คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #91 : ไฟแห่งแชนโดร่า(RE2)
"เก็บเจตนารมณ์ไว้ในใจและปิดปากเงียบ
พวกเราคือผู้สืบทอดประวัติศาสตร์ สิ่งนั้นคือคำพูดที่สลักเอาไว้
ในโพเนกลีฟตั้งแต่เมื่อ800ปีก่อน"
"โพเนกลีฟ?"โครวทวน
"ตอนที่บรรดาผู้คนซึ่งต้องการแผ่นหินั่นปรากฎตัวขึ้น
เหล่านักรบแห่งเมืองขุมทองแชนโดราก็ได้ต่อสู้อย่างห้าวหาญ"
"ชนะรึเปล่า?"ไวเปอร์ถาม
"ชนะสิ
แต่ว่าการต่อสู้ดุเดือดมาก จึงมีผู้เสียสละค่อนข้างมาก
หลังจากนั้นเหล่าผู้ที่เหลือรอดมาได้เพียงน้อยนิดก็กลายเป็นผู้พิทักษ์ที่คอยเฝ้าดูแลซากเมืองกับโพเนกลีฟอย่างลับๆ"
"นั่นคือบรรพบุรุษของพวกเราโดยตรงเหรอ?"โครวถาม
"แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อ400ปีก่อน
เกาะนี้กลับลอยขึ้นมายังสกายเปียแห่งนี้"คามาคิริกล่าว
"แล้วก็ถูกคนในอาณาจักรนี้แย่งชิงไป"บราฮัมกล่าว
"แผ่นดินที่เหล่าบรรพบุรุษอุตส่าห์ช่วยกันปกป้องเอาไว้"ไวเปอร์กล่าว
"กลับถูกแย่งชิงไป"เก็นโบกล่าว
หัวหน้าเผ่าพยักหน้า
"อัปเปอร์ยาร์ดนั้น
นอกจากจะเป็นบ้านเกิดของพวกเราแล้ว
ยังมีประวัติศาสตร์อันล้ำค่าที่หายไปกับกระแสแห่งกาลเวลาด้วย
แม้ว่าตอนนี้มันจะอยู่บนท้องฟ้าก็เถอะ
แต่เปลวเพลิงของเมืองแห่งเกียรติภูมิแชนโดราจะไม่มีวันดับสิ้น"
__________________
"เรา...ชนะ"โครวโงนเงนลุกขึ้นมาเห็นไวเปอร์กับคิรัวร์ยืนอยู่หน้าร่างของเอเนลที่ล้มลงพื้น
"แค่ก!!!!"ไวเปอร์กระอักเลือดออกมา
"อัศวินประหลาด"นามิวิ่งออกมาดูกันโฟลที่ล้มลงพื้น
"เปรี๊ยะ!!!"แสงสว่างส่องมาจากอกเอเนลแล้วร่างเขาปล่อยประกายสายฟ้าออกมา
คิรัวร์รีบถอยห่างจากเอเนล
ขณะที่โซโล โรบิน นามิ โครว ต่างก็มองด้วยความตกตะลึง
"ไม่น่าเชื่อ"นามิยกมือปิดปาก"กระตุ้นหัวใจตัวเองได้ด้วยรึเนี่ย"
"เปรี๊ยะๆๆๆ"สายฟ้ากระตุ้นหัวใจเอเนลให้ฟื้น
เขาลุกขึ้นมายืน
ไวเปอร์เห็นแล้วตกใจมากจนทรุดลงพื้น
"มนุษย์น่ะไม่ได้หวาดกลัวพระเจ้าหรอก"เอเนลเช็ดเลือดที่มุมปาก"ความหวาดกลัวนี่แหละคือพระเจ้า"
"เจ้านี่มันอะไรของมันเนี่ย!!"โซโลคิดในใจ
"นักรบไวเปอร์
ฉันบอกแล้วไง ว่าอย่าฝืนดีกว่า"เอเนลกล่าว
"แค่ก!!!"ไวเปอร์กระอักเลือดล้มลงกับพื้น
"นั่นไงเห็นมั้ย
น่าสมเพชจริงแฮะ นักรบไวเปอร์"เอเนลกล่าว
"มังกรสายฟ้า1ล้านโวล์"คิรัวร์ตวัดดาบชินโซริวและอามาเทราสุพร้อมกัน เกิดคลื่นมังกรสายฟ้าสีแดง
"เปรี๊ยะ!!!"แต่เอเนลหายตัวไปหลบมังกรสายฟ้าง่ายๆ ให้มันพุ่งไปชนซากปรักและโผล่มาด้านหน้าคิรัวร์
"ย๊าก!!!!...หมับ!!!!"คิรัวร์ยกเท้าจะเตะด้วยหินไคโร
แต่เอเนลหลบด้วยมันโทราและจับขาเขาไว้
เอเนลดึงรองเท้าคิรัวร์ออกมามองหินไคโรที่ฝังติดรองเท้า
"กระสุนสายฟ้า"เอเนลขว้างมันลงพื้น รองเท้าเขาพุ่งทะลุพื้นดินลงไปลึกมาก
"หินไคโร!!"โรบินร้องเมื่อเสียไพ่ตายไป
"ลูกเล่นของแกใช้ไม่ได้ผลอีกแล้ว"เอเนลกล่าว"ร่างกายแกนี่ผิดมนุษย์จริงๆ แต่จะทนได้แค่ไหนล่ะ
"60ล้านโวลด์
มังกรสายฟ้า!!!!"
