NC

คำเตือนเนื้อหานิยาย

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหานิยาย

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One piece Another Nakama 2

    ลำดับตอนที่ #91 : ไฟแห่งแชนโดร่า(RE2)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 840
      26
      2 มี.ค. 62

    "เก็บเจตนารมณ์ไว้ในใจและปิดปากเงียบ พวกเราคือผู้สืบทอดประวัติศาสตร์ สิ่งนั้นคือคำพูดที่สลักเอาไว้ ในโพเนกลีฟตั้งแต่เมื่อ800ปีก่อน"

     

    "โพเนกลีฟ?"โครวทวน

     

    "ตอนที่บรรดาผู้คนซึ่งต้องการแผ่นหินั่นปรากฎตัวขึ้น เหล่านักรบแห่งเมืองขุมทองแชนโดราก็ได้ต่อสู้อย่างห้าวหาญ"

     

    "ชนะรึเปล่า?"ไวเปอร์ถาม

     

    "ชนะสิ แต่ว่าการต่อสู้ดุเดือดมาก จึงมีผู้เสียสละค่อนข้างมาก หลังจากนั้นเหล่าผู้ที่เหลือรอดมาได้เพียงน้อยนิดก็กลายเป็นผู้พิทักษ์ที่คอยเฝ้าดูแลซากเมืองกับโพเนกลีฟอย่างลับๆ"

     

    "นั่นคือบรรพบุรุษของพวกเราโดยตรงเหรอ?"โครวถาม

     

    "แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อ400ปีก่อน เกาะนี้กลับลอยขึ้นมายังสกายเปียแห่งนี้"คามาคิริกล่าว

     

    "แล้วก็ถูกคนในอาณาจักรนี้แย่งชิงไป"บราฮัมกล่าว

     

    "แผ่นดินที่เหล่าบรรพบุรุษอุตส่าห์ช่วยกันปกป้องเอาไว้"ไวเปอร์กล่าว

     

    "กลับถูกแย่งชิงไป"เก็นโบกล่าว

     

    หัวหน้าเผ่าพยักหน้า

     

    "อัปเปอร์ยาร์ดนั้น นอกจากจะเป็นบ้านเกิดของพวกเราแล้ว ยังมีประวัติศาสตร์อันล้ำค่าที่หายไปกับกระแสแห่งกาลเวลาด้วย แม้ว่าตอนนี้มันจะอยู่บนท้องฟ้าก็เถอะ แต่เปลวเพลิงของเมืองแห่งเกียรติภูมิแชนโดราจะไม่มีวันดับสิ้น"

     

    __________________

     

    "เรา...ชนะ"โครวโงนเงนลุกขึ้นมาเห็นไวเปอร์กับคิรัวร์ยืนอยู่หน้าร่างของเอเนลที่ล้มลงพื้น

     

    "แค่ก!!!!"ไวเปอร์กระอักเลือดออกมา

     

    "อัศวินประหลาด"นามิวิ่งออกมาดูกันโฟลที่ล้มลงพื้น

     

    "เปรี๊ยะ!!!"แสงสว่างส่องมาจากอกเอเนลแล้วร่างเขาปล่อยประกายสายฟ้าออกมา

     

    คิรัวร์รีบถอยห่างจากเอเนล ขณะที่โซโล โรบิน นามิ โครว ต่างก็มองด้วยความตกตะลึง

     

    "ไม่น่าเชื่อ"นามิยกมือปิดปาก"กระตุ้นหัวใจตัวเองได้ด้วยรึเนี่ย"

     

    "เปรี๊ยะๆๆๆ"สายฟ้ากระตุ้นหัวใจเอเนลให้ฟื้น เขาลุกขึ้นมายืน

     

    ไวเปอร์เห็นแล้วตกใจมากจนทรุดลงพื้น

     

    "มนุษย์น่ะไม่ได้หวาดกลัวพระเจ้าหรอก"เอเนลเช็ดเลือดที่มุมปาก"ความหวาดกลัวนี่แหละคือพระเจ้า"

     

    "เจ้านี่มันอะไรของมันเนี่ย!!"โซโลคิดในใจ

     

    "นักรบไวเปอร์ ฉันบอกแล้วไง ว่าอย่าฝืนดีกว่า"เอเนลกล่าว


    "แค่ก!!!"ไวเปอร์กระอักเลือดล้มลงกับพื้น

     

    "นั่นไงเห็นมั้ย น่าสมเพชจริงแฮะ นักรบไวเปอร์"เอเนลกล่าว

     

    "มังกรสายฟ้า1ล้านโวล์"คิรัวร์ตวัดดาบชินโซริวและอามาเทราสุพร้อมกัน เกิดคลื่นมังกรสายฟ้าสีแดง

     

    "เปรี๊ยะ!!!"แต่เอเนลหายตัวไปหลบมังกรสายฟ้าง่ายๆ ให้มันพุ่งไปชนซากปรักและโผล่มาด้านหน้าคิรัวร์

     

    "ย๊าก!!!!...หมับ!!!!"คิรัวร์ยกเท้าจะเตะด้วยหินไคโร แต่เอเนลหลบด้วยมันโทราและจับขาเขาไว้


    เอเนลดึงรองเท้าคิรัวร์ออกมามองหินไคโรที่ฝังติดรองเท้า


    "กระสุนสายฟ้า"เอเนลขว้างมันลงพื้น รองเท้าเขาพุ่งทะลุพื้นดินลงไปลึกมาก


    "หินไคโร!!"โรบินร้องเมื่อเสียไพ่ตายไป

     

    "ลูกเล่นของแกใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว"เอเนลกล่าว"ร่างกายแกนี่ผิดมนุษย์จริงๆ แต่จะทนได้แค่ไหนล่ะ

     

    "60ล้านโวลด์ มังกรสายฟ้า!!!!"

     

    "ดีชิลด์ดราโกรุค!!!"คิรัวร์เรียกเกราะโล่เกล็ดมังกรขึ้นมาอีก

     

    "ตูม!!!!!"เกราะเหล็กมังกรปริแตกพังไป คิรัวร์โดนไปไม่น้อยแต่ก็ยังรอด

     

    "ไม่เบานี่เจ้าอสูร...แต่ใช้พลังไปเยอะนะ สุดท้ายแกมันก็แค่เด็กอมมือแหละ"เอเนลมองคิรัวร์ที่หอบออกมาเพราะใช้พลังแอตแลนติสไปมาก 

     

    "หุบปาก!!!!"คิรัวร์ชักดาบออกมา"แกคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าจริงๆเหรอ สมัยก่อนแกคงเป็นได้เพียงชาวบ้านธรรมดา แค่ได้กินผลปีศาจเข้าไป มันไม่มีทางเปลี่ยนรากเง้าแกได้หรอก แกมันเป็นแค่มนุษย์ ถ้าไม่มีผลปีศาจแกก็แค่ไอ้กระจอกคนนึงที่สู้เราไม่ได้สักคน"

     

    คิรัวร์พุ่งเข้าหาเอเนลอีกครั้ง

     

    "วิหคสายฟ้า"

     

    "เปรี้ยงงงงงง!!!!!!!!/อ๊ากกกกก!!!!!"สายฟ้าช็อตโดนเขาทำให้ดาบกระเด็นหลุดมือไป

     

    "คิรัวร์คุง/คิรัวร์!!!"โรบิน นามิและโซโลร้อง

     

    "เฮือก นี่มันอะไร"โซโลสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันตราย

     

    ควันจางลงเผยให้เห็นตัวคิรัวร์ที่ผิวหนังกลายเป็นสีฟ้าดูคล้ายอสูร ฟันและเล็บยาวดุจสัตว์ ร้ายและมีหางมังกรยาวออกมา

     

    "อะไรน่ะ!!?"ทุกคนตกใจรวมทั้งเอเนล

     

    "ก๊าซซซ!!!!"คิรัวร์ร้องคำรามเหมือนสัตว์ป่า

     

    "เฮือก!!!!"เอเนลสะดุ้งเมื่อเจอคลื่นเสียงของสัตว์ป่า

     

    เผลอแปปเดียวคิรัวร์ก็พุ่งมาตรงหน้าเอเนล

     

    "ฉัวะ!!!!!!!"กรงเล็บแทงเข้ากลางอกเอเนล

     

    "อ็อก!!!"เอเนลกระอักเลือดออกมา

     

    "กรร!!!"คิรัวร์ยกปากจะเข้าขย้ำแขนเขา

     

    "บัดซบไอ้หมาบ้า"เอเนลกล่าว

     

    "เปรี้ยง!!!"สายฟ้าส่งคิรัวร์กระเด็นออกไป แต่มันยังตั้งพื้นยืนอยู่ได้

     

    "เฮ้ คิรัวร์!!!"โซโลวิ่งไปหา

     

    "ก๊าซ!!!"คิรัวร์ฟันกรงเล็บใส่ โซโลหลบออกมาทัน

     

    "เป็นบ้าอะไรเนี่ย!!?"

