ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Empire Online ภาค มหาสงครามดาวเบสเทีย

    ลำดับตอนที่ #94 : ตอนที่ 83 ปราบกบฏทางเหนือ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.43K
      31
      22 ธ.ค. 57

    ตอนที่ 83
     
         ผ่านมาได้สองวันนับจากที่เข้ามาในเมืองหลวง หลังจากที่พวกราฟต่างโดนพาออกไปส่งที่บ้านตัวเองกันหมด ส่วนใหญ่กลับไปที่บ้านตัวเอง มีแต่ราฟกับเจมมี่และเจมมี่เท่านั้นที่กลับไปที่เมืองอาโดรเซีย แม้ดาร์คจะไม่เข้าใจเหตุผลก็ตาม หลังจากนั้นดาร์คต้องคุยกับเบลอนเรื่องที่หลานสาวเค้าออกจากเมืองไปที่เมืองอาโดรเซียแล้ว เบลอนมีท่าทีตกใจเล็กน้อย แต่พอรู้ว่าเธอปลอดภัยดีก็โล่งอก แต่สิ่งที่เป็นปัญหากับดาร์คตอนนี้ก็คือ

         "นี่เจ้าหนู พี่สาวนายอยู่ไหนเหรอ"

         "ฉันอยากจะทำความรู้จักกับพวกเธอซะหน่อยน่ะ"

         "พี่สาวนายทั้งสองคนนิสัยเป็นไง"

         'ไปตายซะพวกแก~~'ดาร์คร้องอยู่ในใจ แค่เข้าเมืองวันแรกก็มีคนมองเทียแมทกับเฟนีย่ากันใหญ่ และพอมีคนเข้าไปทัก เฟนีย่าก็คุยด้วยนิดหน่อยและบอกว่าเป็นพี่สาวของดาร์ค เทียแมททำท่าทีเย็นชาใส่ แต่ก็มีหลายคนที่เข้าไปท้าทายแล้วจบด้วยการถูกตบกระเดน ดีที่ไม่ถึงตายเพราะเทียแมทออมแรงไว้มาก แต่เขาแน่ใจว่าพวกเธอจงใจแกล้งกันชัดๆ เพราะหลังจากผ่านวันแรกมาแล้วพวกเธอทั้งคู่ก็ขอตัวเข้าไปอยู่ในกำไลอย่างพร้องเพรียง เฟนีย่าไม่พูดอะไรนอกจากหัวเราะแล้วหายเข้าไปทันที ส่วนเทียแมทบ่นใหญ่ก่อนจะเข้าไป และที่ที่เขากำลังโดนรุมถามอยู่ก็คือภายในโรงอาหารของกองทัพนั้นเอง ดาร์คกินน้อยแป๊ปเดียวก็ทางอาหารเช้าเสร็จ เขาไม่รอช้าที่จะลุกแล้วเดินออกจากก้องไปทันที

         'ไม่เก็บพวกมันเลยละครับจะได้สบายหู'เดธไซธ์เสนอขึ้นมา

         'ถ้าทำได้ฉันคงทำไปแล้ว'ดาร์คตอบเสียงดัง เขาเดินอย่างไม่เห็นหัวใครซ้ำยังแผ่จิตสังหารจนคนรองทางที่ดาร์คเดินผ่านต่างก็รีบหลีกทางให้ทันที ก่อนที่ดาร์คจะเดินเข้าไปในพระราชวังแล้วยอมลดจิตสังหารที่แผ่ออกมาลง แต่ยังคงไว้รอบตัวอยู่ ดาร์คเดินตามขุนนางหลายคนเข้ามาจนถึงท้องพระโรงแล้วดาร์คก็เดินไปยืนตรงทางขวาของฝ่ายบู๊ ก่อนที่จะมีขุนนางเดินเข้ามาเรื่อยๆยืนตามตำแหน่งตน แต่ตัวราชายังไม่มาซะที ดาร์คไม่ชอบตรงที่ต้องมายืนเช่นนี่ ยิ่งมองดูบัลลังค์ก็ยิ่งอยากจะพูดว่ามีแต่ไอ้ราชาเท่านั้นรึไงที่นั่งได้น่ะ

         ไม่นานระหว่างที่ดาร์คยืนสาปแช่งราชาเจ้าตัวก็มาจนได้ ตัวราชาเดินมานั่งที่บับลังค์เช่นเคย แต่วันนีเเขาเห็นคนที่ไม่เคยพบซึ่งก็คือหญิงสาวผมทองตาสีฟ้า มีใบหน้าคล้ายราชาอยู่บ้าง เธอนั่งลงเก้าข้างกายราชาที่ปกติไม่มีใครนั่ง