"ดีชิลด์ดราโกรุค!!!"คิรัวร์เรียกเกราะโล่เกล็ดมังกรขึ้นมาอีก
"ตูม!!!!!"เกราะเหล็กมังกรปริแตกพังไป คิรัวร์โดนไปไม่น้อยแต่ก็ยังรอด
"ไม่เบานี่เจ้าอสูร...แต่ใช้พลังไปเยอะนะ สุดท้ายแกมันก็แค่เด็กอมมือแหละ"เอเนลมองคิรัวร์ที่หอบออกมาเพราะใช้พลังแอตแลนติสไปมาก
"หุบปาก!!!!"คิรัวร์ชักดาบออกมา"แกคิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าจริงๆเหรอ
สมัยก่อนแกคงเป็นได้เพียงชาวบ้านธรรมดา แค่ได้กินผลปีศาจเข้าไป
มันไม่มีทางเปลี่ยนรากเง้าแกได้หรอก แกมันเป็นแค่มนุษย์
ถ้าไม่มีผลปีศาจแกก็แค่ไอ้กระจอกคนนึงที่สู้เราไม่ได้สักคน"
คิรัวร์พุ่งเข้าหาเอเนลอีกครั้ง
"วิหคสายฟ้า"
"เปรี้ยงงงงงง!!!!!!!!/อ๊ากกกกก!!!!!"สายฟ้าช็อตโดนเขาทำให้ดาบกระเด็นหลุดมือไป
"คิรัวร์คุง/คิรัวร์!!!"โรบิน นามิและโซโลร้อง
"เฮือก
นี่มันอะไร"โซโลสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันตราย
ควันจางลงเผยให้เห็นตัวคิรัวร์ที่ผิวหนังกลายเป็นสีฟ้าดูคล้ายอสูร ฟันและเล็บยาวดุจสัตว์ ร้ายและมีหางมังกรยาวออกมา
"อะไรน่ะ!!?"ทุกคนตกใจรวมทั้งเอเนล
"ก๊าซซซ!!!!"คิรัวร์ร้องคำรามเหมือนสัตว์ป่า
"เฮือก!!!!"เอเนลสะดุ้งเมื่อเจอคลื่นเสียงของสัตว์ป่า
เผลอแปปเดียวคิรัวร์ก็พุ่งมาตรงหน้าเอเนล
"ฉัวะ!!!!!!!"กรงเล็บแทงเข้ากลางอกเอเนล
"อ็อก!!!"เอเนลกระอักเลือดออกมา
"กรร!!!"คิรัวร์ยกปากจะเข้าขย้ำแขนเขา
"บัดซบไอ้หมาบ้า"เอเนลกล่าว
"เปรี้ยง!!!"สายฟ้าส่งคิรัวร์กระเด็นออกไป
แต่มันยังตั้งพื้นยืนอยู่ได้
"เฮ้
คิรัวร์!!!"โซโลวิ่งไปหา
"ก๊าซ!!!"คิรัวร์ฟันกรงเล็บใส่
โซโลหลบออกมาทัน
"เป็นบ้าอะไรเนี่ย!!?"
"ฉันว่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราเป็นใคร"โรบินกล่าว
"บ้าจริง
ไปกลัวกะอีแค่สัตว์คลั่งเนี่ยนะ"เอเนลคิดในใจ
"อาโบรดีโอ!!!"คิรัวร์ฟันกรงเล็บมังกรสองมือจากบนลงล่างและซ้ายขวา มันขยายเป็นรูป4แฉกคลื่นสีเหลืองพุ่งไปด้านหน้า
"ยังช้านะ"เอเนลกลายเป็นสายฟ้าหลบออกไป
"ตูมมมม!!!!"คลื่นพลังพุ่งไปโดนซากโบราณสถานแทน
"เฮ้ย นี่แกระวังหน่อยสิ!!"โครวตะโกน แต่คิรัวร์เมิน
"เจ้ามนุษย์ตายซะเถอะ"คิรัวร์ตะโกนและพุ่งไปหาเอเนล
"มันโทรา"เอเนลกล่าว
"ฟุ่บๆๆๆ"
"กรรๆๆๆโฮกๆๆๆๆ"คิรัวร์พยายามโจมตี
แต่เขาไม่ต่างจากสัตว์ร้ายที่ใช้แค่ความโกรธเกรี้ยว
เอเนลมองบาดแผลตนเองและจ้องคิรัวร์ด้วยความโกรธที่โดนแทง
"แกมันบังอาจเกินไปแล้วไอ้หมาบ้า"เอเนลตีกลองด้านหลังอย่างแรงหลายครั้ง
"เทพสายฟ้า80ล้านโวลต์!!!!"
ปรากฎร่างเทพสายฟ้าใหญ่พุ่งมากระแทกหมัด
"ก๊าซซซซ.....อ๊ากกกก!!!!"คิรัวร์โดนช็อตไหม้เกรียมล้มลงพื้น
ร่างผิวเกล็ดสีฟ้าเลือนหายไปและคิรัวร์คืนร่างเดิม
"คิรัวร์คุง!!!"โรบินวิ่งเข้าไปหาเขา
"หึ ก็แค่หมาบ้าตัวนึง"เอเนลกล่าว
"มันยังไม่จบ"ไวเปอร์พุ่งมายกเท้าเหยียบเขาลงพื้น
เท้ากดเขาไว้"เขาไม่ใช่คนเดียวที่มีหินไคโร"
ไวเปอร์ยกมือไว้ที่อกของเอเนลอีกครั้ง
"หยุดนะเจ้าโง่
ใช้3ครั้งจะฆ่าแก"
"800ปีก่อน
เหล่านักรบแชนเดียร์ผู้ทรงเกียรติ ต่อสู้โดยเดิมพันด้วยความอยู่รอดของเมืองนี้
พวกเราก็คือทายาทของพวกเขา วันหนึ่งก็ถูกชิงเอาบ้านเกิดไป
สืบทอดเจตจำนงของยอดนักรบกาลูการ่ามากว่า400ปี
เหล่าบรรพบุรุษต่างก็มุ่งหวังจะมายังที่แห่งนี้ และในที่สุดฉันก็มาถึง แกน่ะมันตัวเกะกะ"
ไวเปอร์ดึงรีเจ็คท์ออกมาเตรียมใจตาย
"ไวเปอร์อย่านะ"โครวตะโกนห้าม"รีเจ็คท์ใช้ไม่ได้ผลแล้ว
จับเขาไว้ ฉันจะเผาเขาเอง"
โครววิ่งมาพร้องกรงเล็บที่ลุกเป็นไฟ
"ผัวะ!!!!"เอเนลยกกระบองตีใส่ขาทำให้ไวเปอร์ล้มและทำรองเท้าสเก็ตแตกกระจายไป
"ครอสเฟลม!!!!"โครวฟันกรงเล็บเป็นใบมีดรูปเอ็กซ์ใส่เอเนล
"ปุ้งๆๆ"เอเนลตีกลองที่หลังเขา
ทำให้เกิดสายฟ้าหลอมรวมเป็นนกขึ้นมา"30ล้านโวล์
ฮิโนะ!!!"
