ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:Yuri]คุณหนูไฮโซกับยัยสัตว์เลี้ยง[SNSD&WG]

    ลำดับตอนที่ #45 : SNSD&WG:คุณหนูไฮโซกับยัยสัตว์เลี้ยง 34

    • อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 52


     

    34

    ปึก!!

    ซองเอกสารสีน้ำตาลถูกโยนลงตรงหน้าอย่างแรง หญิงสาวก้มมองมันอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ และสุดท้ายเจ้าซองนั่นก็ถูกเธอยัดเข้าไปเก็บในลิ้นชักอย่างรวดเร็ว เมื่อมีใครอีกคนเดินเข้าห้องมา เธอแสร้งยิ้มหวานให้คนที่พึ่งเดินเข้ามาทำเอาคนมาใหม่ถึงกับแปลกใจในความผิดปกติของคนรัก.....

    “ทิฟ....เป็นอะไรไปหรือเปล่า ยิ้มอะไร” แทยอนเอ่ยถามคนรักอย่างแปลกใจ เมื่อครู่เธอเดินออกไปคุยโทรศัพท์กับซูยองอีกที่หนึ่ง เพราะไม่อยากให้ทิฟฟานี่น้อยใจที่เธอเอาแต่สนใจโทรศัพท์ แต่พอเธอกลับมาที่ห้องก็เห็นความผิดปกติของคนรักเอาเล็กน้อย ดูเหมือนทิฟฟานี่กำลังแอบซ่อนอะไรเธออยู่อย่างนั้นแหละ...

    “ปะ...เปล่า....” ทิฟฟานี่รีบปฏิเสธเสียงหลง เจ้าตัวเดินมาควงแขนแทยอนเอาไว้แล้วลากตัวเธอออกไปนอกห้อง

    “ดะ...เดี๋ยว ทิฟ จะพาแทไปไหนเนี๊ยะ!” แทยอนเอ่ยถามอย่างงงๆเมื่อเธอถูดอีกคนลากดึงมาจนถึงรถของเจ้าตัว แถมยังดันร่างเธอเข้าไปนั่งข้างในอีกต่างหาก

    “ไปข้างนอกเป็นเพื่อนทิฟหน่อย” พูดจบเจ้าตัวก็ออกรถไปตามทางทันที แทยอนที่ยังคงมึนๆงงๆอยู่ว่าทิฟฟานี่กำลังต้องการทำอะไรกันแน่นั่งจ้องใบหน้าด้านข้างของคนที่ขับรถไปตลอดทาง ทิฟฟานี่ที่รับรู้ถึงความผิดปกตินี้เอ่ยเรียกคนข้างกายขึ้นมาเสียงแผ่ว

    “แทแท.....” รถถูกจอดสนิทลงในชั้นจอดรถของโรงแรมชเว หากแต่คนตัวเล็กที่ไม่ทันได้สังเกตุทางที่ทิฟฟานี่ขับมากลับมองแค่ว่ามันคุ้นๆเท่านั้น

    “ทิฟพาแทมาที่ไหนหรอ?” แทยอนยังคงนึกไม่ออกถึงแม้ว่าจะรู้สึกคุ้นแค่ไหนก็ตาม แต่นั่นกลับทำให้ทิฟฟานี่ขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่พอใจ เธอรู้สึกเหมือนกับว่าเธอเป็นตัวตลก และกำลังโดนหลอกลวงจากแทยอน

    เมื่อคืนนี้เธอได้รับซองใส่เอกสารสีน้ำตาลมาจากนักสืบที่เธอจ้างมาสืบเรื่องของคนตัวเล็ก และเธอก็แอบซ่อนมันไว้อย่างมิดชิดเพราะกลัวว่าคนเล็กจะเห็นมันเข้า เธอรอจนคนตัวเล็กหลบออกไปคุยโทรศัพท์อีกที่หนึ่งในตอนเช้า และหยิบเอาซองเอกสารนั่นมาอ่านอย่างรวดเร็ว

    สิ่งที่เธอได้รับรู้จากข้อมูลในเอกสารนั่นก็คือ คนตัวเล็กเป็นหลานของเจ้าของธุรกิจโรงแรมชเว และซูยองเพื่อนของเจ้าตัวรวมถึงเจ้าตัวเอง ก็เป็นหนึ่งในผู้บริหารของโรงแรม เพราะทั้งคู่ต่างก็มีหุ้นส่วนอยู่ในโรงแรมเพียงพอที่จะเป็นผู้บริหาร ในขณะที่เพื่อนเธออย่างโซฮีก็มีหุ้นอยู่ในโรงแรมนี่ด้วย!! มันน่าแค้นไหมละที่เพื่อนเธอดูเหมือนจะรู้แต่ไม่บอกเธอ แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอเครียดอะไรหรอก นั่นก็เพราะเพื่อนเธออาจคิดว่าเธอรู้แล้วก็เป็นได้ หากแต่ว่ามันไม่ใช่!!