         "คำนับองค์ราชาและราชินี"เสียงขุนนางคนหนึ่งพูดแล้วทุกคนก็ต้องก้มลงคำนับตามประเพณี ทีแรกดาร์คก็ชะงักที่เธอเป็นราชินี แต่พอคิดอีกทีน่าจะเป็นแม่ของราชามากกว่าเพราะอายุห่างกันเกินไป ที่ยังเป็นราชินีอยู่เพราะราชายังไม่มีใครมาเป็นคู่ครอง จึงรักษาตำแหน่งเอาไว้อยู่

         "ลุกขึ้นได้"ราชาสั่งแล้วทุกคนก็ลุกขึ้นยืนทันที จากนั้นก็เป็นการว่าราชการเกี่ยวกับเรื่องสงครามไปเรื่อยๆ ซึ่งก็ไม่มีอะไรนอกจากกองทัพของผู้เล่นบุกผ่านเมืองต่างๆมาได้เรื่อยๆเท่านั้นเอง ดาร์คเพียงแต่ยืนฟังไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ดาร์คดูแล้วขุนนางต่างถกเถียงกันทะเลาเบาะแว้งกันเอง มีเพียงแต่ความวุ่นวายสุดท้ายก็สรุปอะไรไม่ได้เลย ตัวผู้เป็นราชาก็ตัดสินใจให้ส่งกำลังไปเสริมที่แนวหน้าเท่านั้น ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองกำลังอย่างเปล่าประโยชน์ ดาร์คเห็นว่าพวกราชสำนักต่างเชื่อมั่นในกำลังทหารนับล้านในเมืองเวนิส พร้อมทั้งเสบียงอาหารที่กินได้หลายสิบปีแม้ถูกล้อม จึงไม่มีใครเครียดในเรื่องสงครามกันจริงๆจังๆ

         "รายงานเรื่องต่อไปครับ มีเมืองทางภาคเหนือของอาณาจักรเราเกิดกบฎครับฝ่าบาท พวกมันฆ่าขุนนางที่ไปเก็บภาษีแลัวเผาบัญชีหนี้สินที่ติดเมืองหลวงด้วยครับฝ่าบาท"

         "ตึง!!!"ราชาทุบบัลลังค์เสียงดัง

         "พวกมันกล้าคิดทรยศต่อข้าผู้นี้เหรอ สั่งให้ขุนนางที่ปกครองเมืองทางเหนือที่ภักดีต่อข้าจัดการพวกมันใหัหมดซะ"เมื่อราชาสั่งออกมาแล้วขุนนางที่พูดก็มีท่าทีลำบากใจ ก่อนที่จะพูดว่า

         "เกรงว่าจะไม่ได้ เพราะตอนนี้พวกเมืองทางเหนือเริ่มคิดเอาแต่ปกป้องตัวเองไม่สนใจบ้านเมือง พวกมันก็ต่างอยู่แต่ในเมืองตัวเองไม่คิดส่งกำลังมาช่วย แล้วฝ่าบาทคิดว่าพวกมันจะช่วยท่านจัดการกองทัพกบฏหรือ ที่ดลวร้ายกว่าพวกมันอาจจะไปเข้าข้างพวกกบฎก็ได้"ราชาตัวสั่นด้วยความโกรธ ในขณะเดียวกันดาร์คก็มองไปทางราชินีผู้เป็นมารดาของราชา สายตานางกำลังจ้องมองมาทางนี้ ก่อนที่ดาร์คจะละสายตาจากนางกลับไปมองราชา

         'นางกำลังมองเจ้านายอยู่นะ คงเป็นเพราะเรื่องที่ท่านทำในท้องพระโรงคราวก่อนแน่ๆ'เดธไซธ์กล่าวขึ้น

         'ฉันรู้'ดาร์คก็รำคาญสายตาที่มองมา หญิงสาวตรงหน้าต้องการจะกำจัดเค้าที่กล้าทำเรื่องเสื่อมเสียให้กับราชสำนักแน่นอน ที่เธอยังไม่ทำอะไรเพราะต้องมีเหตุผลมากพอเสียก่อนเท่านั้น

         "ส่งกำลังจากเมืองหลวงเราไปจัดการพวกมันซะ ใครจะอาสาไป"ราชาเบนสายตามาทางขุนนางแม่ทัพฝ่ายบู๊ทันที แต่ราชาก็ไม่ได้ยินเสียงใครอาสารับศึกนี้เลยแม้แต่คนเดียว ราชาก็เลยเลือกเองและมองดาร์คก่อนจะพูดว่า

         "ดาร์ค ข้าขอแต่งตั้งเจ้าเป็นคนยกทัพไปปราบพวกกบฎซะทาบภาคเหนืแทั้งหมดซะ"เมื่อต้องรับบัญชาจากราชา ดาร์คก็ต้องออกมายืนเบื้องหน้า