นกเหยี่ยวสีฟ้าพุ่งตรงไปข้างหน้าและช็อตใส่ไวเปอร์และโครว
โซโลวิ่งรีบวิ่งไปเพื่อคว้าสเก็ตของไวเปอร์
"ในนี้มีหินไคโรอยู่สินะ"โซโลหยิบมันมาและชักดาบวิ่งใส่เอเนล
"แกก็เอาด้วยรึ
นักดาบทะเลสีฟ้า"เอเนลพูดพลางเอากระบองเคาะกลอง
"ขืนไม่ทำอะไรเลยก็โดนฆ่าน่ะสิ!!!"โซโลตะโกน
"60ล้านโวลด์
คิเทน"ร่างหมาป่าสายฟ้าปรากฏขึ้นพุ่งมาช็อตใส่โซโล
ร่างเขาไหม้เกรียมและล้มลงพื้น
"โซโล!!!!"นามิตะโกน
เฝ้าดูทุกคนต่างพลาดท่า
เอเนลมองโรบินที่มีสายตาเศร้าอย่างชัดเจน
โรบินยอมรับว่าเธอหลงรักคิรัวร์และอยากจะมีความรักกับเขาบ้าง
แต่เขาช่วยปกป้องคนอย่างเธอ
"เขาควรจะรู้ตัวดีเกินกว่าจะมาท้าทายพระเจ้า"เอเนลกล่าวและคิดสักครู่"จากปฎิกิริยาเธอคงเป็นแฟนเขาสินะ"
"ไม่เกี่ยวกับแก!!!!"โรบินโกรธ
เธอเอาร้องเท้าบู๊ตที่มีหินไคโรของคิรัวร์ออกมาโยนใส่เขาและสร้างมือที่พื้นข้างหลังเอเนลมารับไว้
"เปรี๊ยะ!!!"เอเนลเอาสายฟ้าช็อตมือทันที
"อึก!!"โรบินทรุดลงเพราะเอเนลช็อตสายฟ้าทำลายมือเธอ
"20ล้านโวลด์
เวรี!!!!"
"เปรี้ยง!!!!...กรี๊ดดด!!!!"โรบินโดนสายฟ้าช็อตเข้าใส่ล้มลงพื้น
"โรบิน!!!"นามิร้อง
"โรบิน"คิรัวร์ที่ยังมีสติเข้าไปจับเธอไว้ไม่ให้ล้มลง
โรบินตัวดำไหม้เกรียม
แต่ยังมีสติและยิ้มอ่อนๆให้เขา
"คิรัวร์"
"ฉันอยู่นี่"
"ขอบคุณ....ที่รัก...ฉันนะ"โรบินสารภาพก่อนสติเธอจะดับลง
คิรัวร์ค่อยวางเธอลงสายตาก้าวเดินไปหาเอเนล
"โอ้
แกยังไม่ตายอีกเรอะ"เอเนลแปลกใจ"ไม่ควรเป็นแบบนี้เลย
พระเจ้าไม่ควรพิพากษาพลาด"
"ย๊าก!!!!!"คิรัวร์ตวัดดาบฟันใส่
เอเนลมาด้านหลังคว้าไหล่เขา
"ฉันจะส่งแกไปอยู่กับเธอ....."เอเนลจ่อที่หัวเหมือนที่ใช้จัดการกันโฟล"20ล้านโวลต์
"เปรี้ยง!!!!!!!"
คิรัวร์ล้มลงพื้นแน่นิ่งไป
"โกหกใช่มั้ย
กระทั่งคิรัวร์คุง"นามิกล่าว ก่อนจะเห็นเอเนลหันมามองเธอที่เหลือคนสุดท้าย
"ทุกคนถูกเล่นงานหมดเลย"นามิคิดในใจ
เอเนลเดินเข้ามาหาเธอ
แต่เธอเบิกตากว้างเมื่อมองไปด้านหลัง ไวเปอร์ยืนขึ้นมา
"ทำไม...โดนเล่นงานขนาดนั้นแล้ว
ยังคิดจะสู้อีกรึเนี่ย?"นามิคิดในใจ
เอเนลหันไปมองไวเปอร์
"ลุกมาทำไม
ยังไงแกก็ต้องตายอยู่แล้ว ตายสบายๆไม่ดีกว่ารึไง 400ปีอย่างนั้นรึ
ตั้งแต่ที่พวกแกแชนเดียร์เริ่มต่อสู้เพื่อแย่งชิงบ้านเกิดกลับคืนมา
แต่ว่านักรบที่มาถึงที่นี่ได้ก็มีแค่แกกับเพื่อนที่ตายแล้วสองคน
อีกเดี๋ยวอาณาจักรนี้ก็จะตกลงไปสู่ทะเลสีฟ้าแล้ว"
ไวเปอร์กำหมัดแน่น
เตรียมจะสู้กับเอเนลอีกครั้ง ถึงไม่มีสเก็ต ไม่มีเบิร์นบาซูก้าและหินไคโรเขาก็จะสู้
"เจอกับก็อด
เจอกับเจ้านี่ไม่ว่าใครก็สู้ไม่ไหวหรอก"นามิคิดในใจ
"มาดิ้นรนเอาป่านนี้ก็เกะกะลูกตาเปล่าๆ
ลุกขึ้นมาทำไมอีก?"เอเนลถาม
"เพื่อบรรพบุรุษ"ไวเปอร์ตอบ
"อุตส่าห์คาดหวังคำตอบที่ดีกว่านี้เอาไว้แท้ๆ"เอเนลพูดพร้อมมือเขาที่ส่องแสงสีฟ้าออกมา"ตอนนี้แกมันไม่ได้สติแล้ว"
_______________________
"ไวเปอร์
มาทางนี้หน่อยซิ"
"มีอะไร?"ไวเปอร์เดินเข้ามาในเต็นท์หัวหน้าเผ่า
"อยากจะบอกตัวเจ้าที่สืบสายเลือดของยอดนักรบกาลูการ่าให้รู้เอาไว้
เขามีเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่ไม่ว่ายังไง ก็ต้องทวงบ้านเกิดกลับคืนมาให้ได้"
"เหตุผลอีกอย่างนึง?"ไวเปอร์สงสัย
"ใช่แล้ว"หัวหน้าเผ่าพยักหน้า"นั่นแหละคือเหตุผลสำคัญที่สุดสำหรับกาลูการ่า
ฟังนะ ยอดนักรบกาลูการ่าน่ะ..."
