คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เพลิงแค้น ...ลวงรัก 1
[เพลิงแค้น.....ลวงรัก Part 1]
ยูริลูบผมน้องสาวที่นอนหลับตาพริ้มบนเตียงอย่างอ่อนโยน ใบหน้าในยามหลับช่างไร้เดียงสาเสียจนเธออดคิดขึ้นมาไม่ได้ว่า เจ้าตัวเคยเจอเรื่องร้ายๆอะไรมาบ้างในช่วงเวลาที่ผ่านมา ดวงตาเริ่มแข็งกร้าวขึ้นมาทันทีเมื่อนึกถึงเหตุการณ์นั้น เหตุการณ์ที่ทำให้น้องสาวเธอเกือบจะเป็นบ้าและเธอแทบประสาทกิน!! จนเธอต้องส่งตัวน้องสาวเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการหวาดวิตกและซึมเศร้าเกือบหกเดือน....
วันนี้เป็นวันที่ห้าที่เธอรับตัวยุนอากลับมาอยู่ที่บ้าน หลังจากอาการของน้องสาวทุเลาลงจนเรียกได้ว่าเกือบหายเป็นปกติ แต่เพราะสภาพแวดล้อมในบ้าน ในที่เดิมๆมันทำให้อาการของยุนอากำเริบทุกครั้งที่อยู่คนเดียว ถึงแม้ในช่วงเวลานั้น เธอจะอยู่อีกห้องที่อยู่ติดกันก็ตาม ยุนอาก็ยังคงมีอาการหวาดกลัวอยู่ดี ท้ายสุดเธอเลยต้องย้ายที่นอน หมอน และผ้าห่มของน้องสาวมานอนกับเธอเป็นการถาวร แต่ก็อีกนั่นแหละ ในที่เดิมๆ บรรยากาศรอบๆบ้านมันก็ยังคงเหมือนเดิม มันจึงไม่ได้ช่วยให้เธอลืมเรื่องราวในคืนวันนั้นได้เหมือนกัน ไม่ใช่เพียงแค่น้องสาวเธอไม่ลืม เธอเองก็ไม่เคยที่จะลืม.....
ตอนนี้ห้องของยุนอากลายเป็นห้องปิดตายของบ้านไปแล้ว แต่เธอก็อดโทษตัวเองไม่ได้และได้แต่เจ็บใจ เพราะถ้าเพียงแต่วันนั้นเธอไม่ได้ออกไปข้างนอก ถ้าเพียงแต่ในวันนั้นเธออยู่บ้านกับน้องสาว เรื่องแบบนั้นคงไม่เกิดขึ้น น้องสาวเธอก็จะไม่ตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ทุกครั้งที่เดินผ่านหน้าห้องนั้น ราวกับว่ามันกำลังตอกย้ำความผิดพลาดของเธอ สุดท้าย เมื่อสภาพรอบๆบ้านมันทำให้เกิดความรู้สึกผิดปนความโกรธแค้นสุมทรวงจนทนไม่ไหว ยูริก็ตัดสินใจขายบ้านหลังนี้ บ้านที่เป็นมรดกเพียงชิ้นเดียวของพ่อและแม่ที่อยู่บนสวรรค์ เธอเลือกที่จะซื้อคอนโดระดับปลานกลางที่ใกล้กับที่ทำงานของเธอและย้ายเข้าไปอยู่ในคอนโดนั่นแทน....
ที่ทำงาน ที่เธอเกือบจะโดนไล่ออก เพราะเป็นห่วงน้องสาวจนต้องลางานบ่อยๆ ถ้าเพียงแต่เธอไม่ได้มีคู่หมั้นเป็นผู้บริหารของบริษัทเธอคงไม่มีทางที่จะได้ทำงานอยู่ในบริษัทนี้อีกต่อไปแล้ว และถึงแม้ว่าใครจะมองเธอว่าร้ายเธออย่างไรที่ดูเหมือนเธอจะใช้เส้นสายเพื่อการทำงานต่อในบริษัท แต่เธอก็ไม่แคร์อยู่ดี ขอเพียงแค่คนรักเธอเข้าใจเธอก็เป็นพอ....