         "ไม่ทราบว่าข้าได้รับกังทหารเท่าไหร่ครับฝ่าบาท"ดาร์คถามขึ้น ราชาลูบคางก่อนจะตอบว่า

         "ข้าจะให้ทางกองบัญชาการพิจารณาให้ จงรีบไปเตรียมตัวซะ"ดาร์คคำนักแล้วเดินออกจากท้องพระโรงไปดาร์ครู้ดีว่าราชามันจะต้องจงใจให้กำลังทหารเค้าน้อยเพื่อจะให้แพ้ศึกกลับมาแน่นอน แล้วหลังจากนั้นราชามันคงจะสั่งจับเค้าประหารเค้าทันทีแน่นอนฐานทำงานพลาด ดาร์คเดินออกมาจากพระราชวังแล้วกลับมาที่ตึกศูนต์บัญชาการทหารก็เดินเข้ามาพักในห้องของตัวเอง

         "แว๊บ"ทันทีที่ดาร์คนั่งลงที่เตียงแสงจากกำไลก็สว่างขึ้นก่อนที่สองสาวมังกรจะมานั่งขนาบคนละข้างทันที

         "ดาร์ค ไอ้ราชานั้นมันคิดจะฆ่าเจ้าชัดๆเลยนะ ข้าจะไปฆ่ามันคืนนี้ตอนหลับเองเจ้าไม่ต้องห่วง ที่นี่เรื่องที่เจ้าจะโดนส่งไปทางเหนือก็ลืมได้เลย"เทียแมทจับไหล่ดาร์คแล้วเขย่าจากนั้นพูดเสียงดัง หัวดาร์คก็ขยับไปมาเพราะแรงเขย่าของหญิงยาว แต่ก็มีมือของหญิงสาวอีกคนจับมือของเทียแมทให้หยุดมือไว้ก่อน

         "พอได้แล้วเทียแมท เดี๋ยวดาร์คจะเป็นไรไปเพราะเจ้าซะก่อน"เทียแมทได้ฟังที่เฟนีย่าพูดก็รีบเอามือออกจากไหล่ดาร์คเพราะรู้ว่าตัวเองโวยวายหนักเกินไป ดาร์ครอดจากแรงเขย่าตัวของเทียแมทก็จัดเสื้อให้เรียบร้อยก่อนจะพูดว่า

         "ขอบคุณครับเฟนีย่า"ดาร์คหันไปเอ่ยกับหญิงสาวแล้วเธอก็ยิ้มหวานกลับมาเช่นเคย

         "ไม่เป็นไรค่ะ"แล้วเฟนีย่าก็ถือโอกาสเอามือลูบหัวเด็กหนุ่มทันที ดาร์คหันไปมองเทียแมทที่นั่งนิ่งก่อนจะพูดว่า

         "เทียแมทห้ามเข้าไปลอบฆ่าราชาตอนหลับนะครับ...ถึงฉันจะอยากให้ตายก็เถอะ"ดาร์คพูดคำสุดท้ายเบาวิวจนหญิงสาวไม่ได้ยิน แต่เฟนีย่านั้นได้ยินชัดแจ่วและยิ้มที่มุมปาก

         "ข้าเข้าใจแล้วดาร์ค"เทียแมทตอบกลับ

         "ผมจะยกทัพไปปราบกบฏที่ภาคเหนือของอาณาจักรลูเวนิส..."ดาร์คเว้นจังหวะพูดเล็กน้อยและปรากฏรอยยิ้มขึ้นมาก่อนจะพูดต่อว่า

         "และผมมีของที่ต้องการที่ต้องขอแรงให้เทียแมทกับเฟนีย่าไปขโมยมาคืนนี้หน่อยครับ"เทียแมทกับเฟนีย่าได้ยินแล้วชะงักไป

         "ขโมย?"เทียแมทพูดขึ้นมา ดาร์คพยักหน้าเพื่อให้รู้ว่าเธอไม่ได้ฟังผิดก่อนที่ดาร์คจะลุกขึ้นจากเตียง

         "รายละเอียดเดี๋ยวค่อยคุยกันนะครับ แต่ตอนนี้ผมขอให้ทั้งคู่กลับเข้าไปในกำไลเสียก่อน"ไม่ทันได้ถามอะไรสองมังกรสาวก็โดนบังคับพากลับเข้ากำไลไป ดาร์คเดินออกมาจากห้องก็เป็นการบังคับไม่ให้พวกเธอออกมาจากกำไล ดาร์คเดินมาที่หน้าห้องกองบัญชาการที่อยู่ที่ชั้น10ซึ่งเป็นชั้นบนสุด ระหว่างที่ดาร์คกำลังเดินขึ้นบันไดอยู่นั้นก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามาหาเค้า เป็นเด็กหนุ่มรูปร่างไม่สูงนัก ร่างกายมีกล้ามเนื้อเล็กน้อย มีผมสีทองและตาสีเขียวเข้ม