    แต่เรื่องที่ทำให้เธอโกรธในตอนนี้ก็คือ เรื่องที่คนตัวเล็กปิดบังฐานะของตัวเอง ทั้งๆที่คนตัวเล็กเองก็น่าจะร่ำรวยมากพอ และดูเหมือนกับว่าไม่มีเหตุผลเลยซักนิดที่คนตัวเล็กจะกลายเป็นตัวขัดดอก ของลูกหนี้พ่อเธอ เธอรู้สึกว่ามันแปลกๆ พอลองดูข้อมูลอื่นๆของคนตัวเล็กเธอก็ถึงจะเข้าใจในเรื่องทั้งหมด

    สรุปว่าแทยอนเข้ามาในบ้านเธอเพื่ออะไรไม่รู้ แต่ที่เธอรู้คือไม่ใช่เข้ามาเพราะเป็นตัวขัดดอกแน่ๆ ไม่ได้หมายความว่าเพราะพ่อเธอยกหนี้ให้ แต่หมายถึง พ่อของแทยอนน่าจะไม่ได้เป็นหนี้พ่อเธอตั้งแต่แรก เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อบังตา เธอไม่รู้ว่าคนตัวเล็กนี่รู้เรื่องทั้งหมดด้วยรู้เปล่า แต่แน่ใจได้ว่าต้องรู้บ้างไม่มากก็น้อย แถมรู้แล้วก็ไม่บอกเธอ ยังคอยช่วยกันปิดบังต่อไปเรื่อยๆอีก....

    และถ้าเธอไม่ได้คิดมากจนเกินไป เธอคิดว่า พ่อเธอกำลังจับคู่ให้เธอกับแทยอนอยู่!! และที่แทยอนเข้ามาในบ้านเธอได้คงจะเป็นแผนของพ่อเธอและพ่อของแทยอนร่วมมือกัน!! นั่นก็คงเป็นเหตุผลทางธุรกิจ และอาจหมายถึง ธุรกิจโรงแรมชเวที่กำลังจะเปิดสาขาในฮ่องกง พ่อเธอคงอยากจะถือสิทธิ์ในการเปิดบ่อนคาสิโนที่นั่น จึงพยายามที่จะจับคู่เธอกับแทยอน ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ เธอก็คงต้องขอบคุณพ่อเธอใช่ไหม? ที่ทำให้เธอมาเจอกับแทยอน....

    “อ้าว! แทไม่รู้จักหรอคะ นี่โรงแรมชเวไง โรงแรมระดับห้าดาวชื่อดังเชียวนะ” สิ้นสุดคำพูดของทิฟฟานี่ แทยอนก็หันขวับไปมองดูรอบๆ และก็เป็นอย่างที่ทิฟฟานี่พูดจริงๆด้วย เธอถึงว่ามันคุ้นๆตานัก

    “แล้วทิฟมาทำอะไรที่นี่ละคะ” ทิฟฟานี่ยิ้มหวาน

    “ทิฟนัดโซฮี ฮยอนอา ซูยอง ซันนี่ ฮโย แล้วก็ซอนมีมากินข้าวเที่ยงที่นี่คะ” พูดจบเจ้าตัวก็เดินเข้าไปในตัวโรงแรม ทำเอาแทยอนอ้าปากกว้างอย่างตกใจ รู้สึกเหมือนว่าเธอจะงานเข้าเสียแล้ว

    แทยอนเดินตามทิฟฟานี่เขามาด้านในตัวโรงแรมห่างๆ แล้วเห็นอีกคนคุยโทรศัพท์อยู่จึงไม่ได้เข้าไปรบกวน หากแต่เธอกลับถือโอกาสหลบไปคุยกับผู้จัดการโรงแรมแทน เธอต้องทำการตกลงอย่างเร่งด่วน ไม่งั้นถ้าทิฟฟานี่รู้เรื่องของเธอเข้า เธออาจโดนฆาตกรรมแน่ๆ และคนตัวเล็กไม่มีทางได้รู้เลยว่า ทิฟฟานี่โกหกเธอว่านัดเพื่อนเธอและเพื่อนเจ้าหล่อนมากินข้าวที่โรงแรมนี่ แถมโทรศัพท์ที่เธอเห็นทิฟฟานี่คุยเมื่อครู่นั่นก็เป็นโทรศัพท์ที่เธอโทรชวนคนที่ว่า..... เธอพึ่งโทรเอาเดี๋ยวนั้นแหละ.....

    .

    .

    .

    .

