ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:Yuri]คุณหนูไฮโซกับยัยสัตว์เลี้ยง[SNSD&WG]

    ลำดับตอนที่ #40 : SNSD&WG:คุณหนูไฮโซกับยัยสัตว์เลี้ยง 30

    • อัปเดตล่าสุด 5 ต.ค. 52


     

    30

    “เฮ้!! มีใครเห็นฟานี่ แทแท ยูล สิก้า ยูบิน ฮยอนอาบ้างไหม?” เยอึนโพล่งขึ้นมาเสียงดังทำเอาสมาชิกที่นั่งเอกเขนกอย่างเบื่อหน่ายในบ้านพักหันมามองกันเป็นตาเดียว

    “พี่เป็นอะไรของพี่เนี๊ยะ!! พี่เยอึน....” ยุนอาเอ่ยถามงงๆกับอาการรุ่นพี่และพี่เขย?ของเธอ ที่อยู่ๆก็ลุกขึ้นมาโวยวายเสียงดังกลางวง ทั้งๆที่เธอกำลังนอนหนุนตักซอฮยอนหลับสบายๆเลยเชียว....

    “ไม่มีอะไรหรอกยุน เยอึนคงเบื่อน่ะ” ซอนเยเป็นคนตอบคำถามของยุนอา ในขณะที่คนถูกถามเอาแต่มองซ้ายมองขวามองหาคนที่เธอเอ่ยชื่อถึง ซอนเยกระตุกดึงคนรักลงมานั้งข้างกาย

    “จะหาไปทำไมเล่า พวกนั้นก็คงขลุกกันอยู่ในห้องนั่นแหละ...” เยอึนหันมามองซอนเยเล็กน้อย

    “งั้นเราไปขลุกกันในห้องบ้างไหม?” แทนคำตอบคือฝ่ามือที่พาดลงบนต้นแขนคนเอ่ยชวนเรียกเสียงหัวเราะขำๆยุนอาได้เป็นอย่างดี เยอึนหันไปมองรุ่นน้องตาเขียว

    “ถึงอยู่ทามกลางธรรมชาติ แต่ไม่มีอะไรทำเลยเนี๊ยะ มันก็เซ็งดีเหมือนกันนะ... เฮ้อออ อยากเล่นเปียโนจังเลย” ซอฮยอนพูดขึ้นมาลอยๆทำเอายุนอาตาโตขึ้นมาทันที เจ้าตัวเด้งตัวเองขึ้นมาจากตักซอฮยอนทันที

    “จริงด้วยซิ ที่นี่มีที่เที่ยวที่ไหนน่าเที่ยวบ้างอ่ะ ยุนอยากไปเที่ยวบ้าง ไม่ใช่อยู่แต่ในบ้านแบบนี้” ยุนอาพูดเพ้อๆ

    “พี่ถึงได้ถามหาเจ้าของบ้านไง!!” เยอึนได้ที พูดสมทบขึ้นมา

    “จะว่าไป เจ้าที่ก็นั่งอยู่นี่อีกคนนี่ ไม่ถามดูล่ะ” ฮโยยอนพูดสมทบขึ้นมา นิ้วชี้ชี้ไปหาซูยองที่นั่งอิงไหล่ซันนี่อยู่

    ซูยองยิ้มแหยขึ้นมาทันที

    “มาถามอะไรป่านี้ละค่ะ คุณ คุณ ทั้งหลาย นี่มันก็จะบ่ายสามโมงแล้วนะ ขับรถออกไปตอนนี้ก็ได้เที่ยวนิดเดียว ไม่เต็มอิ่มอ่ะ ไว้เที่ยวพรุ้งนี้ดีกว่าไหม?” ซูยองเสนอขึ้นมาทันทีที่ทั้งหมดหันมามองเธอเป็นตาเดียว ไม่เว้นแม้แต่คนข้างกายเธออย่างซันนี่ด้วย

    “อ้าวแทแท...หิวแล้วหรอถึงได้ออกมานอกห้องได้น่ะ” ซันนี่เอ่ยแซวทันทีที่สังเกตเห็นแทยอนเดินเข้ามา

    “แล้วฟานี่ละ? ไม่ออกมากินข้าวด้วยกันหรอ?” ซันนี่ยังคงถามหาอีกคนต่อ แทยอนยิ้มบางๆขึ้นมาทันที