หลังจากเหตุการณ์นั้นผ่านไปเกือบปี ร่างสูงที่ตามสืบเรื่องราวของคนที่ทำร้ายน้องสาวของเธอได้ในระดับหนึ่ง ก็ได้ข้อมูลที่ทำเอาเธอรู้สึกรังเกลียด สะอิดสะเอียน กับ จอง เจสสิก้า มากขึ้นไปอีก เมื่อเธอพบว่ายัยคนวิปริตผิดเพศนั่น เปิดผับกึ่งๆโฮสต์คลับแบบญี่ปุ่นอยู่ในกรุงโซล ซึ่งเธอจะไม่รู้สึกอะไรเลยจริงๆ ถ้าโฮสต์คลับที่ว่านั่นไม่ได้เป็นโฮสต์คลับสำหรับผู้หญิง! ที่มีผู้หญิงด้วยกันเป็นโฮสต์ต้อนรับ! แถมโฮสต์ที่คลับของ จอง เจสสิก้านี่ มันก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนขายบริการเลยซักนิด! แค่มันดูไฮโซกว่าสถานที่พวกนั้น และมันก็เป็นที่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะใช้บริการได้
ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในสมองยามที่ได้รับข้อมูลนี้มาก็คือ ‘ยัยนี่....วิปริต’ ซึ่งเธอก็คิดอย่างนั้นจริงๆกับ จอง เจสสิก้า ส่วนความคิดต่อมาที่ผุดขึ้นในสมองก็คือ ‘นี่จะเป็นช่องทางที่ทำให้เธอเข้าถึงตัวยัยวิปริตนั่นได้!’ ถึงแม้ว่ามันดูเหมือนเธอจะต้องแลกกับความรู้สึกรังเกียจ ขยะแขยง หรือสะอิดสะเอียนซักแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้ามันเป็นวิธีเดียวที่จะเข้าใกล้ จอง เจสสิก้า คนที่ทำร้ายน้องสาวเธอได้ล่ะก็ ไม่ว่าอะไรเธอก็ยอมทั้งนั้น แม้กระทั้งการมี ‘เซ็กส์’ กับผู้หญิงด้วยกันแบบที่เธอรังเกียจหรือแม้กระทั้งการ ‘ฆ่า’
ยูริตัดสินใจลาออกจากงานที่เธอทำในเวลาต่อมา ถึงแม้เรื่องการลาออกของเธอ จะถูกคนรักของเธอทัดทาน พร้อมทั้งขอเหตุผลอันสมควรที่เขาจะเซ็นอนุมัติการลาออกในครั้งนี้ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับสิ่งที่เธอตั้งใจจะทำเลยแม้แต่น้อย นอกจากยืนกร้านว่าอยากใช้เวลาดูแลน้องสาวของเธออย่างใกล้ชิดเท่านั้น คนรักของเธอ เขาดูเหมือนจะเข้าใจในเหตุผลที่เธอดูจะเป็นห่วงน้องสาวของเธอมากเป็นพิเศษ จึงไม่อาจคัดค้านการลาออก เขาทำได้เพียงคอยช่วยเหลือและดูแลยุนอาให้เธอในบางเวลา ถึงแม้ว่าเขาอยากจะช่วยเหลือมากกว่านี้ แต่ยูริก็ไม่ยอมให้เขาช่วยเหลืออยู่ดี
เขามักคิดเสมอว่า ยูริเป็นคนเข้มแข็งซึ่งมันดี แต่ในบางเวลาเขากลับรู้สึกว่า มันทำให้ยูริยากที่จะเข้าถึง และนั่นเป็นข้อเสียที่เขาอยากให้ยูริเปลี่ยนมันเพื่อเขา....
