ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Doll...

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 but... ความลับ...

    • อัปเดตล่าสุด 3 มิ.ย. 50




         ท่ามกลางบรรยากาศที่อึมครึม
    ท้องฟ้าถูกทาทับด้วยเมฆฝนสีเทาเข้มขนาดใหญ่ทั่วท้องฟ้า เริ่มมีสายลมพัดแรงจนกิ่งต้นไม้ใหญ่เริ่มโคลง ในเวลาแบบนี้ ร้านค้ารีบปิดทำการ ผู้คนที่เดินกันขวักไขว่เริ่มบางตาอย่างเห็นได้ชัด จนในที่สุดถนนที่เคยมีผู้คนเดินกันหนาแน่นว่างเปล่า กระแสลมเริ่มแรงมากขึ้นมากขึ้น เมฆฝนกลั่นตัวตกลงมาเป็นหยดน้ำขนาดใหญ่อย่างรวดเร็วและบ้าคลั่ง เสียงพัดกระหน่ำของสายลมเมื่อกระทบกับสิ่งกีดขวางทางของมันดังจนหน้ากลัว บวกกับเสียงเตือนภัยของกรมอุตุฯที่ดังระงมสู้กับเสียงลม เป็นช่วงเวลาที่พายุกำลังจะเข้า พายุที่บ้าคลั่งกับฝนที่ตกหนักเสียงฟ้าร้องที่ดังราวกับเสียงระเบิด ดูราวกับว่าพายุในครั้งนี้กำลังสนุกที่ได้พัดกระหน่ำอย่างรุนแรง ผิดกับอีกหลายชีวิตที่เฝ้ามองและสวดภาวนาด้วยความหวังว่าพายุในครั้งนี้จะไม่นำความสูญเสียมาให้

    "ตึง!! ตึงตึงตึง!!!." เสียงเคาะประตูอย่างรุนแรงท่ามกลางพายุที่รุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

    "ใครกัน เยซองออกไปดูหน่อย" ชองอุงเจ้าของร้านคาเฟ่เล็กๆที่ตั้งอยู่แถบโซลบอก เมื่อยังมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อยๆและมีถ้าทีว่าจะไม่หยุด

    เยชองลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อเดินไปเปิดประตูตามคำสั่งของพี่ชาย

    'พายุแรงขนาดนี้ยังอุตสาห์มาอีก ไอ่บ้าไหนว่ะ ' เยชองคิดและสบถในใจ

    "เฮ้เยชอง ถ้าเป็นลูกค้าก็บอกมันว่าร้านเราปิดแล้ว ค่อยมาใหม่วันหลัง"

    "เออ"ตอบแบบไม่พอใจ ใครกันอยากเปิดประตูตอนรับแขกตอนที่มีพายุแบบนี้กัน

    เยชองค่อยๆเดินไปที่ประตูช้าๆ

    "ตึง!! ตึงตึงตึง!!!." เสียงเคาะดังมากขึ้น เมื่อคนที่เคาะภายนอกไม่เห็นวี่แววใคร

    "คร้าบคร้าบ... มาแล้วคร้าาบ"หงุดหงิดเป็นบ้า

    เยชองปลดล็อคกุญแจแล้วแง้มประตูดูคนด้านนอก

    บุคคลนิรนามที่สวมใส่เสื้อกันฝนสีเขียวเข้มยื่นตัวสั่นอยู่หน้าร้าน เยชองมองเห็นหน้าไม่ชัดเพราะฝนที่ตกหนักราวกับฟ้ารั่วบวกกับลมที่พัดแรงเอาทั้งใบไม้และสายฝนกระจายไปทั่วบริเวณ

    "เออ...ร้านเราปิดแล้วครับ พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่"เยชองตะโกนสู้กับเสียงภายนอก

    เยชองเคลื่อนตัวเพื่อจะกลับเข้าในร้าน แต่บุคคลด้านนอกยื่นมือมาขัดไว้ก่อน

    "ผมรู้ครับ แต่ให้ผมเข้าไปเถอะ พายุแรงขนาดนี้"บุคคลตรงหน้าเยชองเอ่ยขึ้นมาดังๆ

    เยชองลังเลอยู่เล็กน้อยแต่เมื่อเห็นคนตรงหน้าตัวสั่นเพราะอากาศที่หนาวเย็นและลมพายุที่พัดแรงๆอยู่ด้านหลังก็อดที่จะสงสารไม่ได้