    “ดูเหมือนฟานี่จะไข้ขึ้นน่ะ ก็เลยนอนอยู่ในห้อง นี่เดี๋ยวแทว่าจะเอาข้าวเอายาเข้าไปให้กินอยู่” แทยอนพูดจบก็ยกถาดข้าว น้ำ และยาเดินกลับเข้าห้องไป ซอนเยที่มองตามหลังไปส่ายหน้าเล็กน้อย

    “สงสัยเราคงต้องเที่ยวพรุ้งนี้ตามที่ซูยองบอกแล้วละ....” ยุนอาถอนหายใจเล็กน้อย ไม่ต่างจากเยอึน และซอฮยอนมากนัก

    .

    .

    .

    .

    แสงแดดยามเช้าท่อประกายแสงอ่อนๆปลุกให้คนที่หลับใหลได้ลืมตาตื่น ทิฟฟานี่ขยับกายเล็กน้อยเพื่อซุกตัวเข้ากับอ้อมกอดของคนข้างกาย หากแต่ร่างที่ควรจะอยู่เคียงข้างกลับหายไปเสียอย่างนั้น ทั้งๆที่ยังง่วงแสนง่วง แต่เมื่อคนที่เธอรักไม่ได้นอนอยู่เคียงข้างกายก็ทำเอาเจ้าตัวนอนไม่หลับ ถึงกับต้องลุกขึ้นจากเตียงทั้งๆที่ยังคงอาการงัวเงียเต็มที่

    สองเท้าเดินออกไปนอกห้องก็พบว่าคนรักของเธอกำลังจัดแซนวิทใส่กล่องใบใหญ่ ทำอย่างกับกำลังจะไปปิกนิกที่ไหน โดยที่ข้างๆกายมีซอฮยอนและซอนเยช่วยกันทำแซนวิทอย่างขันแข็ง

    “ฟานี่ตกข่าวหรือเปล่า? เหมือนว่าทุกคนกำลังจะเตรียมตัวไปเที่ยวนะ” ซอนเยส่งยิ้มบางๆให้ทิฟฟานี่ทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาจากกองขนมบังที่เธอกำลังตัดขอบมาสบตา

    “วันนี้เราจะไปเที่ยวข้างนอกกัน ฟานี่ก็ไปอาบน้ำแต่งตัวซิ จะได้ไปกันเร็วๆ” ซอนเยเอ่ยด้วยน้ำเสียงมีความสุข ทิฟฟานี่พยักหน้าลงเล็กน้อย เธอหันหลังกำลังจะเดินกลับห้องตัวเอง แต่ด้วยความสงสัย เธอจึงหันมาถามคนรักเธออีกรอบ

    “แทแทรู้แล้วทำไมไม่บอกทิฟบ้างอ่ะ จะปลุกซักนิดก็ไม่มี” แทยอนทำหน้าเหรอหรา เธอไม่ได้รู้เรื่องอะไรกับเค้าเลย เธอก็แค่ตื่นขึ้นมากินน้ำ แล้วเห็นซอนเยกับซอฮยอนกำลังทำแซนวิทเลยจะมาขอกินซักชิ้น แต่กลับโดนใช้งานเสียอย่างนั้น

    “ฟานี่ไม่ต้องไปงอนแทหรอก แทก็พึ่งรู้เมื่อกี้ตอนที่พี่ซอนเยใช่งานนี่แหละ” ยูริที่พึ่งเดินเข้ามาเอ่ยตอบแทนคนที่ยังคงทำหน้าเหรอหราอยู่อย่างนั้น ทิฟฟานี่พยักหน้ารับเล็กน้อย ก่อนจะหันหลังกลับไปยังห้องตัวเอง

    ซอนเยนึกขึ้นได้ว่ายูบิน ฮยอนอา และคนรักของเธอยังไม่ได้ลุกขึ้นจากที่นอนก็ฝากให้ยูริช่วยทำแซนวิทต่อ ก่อนที่เธอจะผละตัวไปปลุกคนที่บ่นว่าเบื่อ อยากเที่ยวที่ยังคงนอนอุตุอยู่ในห้องนอน...

    .

    .

    .

    .