ทว่าเพียงเพื่อจะเข้าไปทำงานในโฮสต์คลับที่ว่านั่น เธอต้องศึกษาวิธีที่ใช้ปฏิบัติต่อลูกค้า ในฐานะโฮสต์ด้วยการลองเข้าไปใช้บริการโฮสต์คลับที่มีชายหนุ่มรูปงามทำงาน สังเกตเทคนิคที่โฮสต์เหล่านั้นใช้พูดจาเพื่อหว่านล้อมให้เธอเปิดขวดบรรจุเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ราคาแพง คำพูดหวานๆที่เขาใช้ แม้กระทั้งท่าทางและสายตาที่ใช้มองเธอ จนในที่สุดเธอก็พอที่จะล่วงรู้วิธีการง่ายๆสำหรับการเป็นโฮสต์คลับ จากนั้นยูริจึงใช้วิธีเช่าวีดีโอเกี่ยวกับหญิงรักหญิงมาดู ศึกษาเกี่ยวกับขั้นตอน วิธีการทำ ‘เซ็กส์’ ในแบบที่เธอไม่เคยคิดจะทำ และตั้งแง่รังเกียจมันมาตลอด แต่เพราะมันจำเป็นสำหรับการทำงานในโฮสต์คลับของ จอง เจสสิก้า งานที่เธอตัดสินใจแล้วว่าจะทำ และต้องทำให้ได้ เธอถึงต้องศึกษา และอาจจะต้องทำมันทั้งหมด!
ยูริได้แต่หวังว่า สิ่งที่เธอลงทุนทำ มันจะทำให้เธอได้มีโอกาสเข้าใกล้ จอง เจสสิก้า และเมื่อเวลานั้นมาถึงเมื่อไหร่ ก็จะเป็นการเริ่มต้นการชำระเพลิงแค้นที่สุมทรวงอยู่ในอกเธอเสียที!
...............................................................
ร่างเล็กเดินวนไปวนมาหน้าบ้านได้ซักพักใหญ่ นาฬิกาข้อมือเรือนหรูถูกยกขึ้นมามองดูเป็นระยะ ก่อนที่จะเดินกลับเข้าไปนั่งตรงโซฟาตัวยาวของบ้านที่คนผมสั้นกำลังนั่งอ่านหนังสือนิตยาสารด้วยความสบายใจอยู่ อย่างที่เธอเองยังนึกหมั่นไส้ ร่างเล็กมองค้อนคนข้างกายเล็กน้อย แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรไปกับเธอเลยซักนิดจนเธอเลิกสนใจ และเปลี่ยนเป็นผุดลุกผุดนั่งชะโงกคอรอดูน้องสาวตัวเองแทน
“ให้ตายซิ ยัยซันนี่ ป่านี้ยังไม่กลับบ้านอีก” ร่างเล็กบ่นอุบ เมื่อน้องสาวคนเดียวของเธอยังไม่กลับบ้านมาเสียที ทั้งๆที่มันก็เลยเวลาเลิกงานมาเกือบสองชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังไร้วี่แววน้องสาว ทำให้เธออดร้อนใจไปไม่ได้ ยิ่งเวลาก็ล่วงเลยเข้าสู่วันใหม่ไปมากโขด้วยแล้ว ยิ่งทำให้เธอเป็นห่วงน้องสาวมากขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว
“ใจเย็นๆหน่อยสิ แทก็รู้ว่าซันนี่เป็นผู้จัดการร้านเธออาจต้องตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนกลับ แทก็อย่าเป็นห่วงน้องจนOver ไปหน่อยเลย” คนผมสั้นเอ่ยเสียงเรียบมือบางยังคงไล่เปิดหน้าหนังสือนิตยสารในมือต่ออย่างสนใจ คนตัวเล็กหันมาโยนค้อนวงเบ้อเริ้มให้คนผมสั้นที่ยังคงนั่งนิ่งอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร
“แล้วเธอทำงานที่เดียวกัน ทำไมถึงได้กลับมาก่อนถึงสองชั่วโมงล่ะหะ” คนผมสั้นชะงักเล็กน้อย เธอเงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือในมือเพื่อมองคนตัวเล็กที่ยืนกอดอกมองเธออย่างต้องการคำตอบ
“นั่นซิ มันนานไปแล้วนะ? ” คิ้วเรียวสวยขยับเข้าหากันเล็กน้อย หนังสือในมือถูกเจ้าตัววางลงกับโต๊ะตรงหน้า “อืออ อ ถ้าอย่างนั้น ฉันไปนอนก่อนแล้วกัน เริ่มง่วงแล้ว” เธอลุกขึ้นบิดลำตัวไปมาแล้วหันหลังเดินตรงไปยังห้องนอน คนตัวเล็กรีบวิ่งมาดึงแขนอีกคนไว้ทันที
“ทิฟฟานี่! เธอจะไม่รอซันนี่เป็นเพื่อนฉันหน่อยหรอ” ทิฟฟานี่เลิกคิ้วขึ้นสูง รอยยิ้มกวนๆผุดขึ้นบนใบหน้าเรียว
“จะรอทำไมล่ะ? ก็ผู้จัดการบอกฉันแล้วนี่ ว่าวันนี้จะกลับเช้า หรืออาจจะเป็นบ่ายๆโน้นเลย” พูดจบก็หันหลังเดินเข้าห้องไปเลย คนตัวเล็กมองตามแผ่นหลังของอีกคนไปอึ้งๆ
ให้ตายซิ! นี่เธอโดนคนผมสั้นหลอกให้เธอมานั่งรอน้องสาวตั้งสองชั่วโมงเลยหรอ? ทั้งๆที่อีกคนก็รู้อยู่แล้วว่าน้องสาวเธอจะไม่กลับมาในคืนนี้!
