Ris'x Ar Make you be mine
Make you be mine จากหนุ่มหล่อละลายใจที่มีเสน่ห์เหลือล้นจะทำให้หญิงสาวที่เขาอยากเอาชนะแต่เธอกลับเย็นชาจนอาร์กอนสนใจภายในเวลาสองอาทิตย์อาร์กอนจะสามารถขโมยหัวใจของเธอได้หรือไม่?
ผู้เข้าชมรวม
185
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
บทนำ
“ยัยคคริสช่วยฉันหน่อยน้าขอร้อง”
“ฉันบอกแล้วไงฉันทำไม่ได้” ยัยเพื่อนตัวดีของฉันขอร้องให้ฉันไปช่วยเป็นเอ็มซีให้เพราะหล่อนขาดเอ็มซี เธอตามตื้อฉันตั่งแต่เมื่อวานจนกระทั่งตอนนี้แต่ฉันก็ไม่มีวี่แววว่าจะใจอ่อน
“น้า ขอร้องล่ะฉันหาไม่ได้แล้วจริงๆ” เฮ้อฉันล่ะรำคราญจริงๆกับลูกไม้อย่างงี้ ไม่ใช่ว่าฉันจะไม่อยากช่วยเพื่อนหรอกน่ะแต่ว่า การเป็นเอ็มซีก็ไม่ได้ง่ายๆสำหรับฉันเลยการที่ฉันจะต้องไปช่วยยัยเพื่อนรักทำงานนี้และมันจึงไม่ใช่ข้อดีสำหรับฉันเลย
“นิ ฉันไม่ได้กล้าพอที่จะไปเป็นเอ็มซีคู่กับแกหรอกน่ะอีกอย่างฉันก็ไม่ได้สวยพอที่จะไปเป็นเอ็มซีให้แกด้วย” ก็จริงที่ฉันไม่ได้สวยออกจะเป็นแนวเด็กเนิร์ดเลยก็ว่าได้ ถ้าฉันสวยได้ครึ่งยัยมิ้นก็ดีซิจะได้มีความหมั่นใจพอที่จะช่วยยัยนี่ได้ ก็ฉันทั้งดูเนิร์ด เด็กเรียนซะขนาดนี้ บุคลิกฉันไม่เหมาะที่จะเป็นเอ็มซีเลยด้วยซ้ำ
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ฉันช่วยได้ ” เหอะจะช่วยงั้นหรอ ยัยมิ้นจะช่วยอะไรฉันได้ในเมื่อฉันไม่มีความมั่นใจเลย
“T_T” ฉันทำหน้ามุ้ยใส่ยัยมิ้นทันที เพราะไม่มีอะไรจะพูดจริงๆ
“ปะ ไปซ้อมก่อน ตกลงตามนี้และห้ามปฏิเศษด้วย” เฮ้อฉันปฏิเศษไม่ได้เลยใช่ไหมอ่ะ
ฉันกับยัยมิ้นรู้จักกันตั้งแต่มัธยมปลายเราเป็นเพื่อนสนิทกันรู้ใจกันทุกอย่าง หลายคนอาจสงสัยว่าเราคบกันได้ไงเพราะยัยมิ้นทั้งสวยและมีเสน่ห์ต่างกับฉันโดยสิ้นเชิง แถมเป็นเด็กแว่นอีกต่างหากแต่ด้วยความที่ว่าฉันค่อนข้างเฟรนลี่ยัยมิ้นกับฉันจึงเข้ากันได้ ยัยมิ้นบอกว่าถ้าฉันไม่เนิร์ดฉันจะดูน่ารักมากแต่จะทำไงได้ล่ะฉันเปลี่ยนตัวเองไม่ได้นี่นา
เราเรียนคณะเดียวกันค่ะ พวกเรายังไม่ได้เลือกสาขาแต่ที่ยัยมิ้นได้มาเป็นเอ็มซีก็คงเป็นเพราะเธอสวยละมั้งอาจารย์ถึงออกปากชวน
“ฮ่าๆๆๆๆ” จู่ๆก็มีพี่กลุ่มนึงมองมาที่ฉันกับยัยมิ้นตอนเราซ้อมกันอยู่แล้วก็หัวเราะฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามีอะไรน่าขำ
“เขาขำอะไรกันอ่ะ” ฉันถามยัยมิ้นด้วยความสงสัย
“เออ คือ คงไม่มีอะไรหรอกแกอย่าใส่ใจเลย” ยัยมิ้นตอบ ฉันรู้ไม่สบายใจยังไงไม่รู้เหมือน
“ฉันว่าวันนี้พอแค่นี้เหอะ” ฉันบอกยัยมิ้นพร้อมกับเดินไปเก็บของแต่ในขณะที่ฉันเดินอยู่ก็มีมือใครซักคนมาดึงฉันไว้ ฉันจึงกลับไปมองด้วยความสงสัย