     

    "ฉันว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นใคร"โรบินกล่าว

     

    "บ้าจริง ไปกลัวกะอีแค่สัตว์คลั่งเนี่ยนะ"เอเนลคิดในใจ


    "อาโบรดีโอ!!!"คิรัวร์ฟันกรงเล็บมังกรสองมือจากบนลงล่างและซ้ายขวา มันขยายเป็นรูป4แฉกคลื่นสีเหลืองพุ่งไปด้านหน้า


    "ยังช้านะ"เอเนลกลายเป็นสายฟ้าหลบออกไป


    "ตูมมมม!!!!"คลื่นพลังพุ่งไปโดนซากโบราณสถานแทน


    "เฮ้ย นี่แกระวังหน่อยสิ!!"โครวตะโกน แต่คิรัวร์เมิน

     

    "เจ้ามนุษย์ตายซะเถอะ"คิรัวร์ตะโกนและพุ่งไปหาเอเนล

     

    "มันโทรา"เอเนลกล่าว

     

    "ฟุ่บๆๆๆ"

     

    "กรรๆๆๆโฮกๆๆๆๆ"คิรัวร์พยายามโจมตี แต่เขาไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่ใช้แค่ความโกรธเกรี้ยว

     

    เอเนลมองบาดแผลตนเองและจ้องคิรัวร์ด้วยความโกรธที่โดนแทง

     

    "แกมันบังอาจเกินไปแล้วไอ้หมาบ้า"เอเนลตีกลองด้านหลังอย่างแรงหลายครั้ง

     

    "เทพสายฟ้า80ล้านโวลต์!!!!"

     

    ปรากฎร่างเทพสายฟ้าใหญ่พุ่งมากระแทกหมัด

     

    "ก๊าซซซซ.....อ๊ากกกก!!!!"คิรัวร์โดนช็อตไหม้เกรียมล้มลงพื้น

     

    ร่างผิวเกล็ดสีฟ้าเลือนหายไปและคิรัวร์คืนร่างเดิม

     

    "คิรัวร์คุง!!!"โรบินวิ่งเข้าไปหาเขา

     

    "หึ ก็แค่หมาบ้าตัวนึง"เอเนลกล่าว

     

    "มันยังไม่จบ"ไวเปอร์พุ่งมายกเท้าเหยียบเขาลงพื้น เท้ากดเขาไว้"เขาไม่ใช่คนเดียวที่มีหินไคโร"

     

    ไวเปอร์ยกมือไว้ที่อกของเอเนลอีกครั้ง

     

    "หยุดนะเจ้าโง่ ใช้3ครั้งจะฆ่าแก"

     

    "800ปีก่อน เหล่านักรบแชนเดียร์ผู้ทรงเกียรติ ต่อสู้โดยเดิมพันด้วยความอยู่รอดของเมืองนี้ พวกเราก็คือทายาทของพวกเขา วันหนึ่งก็ถูกชิงเอาบ้านเกิดไป สืบทอดเจตจำนงของยอดนักรบกาลูการ่ามากว่า400ปี เหล่าบรรพบุรุษต่างก็มุ่งหวังจะมายังที่แห่งนี้ และในที่สุดฉันก็มาถึง แกน่ะมันตัวเกะกะ"

     

    ไวเปอร์ดึงรีเจ็คท์ออกมาเตรียมใจตาย

     

    "ไวเปอร์อย่านะ"โครวตะโกนห้าม"รีเจ็คท์ใช้ไม่ได้ผลแล้ว จับเขาไว้ ฉันจะเผาเขาเอง"

     

    โครววิ่งมาพร้องกรงเล็บที่ลุกเป็นไฟ

     

    "ผัวะ!!!!"เอเนลยกกระบองตีใส่ขาทำให้ไวเปอร์ล้มและทำรองเท้าสเก็ตแตกกระจายไป

     

    "ครอสเฟลม!!!!"โครวฟันกรงเล็บเป็นใบมีดรูปเอ็กซ์ใส่เอเนล

     

    "ปุ้งๆๆ"เอเนลตีกลองที่หลังเขา ทำให้เกิดสายฟ้าหลอมรวมเป็นนกขึ้นมา"30ล้านโวล์ ฮิโนะ!!!"

     

    นกเหยี่ยวสีฟ้าพุ่งตรงไปข้างหน้าและช็อตใส่ไวเปอร์และโครว

     

    โซโลวิ่งรีบวิ่งไปเพื่อคว้าสเก็ตของไวเปอร์

     

    "ในนี้มีหินไคโรอยู่สินะ"โซโลหยิบมันมาและชักดาบวิ่งใส่เอเนล

     

    "แกก็เอาด้วยรึ นักดาบทะเลสีฟ้า"เอเนลพูดพลางเอากระบองเคาะกลอง

     

    "ขืนไม่ทำอะไรเลยก็โดนฆ่าน่ะสิ!!!"โซโลตะโกน

     

    "60ล้านโวลด์ คิเทน"ร่างหมาป่าสายฟ้าปรากฏขึ้นพุ่งมาช็อตใส่โซโล ร่างเขาไหม้เกรียมและล้มลงพื้น

     

    "โซโล!!!!"นามิตะโกน เฝ้าดูทุกคนต่างพลาดท่า

     

    เอเนลมองโรบินที่มีสายตาเศร้าอย่างชัดเจน

     

    โรบินยอมรับว่าเธอหลงรักคิรัวร์และอยากจะมีความรักกับเขาบ้าง แต่เขาช่วยปกป้องคนอย่างเธอ

     

    "เขาควรจะรู้ตัวดีเกินกว่าจะมาท้าทายพระเจ้า"เอเนลกล่าวและคิดสักครู่"จากปฎิกิริยาเธอคงเป็นแฟนเขาสินะ"

     

    "ไม่เกี่ยวกับแก!!!!"โรบินโกรธ เธอเอาร้องเท้าบู๊ตที่มีหินไคโรของคิรัวร์ออกมาโยนใส่เขาและสร้างมือที่พื้นข้างหลังเอเนลมารับไว้

     

    "เปรี๊ยะ!!!"เอเนลเอาสายฟ้าช็อตมือทันที

     

    "อึก!!"โรบินทรุดลงเพราะเอเนลช็อตสายฟ้าทำลายมือเธอ

     

    "20ล้านโวลด์ เวรี!!!!"

     

    "เปรี้ยง!!!!...กรี๊ดดด!!!!"โรบินโดนสายฟ้าช็อตเข้าใส่ล้มลงพื้น

     

    "โรบิน!!!"นามิร้อง

     

    "โรบิน"คิรัวร์ที่ยังมีสติเข้าไปจับเธอไว้ไม่ให้ล้มลง

     

    โรบินตัวดำไหม้เกรียม แต่ยังมีสติและยิ้มอ่อนๆให้เขา

     

    "คิรัวร์"

     

    "ฉันอยู่นี่"

     

    "ขอบคุณ....ที่รัก...ฉันนะ"โรบินสารภาพก่อนสติเธอจะดับลง

     

    คิรัวร์ค่อยวางเธอลงสายตาก้าวเดินไปหาเอเนล

     

    "โอ้ แกยังไม่ตายอีกเรอะ"เอเนลแปลกใจ"ไม่ควรเป็นแบบนี้เลย พระเจ้าไม่ควรพิพากษาพลาด"

     

    "ย๊าก!!!!!"คิรัวร์ตวัดดาบฟันใส่

     

    เอเนลมาด้านหลังคว้าไหล่เขา

     

    "ฉันจะส่งแกไปอยู่กับเธอ....."เอเนลจ่อที่หัวเหมือนที่ใช้จัดการกันโฟล"20ล้านโวลต์

     

    "เปรี้ยง!!!!!!!"