“ไอ้บ้า ไอ้จอมแสบ ฝากไว้ก่อนเถอะ!!”
ภายในห้องโรงแรมระดับกลาง ร่างสูงกำลังเข้ารับการฝึกงาน แบบพิสดาร จากผู้จัดการร้านกึ่งๆโฮสต์คลับแบบญี่ปุ่นที่ จอง เจสสิก้า เป็นเจ้าของอยู่ ที่บอกว่ามันพิสดารคงเป็นเพราะ ที่นี่เค้าฝึกงานโดยการมี ‘เซ็กส์’ กับผู้จัดการร้าน ที่จะเป็นคนคัดเลือกสาวเท่ห์ หรือบางทีแค่สาวหน้าตาดีก็อาจได้รับการพิจารณาแล้วอย่างเธอนี่ไงล่ะ
วิชาความรู้ที่เธอศึกษามาก่อนหน้า เทียบไม่ได้เลยกับการทดลองจริงเป็นครั้งแรก และแทบไม่ต้องงัดเอาความรู้ที่ว่านั่นมาใช้เลยสักนิด เมื่อร่างกายของเธอตอบสนองต่อร่างเปลือยเปล่าของอีกคนอย่างเป็นธรรมชาติ ดั่งสัญชาตญาณติดิบในร่างที่ถูกปลุกขึ้นมา
เสียงลมหายใจฟืดฟาดชิดติดริมใบหูพาเอาสมองเตลิดไปไกล เหลือทิ้งไว้เพียงอารมณ์คลุกกรุ่นในทรวงอก ที่รอให้กิจกรรมในร่มผ้าครั้งนี้ช่วยปลดปล่อย
ยูริทิ้งกายนอนลงทาบทับบนร่างเล็กอย่างหมดแรง เมื่อกลับมาเป็นตัวเองอีกครั้งความรู้สึก ‘ขยะแขยง’ ก็แล่นริ้วเข้ามาในจิตใจ แต่เพื่อการแก้แค้นของเธอแล้ว จะให้เธอทำอะไรเธอก็ทำได้ทั้งนั้น แค่มันจะทำให้ไปถึงตัวของ จอง เจสสิก้าได้แล้ว จะให้ทำอะไร เธอก็ทำได้ทั้งนั้นจริงๆ
การฝึกงานแสนจะพิสดารผ่านพ้นไปกับความเร่าร้อนที่เด็กฝึกงานอย่างยูริฝากทิ้งไว้กับคนฝึกงาน ร่างบางพลิกตัวลงนอนเหยียดข้างกายคู่นอนของเธอหรือถ้าจะเรียกให้ถูกก็คือคนฝึกงาน หรืออีกตำแหน่งก็คือ ผู้จัดการร้านอย่างเหนื่อยอ่อน
“ฉันผ่านงานไหม” เธอถามเสียงเรียบสายตามองตรงไปยังเพดานห้องโดยไม่แม้จะหันมามองหน้าอีกคนที่มองมายังเธออย่างหลงใหลด้วยซ้ำ
“ผ่าน......ฉันรับเธอเข้าทำงานตั้งแต่วันนี้เลย” ร่างบางเหยียดยิ้มอย่างพอใจในคำตอบก่อนจะดันตัวเองขึ้นจากที่นอนแล้วรีบคว้าเสื้อผ้าที่เธอถอดมันโยนทิ้งขึ้นมาสวมใส่อย่างรีบร้อน
“เธอจะรีบไปไหนหรือ ควอน ยูริ” ร่างเล็กยื้อแขนอีกคนเอาไว้แน่น สายตามองอีกคนอย่างต้องการสื่อความหมายให้อยู่ต่อ
