ลำดับตอนที่ #18
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : จิ้งจอกดำ
บนท้องฟ้าไม่ไกลจากป่าโบราณ
คิริโตะกับยุยมองชายสวมหน้ากากที่ลอยอยู่ข้างหน้าเขา
"นายจำอะไรไม่ได้เลยเหรอโซจิโร่? ฉัน? ยูกิ? อาร์โก้? ทุกเรื่องในSAOน่ะ?"คิริโตะคิดว่าเขาโกหก
"โทษที แต่ฉันขอพูดอีกว่าไม่รู้จักนายและไม่เคยได้ยินเรื่องSAO เท่าที่ฉันจำได้คือตื่นมาโลกนี้"
คิริโตะคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วถาม
"ถ้าอย่างนั้นนายมีความทรงจำในอดีตไหม ดาบเล่มนี้นายจำได้ไหม?"คิริโตะชักดาบลูมินาร่ามามอบให้มาม่อน
มาม่อนถือมันไว้และรู้สึกแปลกๆ
"ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่เมื่อฉันจับดาบเล่มนี้แล้วรู้สึกเหมือนได้สิ่งที่ขาดหายไปคืน เหมือนมันเป็นส่วนหนึ่งของฉัน"มาม่อนจับดาบสีฟ้าด้วยความประหลาดใจ
คิริโตะมองยุยแล้วยิ้ม เขาปฎิเสธว่าตัวเองคือโซจิโร่แต่ก็ยังมีความรู้สึกต่อดาบลูมินาร่า นั่นยืนยันว่าคนตรงหน้าคือโซจิโร่และโลกจริงคือมารุฟูจิ โช
"แล้วทำไมเขาเสียความทรงจำ?"เขาคิดอย่างสงสัย
"อะแฮ่ม"ลีฟาเรียกสองหนุ่มที่ลืมพวกเธอ
สองหนุ่มหันไปมองสองสาวและเกาหัว
"โทษที"
"ฉันชื่อลีฟา นี่เพื่อนฉันเมโลดี้"
"สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้วนะคุณมาม่อน"เมโลดี้พูดทักทายมาม่อน เขาแค่พยักหน้า
"ฉันชื่อคิริโตะ แล้วก็..."
"หวัดดีค่ะ"ยุยโผล่มาจากกระเป๋าเสื้อเขา
สองสาวเข้ามาจ้องมองยุยอย่างรวดเร็ว
“เจ้านี่ใช่มั้ยที่เรียกว่าไพรเวทพิกซี่น่ะ”สาวผมบลอนด์ถาม”มีแข่งจับฉลากเป็นรางวัลให้ผู้เล่นใหม่”
“ก็...พอดีโชคดีน่ะ”คิริโตะเลือกจะไม่บอกความจริงเรื่องยุยเพราะคงยาว
"ฉันชื่อมาม่อน ฉายาจิ้งจอกดำ ยินดีที่ได้รู้จักสปริกแกนแล้วก็ภูติจิ๋ว"มาม่อนพูดก้มหัวลง
"เห็นโซจิโร่ไม่สุภาพแล้วมันน่าแปลก"
"ใช่ค่ะ หนูคุ้นเคยที่ลุงทำอะไรโง่ๆแล้วโดนป้าลงโทษ"
"ว่าแต่ทำไมสปริกแกนมาอยู่แถวนี้ล่ะ"ลีฟาถามคิริโตะอย่างสงสัย แต่คนตอบกลับเป็นมาม่อน
"อ้อ ตอนที่ฉันฝึกใช้เวทมนตร์อยู่ก็ดังส่งคิริโตะมาที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ"มาม่อนตอบเกาหัว
"อ๋า!!! เป็นฝีมือนายนี่เอง"คิริโตะชี้ไปที่หนุ่มเผ่าอิมพ์
"ต้องขอโทษด้วย ฉันพึ่งเรียนเวทมนตร์นั้นและอยากลองทดสอบดู"มาม่อนตอบ
"ว้าว นายเรียนรู้เวทเทเลพอร์ตเหรอ? มันหายากมากและไม่มีใครมีด้วยซ้ำ"เมโลดี้พูดอย่างตกใจ
"โชคของเขาเป็นอันตรายถึงตายตามปกติ"คิริโตะกลอกตา
"นี่ คิริโตะคุง ยามิคิทซึเนะ คิดจะทำอะไรต่อล่ะ?"ลีฟาถาม
"เรียกฉันมาม่อนก็พอ ได้ยินฉายาแล้วมันฟังดูแปลกๆ"มาม่อนพูด