     

    คิรัวร์ล้มลงพื้นแน่นิ่งไป

     

    "โกหกใช่มั้ย กระทั่งคิรัวร์คุง"นามิกล่าว ก่อนจะเห็นเอเนลหันมามองเธอที่เหลือคนสุดท้าย

     

    "ทุกคนถูกเล่นงานหมดเลย"นามิคิดในใจ

     

    เอเนลเดินเข้ามาหาเธอ แต่เธอเบิกตากว้างเมื่อมองไปด้านหลัง ไวเปอร์ยืนขึ้นมา

     

    "ทำไม...โดนเล่นงานขนาดนั้นแล้ว ยังคิดจะสู้อีกรึเนี่ย?"นามิคิดในใจ

     

    เอเนลหันไปมองไวเปอร์

     

    "ลุกมาทำไม ยังไงแกก็ต้องตายอยู่แล้ว ตายสบายๆไม่ดีกว่ารึไง 400ปีอย่างนั้นรึ ตั้งแต่ที่พวกแกแชนเดียร์เริ่มต่อสู้เพื่อแย่งชิงบ้านเกิดกลับคืนมา แต่ว่านักรบที่มาถึงที่นี่ได้ก็มีแค่แกกับเพื่อนที่ตายแล้วสองคน อีกเดี๋ยวอาณาจักรนี้ก็จะตกลงไปสู่ทะเลสีฟ้าแล้ว"

     

    ไวเปอร์กำหมัดแน่น เตรียมจะสู้กับเอเนลอีกครั้ง ถึงไม่มีสเก็ต ไม่มีเบิร์นบาซูก้าและหินไคโรเขาก็จะสู้

     

    "เจอกับก็อด เจอกับเจ้านี่ไม่ว่าใครก็สู้ไม่ไหวหรอก"นามิคิดในใจ

     

    "มาดิ้นรนเอาป่านนี้ก็เกะกะลูกตาเปล่าๆ ลุกขึ้นมาทำไมอีก?"เอเนลถาม

     

    "เพื่อบรรพบุรุษ"ไวเปอร์ตอบ

     

    "อุตส่าห์คาดหวังคำตอบที่ดีกว่านี้เอาไว้แท้ๆ"เอเนลพูดพร้อมมือเขาที่ส่องแสงสีฟ้าออกมา"ตอนนี้แกมันไม่ได้สติแล้ว"

     

    _______________________

     

    "ไวเปอร์ มาทางนี้หน่อยซิ"

     

    "มีอะไร?"ไวเปอร์เดินเข้ามาในเต็นท์หัวหน้าเผ่า

     

    "อยากจะบอกตัวเจ้าที่สืบสายเลือดของยอดนักรบกาลูการ่าให้รู้เอาไว้ เขามีเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ว่ายังไง ก็ต้องทวงบ้านเกิดกลับคืนมาให้ได้"

     

    "เหตุผลอีกอย่างนึง?"ไวเปอร์สงสัย

     

    "ใช่แล้ว"หัวหน้าเผ่าพยักหน้า"นั่นแหละคือเหตุผลสำคัญที่สุดสำหรับกาลูการ่า ฟังนะ ยอดนักรบกาลูการ่าน่ะ..."

     

    _____________________

     

    ไฟฟ้าขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นด้านบน

     

    "เอลธอร์"

     

    "ตูมมม!!!!"สายฟ้าใหญ่พุ่งลงมากลืนร่างของไวเปอร์

     

    เมื่อควันจางลง นามิมองดูหลุมขนาดใหญ่เบื้องหน้า เธอมองไปรอบๆ ไม่มีใครเคลื่อนไหว ทั้งคิรัวร์ โซโล เซียร์ โรบิน ช็อปเปอร์ กันโฟลและโครว ไม่มีสู้ต้านพลังของเอเนลได้

     

    "ตอนนี้เหลือเธอรอดอยู่แค่คนเดียวแล้วนะ"เอเนลบอกนามิ

     

    นามิมองเอเนลด้วยความกลัว

     

    "คือฉัน...พาฉันไปด้วยคนเถอะ"นามิพูดแล้วเอเนลยังเงียบ เธอยกมือขึ้น"ฉันขอตามนายไปด้วยคน ไปโลกแห่งความฝัน"

     

    เอเนลนิ่งเงียบจนน่ากลัว นามิกลัวว่าเขาจะปฎิเสธและฆ่าเธอ

     

    "ไม่ได้เหรอคะ?"นามิถาม

     

    "ฮ่าๆๆๆ ได้สิ ฉันจะพาเธอไปด้วย ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"เอเนลยิ้มออกมา หัวใจที่ถูกความกลัวครอบงำบางทีมันก็เข้าใจยากเหมือนกันนะ"

     

    "หา ไม่ได้โกหกใช่มั้ย"นามิทำเป็นยิ้มกว้าง ก่อนจะวิ่งลงไปในปล่องหลุม

     

    เธอเห็นน้ำตาของไวเปอร์ เขายังมีชีวิตอยู่

     

    "เป็นอะไรไป เปลี่ยนใจแล้วอย่างงั้นรึ?"เอเนลถาม

     

    "เปล่าค่ะ มาแล้วค่ะ"นามิขึ้นขี่เวฟเวอร์และขับมันขึ้นมาจากหลุม

     

    "อะไรน่ะ จะเอาไอ้นั่นไปด้วยงั้นรึ?"เอเนลถาม

     

    "เปล่าค่ะ ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร"นามิกล่าว

     

    "คิดว่าที่ที่พวกเราจะไปกันคงใช้มันไม่ได้หรอก ช่างเถอะ อยากเอาไปก็เชิญ"เอเนลพูดแล้วเดินไป

     

    "ขอบพระคุณมากค่ะ ฉันถูกใจเจ้านี่มากเลย"นามิพูดแล้วเดินลากเวฟเวอร์ตามเอเนลไป

     

    นามิหันหลังไปมองทุกคนที่ล้มอยู่

     

    "คาใจงั้นรึ?"เอเนลถาม


    "เปล่าค่ะ"นามิตอบ


    "ไม่ต้องไปใส่ใจมากนักก็ได้ ยังไงซะพวกมันก็เป็นแค่ พวกงี่เง่าที่ไม่เข้าใจพลังของพระเจ้าเท่านั้นเอง"เอเนลกล่าว

     

    "ค่ะ"นามิตอบรับ

     

    นามิตามเอเนลมาภายในป่า

     

    "จะให้เจ้านี่มันรู้ตัวไม่ได้เด็ดขาด ตอนนี้ต้องยอมเชื่อฟังไปก่อน โอกาสหนีจะต้องมีมาแน่ๆ จนกว่าจะถึงตอนนั้น...."