“นี่ผู้จัดการ การฝึกงานก็จบลงแล้ว ฉันก็สมควรจะกลับบ้านได้แล้วซิ” พูดจบก็พาดเสื้อโค้ทไว้บนบ่าก่อนจะเดินไปยังประตู มือบางจับลูกบิดประตูไว้แน่น แล้วหันมาถามอีกคนที่ยังคงนอนอยู่บนเตียง
“อ่อ.....ผู้จัดการ ฉันต้องเริ่มงานวันพรุ่งนี้เลยใช่ไหม”
“อือ” ผู้จัดการเอ่ยเสียงตอบรับในลำคอ แล้วพลิกตัวหันไปอีกทางอย่างไม่ใส่ใจ
แสงแดดในยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้องสูทสุดหรูของโรงแรมชื่อดัง ที่ไม่ต้องบอกราคาค่าเช่าต่อคืนก็คงพอจะเดาได้ว่ามันคงมากพอๆกับที่คนจนๆซักคนจะสามารถใช้ชีวิตรอดได้เป็นเดือนๆเลยทีเดียว ร่างเล็กค่อยๆดันตัวเองขึ้นมาจากเตียงนอนด้วยอารมณ์ขุ่นมั่วอันเนื่องมาจากอาการนอนไม่เต็มอิ่ม ร่างกายเปลือยเปล่าก้าวลงจากเตียงนอนพลางเดินดุ่มๆไปคว้าเสื้อคลุมที่แขวนอยู่ในตู้มาสวมใส่ แล้วเดินกลับไปกระชากร่างกายของอีกคนให้ขึ้นมาจากเตียงนอน
“หมดธุระของเธอแล้วซูยอง ออกไปซะ ฉันอยากอยู่คนเดียว” เธอพูดเสียงราบเรียบแต่แฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่ใครฟังก็ต้องเสียวสันหลังออกมา
ร่างบางกระวีกระวาดลุกขึ้นมาจากเตียงนอนตัวเขื่องที่เป็นที่ทำกิจกรรมยามค่ำคืนของเธอกับคนตรงหน้าเมื่อคืนอย่างรวดเร็ว มือบางคว้าเอาเสื้อผ้าของตนที่กองกระจัดกระจายอยู่บนพื้นขึ้นมาสวมใส่ลวกๆก่อนจะรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากห้อง ‘เจ้านาย’ ไปอย่างรวดเร็ว
ใครกันจะโง่อยู่ในเวลาที่เจ้านายอารมณ์ขุ่นมั่วแบบนี้....
ร่างเล็กทิ้งตัวลงบนที่นอนอีกครา มือเรียวกวาดวาดลงไปบนเตียงนอนช้าๆอย่างเบามือ “ฉันลืมเธอไม่ได้จริงๆยุนอา ถึงจะนอนกับใครกี่คน ฉันก็ยังคิดถึงเธออยู่ดี....” ลมหายใจถูกพ่นออกมาอ่อนๆ เธอรู้ตัวว่าทำผิดที่ไปทำอะไรแบบนั้นกับคนที่เธอรู้สึก ‘รัก’ แต่ถ้าลองมาคิดในส่วนของเธอดู มันก็เหมาะสมแล้วนี่กับที่ยุนอาทำกับเธอ....