    ยุนอาหมุนตัวไปมาไม่รู้ว่าจะขึ้นรถคันไหนดี ในเมื่อคันโน้นก็เต็ม คันนี้ก็แน่น อีกคันก็ไม่สนิทและสุดท้ายเธอก็ตัดสินใจไปอีกคันนึงที่พึ่งมาจอดเทียบแทน กลับกลายเป็นว่า การไปเที่ยวครั้งนี้ ต้องพารถไปถึงสี่คัน ด้วยจำนวนคนที่มากถึงสิบห้าคน การพารถไปสี่คันมันทำให้ภายในรถไม่แน่นมากนัก

    รถของซูยองมีซันนี่นั่งอยู่เคียงข้างกายและเบาะด้านหลังก็มีฮโยยอนนั่งเป็นคุณนายกอดสัมภาระ อีกอีกนัยนึงมันก็คือกล่องอาหารและขนมขบเคี้ยว รวมถึงน้ำอยู่ เป็นคนนำทางรถที่เหลือให้ขับตาม จุดมุ่งหมายแรกที่เจ้าตัวตั้งใจจะพาไปก็คือ ATV หรือก็คือ รถมอเตอร์ไซด์วิบากที่มีสี่ล้อ ที่เกาะเชจูแห่งนี้จะมีบริการให้เช่าขับเล่นด้วยราคาที่ไม่แพงมากนัก

    ที่เธอเลือกพาทั้งหมดไปขับรถ ATV นี่ก็เพราะ ความชอบส่วนตัวของเธอกับแทยอนล้วนๆ ที่ไม่ว่าจะมาเกาะเชจูกี่ครั้งก็ไม่พลาดที่จะแวะมาขับเจ้ารถนี่เล่นประลองฝีมือกัน

    “ฮึ!....แสบนักนะเจ้าซู นี่กะจะท้าแข่งอีกละซิ” แทยอนเปรยขึ้นมาเสียงแผ่ว เมื่อเห็นเส้นทางที่ซูยองขับนำไป ทำเอายูบินที่เป็นคนขับ รวมถึงฮยอนอาและทิฟฟานี่ทำหน้างง

    “อะไรหรอแท ท้าแข่งอะไร?” เป็นยูบินที่เอ่ยถามขึ้นมาอย่างสงสัย แทยอนยิ้มแหยขึ้นมาทันที

    “แข่งขับรถ ATV อะคะ ดูจากรถพี่ที่จอดที่บ้านแต่ละคัน ท่าทางพี่ยูบินน่าจะชอบนะ” ยูบินยิ้มกว้างขึ้นมาทันที

    “งั้นก็ขอพี่แข่งด้วยคนก็แล้วกันนะน้อง...”

    .

    .

    .

    .

    รถATVจำนวน7คันเข้าประจำที่เตรียมที่จะแข่งหลังจากได้ฟังการอบรมการขับและทดลองขับในลานซ้อมเป็นที่เรียบร้อย และรถทั้ง7คันนี้ก็เตรียมที่จะออกตัวแข่งในลานซ้อมเช่นกัน หาใช่บริเวณถนนภายนอกบริเวณสนามจริง นั่นก็เพราะเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ เพราะถ้าหากลงไปขับแข่งกันในสนามจริงอาจมีการบาดเจ็บกันบ้างละ ในเมื่อด้านนอกสนามจริงนั้นมันมีทั้งทางลาด ทางชัน เนินสูง โค้งต่างๆขึ้นลงตลอดทาง หากขับแข่งกันเร็วๆอาจเกิดอันตรายได้

    “เตรียมตัวแพ้หรือยังซู....” แทยอนชะโงกหน้าไปมองรถที่จอดถัดจากรถเธอสองคัน

    “ไม่มีทาง คราวนี้ฉันชนะแกแน่ๆแท” ซูยองเอ่ยกลับ ทำเอาคนที่อยู่ระหว่างกลางของรถATVที่แทยอนและซูยองนั่งอยู่อย่างยูริและยุนอามองหน้ากันตาปริบๆ

    “น้อยๆหน่อย นี่ไม่ได้แข่งกันแค่สองคนนะ” ยูริเอ่ยแทรก

    “คราวนี้ขอยุนชนะแล้วกันนะคะ”สิ้นสุดเสียงยุนอา รถก็ถูกปล่อยตัวออก โดยมีซูยองขับนำมาสูสีกับเยอึน ยูริและยูบิน ในขณะที่ฮโยยอนแทยอนและยุนอาขับตามมาติดๆ