     

    เอเนลเดินมาถึงถ้ำที่อยู่ตรงหน้าผา มีผ้าคลุมสีขาวตรงทางเข้า และมีผ้าประดับไปตามทางข้างใน

     

    "มีอะไรอยู่ข้างในนี้กันนะ"นามิคิดในใจ

     

    "คือว่า..."นามิจะถาม

     

    "เงียบแล้วตามมาก็พอ"เอเนลสั่ง

     

    นามิตามมาจนถึงข้างในถ้ำ ทำให้เธอเห็นเรือขนาดใหญ่ มีเรือพายอันใหญ่8อันทั้ง2ด้าน และหน้าเรือเป็นทองคำรูปหน้าคน

     

    "เป็นไง ยอดเยี่ยมใช่มั้ย?"เอเนลถามนามิ"หนึ่งเดียวในโลก นี่คือเรือที่มีแต่ฉันถึงจะสามารถควบคุมมันได้ สรุปก็คือขับเคลื่อนด้วยสายฟ้า"

     

    "ทำแบบนั้นได้ด้วย"นามิกล่าว


    "เธอจะตกใจมันก็ไม่แปลกหรอก ถ้ามีพลังงานอันเหลือล้นของฉันคนนี้ กับวัตถุที่สามารถถ่ายพลังงานนั้นเข้าไปยังเครื่องจักรได้เพียงพอ ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว"

     

    "วัตถุถ่ายพลังงานที่ว่านั่น"นามิมองเสาเหล็กใหญ่ที่มีใบพัด

     

    "ถูกต้อง"เอเนลตอบ"ขุมทองที่หลับไหลอยู่ในเกาะนี้ยังไงล่ะ คนที่อาศัยอยู่ในเกาะนี้ช่างมีความสุขยิ่งนัก ก็ขนาดจะตายทั้งทียังมีโอกาสได้เห็นของหายาก อย่างเรือเหาะเป็นบุญตาเลยนี่นา ฮ่าๆๆๆ"เอเนลหัวเราะ

     

    "เรือเหาะงั้นรึโกหกน่า ถ้าเหาะอยู่บนท้องฟ้าจริงๆล่ะก็ โอกาสหลบหนีก็หมดสิ้นโดยปริยายน่ะสิ"

     

    "เรืออาร์คแม็กซิม ด้วยเรือลำนี้ พวกเราก็จะไปถึงแฟร์รี่วาส ดินแดนที่ไม่สิ้นสุดได้"เอเนลประกาศแล้วหัวเราะ"ฮ่าๆๆๆๆ"

     

    _____________________

     

    ที่เมืองแชนโดรา งูยักษ์ล้มอยู่บนตึกสูง มันโดนเผาด้วยสายฟ้าเอเนลและไม่ขยับ

     

    ทันใดนั้นดวงตาสีเหลืองมันก็เปิดออก แต่ถ้ามองให้ดีจะเห็นลูฟี่กับไอซ่ายืนอยู่ที่ดวงตา

     

    ลูฟี่ชกใส่ตา แต่นั่นทำให้มันเจ็บและมีคราบน้ำตาท่วมตา

     

    "กรี๊ด!!!"ไอซ่าตกใจ ทำให้ลูฟี่ต้องพาไอซ่าหนีขึ้นบน

     

    "ผัวะๆๆ"ลูฟี่ชกในปากมันจนปากเปิดทำให้พวกเขาหลุดออกมาจากตัวมันได้

     

    ลูฟี่ตกไปกระแทกพื้น ขณะที่ปีแอร์บินเข้าไปรับไอซ่าเอาไว้

     

    "ออกมาแล้ว ในที่สุดก็ออกมาข้างนอกได้"ไอซ่าพูดด้วยความดีใจก่อนจะเงยหน้ามองรอบๆ"พื้นเป็นหินนี่นา ที่นี่ที่ไหน?"

     

    "โอ!!!!!!"ลูฟี่โห่ร้องวิ่งขึ้นบันไดซากตึกใหญ่ตรงหน้า

     

    "เกิดอะไรขึ้น?"ไอซ่าวิ่งตามลูฟี่ไปถึงหน้าบันได"นี่นาย?"

     

    "ลูฟี่!!!"แต่ลูฟี่เอาแต่วิ่งขึ้นไป ไอซ่าตัดสินใจตามไป

     

    ลูฟี่วิ่งมาถึงยอดบนสุดของตึกนี้

     

    "ออกมาแล้ว!!!!!"ลูฟี่ตะโกนด้วยความดีใจหลังโดนขังในท้องงูมาตั้งนาน"ออกมาได้แล้ว!!!!"

     

    จากนั้นลูฟี่ก็เริ่มมองไปรอบๆ

     

    ดูสิ ที่นี่มันที่ไหนนะซากเมืองโบราณสินะ อยู่ที่นี่เองเหรอ ระฆังทองยักษ์ที่ว่า"ลูฟี่กล่าว

     

    "หรือว่าที่นี่จะเป็น"ไอซ่ามองลงไปดูบ้านเรือนซากเมือง"....บ้านเกิดของพวกเรา"

     

    "งั้นรึ ยอดเลยนะพวกเธอ อะไรมีโพรงเบ้อเริ่มเลย"ลูฟี่จ้องไปที่หลุมใหญ่ที่เกิดจากพลังของเอเนล แต่แล้วเขาก็เห็นร่างของคนคุ้นหน้า

     

    "ฟ้าว!!!!"ลูฟี่รีบโดดลงไปทันที

     

    "ลูฟี่!!!!"ไอซ่าเรียกลูฟี่ที่วิ่งไปทางนั้น"รอเดี๋ยวสิ คราวนี้อะไรอีกล่ะ"

     

    "จะไปไหนของนาย?"ไอซ่ารีบวิ่งลงบันไดและตามลูฟี่ไป

     

    "คิรัวร์!!!!"ลูฟี่ดึงคอเสื้อคิรัวร์ที่หมดสติขึ้นมา"เฮ้นาย มัวทำอะไรอยู่เนี่ย!มีนายอยู่ด้วยแล้วทำไม ถึงเป็นแบบนี้ไปได้"

     

    "ปิเอ!!!!"ปีแอร์ร้องวิ่งเข้าไปดูกันโฟล

     

    "โครว ไม่!!!!"ไอซ่าร้องเมื่อเห็นบีสมาสเตอร์ล้มอยู่

     

    "นามิ นามิล่ะยัยนั่นไม่อยู่นี่!?"ลูฟี่ถาม

     

    "ไวเปอร์!!!!"ไอซ่าอยู่ในหลุมคุกเข่าข้างไวเปอร์"แม้แต่ไวเปอร์"

     

    "เจ้าบาซูก้านั่นนี่นา แข็งแกร่งขนาดนั้นแท้ๆ"ลูฟี่ยอมรับ"ทุกคนถูกใครเล่นงานกันนะ?"

     

    "ก็เอเนลน่ะสิ"ไอซ่าตะโกนขณะปีนกลับขึ้นมา"คนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้น่ะ มีแต่เจ้านั่นคนเดียวแหละ"

     

    ลูฟี่ยืดมือช่วยดึงไอซ่าขึ้นมา

     

    "เอเนลที่ว่า....คือเทพงั้นเหรอ?"ลูฟี่ถาม

     

    ไอซ่าพยักหน้า

     

    "ระหว่างที่อยู่ในตัวงูยักษ์ ฉันใช้มันโทราไม่ได้ เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้าง"ไอซ่ากล่าว

     

    "อึกๆ...!!"ลูฟี่ได้ยินเสียง เขาหันไปเห็นโรบินได้สติ

     

    "โรบิน!!!"ลูฟี่เข้ามาคุกเข่าข้างๆรอบกัปตัน

     

    "คุณต้นหนถูกพาตัวไปแล้วล่ะ"โรบินบอกเสียงอ่อนแรง"เขาจัดการพวกเราทุกคน"

     

    "เฮ้ เดี๋ยวสิ ค่อยๆพูดก็ได้ นามิถูกเจ้านั่นพาตัวไปงั้นรึ พาไปที่ไหน?"ลูฟี่ถาม

     

    "ไม่รู้เหมือนกัน ฟังให้ดี เราต้องอพยพทุกคนออกไป ไม่งั้นพวกเราจะตายกันหมด"โรบินกล่าว

     

    "หมายความว่ายังไง?"ลูฟี่ถาม

     

    "เอเนลวางแผนจะทำลายอาณาจักรนี้"โรบินกล่าว

     

    "หมู่บ้านของพวกฉันด้วยเหรอ!?"ไอซ่าร้อง

     

    "ทั้งหมดนั่นแหละ ผู้คนที่อยู่บนท้องฟ้าทั้งหมด จะต้องกลับสู่พื้นดิน"โรบินกล่าว

     

    "ว่าแต่สถานที่ที่มีระฆังทองอยู่ปรากฎขึ้นมาแล้วสินะ"

     

