ลำดับตอนที่ #4
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 100 ปีผ่านไป ได้รับรู้เรื่องที่น่าตกใจครับผม(แก้ไขเนื้อหานิดหน่อยค่ะ)
กาลเวลาผันผ่านมาแล้วนับ 100 ปี
หุบเขาแห่งหนึ่งที่ผู้คนเรียกขานกันว่า หุบเขาเสียดฟ้า เพราะว่าหุบเขานี้เป็นหุบเขาที่สูงที่สุดในโลกและมีม่านหมอกปกคลุมอยู่ตลอดเขาทั้งลูก
ไม่ว่าผู้ใดได้ย่างกรายเข้าไป ล้วนต้องหายไปในหุบเขานั้นอย่างไม่อาจหวนคืน...
บนยอดเขาที่ไม่มีผู้ใดเคยไปถึง เมื่อเก้าสิบปีก่อนกลับมีกระท่อมหลังเล็กๆถูกปลูกขึ้นซึ่งในตอนนี้ผู้เป็นเจ้าของบ้านกำลังนั่งรับลมอยู่หน้ากระท่อมหลังนั้น เส้นผมสีเทาที่ยาวถึงหลังเข่าปลิวไสวไปตามสายลมที่พัดผ่าน หูและหางทั้งเก้าที่มีสีดำปลายหางเป็นสีขาวขยับเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดี ดวงตาหลับพริ้ม จมูกโด่งจิ้มลิ้มสูดกลิ่นอายธรรมชาติ
เรนลืมตาขึ้นแล้วมองเหม่อไปยังท้องฟ้า นึกไปถึง 100 ปีที่ผ่านมา...
.
.
.
100 ปีก่อน
เรนเดินทางไปเรื่อยๆจนมาถึงหุบเขาเสียดฟ้า เรนตัดสินใจขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อที่จะฝึกฝนตนเองในระหว่างทางที่ขึ้นไป เพราะเรนต้องการแข็งแกร่งขึ้นไปอีก เหตุการณ์ที่แม่ของตนโดนฆ่าตายนั้นเป็นบทเรียนที่ทำให้เรนได้รู้ว่าหากไม่แข็งแกร่งขึ้นก็ไม่อาจจะปกป้องคนที่ตนเองรักได้เรนจึงเลือกที่จะจากลูคัสมาเพื่อฝึกฝนตนเอง
เรนใช้เวลานานนับสิบปีในการขึ้นมาบนยอดเขาแห่งนี้ เรนต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรมากมายที่หลบซ่อนอยู่ใต้หมอกของหุบเขาเสียดฟ้า และเมื่อฆ่าพวกมันได้ เรนก็จะนำจิตอสูรเวทย์ที่มีอยู่ในตัวของสัตว์อสูรทุกตัวมาดูดซับเพื่อเป็นพลังเวทย์ให้แก่ตน เมื่อขึ้นมาบนยอดเขาเรนก็เจอกับสัตว์อสูร
อสรพิษเพลิงทมิฬที่มีอายุถึงหมื่นปีซึ่งในโลกแห่งนี้มีเพียงสัตว์อสูรไม่กี่ตัวเท่านั้นที่มีอายุมากขนาดนี้ เรนต่อสู้กับมันอยู่ถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ผลที่ออกมาคือ ทั้งสองเสมอกัน
สัตว์อสูรอสรพิษเพลิงทมิฬยอมรับเรนเป็นเจ้านายและทั้งสองก็ได้ทำพันธะสัญญารูปแบบทาสผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งก็คือไม่อาจขัดคำสั่งผู้เป็นนาย ไม่อาจทรยศผู้เป็นนาย เมื่อผู้เป็นนายมีอันตรายต้องปกป้องทันที และเมื่อผู้เป็นายตายก็ต้องตายด้วย แต่ถ้าหากทาสตายผู้เป็นนายจะไม่ตายและสามารถทำสัญญาใหม่ได้
เรนได้สร้างกระท่อมขึ้นโดยมีอสรพิษเพลิงทมิฬคอยช่วยเหลือ
จากนั้นจึงใช้เวลาในทุกๆวันฝึกฝนตนเอง บางครั้งก็ฝึกโดยการต่อสู้กับอสรพิษเพลิงทมิฬที่เรนมอบนามว่า จิน ให้กับมัน
กลับมายังปัจจุบัน เรนหันไปมองอสรพิษเพลิงทมิฬที่เลื้อยมาด้านหลังของตนแล้วยื่นมือไปลูบหัวของมัน
เรนคิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้อง...