    ข้างๆลานซ้อมมีอีก8คนที่เหลือนั่งมองอยู่อย่างเบื่อหน่าย รถขับวนเป็นรอบที่สองแล้วหากแต่ก็ยังไม่ครบรอบที่ตกลงกันเอาไว้ ทำให้การแข่งครั้งนี้ยังไม่สิ้นสุด

    “เฮ้อ.....นี่ต้องรอจนกว่าพวกนั้นจะแข่งกันเสร็จใช่ไหม ถึงจะขับเจ้านี่ไปดูวิวด้านนอกได้น่ะ” ซันนี่เปรยขึ้นมาเสียงดังพอจะให้สมาชิกที่เหลือหันมามองเจ้าตัวที่กำลังนั่งจับๆลูบๆรถATVข้างกาย

    “ถ้าซันอยากแข่งก็ลงไปแข่งกับพวกพี่ยูบิน แทแท โน้นซิ” ทิฟฟานี่เอ่ยเสนอ หากแต่ซันนี่กลับส่ายหน้ารัว

    “เปล่าอยากแข่ง แต่อยากขับ ขับไปเรื่อยๆน่ะ ไม่ใช่ขับแข่งกันเหมือที่ซูกำลังทำ...” พูดจบซันนี่ก็หันไปสนใจในลานซ้อมที่บัดนี้กลายสภาพเป็นสนามแข่งรถATVเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    รถเคลื่อนตัวเป็นรอบที่5ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของการแข่ง คนที่ขับนำมาจากตอนแรกที่เป็นซูยองกลับกลายมาเป็นฮโยยอนและยูบิน ในขณะที่แทยอน ยุนอา และยูริขับรั้งมาติดๆ และคนท้าแข่งอย่างซูยองกลับขับรั้งท้ายมากับเยอึน และกลายเป็นยูริที่แซงขึ้นมาในตอนท้ายจนเข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ตามมาด้วยฮโยยอนและแทยอนตามมาเป็นลำดับ จากนั้นก็เป็นยุนอา ยูบิน ซูยอง และเยอึน

    รถเคลื่อนตัวจนจอดสนิท ซูยองก้าวลงจากรถอย่างหมดแรง นี่คราวนี้เธอแพ้หมดรูปขนาดเกือบจะเข้ามาเป็นอันดับสุดท้ายไปเสียแล้ว ดีหน่อยที่มีคนขับได้ช้ากว่าเธอทำให้เธอไม่ต้องเข้ามาเป็นที่โหล่ให้เสียหน้ามากนัก แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็ยังรู้สึกเสียหน้าอยู่ดี ก็เธอเป็นคนท้าเค้านี่......น่าอายชะมัด!!

    “ฮ่า ฮ่า ฮ่า ขอโทษด้วยนะ ที่คราวนี้ยูลชนะ” ยูริรีบพูดโอ้ขึ้นมาทันทีที่ลงจากรถ เจสสิก้ารีบวิ่งมาหาพร้อมซับเหงื่อให้ยูริ ทำเอาคนอื่นๆอิจฉากันเป็นทิวแถว

    “อ่า ซอจ๋า ซับเหงื่อให้พี่บ้างซิ” ยุนอาหันไปอ้อนคนรักที่เดินตามมาสบทบกับคนที่เหลือ ซอฮยอนเองก็ไม่ขับรีบซับเหงื่อให้ยุนอาทันที

    “โอ้ย!! อิจฉาคนมีคู่..... กรุณาอย่ามาสวีทกันได้ไหม?” ฮโยยอนโวยขึ้นมาเสียงดังทำเอาแทยอนหัวเราะลั่น

    “ฮโยก็หาคู่กับเค้าบ้างซิ” ซันนี่เอ่ยแซวทำเอาฮโยยอนสะอึก ไอ้อยากมีคู่ก็อยากมีอยู่หรอก แต่จะให้เธอไปหาเอาที่ไหนเล่า คนที่เธอมีใจให้ก็โดนเพื่อนคาบไปกินเสียแล้ว จะให้ทำใจให้มันรวดเร็วแล้วไปหาคนใหม่มันก็ไม่ง่ายนักหรอก