    'คงไม่เป็นไรหรอกมั่ง พี่ก็อยู่...แถมยังดูบอบบางอีก ถ้าปล่อยไปอาจจะเป็นข่าวในวันพรุ่งนี้ก็ได้'เยชองคิดสายตามองดูคนตรงหน้าอย่างพิจารณา

    เยชองตัดสินใจเปิดประตูให้กว้างขึ้นพร้อมกับโบกมือเป็นเชิงให้เข้ามาได้ก่อนจะปิดประตูตามหลัง






    ภายในร้านจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย แสงไฟจากหลอดแสงเทียนทำให้ร้านดูมีรสนิยม เก้าอี้ถูกยกขึ้นวางบนโต๊ะไม้วงกลมที่ไม่ใหญ่มากนัก พื้นปูด้วยกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนดูสะอาดตา พนังร้านตกแต่งด้วยรูปวาด ผ้าม่านสีครีมถูกประดับตามกระจกใสบานใหญ่ ที่มุมร้านมีแกรน์เปียโนสีขาววางอยู่ใกล้ๆกับเคาน์เตอร์ ที่นี่ดูเหมือนคลับเล็กๆมากกว่าคาเฟ่ซะอีก

    เขามองไปรอบๆร้านที่ถูกประดับประดาอย่างสวยงามก่อนจะหันมาดูเยชองที่พยายามดันประตูสู้กับแรงลมอย่างลุ้นๆ

    "นายถอดเสื้อคลุมฝนออกก่อน แล้วเอาวางไว้บนโต๊ะแถวนี้ก่อนก็แล้วกัน"เยชองพูดแล้วจึงรีบล็อคประตูหน้าร้านเมื่อปิดประตูได้แล้ว ตอนนี้ลมแรงจากภายนอกกำลังพยายามที่จะพังประตูร้านเข้ามาอีก

    เยชองมองออกไปผ่านกระจกหน้าร้านแล้วถอนหายใจเบาๆให้กับพายุด้านนอกก่อนจะเอื้อมมือคว้าผ้าที่วางอยู่บนโต๊ะมาเช็ดน้ำฝนที่สาดกระเซ็นเข้ามาเปรอะเปื้อนเต็มพื้น

    "เออ...ผมช่วยไมฮะ.."เสียงดังขึ้นจากข้างหลังทำเอาสะดุ้ง

    'เกือบลืมมันไปเลยแฮะ'

    "ขอบคุณครับ ไม่เป็นไรหรอก"เยชองพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมามอง

    "อะ."เยชองถึงกับตาค้างเมื่อคนตรงหน้านี้ช่างดูดีเหลือเกิน จะว่ายังไงดีนะ สวย? จะคิดแบบนั้นได้หรือเปล่า สายตาเยชองคงจับจ้องอยู่ที่คนตรงหน้าไม่วางตา

    ดวงตากลมโต ริมฝีปากสีแดงจัดเพราะอากาศหนาว จมูกได้รูปสวยซึ่งดูเข้ากับใบหน้าเรียวเล็กที่ดูสวยงามมากบวกกับผิวที่ขาวจัดซึ่งขัดกับผมที่ดำสนิทยาวละต้นคอ หยดน้ำฝนเล็กๆไหลลงมาตามแนวผมที่เปียกชื้นผ่านลงตามซอกคอขาวเล่นเอาเยชองกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ แทบไม่อยากเชื่อว่าเป็นผู้ชาย---

    "เออ.. ขอโทษครับ มีอะไรรึเปล่า"คนตรงหน้าถามขึ้นมาเมื่อสังเกตเห็นเยชองนิ่งๆไป

    "เอ๊ะ!.."เยชองหลุดจากพะวังเมื่อคนตรงหน้าเอ่ยถาม

    "เออ อะ..คือว่า...