_____________________
ไฟฟ้าขนาดใหญ่ปรากฎขึ้นด้านบน
"เอลธอร์"
"ตูมมม!!!!"สายฟ้าใหญ่พุ่งลงมากลืนร่างของไวเปอร์
เมื่อควันจางลง
นามิมองดูหลุมขนาดใหญ่เบื้องหน้า เธอมองไปรอบๆ ไม่มีใครเคลื่อนไหว ทั้งคิรัวร์
โซโล เซียร์ โรบิน ช็อปเปอร์ กันโฟลและโครว ไม่มีสู้ต้านพลังของเอเนลได้
"ตอนนี้เหลือเธอรอดอยู่แค่คนเดียวแล้วนะ"เอเนลบอกนามิ
นามิมองเอเนลด้วยความกลัว
"คือฉัน...พาฉันไปด้วยคนเถอะ"นามิพูดแล้วเอเนลยังเงียบ
เธอยกมือขึ้น"ฉันขอตามนายไปด้วยคน ไปโลกแห่งความฝัน"
เอเนลนิ่งเงียบจนน่ากลัว
นามิกลัวว่าเขาจะปฎิเสธและฆ่าเธอ
"ไม่ได้เหรอคะ?"นามิถาม
"ฮ่าๆๆๆ ได้สิ
ฉันจะพาเธอไปด้วย ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว"เอเนลยิ้มออกมา หัวใจที่ถูกความกลัวครอบงำบางทีมันก็เข้าใจยากเหมือนกันนะ"
"หา
ไม่ได้โกหกใช่มั้ย"นามิทำเป็นยิ้มกว้าง ก่อนจะวิ่งลงไปในปล่องหลุม
เธอเห็นน้ำตาของไวเปอร์
เขายังมีชีวิตอยู่
"เป็นอะไรไป
เปลี่ยนใจแล้วอย่างงั้นรึ?"เอเนลถาม
"เปล่าค่ะ
มาแล้วค่ะ"นามิขึ้นขี่เวฟเวอร์และขับมันขึ้นมาจากหลุม
"อะไรน่ะ
จะเอาไอ้นั่นไปด้วยงั้นรึ?"เอเนลถาม
"เปล่าค่ะ
ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไร"นามิกล่าว
"คิดว่าที่ที่พวกเราจะไปกันคงใช้มันไม่ได้หรอก
ช่างเถอะ อยากเอาไปก็เชิญ"เอเนลพูดแล้วเดินไป
"ขอบพระคุณมากค่ะ
ฉันถูกใจเจ้านี่มากเลย"นามิพูดแล้วเดินลากเวฟเวอร์ตามเอเนลไป
นามิหันหลังไปมองทุกคนที่ล้มอยู่
"คาใจงั้นรึ?"เอเนลถาม
"เปล่าค่ะ"นามิตอบ
"ไม่ต้องไปใส่ใจมากนักก็ได้ ยังไงซะพวกมันก็เป็นแค่
พวกงี่เง่าที่ไม่เข้าใจพลังของพระเจ้าเท่านั้นเอง"เอเนลกล่าว
"ค่ะ"นามิตอบรับ
นามิตามเอเนลมาภายในป่า
"จะให้เจ้านี่มันรู้ตัวไม่ได้เด็ดขาด
ตอนนี้ต้องยอมเชื่อฟังไปก่อน โอกาสหนีจะต้องมีมาแน่ๆ จนกว่าจะถึงตอนนั้น...."
เอเนลเดินมาถึงถ้ำที่อยู่ตรงหน้าผา
มีผ้าคลุมสีขาวตรงทางเข้า และมีผ้าประดับไปตามทางข้างใน
"มีอะไรอยู่ข้างในนี้กันนะ"นามิคิดในใจ
"คือว่า..."นามิจะถาม
"เงียบแล้วตามมาก็พอ"เอเนลสั่ง
นามิตามมาจนถึงข้างในถ้ำ
ทำให้เธอเห็นเรือขนาดใหญ่ มีเรือพายอันใหญ่8อันทั้ง2ด้าน
และหน้าเรือเป็นทองคำรูปหน้าคน
"เป็นไง
ยอดเยี่ยมใช่มั้ย?"เอเนลถามนามิ"หนึ่งเดียวในโลก
นี่คือเรือที่มีแต่ฉันถึงจะสามารถควบคุมมันได้
สรุปก็คือขับเคลื่อนด้วยสายฟ้า"
"ทำแบบนั้นได้ด้วย"นามิกล่าว
"เธอจะตกใจมันก็ไม่แปลกหรอก ถ้ามีพลังงานอันเหลือล้นของฉันคนนี้
กับวัตถุที่สามารถถ่ายพลังงานนั้นเข้าไปยังเครื่องจักรได้เพียงพอ
ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว"
"วัตถุถ่ายพลังงานที่ว่านั่น"นามิมองเสาเหล็กใหญ่ที่มีใบพัด
"ถูกต้อง"เอเนลตอบ"ขุมทองที่หลับไหลอยู่ในเกาะนี้ยังไงล่ะ
คนที่อาศัยอยู่ในเกาะนี้ช่างมีความสุขยิ่งนัก
ก็ขนาดจะตายทั้งทียังมีโอกาสได้เห็นของหายาก อย่างเรือเหาะเป็นบุญตาเลยนี่นา
ฮ่าๆๆๆ"เอเนลหัวเราะ
"เรือเหาะงั้นรึ? โกหกน่า
ถ้าเหาะอยู่บนท้องฟ้าจริงๆล่ะก็ โอกาสหลบหนีก็หมดสิ้นโดยปริยายน่ะสิ"
"เรืออาร์คแม็กซิม
ด้วยเรือลำนี้ พวกเราก็จะไปถึงแฟร์รี่วาส
ดินแดนที่ไม่สิ้นสุดได้"เอเนลประกาศแล้วหัวเราะ"ฮ่าๆๆๆๆ"
_____________________
ที่เมืองแชนโดรา
งูยักษ์ล้มอยู่บนตึกสูง มันโดนเผาด้วยสายฟ้าเอเนลและไม่ขยับ
ทันใดนั้นดวงตาสีเหลืองมันก็เปิดออก
แต่ถ้ามองให้ดีจะเห็นลูฟี่กับไอซ่ายืนอยู่ที่ดวงตา
ลูฟี่ชกใส่ตา
แต่นั่นทำให้มันเจ็บและมีคราบน้ำตาท่วมตา
"กรี๊ด!!!"ไอซ่าตกใจ
ทำให้ลูฟี่ต้องพาไอซ่าหนีขึ้นบน
"ผัวะๆๆ"ลูฟี่ชกในปากมันจนปากเปิดทำให้พวกเขาหลุดออกมาจากตัวมันได้
ลูฟี่ตกไปกระแทกพื้น
ขณะที่ปีแอร์บินเข้าไปรับไอซ่าเอาไว้
"ออกมาแล้ว
ในที่สุดก็ออกมาข้างนอกได้"ไอซ่าพูดด้วยความดีใจก่อนจะเงยหน้ามองรอบๆ"พื้นเป็นหินนี่นา
ที่นี่ที่ไหน?"