"คงถึงเวลาที่ข้าต้องลงจากหุบเขานี้ซะที...ว่ามั้ย จิน..."จินมองหน้าเจ้านายของตนจากนั้นจึงผงกหัวเห็นด้วย เพราะมันเองก็เบื่อกับการอยู่บนหุบเขานี้แล้วเช่นกัน เรนเห็นดังนั้นจึงยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน จินที่รู้ใจเจ้านายตนดีจึงขยายร่างและกางปีกสีแดงเลือดของตนออกเมื่อผู้เป็นนายขึ้นมานั่งบนหัว จากนั้นจึงกระพือปีกและโผบินขึ้นไปบนท้องฟ้าในทันที
.
.
.
เรนตั้งใจว่าจะแอบไปดูลูคัสก่อน เพราะเรนทั้งคิดถึงและเป็นห่วงลูคัสที่เป็นผู้ที่ตนรักมากที่สุดรองจากท่านแม่ของตน เรนกางเวทย์ล่องหนและเก็บเสียงคลุมตัวเองกับจินไว้ เมื่อเหลืออีกแค่ไม่เกิน 3 กม.ก็จะถึงอาณาจักรมังกร เรนสั่งให้จินบินเข้าไปยังเขตพระราชวัง แล้วให้ย่อขนาดตัวลงเลื้อยมาอยู่ในอกเสื้อของเรน เรนเดินไปบนทางเดินของพระราชวังซึ่งไม่มีใครเเล้วนอกจากยามของพระราชวังที่ยืนเฝ้ายามเป็นจุดๆ เพราะตอนนี้เป็นเวลากลางคืนทุกคนในปราสาทจึงอยู่ในห้องของตนหมดแล้ว
เรนเดินผ่านหน้าทหารยามซึ่งไม่มีใครรู้ถึงตัวตนของเรนเลยสักคน เรนเดินเข้าออกห้องนอนภายในพระราชวังเป็นว่าเล่น ในที่สุดเรนก็เจอห้องที่ลูคัสอยู่ เรนเดินไปที่เตียงนอนใหญ่ที่มีร่างของลูคัสนอนอยู่บนนั้น เรนปลดเวทย์ที่คลุมตัวอยู่ออก
แล้วก้มลงมองใบหน้าของผู้ที่ตนคิดถึงอย่างสุดหัวใจ
ใบหน้าของลูคัสดูซูบผอมลงไปมากนักจนเรนเผลอยื่นมือเข้าไปลูบอย่างแผ่วเบา เมื่อมองไปยังลำคอของลูคัส เรนดีใจมากที่ลูคัสยังคงสวมสร้อยของตนอยู่ เรนนั่งมองหน้าลูคัสอยู่สักพักเพื่อจดจำภาพใบหน้าของผู้ที่ตนรัก ก่อนที่เรนจะกลับจึงก้มลงไปทาบริมฝีปากของตนกับของลูคัส และเมื่อกำลังจะผละออกมานั่นเอง ก็มีน้ำหนักกดทับลงมาที่ต้นคอจนริมฝีปากของตนลงไปทาบกับของลูคัสอีกครั้ง
ผู้ที่ตนคิดว่าหลับอยู่ตอนนี้กลับลืมตาขึ้นมาและเริ่มปฏิบัติการจูบสูบวิญญาณในทันที
"อื้อ!!!"
เรนเบิกตากว้างเมื่อลิ้นของลูคัสสอดเข้ามาในปากของตน ลิ้นหนาเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กอย่างร้อนแรง
เรนในตอนนี้ถึงกับยืนไม่ไหว แขนขาอ่อนแรงไปหมด
และครางออกมาอย่างเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบอันเร่าร้อนที่ลูคัสเป็นผู้มอบให้
"อืออออ อืมมมม"
ลูคัสถอนริมฝีปากออกมาเมื่อเรนเริ่มหายใจไม่ออก
และดึงร่างเล็กขึ้นมานอนกอด เรนหอบหายใจแฮ่กๆอย่างเหนื่อยอ่อน
"แฮ่กๆๆ..."
ลูคัสมองร่างในอ้อมกอดด้วยสายตาอ่อนโยนและโหยหามาโดยตลอด
"เจ้ามันใจร้าย จากข้าไปโดยที่ไม่บอกลาข้าสักคำ"
"ข้า...ข้าขอโทษ ข้าแค่อยากเเข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องเจ้า ข้าไม่อยากเสียเจ้าไปเหมือน....ท่านแม่"
"หากอยากให้ข้ายกโทษให้ เจ้าต้องมาอยู่กับข้า โทษฐานที่เจ้าทำให้ข้าคิดถึงและเป็นห่วงเจ้ามานานถึง 100 ปี"
"แต่ว่า..เสด็จพ่อของเจ้าจะยอมหรือ..."