    คุณชื่ออะไรคับ"เยชองถามรัวๆ แต่สายตายังคงจ้องอย่างไม่มีมารยาท

    "อ้อ ขอโทษครับ ลืมแนะนำตัวเลย ผมแจจุง คิม แจ จุงครับ"แจจุงตอบยิ้มๆดูท่าทางจะไม่สนใจสายตาคุกคามของเยชองเลยซักนิด

    "อืม แจจุง ผม ลี เย ชอง ยินดีที่รู้จักครับ"เยชองพูดจบก็รีบก้มหน้าก้มตาเช็ดพื้นต่อเมื่อรู้สึกตัวว่ามองนานไปแล้ว

    "คุณไม่มีอะไรให้ผมช่วยจริงเหรอ"แจจุงถามขึ้นมาเมื่อเห็นเยชองพยายามเช็ดคราบน้ำที่เริ่มแห้งเป็นดวงออกจากกระจกอย่างลำบาก

    "ไม่มี แค่นี้สบายมาก"เยชองพูดโดยไม่ได้หันมาดูแจจุง เพราะเขารู้สึกเขินคนตรงหน้าขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

    "เออ... คุณลี ครับ คุณอยู่คนเดียวเหรอครับ"แจจุงใช้มือถูที่แขนตัวเองแรงๆเพื่อให้เกิดไออุ่น ข้างในร้านอาจจะรู้สึกอุ่นกว่านี้ถ้าเขาตัวของเขาไม่ได้เปียกน้ำ ดูเหมือนว่าชุดกันฝนไม่ได้ช่วยอะไรแจจุงเลยซักนิดเมื่อออกไปเจอกับพายุแรงๆเข้า

    "เปล่าครับ มีพี่ชายผมอีกคน ชื่อชองอุงน่ะ"เออนั้นซิ ไอ่ชองอุงมันจะว่าอะไรไหมว่ะ

    'คงไม่หรอก' เยชองคิดเมื่อมองดูท่าทีของคนตรงหน้า

    "แล้ว..ก็ไม่ต้องเรียกชื่อผมสุภาพนักก็ได้ครับ เยชองเฉยๆดีกว่านะ"

    "ขอบคุณครับเยชอง เรียกผมแจจุงก็ได้เหมือนกันครับ"

    "ครับ"เยชองบอกยิ้มๆ

    เสียงสายฝนที่ตกหนักๆกับเสียงของสายลมหวีดหวิวอยู่ด้านนอกทำให้รู้ว่าพายุคงไม่หยุดง่ายๆ

    เยชองเหลือบมองดูแจจุง ที่ตอนนี้ดูตัวสั่นอย่างเห็นได้ชัด ผิวที่ขาวอยู่แล้วยิ่งซีดมากขึ้น แจจุงยังคงพยายามไล่ความหนาวเย็นด้วยการใช้มือถูแรงๆที่แขนแต่ดูเหมือนว่ามันคงจะไม่ได้ผลเท่าไหร่นัก

    'ปล่อยไว้แบบนี้คงไม่ดีแน่'เยชองคิด

    "แจจุงครับ ผมว่าคุณไปอาบน้ำก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวผมจะเอาชุดมาให้เปลี่ยนนะครับ"

    แจจุงหันมามองเยชองแล้วพยักหน้านิดๆ เขาอยากขอบคุณเยชองมากแต่มันหนาวจนแทบจะเปร่งเสียงไม่ออก

    เยชองลุกขึ้นยืนวางผ้าไว้บนโต๊ะก่อนจะเดินนำแจจุงไปหลังร้าน





    เยชองพาแจจุงเดินไปทางประตูที่อยู่ด้านหลังเปียโนตัวสวย ด้านหลังประตูเป็นทางเดินเล็กๆเดินไปแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอกับห้องครัวขนาดกลาง เยชองเดินนำแจจุงมาทางประตูที่อยู่ถัดไปทางซ้าย ใกล้ๆกันเป็นทางเดินต่อเข้าไปด้านหลังได้อีก

    "เออ...คุณไปอาบน้ำก่อนเดี๋ยวผมจะเอาเสื้อผ้ามาให้ ส่วนผ้าเช็ดตัวผืนใหม่อยู่ในตะกร้าหน้ากระจกนะครับ"เยชองหันมาบอกแจจุงที่เดินตามหลังมา