"งั้นก็ได้มาม่อนคุง นายคิดจะทำอะไรหลังทำงานเสร็จแล้ว"ลีฟาถาม
“ฉันอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับโลกนี้น่ะ โดยเฉพาะต้นไม้โลก”
"นายต้องการข้อมูลอะไร ฉันเดินทางไปทั่วและรู้เรื่องต่างๆมากมาย"
"จริงเหรอ? งั้นบอกเรื่องต้นไม้โลกได้ไหม
ลีฟาฟังอยู่และเสนอ
"งั้นเราไปหมู่บ้านใกล้ที่สุดไหม ฉันอยากไปต้นไม้โลกด้วย"
“เมืองที่ชื่อซิลเวนมันใกล้กว่าไม่ใช่เหรอ?“คิริโตะถาม สองสาวมองเขาเหมือนคนโง่
“นายนี่ไม่รู้อะไรเลยนะ”เมโลดี้กล่าว”ที่นั่นมันเป็นเมืองเกิดของซิลฟ์นะ เมื่อพวกนายอยู่เมืองเผ่าอื่นจะโจมตีไม่ได้ แต่อีกฝ่ายทำได้นะ”
"ไม่เป็นไรลีฟาซัง พวกเขาจะไม่โจมตีเราทันที อีกอย่างท่านซาคุยะต้อนรับฉันเสมอ"
"เรียกฉันลีฟาพอ ไม่อยากได้ยินคำนั้นจากปากนาย"
"ทำไมล่ะ?"
"ไม่มีอะไร รีบไปได้แล้ว"ลีฟากางปีกและบินไป
"ฉันเพิ่งเจอเขาและเขาก็หว่านเสน่ห์สาวและท่าทางหัวหน้าเผ่าซิลฟ์จะชอบเขามาก อาร์โก้จะคิดยังไงถ้ารู้เรื่องนี้"คิริโตะคิดและกางปีก
แต่เขาก็สังเกตว่าทั้งลีฟา เมโลดี้และมาม่อนต่างบินโดยไม่ใช้คอนโทรลเลอร์
“พวกเธอบินได้โดยไม่ต้องใช้คอนโทรลเลอร์อย่างงั้นเหรอ”คิริโตะถาม
“วิธีการบินมันมีเคล็ดลับนิดหน่อย ลองหันหลังแล้วก็เรียกออกมาดูสิ”ลีฟาแนะนำ
หนุ่มสปริกแกนหันหลังแล้วปีกสีเทาปรากฎขึ้น
ลีฟาบอกให้จินตนาการว่ากระดูกกับกล้ามเนื้อมันยืดออกแล้วปีกก็เริ่มขยับ เธอบอกให้ทำซ้ำอีกครั้งแล้วจู่ๆเธอก็ผลักทำให้คิริโตะพุ่งไปบนฟ้า
“แย่แล้ว”ลีฟาอุทานบินตามขึ้นไป เมโลดี้ มาม่อนและยุยก็ด้วย
“ช่วยหยุดที”คิริโตะบินวนสะเปะสะปะวนไปวนมาทำให้ซิลฟ์และสปริคแกนต่างหัวเราะ
“ขอโทษค่ะป๊ะป๋า ตลกจังเลย”ยุยหัวเราะคิกคัก
ไม่นานนักคิริโตะก็คุมปีกให้บินได้
“เจ้านี่มันดีจริงๆนะ”
“ใช่มั้ยล่ะ ถ้างั้นตามเรามาสิ”ลีฟาบินไปกับเมโลดี้นำทางพวกเขาไปเมืองของซิลฟ์
“ตอนแรกค่อยๆไปก็ได้นะ”
“บินให้เร็วกว่านี้ก็ไหวนะ”หนุ่มสปริกแกนพูดขึ้น
"เมื่อคิริโตะซังบินเป็นแล้วเรามาแข่งกันไหม"
"แข่งเหรอ ไม่ปฎิเสธอยู่แล้ว"คิริโตะยิ้ม
"ฉันไม่เอาด้วยหรอก"เมโลดี้ส่ายหัว
"ฉันแข่งก็ได้ แต่มีเงื่อนไขข้อหนึ่ง"
"เงื่อนไขอะไร?"มาม่อนถาม
"ถ้าฉันชนะการแข่ง ฉันอยากเห็นหน้าใต้หน้ากากนั่น"ลีฟาชี้หน้ากากของเขา
"เอางั้นก็ได้"มาม่อนยิ้ม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีคนพยายามเปิดหน้ากากเขา
“อย่าเสียใจทีหลังล่ะ ไปได้”ลีฟาพูดขึ้นทันควันและบินไปด้วยความเร็วสูง
คิริโตะก็บินเร็วขึ้นเหมือนกัน ยุยตามไม่ไหวจึงเข้ากระเป๋าเสื้อไป