"โอ!!!!!!"ลูฟี่โห่ร้องวิ่งขึ้นบันไดซากตึกใหญ่ตรงหน้า
"เกิดอะไรขึ้น?"ไอซ่าวิ่งตามลูฟี่ไปถึงหน้าบันได"นี่นาย?"
"ลูฟี่!!!"แต่ลูฟี่เอาแต่วิ่งขึ้นไป
ไอซ่าตัดสินใจตามไป
ลูฟี่วิ่งมาถึงยอดบนสุดของตึกนี้
"ออกมาแล้ว!!!!!"ลูฟี่ตะโกนด้วยความดีใจหลังโดนขังในท้องงูมาตั้งนาน"ออกมาได้แล้ว!!!!"
จากนั้นลูฟี่ก็เริ่มมองไปรอบๆ
ดูสิ
ที่นี่มันที่ไหนนะ? ซากเมืองโบราณสินะ อยู่ที่นี่เองเหรอ
ระฆังทองยักษ์ที่ว่า"ลูฟี่กล่าว
"หรือว่าที่นี่จะเป็น"ไอซ่ามองลงไปดูบ้านเรือนซากเมือง"....บ้านเกิดของพวกเรา"
"งั้นรึ
ยอดเลยนะพวกเธอ อะไร? มีโพรงเบ้อเริ่มเลย"ลูฟี่จ้องไปที่หลุมใหญ่ที่เกิดจากพลังของเอเนล
แต่แล้วเขาก็เห็นร่างของคนคุ้นหน้า
"ฟ้าว!!!!"ลูฟี่รีบโดดลงไปทันที
"ลูฟี่!!!!"ไอซ่าเรียกลูฟี่ที่วิ่งไปทางนั้น"รอเดี๋ยวสิ
คราวนี้อะไรอีกล่ะ"
"จะไปไหนของนาย?"ไอซ่ารีบวิ่งลงบันไดและตามลูฟี่ไป
"คิรัวร์!!!!"ลูฟี่ดึงคอเสื้อคิรัวร์ที่หมดสติขึ้นมา"เฮ้นาย
มัวทำอะไรอยู่เนี่ย!? มีนายอยู่ด้วยแล้วทำไม ถึงเป็นแบบนี้ไปได้"
"ปิเอ!!!!"ปีแอร์ร้องวิ่งเข้าไปดูกันโฟล
"โครว
ไม่!!!!"ไอซ่าร้องเมื่อเห็นบีสมาสเตอร์ล้มอยู่
"นามิ นามิล่ะ? ยัยนั่นไม่อยู่นี่!?"ลูฟี่ถาม
"ไวเปอร์!!!!"ไอซ่าอยู่ในหลุมคุกเข่าข้างไวเปอร์"แม้แต่ไวเปอร์"
"เจ้าบาซูก้านั่นนี่นา
แข็งแกร่งขนาดนั้นแท้ๆ"ลูฟี่ยอมรับ"ทุกคนถูกใครเล่นงานกันนะ?"
"ก็เอเนลน่ะสิ"ไอซ่าตะโกนขณะปีนกลับขึ้นมา"คนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้น่ะ
มีแต่เจ้านั่นคนเดียวแหละ"
ลูฟี่ยืดมือช่วยดึงไอซ่าขึ้นมา
"เอเนลที่ว่า....คือเทพงั้นเหรอ?"ลูฟี่ถาม
ไอซ่าพยักหน้า
"ระหว่างที่อยู่ในตัวงูยักษ์
ฉันใช้มันโทราไม่ได้ เลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่บ้าง"ไอซ่ากล่าว
"อึกๆ...!!"ลูฟี่ได้ยินเสียง
เขาหันไปเห็นโรบินได้สติ
"โรบิน!!!"ลูฟี่เข้ามาคุกเข่าข้างๆรอบกัปตัน
"คุณต้นหนถูกพาตัวไปแล้วล่ะ"โรบินบอกเสียงอ่อนแรง"เขาจัดการพวกเราทุกคน"
"เฮ้ เดี๋ยวสิ
ค่อยๆพูดก็ได้ นามิถูกเจ้านั่นพาตัวไปงั้นรึ พาไปที่ไหน?"ลูฟี่ถาม
"ไม่รู้เหมือนกัน
ฟังให้ดี เราต้องอพยพทุกคนออกไป ไม่งั้นพวกเราจะตายกันหมด"โรบินกล่าว
"หมายความว่ายังไง?"ลูฟี่ถาม
"เอเนลวางแผนจะทำลายอาณาจักรนี้"โรบินกล่าว
"หมู่บ้านของพวกฉันด้วยเหรอ!?"ไอซ่าร้อง
"ทั้งหมดนั่นแหละ
ผู้คนที่อยู่บนท้องฟ้าทั้งหมด จะต้องกลับสู่พื้นดิน"โรบินกล่าว
"ว่าแต่สถานที่ที่มีระฆังทองอยู่ปรากฎขึ้นมาแล้วสินะ"
"มีอยู่แน่
แต่ถ้าซี้ซั้วตามหาแล้วสวนกันขึ้นมาจะยิ่งทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์"โรบินกล่าว
"ไม่ต้องห่วงหรอก"ไอซ่าพูดขึ้น"ฉันรู้ดีเลยล่ะ
มีเสียงสองเสียงกำลังเคลื่อนไหวอยู่บนเกาะนี้ ต้องเป็นนามิกับเอเนลแน่"
"ลูฟี่"โรบินพูดกับกัปตันของเขา"ฝากที่เหลือด้วย"
ลูฟี่วางโรบินในอ้อมแขนลงแล้วยืนขึ้น
"ไอซ่า
ช่วยพาฉันไปที่นั่นทีเถอะ"ลูฟี่กล่าว
______________________
"ซูมมม!!!!"โคนิสขับเวฟเวอร์มุ่งหน้ามาเพื่อเตือนทุกคนให้หนีไป
"มองเห็นแล้ว
เกาะแองเจิ้ล"โคนิสมองเกาะแองเจิ้ลบีชข้างหน้า
______________________
ในเมืองถนนเลิฟลี่