    ซูยองเห็นสีหน้าเพื่อนไม่ดีนักจึงชวนทั้งหมดไปขับรถที่สนามจริงรอบๆเพื่อชมวิวธรรมชาติแทน ซึ่งซันนี่ก็รีบกระโดดขึ้นรถทันทีอย่างไม่ต้องให้บอกซ้ำสอง ทำเอาซูยองส่ายหน้าขำๆ

    และแล้วรถก็เคลื่อนตัวไปยังสนามจริงด้านนอกเพื่อดูวิวธรรมชาติสองข้างทาง จนวนกลับมายังจุดเดิมที่พวกเธอเช่ารถ ซึ่งก็กินเวลาไปเกือบสองชั่วโมง ทำเอาทั้งหมดหิวและตัดสินใจกินแซนวิทที่ทำมาเสียที เมื่อซูยองเอ่ยบอกว่าจะพาไปที่หมู่บ้านวัฒนธรรมเชจูเป็นที่ต่อไป และทานข้าวเที่ยงเอาที่นั่นเลย

    หลังจากกินแซนวิทกันจนอิ่ม ขบวนรถก็แล่นไปยังจุดหมายใหม่ทันที สองข้างทางมีดอกยูเชสีเหลืองเต็มไปหมดดูน่าตื่นตาจนคนชอบถ่ายภาพอย่างยูริแอบเสียดายที่ไม่ได้พากล้องถ่ายรูปมาด้วย เจ้าตัวจึงทำได้เพียงแค่หยิบโทรศัพท์มือถือมาถ่ายภาพเท่านั้น แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจเท่าไหร่นักเมื่อเมมโมรี่ของโทรศัพท์มันเต็มเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ จนเธอต้องคว้าโทรศัพท์มือถือของคนรักมาถ่ายภาพที่สวยงามของหมู่บ้านแห่งนี้ต่อ....

    ภายในหมู่บ้านวัฒนธรรมมีการจัดแสดงในเห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนบนเกาะแห่งนี้ ว่าในอดีตใช้ชีวิตอย่างไร มีบ้านเกาหลีโบราณ บ้านของชาวเกาะเชจู มีทั้งบ้านขุนนางระดับสูง ไปจนถึงโรงเลี้ยงสัตว์ ลานประหารนักโทษและหลากหลายวิธีทรมานนักโทษให้ได้ทดลองและเรียนรู้และมันก็ทำเอาเยอึนและยูบินสนุกมากมายกับการได้แกล้งจับคนรักของตัวเองมาแกล้งเล่นโดยการจับไปนั่งแท่นประหาร ทำเอาฮยอนอาและซอนเยวิ่งจูงมือหนีคนรักเป็นการใหญ่

    ในขณะที่ยุนอาและแทยอนกลับเป็นฝ่ายช่วยสนับสนุนโดยการ ยื่นอุปกรณ์ทรมาณชิ้นโน้นชิ้นนี้ให้ยูบินและเยอึน และนั่นมันทำให้พวกเธอโดนแกล้งจากของพวกนั้นเอง เมื่อคนรักของยูบินและเยอึนวิ่งหนีพวกเธอไป.... นี่แหละมั้งที่เค้าเรียกว่าให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว!!

    ทิฟฟานี่ ซอฮยอนและยูริเอาแต่หัวเราะขำโดยที่ไม่มีใครคิดจะช่วยเหลือทั้งคู่เลย ในขณะที่คนที่เหลือได้แต่มองดูอุปกรณ์การทรมาณของนักโทษอย่างสนใจ โดยไม่ได้สนใจคนที่กำลังเล่นกันสนุกสนานอยู่เลย...

    หลังจากเล่นกันสนุกสนานกันพอสมควรแล้ว ไกด์จำเป็นอย่างซูยองก็พาทั้งหมดมาดูการประมงของสาวเอียนโยบนเกาะ ที่กำลังช่วยกันจับปลาอยู่ ทั้งหมดมองด้วยความตื่นตากับวิธีการจับปลาที่ดูแปลกประหลาด และดูเหมือนว่าชุดประมงสีดำและแว่นตาดำน้ำที่สาวเอียนโยใส่มันจะดึงดูดให้พวกเธอสนใจจนลืมเวลาไปเลย

    ซอนมีดูจะตื่นเต้นที่ได้เห็นประเพณี วัฒนธรรมการเป็นอยู่ของชาวเกาะเชจูรวมถึงหมู่บ้านประมงและตลาดของที่นี่ด้วย จนเจ้าตัวลืมเวลาไปเลยว่าล่วงเลยไปเกือบบ่ายโมงแล้ว และสิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกตัวว่าเธอกำลังเพลิดเพลินจนเกินเหตุมันก็คงเป็นเพราะท้องที่ร้องออกมาเสียงดังจนโซฮีหัวเราะขำนั่นล่ะมั้ง.....

