อารยธรรมอีทรัสกัน

แผนที่ทาร์ควีเนียนครัฐชาวอีทรัสกัน

อารยธรรมอีทรัสกัน (Etruscan) เปรียบเสมือนประทีปที่ลุกโชติโชนขึ้นอย่างรวดเร็วและโชติช่วงด้วยแสงสว่างอันพิสุธิ์อยู่นานหลายศตวรรษ กระทั้งถูกมอดดับด้วยเปลวเพลิงที่สุกสว่างยิ่งกว่าอย่างโรม ดินแดนข้างเคียงที่มีอำนาจทบทวีขึ้นทุกวันดังแสงอาทิตย์อุทัย

เวลาหลายร้อยปีขณะที่พวกโรมันเพิ่มเริ่มก่อตั้งกรุงโรมนั้น มีชนเผ่าหนึ่งที่เจริญรุ่งเรืองและทรงอำนาจได้ผ่าอิทธิพลครอบคลุ่มดินแดนกว้างใหญ่ของอิตาลีและแถบตะวันตกของทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ชาวอีทรัสกัน ซึ่งมีความเป็นมาอย่างลึกลับ ชาวอีทรัสกันตั้งรกรากในภาคกลางของอิตาลีราวคริสต์วรรษที่ 8 ก่อนค.ศ.ต้นกำเนิดอารยธรรมยังคงเป็นปริศนามาเป็นเวลายาวนาน แต่ถึงอย่างนั้นอารยธรรมอีทรัสกันก็ยังเป็นหนึ่งในอารยธรรมชั้นสูงแรกๆและได้พัฒนาอารยธรรมสูงขึ้นในห้วงเวลาอันสั้นอย่างน่าทึ้ง  ชาวอีทรัสกันครอบครองอิตาลีตอนกลางเป็นเวลากว่าศตวรรษ การปกครองไม่ได้วามอำนาจเข้าศูนย์กลาง แต่แบ่งเป็นการปกครองออกเป็นรัฐอิสระ โดยนครรัฐจะมีกษัตริย์เรียกว่า ลูคูโม เป็นผู้วางแผนงานประจำปี โดยขุนนางและนักบวชเป็นที่ปรึกษาและจากงานวิจัยหลายชิ้นทำให้เชื่อได้ว่าประวัติศาสตร์ของชาวอีทรัสกันมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับวัฒนธรรมวิลล่าโนวาล เมื่อเทียบกับชาวอิตาลิกชาวอิทรัสกันนอกจากจะมีความรู้เชิงวิทยาศาสตร์และหนังสือแล้ว ยังสามารถถลุงโลหะได้ดีกว่าอีกด้วย  

ในช่วงสหัสวรรษแรกก่อนคริสตกาลชนกลุ่มนี้ไม่เพียงติดต่อค้าขายกับกรีกและคาร์เทจเท่านั้น หากยังส่งผลอิทธิพลโดยตรงต่อพัฒนาการทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมอย่างโรม มีกษัตริย์ราชวงศ์ทาร์ควีน (Tarquin) ได้ปกครองโรมในช่วง 700-600 ปีก่อนคริสตกาล ชาวโรมันจึงได้รับความรู้และขนบธรรมเนียมประเพณีบางอย่างจากชาวอีทรัสกันแต่เมื่อโรมเติบกล้าและแผ่อิทธิพลเหนือโลกโบราณก็เปล่งรัสมีบดบังผู้ที่เคยปกครองตน อาณาจักรอีทรุเรีย (Etruria) จึงถูกลบเลือน เหตุใดอรธรรมของพวกเขาจึงถูกลบเลือน  มาร่วมหาคำตอบกันเลยขอรับ