“ขอโทษน่ะ” เขาพูดพร้อมกับสำรวจตัวฉันตั่งแต่หัวจรดเท้าด้วยสายตาแปลกๆ
“มีอะไร รึป่าวค่ะ” ฉันถามรุ่นพี่ผู้หญิงคนนั้นด้วยความสงสัย
“น้องเป็นเอ็มซีคู่กับมิ้นหรอ” เขาถามด้วยสายตาเหยียดหยาม เหอะที่แท้ก็คงไม่พ้นเรื่องหน้าตาฉันนี่เอง ฉันพอเดาออกแล้วล่ะว่าทำไม่รุ่นพี่กลุ่มนั้นถึงหัวเราะฉัน
“ค่ะ มีอะไรรึป่าวค่ะ” ฉันตอบพร้องถามกลับไปด้วยใบหน้าเย็นชา
“หึเปล่าหรอกแค่จะบอกว่า...............” พี่เขาเงียบสักพักก่อนจะพูดต่อไปว่า
“มิ้นหาเอ็มซีใหม่เหอะ แค่นี้แหละ” เพียงแค่คำพูดสั้นๆแต่กลับทำให้รุ่นพี่หลายคนถึงกับหัวเราะฉันทันที แต่ในทางตรงกันข้ามฉันกลับรู้สึกโกรธจนรู้สึกร้อนไปทั้งตัว วินาทีนี้ฉันไม่สามารถอยู่ตรงนี้ต่อไปได้เพราะอะไรน่ะหรอ คงไม่ต้องอธิบายใช่ไหม ฉันจึงวิ่งออกมาโดยไม่หันหลังกลับไปเลยแม้แต่นิดเดียว ยัยมิ้นจึงรีบตามออกมาในทันที
ตั่งแต่ที่ฉันวิ่งออกมาจาหอประชุมแทนที่ฉันจะรู้สึกโกรธเหมือนตอนอยู่ต่อหน้าพวกเขาแต่ฉันกลับรู้สึกอีกอย่างแทน ฉันรู้สึกว่าฉันควรเปลี่ยนตัวเองดีไหมแต่ฉันก็ยังคงสับสนอยู่ดีว่าจะเปลี่ยนยังไงในหัวฉันเหมือนกระดาษขาวที่ไม่มีอะไรเลย
“คุณหนูค่ะคุณมิ้นมาหาค่ะ” ฉันนั่งอยู่ในห้องซักพักป้านมก็เคาะประตูเรียกฉัน บอกตรงๆว่าฉันไม่อยากเจอใครเลยตอนนี้และถ้าหากว่าฉันไม่ยอมออกไปยัยมิ้นคงต้องคิดว่าฉันโกรธแน่เลย
“ค่ะ ป้านมบอกมิ้นเข้ามาเลยค่ะ” ฉันตอบป้านมไปหลังจากเงียบไปนาน ป้านมเป็นคนเลี้ยงฉันมาตั่งแต่ฉันยังเด็กท่านเป็นเหมือนแม่คนที่สองของฉันจะว่าไปฉันสนิทกับป้านมมากกว่าแม่ของฉันอีกด้วยซ้ำ
“อะแฮ่ม” ยัยมิ้นทักอย่างวางฟอร์ม ฉันละระอากับเพื่อนคนนี้จริงๆ
“ว่า” ฉันถามด้วยสีหน้าเรียบไม่สื่ออารมณ์แต่นั่นกลับทำให้ยัยมิ้นถึงกลับนิ่งไปเลย
“แก ปะ เป็น ...” ยัยมิ้นพูดด้วยเสียงตะกุกตะกักจนฉันเกือบจะหลุดขำไป สงสัยยัยมิ้นคงคิดว่าฉันจะโกรธเธอจริงๆ หึสะใจชะมัดเลย
“เปล่าไม่เป็นไร” ฉันแย่งยัยมิ้นพูดก่อนที่ยัยนั่นจะพูดจบ ยิ่งฉันเย็นชาเท่าไรยัยมิ้นก็ยิ่งหน้าเสียลงเรื่อยๆ ฮะ ฉันก็อดสงสารไม่ได้หรอกน่ะแต่จะทำไงได้ล่ะก็คนมันอารมณ์ไม่ดี
“เออดี งั้นแกต้องฟังฉันพูด ฉันมีเรื่องจะมาบอก พวกพี่เขาอะไม่ได้ตั่งใจพูดอย่างงั้นหรอกน่ะเพียงแต่ว่าแกดูเนิร์ดไปเขาก็เลยคิดว่าแกจะไหวรึเปล่า แล้วฉันก็ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้แกต้องลำบากใจ” ยัยมิ้นพูดหลังจากที่เงียบไปนาน เธออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฉันฟังทำเอาฉันเย็นชาต่อไม่ได้ใบหน้าที่เคยนิ่งกลับต้องเปลี่ยนมาอยู่ในโหมดความมึนในทันที ฉันเงียบไปซักพัก ก่อนจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง
“ฉันก็อยากจะเชื่อแกหรอกน่ะแต่ในตอนนั้นใครจะไม่โกรธบ้างล่ะโดนว่าซะขนาดนั้น” ฉันพูดอย่างน้อยใจ
“ฉันเข้าใจ ฉันถึงบอกว่าจะช่วยแกไง” ยัยมิ้นพูดด้วยด้วยเสียงเรียบ ถึงภายนอกยัยนี่จะสวยหรูแต่ภายในน่ะต่างกันมากเลยน่ะทั้งนิสัยเปิ่นๆของยัยนี่แล้วก็มุขที่ชอบแห่วเสมอแต่สำหรับฉันแล้วภายนอกฉันอาจจะเนิร์ดแต่ภายในฉันก็ไม่เนิร์ดน่ะจ่ะ
“เพราะฉะนั้น เอานี่ไป” ยัยมิ้นยื่นถุงบางอย่างมาให้ฉัน ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไรแต่ก็รับมันมาอย่างงงๆ
“อะไร” ฉันถามพร้อมกับเปิดถุงดู ข้างในประกอบไปด้วยครีมยอมผมแบบสระ หลากสีพร้อมอุปกรณ์ทำผมหลากหลายชนิด ฉันหันไปมองยัยมิ้นด้วยสีหน้า งงๆ
“ให้ฉันงั้นหรอ” ฉันถาม
“ให้ป้านมมั้งยาย้อมผมหลากสีขนาดนั้น ” ยัยมิ้นตอบมาแบบกวนมากเข้าขั้นฉันสามารถกระโดดถีบได้เลย
“รีบเลือกแล้วก็ไปย้อมได้แล้ว อ่อแล้วเดี๋ยวคืนนี้ฉันนอนที่นี่น่ะและพรุ่งนี้แกต้องไปธุระกับฉันด้วย” ฉันยืนนิ่งฟังยัยมิ้นพูดจนจบด้วยสีหน้างงยิ่งกว่าเดิม ฉันไม่เข้าใจจะให้ฉันไปย้อมทำไมมันไม่มีข้อจำเป็นเลยด้วยซ้ำยัยมิ้นคิดจะทำอะไรกันแน่น่ะ
“แล้วจะให้ฉันไปย้อมทำไมอ่ะ” ฉันถาม
“นี่โดนเขาว่ามาขนาดนี้แกยังไม่รู้อีกหรอ แกต้องเปลี่ยน แค่นี้จบไหม” เพียงแค่คำพูดของยัยมิ้นฉันก็ไม่รอช้า ฉันพยักหน้ารับคำก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการสีผมของฉัน
หลังจากออกมาจากห้องน้ำฉันก็พบว่ายัยมิ้นหลับไปแล้วทั้งๆที่ยังไม่ได้อาบน้ำฉันเดินไปหยุดที่ปลายเตียงก่อนจะมองไปยังกระจกบานใหญ่ ฉันคิดว่าคริสตัลคนเก่าก็เหมือนเดิมน่ะเพียงแต่ว่าแค่สีผมปลี่ยนไปจากเดิมก็เท่านั้นเองแล้วก็ดูชิกขึ้นมานิดหน่อย ฉันเดินไปยังถุงใบเก่าที่ยัยมิ้นให้มาข้างในประกอบไปด้วยอุปกรณ์ทำผมหลายชนิดฉันจึงหยิมมันขึ้นมาแล้วลองทำเล่นๆ
“แล้วจะทำไงล่ะทีนี่ จะเอาทรงไหนดี” แต่แล้วฉันก็ต้องท้อใจเพราะไม่รู้ว่าจะทำทรงไหนยังไงดี
“งั้นลองรีดผมก่อนดีไหมน่ะ” ฉันพูดกับตัวเองซักพักก่อนจะลงมือทำการรีดผม ความจริงแล้วผมของฉันก็ไม่ได้หยองอะไรมากมายหรอกออกเป็นแนวหยักโศกตรงปลายนิดๆแต่ภายในบรรดาเพื่อนของฉันมีแต่คนผมตรงทั้งนั้นมีฉันเพียงคนเดียวที่ผมหยักโศก