"ยอมสิ เสด็จพ่ออยากให้ข้าแต่งงานจะตายอยู่แล้ว หากเจ้าแต่งงานกับข้า เราก็จะได้อยู่ด้วยกัน"(โลกนี้ผู้ชายแต่งงานกันได้และท้องได้ด้วย ปล.เฉพาะผู้ชายหน้าสวยตัวบางนะที่ท้องได้)
"ข้ายังอยากเที่ยวอยู่เลยนะ หากแต่งงานกับเจ้า ข้าก็ไม่ได้เที่ยวน่ะสิ"
"ใครว่าแต่งงานแล้วไปเที่ยวไม่ได้กัน เมื่อร้อยปีก่อนข้าขอสละสิทธ์ในการเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดในบัลลังค์แล้วนา เพราะงั้นข้าในตอนนี้จึงมีอิสระยังไงล่ะ"
"หากข้าแต่งงานกับเจ้า เจ้าจะยกโทษให้ข้าจริงๆใช่มั้ย"
"พูดแบบนี้ เจ้าอยากแต่งให้ข้ารึ"
"ข้า..ข้า...."เรนหน้าแดง
"ข้า...ยอมแต่งกับเจ้าก็ได้....งือออ.."เอามือปิดหน้าอย่างอายๆ
ลูคัสมองร่างในอ้อมกอดด้วยความดีใจแล้วกอดแน่น
แต่แล้วก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างจึงคว้าเจ้าสิ่งนั้นออกมา พบว่ามันคือ...
"เรน เจ้างูนี่มาได้อย่างไร"ลูคัสถามพร้อมกับชูมือที่กำรอบคอของจินขึ้นมา จินดิ้นแด่วๆ ส่งสายตาให้เรนประมาณว่า 'เจ้านายช่วยด้วย ข้าจะโดนกินแล้วขอรับ'
"อ๋า~ ลู นั่นสัตว์อสูรของข้าเอง ปล่อยก่อนเดี๋ยวจินตาย"ลูคัสที่ได้ยินดังนั้นจึงรีบปล่อยมือออก จินเมื่อเป็นอิสระจึงรีบเลื้อยลงจากเตียงไปทันทีคิดในใจว่า
'ไม่กวนแย้วจ้า ตามสบายเลยเจ้านาย ข้าจะเป็นผู้ดูและผู้ฟังที่ดีในมุมมืดเองขอร้าบ~'
"ไปได้งูนั่นมาได้ไงน่ะ เรน เล่ามาให้หมดนะ"
"ก็คือว่า.......บลาๆๆๆๆๆ..."เรนเล่าเรื่องทั้งหมดให้ลูคัสฟัง แล้วในคืนนั้นทั้งสองก็นอนกอดกันฟังเรื่องราวที่เรนเล่าและผล็อยหลับลงไปในที่สุด...
.
.
.
ยามเช้าวันใหม่ อากาศสดใส
ลูคัสที่ตื่นขึ้นมาแล้วนอนมองหน้าของเรนด้วยสายตาอ่อนโยน และไม่นานเรนก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
"อรุณสวัสดิ์ เรน"
"อือ อรุณสวัสดิ์ ลู"
"วันนี้เจ้าต้องไปพบเสด็จพ่อกับข้านะ เรน"
"อือ.."
เมื่อทั้งสองจัดการตนเองเรียบร้อยแล้ว ก็พากันเดินออกจากห้องของลูคัสเพื่อลงไปทานอาหารเช้ากัน ซึ่งทุกคนในพระราชวังต้องมาร่วมทานกันทุกคนโดยวันนี้ทั้งสองใส่ชุดสีเดียวกันคือสีขาว ของเรนเป้นยูกาตะสีขาวลายจิ้งจอกสีแดง ส่วนของลูคัสเป็นเสื้อสีขาวสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีขาวลายมังกรสีแดงน่าเกรงขาม
กางเกงขาสามส่วนกับบูทที่ยาวเกือบถึงเข่าสีดำสนิท
เมื่อทั้งสองเดินผ่านมาข้ารับใช้ในพระราชวังต่างหยุดสิ่งที่ทำอยู่และเหม่อมองดูความงามของเรนและความหล่อเหลาของลูคัสด้วยความเคลิบเคลิ้ม
เมื่อทั้งสองมาถึงหน้าห้องทานอาหาร ลูคัสบอกให้เรนยืนรออยู่ก่อนพอเรียกค่อยเข้าไป
ลูคัสเดินเข้าไปในห้องทานอาหารที่มีพระราชาและพระราชินี(แม่ของหนูลูค่า)ชายารองของพระราชาและพี่กับน้องต่างแม่ของตนอยู่
"ทำไมวันนี้มาช้านักล่ะ ลูคัส"พ่อของลูคัสหรือพระราชาเอ่ยถาม
"เสด็จพ่อ"
"มีอันใด"
"ท่านอยากให้ข้าแต่งงานใช่รึไม่"
"ใช่ ถามข้าแบบนี้เจ้ามีผู้ที่จะแต่งด้วยแล้วรึ"พูดจบก็มองหน้าลูกชายของตน
"ใช่ ข้ามีคนที่จะแต่งด้วยแล้ว....เรนเข้ามาสิ"