         "หมับ"อยู่ดีๆเด็กหนุ่มตรงหน้าก็ตรงเข้ามาจับมือดาร์ค เล่นเอาเทียแมทในกำไลร้องโวยวายออกมา แต่โชคดีที่ไม่มีใครได้ยินนอกจากเค้า จากนั้นเด็กหนุ่มตรงหน้าก็เขย่ามือดาร์คแล้วแนะนำตัว

         "สวัสดีครับ ท่านเสนาธิการดาร์คใช่ไหมครับ กระผมเป็นนายทหารชื่อมูครับ ครอบครัวผมยากจนแต่ได้รับความช่วยเหลือจากท่านแม่ทัพเบลอนจนได้เข้าเรียนโรงเรียนทหารและเรียนจบตอนอายุ16ปีครับ ผ่านหนึ่งปีมานี่ตอนนี้ผมอายุ17ที่ได้เลื่อนขั้นเป็นนาย..."

         "พอ!!!"ดาร์คยกมือห้ามแล้วพูดเสียงดัง ทำให้เด็กหนุ่มตรงหน้าหยุดพูดไปทันที

         "ไม่ต้องเล่าให้ยืดยาว สรุปแล้วนายมาทำอะไร"ดาร์ครีบตัดบทให้เด็กหนุ่มตรงหน้าที่พูดซะยืดยาวให้เล่ามาสั้นๆ

         "ท่านแม่ทัพเบลอนให้ผมมาเป็นทหารคนสนิทท่านครับ บอกให้ท่านฝากดูแลผมด้วย"มันพูดเสียงใสออกมา ดาร์คได้ยินที่พูดแล้วฉุน

         'แกอายุ17แล้วนะเฟ้ย จะให้ฉันดูแลทำไมอีก'ดาร์คคิดในใจแต่ก็ไม่พูดออกมา มองดูเด็กหนุ่มตรงหน้าว่าจะมีความสามารถแค่ไหนกัน

         "ตามฉันมา เราจะไปที่กองบัญชาการ"ดาร์คพูดจบแล้วเดินผ่านมูไป

         "ขอรับ"มูตอบรับแล้วเดินตามดาร์คไปในฐานะทหารคนสนิท เมื่อมาถึงแล้วดาร์คก็เข้าไปข้างในโดยที่มูไม่มีสิทธิเข้าไปต้องรออยู่หน้าห้อง ไม่นานดาร์คก็เดินออกมาจากห้องก่อนที่จะเดินกลับไปที่ห้อง ระหว่างทางนั้นปลอดผู้คนดาร์คก็ถามมูขึ้นมา

         "นายคงรู้แล้วสินะว่าฉันได้รับคำสั่งให้ไปปราบกบฎทางภาคเหนือ แต่เมื่อฟังจากกองบัญชาการอย่างละเอียดแล้ว แทบจะทุกเมืองพากันต่อต้านเมืองหลวงกันทั้งนั้น จะบอกว่าภาคเหนือคิดแยกตัวเป็นอิสระก็ไม่ผิดนัก"

         "ถ้างั้นเราก็คงต้องมีกำลังมากพอดูนะครับ หัวเมืองทางเหนือยากจนเพราะฤดูหนาวยาวนานทำให้มีประชากรน้อยที่สุด แต่กำลังทหารภาคเหนือก็มีกำลังพลถึง30,000คนทีเดียว ถ้าพวกเขากบฎกันทั้งหมดทาวกองบัญชาการทหารคงให้กำลังทหารมามากพอดู"ดาร์คมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่คิดตื้นเกินไปก่อนจะพูดว่า

         "กองทัพเรามีกำลังพลเพียงแค่5,000นาย"เมื่อดาร์คพูดแบบนี้กำไลของเค้าก็สั่นไหวขึ้นมา พร้อมกับเสียงของมูดังขึ้น

         "หา~ กำลังทหารแค่นั้นจะไปทำอะไรได้กันเล่า 1ต่อ6"มูพูดแล้วยกนิ้วขึ้นมานับราวกับยอมรับความจริงไม่ได้

         "หึ ไอ้ราชากับพวกแม่ทัพอ่อนแอนั้นไม่มีทางยอมมอบทหารจำนวนมากให้กับผู้ใดผู้หนึ่งหรอก เพราะกลัวว่าถ้าทรยศแล้วจะปราบปรามไม่ได้น่ะสิ"ดาร์คเดินย้ำเท้าหนักขึ้นด้วยความโกรธ