เมโลดี้พยายามบินตามไม่ให้ทิ้งห่างทั้งคู่แล้วเหลี่ยวหลังเห็นมาม่อน
ลีฟาบินด้วยความเร็วสูงยิ้มอย่างมั่นใจหันหลังมาและประหลาดใจที่เห็นคิริโตะตามเธอทัน
“คนที่ตามความเร็วของฉันได้เนี่ย เธอเป็นคนแรกเลยละมั้ง”ลีฟากล่าว
"นี่เร็วที่สุดแล้วเหรอ"คิริโตะถามเย้ยหยัน ลีฟารู้สึกโมโหเพราะทำให้เธอนึกถึงพี่ชายจอมกวนประสาท
"มาม่อนคุงอยู่ไหน"ลีฟาถามมองด้านหลัง ลมกรรโชกพัดผ่านพวกเขาเหมือนจรวด ลีฟากับเมโลดี้เบิกตากว้าง คิริโตะเหงื่อตก
"ความเร็วของเขาอยู่ระดับบอสไปแล้ว"
"เป็นอะไรไปลีฟา คิริโตะ ตกใจกันรึเปล่า?"มาม่อนถามเมื่อได้ตัวผู้ชนะ
"นายบินด้วยความเร็วสูงขนาดนั้นได้ไง มันเป็นไปไม่ได้!!"ลีฟายังไม่หายตกใจ
"ท่านซาคุยะให้ฉายาฉันว่าภูติที่เร็วที่สุด เธอไม่มีทางชนะฉันได้หรอกลีฟา"มาม่อนพูดแล้วลีฟาโกรธที่โดนดูถูก
"ฉันยังไม่ได้บินด้วยความเร็วสูงสุดเลยนะ"
"ฉันก็เหมือนกัน นั่นเป็นความเร็ว40%ของฉัน"มาม่อนพูดและบินไปข้างหน้าทิ้งทั้งสามไว้ข้างหลัง
"ชายคนนั้นมันอะไรกัน? ปีศาจความเร็ว?"ลีฟาร้องโวยวาย
"รีบตามไปกันเถอะ"เมโลดี้มาตบไหล่เพื่อน
เพื่อให้ทุกคนตามมาม่อนทันได้เขาเลยต้องลดความเร็วเหลือ10%
"นายไม่เคยหยุดทำให้ฉันแปลกใจโซจิโร่"คิริโตะคิดในใจ
@@@@@@@@@@@
หลังจากนั้นพวกเขาก็บินมาถึงซิลเวนที่มีหอคอย4มุมของเมืองและหอคอยใหญ่กลางเมือง สีของเมืองเป็นสีเขียว
ตอนนั้นลีฟาก็นึกเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้
”เดี๋ยวนะคิริโตะ เธอรู้วิธีลงพื้นรึเปล่า”
“มะ ไม่รู้เลย”
พวกเธออยากอธิบายแต่ตอนนี้ใกล้หอคอยเกินไปเลยต้องทิ้งเด็กหนุ่ม
“เอ่อ คือ ขอโทษนะ ขอให้โชคดีนะจ๊ะ”ลีฟาบินถอยลงข้างล่างไป
“ไม่ๆๆๆ"คิริโตะกำลังจะชนหอคอยกลาง
ก่อนเขาขะชนหลุมดำปรากฎและเทเลพอร์ตเขาไปถนนด้านล่าง คิริโตะเช็ดเหงื่อมองมาม่อน
"ขอบใจมาม่อน นายเป็นผู้กอบกู้ของฉันเลย"คิริโตะพูดและมาม่อนแค่ยิ้ม
"ไม่เป็นไรนะ"ลีฟากับเมโลดี้บินลงมาที่พื้นพร้อมมาม่อน
“ใจร้ายเป็นบ้าเลยลีฟา”คิริโตะตำหนิเธอ
แต่แล้วทุกคนก็โดนพวกซิลฟ์มาล้อมไว้ ไม่สิ ต้องบอกว่าทุกคนล้อมมาม่อนมากกว่า
"นี่มันอะไรกัน ทุกคนถอยไปนะ"ลีฟาร้องแต่ไม่มีใครฟัง
เมโลดี้มองคนที่ล้อมอยู่ก็เห็นว่ามีแต่พวกผู้ชาย เธอเริ่มจะเดาได้แล้ว
"เอ่อ...ผมห้ามมาที่นี่เรอะ?"มาม่อนถาม
"คุณมาม่อน ท่านซาคุยะตั้งกฎว่าใครถอดหน้ากากของคุณได้จะได้รับจูบจากเธอและเงินรางวัล1แสนเหรียญ ดังนั้นถอดหน้ากากคุณซะอย่าให้ต้องใช้กำลัง"ซิลฟ์คนนึงพูด
"เอ่อ หนุ่มโสดทั้งหลายโทษทีนะ แต่ฉันคงทำตามไม่ได้"มาม่อนพูดและกระตุกต่อมโมโหซิลฟ์ชายทุกคน
"จับเขา!!!"