    "มีอยู่แน่ แต่ถ้าซี้ซั้วตามหาแล้วสวนกันขึ้นมาจะยิ่งทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์"โรบินกล่าว

     

    "ไม่ต้องห่วงหรอก"ไอซ่าพูดขึ้น"ฉันรู้ดีเลยล่ะ มีเสียงสองเสียงกำลังเคลื่อนไหวอยู่บนเกาะนี้ ต้องเป็นนามิกับเอเนลแน่"

     

    "ลูฟี่"โรบินพูดกับกัปตันของเขา"ฝากที่เหลือด้วย"

     

    ลูฟี่วางโรบินในอ้อมแขนลงแล้วยืนขึ้น

     

    "ไอซ่า ช่วยพาฉันไปที่นั่นทีเถอะ"ลูฟี่กล่าว

     

    ______________________

     

    "ซูมมม!!!!"โคนิสขับเวฟเวอร์มุ่งหน้ามาเพื่อเตือนทุกคนให้หนีไป

     

    "มองเห็นแล้ว เกาะแองเจิ้ล"โคนิสมองเกาะแองเจิ้ลบีชข้างหน้า

     

    ______________________

     

    ในเมืองถนนเลิฟลี่ หน่วยไวท์เบเร่ต์ได้มาหาชาวเมือง

     

    "ทุกท่าน เฮโสะ"แม็คกินลีย์และไวท์เบเร่ต์ทักทายท่าทางแปลกตามปกติ"ผู้ที่ลบหลู่พระเจ้าอย่างไม่น่าให้อภัย พ่อลูกปากายา และก็ อดีตจอมเทพกันโฟล ซึ่งเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกำลังหลบหนีอยู่ กรุณาระมัดระวังกันด้วยนะครับ ผู้ใดที่พบเห็นเหล่าอาชญากรละก็ให้รีบมาบอกฉัน แม็คกินลีย์ทันที กรุณามาแจ้งให้แม็คกินลีย์ทราบด้วย ในนามของก็อดเอเนลผู้ปราดเปรื่อง ความสงบสุขของสกายเปีย พวกเราไวท์เบเร่ต์จะขอปกป้องเอง เฮโสะ"

     

    "โอ้ ช่างพึ่งพาได้อะไรอย่างนี้"

     

    "แต่ก็น่ากลัวนะ"ผู้หญิงข้างๆพูดขึ้น"ถ้าหากว่าผู้ต้องหานั่นมาซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆพวกเราละก็ อาจจะโดนลูกหลงจากการลงทัณฑ์ของพระเจ้าก็ได้"

     

    "รายงานๆๆ"ลูกน้องหน่วยไวท์เบเร่ต์วิ่งมาหาแม็คกินลีย์

     

    "มีเรื่องอะไร?"แม็คกินลีย์ถาม

     

    "ครับ คือว่า"ลูกน้องกระซิบหูหัวหน้า

     

    "ว่าไงนะ พบตัวลูกสาวของปากายาที่ท่าเทียบเรืออย่างนั้นรึ!!!!"

     

    __________________

     

    ที่ท่าเรือหน่วยไวท์เบเร่ต์3คนยิงธนูใส่โคนิส

     

    แต่โคนิสหลบหลีกลูกธนูได้ทั้งหมด ลูกธนูพุ่งหายไปในทะเลสีขาว

     

    เธอไม่ยอมให้อะไรหยุดเธอจากการเตือนได้

     

    ___________________

     

    "ผู้กระทำผิดกฎ บุกเข้ามาในประตูเบอร์1แล้ว"ไวท์เบเร่ต์ตะโกนขณะที่แม็คกินลีย์วิ่งไปที่ท่าเรือ

     

    "ทำไมกัน ทำไมต้องจงใจมาให้จับถึงที่แบบนี้ด้วย"แม็คกินลีย์ถามตัวเอง

     

    "อย่าปล่อยให้หนีนะ ต้องจับตัวมาให้ได้ล่ะ"

     

    เวฟเวอร์ของโคนิสกำลังตรงมาที่ท่าเรือ

     

    "มาเลยยัยผู้ต้องหา"ไวท์เบเร่ต์หยิบมีดยาวออกมา


    "หลีกไปหน่อยค่ะ!!!!"โคนิสไม่หยุดเรือและเวฟเวอร์พุ่งลอยข้ามเข้าฝั่ง ไวท์เบเร่ต์ต่างหลบไม่ให้โดนชน

     

    "มัวทำอะไรอยู่ หลีกไป"แม็คกินลีย์ดันลูกน้องถอยแล้วเห็นเวฟเวอร์พุ่งตรงมา

     

    "ตึง!!!"เขาโดนชนกระเด็นใส่กำแพง

     

    "หัวหน้า!!!!"หน่วยไวท์เบเร่ต์ร้อง

     

    โคนิสกระโดดลงจากเรือไป ขณะที่เวฟเวอร์ยังพุ่งตรงไปหาแม็คกินลีย์

     

    "ตูม!!!!"เขาโดนกระแทกซ้ำ

     

    "หัวหน้า!!!!"ลูกน้องต่างร้อง

     

    ทางด้านชาวท้องฟ้าต่างตกใจเมื่อเห็นโคนิสอยู่ข้างหน้าพวกเขา

     

    "ไม่นะ อาชญากรนี่"


    "ผู้หญิงที่กล้าแข็งข้อกับก็อด"

     

    "อย่าเข้ามานะ จะถูกลงทัณฑ์แล้ว

    ____________________

     

     

    "ฮ่าๆๆๆๆ"เอเนลหัวเราะขณะนั่งอยู่ในบัลลังก์ในเรือลอยฟ้า

     

    "ทองคำจำนวนมหาศาล"นามิคิดในใจ เธอยืนอยู่หน้าบัลลังก์

     

    "แม่สาวน้อยแองเจิ้ลบีชนั่นเองรึ ดูท่าทางที่เกาะแองเจิ้ลกำลังวุ่นวายใหญ่เลยแฮะ"เอเนลกล่าว

     

    "โคนิสเหรอ!ไม่จริงน่า ถ้าโคนิสล่ะก็น่าจะอยู่ที่เรือของพวกฉันนี่นา"นามิกล่าว

     

    "ข้างนอกเองก็กำลังเกิดเหตุวุ่นวายกันใหญ่เลยนี่ อะไรกัน มีเรื่องขัดแย้งกันนิดหน่อยด้วย ฮ่าๆๆๆ"เอเนลหัวเราะ

     

    "พลังที่เรียกว่ามันโทราของพวกคุณน่ะ ระบุได้กระทั่งตัวบุคคลเลยหรือคะ?"นามิถาม

     

    "สมบูรณ์แบบเลย เป็นอย่างนั้นซะที่ไหนเล่า เฉพาะของฉันต่างหากล่ะที่พิเศษ เสริมพลังสายฟ้านี้เข้าไปในมันโทราอันแข็งแกร่ง ทำให้ฉันอ่านคลื่นไฟฟ้าจนได้ยินบทสนทนาได้ และถ้าหากมีใครหน้าไหนกล้านินทาไร้สาระให้ได้ยินล่ะก็มันจะถูกลงทัณฑ์ ถ้าหากอยู่ในส่วนหนึ่งของอาณาจักรนี้ละก็ ไม่มีทางที่ฉันจะไม่รู้"

     

    "ถ้าอย่างนั้น..."