    ซูยองปัดมือไล่พนักงานที่เดินเข้ามาโค้งตัวทำความเคารพเธอเร็วๆ และก่อนที่พนักงานคนนั้นจะเดินไปเธอก็ได้สั่งให้หล่อนทำตัวเหมือนกับว่าเธอเป็นลูกค้า และไม่ต้องทำความเคารพเธอในระหว่างที่เธอยังอยู่ในชั้นอาหารของโรงแรมนี่!!

    คำสั่งของเธอถูกกระจายออกไปอย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็ยังทำให้เจ้าตัวรู้สึกกลัวอยู่ดี... กลัวว่าเรื่องที่เธอเป็นผู้บริหารที่นี่จะแตก แล้วทิฟฟานี่แฟนของเพื่อนเธอจะจับได้ ไม่งั้นได้งานเข้ากันเป็นแถบๆแน่.. เธอเองไม่เข้าใจแทยอนเลยจริงๆ ทำไมถึงไม่ยอมบอกเรื่องราวทั้งหมดกับทิฟฟานี่ไปนะ เธอจะได้ไม่ต้องมาลำบากเอาแบบนี้

    แทยอนชูมือขึ้นสูงเพื่อเรียกซูยองให้มานั่งที่โต๊ะ ซึ่งเจ้าตัวก็รีบสาวเท้าเดินไปอย่างรวดเร็ว และพนักงานในโรงแรมที่ยังไม่ได้รับคำสั่งของเธอก็ตั้งท่าจะโค้งตัวทักทายเธอ นั่นทำเอาเธอถลึงตาใส่เพื่อที่จะให้พนักงานคนนั้นรีบๆไปจากที่ๆเธออยู่ซะ ทำเอาเขาแทบจะวิ่งไม่ทัน สุดท้ายการกินข้าวมื้อที่ฝืดคอที่สุดของแทยอน ฮโยยอน ซันนี่ซูยอง และโซฮีก็ผ่านพ้นไป ในขณะที่ซอนมีกับฮยอนอาที่ไม่ได้รับรู้เรื่องอะไรกับเขาเลยนั่งกินข้าวอย่างมีความสุข และมันก็มีความสุขมากๆขึ้นไปอีกเมื่อมื้อนี้ดูเหมือนจะฟรี เพราะทิฟฟานี่เหมาจ่าย!!

    หลังจากการลอบสังเกตของทิฟฟานี่สิ้นสุดลง เธอก็พอจะรู้ฐานะที่แท้จริงของเธอได้บ้าง อย่างน้อยข้อมูลที่เธอได้รับมามันก็ไม่ผิด!! คนตัวเล็กต้องมีตำแหน่งใหญ่โตในโรงแรมนี้แน่ๆ ถ้าสังเกตุดูจากท่าทางของพนักงานที่ถึงแม้ไม่ได้ทำความเคารพคนตัวเล็กกับซูยองก็ดูจะนอบน้อมกับทั้งคู่เป็นพิเศษ

    ทิฟฟานี่บอกให้แทยอนกลับบ้านไปก่อนเพราะเธออยากเที่ยวต่อกับฮยอนอาและซอนมี ในขณะที่โซฮีที่เริ่มอึดอัดแปลกๆกับสายตาของทิฟฟานี่ขอตัวกลับก่อน และถึงแม้ซอนมีจะงอนเธอเล็กน้อยแต่เธอก็หาข้ออ้างให้เจ้าตัวยอมเธอได้ในที่สุดอยู่ดี แต่นั่นก็เป็นอะไรที่เข้าทางทิฟฟานี่สุดๆ เมื่อเธอก็ไม่อยากให้โซฮีอยู่ด้วยอยู่แล้ว เธอจะได้คุยเรื่องที่เธอสงสัยกับเพื่อนเธอทั้งสองคนได้สะดวก

    .

    .

    “ฟานี่ เธอต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆเลยใช่ไหม ที่เธอเลี้ยงข้าวพวกเราเนี๊ยะ มีเรื่องอะไรให้ช่วยหรือเปล่า” เป็นฮยอนอาที่พูดดักขึ้นมาอย่างรู้ทัน เมื่อวันนี้เพื่อนเธอดูจะใจดี และสปอตผิดปกติ!! และเวลาที่เจ้าตัวเป็นแบบนี้ทีไร ก็ต้องมีเรื่องมาให้พวกเธอคอยช่วยเหลือเสียทุกครั้ง

    “ฮยอนอา ซอนมี ฉันกำลังสงสัยแทยอน...”