ร่างสูงถอดรองเท้าตั้งเอาไว้ที่ชั้นวางรองเท้าหน้าห้องคอนโดที่เธอพึ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นานอย่างรีบร้อน สายตากวาดมองไปรอบๆห้องกว้างแต่กลับไม่เห็นเงาของน้องสาว... บางที น้องสาวเธออาจจะโกรธที่เธอกลับบ้านมาเสียเช้าแบบนี้ก็เป็นได้
แต่เอ๊ะ! น้องสาวเธอไม่เคยโกรธเธอในเรื่องแบบนี้นี่! แล้วตอนนี้น้องสาวเธอไปอยู่ไหน
“ยุน พี่กลับมาแล้ว” ร่างสูงเอ่ยเรียกเสียงดังและนั่นก็ทำให้ร่างบางรีบวิ่งมากอดพี่สาวทันทีเมื่อสิ้นเสียง ร่างสูงอดที่จะลูบผมอีกคนอย่างเอ็นดูไม่ได้
“พี่ยูลมาช้า” คนน้องยู่ปากแบบคนแสนงอนพอเป็นพิธี แล้วยิ้มกว้างให้พี่สาว
“ว่าแต่ไปสมัครงานมาเป็นไงบ้างคะ เขารับไหม”
“อืม พรุ่งนี้เริ่มงานได้เลย” ร่างสูงตอบเสียงเรียบพลางเดินไปทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยอ่อน ร่างบางเดินตามไปนวดไหล่พี่สาวเบาๆ
“ที่จริงพี่ยูลไม่น่าจะลาออกจากที่ทำงานเก่าเลย ที่นั่นดีออกจะตาย ทั้งการงานดี เงินเดือนดี แถมยังมีแฟนดีๆอย่างพี่คิมบอมอยู่ด้วย” ยุนอาเอ่ยขึ้นอย่างเสียดาย
“แต่พี่เกรงใจเขานี่ เรารบกวนเขามาเยอะแล้วนะ” ยูริเอ่ยเสียงแผ่ว ยุนอานิ่งเงียบไปชั่วครู่ เธอรู้ดีว่าตัวเองทำให้พี่สาวเดือดร้อนมากมายขนาดไหน ที่ต้องเอาเวลามาดูแลเธอจนไม่มีเวลาทำงาน และถ้าไม่ได้ว่าที่พี่เขยที่แสนดีอย่างคิมบอม เธอและพี่สาวก็คงตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่กว่านี้เป็นแน่
“ถ้าพี่ยูลเริ่มงานพรุ่งนี้....” ยุนอาเสเปลี่ยนเรื่องขึ้นมาทันทีที่ดูเหมือนบรรยากาศจะเข้าสู่สภาวะตรึงเครียด “ว้า ถ้าอย่างนั้น ตั้งแต่พรุ่งนี้ยุนก็ต้องอยู่คนเดียวแล้วซิคะ” ยูริแหงนหน้ามามองน้องสาวก่อนจะวางมือไว้บนศีรษะอีกคนแผ่วเบา
“พี่รู้ว่ายุนเก่ง อยู่คนเดียวได้ใช่ไหม”
“ค่ะ” คนน้องตอบเสียงร่าเริงแล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งลงข้างกายพี่สาวก่อนจะเอนหัวมนๆลงไปตั้งบนไหล่คนพี่ คนพี่โอบกระชับร่างกายของน้องสาวแน่น เธอกดจูบแผ่วเบาลงบนไรผมของน้องสาว
ถึงเธอจะเป็นห่วงน้องสาวเธอมากแค่ไหน ถ้าเธอต้องออกไปทำงานนอกบ้าน แต่ เธอก็อยากให้น้องเธออยู่คนเดียวให้ได้ และแน่นอนที่สุด โดยที่ลืมเรื่องราวร้ายๆที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปีก่อนไปให้หมด ถึงแม้ว่าเธอจะไม่เคยลืมมันเลยก็ตามเถอะ!
ใครมันจะไปลืม คนที่ทำร้ายน้องสาวครอบครัวคนเดียวของเธอได้กันละ ถ้าเธอไม่ได้แก้แค้นคนๆนี้ เธอคงต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างมีอะไรติดค้างในใจ และสิ่งที่ติดค้างนั่นมันก็ทำให้เธอทรมาร และมันก็เป็นเช่นนั้นตลอด1ปีที่ผ่านมา เธอทั้งทรมาร และเจ็บใจ ที่เธอเองไม่สามรถกลับมาช่วยน้องสาวได้ทัน และดูเหมือนเธอเองจะช่วยอะไรไม่ได้เลย เพราะอย่างนั้น ครั้งนี้ เธอจะเอาคืนอีกคนให้สาสมกับที่เคยทำกับน้องสาวเธอให้ดู!
‘ฉันจะแก้แค้นเธอให้สาสม เจสสิก้า จอง’
...........................................................................