    “กินข้าวกันเถอะ!!” ไม่ต้องรอให้บอกซ้ำรอบสอง คนทั้งหมดก็เดินตามคนเอ่ยชวนอย่างซูยองเข้าร้านอาหารไปอย่างรวดเร็ว

    หลังจากที่ทั้งหมดกินข้าวปลาอาหารกันอิ่มหนำสำราญเป็นที่เรียบร้อย ซูยองก็ทำตัวเป็นไกด์นำเที่ยวที่ดีโดยการนำทางพาคนทั้งหมดไปที่จำหน่ายของที่ระลึกและการแสดง และด้วยพื้นที่กว้างขวางกับของที่ระลึกที่ขายมีเยอะแยะมากมายจนทั้งหมดเดินเที่ยวกันจนปวดขา และต่างก็หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันอย่างสนุก

    ซูยองหันไปมองค้อนเจ้าบ้านอีกคนอย่างแทยอนที่เอาแต่กระหนุงกระหนิงกับทิฟฟานี่ ทั้งๆที่ทั้งสองคนก็มีความรู้เรื่องท่องเที่ยวในเกาะเชจูมากพอๆกันแท้ๆ แต่อีกคนกลับไม่ได้คิดที่จะช่วยคิดเลยว่าควรจะไปเที่ยวที่ไหนต่อบนเกาะแห่งนี้ และก็ทิ้งให้เธอทำหน้าที่นี้คนเดียวจนเวลาล่วงเลยมาถึงบ่ายสามโมงเข้าไปแล้ว.....

    “แท แกไม่คิดจะช่วยเป็นไกด์เลยซักนิดหรอ ตอนนี้ฉันคิดไม่ออกแล้วว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนกันต่อดี” ซูยองบ่นออกมาเบาๆเมื่อเห็นทั้งหมดกำลังสนใจเลือกซื้อของที่ระลึก

    “ง่ายจะตายเราก็ไปที่นั่นซิ....” แทยอนมองขึ้นไปข้างบนยอดเขา ซูยองตาโตขึ้นมาทันที

    “ฉันลืมไปได้ไงเนี๊ยะ เรายังไม่ได้ขึ้นไปที่นั่นนี่นา” ซันนี่มองดูทั้งสองคนกระซิบกระซาบกันด้วยความสงสัย

    “ลืมไปไหนกันหรอ?” แทยอนยิ้มกว้างทันที

    “นี่ ทุกๆคน.....” ทั้งหมดหันมามองแทยอนเป็นตาเดียวกัน

    “อะไรหรอแท...” เจสสิก้าถามด้วยความสงสัย แทยอนยิ้มกว้างมากกว้าเดิมมากนัก นิ้วเรียวชี้ขึ้นไปบนยอดเขา

    “เราไปที่นั่นกันเถอะ!!”

    “บนเขาหรอ? ขึ้นไปทำไม?” ทิฟฟานี่ถามอย่างสงสัย

    “ไม่ใช่เขาธรรมดานะ เพราะมันคือมรดกโลก......” แทยอนพูดได้น่างงมากมาย จนซูยองเขกหัวแรงๆไปหนึ่งที

    “เลิกรั่วได้แล้วไอ้แท แกก็บอกเขาไปซิ.....” ซูยองหันมายิ้มแหยให้คนที่มองพวกเธองงๆ

    ยอดเขา ชงซัน อิลชุลบง น่ะ” ซูยองพูดด้วยรอยยิ้ม

    “ใช่แล้ว......ชงซัน อิลชุลบงมันมีความหมายว่า "จุดสูงสุดที่พระอาทิตย์ขึ้น" เป็นปากปล่องภูเขาไฟมีลักษณะเหมือนมงกุฎ เป็นหนึ่งในภูเขาไฟ 360 ลูกที่อยู่บนเกาะ อยู่ติดริมทะเล ความงามติดอันดับหนึ่งในสิบของสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยที่สุดของเกาะเชจู และที่สำคัญมันมีฐานะเป็นมรดกโลกด้วย” แทยอนพูดยิ้มๆ ทำเอาที่เหลืออึ้งไปตามๆกัน ไม่เว้นแม้แต่ซูยองก็ด้วย