    “สงสัยเรื่องอะไร? ซอนมีเห็นแทแทก็ปกติดีนี่” ซอนมีเอ่ยถามอย่างสงสัย

    “ฉันว่าแทยอนมีจุดประสงค์อะไรบ้างอย่างถึงได้มาคบกับฉัน!!” สิ้นสุดคำทำเอาฮยอนอาตาโตขึ้นมาทันที เธอละแทบไม่เชื่อหูเลยจริงๆที่เพื่อนเธอสงสัยในคนตัวเล็ก เพราะถ้าดูจากที่เธอเคยสังเกตมา ดูเหมือนทิฟฟานี่จะไว้ใจ และรักแทยอนเอามากๆเลยนี่

    “จุดประสงค์อะไรหรอ?” ซอนมีเอ่ยถามอย่างสงสัย สุดท้ายเรื่องราวตั้งแต่ที่แทยอนเข้ามาอยู่ในบ้านทิฟฟานี่ จนถึงเรื่องที่ทั้งคู่คบกัน เรื่องที่ทิฟฟานี่สงสัยทั้งหมดก็หลุดออกมาจากปากทิฟฟานี่จนหมดเปลือก ให้คนที่กลายเป็นที่ปรึกษาอย่างซอนมีและฮยอนอาทึ่งในสิ่งที่ได้ยินจากปากเพื่อนเอามากๆ

    “นี่ที่มาที่พวกแกคบกันหรอ... สุดยอดเลยฟานี่ ว่าแต่ พี่ยูบินของฉัน ทำไมเป็นคนอย่างนี้เนี๊ยะ เดี๋ยวกลับไปมีเคลียร์แน่!!” ฮยอนอาพูดขึ้นพลางทำสีหน้าหมั่นเคี้ยวสุดๆ

    “เรื่องนั้นเอาไว้ค่อยเคลียร์เถอะฮยอนอา เรื่องที่เป็นปัญหาตอนนี้คือฐานะที่แท้จริงของแทยอนและจุดประสงค์ที่แท้จริงที่คบกับฉันต่างหาก” ทิฟฟานี่พูดเสียงเหนื่อยอ่อน ตอนนี้เธอรู้สึกสับสนและกลัวไปหมด

    สับสนที่ดูเหมือนว่าเธอและแทยอนจะไม่ได้รักกันเพราะรักกันแต่เพราะมันมีเงื่อนไข และกลัวที่จะต้องรับรู้ความจริงในเรื่องที่ว่า รวมถึงกลัวว่าคำบอกรักของคนตัวเล็กมันเป็นเพียงคำลวงที่ไม่ใช่ความจริง......

    ถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้นจริงๆ เธอจะทำยังไงดี....

    .

    .

    .

    .

    หลังจากที่ทิฟฟานี่บอกให้แทยอนกลับก่อนและให้กุญแจรถของเธอกับแทยอนไว้ แทยอนก็ทำทีเหมือนกับว่าเธอกลับบ้านไปแล้ว แต่จริงๆนั้นเธอแค่ขับรถวนมาจอดในที่เดิม เพื่อที่จะคุยกับซูยอง ฮโยยอน และซันนี่ถึงปัญหาของเธอที่มันกำลังคืบคลานเข้ามาหาเธอช้าๆ ในความรู้สึกของเธอ

    “แท ฉันว่าแกบอกความจริงฟานี่ไปเถอะ ก่อนที่เรื่องมันจะบานปลาย” ซันนี่พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงติดแววกังวล ในขณะที่ซูยองกับฮโยยอนพยักหน้าเห็นด้วย

    “ฉันดูก็รู้แล้วว่าทิฟฟานี่กำลังสงสัยแกนะแท” ฮโยยอนเอ่ยสมทบทำเอาแทยยอนเอียงคอมองด้วยความสงสัย

    “ทำไมแกถึงคิดอย่างั้นละฮโย”

    “พวกแกไม่สังเกตหรอ?” ฮโยยอนหันไปมองซูยองเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมามองแทยอน

    “ทิฟฟานี่มองแกไม่แบบคาดสายตาเลย นั่นรวมถึงเวลาที่เธอมองพนักงานของแกที่มีท่าทางนอบน้อมต่อแกด้วยแทยอน” แทยอนมีสีหน้าหวาดวิตกกว่าเดิมมากนัก

    “แล้วแกจะให้ฉันทำยังไงฮโย ฉันสัญญากับคุณลุงไว้ว่าจะไม่พูดเรื่องนี้แกก็รู้นี่” ฮโยยอนเงียบไปชั่วครู่

    “แต่ฉันสามคนรู้แล้วนี่ คงไม่เป็นไรหรอกมั่งถ้าบอกทิฟฟานี่” ฮโยยอนเอ่ย

    ซันนี่ถอนหายใจออกมาเล็กน้อย “ฉันว่ามันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะซิ ถ้าฟานี่รู้เรื่องนี้จริงๆ แกตายแน่ๆแทยอน!!”

