My Monster นายจอมวายร้ายของฉัน
จากยัยเด็กสลัมจนๆต้องมาอยู่บ้านหลังใหญ่พิลึกกึกกือแบบนี้ มันแปลกๆนะ ฉันว่ามันต้องมีอะไรซ่อนอยู่แน่ๆ เชื่อฉันสิ!!
ผู้เข้าชมรวม
62
ผู้เข้าชมเดือนนี้
5
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
“เอริซ่า!! มัวแต่ยืนเหม่ออยู่ได้ รีบช่วยกันยกของเข้าบ้านสิลูก”
แม่หันมาสั่งฉันที่เอาแต่ยืนอึ้งกับบ้านหลังใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า
“แม่คะ บ้านหลังนี้เหรอคะที่แม่บอกว่าเป็นมรดกกว่า 70 ปีของคุณยายเรา??”
ฉันหันไปถามแม่ทันทีที่ยกของตามเข้ามาถึงบริเวณของตัวบ้านด้านใน ฉันจะไม่แปลกใจเลยถ้าภาพของบ้านที่ฉันเห็นจะเก่า แต่นี่อะไร ทุกสิ่งทุกอย่างของตัวบ้านยังคงสภาพความใหม่เหมือนเพิ่งสร้างเสร็จไม่มีผิด เนี่ยน่ะเหรอ คือบ้านเก่า 70 ปี?
“ใช่แล้ว นี่แหละบ้านของคุณยายที่ยกให้กับแม่ สวยใช่ไหมล่ะ?? J บ้านหลังนี้คุณยายของลูกรักมากเลยนะ แล้วแม่ก็ตั้งใจว่าจะยกมันให้เป็นของเอริซ่าต่อไป ดีไหมลูก?”
แววตาและคำพูดของคุณแม่ช่างดูมีความสุขกับบ้านหลังนี้จัง เคยถามความสมัครใจฉันไหมว่าต้องการย้ายมาอยู่คฤหาสน์หลังนี้หรือเปล่า ฉันเองก็ได้ยินคนเขาพูดกันตั้งมากมายว่า บ้านหรือคฤหาสน์หลังใหญ่ๆมักมีเรื่องไม่คาดคิดหรือสิ่งลี้ลับอยู่เสมอ แล้วคิดว่าคฤหาสน์หลังนี้จะไม่มีงั้นเหรอ ห๊ะ! T___T
พระเจ้าช่วย! ฉันไม่คิดเลยจริงๆว่าชีวิตของฉันจะพลิกผันมาได้ซะขนาดนี้ จากเด็กสลัมไม่ค่อยมีฐานะต้องกลายมาเป็นคุณหนูของคฤหาสน์หลังใหญ่สุดหรูที่สร้างมาร่วม 70 ปี โดยฝีมือของบุคคลที่เป็นยายของฉันเอง ถ้าคุณยายรวยซะขนาดนี้ ทำไมถึงปล่อยให้คุณแม่กับฉันและน้องสาวไปเป็นคนสลัมไม่มีอันจะกินแบบนั้นนะ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ L
เอาล่ะ! มาถึงขนาดนี้แล้ว ชีวิตนี้ก็ขอเป็นคุณหนูกะเขาบ้างเหอะ จะได้เสพความสุขให้เต็มปอดกันไปเลยทีเดียว ยังไงๆฉันเองก็คงต้องปรับตัวเข้าหาบ้านหลังนี้ซะหน่อยแล้ว มันอาจจะไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ฉันคิดไว้ก็ได้ อีกอย่างหนึ่งคือ บ้านหลังนี้มันให้ความสะดวกต่อการไปโรงเรียนของฉันมากขึ้น เพราะโรงเรียนที่ฉันเรียนอยู่ไม่ได้อยู่ไกลจากบ้านหลังนี้เลย ห่างไปแค่ประมาณ 500 เมตรเท่านั้น
“เอาล่ะ!! เดี๋ยวข้างล่างแม่จะเก็บกวาดต่อเองนะ ส่วนลูกก็ไปดูห้องข้างบนเถอะว่าอยากได้ห้องไหน ส่วนห้องที่เหลือแม่กับน้องจะเลือกกันเองนะ”
“ค่ะแม่”