ขณะที่ฉันกำลังรีดผมไปนั้นฉันก็สังเกตุความเปลี่ยนแปลงไปด้วย ฉันรู้สึกว่าตัวเองดูต่างจากเดิมมากเลยก็ว่าได้ ผมของฉันถูกปล่อยให้เป็นอิสระพร้อมกับผมสีน้ำตาลอ่อนทำให้ฉันออกแนวเซ็กซี่มากเลยก็ว่าได้ฉันอึ่งกับตัวเองไปซักพักก่อนจะลองถอดแว่นและนั้นทำให้ฉันพบกับคริสตัลคนใหม่ไปเลย ฉันไม่ค่อยคิดว่าการที่ฉันเปลี่ยนตัวเองเพียงแค่นี้จะทำให้ฉันดูต่างจากเดิมถึงขนาดนี้ การที่รุ่นพี่คนนั้นพูดกับฉันในตอนนั้นมันอาจเป็นแรงบันดาลใจอย่างหนึ่งที่ทำให้ฉันอยากเปลี่ยนตัวเองก็ได้ ฉันควรขอบคุณเขาสิน่ะแต่พอนึกถึงแววตาที่เหยียดหยามคู่นั้นแล้วมันก็ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องไปขอบคุณเลยแม้แต่นิดเดียว
“ยัยคะ คริส” ฉันหันไปมองยัยมิ้นด้วยความตกใจเพราะจู่ๆยัยนี้ก็เข้ามาอย่างไม่ให้สุ่มให้เสียง
“อะไร เรียกซะตกใจหมด” ฉันตอบยัยมิ้นเกรียมบ่นนิดๆ
“แกจริงๆหรอว่ะ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ป่ะ” ยัยมิ้นถาม ไม่น่าแปลกที่ยัยมิ้นจะตกใจขนาดฉันยังช็อคไม่หายเลย
“อือ แกไม่ได้ฝันหรอก” ฉันตอบยิ้มๆ ให้ แต่ยัยมิ้นก้ยังคงไม่หายตกใจเลยแม้แต่นิด ยิ่งยัยนี่ทำหน้าอย่างนี้เรื่อยๆฉันก็ยิ่งกลัวน่ะเพราะหน้ายัยมิ้นตอนนี้เรียกว่าเหมือนผีเข้าได้เลยล่ะ
“แกทำอะไรมาว่ะ” ยัยมิ้นถามด้วยสีหน้าตกใจมากขึ้นกว่าเดิม
“ก็ในถุงแกไง ก็ลองทำเล่นๆดู” ฉันตอบด้วยสีหน้าเรียบ พร้อมกับเดินเข้าไปหายัยมิ้น
“ฉันไม่ได้เอามาให้แกทำ อันนั้นฉันมาทำให้ตัวเอง แต่ไม่เป็นไรหรอกแกสวยมากเลยรู้รึป่าว”
ยัยมิ้นตอบกลับมาพร้อมกับเดินมาสำรวจตัวฉันตั่งแต่หัวจรดเท้าเรียกว่าสแกรนหารูขุมขนในตัวฉันเลยก็ว่าได้
“พอเลยๆ ง่วงแล้ว” ฉันบ่นยัยมิ้นอย่างระอา ตอนนี้ก็เกือบจะตีหนึ่งแล้วถ้าไม่ง่วงก็ให้มันรู้กันไปสิ ใครจะอึดถึงขนาดนั้นล่ะ
“เออๆ ก็ได้ แกไปนอนก่อนแล้วกันเดี๋ยวฉันไปอาบน้ำก่อนแล้วก็อย่าลืมพรุ้งนี้ไปธุระกับฉัน”
ยัยมิ้นบอกหลังจากฉันพูดเสร็จ เฮ้อเหนื่อยจริงๆมีแต่เรื่องรอดูน่ะพรุ้งนี้ฉันจะไปหยามยัยรุ่นพี่หน้าวอกนั้นให้เว่อเลยคอยดู เหอะ
“รู้แล้วน่า” ฉันบอกก่อนจะเดินไปที่เตียงแล้วลงนอนด้วยความเหนื่อยล้า
จะว่าไปพอฉันเปลี่ยนตัวเองแล้วฉันก็รู้สึกมีความมั่นใจมากขึ้นน่ะ ไม่รู้เหมือนกันสิแต่แค่กล้ามากขึ้นเท่านั้นเอง พรุ่งนี้ฉันจะเจออะไรบ้างนะจะดีหรือร้ายน่ากลัวจริงๆ
“แต่แกสวยจริงๆน่ะ เหมือนซุปตาร์เลยอ่ะ” ยัยมิ้นเดินพูดไปจนกระทั่งถึงห้องน้ำ ความจริงฉันไม่ได้เปลี่ยนอะไรมากมายหรอกน่ะเพียงแค่รีดผมให้ตรง เปลี่ยนสีผม ถอดแว่นออก แค่นี้เอง
ไมได้ถึงขั่นต้องศัลยกรรมเลย หึทำไงได้ล่ะฉันหน้าตาดีอยู่ไงฮ่าๆๆๆ
ผลงานอื่นๆ ของ นุ้งบยอล ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นุ้งบยอล
ความคิดเห็น