    “แกจะอธิบายอะไรละเอียดขนาดนั้นห๊ะแท ทำเหมือนกับแกเป็นไกด์จริงๆเลยนะ!!” ซูยองเอ่ยจิก

    “ก็แกบอกให้ช่วยเป็นไกด์ไม่ใช่หรอ...” แทยอนพูดยิ้มๆ ในขณะที่ทิฟฟานี่ทำหน้าตาภูมิใจมากมายที่แฟนตัวเองไม่ได้มีดีที่น่ารัก ยิ้มเก่ง และรั่วอย่างเดียว วันนี้เธอพึ่งรู้นี่ละว่า แทยอนฉลาดด้วย!!

    ทั้งหมดออกเดินขึ้นยอดเขา ชงซัน อิลชุลบงทันที และทิวทัศน์บนเขาก็ไม่ได้ทำให้พวกเธอผิดหวังเลยซักนิด อากาศบนยอดเขาสดชื่นมาก ทุ่งหญ้าเขียวขจี ดอกไม้เล็กๆสีสวยสีชมพูอมม่วงบานแซมกับทุ่งหญ้าเป็นระยะ มีม้าหลายตัวกำลังเล็มหญ้าอยู่ ม้าพวกนี้เป็นม้าที่เลี้ยงไว้สำหรับให้นักท่องเที่ยวที่สนใจร่วมถ่ายรูปกับม้า ยิ่งสูงวิวยิ่งสวยมองเห็นทะเลและบ้านเรือนที่อยู่ข้างล่างช่างสวยงาม และสดชื่นในความรู้สึกมากมายเสียเจสสิก้ากับทิฟฟานี่แทบไม่อยากลงจากเขากันเลยทีเดียว นี่ถ้าแทยอนไม่ขู่ว่าจะทิ้งให้เป็นชาวเขาอยู่บนยอดเขา ทั้งสองคนคงจะยังนั่งเล่นกับม้าไม่ยอมกลับเป็นแน่....

    และเมื่อทั้งหมดลงมาจากเขาเป็นที่เรียบร้อยก็กินเวลาเข้าไปเกือบบ่ายสี่โมงครึ่งแล้ว แทยอนเลยบอกให้ซูยองขับรถกลับบ้านพัก ที่จริงยังมี่ที่ท่องเที่ยวใกล้ๆกันนี้อีกเยอะแยะ แต่ด้วยความที่ทั้งหมดจะมาเที่ยวแล้วไม่ได้บอกเธอล่วงหน้า มันเลยทำให้เธอไม่สามารถวางโปรแกรมการท่องเที่ยวที่คุ้มค่ากับเวลาได้เลย

    “แทอ่ะ ทิฟอยากเที่ยวต่อนี่นา...” ทิฟฟานี่บ่นอุบเมื่อคนรักสั่งให้เพื่อนตัวสูงกลับบ้านพักทันทีที่ทั้งหมดเดินลงเขามาเรียบร้อย

    “ไว้เที่ยวต่อพรุ่งนี้นะ วันนี้มันจะเย็นแล้ว เดี๋ยวกลับบ้านพักดึก” ทิฟฟานี่ยู่ปากลงเล็กน้อย

    “เอาไว้เดี๋ยวกลับไปที่บ้านพัก เราเปลี่ยนบรรยากาศไปกินข้าวที่โรงแรมชเวใกล้ๆกันดีกว่า ชั้นอาหารบนสุดของที่นั่นติดกระจกใสรอบทั้งสี่ด้านเลยนะ มองวิวทะเลจากที่นั่นสวยมากๆเลย” คำพูดของแทยอนทำให้ทิฟฟานี่ตาวาวขึ้นมาทันที ในขณะที่ซูยองแอบปาดเหงื่อทันที นี่ถ้าแทยอนไม่พูดถึงโรงแรมในเครือของเธอขึ้นมา เธอคงจะลืมไปแล้วว่าโซฮีมีหุ้นส่วนอยู่ที่นั่นด้วย และที่สำคัญที่สุด เธอยังไม่ได้บอกแทยอน!!