สายตาของคนทั้งห้องมองไปยังตรงประตูทางเข้าห้องทานอาหารที่ตอนนี้เรนกำลังเดินเข้ามา ทุกคนในห้องยกเว้นลูคัสที่เดินไปโอบเอวของเรนมองตาค้างในความสวยของเรน
"นี่คนรักของข้า เรน ว่าที่ลูกสะใภ้ของเสด็จพ่อ "
"งดงามมาก พวกเจ้าไปรู้จักกันตอนไหนล่ะ 100 ปีมานี้ข้าไม่เห็นเจ้าออกนอกพระราชวังเลยนะลูคัส"พุดจบก็มองไปยังเรน สายตาบ่งบอกว่าไม่ไว้ใจ"แล้วเด้กนี่ไว้ใจได้รึเปล่า ทำไมข้าถึงไม่เห็นตอนที่ต้องเข้ามาในพระราชวัง ไม่แน่อาจจะเป็นมือสังหารก็ได้ ควรนำตัวไปสอบสวนก่อน"
"หยุดนะ!!! เสด็จพ่อ เรนกับข้ารู้จักกันเมื่อ 100 ปีก่อน
และก็เป็นเรนกับแม่ของเรนที่ช่วยข้าไว้จากอดีตท่านดยุคฟีเรียสจนแม่ของเรนต้องตาย หากไม่มีทั้งสองป่านนี้ข้าคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว"
"!!!..."พระราชาตกใจในสิ่งที่ได้ยิน หันไปจ้องมองเรนที่ตอนนี้ยืนน้ำตาคลอเมื่อได้ยินลูคัสพูดถึงเหตุการณ์ที่แม่ของตนถูกฆ่าตาย
"เป็นความจริงรึ"
"เป็นความจริงพะยะค่ะเสด็จพ่อ"
"เหตุใดสัตว์เทพอย่างจิ้งจอกเก้าหางที่ควรมีขนสีขาวบริสุทธิ์อย่างเจ้าจึงมีขนสีดำเล่า"พระราชาหันไปจ้องเรนอีกครั้งอย่างต้องการคำตอบจากปากของเรน
"กระหม่อม ไม่ทราบพะยะค่ะ ตอนที่เห็นภาพของ...ท่านแม่ที่ถูกฆ่าโดยเจ้าปีศาจนั่นกระหม่อมรู้สึกโกรธแค้นมันเป็นอย่างมาก รู้ตัวอีกทีก็ฆ่ามันตายแล้วพะยะค่ะ"เรนตอบออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างเมื่อในหัวมีแต่ภาพแม่ของตนถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมโดยปีศาจตนนั้น
"ในเมื่อเจ้าไม่รู้ เช่นนั้นข้าขอถามเจ้าข้อหนึ่ง ได้รึไม่"
"พะยะค่ะ
"แม่เจ้าเคยบอกรึไม่ว่าพ่อของเจ้ามีนามว่าอะไร"
"ท่านแม่เคยบอกข้าเมื่อครั้งยังเด็กว่าพ่อของข้ามีนามว่า... คานูเอล พะยะค่ะ"
"นามนั่นมัน!!! ข้าว่า ข้าพอจะรู้สาเหตุที่หางของเจ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีดำแล้วล่ะนะ"
"พระองค์รู้หรือพะยะค่ะ!!!"
"อืม พ่อของเจ้า คือจิ้งจอกเก้าหางผู้คอยอารักขาเทพเเห่งดวงจันทร์ จิ้งจอกเก้าหางที่มีขนสีดำเพียงตนเดียวในโลกแห่งนี้ นามของจิ้งจอกตนนั้นคือ......
"......."เรนเงียบรอฟังสิ่งที่พระราชาจะบอก ทั้งที่ในใจนั้นรู้ถึงสิ่งที่พระราชาจะพูดอยู่แล้ว หากแต่ก็อยากจะฟังจากปากมากกว่า
พระราชามองไปยังเรนและเอ่ยออกมา
"นามนั้นคือ.....คานูเอล"
"!!!..."
.
.
.
.............................................................................
ค่า~ จบแล้วน้ากับตอนที่สี่ เเหม่ๆ จริงๆแล้วครอบครัวของลูคัสรักกันดีนะคะ แต่ไอ้ดยุคอ่ะโลภมาก ต้องการให้ลูกของน้องสาวตนที่เป็นท่านแม่สองขึ้นนั่งบัลลังค์แล้วกอบโกยผลประโยชน์นะคะ ซึ่งไอ้แผนฆ่าองค์ชายก็ดยุคมันคิดคนเดียวนะคะ อ่า~ เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้า บ๊ายบายค่า~ ปล.มีคนบอกให้ตรวจคำผิดและปรับเปลี่ยนคำพูดนิดหน่อย ทำให้เรียบร้อยแล้วนะคร้า~
หุบเขาแห่งหนึ่งที่ผู้คนเรียกขานกันว่า หุบเขาเสียดฟ้า เพราะว่าหุบเขานี้เป็นหุบเขาที่สูงที่สุดในโลกและมีม่านหมอกปกคลุมอยู่ตลอดเขาทั้งลูก
ไม่ว่าผู้ใดได้ย่างกรายเข้าไป ล้วนต้องหายไปในหุบเขานั้นอย่างไม่อาจหวนคืน...