สิ้นเสียงตอบรับของฉัน แม่ก็เริ่มทำความสะอาดบ้านอีกรอบ ส่วนฉันเองก็เริ่มก้าวขึ้นสู่บันไดเพื่อไปชั้นที่สองของบ้าน หลังจากที่กวาดสายตาดูแล้วมันมีทั้งหมดสี่ห้องนอนด้วยกัน และห้องที่ฉันเลือกคือห้องขวามือสุดจากบันได เป็นห้องที่ไม่เล็กและไม่ใหญ่มากเกินไป แถมห้องทุกห้องยังมีห้องน้ำในตัวด้วย สวรรค์ชัดๆ O^O
แอ๊ดด...ด
ฉันเปิดบานประตูตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่ที่ตั้งเด่นอยู่ในห้อง เป็นตู้เสื้อผ้าที่มีรูปทรงแปลกๆ ผิดเพี้ยนไปจากตู้เสื้อผ้าที่สามารถเห็นได้จากทั่วไป มีลักษณะสูงประมาณเกือบสองเมตร สีขาวสะอาดตา และภายในตู้ว่างเปล่าไม่มีชั้นวาง มีแค่ที่สำหรับแขวนเสื้อผ้าเท่านั้น เอ๊ะ!! แต่บนตู้เสื้อผ้ามีกล่องหีบเล็กๆใบหนึ่งวางอยู่ ซึ่งก็สูงเกินกว่าคนตัวเล็กๆอย่างฉันจะเอื้อมถึง ฉันจึงเบี่ยงเบนความสนใจไปทางอื่นเพราะนอกจากตู้เสื้อผ้าหลังใหญ่แล้วยังมีเตียงนอนขนาดใหญ่ที่สามารถนอนได้ถึงสี่คนถูกจัดให้วางเด่นอยู่กลางห้อง แหม!! คฤหาสน์หลังนี้มันช่างสมบูรณ์แบบ สวยงาม และใหม่เกินกว่าจะมีผีมาอาศัยอยู่จริงๆ ^^
ก๊อกๆๆ...
“พี่คะ แม่บอกให้ลงไปข้างล่างเดี๋ยวนี้ค่ะ”
นั่นเป็นเสียงของเอมม่า น้องสาววัย 14 ปีของฉันเอง
“จ้า เดี๋ยวพี่จะรีบตามลงไปนะ”
“เร็วๆนะพี่ ฉันหิวข้าวแล้ว”
L ที่แท้ แม่คงมาตามให้ลงไปกินข้าวซะมากกว่าล่ะมั้ง นี่ก็ใกล้จะค่ำแล้ว วันนี้ก็เก็บย้ายของจากบ้านหลังเก่ามาครึ่งวันกว่าจะมาถึงที่นี่ก็ปาไปสองสามชั่วโมงแล้ว ไหนจะมาจัดของเข้าบ้านใหม่อีก วันนี้แม่คงเหนื่อยมากจริงๆ งั้นฉันคงต้องทานข้าวฝีมือแม่วันนี้ให้หมด ^^
“อ้าว!^^ เอริซ่าลงมาพอดีเลย วันนี้แม่ทำแต่อาหารที่เอริซ่าชอบทั้งนั้นเลยนะลูก” คุณแม่อมยิ้มพร้อมกับตักข้าวใส่จานให้ฉัน
“วันนี้คุณแม่ลำเอียงรักแต่พี่ริซ่า แล้วเอมม่าล่ะคะ ไม่เห็นคุณแม่ทำอาหารที่เอมม่าชอบเลย” เอมม่าน้อยใจคุณแม่ ซึ่งภาพแบบนี้มีให้ฉันเห็นทุกวันจนฉันรู้สึกชินและอบอุ่นทุกครั้งที่ได้เห็นภาพแบบนี้ J
“วันนี้พี่ริซ่าเค้าช่วยแม่ยกของขนของมาทั้งวัน แม่ก็ต้องให้รางวัลพี่เค้าหน่อยสิ ใช่มั้ย? ส่วนเอมม่าก็ไปโรงเรียนไม่ได้ช่วยแม่ทำอะไร เอมม่าก็กินอาหารที่พี่เค้าชอบไปก่อนนะจ๊ะ เอาไว้วันหลังแม่จะทำที่เอมม่าชอบนะลูก”
“ก็ได้ค่ะ ถือว่าวันนี้หนูไม่อยู่หรอก งั้นพี่ไม่มีทางได้กินอาหารจานโปรดหรอก เชอะ!!” เอมม่าหันมามองค้อนใส่ฉันซะงั้นน่ะ
หลังจากทานอาหารมื้อค่ำกับครอบครัวเสร็จ ฉันก็ขอปลีกตัวจากคุณแม่กับน้องสาวขึ้นมาจัดของในห้องให้มันเข้าที่เข้าทางก่อนที่จะไม่มีเวลาจัด อีกแค่สองวันโรงเรียนก็จะเปิดเทอมสองแล้ว ฉะนั้นต้องรีบจัดของให้เสร็จ จะได้มีเวลาเตรียมตัวกับเรื่องเรียนให้มากๆ
เพล้ง!!!!