    แจจุงพยักหน้ารัวๆก่อนจะรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ เยชองมองดูแจจุงอย่างเอ็นดู อดที่จะยิ้มไม่ได้

    'น่ารักดีแฮะ'



    เยชองเดินผ่านช่องประตูที่มีมู่ลี่บังไว้ ห้องด้านหลังมู่ลี่เป็นห้องนั่งเล่น ตรงกลางห้องมีโซฟาที่ชองอุงกำลังนั่งดูทีวีอยู่ แต่ห้องนี้ไม่ได้เป็นห้องสุดท้าย ด้านขวากับด้านซ้ายของห้องนั่งเล่นยังมีประตูอยู่ด้านละบาน เยชองเดินเร็วๆไปทางประตูห้องทางด้านซ้าย

    "เฮ้อ.. มีแต่ข่าวประกาศเตือนภัยจากกรมอุตุฯ ถ้าจะไม่หยุดง่ายๆนะ"ชองอุงพูดขึ้นก่อนที่จะหันหลังมาดูเยชองที่กำลังเดินเข้ามา

    "ว่าแต่... นายไปทำอะไรมานานเชียว"ชองอุงถามเยชองที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง

    "คือว่า...มีคนมาขอหลบพายุที่ร้านหน่ะ"

    "นายเลยให้เข้ามา"น้ำเสียงที่ชองอุงถามดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด

    "อืม.. ใช่ ฉันให้เขาเข้ามา ก็ฉันเห็นว่าด้านนอกพายุมันแรง ฉันไม่อยากเห็นใครตายเพราะว่าฉันไม่ยอมเปิดประตูให้เขาเข้ามา"เยชองพูดเร็วๆ ชองอุงมองดูหน้าของเยชองซักพัก

    "ผู้ชายหรือผู้หญิง มากันกี่คน ตอนนี้อยู่ที่ไหน"

    "ผมให้เขาเข้าไปอาบน้ำอยู่ เป็นผู้ชาย แต่ไม่ต้องห่วงไม่มีอะไรหน้าเป็นห่วงหรอกน่า เห็นแล้วก็จะรู้เอง"เยชองบอกรำคาญๆ และรีบเดินเร็วๆเข้าไปในห้องก่อนที่จะโดนถามอะไรมากกว่านี้

    ชองอุงมองดูน้องชายตัวเองเดินหายเข้าไปหลังประตูก่อนจะหันมารี่เสียงทีวีให้เบาลง







    เสียงของลมที่พัดกิ่งไม้และเศษต่างๆมากระทบกับพนังของห้องน้ำภายนอกทำเอาแจจุงตกใจ

    'เมื่อไหร่จะหยุดตกซักที หวังว่ากำแพงคงจะไม่พังหรอกนะ'แจจุงคิดเมื่อได้ยินเสียงคล้ายกับวัตถุต่างๆบวกกับฝนเม็ดใหญ่ๆกระทบกับกำแพงและหลังคาเสียงดังลั่น

    แจจุงมองดูตัวเองภายในกระจกซักพักก่อนจะหยิบเอาผ้าเช็ดตัวมาคลุมแล้วเปิดประตูออกมาด้านนอก อากาศที่สัมผัสได้รู้สึกอบอุ่นขึ้นมากกว่าเมื่อกี๊นี้

    แจจุงมองเห็นเสื้อผ้าที่พับวางอยู่บนโต๊ะไม้ติดๆกับประตู แจจุงเอาเสื้อผ้าพวกนั้นกลับเข้ามาใส่ที่ห้องน้ำ เสื้อยืดสีขาวตัวใหญ่กับกางเกงขายาวสีขาว

    "ขาวทั้งตัวแบบนี้ ถ้าเปื้อนคงแย่แน่"แจจุงยิ้มน้อยๆให้ตัวเองในกระจกแล้วเอาเสื้อผ้าของตัวเองใส่ลงในตะกร้าผ้าที่วางอยู่แถวนั้นก่อนที่จะก้าวยาวๆออกไปจากห้องน้ำ