บนยอดเขาที่ไม่มีผู้ใดเคยไปถึง เมื่อเก้าสิบปีก่อนกลับมีกระท่อมหลังเล็กๆถูกปลูกขึ้นซึ่งในตอนนี้ผู้เป็นเจ้าของบ้านกำลังนั่งรับลมอยู่หน้ากระท่อมหลังนั้น เส้นผมสีเทาที่ยาวถึงหลังเข่าปลิวไสวไปตามสายลมที่พัดผ่าน หูและหางทั้งเก้าที่มีสีดำปลายหางเป็นสีขาวขยับเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดี ดวงตาหลับพริ้ม จมูกโด่งจิ้มลิ้มสูดกลิ่นอายธรรมชาติ
เรนลืมตาขึ้นแล้วมองเหม่อไปยังท้องฟ้า นึกไปถึง 100 ปีที่ผ่านมา...
.
.
.
100 ปีก่อน
เรนเดินทางไปเรื่อยๆจนมาถึงหุบเขาเสียดฟ้า เรนตัดสินใจขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อที่จะฝึกฝนตนเองในระหว่างทางที่ขึ้นไป เพราะเรนต้องการแข็งแกร่งขึ้นไปอีก เหตุการณ์ที่แม่ของตนโดนฆ่าตายนั้นเป็นบทเรียนที่ทำให้เรนได้รู้ว่าหากไม่แข็งแกร่งขึ้นก็ไม่อาจจะปกป้องคนที่ตนเองรักได้เรนจึงเลือกที่จะจากลูคัสมาเพื่อฝึกฝนตนเอง
เรนใช้เวลานานนับสิบปีในการขึ้นมาบนยอดเขาแห่งนี้ เรนต้องต่อสู้กับสัตว์อสูรมากมายที่หลบซ่อนอยู่ใต้หมอกของหุบเขาเสียดฟ้า และเมื่อฆ่าพวกมันได้ เรนก็จะนำจิตอสูรเวทย์ที่มีอยู่ในตัวของสัตว์อสูรทุกตัวมาดูดซับเพื่อเป็นพลังเวทย์ให้แก่ตน เมื่อขึ้นมาบนยอดเขาเรนก็เจอกับสัตว์อสูร
อสรพิษเพลิงทมิฬที่มีอายุถึงหมื่นปีซึ่งในโลกแห่งนี้มีเพียงสัตว์อสูรไม่กี่ตัวเท่านั้นที่มีอายุมากขนาดนี้ เรนต่อสู้กับมันอยู่ถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ผลที่ออกมาคือ ทั้งสองเสมอกัน
สัตว์อสูรอสรพิษเพลิงทมิฬยอมรับเรนเป็นเจ้านายและทั้งสองก็ได้ทำพันธะสัญญารูปแบบทาสผู้ซื่อสัตย์ ซึ่งก็คือไม่อาจขัดคำสั่งผู้เป็นนาย ไม่อาจทรยศผู้เป็นนาย เมื่อผู้เป็นนายมีอันตรายต้องปกป้องทันที และเมื่อผู้เป็นายตายก็ต้องตายด้วย แต่ถ้าหากทาสตายผู้เป็นนายจะไม่ตายและสามารถทำสัญญาใหม่ได้
เรนได้สร้างกระท่อมขึ้นโดยมีอสรพิษเพลิงทมิฬคอยช่วยเหลือ
จากนั้นจึงใช้เวลาในทุกๆวันฝึกฝนตนเอง บางครั้งก็ฝึกโดยการต่อสู้กับอสรพิษเพลิงทมิฬที่เรนมอบนามว่า จิน ให้กับมัน
กลับมายังปัจจุบัน เรนหันไปมองอสรพิษเพลิงทมิฬที่เลื้อยมาด้านหลังของตนแล้วยื่นมือไปลูบหัวของมัน
เรนคิดว่าคงถึงเวลาที่จะต้อง...
"คงถึงเวลาที่ข้าต้องลงจากหุบเขานี้ซะที...ว่ามั้ย จิน..."จินมองหน้าเจ้านายของตนจากนั้นจึงผงกหัวเห็นด้วย เพราะมันเองก็เบื่อกับการอยู่บนหุบเขานี้แล้วเช่นกัน เรนเห็นดังนั้นจึงยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน จินที่รู้ใจเจ้านายตนดีจึงขยายร่างและกางปีกสีแดงเลือดของตนออกเมื่อผู้เป็นนายขึ้นมานั่งบนหัว จากนั้นจึงกระพือปีกและโผบินขึ้นไปบนท้องฟ้าในทันที
.