เมื่อพวกเขาเริ่มไล่ล่ามาม่อน พวกลีฟาตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
"ฉันไม่รู้ว่าเธอจะคลั่งได้ขนาดนี้ ซาคุยะคนนั้น"เมโลดี้กล่าว
"นี่ ลีฟา เมโลดี้ ทำไมพวกเธอและคนอื่นๆถึงอยากเห็นหน้าของมาม่อนกันนักล่ะ"คิริโตะถามมองคนที่ฝูงชนกำลังวิ่งไล่
"ก็ตั้งแต่มาม่อนคุงปรากฎตัวก็ไม่เคยเผยโฉมหน้าให้ใครเห็น แม้แต่ตอนกินเขาก็แค่ดูดเข้าหลุมหน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้า นั่นคือเหตุผลที่ซาคุยะและคนอื่นๆอยากเห็นใบหน้าเขา มันเป็นปริศนาพอๆกับการไปให้ถึงต้นไม้โลก"ลีฟาอธิบาย
เมื่อมาม่อนกำลังจะโดนจับก็ใช้หลุมดำเทเลพอร์ตไปยังอาคารใกล้พวกเขา ซิลฟ์พลาดเป้าหมายก็เริ่มโกรธ พวกเขาวิ่งไปตามหาเป้าหมายที่อื่น มาม่อนโดดลงมาจากตึกเช็ดเหงื่อ
"ฉันไม่นึกว่าใบหน้าฉันจะเป็นที่สนใจมาก แต่ไม่นึกว่าท่านซาคุยะจะทำถึงขนาดนี้"มาม่อนพึมพำ
"ลำบากที่เป็นที่นิยมใช่มั้ย คุณจิ้งจอกดำ"คิริโตะหยอกล้อและนึกถึงเวทที่เขาใช้"แล้วเวทมนตร์ที่นายใช้ล่ะ มันเป็นเวทสายความมืดใช้มั้ย ถ้างั้นฉันก็ใช้ได้สินะ"
"ก็...นายเป็นสปริกแกน จะเก่งด้านงานล่าสมบัติกับเวทลวงตาละมั้ง แต่อย่างไหนก็ไม่ช่วยในการต่อสู้หรอก”ลีฟาตอบ
"ฟังแล้วรู้สึกดีจัง"คิริโตะพูดประชด
ทันใดนั้นเสียงก็ดังขึ้นจากด้านหลัง
“ลีฟาจัง เมโลดี้จัง”เด็กชายซิลฟ์ผมสีเขียวอ่อนวิ่งเข้ามาหา
“อ้าว เรคอน/เจ้าแว่นเองเหรอ”ลีฟากับเมโลดี้พูดพร้อมกัน
เรคอนหอบหายใจแล้วหันไปเห็นคิริโตะกับมาม่อน
“สปริกแกนกับอิมพ์”เขาคว้ามีดที่หลัง
“ไม่เป็นไรหรอกเจ้าแว่น พวกเขาช่วยเราจากซาลามันเดอร์น่ะ”เมโลดี้อธิบาย
“หมอนี่คือเรคอน เขา เมโลดี้และฉันเป็นเพื่อนร่วมปาร์ตี้เดียวกันน่ะ”ลีฟาแนะนำ จากนั้นเรคอนมองมาม่อนแล้วเบิกตากว้าง
"อ๊า นายมันยามิคิทซึ--!!"