ห๊ะ! อะไรน่ะ ตายแล้วแจกันห้องฉัน โอ้พระเจ้าช่วย O_O มะ...แมว แมวมาจากไหนฟ่ะ เข้ามาในห้องฉันได้ยังไง โอ้ไม่นะไม่ หรือสิ่งที่ฉันระแวงในบ้านหลังนี้จะเป็นจริง บ้านหลังนี้ต้องมีผีแน่ๆเลย งั้นคงเป็นผีแมวสินะ เอ๊ะ! หรือจะมีมากกว่านั้น บ้านหลังนี้ต้องมีวิญญาณอาถรรพ์แน่ๆ คราวนี้ชัวร์เลย งั้นแสดงว่าตอนนี้ฉันอยู่กับผีแมวอย่างงั้นเหรอเนี้ย โอ้ไม่นะ T____T
ก๊อกๆๆ...
O_o ผีมันเคาะประตูได้ด้วยเหรอ ตายแล้ว ฉันคงอยู่บ้านหลังนี้ไม่ได้แล้ว ฉันต้องบอกแม่ ใช่! ฉันต้องบอกแม่ ต้องบอกแม่ แม่จ๋า....
“พี่ริซ่า นอนรึยัง เปิดประตูให้หน่อย”
อ้าว!! นั่นมันเสียงของเอมม่านี่นา เฮ้อ โล่งอกไปที ที่แท้ผีน้องสาวนี่เอง J
“ทำอะไรอยู่ ทำไมเปิดประตูช้าจัง??” ทันทีที่เปิดประตูให้ เอมม่าก็ปาคำถามเข้ามาใส่ทันที
เอ๊ะ!! >< จะบอกว่าไงดี ระหว่างนั่งคิดอคติกับบ้านหลังนี้เรื่องผีแมว หรือจะบอกว่านั่งจัดของอยู่ดีนะ อืม... เอาเป็นว่าบอกความจริงดีกว่านะ^^
“อ๋อ พี่นั่งจัดของอยู่เพลินๆน่ะ เลยไม่ได้ยินเธอเคาะประตู มีอะไรรึเปล่า?”
“จัดของอยู่เหรอ ฉันก็คิดว่าพี่นั่งเพ้อกับตัวเองอยู่ซะอีก ฉันก็ไม่มีอะไรหรอก พอดีแม่ฝากให้ฉันเอานมมาให้พี่ อ่ะ!!” เอมม่าบอกก่อนจะยื่นแก้วนมมาให้ฉัน
“ขอบใจนะ^^ ไปนอนได้แล้วไป ราตรีสวัสดิ์นะ”
“ราตรีสวัสดิ์เช่นกันค่ะ”
เอมม่ารู้ได้ไงว่าเราคิดเพ้อเจ้ออยู่คนเดียว เอ...นิสัยของเราก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นนะ หรือหน้าตาเรามันบ่งบอกว่าคิดอะไรอยู่งั้นเหรอ? แต่ก็ช่างเหอะ อะ...อ้าว! แล้วแมวตัวเมื่อกี้หายไปไหนแล้วล่ะ เฮ้อ!! งั้นก็ช่างเถอะ ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วเหนื่อยก็แสนเหนื่อย ไปอาบน้ำแล้วนอนดีกว่า พรุ่งนี้ค่อยมาจัดต่อละกัน J
หลังจากที่เอมม่าเดินจากไป ฉันก็ปิดประตูแล้วหันกลับเข้ามาในห้องเพื่อที่จะไปเก็บกวาดเศษแจกันที่แตกโดยแมวปริศนา แต่แล้วเศษแจกันที่แตกกลับไม่มี แถมมันกลับยังคงสภาพความสวยงามและตั้งเด่นอยู่บนชั้นเหมือนเดิม นี่มันอะไรกัน นี่มันเกิดอะไรขึ้น??