.
.
เรนตั้งใจว่าจะแอบไปดูลูคัสก่อน เพราะเรนทั้งคิดถึงและเป็นห่วงลูคัสที่เป็นผู้ที่ตนรักมากที่สุดรองจากท่านแม่ของตน เรนกางเวทย์ล่องหนและเก็บเสียงคลุมตัวเองกับจินไว้ เมื่อเหลืออีกแค่ไม่เกิน 3 กม.ก็จะถึงอาณาจักรมังกร เรนสั่งให้จินบินเข้าไปยังเขตพระราชวัง แล้วให้ย่อขนาดตัวลงเลื้อยมาอยู่ในอกเสื้อของเรน เรนเดินไปบนทางเดินของพระราชวังซึ่งไม่มีใครเเล้วนอกจากยามของพระราชวังที่ยืนเฝ้ายามเป็นจุดๆ เพราะตอนนี้เป็นเวลากลางคืนทุกคนในปราสาทจึงอยู่ในห้องของตนหมดแล้ว
เรนเดินผ่านหน้าทหารยามซึ่งไม่มีใครรู้ถึงตัวตนของเรนเลยสักคน เรนเดินเข้าออกห้องนอนภายในพระราชวังเป็นว่าเล่น ในที่สุดเรนก็เจอห้องที่ลูคัสอยู่ เรนเดินไปที่เตียงนอนใหญ่ที่มีร่างของลูคัสนอนอยู่บนนั้น เรนปลดเวทย์ที่คลุมตัวอยู่ออก
แล้วก้มลงมองใบหน้าของผู้ที่ตนคิดถึงอย่างสุดหัวใจ
ใบหน้าของลูคัสดูซูบผอมลงไปมากนักจนเรนเผลอยื่นมือเข้าไปลูบอย่างแผ่วเบา เมื่อมองไปยังลำคอของลูคัส เรนดีใจมากที่ลูคัสยังคงสวมสร้อยของตนอยู่ เรนนั่งมองหน้าลูคัสอยู่สักพักเพื่อจดจำภาพใบหน้าของผู้ที่ตนรัก ก่อนที่เรนจะกลับจึงก้มลงไปทาบริมฝีปากของตนกับของลูคัส และเมื่อกำลังจะผละออกมานั่นเอง ก็มีน้ำหนักกดทับลงมาที่ต้นคอจนริมฝีปากของตนลงไปทาบกับของลูคัสอีกครั้ง
ผู้ที่ตนคิดว่าหลับอยู่ตอนนี้กลับลืมตาขึ้นมาและเริ่มปฏิบัติการจูบสูบวิญญาณในทันที
"อื้อ!!!"
เรนเบิกตากว้างเมื่อลิ้นของลูคัสสอดเข้ามาในปากของตน ลิ้นหนาเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กอย่างร้อนแรง
เรนในตอนนี้ถึงกับยืนไม่ไหว แขนขาอ่อนแรงไปหมด
และครางออกมาอย่างเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบอันเร่าร้อนที่ลูคัสเป็นผู้มอบให้
"อืออออ อืมมมม"
ลูคัสถอนริมฝีปากออกมาเมื่อเรนเริ่มหายใจไม่ออก
และดึงร่างเล็กขึ้นมานอนกอด เรนหอบหายใจแฮ่กๆอย่างเหนื่อยอ่อน
"แฮ่กๆๆ..."
ลูคัสมองร่างในอ้อมกอดด้วยสายตาอ่อนโยนและโหยหามาโดยตลอด
"เจ้ามันใจร้าย จากข้าไปโดยที่ไม่บอกลาข้าสักคำ"
"ข้า...ข้าขอโทษ ข้าแค่อยากเเข็งแกร่งขึ้นเพื่อปกป้องเจ้า ข้าไม่อยากเสียเจ้าไปเหมือน....ท่านแม่"
"หากอยากให้ข้ายกโทษให้ เจ้าต้องมาอยู่กับข้า โทษฐานที่เจ้าทำให้ข้าคิดถึงและเป็นห่วงเจ้ามานานถึง 100 ปี"
"แต่ว่า..เสด็จพ่อของเจ้าจะยอมหรือ..."