เขาหยุดเมื่อมาม่อนยกนิ้วชี้แตะที่ปากบอกให้เงียบ
"ผมไม่อยากโดนฝูงซิลฟ์ไล่ล่านะเรคอนซัง"
"นี่เรคอนเพื่อนของเรา"เมโลดี้แนะนำ
“ยินดีที่รู้จัก ฉันชื่อคิริโตะ”สปริกแกนยื่นมือไปข้างหน้า
“อ๊ะ ยินดีเช่นกันครับ”เรคอนยื่นมือจับเขินนิดๆ ก่อนจะปล่อยมือคว้ามีดอีกรอบ
”ไม่เป็นไรแน่เหรอ คงไม่ใช่สปายหรอกนะ”
ลีฟาหัวเราะกับความระแวงของเพื่อน
“ไม่ต้องห่วง เขาซุ่มซ่ามเกินกว่าจะเป็นสปายได้แน่ๆ”
“โอ๊ย ปากร้ายจริง”คิริโตะบ่น
จากนั้นเรคอนก็บอกเรื่องพวกซีเกิร์ลรอทั้งคู่อยู่ให้ไปประชุมเรื่องปาร์ตี้
"วันนี้พวกเราขอผ่านนะ มาม่อนคุงช่วยฉันไว้น่ะ"ลีฟาพูดจับมือคิริโตะเดินไป
“อืม ต้องเลี้ยงตอบแทนด้วย ไปที่คาเฟ่แล้วกัน”เมโลดี้เสริมตามไป
"ถ้างั้นผม--"
"ไม่ต้องตามมาเลย!"สองสาวไล่
มาม่อนใช้เวทย์ลวงตาทำให้ตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับเงาของคิริโตะเพื่อซ่อนตัว
เมื่อมาถึงโรงแรมทุกคนก็สั่งเครื่องดื่ม ผู้เล่นที่นี่ไม่ได้สนใจเขา มาม่อนเลยยกเลิกเวทมนตร์
“พวกเธอดูสนิทกับเรคอนนะ"มาม่อนพูดขึ้น
“เรารู้จักกันในโลกจริงน่ะ”ลีฟาอธิบาย”แล้วก็เป็นเพื่อนร่วมชั้นแต่มันก็แค่นั้นแหละ เขาเป็นคนแนะนำเกมส์ALOและพื้นฐานการเล่นให้เรา เราฝีมือเหนือกว่าหลังเล่นไม่กี่อาทิตย์ หลังจากนั้นก็อยู่ปาร์ตี้เดียวกันตลอด”
"ก็แค่อยากรู้ หมอนั้นปิ๊งเธอเห็นๆนะลีฟา ทำตัวซึนเดเระแบบนี้จะดีเหรอ"มาม่อนถาม
"ใครว่าฉันซึเดเระ ฉันมีคนที่ชอบอยู่แล้วยะ"ลีฟาพูดและปิดปากเมื่อรู้ว่าพูดอะไรออกไป
"อ้อ งี้นี่เอง"มาม่อนพูด แม้หน้าถูกซ่อนแต่ต้องยิ้มอยู่แน่
"ตายแล้วๆ ใครกันนะทำให้ลีฟาหลงเดินตามเขาต้อยๆ"เมโลดี้แสยะยิ้ม เพราะเธอรู้จักคนที่ลีฟาชอบดีเลยล่ะ
"หยุดถามคำถามงี่เง่าได้แล้ว ฉันรำคาญ!!"ลีฟาก้มหน้าที่แดงจัด
คิริโตะมองสิ่งที่เกิดขึ้นและกระซิบกับยุย
"เราจะบอกอาร์โก้แน่นอนหลังช่วยทุกคนได้แล้ว"คิริโตะพูด ยุยพยักหน้าเห็นด้วย
“งั้นขอพูดอีกครั้งนะค่ะ ขอบคุณที่ช่วยเอาไว้”เมโลดี้ยกแก้วพูดร่าเริง ทุกคนชนแก้วดื่ม
“แต่ว่าเป็นพวกท่าทางรุนแรงจังนะ กลุ่มPKแบบนั้นมีเยอะอย่างงั้นเหรอ”คิริโตะถาม