    “ฉันก็ว่าอย่างนั้น ทิฟฟานี่เกลียดคนโกหกนี่....” ซูยองเอ่ยเสียงอ่อนอย่างเหนื่อยใจ

    .

    .

    .

    .

    กลิ่นอาหารหอมกรุ่นจากในครัวปลุกให้คนที่นอนหลับสบายบนเตียงตื่นขึ้นอย่างงัวเงีย ทั้งๆที่ก็กินเวลาไปบ่ายกว่าๆแล้วแท้ๆ แต่เจ้าตัวก็พึ่งได้ตื่น เธอหยิบเสื้อคลุมมาสวมทับร่างกายเปลือยเปล่าก่อนจะเดินไปที่ครัว รอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนริมฝีปากเรียวสวยในขณะที่เจ้าตัวยืนพิงประตูห้องครัวอยู่อย่างนั้น

    ร่างที่กำลังง่วนอยู่กับการทำครัวหันกลับมาวางจานสปาเก็ตตี้ที่เธอทำลงบนโต๊ะก็เห็นคนรักแสนสวยตื่นขึ้นมายืนมองเธออยู่ก่อนแล้ว เจ้าตัววางจานสปาเก็ตตี้ลงบนโต๊ะก่อนจะเดินเข้าไปหาคนรักที่กางมือออกมาข้างหน้าเป็นเชิงบอกให้เธอกอด และเธอเองก็ไม่ขัดเมื่อคนรักอยากให้กอด ก็ต้องกอดซิ จริงไหม?

    “ตื่นมาก็อ้อนให้กอด อยากได้อะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าคะเจ้าหญิง” ยูริถามยิ้มๆ อ้อมแขนกระชับแน่นขึ้นไปอีก

    “หอมหน่อยซิยูล” เจสสิก้าเอ่ยเสียงแผ่วอย่างเขินๆ

    “อะไรนะคะ ไม่กินหอมหรอ อืม แต่เจสไม่กินแค่แตงกวาไม่ใช่หรอ” ยูริแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน แล้วพูดแหย่เจสสิก้าเรื่องที่เจสตัวเกลียดแตงกวาเข้าใส้

    “ยูลลลลลลล~” เจสสิก้าเรียกยูริเสียงงอนทำเอายูริต้องรีบหอมแก้มเจสสิก้าเอาใจเสียหลายฟอด

    “อื้ม ยูลหอมแล้วน๊า~ เจ้าหญิงห้ามงอนนะคะ” เจสสิก้าแกล้งตีหน้าขรึม

    “ไม่รู้แหละ วันนี้ยูลต้องทำตามคำสั่งเจสด้วย โทษฐานที่แซวเจสเรื่องแตงกวาเจสถึงจะหายงอน” ยูริรีบพยักหน้ารับทันที ถึงคนในอ้อมกอดเธอตอนนี้จะไม่บอกให้เธอทำตามคำสั่งเจ้าตัว เธอก็พร้อมที่จะทำอะไรเพื่อเจสสิก้าอยู่แล้วละ เพราะถ้าเจสสิก้ามีความสุข นั่นก็เท่ากับว่า เธอเองก็มีความสุขด้วย ถึงแม้จะมีใครพูดบอกกับเธอว่า การที่เจสสิก้าเอาแต่ใจให้เธอทำอะไรทุกอย่างตามใจตลอดมันเป็นเรื่องที่น่ารำคาญ เธอก็ยังคงคิดว่าเธอเต็มใจที่จำทำมัน และมันก็ไม่ได้เป็นเรื่องน่ารำคาญหรือน่าเบื่อเลยซักนิด เธอออกจะมีความสุขที่ได้ทำมันให้คนรัก

    “เจสจะให้ยูลทำอะไรคะ บัญชามาเลยคะเจ้าหญิง” ยูริผละอ้อมกอดออกและคุกเข่าลงตรงหน้าพร้อมกับยกมือของเจสสิก้าขึ้นมาจุมพิต

    เจสสิก้าหัวเราะคิกอย่างถูกใจ “งั้นอย่างแรกเลยนะคะเจ้าชาย.... อุ้มเจ้าหญิงหน่อยซิ ” ยูริยิ้มกว้างขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำสั่ง เธออุ้มเจสสิก้าเขามาไว้ในวงแขนอย่างรวดเร็ว

    “แล้วต้องทำยังไงต่อคะเจ้าหญิง” ยูริถามเสียงหวาน

    “เจสหิวอ่ะ พาไปที่โต๊ะหน่อย จะกินสปาเก็ตตี้ฝีมือยูล” เจสสิก้าเอ่ยอ้อนทำเอายูริยิ้มไม่หุบ

    “ได้ซิคะ.....”

    .

    .