"ยอมสิ เสด็จพ่ออยากให้ข้าแต่งงานจะตายอยู่แล้ว หากเจ้าแต่งงานกับข้า เราก็จะได้อยู่ด้วยกัน"(โลกนี้ผู้ชายแต่งงานกันได้และท้องได้ด้วย ปล.เฉพาะผู้ชายหน้าสวยตัวบางนะที่ท้องได้)
"ข้ายังอยากเที่ยวอยู่เลยนะ หากแต่งงานกับเจ้า ข้าก็ไม่ได้เที่ยวน่ะสิ"
"ใครว่าแต่งงานแล้วไปเที่ยวไม่ได้กัน เมื่อร้อยปีก่อนข้าขอสละสิทธ์ในการเป็นหนึ่งในผู้สืบทอดในบัลลังค์แล้วนา เพราะงั้นข้าในตอนนี้จึงมีอิสระยังไงล่ะ"
"หากข้าแต่งงานกับเจ้า เจ้าจะยกโทษให้ข้าจริงๆใช่มั้ย"
"พูดแบบนี้ เจ้าอยากแต่งให้ข้ารึ"
"ข้า..ข้า...."เรนหน้าแดง
"ข้า...ยอมแต่งกับเจ้าก็ได้....งือออ.."เอามือปิดหน้าอย่างอายๆ
ลูคัสมองร่างในอ้อมกอดด้วยความดีใจแล้วกอดแน่น
แต่แล้วก็รู้สึกถึงอะไรบางอย่างจึงคว้าเจ้าสิ่งนั้นออกมา พบว่ามันคือ...
"เรน เจ้างูนี่มาได้อย่างไร"ลูคัสถามพร้อมกับชูมือที่กำรอบคอของจินขึ้นมา จินดิ้นแด่วๆ ส่งสายตาให้เรนประมาณว่า 'เจ้านายช่วยด้วย ข้าจะโดนกินแล้วขอรับ'
"อ๋า~ ลู นั่นสัตว์อสูรของข้าเอง ปล่อยก่อนเดี๋ยวจินตาย"ลูคัสที่ได้ยินดังนั้นจึงรีบปล่อยมือออก จินเมื่อเป็นอิสระจึงรีบเลื้อยลงจากเตียงไปทันทีคิดในใจว่า
'ไม่กวนแย้วจ้า ตามสบายเลยเจ้านาย ข้าจะเป็นผู้ดูและผู้ฟังที่ดีในมุมมืดเองขอร้าบ~'
"ไปได้งูนั่นมาได้ไงน่ะ เรน เล่ามาให้หมดนะ"
"ก็คือว่า.......บลาๆๆๆๆๆ..."เรนเล่าเรื่องทั้งหมดให้ลูคัสฟัง แล้วในคืนนั้นทั้งสองก็นอนกอดกันฟังเรื่องราวที่เรนเล่าและผล็อยหลับลงไปในที่สุด...
.
.
.
ยามเช้าวันใหม่ อากาศสดใส
ลูคัสที่ตื่นขึ้นมาแล้วนอนมองหน้าของเรนด้วยสายตาอ่อนโยน และไม่นานเรนก็ลืมตาตื่นขึ้นมา
"อรุณสวัสดิ์ เรน"
"อือ อรุณสวัสดิ์ ลู"
"วันนี้เจ้าต้องไปพบเสด็จพ่อกับข้านะ เรน"
"อือ.."
เมื่อทั้งสองจัดการตนเองเรียบร้อยแล้ว ก็พากันเดินออกจากห้องของลูคัสเพื่อลงไปทานอาหารเช้ากัน ซึ่งทุกคนในพระราชวังต้องมาร่วมทานกันทุกคนโดยวันนี้ทั้งสองใส่ชุดสีเดียวกันคือสีขาว ของเรนเป้นยูกาตะสีขาวลายจิ้งจอกสีแดง ส่วนของลูคัสเป็นเสื้อสีขาวสวมทับด้วยเสื้อคลุมสีขาวลายมังกรสีแดงน่าเกรงขาม
กางเกงขาสามส่วนกับบูทที่ยาวเกือบถึงเข่าสีดำสนิท
เมื่อทั้งสองเดินผ่านมาข้ารับใช้ในพระราชวังต่างหยุดสิ่งที่ทำอยู่และเหม่อมองดูความงามของเรนและความหล่อเหลาของลูคัสด้วยความเคลิบเคลิ้ม
เมื่อทั้งสองมาถึงหน้าห้องทานอาหาร ลูคัสบอกให้เรนยืนรออยู่ก่อนพอเรียกค่อยเข้าไป
ลูคัสเดินเข้าไปในห้องทานอาหารที่มีพระราชาและพระราชินี(แม่ของหนูลูค่า)ชายารองของพระราชาและพี่กับน้องต่างแม่ของตนอยู่
"ทำไมวันนี้มาช้านักล่ะ ลูคัส"พ่อของลูคัสหรือพระราชาเอ่ยถาม
"เสด็จพ่อ"
"มีอันใด"
"ท่านอยากให้ข้าแต่งงานใช่รึไม่"
"ใช่ ถามข้าแบบนี้เจ้ามีผู้ที่จะแต่งด้วยแล้วรึ"พูดจบก็มองหน้าลูกชายของตน
"ใช่ ข้ามีคนที่จะแต่งด้วยแล้ว....เรนเข้ามาสิ"