แต่แล้วในห้องนอนที่ควรจะมีฉันอยู่เพียงคนเดียว กลับมีใครอีกคนอยู่ด้วย
“เอ๊ะ! นะ...นาย นายเป็นใคร เข้ามาในห้องของฉันได้ยังไง? O_O”
ฉันพุ่งคำถามใส่เขาทันที เมื่อภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าฉันคือผู้ชายคนหนึ่งที่ยืนหันหลังให้กับฉันและหันหน้าเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง มีลักษณะสูงโปร่ง ผมสีดำสนิทยาวระต้นคอที่ถูกตัดแต่งทรงอย่างดี มีผ้าคลุมผืนใหญ่สีดำปกคลุมร่างกายของเขาอยู่ แค่มองจากตรงนี้ก็รู้แล้วว่าเขาสูงมาก สูงชนิดที่ว่าถ้าฉันไปยืนใกล้ๆคงเรียกว่าแคระเลยทีเดียว
“คืนพรุ่งนี้แล้วสินะ”
เขาพูด ไม่สิ! ต้องบอกว่าเขาบ่นพรึมพรำกับตัวเอง โดยไม่สนใจผู้เป็นเจ้าของห้องอย่างฉันเลย แล้วมายืนทำมาดเก๊กหล่อทำไมในห้องของฉัน อ้าว!!! แล้วเขาเข้ามาได้ยังไงกัน นั่นสิ ลืมไปเลย เมื่อกี้ก็แมว ตอนนี้ยังจะมีคนพิลึกกึกกือมาอีก หรือห้องนี้จะเป็นห้องอาถรรพ์จริงๆ ผู้ชายคนนี้อาจจะเป็นเจ้าของห้องที่ตายไปแล้ว แต่ไม่ยอมไปผุดไปเกิดเพราะมีห่วง ใช่แน่ๆที่ฉันคิดมันต้องใช่แน่ๆ แล้วแมวตัวนั้นก็ต้องเป็นแมวของผู้ชายคนนี้ โอ้!O.O ฉันกำลังอยู่ในห้องผีสิง แบบนี้มันต้อง
“กรี๊ดดดด...ดด อุ๊บ!”
ฉันตะเบ็งเสียงกรีดร้องเต็มที่ก่อนจะถูกปิดปากด้วยมือของคนๆหนึ่งซึ่งก็คือผู้ชายคนนั้นที่เขารีบพุ่งตัวมาปิดปากฉันด้วยความเร็วแสง ในท่าที่ว่าฉันกำลังจะล้มลงและมีเขาคอยพยุงจึงทำให้ฉันเห็นหน้าเขาอย่างชัดเจน
“นี่เจ้าจะร้องแหกปากโวยวายไปทำไม อยากตายหรือไงกัน” <----- เขา
“O/////O (พระเจ้า เขาหล่อมาก)” <----- ฉัน
“นี่เจ้าเป็นอะไรรึเปล่า” <----- เขา
“O/////O (ผิวพรรณขาวเนียนละเอียดดูผุดผ่องท่ามกลางความมืดของเขานี่สุดยอดไปเลย)” <----- ฉัน
“นี่เจ้า ได้ยินที่ข้าพูดรึเปล่า??” <----- เขา
“………………..” <----- ฉัน
ผู้ชายอะไรกันหน้าตาหล่อเหลาได้ใจจริงๆเลย หน้าจะหวานเกินหน้าเกินตาผู้หญิงแล้วนะ รู้ตัวรึเปล่า?? หน้าเรียวบาง คิ้วเข้ม ตาคมกริบ จมูกโด่งเห็นเป็นสัน ริมฝีปากเรียวเล็กอย่างกับของผู้หญิง ช่างน่ารักจริงๆเลย >///< โอ๊ย!! ฉันรู้สึกเขินชะมัด
โครมม...ม!!!!