     

    "เป็นพลังที่เหมาะสมกับพระเจ้าเลยใช่มั้ยล่ะ ฮ่าๆๆ ตั้งใจหนีกันเข้าไปเลยเจ้าพวกชาวท้องฟ้า สกายเปียน่ะจบสิ้นแล้ว งานเลี้ยงส่งของเหล่าทูตสวรรค์บนท้องฟ้า นี่เธอ เคยเห็นผู้คนที่จู่ๆก็เกิดเสียหลักไม่มีที่จะยืนบ้างมั้ยฮ่าๆๆๆ"

     

    "อะไรกันเจ้าหมอนี่"นามิเบิกตากว้างด้วยความกลัว"ทำยังไงดี ถ้าไม่รีบหนีตอนนี้ โธ่ ไม่สิถึงจะหนีได้ก็เถอะ แต่เกาะท้องฟ้าก็จะหายไปอยู่แล้ว ไม่มีวิธีเลยเหรอ"

     

    นามิเห็นแววตาเอเนลหงุดหงิดขึ้นมา

     

    "มีอะไรเหรอคะ?"นามิถาม

     

    "ใครกัน?"เอเนลรู้สึกถึงเสียงอื่นบนเกาะด้วยมันโทรา

     

    "เปล่า ไม่มีอะไร"เอเนลตอบ

     

    ____________________

     

    "ฟังก่อนค่ะ ฟังที่ฉันจะพูดก่อนเถอะ"โคนิสบอกชาวท้องฟ้าที่หวาดกลัว

     

    "อย่าเข้ามา อย่าเข้ามาใกล้ฉัน!!!"ชายคนนึงตะโกน

     

    "ทุกคน ฟังที่ฉันพูดก่อนเถอะค่ะ"โคนิสพยายามพูดต่อไป"ไม่มีเวลาแล้วนะคะ ขอร้องละค่ะ ใจเย็นๆแล้วฟังที่ฉันพูด"

     

    "หนวกหูน่า อย่าเข้ามานะ!!!"ชายอีกคนตะโกน"ออกไปจากเกาะเลยไป๊ ยัยตัวซวย"

     

    "ใช่แล้ว ขืนเธออยู่ล่ะก็พวกเราต้องถูกลงทัณฑ์ไปด้วยแน่"หญิงชรากล่าว

     

    "เจ้าพวกลบหลู่"ชายคนนึงชี้หน้าโคนิส

     

    "ไม่ใช่นะคะ ฉันน่ะ ฟังฉันพูด..."


    โคนิสเห็นไวท์เบเร่ต์คนนึงยกมีดพุ่งเข้ามาจะแทงเธอ แต่โคนิสเอาบาซูก้ามาเล็งจ่อให้เขาหยุด

     

    "อย่าเข้ามาใกล้นะ"โคนิสเตือนเขา"นี่เฟลมบาซูก้านะคะ ฉันยิงจริงๆนะ"

     

    "กรี๊ดดดด!!!!"ชาวท้องฟ้ากรีดร้องเมื่อเห็นโคนิสอาอาวุธร้ายแรงออกมา

     

    "ทุกคนรีบไปที่สุดขอบเมฆเร็วเข้า ไปที่คลาวเอนด์ หนีไปที่ทะเลสีฟ้าเถอะค่ะ อีกไม่นานอาณาจักรนี้ก็จะหายไปแล้วละค่ะ ไม่มีเวลามาชักช้ากันแล้วนะคะ ใช้เรือที่มีอยู่ลี้ภัยออกไปจากเกาะแองเจิ้ลกันเถอะคะ"โคนิสตะโกนบอกทุกคน

     

    "พูดจาบ้าบออะไรอยู่เนี่ย"แม็คกินลีย์ได้ลูกน้องมาช่วยให้ลุกขึ้น ฟังเด็กสาวพูดเรื่องอาณาจักรจะล่มสลาย

     

    "ก็อดเอเนลกำลังจะทำลายอาณาจักรนี้ ขืนอยู่ที่นี่ล่ะก็ทุกคนต้องตายกันหมด"โคนิสกล่าวต่อไป

     

    "หา พูดอะไรบ้าๆ คิดจะทำอะไรกันแน่"

     

    "ประสาทรึไง จะล้อเล่นก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยสิ"

     

    "อย่ามาลบหลู่ก็อดเอเนลนะ!!!"เด็กผู้ชายคนนึงโยนมะเขือเทศมาโดนหัวโคนิสทิ้งคราบแดงบนหน้า เด็กผู้ชายถอยทันที"ขอโทษครับ"

     

    แม่ของเด็กผู้ชายก้มลงกอดเขาไว้ทันที

     

    แต่โคนิสไม่สนใจเรื่องผลไม้ ชาวท้องฟ้ากลัวจนไม่ฟังเธอ เธอตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการ โคนิสทิ้งบาซูก้าลงพื้น

     

    "อะไรน่ะทิ้งอาวุธงั้นรึ"แม็คกินลีย์สงสัย ไม่สิ ตอนนี้เป็นโอกาส"เฮ้ รีบไปจับสิ!!"

     

    "ครับ"พวกไวท์เบเร่ต์รีบวิ่งเข้าไป

     

    โคนิสปิดตาสูดหายใจลึกๆและตะโกน

     

    "ฉันน่ะไม่มีวันยอมรับเอเนลเป็นพระเจ้าหรอก!!!!!"โคนิสตะโกนและนึกถึงพ่อ รอผลที่จะตามมา

     

    "ว๊ากกกก!!!!!"ชาวท้องฟ้ารวมถึงหน่วยไวท์เบเร่ต์ต่างวิ่งหนีให้ห่างจากเธอ การด่าว่าเอเนลจะทำให้เจอการพิพากษา

     

    "พูดอะไรน่ะ"

     

    "รีบหนีเร็วเข้า"

     

    "ถอยเร็วๆๆ"

     

    "การลงทัณฑ์ของพระเจ้าจะมาแล้ว!!!"

     

    แต่เมื่อชาวท้องฟ้าต่างหนีไปซ่อนหรือหาที่หลบและรอการลงทัณฑ์ของเอเนล ผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่เกิดอะไรขึ้น

     

    "อ้าวแปลกจังแฮะ"หน่วยไวท์เบเร่ต์คนนึงพูด"การลงทัณฑ์ไม่มา?"

     

    "ทำไมกันล่ะ?"ผู้หญิงถาม

     

    "พูดขนาดนั้น พูดจาลบหลู่พระเจ้าถึงขนาดนั้นแท้ๆ"ชายอีกคนเสริม

     

    "หมายความว่ายังไง?"แม็คกินลีย์หมอบพื้นในซอกตึกกับไวท์เบเร่ต์อีกสองคน

     

    "เพราะชีวิตของฉันคนเดียว มันไม่มีค่าจะลบทิ้งน่ะสิคะ"โคนิสตอบ"สกายเปียจะถูกลบทิ้ง นี่คือคำพูดของทหารกองทัพเทพที่เสี่ยงชีวิตหนีจากอัปเปอร์ยาร์ดมาบอกค่ะ เขาน่ะ ถูกลงทัณฑ์ไปพร้อมๆกับคุณพ่อของฉันแล้ว"

     

    ".....!!!!"แม็คกินลีย์หน้าซีดขณะที่คนอื่นมองอย่างประหลาดใจ


    "ก็อดจะทำอะไรจะทำอะไรเหรอ?"เด็กที่ขว้างมะเขือเทศถาม แม่เด็กกอดเขาไว้"ก็อดจะคอยช่วยพวกเราไม่ใช่เหรอคนคนนั้นกำลังพูดอะไรอยู่เนี่ย?"

     

    "ไม่มีเวลาแล้ว ทุกคนรีบไปที่สุดขอบเมฆ ไปที่คลาวเอนด์"โคนิสกล่าว

     

    "เดี๋ยวก่อนสิเธอ"ผู้ชายคนนึงตะโกนขึ้น"เรื่องแบบนั้นอย่าพูดบ้าๆนะ จู่ๆใครจะไปทำได้"

     

    "พวกเราเกิดและเติบโตที่ท้องฟ้าแห่งนี้นะ"ผู้หญิงคนนึงร้อง

     

    "ใช่แล้วๆ ที่สำคัญยังไม่เคยไปที่ทะเลสีฟ้ามาก่อนด้วย จะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้ยังไง จะบ้าเหรอ..."