“เดิมทีแล้วซาลามันเดอร์กับซิลฟ์ไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่อยู่แล้ว แต่ว่าที่เริ่มPKเป็นระบบพึ่งจะเป็นช่วงนี้เอง คิดว่าคงจะเริ่มวางแผนพิชิตต้นไม้โลกแล้วแน่ๆเลย”ลีฟาพูด
“นั่นแหละ อยากจะให้บอกเกี่ยวกับต้นไม้โลกให้หน่อย”คิริโตะจริงจังขึ้นมา
“จะว่าไปก็พูดแบบนั้นนี่นะ แต่ว่าทำไมล่ะ”
“อยากขึ้นไปบนต้นไม้โลกน่ะ กำลังตามหาคนสำคัญอยู่"คิริโตะพูด
"แทบไม่มีคนรู้ แต่เรื่องราวที่จะได้เข้าเฝ้าราชาแห่งภูติโอเบรอนและเกิดใหม่เป็นอัลฟ์เป็นเรื่องระยำทั้งหมด!!"มาม่อนทุบกำปั้นลงพื้น
"ทำไมนายพูดอย่างนั้นล่ะ เคยเข้าเฝ้าราชาแล้วเหรอ?"ลีฟาถาม
"ใช่ ฉันผ่านโดมที่เต็มไปด้วยNPCการ์เดี้ยน แต่ราชารู้ว่าเรื่องแบบนั้นจะเกิดและใช้เวทเทเลพอร์ตไล่ฉันออกมา หมายความว่าเขาซ่อนบางอย่างและไม่อยากให้คนอื่นรู้"
คิริโตะเบิกตากว้าง มีความเป็นไปได้ว่าอาซึนะกับอาร์โก้จะอยู่ที่นั่น นี่ก็เพื่อโชด้วย
"นายช่วยพาฉันไปที่นั่นได้ไหมมาม่อน ฉันต้องไปให้เร็วที่สุด"
"ได้ แต่นี่มันก็สายแล้ว ฉันจะพานายไปพรุ่งนี้แต่เพื่อแลกเปลี่ยนฉันอยากได้ดาบเล่มนั้น"มาม่อนชี้ดาบลูมินาร่าด้านหลังคิริโตะ คิริโตะพยักหน้ามอบดาบให้เขา
"เดี๋ยวก่อน ฉันจะไปที่นั่นด้วย ไกลก็ไกล มอนสเตอร์โหดก็เยอะด้วย และพวกนายใช้ฮีลไม่เป็นสักคน ฉันจะไปคอยซัพพอร์ตให้"
"งั้นฉันก็ไปด้วยคนสิ"เมโลดี้กล่าว
"แน่ใจเหรอ? มันอาจจะอันตรายก็ได้นะลีฟา เมโลดี้"
"ฉันตัดสินใจแล้ว"ลีฟาพูดอย่างดื้อรั้น
"ได้....ยังไงก็เถอะลีฟา"
"อะไร?"
"ในบรรดาหญิงซิลฟ์ทั้งหมด ฉันเห็นว่าเธอกับท่านซาคุยะสวยที่สุด"มาม่อนพูดและลีฟาหน้าแดงเป็นลูกตำลึง เมโลดี้หัวเราะออกมา
"นายพูดอะไรยะอีตาโรคจิต พูดแบบนั้นออกมาตรงๆได้ไง....ไม่รู้ล่ะ ฉันจะล็อคเอาท์ เจอกันพรุ่งนี้"
ลีฟาล็อคเอาท์ไป เมโลดี้หัวเราะขำกลิ้งจนตกเป็นเป้าสายตา เธอเลยขอตัวล็อคเอาท์ไปอีกคน มาม่อนหันไปมองคิริโตะ
"ฉันพูดอะไรผิดไปเหรอ ฉันแค่ชมเธอเท่านั้น"
"นายรู้ไหม ที่จริงๆแล้วนาย..."คิริโตะกำลังจะบอกว่าเขามีแฟนรออยู่ข้างนอก แต่...
"เจอกันพรุ่งนี้ตอน3โมงนะคิริโตะซัง"มาม่อนลุกขึ้นเดินออกจากร้านกาแฟ
"เดี๋ยว นายไม่ล็อคเอาท์เหรอ?"