         "ตะ..แต่อย่างนี้ก็เท่ากับว่าเราเอาชีวิตไปทิ้งน่ะสิครับ"มูพูดด้วยความกลัว

         "นายอย่าได้กลัวไปเลย เพราะพวกเราจะไม่ได้เอาชีวิตไปทิ้งแน่"ดาร์คพูดแล้วยิ้มที่มุมปากทำให้มูผู้ไม่เข้าใจเจ้านายใหม่ตรงหน้างงหนัก



         ยามค่ำคืนภายในห้องใต้ดินของกองบัญชาการที่เป็นคลังเก็บอาวุธของการคลัง มีร่างสามร่างปรากฎตัวขึ้นมาในเงามืด ทั้งสามลอบมองยามเฝ้า50กว่าคนที่ยืนอยู่ทั่วห้องใต้ดิน

         "ฟุ่บๆ"ไม่ทันไรร่าง2ใน3ก็กระโดหายไปดัวยความรวดเร็ว พุ่งผ่านทหารทั้งห้องก่อนที่ร่างเหล่านั้นจะล้มลง

         "พะ..พวกพี่สาวคงไม่ได้ทำพวกเขาตายนะครับ"เสียงเด็กหนุ่มพูดด้วยความตื่นตระหนก ซึ่งก็คือมูนั้นเอง

         "พวกข้าไม่ทำหรอกน่าเพราะดาร์คสั่งมานี่นา เอาละได้เวลาขนย้ายของแล้ว"เสียงเฟนีย่าพูดก่อนที่จะเดินไปตรงปืนใหญ่ขนาดกลางเป็นวางเรียงเป็นกอง

         "เชอะ ข้าล่ะอยากจะฆ่าเจ้าพวกนี้จริงๆ"เทียแมทพูดแล้วเดินเข้าไปหาเฟนีย่า

         "ไม่เอาอันที่มันใหญ่ๆล่ะ"เธอพูดแล้วชี้ไปที่กองปืนใหญ่ขนาใหญ่สำหรับถล่มฐานทัพ

         "พวกเราแค่ไปสู้กับกองกำลังกบฏนะ ไม่ได้ไปทำลายเมือง แล้วอีกอย่างถ้าเอาไอ้อันใหญ่พวกนี้ไปคงลอบขนไปด้วยไม่ได้แน่"เฟนีย่าพูดจบก็หยิบกระเป๋าขึ้นมาก่อนที่ปืนใหญ่จะหายเข้าไปในนั้น ก่อนที่เธอจะหยิบกระสุนปืนใหญ่ใส่ไปด้วย เทียแมทก็เดินไปช่วยเอาใส่กระเป๋า ในขณะที่มูมองตาค้าง

         "พวกพี่สาวทำไมถึงมีของของผู้เล่นล่ะ"มูปากสั่นชี้กระเป๋าในมือของเฟนีย่า

         "พวกพี่ฆ่าแล้วแย่งมาจากพวกมันได้เมื่อนานมาแล้วน่ะ อย่าถามมากอย่ลืมว่าดาร์คส่งเจ้ามากับพวกเราทำไม รีบหน่อยเดี๋ยวต้องเอาไปไว้ในเกวียนวันเดินทาง"มูได้ยินเฟนีย่าพูดแล้วรีบไปหยิบกองปืนและกระสุนออกมาทันที ก่อนที่จะเอาใส่กระเป๋าของเฟนีย่า ตอนที่ปืนกายเข้าไปเด็กหนุ่มก็ถึงกับอึ้งไป ไม่กี่สิบนาทีพวกเทียแมทก็ทำงานเสร็จพร้อมทั้งจัดการลบร่องรอยให้หมดแล้วหายตัวไปจากที่แห่งนั้น



         สามวันให้หลังดาร์คก็นำทัพทหารออกจากเมือง โดยที่ทหารทั้งหมดนั้นมีแต่อาวุธประเภทดาบเท่านั้นไม่มีธนูหรือปืนใช้กันเลย ทั้งหมดเป็นทหารที่ผ่านศึกมาแล้วกันทั้งนั้น ทางกองบัญชาการบอกดาร์คว่าในเมื่อพวกกบฏมีเพียงแต่อาวุธพวกดาบใช้เท่านั้น เลยให้ทหารมีฝีมือดาบติดอาวุธง่ายๆอย่างดาบให้ไปรบเท่านั้นเอง

         ด้านหลังที่เป็นกองเสบียงที่มีเฟนีย่าคุมอยู่มีทหารเมืองหลวงตรวจของอยู่

         "พวกเราจะขอเช็คด้านในเสบียงอาหารนะ"นายทหารคนหนึ่งพูดทำท่าจะเดินเข้าไป เพราะเห็นเกวียนด้านในมันดูใหญ่กว่าปกติอยู่เล็กน้อย แต่เฟนีย่าเข้ามาขวางทางเหมือนไม่ยอมให้เปิดตรวจดู