     

    "แล้วจะรอให้ถูกฆ่าก่อนหรือคะ?"โคนิสตะโกนใส่พวกเขา"เอเนลเป็นผู้ชายประเภทไหน ทุกคนน่าจะเข้าใจกันดีตั้งแต่6ปีก่อนแล้วนี่คะ ผู้ชายคนนั้นลองถ้าได้พูดอะไรแล้ว จะต้องทำตามที่พูดเอาไว้ให้ได้อย่างแน่นอน ขืนเป็นแบบนี้"

     

    "มันก็ไม่แน่หรอกน่า"ชายคนนึงกล่าวขึ้น"อาจจะเกิดปาฎิหาริต์อะไรบางอย่าง ทำให้เกาะแห่งท้องฟ้ายังคงอยู่ไม่หายไปก็ได้นี่นา"

     

    "นั่นสินะ ก็อดน่ะอารมณ์แปรปรวนออก"ชายอีกคนเสริม

     

    "ใช่ๆ ถ้าอย่างนั้น..."

     

    "แกร็ก....ตูมมม!!!!"โคนิสยิงเบิร์นบาซูก้าพุ่งไปโดนยอดต้นไม้หายไปและพุ่งไปโดนภูเขาเมฆระเบิดเป็นหลุม โคนิสทิ้งเบิร์นบาซูก้าอีกครั้ง

     

    "สิ่งที่พวกเรารู้กันดีที่สุดก็คือ เขามีพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถมอบความสิ้นหวังให้แก่พวกเราได้ และเวลานั้นก็มาถึงต่อหน้าพวกเรากันแล้วด้วย มัวแต่เฝ้ารอปฎิหาริย์แล้วจะได้อะไรขึ้นมาล่ะคะ!อย่างน้อยๆ ตอนนี้อาณาจักรแห่งนี้ก็ไม่มีพระเจ้าอยู่แล้ว ก่อนที่จะภาวนา ก่อนที่จะละสายตาจากความเป็นจริง เราต้องทำให้สิ่งที่ตัวเองทำได้ซะก่อน ถ้ามัวแต่ยอมหมอบเป็นผู้รับเคราะห์ก็ไม่ต่างไปจากที่แล้วๆมา ถ้าไม่ยอมเคลื่อนไหวล่ะก็ ถึงจะมานั่งแค้นใครสักคนทีหลังก็ปกป้องชีวิตตัวเองไม่ได้หรอก เอ้า ตัดสินใจทิ้งอาณาจักรเถอะค่ะ"

     

    "ว๊ากกกก!!!!!"ชาวท้องฟ้าวิ่งหนีไปด้วยความกลัว

     

    "หนีไปทะเลสีฟ้าเถอะ"

     

    "ต้องรีบไปเก็บสัมภาระซะแล้ว"

     

    "ไปที่คลาวเอนด์ ไปที่สุดขอบเมฆ"

     

    "สาวน้อยคนนั้นพูดถูกแล้วล่ะ"

     

    โคนิสเห็นแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่เธอเตือนชาวท้องฟ้าสำเร็จ แต่เธอเห็นว่าไม่ใช่ทุกคนที่หนีไป

     

    "นี่เธอ กองทัพเทพเป็นยังไงบ้างรู้บ้างมั้ย?"หญิงสาวคนนึงถาม"สามีฉันอยู่ที่นั่น อยากจะหนีไปด้วยกันน่ะ"

     

    "ลูกชายฉันเองก็อยู่ที่นั่น กองทัพเทพปลอดภัยรึเปล่า?"ชายชราถาม

     

    "ลูกชายฉันด้วย"หญิงชรากล่าว

     

    "เอ่อ เรื่องนั้น"โคนิสพยายามจะตอบขณะนึกถึงทหารเทพที่รอดมาได้"คิดว่ากองทัพเทพคงจะ...."

     

    "ที่ผ่านมากองทัพเทพถูกสั่งให้ไปทำอะไรกันแน่?"

     

    "แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน?"

     

    "เธอไม่รู้อะไรบ้างเลยรึ?"

     

    ตอนนั้นเองแม็คกินลีย์ก็มายืนด้านหน้าโคนิส คั้นเธอกับฝูงชน

     

    "เรื่องของกองทัพเทพน่ะ พวกเราไวท์เบเร่ต์จะรับผิดชอบให้เอง รับรองว่าจะให้ตามไปสมทบกับพวกเธอทีหลังได้แน่"แม็คกินลีย์บอกฝูงชน"รีบไปกันก่อนเถอะ วุ่นวายใหญ่แล้ว"


    "หัวหน้าแม็คกินลีย์"

     

    "เร็วเข้าเถอะ!!!"แม็คกินลีย์สั่ง

     

    "คุณหัวหน้า"โคนิสกล่าว

     

    "ชะตากรรมของกองทัพเทพฉันเห็นมากับตาแล้ว"แม็คกินลีย์บอกเธอ"เอเนลมันเป็นผู้ชายแบบนั้นแหละ ฉันรู้ดีเต็มอก แต่ว่าตอนนี้ต้องรีบให้ผู้คนบนเกาะแห่งนี้อพยพไปโดยเร็วที่สุด จะให้ซ้ำรอยเดิมกับ"บิลก้า"ไม่ได้"

     

    "บิลก้า?"โคนิสถาม


    "เกาะท้องฟ้าทางตะวันออกเฉียงใต้ เป็นบ้านเกิดของเอเนล"แม็คกินลีย์อธิบาย"6ปีก่อน ได้ยินว่ามันสลายหายไปโดยไม่เหลือแม้แต่เงา"

     

    "6ปีก่อน หรือว่า..."

     

    "ใช่แล้ว เอเนลมันทำลายบ้านเกิดของตัวเอง จากนั้นก็มายังอาณาจักรแห่งนี้ ได้ยินว่าที่บิลก้าเองก็มีนักรบที่แข็งแกร่งเหมือนกัน แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเอเนลก็ไร้ความหมาย เพราะเขาคือเทพผู้ไร้เทียมทาน"แม็คกินลีย์มีรอยยิ้มที่ข่มขืน"อาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆก็ได้ คิดว่าเธอคงจะรู้อยู่แล้ว เดิมทีพวกเราเองก็เป็นสมาชิกของกองทัพเทพที่คอยรับใช้ท่านกันโฟล ถึงจะต้องหักหลังกองทัพเทพก็เถอะ แต่ก็เชื่อมั่นว่าการเชื่อฟังเอเนลก็อดเอเนลและคงอยู่ที่เกาะแห่งนี้เป็นวิธีที่จะปกป้องผู้คนเอาไว้ แต่ว่า สุดท้ายแล้ววิธีนั้นมัน....น่าสมเพชสิ้นดี อย่างน้อยๆขอแค่ไม่ให้ก็อดพิโรธขึ้นมา และก็ไม่ยอมให้ใครไปแข็งข้อกับเขาคนนั้นมันก็เท่านั้น น่าสมเพชๆๆ"

     

    "ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ"โคนิสกล่าว แม็คกินลีย์หันมามองเธอด้วยความประหลาดใจ"ดีจริงๆค่ะที่ได้ยินคำพูดแบบนั้นจากปากของคุณ อย่าเดือดเนื้อร้อนใจไปเลยนะคะ ก็คุณทำไปเพื่อปกป้องทุกคนนี่นา พวกเรานึกอยากจะขอบคุณด้วยซ้ำ"

     

    "คุณหัวหน้า ฝากจัดการที่นี่ให้หน่อยได้รึเปล่าคะ?"โคนิสถาม


    "เรื่องนั้นได้แน่นอนอยู่แล้ว จะไปไหนรึ?"แม็คกินลีย์ถาม

     

    "คือว่ายังมีคนที่ไม่รู้วิธีหลบหนีอยู่ด้วยค่ะ เป็นเพื่อนของฉันเอง ต้องรีบกลับไปบอก รบกวนด้วยนะคะ"โคนิสพูดแล้ววิ่งไป

     

    "จริงสิ พวกคนทะเลสีฟ้า"แม็คกินลีย์จำได้ขณะที่โคนิสวิ่งไปดึงเวฟเวอร์ขึ้น"เฮโสะ"

     

    "เฮโสะ"โคนิสตอบ

     

    _____________________

     

    ที่เมืองแชนโดรา ลูฟี่วิ่งผ่านตึกซากปรักแชนโดราด้วยความเร็วสูงสุด กระโดดจากตึกนึงไปตึกนึง ปีแอร์บินตามไปโดยมีไอซ่าที่หลัง


