาทิตย์นั่นไง

    “อ๋อ ค่ะ”

    เมื่อมธุรสารับคำสั้นๆ แล้วทั้งสองก็ไม่มีเรื่องจะพูดคุยกันอีก หลังจากนั่งบื้อใบ้เหมือนคนแปลกหน้าราวห้านาที ยกแก้วชาขึ้นจิบสองครั้ง หล่อนก็เอ่ยปาก

    “ถ้าคุณเอกดำรงไม่มีธุระอะไรแล้ว ดิฉันขอกลับไปทำงานได้ไหมคะ”

    “อ้อ ครับ เดี๋ยวผมไปส่งที่โรงเรียน ผมไม่ทราบว่าคุณติดงานอยู่เลยไม่ได้นัดล่วงหน้า แต่นี่มันก็เลยเวลาราชการแล้วนะครับ”

    “พอดีพรุ่งนี้ทางโรงเรียนจะจัดนิทรรศการผลงานนักเรียนน่ะค่ะ ดิฉันก็เลยจะเข้าไปดูความเรียบร้อยสักนิดก่อนกลับบ้าน”

     

    เอกดำรงพยักหน้าและยิ้มสุภาพให้เธอ แล้วผายมือให้มธุรสาเป็นฝ่ายเดินนำจากโต๊ะ ร่างสูงสมาร์ทยังคงแสดงความเป็นสุภาพบุรุษ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะประเมินคู่สนทนาตามประสาพ่อค้าไม่ได้ ดูเหมือนว่าผู้หญิงคนนี้ให้ความสำคัญกับนิทรรศการของเด็กนักเรียนมากกว่าการแต่งงานกับเขาเสียอีก!!

     

     

     

    เปิดเรื่อง 14 ม.ค.60

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น