         "พวกเรารีบนะค่ะ ในนี้มีแต่เสบียงทั้งนั้นจะมาตรวจทำไม"เฟนีย่าพูดเสียงหวานเล่นเอาทหารผู้มีหน้าที่จะตรวจสอบเคลิ้มไปเลย

         "พะ..พวกเราทำตามหน้าที่ครับ"เฟนีย่าเห็นพวกนี้ยังไม่ยอมเลิก เมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ก็ต้องใช้ไม้แข็งแทนซะแล้ว

         "พวกฉันต้องรีบไปปราบทัพทางเหนือที่เป็นกบฏนะค่ะ ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาดไปเพราะการที่พวกคุณตรวจสอบเสบียงทำใหัการเดินทัพล้าช้าขึ้นมาพวกคุณรับผิดชอบไหวเหรอ"เมื่อพวกทหารได้ยินก็ชะงักไปก่อนที่จะมองหน้ากันอย่างลังเลใจ

         "เอ่อ..ถ้างั้นพวกเราไม่รบกวนแล้วครับ พวกผมจะทำสรุปเองว่าตรวจสอบแล้ว"เฟนีย่าได้ยินแล้วยิ้มหวาน

         "ขอบคุณมากค่ะ"เฟนีย่าพูดแล้วขี่ม้าเดินห่างจากเมืองไปไกล ส่วนพวกทหารได้แต่มองเฟนีย่าห่างออกไปเหมือนมองนางฟ้า แต่ที่จริงถ้าใครรู้จักเธอก็จะรู้ว่าเธอเป็นนางจิ้งจอกตัวหนึ่งผู้แสนเจ้าเล่ห์

         กองทัพของดาร์คเดินทัพจนข้ามแม่น้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งที่แบ่งภาคกลางกับภาคเหนือเข้ามาในหลายวันต่อมา และเดินทัพต่อมาไม่นานก็เห็นกองทัพนับหมื่นของชาวเหนือกำลังเดินทัพเข้ามาทางนี้ ดาร์คไม่รอช้าสั่งให้ทหารต้องกองทันที กองหน้าได้รับกระบอกปืนมาเป็นอาวุธที่พวกเทียแมทไปลอบเอาออกมา พร้อมทั้งตั้งปืนใหญ่50กระบอกเอาไว้ด้วย

         "ทหารบรรจุกระสุนปืนใหญ่เตรียมเอาไว้ ทหารกองหน้าแบ่งเป็นสามแถว แถวหน้าสุดเตรียมยิงอีกสองแถวบรรจุกระสุนเตรียมไว้"ดาร์คออกคำสั่งกับทหารของตนให้เร่งทำตาม ไม่นานดินปืนและกระสุนก็ถูกบรรจุไว้เรียบร้อยพร้อมทั้งเตรียมยิง กองหน้าก็พร้อมแล้วเช่นกัน

         "เฮเฮๆๆๆ.."ไม่นานกองทหารกบฏก็พุ่งเข้ามาด้วยอาวุธดาบกับหอกและพลธนูกำลังเล็งอยู่ด้านหลัง เมื่อเข้ามาในระยะปล้วดาร์คก็สั่งทันที

         "ยิงงง!!!!"แล้วหลังจากนั้นอีกนับร้อยเสียงก็ดังขึ้น

         "ปังๆๆๆๆตูมมมมๆๆๆ"ทหารยิงปืนออกไปอย่างพร้อมเพรียงทันที กองหน้าของทหารฝ่ายกบฏที่บุกเข้ามาพากันล้มตายทันที พร้อมกันนั้นปืนใกญ่ก็ยิงเข้าใส่ทหารฝ่ายกบฎตายไปอีกเป็นเบือ

         "อ๊ากกกก"เสียงร้องจากฝ่ายตรงข้ามดังขึ้น แต่ดาร์คไม่คิดจะเห็นใจศัตรูตรงหน้าจนกว่าพวกมันจะยอมแพ้ แถวที่สองขึ้นหน้ามาแทนแล้วยิงไปอีกชุด

         "ปังๆๆๆๆ"ทหารฝ่ายกบฏยังล้มตายอย่างต่อเนื่อง ทหารฝ่ายกบฏนั้นมีปต่อาวุธแบบเก่าไม่มีทางสู้ได้ ซ้ำภาคเหนือยังยากจนขาดการเรียนรู้ มีนักเวทน้อยมาก ไม่เพียงพอที่จะเอามาร่วมทัพอย่างแน่นอน ดาร์ครับรู้ถึงจุดนี้เป็นอย่างดี