หน่วยไวท์เบเร่ต์ได้มาหาชาวเมือง
"ทุกท่าน
เฮโสะ"แม็คกินลีย์และไวท์เบเร่ต์ทักทายท่าทางแปลกตามปกติ"ผู้ที่ลบหลู่พระเจ้าอย่างไม่น่าให้อภัย
พ่อลูกปากายา และก็ อดีตจอมเทพกันโฟล ซึ่งเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดกำลังหลบหนีอยู่
กรุณาระมัดระวังกันด้วยนะครับ ผู้ใดที่พบเห็นเหล่าอาชญากรละก็ให้รีบมาบอกฉัน
แม็คกินลีย์ทันที กรุณามาแจ้งให้แม็คกินลีย์ทราบด้วย
ในนามของก็อดเอเนลผู้ปราดเปรื่อง ความสงบสุขของสกายเปีย พวกเราไวท์เบเร่ต์จะขอปกป้องเอง
เฮโสะ"
"โอ้
ช่างพึ่งพาได้อะไรอย่างนี้"
"แต่ก็น่ากลัวนะ"ผู้หญิงข้างๆพูดขึ้น"ถ้าหากว่าผู้ต้องหานั่นมาซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆพวกเราละก็
อาจจะโดนลูกหลงจากการลงทัณฑ์ของพระเจ้าก็ได้"
"รายงานๆๆ"ลูกน้องหน่วยไวท์เบเร่ต์วิ่งมาหาแม็คกินลีย์
"มีเรื่องอะไร?"แม็คกินลีย์ถาม
"ครับ
คือว่า"ลูกน้องกระซิบหูหัวหน้า
"ว่าไงนะ
พบตัวลูกสาวของปากายาที่ท่าเทียบเรืออย่างนั้นรึ!!!!"
__________________
ที่ท่าเรือหน่วยไวท์เบเร่ต์3คนยิงธนูใส่โคนิส
แต่โคนิสหลบหลีกลูกธนูได้ทั้งหมด
ลูกธนูพุ่งหายไปในทะเลสีขาว
เธอไม่ยอมให้อะไรหยุดเธอจากการเตือนได้
___________________
"ผู้กระทำผิดกฎ
บุกเข้ามาในประตูเบอร์1แล้ว"ไวท์เบเร่ต์ตะโกนขณะที่แม็คกินลีย์วิ่งไปที่ท่าเรือ
"ทำไมกัน
ทำไมต้องจงใจมาให้จับถึงที่แบบนี้ด้วย"แม็คกินลีย์ถามตัวเอง
"อย่าปล่อยให้หนีนะ
ต้องจับตัวมาให้ได้ล่ะ"
เวฟเวอร์ของโคนิสกำลังตรงมาที่ท่าเรือ
"มาเลยยัยผู้ต้องหา"ไวท์เบเร่ต์หยิบมีดยาวออกมา
"หลีกไปหน่อยค่ะ!!!!"โคนิสไม่หยุดเรือและเวฟเวอร์พุ่งลอยข้ามเข้าฝั่ง
ไวท์เบเร่ต์ต่างหลบไม่ให้โดนชน
"มัวทำอะไรอยู่
หลีกไป"แม็คกินลีย์ดันลูกน้องถอยแล้วเห็นเวฟเวอร์พุ่งตรงมา
"ตึง!!!"เขาโดนชนกระเด็นใส่กำแพง
"หัวหน้า!!!!"หน่วยไวท์เบเร่ต์ร้อง
โคนิสกระโดดลงจากเรือไป
ขณะที่เวฟเวอร์ยังพุ่งตรงไปหาแม็คกินลีย์
"ตูม!!!!"เขาโดนกระแทกซ้ำ
"หัวหน้า!!!!"ลูกน้องต่างร้อง
ทางด้านชาวท้องฟ้าต่างตกใจเมื่อเห็นโคนิสอยู่ข้างหน้าพวกเขา
"ไม่นะ
อาชญากรนี่"
"ผู้หญิงที่กล้าแข็งข้อกับก็อด"
"อย่าเข้ามานะ
จะถูกลงทัณฑ์แล้ว
____________________
"ฮ่าๆๆๆๆ"เอเนลหัวเราะขณะนั่งอยู่ในบัลลังก์ในเรือลอยฟ้า
"ทองคำจำนวนมหาศาล"นามิคิดในใจ
เธอยืนอยู่หน้าบัลลังก์
"แม่สาวน้อยแองเจิ้ลบีชนั่นเองรึ
ดูท่าทางที่เกาะแองเจิ้ลกำลังวุ่นวายใหญ่เลยแฮะ"เอเนลกล่าว
"โคนิสเหรอ!? ไม่จริงน่า
ถ้าโคนิสล่ะก็น่าจะอยู่ที่เรือของพวกฉันนี่นา"นามิกล่าว
"ข้างนอกเองก็กำลังเกิดเหตุวุ่นวายกันใหญ่เลยนี่
อะไรกัน มีเรื่องขัดแย้งกันนิดหน่อยด้วย ฮ่าๆๆๆ"เอเนลหัวเราะ
"พลังที่เรียกว่ามันโทราของพวกคุณน่ะ
ระบุได้กระทั่งตัวบุคคลเลยหรือคะ?"นามิถาม
"สมบูรณ์แบบเลย
เป็นอย่างนั้นซะที่ไหนเล่า เฉพาะของฉันต่างหากล่ะที่พิเศษ
เสริมพลังสายฟ้านี้เข้าไปในมันโทราอันแข็งแกร่ง
ทำให้ฉันอ่านคลื่นไฟฟ้าจนได้ยินบทสนทนาได้
และถ้าหากมีใครหน้าไหนกล้านินทาไร้สาระให้ได้ยินล่ะก็มันจะถูกลงทัณฑ์
ถ้าหากอยู่ในส่วนหนึ่งของอาณาจักรนี้ละก็ ไม่มีทางที่ฉันจะไม่รู้"
"ถ้าอย่างนั้น..."