    "เสื้อผ้าคงไม่ใหญ่เกินไปนะครับ"เยชองมองดูแจจุงพร้อมกับเดินเข้าไปหาแจจุง

    "โกโก้ร้อนครับ ผมเร่งฮีตเตอร์ให้แล้ว"เยชองยื่นถ้วยที่ใส่โกโก้ให้

    "เออ...ขอบคุณครับ"แจจุงรับถ้วยโกโก้มา

    "คุณใจดีจัง"แจจุงยิ้มให้ เล่นเอาเยชองหน้าแดงขึ้นมาทันที

    "เออ..ก็คุณเป็นลูกค้านิ"เยชองก้มหน้าพูด

    "เอ๊ะ! นั่นซิครับ อย่าลืมคิดเงินละ"

    "อะ ผมหมายความว่าวันอื่นครับ ถ้าคุณไม่รังเกียจ"เยชองรีบเงยหน้าขึ้นมาพูดหลังจากที่แจจุงพูดจบ

    "แน่นอนครับ"แจจุงตอบก่อนที่จะค่อยๆจิบโกโก้

    "เฮ้เยชอง"ชองอุงตะโกนเรียกน้องชายของตัวเองพลางใช้มือปัดมู่ลี่ให้พ้นทางก่อนจะพาร่างของตัวเองมายืนประทะหน้ากับแจจุงและเยชอง

    เยชองและแจจุงมองดูคนตรงหน้าที่ตอนนี้ยืนนิ่งราวกับหยุดหายใจไปแล้ว

    "หวัดดีฮะ ผมคิมแจจุงครับ"แจจุงรีบแนะนำตัวเพราะคิดว่าคนตรงหน้าคงเป็นพี่ชายของเยชอง แต่ว่าคนตรงหน้ากับนิ่งเงียบเอาแต่จ้องแจจุง

    "พี่ครับ"เยชองจงใจตะโกนดังๆทำให้ชองอุงรู้สึกตัว เขาไม่แปลกใจเลยที่พี่ชายนิ่งไป

    "อะ ครับ ดีฮะ ชองอุงครับ ยินดีที่รู้จักนะ"ชองอุงแนะนำตัวกับแจจุง

    "ยินดีที่รู้จักฮะ ผม แจจุงครับ"แจจุงพูด


    ชองอุงรีบเดินไปลากคอน้องชายมาพูดในห้องนั่งเล่น แจจุงมองดูท่าทีของสองพี่น้องงงๆ

    "มีอะไร"เยชองชักมือของชองอุงออกจากคอเสื้อ

    "ผู้ชาย? ไม่อยากเชื่อเลย"ชองอุงพูดออกมาเบาๆสายตาพลางมองดูแจจุงผ่านมู่ลี่

    "เออ ผู้ชาย"เยชองพูดน้ำเสียงไม่พอใจ มือกำลังจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่

    "มีเรื่องแค่นี้ใช่ป่ะ"เยชองพูดจบก็เดินออกไป

    ชองอุงยืนมองน้องชายที่เดินออกไปได้ซักพักก็เเดินมานั่งที่โซฟาเหมือนเดิม

    ในหัวของชองอุงมีแต่ใบหน้าของแจจุง

    'ไม่หน้าใช่ผู้ชาย แต่ก็เป็นผู้ชาย'ชองอุงส่ายหัวแรงๆ เขากำลังคิดเหตุผลร้อยแปดที่ว่าแจจุงเป็นผู้หญิง









    "คุณไม่ต้องล้างหรอก ผมจะล้างเอง"เยชองบอกแจจุงที่กำลังจะล้างถ้วยที่ดื่มจนหมดแล้ว

    "ไม่เป็นไรหรอก ให้ผมทำเถอะ"

    เยชองยืนมองคนตรงหน้าล้างแก้ว

    ถ้าดูดีๆแล้วก็มีส่วนคล้ายผู้ชายเหมือนกันแฮะ เยชองคิดมองดูแจจุงขยับตัวอย่างสบายตา

    "เปรี้ยง!! ตูม"เสียงดังลั่นที่มาจากข้างนอกก่อนที่ไฟจะดับลง ทำให้เยชองหลุดจากพะวัง

    .................................................................