    ด้านโรบินที่ได้สติและฟังที่ลูฟี่ไปจัดการเอเนลแล้ว เธอพยายามดึงตัวมานั่งพิงกำแพง มองโซโล คิรัวร์ ช็อปเปอร์ เซียร์ กริฟฟิน กันโฟล ไวเปอร์และโครว

     

    "ท่าทางจะขนไปรวดเดียวไม่ได้สินะ"โรบินคิดในใจเงยหน้าขึ้น"อย่างน้อยขอแค่ชั้นบน ต้องออกไปให้ได้"

     

    "ไอซ่า!!!!"ลูฟี่ตะโกนเรียกขณะวิ่งผ่านซากปรัก"มาทางนี้ไม่ผิดแน่นะ"

     

    "อื้อ เรามาใกล้จะถึงตัวแล้วล่ะ ไม่ผิดแน่"ไอซ่ากล่าว

     

    "ดีล่ะ"ลูฟี่กล่าว

     

    ไอซ่ามองไปทางหน้าผาใกล้ป่าทางซ้ายที่เธอได้ยินเสียง

     

    "นั่นไงลูฟี่ โพรงที่อยู่ทางซ้ายนั่น นั่นไง ตรงนั้นแหละ"

     

    "ตรงนั้นเองเหรอ ดีล่ะ"ลูฟี่วิ่งไปบนกำแพงแล้ววิ่งตรงไป ปีแอร์บินตามไป

     

    _____________________

     

    "กะแล้วเชียว รู้สึกว่าจะไม่ใช่ใครใน7คนที่รอดอยู่เมื่อตอนนั้นจริงๆด้วย"เอเนลเดินไปที่ราวกั้น"ให้ตายสิ มันไปมุดหัวซ่อนตัวอยู่ที่ไหนมานะ"

     

    "หรือว่า"นามิคิดในใจ

     

    เอเนลขึ้นไปยืนบนราวมองออกไปนอกถ้ำ

     

    "ไม่สบอารมณ์เลยแฮะ คำทำนายของเราผิดพลาดอย่างนั้นรึนี่"เอเนลกล่าว

     

    "แกเองรึคนที่ชื่อเอเนล"ลูฟี่ตะโกน

     

    "ลูฟี่!!!!!"นามิวิ่งมาเกาะราวกั้นมองลูฟี่ที่มาถึง

     

    "แกทำอะไรลงไปกับพวกพ้องของฉัน"ลูฟี่จ้องเอเนลเขม็ง

     

    "พูดถึงขยะชิ้นไหนล่ะ?"เอเนลถาม

     

    "รออยู่ตรงนั้นเฉยๆเถอะ จะไปอัดแกให้ปลิวเดี๋ยวนี้แหละ"ลูฟี่กล่าว

     

    "ระวังคำพูดหน่อย ฉันคือพระเจ้านะ"เอเนลเตือนด้วยความหยิ่งยโส

     

    "อย่างแกมันพระเจ้าตรงไหน"ลูฟี่ตะโกน


    "กล้าหาเรื่องกับเอเนลซึ่งๆหน้าเลยรึ"ไอซ่าพูดขณะที่เธอกับปีแอร์ซ่อนอยู่หลังม่านในอุโมงค์ถ้ำ"จะไหวมั้ยนะลูฟี่"

     

    "นี่ลูฟี่ ระวังตัว...."นามิพยายามเตือน แต่เอเนลหันไปมองทำให้เธอรีบยกมือปิดปาก

     

    "ฮ่าๆๆๆ เริ่มจะได้ยินแล้วล่ะ งานเลี้ยงของทูตสวรรค์ ผู้คนเริ่มรู้ชะตากรรมของสกายเปียกันแล้ว ฮ่าๆๆ ก่อนที่จะสูญเสียที่ยืนจะหนีพ้นรึเปล่านะ?"

     

    "ฉันถามว่าแกน่ะเป็นพระเจ้าตรงไหนกัน!!!"ลูฟี่ตะโกน

     

    "เดี๋ยวก็รู้เองแหละ"เอเนลตอบ

     

    ลูฟี่วิ่งมาตามเรือพายและยืดแขนไปใบบนเสาเชื่อมใบพัด พาตัวเองยืดขึ้นไปบนใบพัดเหล็กด้านข้างดาดฟ้าเรือ

     

    "อย่างนี้นี่เอง ท่าทางแกเองก็ไม่ใช่คนธรรมดาสินะ แต่ว่า พวกสายพารามิเซียรึ ไร้สาระจริงๆ"มือของเอเนลมีสายฟ้าออกมา"เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน ไม่ว่าอะไรก็ไร้ความหมาย ดังนั้ ฉันถึงเป็นพระเจ้าไง"

     

    ลูฟี่โดดพุ่งเข้าไปหาเอเนล

     

    "เอลธอร์!!!!"เอเนลยิงลำแสงกลืนลูฟี่หายไปอย่างสมบูรณ์

     

    "ลูฟี่"นามิร้อง

     

    "กรี๊ด!!!!!"ไอซ่ากรีดร้อง

     

    แต่เมื่อควันจางลงปรากฎว่าลูฟี่ยืนอยู่บนดาดฟ้าแม็กซิมตรงหน้าเอเนล เขาหันไปมองหลุมที่เกิดจากการยิงลำแสง

     

    "หลบได้เก่งไม่เบาเลยนี่นา"เอเนลชมแล้วควงกระบอง

     

    "หลบได้งั้นรึ"นามิคิดในใจ ลูฟี่ไม่ได้หลบได้

     

    เอเนลเคาะกลองที่หลังสองอัน

     

    "60ล้านโวลด์ แจมโบล"

     

    "เปรี๊ยะๆๆๆๆ...!!!!"สายฟ้าร่างมังกรพุ่งเข้าใส่ลูฟี่

     

    แต่เมื่อสายฟ้าสลายไป ลูฟี่ไม่เป็นไรเลย

     

    "เปรี๊ยะ!!!"เอเนลหายตัวไปยืนอยู่ตรงหน้าลูฟี่และยื่นมือไปที่หัวเขา"100ล้านโวลด์ แวรี่!!!"

     

    "ตูมมม!!! เปรี๊ยะๆๆๆ"สายฟ้าขนาดใหญ่ฟาดลงมาใส่ลูฟี่อย่างรุนแรง

     

    "จริงด้วย แค่ดูสักนิดก็น่าจะเข้าใจแล้ว"นามิก้มหลบสายฟ้าอยู่หลังราวกั้น"สายฟ้าใช้ไม่ได้ผลกับลูฟี่ ก็เป็นยางนี่นา"

     

    "ให้มันน้อยๆหน่อย"ลูฟี่โยนเขาออกไป เอเนลพลิกตัวไปในอากาศและลงมายืนที่พื้น

     

    เอเนลจ้องลูฟี่ด้วยตาที่เปิดกว้างสุด อ้าปากค้างและขี้มูกไหลออกมา

     

    "ย๊ากกก!!!!"ลูฟี่วิ่งเข้าหาเอเนล


    "ใจเย็นไว้ ยังไงซะการโจมตีทางฟิสิกส์ก็ทำอะไรร่างของเราไม่ได้อยู่แล้ว"เอเนลพยายามสงบสติ"คิดๆดูลิงทะเลสีฟ้าแค่ตัวเดียว.."

     

    "เปรี้ยง!!!!"ลูฟี่ยกเท้าถีบเข้าเต็มท้องทำให้เอเนลกระอักเลือดออกมาและพุ่งไปด้านหลังล้มลง

     

    "พลังสายฟ้าใช้ไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิงเลย"นามิมองดูด้วยสีหน้าตะลึง"มนุษย์ที่โดนสายฟ้าแล้วไม่เป็นไรมีอยู่ในโลกนี้จริงๆ เอเนลเองก็คงจะคาดการณ์ไม่ถึงแน่ ไม่แน่ว่าลูฟี่อาจจะเป็นคู่ปรับที่ฟ้าส่งมาเพื่อกำจัดเอเนลโดยเฉพาะก็ได้"

     

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×