"ผมไม่มีปุ่มล็อคเอาท์ ผมจะขึ้นไปบนต้นไม้หาที่นอน"มาม่อนพูดเดินออกจากร้าน
"เขาล็อคเอาท์ไม่ได้? เหมือนในSAO? ไม่จริง นายยังคืนชีพได้ที่นี่"คิริโตะคิดและขึ้นไปนอนชั้นบนเพื่อล็อคเอาท์
@@@@@@@@@@@
บนยอดต้นไม้
อาซึนะและยูกิถูกขังไว้ในกรง อาซึนะสวมชุดสีขาวนั่งโต๊ะขณะที่ยูกิสวมชุดเดรสสีม่วงกำลังนอนขี้เกียจยู่บนเตียง
“สีหน้าแบบนั้นงดงามที่สุดเลยนะไททาเนีย สีหน้าที่เหมือนกับจะร้องไห้นั่นน่ะ”เสียงหนึ่งดังขึ้น”อยากจะแช่มันไว้แล้วเอามาประดับเลยเชียวล่ะ”
“ถ้าอย่างงั้นทำไมถึงไม่ทำซะล่ะ”อาซึนะถามอย่างรังเกียจขณะเขาเดินเข้ามา”ถ้าเป็นนายจะทำอะไรก็ได้ไม่ใช่รึไง ก็เป็นคนดูแลระบบนี่”
เขาเป็นชายผมบลอนด์ มีปีกใหญ่สีเขียวอ่อนสวมชุดสีเขียวและสวมมงกุฎทองคำ
“พูดอะไรเย็นชาแบบนั้นอีกแล้ว ผมน่ะที่ผ่านๆมาเคยบังคับอะไรเธอรึไงไททาเนีย”
“เลิกเรียกฉันด้วยชื่อประหลาดนั่นสักทีเถอะ ชื่อของฉันคืออาซึนะคุณซูโก”
“แบบนั้นมันไม่สนุกนะ ในโลกนี้ผมคือราชาแห่งภูติโอเบรอน ผู้ปกครองอัลฟ์เฮมที่เหล่าเพลเยอร์น้อยใหญ่ต่างแหงนหน้ามองด้วยความริษยา และคุณก็คือภรรยาของผมราชินีไททาเนีย”
เขาเดินไปหายูกิที่เตียงซึ่งลุกขึ้นนั่ง
“และยูริเซียร์ก็เป็นผู้หญิงของผม ไม่มีเพลเยอร์คนไหนหรอกที่ไม่อยากเป็นของผม”
“เพี๊ยะ!!!”ยูกิตบหน้าของซูโก
“ฉันไม่อยากรู้จักเศษขยะอย่างแกหรอก จะเป็นผู้ดูแลระบบหรืออะไรก็เถอะ ฉันไม่ใช่หุ่นเชิดให้แกควบคุม”
“ยังปฎิเสธผมอีกเหรอ ช่างเถอะ ไอ้ความดื้อด้านของเธอน่ะจะดัดนิสัยทีหลังเอง”เขาหันกลับไปมองอาซึนะ”แล้วเธอล่ะ เมื่อไหร่จะเปิดใจให้สามีอย่างผมกันนะ”
“เปล่าประโยชน์ สิ่งที่จะให้นายน่ะมีแต่การดูถูกและความเกลียดชัง”
“ไม่ไหวๆ ใจแข็งทั้งคู่เลย แต่ว่านะ...”เขาพูดแล้วจับใบหน้าอาซึนะ”ไม่รู้ทำไมพักนี้ถึงรู้สึกสนุกกับการแย่งชิงเธอที่เป็นแบบนั้นด้วยกำลัง”
“เราไม่ยอมหรอก”ยูกิพูด
“ล้อเล่นน่า บอกแล้วนี่ว่าจะไม่ใช้กำลังกับพวกเธอ”ซูโกลุกขึ้นยืน”ยังไงในไม่ช้าพวกเธอทั้งคู่ก็จะต้องการผมเองแหละ”
“สติดีอยู่รึเปล่า”อาซึนะกล่าว
“หึๆ จะพูดแบบนั้นได้ก็แค่ตอนนี้แหละนะ ในโลกนี้น่ะมีเพลเยอร์เป็นแสนที่กำลังสนุกอยู่กับเกมส์นี้ แต่ว่านะพวกเขายังไม่รู้จุดประสงค์แท้จริงของระบบฟูลไดรฟ์หรอก ด้วยการจัดการระบบประสาทของสมอง ทั้งความคิด อารมณ์ ความทรงจำนั่นก็มีโอกาสจะถูกควบคุมได้ยังไงล่ะ”
“ไม่จริง นั่นมันผิดกฎหมายชัดๆ”