    .........................................

    .........................

    .............

    ....

    .

    "อึก อะ..โอย"เยชองส่งเสียงร้องออกมา เมื่อรู้สึกถึงความเย็นของปลายมีดที่เสียบอยู่ตรงท้อง เขาค่อยๆใช้มือแตะตรงบริเวณที่ถูกแทงมีน้ำที่ส่งกลิ่นคาวคะคลุ้งไหลออกมาค่อนข้างมาก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นรวดเร็วและไม่คาดคิด เยชองเอื้อมมือที่สั่นเล็กน้อยจับแรงๆที่ไหล่ของคนตรงหน้า ความมืดทำให้มองเห็นหน้าผู้ร้ายไม่ชัด

    "แจ..จุง!!??"แจจุงเหรอไม่น่าใช่ แต่ว่าเราก็ยืนอยู่กับ...

    "อัก..แค่กๆ"เยชองสำลักเลือดออกมาเมื่อคมมีดถูกชักออกอย่างรุนแรงก่อนจะแทงกลับคืนเข้ามาแรงๆอีกครั้งจนตัวโยน ปลายมีดค่อยค่อยเลื่อนลงมาอย่างช้าๆเพื่อให้แผลยาวและกว้างมากขึ้น เยชองรู้สึกทรมานและเจ็บปวดมาก เรี่ยวแรงหายไปหมดแม้กระทั่งจะหนีก็เป็นเรื่องยาก เยชองค่อยๆทรุดลงกับพื้นแต่คนตรงหน้ากับไม่ปล่อยให้ทรุดลงไปง่ายๆมีดที่เสียบอยู่ถูกถือแน่น เมื่อเยชองทรุดลงไปที่ละนิดมีดที่เสียบอยู่ค่อยๆเลื่อนขึ้นมาจนค้างอยู่บริเวณอกก่อนที่จะปล่อยให้ล้มลงไป ราวกับว่าคนตรงหน้าสนุกกับการกระทำในครั้งนี้

    ความเจ็บแล่นไปทั่วร่างกายเมื่อคนตรงหน้าเริ่มกระหน่ำแทง เลือดสีแดงฉานกระจายไปทั่วเป็นบริเวณกว้างมากกว่าเดิม เยชองกระอักเลือดออกมากตลอดเวลาจะร้องก็ไม่ได้เพราะแค่จะขยับตัวซักนิดก็รู้สึกเจ็บเหมือนร่างกายถูกแยกออกเป็นชิ้นๆ มือปัดป่ายไปทั่วราวกับจะร้องขอชีวิตร้องของความเมตตาแต่มือที่ป้ายไปทั่วทำให้คนที่เห็นกับรู้สึกคลั่งมากขึ้น

    สติสุดท้ายดับวูบเมื่อถูกเฉือดแรงๆที่คอ

    ...

    ..

    .

    เสียงฝนฟ้าดังลั่นทำให้ชองอุงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้องชายของตัวเอง

    "อะไรกัน ไฟดับนานแล้วนะเนี่ย ไอ่เยชองมันทำไรอยู่ว่ะ"ชองอุงบ่นขึ้นท่ามกลางความมืด แล้วค่อยๆพาร่างของตัวเองออกมาจากห้องนั่งเล่น

    ชองอุงค่อยๆเดินในความมืดจนผ่านมู่ลี่ที่แขวนไว้ แต่ต้องสะดุ้ดกึกกับกลิ่นที่ลอยมาเข้าจมูก

    "กลิ่นไรว่ะ"ชองอุงพูดเบาๆกับตัวเองเมื่อได้กลิ่นคาวของเลือด

    "เยชอง แจจุงครับ"ชองอุงตะโกนขึ้น พร้อมกับค่อยๆเดินไปทางที่เยชองถูกฆ่าตาย

    "อะ!!??.."