    “แกยังไม่ได้บอกใช่ไหมซู...” ฮโยยอนกระซิบถามเพื่อนที่พยักหน้าลงเล็กน้อย เจ้าตัวเดินปลีกตัวออกไปอีกทางก่อนที่จะถึงจุดที่พวกเธอจอดรถเอาไว้ ก่อนจะกดโทรศัพท์เข้าไปสั่งงานกับลูกน้องในโรงแรมว่าเธอกำลังจะเข้าไป และช่วยทำเหมือนกับว่าเธอคือลูกค้าด้วย....

    ไม่ช้าขบวนรถทั้งหมดก็เคลื่อนที่เข้ามาจอดในที่จอดรถของโรงแรม ซูยองแกล้งเดินรั้งท้ายเพื่อที่จะขอคุยกับโซฮีเป็นพิเศษ ซึ่งดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะรู้ว่าคนตัวสูงต้องการอะไรจึงยิ้มบางๆให้ทันทีที่ซูยองเดินมาเทียบข้างกาย

    “ไม่ต้องพูดหรอก ฉันรู้หรอกน่าว่าควรจะทำยังไง” โซฮีรีบพูดแทรกทันทีที่ซูยองอ้าปากจะพูด นั่นทำให้คนตัวสูงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกทันที

    ทิฟฟานี่เกาะแขนคนรักแน่น แล้วก็นึกขึ้นมาได้ว่าคนตัวเล็กยังไม่ได้เช็คเอ้าท์ออกจากโรงแรมนี่เลย เมื่อตอนที่เจ้าตัวหนีมานอนที่นี่ และมีเรื่องกับซันนี่เข้าจึงเอ่ยทักคนรักทันที

    “แทแท ทิฟว่าเมื่อวันก่อนที่เรามาค้างที่นี่แทแทยังไม่ได้เช็คเอ้าท์เลยไม่ใช่หรอ?” สิ้นสุดคำพูด คนตัวเล็กก็สะดุ้งขึ้นมาเล็กน้อย

    “เช็คเอ้าท์แล้ว ใครบอกว่ายังไม่ได้เช็คเอ้าท์ล่ะ”

    “ตอนไหนอ่ะ ทำไมทิฟไม่เห็นรู้เลย.....” ทิฟฟานี่ถามขึ้นมาอย่างสงสัย คนตัวเล็กออกจะตัวติดกับเธอยี่สิบสี่ชั่วโมง แล้วจะเอาเวลาไหนไปเช็คเอ้าท์ออกโดยที่เธอไม่รู้กันล่ะ?

    “ก็ตอนที่ทิฟออกไปคุยกับซันข้างนอกไง แทให้ซูยองไปเช็คเอ้าท์ออกให้แล้ว” แทยอนนึกคำแก้ตัวขึ้นมาได้อย่างหวุดหวิด ทิฟฟานี่พยักหน้าเข้าใจขึ้นมาทันที

    แทยอนหันไปสบตาซูยองแล้วทำท่าปาดเหงื่อให้ซูยองหัวเราะขำ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เข้าใจว่าเพื่อนตัวเล็กหมายถึงอะไรก็ตามเถอะ แต่มันคงเป็นเรื่องที่เจ้าตัวเหนื่อยใจไม่น้อยเลยทีเดียวถึงได้มีอาการอย่างนั้นให้เธอเห็น...

    ................................................................

    อันนยองฮาเซโยค่ะ...ตอนใหม่มาแล้ว มาแล้ว มาแล้ว

    อิอิ คราวนี้มีเสียงแอคโค้ด้วยอ่ะ *0*

    คิดถึงซึนกีกันหรือเปล่า โย่ว.......

    คือซึนกีจะบอกว่า ตอนหน้าก็ยังคงต้องไปเที่ยวกันต่ออีกซักหน่อย เพราะคราวนี้พามาเที่ยวไม่หมดล่ะ!!

    เกาะเชจูนี่มีที่เที่ยวเยอะดีจริงๆ ^^

    เอาล่ะ... ซึนกีไม่กวนแล้ว เอาเป็นว่าเหมือนเดิมเลยก็แล้วกันค่ะ

    อ่านให้สนุกแล้วขอคอมเม้นด้วยน๊า ~

                                                                                                                               BY:ฮันซึนกี

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×