สายตาของคนทั้งห้องมองไปยังตรงประตูทางเข้าห้องทานอาหารที่ตอนนี้เรนกำลังเดินเข้ามา ทุกคนในห้องยกเว้นลูคัสที่เดินไปโอบเอวของเรนมองตาค้างในความสวยของเรน
"นี่คนรักของข้า เรน ว่าที่ลูกสะใภ้ของเสด็จพ่อ "
"งดงามมาก พวกเจ้าไปรู้จักกันตอนไหนล่ะ 100 ปีมานี้ข้าไม่เห็นเจ้าออกนอกพระราชวังเลยนะลูคัส"พุดจบก็มองไปยังเรน สายตาบ่งบอกว่าไม่ไว้ใจ"แล้วเด้กนี่ไว้ใจได้รึเปล่า ทำไมข้าถึงไม่เห็นตอนที่ต้องเข้ามาในพระราชวัง ไม่แน่อาจจะเป็นมือสังหารก็ได้ ควรนำตัวไปสอบสวนก่อน"
"หยุดนะ!!! เสด็จพ่อ เรนกับข้ารู้จักกันเมื่อ 100 ปีก่อน
และก็เป็นเรนกับแม่ของเรนที่ช่วยข้าไว้จากอดีตท่านดยุคฟีเรียสจนแม่ของเรนต้องตาย หากไม่มีทั้งสองป่านนี้ข้าคงไม่มายืนอยู่ตรงนี้แล้ว"
"!!!..."พระราชาตกใจในสิ่งที่ได้ยิน หันไปจ้องมองเรนที่ตอนนี้ยืนน้ำตาคลอเมื่อได้ยินลูคัสพูดถึงเหตุการณ์ที่แม่ของตนถูกฆ่าตาย
"เป็นความจริงรึ"
"เป็นความจริงพะยะค่ะเสด็จพ่อ"
"เหตุใดสัตว์เทพอย่างจิ้งจอกเก้าหางที่ควรมีขนสีขาวบริสุทธิ์อย่างเจ้าจึงมีขนสีดำเล่า"พระราชาหันไปจ้องเรนอีกครั้งอย่างต้องการคำตอบจากปากของเรน
"กระหม่อม ไม่ทราบพะยะค่ะ ตอนที่เห็นภาพของ...ท่านแม่ที่ถูกฆ่าโดยเจ้าปีศาจนั่นกระหม่อมรู้สึกโกรธแค้นมันเป็นอย่างมาก รู้ตัวอีกทีก็ฆ่ามันตายแล้วพะยะค่ะ"เรนตอบออกไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาทั้งสองข้างเมื่อในหัวมีแต่ภาพแม่ของตนถูกฆ่าตายอย่างโหดเหี้ยมโดยปีศาจตนนั้น
"ในเมื่อเจ้าไม่รู้ เช่นนั้นข้าขอถามเจ้าข้อหนึ่ง ได้รึไม่"
"พะยะค่ะ
"แม่เจ้าเคยบอกรึไม่ว่าพ่อของเจ้ามีนามว่าอะไร"
"ท่านแม่เคยบอกข้าเมื่อครั้งยังเด็กว่าพ่อของข้ามีนามว่า... คานูเอล พะยะค่ะ"
"นามนั่นมัน!!! ข้าว่า ข้าพอจะรู้สาเหตุที่หางของเจ้าแปรเปลี่ยนเป็นสีดำแล้วล่ะนะ"
"พระองค์รู้หรือพะยะค่ะ!!!"
"อืม พ่อของเจ้า คือจิ้งจอกเก้าหางผู้คอยอารักขาเทพเเห่งดวงจันทร์ จิ้งจอกเก้าหางที่มีขนสีดำเพียงตนเดียวในโลกแห่งนี้ นามของจิ้งจอกตนนั้นคือ......
"......."เรนเงียบรอฟังสิ่งที่พระราชาจะบอก ทั้งที่ในใจนั้นรู้ถึงสิ่งที่พระราชาจะพูดอยู่แล้ว หากแต่ก็อยากจะฟังจากปากมากกว่า
พระราชามองไปยังเรนและเอ่ยออกมา
"นามนั้นคือ.....คานูเอล"
"!!!..."
.
.
.
.............................................................................
ค่า~ จบแล้วน้ากับตอนที่สี่ เเหม่ๆ จริงๆแล้วครอบครัวของลูคัสรักกันดีนะคะ แต่ไอ้ดยุคอ่ะโลภมาก ต้องการให้ลูกของน้องสาวตนที่เป็นท่านแม่สองขึ้นนั่งบัลลังค์แล้วกอบโกยผลประโยชน์นะคะ ซึ่งไอ้แผนฆ่าองค์ชายก็ดยุคมันคิดคนเดียวนะคะ อ่า~ เป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้า บ๊ายบายค่า~ ปล.มีคนบอกให้ตรวจคำผิดและปรับเปลี่ยนคำพูดนิดหน่อย ทำให้เรียบร้อยแล้วนะคร้า~
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น