         "ท่านดาร์ค ทางฝ่ายนั้นยกธงขาวแล้ว"เสียงของมูดังขึ้นมา

         "หยุดยิงก่อน"ทหารทั้งหมดต่างหยุดยิงกันพร้อมเพรียง ก่อนที่จะมีทหารยศสูงท่าทางอายุมากแล้วถือธงขาวพร้อมนายทหารเดินเข้ามา

         "พวกข้ายอมแพ้แล้ว"เขาพูดอย่างอ่อนล้า ก่อนที่ดาร์คจะพูด

         "ข้าคงต้องขอจับทหารพวกเจ้าทั้งหมดไว้รวมถึงพวกเจ้าด้วย และข้าจะเข้าไปในเมืองของพวกเจ้า"จากนั้นทหารฝ่ายกบฏก็ถูกับกุมตัวทั้งหมด หลังจากนั้นดาร์คก็ทราบว่ากำลังทหารที่ยกมามี2หมื่นคนเท่านั้น อีกหมื่นคนเป็นกองหนุนที่ไว้ในสถานการฉุกเฉิน ท่าทางอีกฝ่ายก็แปลกใจไม่น้อยหลังรู้ว่าทหารจากเมืองหลวงยกมาแค่นี้ พวกดาร์คที่เข้ามาในเมืองแล้วดาร์คก็สั่งไม่ให้ทหารทำอะไรชาวบ้านแล้วบอกให้ประชาชนอยู่ในความสงบ ซึ่งดูเหมือนพวกชาวบ้านจะโกรธเขาไม่น้อยแม้เขาจะเป็นเด็กก็ตาม หลังดาร์คตรวจจำนวนทหารฝ่ายกบฏที่เสียชีวิตนั้นมีมากกว่า6,000คนและที่เหลือส่วนมากบาดเจ็บ เพียงพอแล้วที่พวกเขาจะโกรธตน แต่ทำไงได้นี่มันสงคราม

         "พยาบาลให้ทหารฝ่ายกบฏที่บาดเจ็บด้วย ปละต่อให้พวกเขาเป็นนักโทษพวกเจ้าก็อย่าทำอะไรพวกเขาเด็ดขาด"ดาร์คหันไปสั่งมู เด็กหนุ่มก็รีบไปบอกทหารทั้งกองทัพตามนั้น ซึ่งอย่างน้อยก็ทำให้ชาวบ้านมองพวกดาร์คดีขึ้นมาบ้าง

         ภายในห้องทำงานของดาร์คที่เมื่อก่อนเป็นของตัวเจ้าเมืองซึ่งก็คือทหารยศสูงที่นำทัพมาต้านเขานั้นเอง ผ่านมาได้5วันนับจากที่การรบสิ้นสุด รู้สึกว่าชายชราคนนี้จะเป็นเจ้าเมืองดูแลหัวเมืองเหนือทั้งหมด โดยยกทัพส่วนใหญ่มาต้านกองทัพเมืองหลวง ส่วนเมืองใหญ่สุดของภาคเหนืออยู่เหนือขึ้นไปอีกที่ลูกชายของเค้าดูแลรักษากการแทนผู้เป็นพ่อ ดาร์คต้องลำบากเขียนจดหมายส่งไปให้เมืองหลวงว่าจะทำยังไงกับเชลยศึก แต่ดาร์คพอจะรู้ว่าราชาหน้าโง่นั้นต้องสั่งให้ฆ่าทิ้งทั้งหมดแน่ รวมถึงชาวบ้านที่ต่อต้าน แต่ดาร์คเห็นว่าถ้าราชามันปกครองดีพวกเขาก็ไม่ต่อต้านหรอก และถ้าเกิดฆ่าชาวบ้านที่ต่อต้านทิ้งทั้งหมดก็ลืมเรื่องปกครองภาคเหนือได้เลยเพราะต่อต้านกันทั้งหมดนี่แหละ

         "ทะ..ท่านดาร์คครับ มีกองทหารกำลังมุ่งหน้ามาที่เมืองนี้ครับ น่าจะมาถึงในตอนกลางคืน น่าจะเป็นทัพกบฏที่เหลือ"มูเปิดประตูเข้ามาทันที ดาร์คมองเด็กหนุ่มตรงหน้าก่อนจะพูดอย่างใจเย็น

         "ให้นำตัวเจ้าเมืองของพวกมันออกมาจากคุกมาหาฉันโดยเร็ว และให้ทหารเตรียมป้องกันเมืองด้วย"มูรับคำสั่งแล้วรีบวิ่งออกไป ไม่นานชายชราห็ถูกทหารลากพาตัวเข้ามา ด้านหลังยังมีเทียแมทกับเฟนีย่าเดินตามเข้ามายืนข้างดาร์ค