    “อื้ม...ยูล....อ๊ะ” เจสสิก้าครางในลำคอทันทีที่อยู่ๆอีกคนก็จูบเธอ ท้งๆที่เธอให้เจ้าตัวป้อนสปาเก็ตตี้ให้เท่านั้น ตอนแรกเลยยริก็ป้อนเธอดีๆอยู่หรอก แต่เป็นอะไรไม่รู้พอสปาเก็ตตี้ในจานมันหายไปเพียงแค่ครึ่งเดียว เจ้าตัวก็ป้อนมันให้เธอกับปาก...

    “อืม รู้สึกว่าสปาเก็ตตี้คำนี้จะหวานแฮ่ะ” ยูริเลียริมฝีปากตัวเองเบาๆสายตาที่มองไปยังเจสสิก้ามีแววเจ้าเล่ห์ ในขณะที่เจสสิก้าหน้าแดงก่ำเพราะความเขิน เธอยกหลังมือขึ้นมาปิดบริเวณริมฝีปาก

    “เจ้าเล่ห์ เผลอไม่ได้เชียว ยัยลิงหื่น!!” เจสสิก้าว่าเสียงสะบัดก่อนจะดึงจานสปาเก็ตตี้มากินเองเสียอย่างนั้น ยูริยิ้มขำๆ เธอรอจนเจสสิก้ากินจนอิ่มแล้วยกจานไปล้าง

    เจสสิก้าตามไปยืนซ้อนกอดคนล้างจานจากทางด้านหลัง ใบหน้าซบลงบนแผ่นหลังของคนที่สูงกว่า “ยูล ต่อไปนี้จะไม่มีอะไรมาแยกเราแล้วใช่ไหม?” เจสสิก้าเอ่ยถามเสียงเศร้า ทำเอาคนล้างจานชะงักมือเล็กน้อย ริมฝีปากแย้มยิ้มบางๆ เธอไม่พูดตอบอะไรเจสสิก้า จนเจ้าตัวล้างจานเสร็จนั่นแหละถึงได้หันหน้ามาเผชิญหน้ากับคนที่ยืนกอดเธอนิ่งไม่ไหวติง

    “อ้าว ยังไม่หลับหรอคะ ยูลนึกว่าเจสยืนกอดยูลจนหลับไปแล้ว เห็นเงียบเชียว” ยูริเอ่ยติดตลกเล็กน้อย แต่ทำเอาเจสสิก้าหน้างอขึ้นมาทันที

    “ยูลอะ!!”

    “โอ๋ๆ ยูลล้อเล่น ยูลรู้นะว่าเจสกำลังรอคำตอบจากยูลอยู่ใช่ไหมคะ?” เจสสิก้าพยักหน้าหงึกหงัก และแทนคำตอบคือการจุมพิตเบาๆลงบนริมฝีปากของยูริ

    “ยูลไม่รู้หรอกคะว่ามันจะมีอะไรที่เข้ามาแยกเราอีกหรือเปล่า เพราะยูลไม่รู้อนาคต เรื่องของอนาคตมันเป็นเรื่องที่ไม่แน่นอนนะ” ยูริพูดยิ้มๆ เธออุ้มเจสสิก้าขึ้นมาไว้ในวงแขนตัวเอง ทำเอาเจสสิก้าที่ไม่ทันตั้งตัวรีบคล้องแขนตัวเองบนคอยูริทันที

    “แต่ยูลรู้ว่ายูลรักเจส และไม่ว่าต่อไปจากนี้อะไรจะเกิดขึ้นเราก็จะผ่านไปด้วยกันนะคะ” ร่างของเจสสิก้าถูกวางลงบนที่นอนของเจ้าตัวอีกครั้งหนึ่ง เจสสิก้าโน้มคอยูริลงมาจูบแผ่วเบา

    “ขอบคุณนะคะที่รักเจส เจสไม่เคยคิดว่ายูลจะรักเจสมากขนาดนี้ นั่นคงเป็นเพราะยูลเคยเจ้าชู้มากๆเลยก็ได้ละมั้ง เจสถึงได้เอาคำบอกรักของยูลมาหารครึ่งตลอด แต่วันนี้เจสรู้แล้วละคะ ว่ายูลรักเจสมากแค่ไหน” ยูริยิ้มบางๆกับคำพูดของเจสสิก้า เธอผละตัวออกมาจากเจ้าตัวแล้วเดินไปหยิบแหวนที่เจ้าตัวใส่ไว้ในกระเป๋าเส้อโค้ทออกมา

    เจสสิก้ามองตามแผ่นหลังยูริไปอย่างสงสัย เธอไม่รู้ว่ายูริโกรธเธอหรือเปล่า ที่เธอบอกกับเจ้าตัวว่าเธอเอาความรักเจ้าตัวมาหารสองตลอด แต่เธอจะผิดตรงไหนละ เธอก็อยากเผื่อใจไว้เจ็บบ้างนี่นา ก็ยูริเสน่ห์ธรรมดากับเขาซะที่ไหนละ เธอก็กลัวว่าถ้ามีใครมายั่วยูริซักนิด เขี้ยวเล็บที่เธอถอดมาเก็บเอาไว้ มันจะไปโผล่อยู่ที่เจ้าตัวอีกน่ะซิ!!