"เป็นพลังที่เหมาะสมกับพระเจ้าเลยใช่มั้ยล่ะ
ฮ่าๆๆ ตั้งใจหนีกันเข้าไปเลยเจ้าพวกชาวท้องฟ้า สกายเปียน่ะจบสิ้นแล้ว
งานเลี้ยงส่งของเหล่าทูตสวรรค์บนท้องฟ้า นี่เธอ
เคยเห็นผู้คนที่จู่ๆก็เกิดเสียหลักไม่มีที่จะยืนบ้างมั้ย? ฮ่าๆๆๆ"
"อะไรกันเจ้าหมอนี่"นามิเบิกตากว้างด้วยความกลัว"ทำยังไงดี
ถ้าไม่รีบหนีตอนนี้ โธ่ ไม่สิถึงจะหนีได้ก็เถอะ แต่เกาะท้องฟ้าก็จะหายไปอยู่แล้ว
ไม่มีวิธีเลยเหรอ"
นามิเห็นแววตาเอเนลหงุดหงิดขึ้นมา
"มีอะไรเหรอคะ?"นามิถาม
"ใครกัน?"เอเนลรู้สึกถึงเสียงอื่นบนเกาะด้วยมันโทรา
"เปล่า
ไม่มีอะไร"เอเนลตอบ
____________________
"ฟังก่อนค่ะ
ฟังที่ฉันจะพูดก่อนเถอะ"โคนิสบอกชาวท้องฟ้าที่หวาดกลัว
"อย่าเข้ามา
อย่าเข้ามาใกล้ฉัน!!!"ชายคนนึงตะโกน
"ทุกคน
ฟังที่ฉันพูดก่อนเถอะค่ะ"โคนิสพยายามพูดต่อไป"ไม่มีเวลาแล้วนะคะ
ขอร้องละค่ะ ใจเย็นๆแล้วฟังที่ฉันพูด"
"หนวกหูน่า
อย่าเข้ามานะ!!!"ชายอีกคนตะโกน"ออกไปจากเกาะเลยไป๊ ยัยตัวซวย"
"ใช่แล้ว
ขืนเธออยู่ล่ะก็พวกเราต้องถูกลงทัณฑ์ไปด้วยแน่"หญิงชรากล่าว
"เจ้าพวกลบหลู่"ชายคนนึงชี้หน้าโคนิส
"ไม่ใช่นะคะ
ฉันน่ะ ฟังฉันพูด..."
โคนิสเห็นไวท์เบเร่ต์คนนึงยกมีดพุ่งเข้ามาจะแทงเธอ
แต่โคนิสเอาบาซูก้ามาเล็งจ่อให้เขาหยุด
"อย่าเข้ามาใกล้นะ"โคนิสเตือนเขา"นี่เฟลมบาซูก้านะคะ
ฉันยิงจริงๆนะ"
"กรี๊ดดดด!!!!"ชาวท้องฟ้ากรีดร้องเมื่อเห็นโคนิสอาอาวุธร้ายแรงออกมา
"ทุกคนรีบไปที่สุดขอบเมฆเร็วเข้า
ไปที่คลาวเอนด์ หนีไปที่ทะเลสีฟ้าเถอะค่ะ อีกไม่นานอาณาจักรนี้ก็จะหายไปแล้วละค่ะ
ไม่มีเวลามาชักช้ากันแล้วนะคะ
ใช้เรือที่มีอยู่ลี้ภัยออกไปจากเกาะแองเจิ้ลกันเถอะคะ"โคนิสตะโกนบอกทุกคน
"พูดจาบ้าบออะไรอยู่เนี่ย"แม็คกินลีย์ได้ลูกน้องมาช่วยให้ลุกขึ้น
ฟังเด็กสาวพูดเรื่องอาณาจักรจะล่มสลาย
"ก็อดเอเนลกำลังจะทำลายอาณาจักรนี้
ขืนอยู่ที่นี่ล่ะก็ทุกคนต้องตายกันหมด"โคนิสกล่าวต่อไป
"หา
พูดอะไรบ้าๆ คิดจะทำอะไรกันแน่"
"ประสาทรึไง
จะล้อเล่นก็ให้มันมีขอบเขตหน่อยสิ"
"อย่ามาลบหลู่ก็อดเอเนลนะ!!!"เด็กผู้ชายคนนึงโยนมะเขือเทศมาโดนหัวโคนิสทิ้งคราบแดงบนหน้า
เด็กผู้ชายถอยทันที"ขอโทษครับ"
แม่ของเด็กผู้ชายก้มลงกอดเขาไว้ทันที
แต่โคนิสไม่สนใจเรื่องผลไม้
ชาวท้องฟ้ากลัวจนไม่ฟังเธอ เธอตัดสินใจเปลี่ยนวิธีการ โคนิสทิ้งบาซูก้าลงพื้น
"อะไรน่ะ? ทิ้งอาวุธงั้นรึ"แม็คกินลีย์สงสัย
ไม่สิ ตอนนี้เป็นโอกาส"เฮ้ รีบไปจับสิ!!"
"ครับ"พวกไวท์เบเร่ต์รีบวิ่งเข้าไป
โคนิสปิดตาสูดหายใจลึกๆและตะโกน
"ฉันน่ะไม่มีวันยอมรับเอเนลเป็นพระเจ้าหรอก!!!!!"โคนิสตะโกนและนึกถึงพ่อ
รอผลที่จะตามมา
"ว๊ากกกก!!!!!"ชาวท้องฟ้ารวมถึงหน่วยไวท์เบเร่ต์ต่างวิ่งหนีให้ห่างจากเธอ
การด่าว่าเอเนลจะทำให้เจอการพิพากษา
"พูดอะไรน่ะ"
"รีบหนีเร็วเข้า"
"ถอยเร็วๆๆ"
"การลงทัณฑ์ของพระเจ้าจะมาแล้ว!!!"
แต่เมื่อชาวท้องฟ้าต่างหนีไปซ่อนหรือหาที่หลบและรอการลงทัณฑ์ของเอเนล
ผ่านไปนานแค่ไหนก็ไม่เกิดอะไรขึ้น
"อ้าว? แปลกจังแฮะ"หน่วยไวท์เบเร่ต์คนนึงพูด"การลงทัณฑ์ไม่มา?"