    ชองอุงรีบหันไปด้านหลังทันทีเมื่อรู้สึกว่ามีใครอยู่ด้านหลัง

    "เฮ้ เยชองหรือว่าแจจุงตอบที"ชองอุงถามเสียงดังเมื่อมองเห็นเงาของคนยืนอยู่ตรงหน้าของตัวเอง แต่กับไร้เสียงตอบกับมา

    ชองอุงรู้สึกขนลุกเกรียวเมื่อรู้สึกถึงน้ำบางอย่างที่ไหลมาถูกเท้าเข้า

    นี่ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นแน่ ตอนนี้เขาพอจะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ไม่ถึงกับถูกหมดแต่ที่แน่ๆน้ำที่อยู่ใต้เท้าของเขาคือ...เลือดอย่างแน่นอน

    กลิ่นคาวที่รุนแรงแบบนี้ ทำไมเขาจะไม่รู้ในเมื่อเขาเป็นถึงพ่อครัว

    ชองอุงค่อยๆถอยหลังเมื่อเห็นเงาของคนเริ่มขยับเข้ามาใกล้ตน จนสะดุดอะไรบางอย่างที่อยู่ทางด้านหลังจนล้มลง

    "เฮ้ย!!!!????"ชองอุงร้องออกมาเสียงดังเมื่อสัมผัสได้ถึงไออุ่นของมนุษย์และของเหลวคาวที่ไหลออกมาอย่างไม่หยุด ศพ....

    คำเดียวที่ชองอุงคิดได้ในตอนนี้

    งั้น!! คนร้ายก็ต้อง....

    "อ๊ากกก!!!!!??"---------------------...

    ....

    ..

    .

    "พรึ่บ"ไฟถูกเปิดขึ้นโดยใครคนใดคนหนึ่ง สภาพภายในห้องเละไม่มีชิ้นดี พื้นห้องถูกย้อมไปด้วยสีแดงของเลือด บริเวณพนังห้องมีเลือดที่สาดกระจายติดเป็นจุดๆ

    เขาค่อยๆเดินเข้าหยุดยืนมองที่อ่างล้างจานมีมีดที่อาบไปด้วยเลือด น้ำที่ขังอยู่ในอ่างกลายเป็นสีแดงอ่อนๆ สายตาค่อยๆเลื่อนลงมาดูผู้เคราะห์ร้ายสองคนที่นอนจมกองเลือด ไม่มีอาการใดแสดงออกมาจากสีหน้าที่เรียบและนิ่งเฉย ราวกับว่าภาพที่เห็นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยจนชินชา

    "พี่แจจุง"เขาพูดขึ้นเมื่อเห็นแจจุงนั่งกอดเขาของตัวเองอยู่ข้างๆร่างที่ไร้วิญญาณ ตัวของแจจุงสั่นจนเห็นได้ชัดแจจุงกำลังร้องไห้...

    เสื้อผ้าเดิมทีเป็นสีขาวกับกลายเป็นสีแดงเข้ม

    "พี่แจจุง.."เรียกอีกครั้งเมื่อเห็นว่าแจจุงไม่มีท่าทีตอบสนอง

    แจจุงค่อยๆเงยหน้าที่อาบไปด้วยน้ำตาและคราบเลือดมองไปยังต้นเสียง

    "ชาง..มิน"แจจุงเอ่ยเสียงสั่นเครือ

    "เรากลับกันเถอะครับ"ชางมินยิ้มให้แจจุงพร้อมกับยื่นมือให้แจจุง ชางมินค่อยๆชักแจจุงให้ลุกขึ้นช้าๆ

    มือของแจจุงที่เต็มไปด้วยเลือด ไม่สิต้องบอกว่าร่างกายของแจจุงมีเลือดเปรอะเปื้อนไปทั่ว

    ชางมินจูงมือของแจจุงออกเดินนำไปช้าๆ โดยที่จะไม่ลืมหยิบเสื้อกันฝนที่วางอยู่บนโต๊ะภายในคาเฟ่ออกมาด้วย

     

    -------------------------------100%-------------------------------------------

    อ่านกันเยอะๆ
    ถึงมีคนอ่านแค่คนเดียวก็ดีแล้ว
    บางคำส่วนมากอาจสกดผิด เอาเป็นว่าละไว้ในฐานที่เข้าใจล่ะกันค่ะ
    -*-
    เบื่อไหมก่ะ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×