    ยูริเดินกลับมาหาเจสสิก้าที่เตียงอีกครั้งหนึ่ง เจ้าตัวก้มลงไปจุมพิตเบาๆที่หน้าผากมน และนั่นก็ทำให้เจสสิก้าหลับตาลงเล็กน้อย พอยูริผละริมฝีปากออกมาจากตำแหน่งนั้น เจ้าตัวก็จับมือเธอขึ้นมาจูบเบาๆ

    “ยูลรักเจสนะคะ ไม่ว่าจะเป็นตอนนี้หรือตอนไหน ถึงอนาคตมันจะไม่แน่นอน แต่ยูลก็มั่นใจว่ายูลรักเจส ยูลสัญญากับเจสได้เลยว่า ยูลจะรักและดูแลเจสตลอดไป เหมือนกับที่เจสเคยบอกให้ยูลทำตอนที่เราเริ่มคบกัน เพราะอย่างนั้น....” ยูริชูแหวนขึ้นมาในระดับสายตา พร้อมรอยยิ้ม เธอค่อยๆบรรจงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของเจสสิก้า

    “ช่วยอยู่กับยูลตลอดไปด้วยนะคะ เจ้าหญิงของยูล” ดวงตาของเจสสิก้ารื้นน้ำตาขึ้นมาเล็กน้อย เธอโผตัวเข้ากอดยูริแน่นด้วยความซาบซึ้งใจ

    “คะที่รัก เจสจะรักยูล และอยู่กับยูลตลอดไป....” สิ้นสุดคำพูดของเจสสิก้า ยูริก็ดันตัวเจสสิก้าออกจากการกอเธอเล็กน้อย สายตาของทั้งคู่ผสานกัน และยูริก็มอบจุมพิตแสนหวานให้คนที่เธอรักหมดหัวใจ......

    .

    .

    สองร่างกายบดเบียดกันบนเตียงกว้าง ริมฝีปากทั้งคู่ยังคงไม่แยกออกจากกัน ร่างกายที่บดเบียดเหมือนจะหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว ทุกส่วนทุกพื้นที่ในร่างกาย แทบจะไม่มีส่วนไหนที่ไม่สัมผัสกันเลย ฝ่ามือของทั้งคู้ต่างลูบไล้ลงไปบนร่างกายเปลือยเปล่าของกันและกัน ปลุกอารมณ์และประสาทสัมผัสให้ทั้งคู่กระหายอยาก....

    ยูริดันตัวเองลุกขึ้นนั่ง และดึงร่างของเจสสิก้าให้ขึ้นมากับเธอด้วย ขาของทั้งสองคนสลับสับหว่างกัน เพื่อให้ส่วนอ่อนไหวได้สัมผัสกันอย่างแนบชิด

    “อ๊ะ..ยูล...”

    “อืมม เจส...” สะโพกบางขยับเลื่อนเข้าหากันเป็นจังหวังเรียกเสียงครางวาบหวามจากทั้งคู่ได้เป็นอย่างดี ...สะโพกบางเริ่มขยับจังหวะเข้าหากันเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนร่างกายของทั้งคู่รู้สึกเกร็งกระตุก และชาวาบไปทั่วทั้งร่าง เจสสิก้าหมดแรงล้มตัวลงใส่ยูริทันที ยูริค่อยๆขยับร่างกายของเจสสิก้าให้ลงไปนอนราบกับเตียง ก่อนจะมอบจุมพิตแสนหวานให้คนรักอีกครั้ง....

    มือบางยังคงไล้ไปทั่วร่างกายของคนด้านล่างเพื่อปลุกอารมณ์รักขึ้นมาอีกครั้ง และมันก็ไม่เป็นการยากนักที่จะปลุกความรู้สึกนั้นให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อร่างกายของคนด้านล่างเริ่มตอบสนองต่อสัมผัสของเธอ

    เจสสิก้าสอดมือของเธอลอดแขนยูริเพื่อที่จะเหนี่ยวรั้งความรู้สึกเหมือนจะล่องลอยของเธอเอาไว้ ในขณะที่ยูริซุกไซร้สูดความหอมหวานจากลำคอและร่างกายของเธอไปเรื่อยๆ มือเรียวกอบกุมอกอิ่มของคนด้านล่างเอาไว้ และบีบคลึงเป็นจังหวะเรียกเสียงครางอื้ออึงจากลำคอของอีกคนได้เป็นอย่างดี