ร่างสูงในชุดเสื้อสูทเข้ารูปแบบผู้หญิง สองมือล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแสล็คสีดำ ผมดำสวยถูกเจ้าตัวมัดรวบตึงเอาไว้เสียสูง ทำให้เธอแลดูเป็นสาวมาดมั่นน่าค้นหา เธอเดินตรงเข้าไปหาผู้จัดการร้านที่เธอฝึกงานด้วยเมื่อคืนวานอย่างมาดมั่น เรียกสายตาสนใจจากบรรดาแขกเรื่อในร้านกึ่งๆโฮสต์คลับแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี
“น้องๆ คนนั้นเขาทำงานที่นี่หรือเปล่า” หญิงวัยกลางคนสะกิดถามสาวผมสั้นที่ส่งยิ้มหวานชวนละลายมาให้หล่อน สาวผมสั้นหันไปมองตามนิ้วเรียวๆของลูกค้าสาวอย่างสนใจ
“อ๋อ คนนั้นหรอคะ ดูเหมือนว่าเธอจะพึ่งมาสมัครงานเมื่อคืนนี้นะคะ” สาวผมสั้นตอบยิ้มๆ เธอทิ้งตัวลงนั่งตรงโซฟาข้างกายลูกค้าสาวพร้อมรอยยิ้มหวาน
“คุณสนใจเธอหรอ ให้ฉันเรียกให้เอาไหม” สาวผมสั้นเอียงคอถามแขกสาวที่ส่งยิ้มบางๆมาเป็นคำตอบ
“ถ้าได้ จะดีมากเลยคะ ฉันยอมจ่ายไม่อั้นเลย กับเธอคนนั้น” สิ้นสุดคำ สาวผมสั้นก็ขอตัวและเดินตรงไปยังร่างสูงที่ยังคงยืนคุยกับผู้จัดการร้านอยู่ทันที
“ซันนี่ แขกตรงนู้นเขาสนใจ.......” สาวผมสั้นเหลือบตามองร่างสูง ก่อนที่เธอจะส่งยิ้มให้ซันนี่ที่ทำตาเขียวใส่เธอ
“ฟานี่!บอกหลายครั้งแล้วนะ เวลางานให้เรียกผู้จัดการน่ะ ” สาวผมสั้นหัวเราะชอบใจ เธอหันไปมองร่างสูงด้านข้างพร้อมยื่นมือออกไปทักทาย
“ฉันชื่อฟานี่ ....ทิฟฟานี่น่ะ เธอล่ะชื่ออะไร” ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย มือเรียวถูกยื่นไปสัมผัสกับมือทิฟฟานี่แผ่วเบา
“ควอน ยูริค่ะ”
“นี่! ช่วยสนใจฉันซักนิดได้ไหม” ซันนี่แหวขึ้นมากลางวงเมื่อดูท่าว่าทั้งสองคนจะลืมผู้จัดการร้านอย่างเธอไปเสียอย่างนั้น สาวผมสั้นหันมามองผู้จัดการร้านแล้วยกไหล่ขึ้นมาเล็กน้อย
“เฮ้อ ช่างมันเถอะ ไปทำงานของเธอไปฟานี่” ซันนี่มองตามแผ่นหลังของทิฟฟานี่ที่เดินไปคุยกับลูกค้าสาววัยรุ่นราวสามถึงสี่คนก่อนจะหันมามองร่างสูงที่ยืนมองเธออยู่ก่อนแล้ว
“ยูริ ไหนเธอลองไปรับลูกค้าที่โต๊ะนั้นแล้วกันนะ” ซันนี่ชี้ไปยังโต๊ะที่ทิฟฟานี่บอกกับเธอว่าแขกสนใจร่างสูง มือเล็กแตะลงบนบ่าร่างสูงแผ่วเบา “อย่าลืมที่บอกละ ถ้าลูกค้าจะพาเธอออกไปด้านนอกร้าน ต้องมาแจ้งฉันก่อนนะ” ยูริพยักหน้ารับ สองเท้าเดินตรงไปยังโต๊ะตัวที่ว่าอย่างมาดมั่น
“ขอโทษนะคะ คุณเรียกฉันหรอ” ยูริเอ่ยเสียงหวานถามเอากับลูกค้าสาวที่หน้าแดงก่ำขึ้นมา หล่อนขยับกายเล็กน้อยเพื่อให้มีพื้นที่ว่างพอสำหรับร่างสูง