         "ต้องการอะไรเด็กน้อย"ดาร์คคิ้วกระตุกเล็กน้อยที่ได้ยินอีกฝ่ายพูด แต่ก็พูดว่า

         "มีกองทหารฝ่ายกบฏอีกกองกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ น่าจะเป็นทัพของลูกชายคุณ"ชายชราเลิกคิ้วสูงก่อนที่จะหรี่ตาแล้วถามว่า

         "แล้วเจ้าคิดจะให้ข้าทำอะไร"ชายชราถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

         "ต้องการให้คุณหยุดลูกชายคุณไม่ให้บุกเมืองเข้ามา และอย่าได้คิดว่ากองทัพของผมจะแพ้ ที่ผมให้คุณทำก็เพราะไม่อยากให้คนของพวกคุณตายไปเปล่าๆ"ดาร์คพูดเสียงเรียบ ชายชราทีท่าทีลังเลใจก่อนที่จะตอบว่า

         "ตกลง"หลังจากนั้นไม่นานชายชราก็เขียนจดหมายแล้วให้ทหารนำไปส่งที่ค่ายของกองกำลังกบฏที่กำลังเดินทางใกล้เข้ามา แต่ทหารที่นำไปก็ต้องกลับมารายงานว่า

         "ลูกชายของเจ้าเมืองเหนือฉีกจดหมายทิ้งทันทีครับ ไม่สนว่าเป็นลายมือของพ่อตนเอง บอกว่าท่านขู่บังคับให้ทำ"ชายชราที่ได้ยินก็หลับตาอย่างเจ็บปวดเพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป

         "จัดทำออกไปรบนอกเมือง"ดาร์คพูดแล้วเดินออกจากห้องไป สองมังกรสาวและมูนายทหารคนสนิทก็เดินตามไป

         ยามค่ำคืนมาเยือนพร้อมกับที่กองทหารของดาร์คนำทัพเพียง3,000นายมารับมือนอกเมือง เพราะอีก2,000นายต้องให้อยู่เฝ้าเมือง

         "บุกกก!!!"ลูกชายของเจ้าเมืองเหนือสั่งแล้วกองทหารก็บุกเข้ามาทันที

         "ปังงงงๆๆๆๆ"แต่เขาก็ต้องเจอเหมือนกับที่ผู้เป็นพ่อเจอ ทหารก็เริ่มล้มตายกันมากมายอีกครั้ง

         "ลูกชายเจ้าเมืองเหนือห้ามยิงให้จับเป็นเท่านั้น ปืนใหญ่ยิง"ดาร์คสั่งออกมาก่อนที่ปืนใหญ่จะถูกยิงบ้าง

         "ตูมๆๆๆบรึ่มๆๆๆ"

         ไม่นานหลังจากนั้นการรบก็สิ้นสุดลง มีกองทัพกบฎตายราว4,000คนได้ เมื่อรวมกันแล้วกองทัพกบฏตายไป1ใน3ที่เหลือตกเป็นเชลยศึก

         ในห้องทำงานดาร์คต้องนั่งเขียนจดหมายฉบับที่สองส่งให้ทางเมืองหลวงอีกครั้ง ระหว่างที่เขากำลังเขียนอยู่ก็มีคนเปิดประตูเข้ามา ดาร์คมองผู้ที่เข้ามาก็คือเฟนีย่านั้นเอง

         "หวัดดีดาร์ค"เฟนีย่ากล่าวทักทาย

         "สวัสดีตอนเช้า"ดาร์คพูดแล้วกลับไปสนใจจดหมายที่กำลังเขียนอีกครั้ง เฟนีย่ามองแล้วพูดว่า

         "ดาร์ค ตอนนี้เจ้ามีอำนาจปกครองแดนเหนืออยู่ในมือแล้วนะ ไม่คิดจะใช้โอกาสนี่เป็นใหญ่รึไง"ดาร์คต้องละจากจดหมายมามองหญิงสาวอีกครั้ง

         "พ่อให้ผมมาเรียนนะครับ สงครามครั้งนี้เผ็นแค่ชั่วคราว จบเมื่อไหร่ผมก็กลับไปเป็นนักเรียนตามเดิม"ดาร์คพูดจบแล้วก้มหน้าไม่มองเฟนีย่าอีก หญิงสาวมังกรตาสีเพลิงลุกโชนขึ้นมาก่อนที่จะออหจากห้องไป

         "ปกครองแดนเหนืองั้นเหรอ"ดาร์คพูดขึ้นมาลอยๆ
    ____________________________________________________

    วันเสาร์กับอาทิตย์ไรเตอร์มีธุระงดลงครับ
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×