    “อ๊ะ...” เจสสิก้าร้องเสียงหลงเมื่อยูริเลื่อนริมฝีปากของตัวเองมาครอบครองยอดอกของเธอไว้ และดูดกลืนมันอย่างหิวกระหาย ในขณะที่อกอีกข้างของเธอก็โดนบีบคลึงเป็นจังหวะอย่างหนักหน่วง

    “ยะ.....ยูลล...เจส...มะ....ไม่ไห.......แล้.......ขอร้องละ....ได้โปรด....” เจสสิก้าเอ่ยขอร้องเสียงกระเส่า ยูริผละออกมาจากอกอิ่มของคนรักอย่างเสียดาย เธอเลื่อนมือของเธอลงต่ำไปเรื่อยๆ ในขณะที่ริมฝีปากวนจูบอยู่แถวๆหน้าท้องของคนด้านล่าง

    เจสสิก้าแอ่นตัวเองขึ้นมาเล็กน้อยกับสัมผัสที่ทำเอาเธอร้อนวูบวาบ ในขณะที่ยูริค่อยสัมผัสจุดอ่อนไหวของเธอและลูบไล้มันขึ้นลงแผ่วเบาเรียกสติของเจสสิก้าให้กระเจิดกระเจิง มือเรียวดึงทึ้งผ้าปูที่นอนเอาไว้แน่น ร่างกายบิดไปมาด้วยความเสียวซ่าน

    ยูริค่อยๆดันนิ้วมือตัวเองเข้าไปในส่วนั้นของเจสสิก้าช้าๆจนสุด และค่อยๆขยับเคลื่อนไหวเข้าออกช้าๆ ในขณะที่ปลายลิ้นก็เกี่ยวกระหวัดจุดกระสัดของเจ้าตัวไปด้วย

    “อ๊า...ยูล...อื้อ...มัน...อื้มมม...” ความรู้สึกเสียวซ่านเล่นงานเจสสิก้ามากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เมื่อส่วนล่างของร่างกายโดนรุกล้ำและปลุกกระตุ้นอย่างพร้อมเพรียงกันทั้ง ‘ภายใน’และ ‘ภายนอก’ ปลุกอารมณ์ของเธอให้พลุ่งพลานจนเจ้าตัวเองก็ต้านทานมันไม่ไหว ได้แต่จิกทึ้งผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความรู้สึกวาบหวามให้ออกไปบ้าง ไม่ช้าร่างกายก็กระตุกวูบและชาวาบไปทั่วทั้งร่างกายตั้งแต่ปลายเท้าจรดศีรษะ ปลดปล่อยอารมณ์ครุกกรุ่นเมื่อครู่ให้จางหายเหมือนกับจะล่องลอยไปในอากาศ

    ยูริดันตัวเองขึ้นมาแตะจูบลงที่ปลายคางเจสสิก้าแผ่วเบา ก่อนที่ทั้งคู่จะแลกจูบกับอย่างดูดดื่มอีกครา.......

    บทเพลงรักของทั้งคู่ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จบ เหมือนกับว่ายูริกำลังพยายามย้ำให้อีกคนมั่นใจว่าเธอจะไม่จากไปไหนอีกแล้วต่อจากนี้ จนในที่สุดทั้งคู่ก็เหนื่อยอ่อนและหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน...... 

    .........................................................

    อันนยองฮาเซโยคะ...ซึนกีมาอีกแล้ว โย่วๆ

    ช่วงนี้ขยันลงถี่ๆ มีใครเบื่อหน้าซึนกีแล้วบ้าง? ยกมือขึ้น.......

    แป่ว!! มีคนยกจริงๆด้วยแฮ่ะ เหอๆ ขอโทษคะที่ทำให้เบื่อ><"

    เอ๊าๆ!! ปัญหาแทนี่พักไว้ก่อน มาหวานกับยูลสิกแปปนึง คั้นเอาไว้กันเครียดคะ 55555+

    และแล้วก็มี NC เหอๆ ว่าจะไม่มีก็มีจนได้ (ถึงได้บอกไงว่าแก้ปัญหาเสร็จก็ได้เวลาแก้ผ้าต่อ!!) O_o"

    เอาละไม่กวนแล้วคะ ซึนกีต้องทำอะไรหลลายอย่างมาก ถ้าคุยมากอย่างอื่นก็จะไม่ได้ทำเอา

    ไปแล้วนะคะ อ่อ...อ่านจบแล้วก้อย่าลืมคอมเม้นด้วยนะคะ ^^

                                                                                                                         BY:ฮันซันกี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×