“นั่งนี่ซิ” สิ้นสุดคำ ยูริก็หย่อนตัวลงนั่งข้างกายแขกสาวทันที มือเรียวคว้าเอาแก้วเหล้าที่ลูกค้ายื่นมาให้เธอ ก่อนจะค่อยๆกรอกมันลงคอช้าๆจนหมดลงในคราเดียว เรียกรอยยิ้มพอใจกับลูกค้าสาวได้เป็นอย่างดี
“เธอชื่ออะไร” มือเรียวไล้ไปตามปกคอเสื้อช้าๆ ดวงตาคมตวัดมองช้อนร่างสูงที่รู้สึกขยะแขยงปนเสียวสันหลังแปลกๆขึ้นมาทันที
“ยูริค่ะ”
“อืม ยูริ เธอเคยจูบไหม” ยูริกระตุกยิ้มมุมปาก ร่างกายเคลื่อนเข้าไปหาแขกสาว ใบหน้ายื่นไปใกล้เสียจนแทบจะแนบชิด
“ถ้าคุณอยากรู้ คุณก็พาฉันออกไปข้างนอกซิคะ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงยั่วยวนเฉียดริมฝีปากบาง ทำเอาลูกค้าสาวหน้าแดงก่ำขึ้นมาเสียดื้อๆ
“ได้ซิยูริ เธอไปบอกผู้จัดการเธอได้เลย” สิ้นสุดคำร่างสูงก็ส่งยิ้มหวานชวนละลายมาให้เธอ พร้อมกับลุกขึ้นยืนและเดินกลับไปยังผู้จัดการร้าน
ทิฟฟานี่มองตามยูริไปด้วยความแปลกใจ เธอไม่รู้ว่าลูกค้าโต๊ะเมื่อครู่ไม่พอใจเด็กใหม่อย่างยูริหรือเปล่า เจ้าตัวถึงได้เดินกลับไปหาผู้จัดการร้านอย่างซันนี่รวดเร็วเสียอย่างนั้น และเธอก็ยิ่งตกใจมากขึ้นไปอีก เมื่อสิ่งที่เธอคิดมันผิด! แขกสาวโต๊ะเมื่อครู่ไม่ได้ไม่พอใจยูริ หากแต่คงจะพอใจมากขนาดขอออฟเจ้าตัวออกไปนอกร้านเสียรวดเร็วปานจรวด ช่างเป็นปรากฏการใหม่ของร้านเสียจริง ที่ยูริทำให้ลูกค้าพอใจขนาดยอมจ่ายค่าตัวแพงๆเพื่อที่จะพาเด็กใหม่ออกไปด้านนอกร้าน ทั้งๆที่ยูริพึ่งจะเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ! เห็นทีตำแหน่งเบอร์หนึ่งของร้านที่ซูยองครอบครองติดต่อกันมาถึงสามสัปดาห์จะสั่นคลอนเสียแล้ว
จริงๆแล้ว มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรหรอกที่ตำแหน่งเบอร์หนึ่งของร้านจะมีการเปลี่ยนแปลง เพราะการจัดตำแหน่งของร้านมันขึ้นอยู่กับความนิยมในตัวของโฮสต์คนนั้นอยู่แล้ว ซูยองเองที่ได้ตำแหน่งนี้มาสามสัปดาห์ติด นั่นคงเป็นเพราะคนที่ครองตำแหน่งก่อนหน้านี้อย่างแอมเบอร์ป่วยและต้องเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลนั่นแหละ ลองเจ้าตัวกลับมา คนที่มีดีแค่ปากหวานอย่างซูยองคงจะร่วงลงมาอยู่ในอันดับสามหรือสี่เหมือนเดิม แต่ตอนนี้ เธอกำลังคิดว่า เด็กใหม่อย่างยูริน่าจะแย่งตำแหน่งที่แอมเบอร์เคยครองอย่างเหนียวแน่นมาจากซูยองได้
ทิฟฟานี่หันไปมองเบอร์หนึ่งของร้านในตอนนี้ที่มองตามแผ่นหลังของยูริไปด้วยสายตาเคียดแค้น ทำเอาเธอกระตุกยิ้มมุมปากขึ้นมาทันที เห็นทีงานนี้คงมีเรื่องสนุกๆให้เธอได้ดูอีกแล้วซิ....
ความคิดเห็น