“โอ๊ย! L นี่นาย ฉันเจ็บนะ คิดจะปล่อยก็ปล่อยเลยรึไง อะ...อ้าว”
ฉันร้องเอะอะโวยายทั้งที่ตายังหลับอยู่ แต่นี่มันอะไรกัน ที่แท้ฉันฝันไปเองงั้นเหรอ นี่มันเช้าแล้วเหรอเนี้ย ภาพทั้งหมดที่ฉันเห็นเมื่อคืนคือสิ่งที่ฉันจินตนาการขึ้นมาในความฝันของฉันเองงั้นสิ แต่ผู้ชายคนนั้นฉันเองก็ไม่เคยรู้จักมาก่อนนี่นาแล้วเขามาโผล่ในความฝันของฉันได้ยังไงกัน อาจเป็นเพราะฉันเพลียจากการยกของเมื่อวานหรือฉันคงคิดมากเรื่องบ้านหลังนี้มากเกินไป แหม!! จะว่าไปจินตนาการของฉันนี่เป็นเลิศจริงๆเลย ภาพที่ได้เห็นก็เป็นผู้ชายที่หล่อมากซะด้วยสิ หรือใช่สิ! ฉันคงเหนื่อยมากเกินไป
ฉันสปริงตัวจากเตียงนอนเพื่อทำธุระส่วนตัวนานร่วมชั่วโมงก่อนจะพยุงร่างอันแสนบอบบางของตัวเองลงไปชั้นล่าง และวันนี้ก็ยังคงเป็นเช้าที่แสนโชคดีของฉันเมื่อได้ตื่นขึ้นมาพบกับอาหารแสนโอชะฝีมือของคุณแม่และน้องสาวขี้สงสัยกับเรื่องส่วนตัวของฉัน J
“เอริซ่า วันนี้ลูกจะออกไปซื้อของมาตกแต่งบ้านใช่ไหม??” คุณแม่หันมาถามฉันที่กำลังตั้งใจลงมือกับอาหารที่วางอยู่ตรงหน้า
“ใช่ค่ะแม่ อื้ม! วันนี้แม่ไม่ต้องไปกับหนูก็ได้นะคะ พอดีเอวากับนานะอาสาจะไปช่วยหนูแล้ว”
“จริงเหรอ^^ งั้นถ้าวันไหนสองคนนี้มาที่บ้านแม่คงต้องทำขนมหวานให้เป็นสิ่งตอบแทนซะแล้วล่ะ เออ...ใช่ ยังไงวันนี้แม่ก็คงไม่ได้ไปซื้อของกับหนูจริงๆหรอกนะ วันนี้วันเสาร์ แม่ก็เลยจะพาเอมม่าไปเยี่ยมคุณยายที่เมืองโน้นซะหน่อยน่ะ ริซ่าจะไปรึเปล่าแม่จะได้รอ??”
“ไม่ดีกว่าค่ะ ริซ่าเจอคุณยายบ่อยแล้ว คราวนี้แม่พาเอมม่าไปเถอะค่ะ อีกอย่าง ปิดเทอมตั้งนานหนูกับเพื่อนๆก็ไม่ได้เจอกันมาเป็นเดือนแล้ว อยากคุยกันบ้างน่ะค่ะ^^” ฉันรีบปฏิเสธทันควันถึงแม้ในหัวสมองจะคิดสงสัยเรื่องคุณยายที่แสนรวยกับบ้านหลังนี้ก็เถอะ
หลังคำปฏิเสธของฉันคุณแม่ไม่ได้ตอบอะไรต่อ เพียงแค่ยิ้มเพื่อเป็นการบอกว่ารับรู้แล้วก็เท่านั้น ส่วนฉันเองเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จก็รีบออกจากบ้านเพื่อไปตามที่ได้นัดหมายกับเพื่อนๆไว้ สถานที่นัดเจอกันทุกๆครั้งสำหรับฉันกับเพื่อนๆคือห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งอยู่ใจกกลางเมืองซึ่งตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ไกลจากบ้านหลังใหม่ของฉันมากนัก มันช่างสะดวกสบายจริงๆเลย J