“ผิดถนัดเลย ตอนนี้หลายๆประเทศก็เริ่มค้นคว้ากันแล้วนะ ถึงจะบอกแบบนั้นแต่การทดลองกับมนุษย์ก็ใช่ว่าจะทำกันได้ง่ายๆ แต่ว่าวันหนึ่งพอเห็นข่าวแล้วก็มีไม่ใช่รึไง วัตถุดิบทดลองที่มีให้ใช้เป็นหมื่นคนน่ะ รุ่นพี่คายาบะน่ะเป็นอัจฉริยะก็จริงแต่กลับโง่เขลาเบาปัญญา ทั้งๆที่มีคุณสมบัติซะขนาดนั่นกลับพอใจกับการสร้างโลกในเกมส์แค่นั่นซะได้ ในตอนที่เพลเยอร์ถูกปลดปล่อย การต่อเลาเตอร์เพื่อดักจับเพลเยอร์จำนวนหนึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย ผลก็คือเพลเยอร์จำนวน300คนก็มาอยู่ในมือของผม พวกเธอถือเป็นของแถมล่ะนะ"
“ฮึ!!”ยูกิไม่สบอารมณ์กับคำพูดแทะโลมของมัน
“เพียงแค่2เดือนการทดลองก็คืบหน้าไปได้ด้วยดี การทดสอบด้วยการนำวัตถุใหม่ฝังเข้าไปในความทรงจำเพื่อทำให้เกิดอารมณ์ต่างๆตามการตอบสนองตอนนี้ก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว”
“อย่ามาล้อเล่น การวิจัยพรรค์นั้นคุณพ่อกับพี่ไม่มีทางให้อภัยแน่”อาซึนะกล่าว
“การค้นคว้าน่ะนะ นอกจากผมแล้วก็มีเพียงทีมเล็กๆเท่านั่นที่รู้ ถ้าไม่อย่างงั้นก็คงใช้เป็นสินค้าไม่ได้”
“สินค้าเหรอ”
“บริษัทแห่งหนึ่งของอเมริกากำลังรอให้การวิจัยสิ้นสุดจนน้ำลายสอเชียวล่ะ คงจะขายได้ในราคาแพงเอาเรื่องล่ะนะ ไปพร้อมๆกับแร็คนั่นแหละ”
“เรื่องแบบนั่นฉันไม่ยอมให้ทำหรอก”อาซึนะพูดสีหน้าเด็ดเดี่ยว”ถ้ากลับไปโลกความจริงได้เมื่อไหร่ฉันจะเปิดโปงแผนชั่วของแกก่อนเป็นอันดับแรกเลย”
“เหอะ พวกเธอเองก็อยู่ในฐานะเดียวกับเหยื่อทดลองคนอื่นล่ะนะ ถ้าจะทำล่ะก็จะให้เปลี่ยนความทรงจำของเธอก็ยังได้”ซูโกพูด
ยูกิและอาซึนะตกใจในสิ่งที่ซูโกบอก
ตอนนั้นเองข้อความปรากฎขึ้นมาเรียกซูโกไป เขาหงุดหงิดที่มาขัดเวลาสนุก
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละรอคำสั่งซะ”ซูโกพูดแล้วคว้าเส้นผมสีม่วงสวยของยูกิ”ถึงแบบนั้นผมไม่ได้หวังที่จะทำให้คุณเป็นแค่ตุ๊กตาหรอก ตอนที่เจอกันครั้งต่อไปขอให้เธอว่านอนสอนง่ายกว่านี้สักนิดนะ ไททาเนีย ยูริเซียร์”
ยูกิอยากจะตบเขาอีกครั้งแต่มือเธอขยับไม่ได้ซะงั้น
ซูโกเดินไปกดรหัสเปิดประตูกรง อาซึนะมองชายคนนั้นแต่เธอไม่สามาถเห็นรหัสประตูได้เพราะการรบกวนของระบบ ยูกิมองกระจกข้างเตียงแล้วเห็นสิ่งที่น่าสนใจ
@@@@@@@@@@
ห้องของสึกุฮะ
สึกุฮะตื่นขึ้นมาและนึกถึงคำพูดของมาม่อนและใบหน้าเธอร้อนขึ้นมา เธอร้องและกลิ้งไปมา
"ทำไมเขาพูดอะไรแบบนั้นออกมา!!"
ไม่นานเธอสงบลงกอดหมอน
"มาม่อนคุง แปลกคนชะมัด ตอนแรกฉันคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสเพราะชื่อเขา แต่เขาดูเหมือนไม่ใช่แบบนั้น แล้วทำไมสวมหน้ากาก? ฉันอยากรู้จังหน้าตาเขาเป็นยังไง"
แล้วสึกุฮะก็หลับไป
@@@@@@@@@@@
ในเกมส์ALO
มาม่อนมองดวงจันทร์และยกดาบจันทราลูมินาร่าขึ้นมาดู
"ฉันเสียความทรงจำไปจริงเรอะ และดาบเล่มนี้เป็นของตัวฉันในอดีต ถ้าเป็นเรื่องจริงฉันจะฟื้นความทรงจำกลับมาได้ยังไง"
จากนั้นเขาก็ผล็อยหลับไป
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น