ฉันนั่งรอเพื่อนคนอื่นๆที่กำลังเดินทางมาที่ร้านประจำแห่งหนึ่งภายในห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ ฉันรู้สึกว่าบ้านหลังนี้ให้ความสะดวกกับฉันมากจริงๆในหลายๆด้าน เพราะทำให้ฉันเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น เหมือนอย่างวันนี้ที่ฉันเป็นคนแรกที่มานั่งรอเพื่อนไม่ใช่เพื่อนมานั่งรอเหมือนที่เคยผ่านมา
“Hey!!^^ เอริซ่า”
เพื่อนสาวคนแรกของฉันที่เพิ่งมาถึงคือ เอวา โรเพียส เป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่งของฉัน เธอเป็นสาวชาวอังกฤษ เป็นรุ่นพี่ฉันหนึ่งปีแต่เราเรียนชั้นเดียวกัน และด้วยความสนิทกันเราจึงนับเป็นเพื่อนกัน เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมากในสายตาของฉัน เพราะเอวาได้เกิดมาในตระกูลที่มีพร้อมทุกอย่างเธอจึงเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างเพอร์เฟคมาก ส่วนเพื่อนฉันอีกคนหนึ่งที่กำลังเดินทางมาชื่อ นานะ โทรุ เป็นสาวลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกัน ย้ายมาเรียนที่นี่ตามครอบครัว แต่นานะเป็นสาวน้อยแสนหวานที่ออกจะเรียบร้อยเกินไปหน่อย แต่ก็สวยพอๆกับเอวาด้วยเช่นกัน
“วันนี้เธอมาช้ากว่าฉันนะเอวา^^” ฉันพูด
“แหม!! ได้ข่าวว่าเธอได้ย้ายไปอยู่บ้านหลังใหม่แล้ว มีคนบอกฉันมาว่าบ้านหลังใหญ่อย่างกับคฤหาสน์เลย จริงรึเปล่า? พาฉันไปดูหน่อยสิ นะเอริซ่าJ”
“อื้ม ได้สิ แต่ยังไงบ้านของฉันก็สู้พระราชวังหลังใหญ่ของเธอไม่ได้หรอกนะ”
“แหมๆๆ เธอก็เว่อร์ตลอด เออจริงสิ! พอดีว่าวันนี้นานะมาไม่ได้ เห็นว่าติดธุระกับครอบครัวอยู่ที่ญี่ปุ่น จะกลับมาวันพรุ่งนี้ เลยจะให้ไคมาแทน”
“ไคงั้นเหรอ แสดงว่าคีย์ก็ต้องมาด้วยน่ะสิ ใช่มั้ย?? L”
“ไม่รู้สินะ ก็อาจจะเป็นไปได้”
“งั้นเราไปซื้อของกันเลยดีกว่านะ ฉันยังไม่อยากเจอคีย์ตอนนี้นะเอวา”
“โอเค ก็ได้ๆ เธอนี่ก็นะเอริซ่า!!”
ฉันลากเอวาออกมาจากร้านที่นั่งอยู่ทันที เพราะอะไรน่ะเหรอ?? ก็เพราะว่าฉันไม่อยากเจอนายคีย์ไง เฮ้อ!! พระเจ้าไม่เคยเข้าข้างลูกเลย ทำไมยังต้องให้ลูกมาพบเจอกับเขาอยู่นะ T___T
คีย์ เป็นเพื่อนร่วมห้องเรียนกับฉัน เขาเป็นพี่ชายฝาแฝดของไคและไคก็เป็นคนรู้ใจของนานะเพื่อนรักของฉัน อยู่ๆวันหนึ่งคีย์เขาก็มาสารภาพกับฉันว่าแอบชอบฉันมานานหลายปีแล้ว ทุกวันเกิดของฉันหรือวันสำคัญต่างๆเขามักจะซื้อของน่ารักๆหรือดอกไม้มาให้ฉันอยู่เสมอ หลายครั้งที่เขามาขอคบกับฉันแบบคนรู้ใจ แต่ฉันก็ปฏิเสธเขาทุกครั้งเช่นกัน ให้ตายเหอะ! ถ้าวันนี้เขามาฉันคงทำตัวไม่ถูกแน่ๆL
“ตุ๊กตาตัวนี้น่ารักจัง เธอว่าไหมเอวา??^^”
ผลงานอื่นๆ ของ SKYCUP ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ SKYCUP
ความคิดเห็น