"ทำไมกันล่ะ?"ผู้หญิงถาม
"พูดขนาดนั้น
พูดจาลบหลู่พระเจ้าถึงขนาดนั้นแท้ๆ"ชายอีกคนเสริม
"หมายความว่ายังไง?"แม็คกินลีย์หมอบพื้นในซอกตึกกับไวท์เบเร่ต์อีกสองคน
"เพราะชีวิตของฉันคนเดียว
มันไม่มีค่าจะลบทิ้งน่ะสิคะ"โคนิสตอบ"สกายเปียจะถูกลบทิ้ง
นี่คือคำพูดของทหารกองทัพเทพที่เสี่ยงชีวิตหนีจากอัปเปอร์ยาร์ดมาบอกค่ะ เขาน่ะ
ถูกลงทัณฑ์ไปพร้อมๆกับคุณพ่อของฉันแล้ว"
".....!!!!"แม็คกินลีย์หน้าซีดขณะที่คนอื่นมองอย่างประหลาดใจ
"ก็อดจะทำอะไร? จะทำอะไรเหรอ?"เด็กที่ขว้างมะเขือเทศถาม
แม่เด็กกอดเขาไว้"ก็อดจะคอยช่วยพวกเราไม่ใช่เหรอ? คนคนนั้นกำลังพูดอะไรอยู่เนี่ย?"
"ไม่มีเวลาแล้ว
ทุกคนรีบไปที่สุดขอบเมฆ ไปที่คลาวเอนด์"โคนิสกล่าว
"เดี๋ยวก่อนสิเธอ"ผู้ชายคนนึงตะโกนขึ้น"เรื่องแบบนั้นอย่าพูดบ้าๆนะ
จู่ๆใครจะไปทำได้"
"พวกเราเกิดและเติบโตที่ท้องฟ้าแห่งนี้นะ"ผู้หญิงคนนึงร้อง
"ใช่แล้วๆ
ที่สำคัญยังไม่เคยไปที่ทะเลสีฟ้ามาก่อนด้วย จะใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นได้ยังไง
จะบ้าเหรอ..."
"แล้วจะรอให้ถูกฆ่าก่อนหรือคะ?"โคนิสตะโกนใส่พวกเขา"เอเนลเป็นผู้ชายประเภทไหน
ทุกคนน่าจะเข้าใจกันดีตั้งแต่6ปีก่อนแล้วนี่คะ
ผู้ชายคนนั้นลองถ้าได้พูดอะไรแล้ว จะต้องทำตามที่พูดเอาไว้ให้ได้อย่างแน่นอน
ขืนเป็นแบบนี้"
"มันก็ไม่แน่หรอกน่า"ชายคนนึงกล่าวขึ้น"อาจจะเกิดปาฎิหาริต์อะไรบางอย่าง
ทำให้เกาะแห่งท้องฟ้ายังคงอยู่ไม่หายไปก็ได้นี่นา"
"นั่นสินะ
ก็อดน่ะอารมณ์แปรปรวนออก"ชายอีกคนเสริม
"ใช่ๆ
ถ้าอย่างนั้น..."
"แกร็ก....ตูมมม!!!!"โคนิสยิงเบิร์นบาซูก้าพุ่งไปโดนยอดต้นไม้หายไปและพุ่งไปโดนภูเขาเมฆระเบิดเป็นหลุม
โคนิสทิ้งเบิร์นบาซูก้าอีกครั้ง
"สิ่งที่พวกเรารู้กันดีที่สุดก็คือ
เขามีพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถมอบความสิ้นหวังให้แก่พวกเราได้
และเวลานั้นก็มาถึงต่อหน้าพวกเรากันแล้วด้วย
มัวแต่เฝ้ารอปฎิหาริย์แล้วจะได้อะไรขึ้นมาล่ะคะ!? อย่างน้อยๆ
ตอนนี้อาณาจักรแห่งนี้ก็ไม่มีพระเจ้าอยู่แล้ว ก่อนที่จะภาวนา ก่อนที่จะละสายตาจากความเป็นจริง
เราต้องทำให้สิ่งที่ตัวเองทำได้ซะก่อน
ถ้ามัวแต่ยอมหมอบเป็นผู้รับเคราะห์ก็ไม่ต่างไปจากที่แล้วๆมา
ถ้าไม่ยอมเคลื่อนไหวล่ะก็
ถึงจะมานั่งแค้นใครสักคนทีหลังก็ปกป้องชีวิตตัวเองไม่ได้หรอก เอ้า
ตัดสินใจทิ้งอาณาจักรเถอะค่ะ"
"ว๊ากกกก!!!!!"ชาวท้องฟ้าวิ่งหนีไปด้วยความกลัว
"หนีไปทะเลสีฟ้าเถอะ"
"ต้องรีบไปเก็บสัมภาระซะแล้ว"
"ไปที่คลาวเอนด์
ไปที่สุดขอบเมฆ"
"สาวน้อยคนนั้นพูดถูกแล้วล่ะ"
โคนิสเห็นแล้วถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่เธอเตือนชาวท้องฟ้าสำเร็จ
แต่เธอเห็นว่าไม่ใช่ทุกคนที่หนีไป
"นี่เธอ
กองทัพเทพเป็นยังไงบ้างรู้บ้างมั้ย?"หญิงสาวคนนึงถาม"สามีฉันอยู่ที่นั่น
อยากจะหนีไปด้วยกันน่ะ"
"ลูกชายฉันเองก็อยู่ที่นั่น
กองทัพเทพปลอดภัยรึเปล่า?"ชายชราถาม
"ลูกชายฉันด้วย"หญิงชรากล่าว
"เอ่อ
เรื่องนั้น"โคนิสพยายามจะตอบขณะนึกถึงทหารเทพที่รอดมาได้"คิดว่ากองทัพเทพคงจะ...."
"ที่ผ่านมากองทัพเทพถูกสั่งให้ไปทำอะไรกันแน่?"
"แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน?"
"เธอไม่รู้อะไรบ้างเลยรึ?"
ตอนนั้นเองแม็คกินลีย์ก็มายืนด้านหน้าโคนิส
คั้นเธอกับฝูงชน
"เรื่องของกองทัพเทพน่ะ
พวกเราไวท์เบเร่ต์จะรับผิดชอบให้เอง
รับรองว่าจะให้ตามไปสมทบกับพวกเธอทีหลังได้แน่"แม็คกินลีย์บอกฝูงชน"รีบไปกันก่อนเถอะ
วุ่นวายใหญ่แล้ว"
"หัวหน้าแม็คกินลีย์"
"เร็วเข้าเถอะ!!!"แม็คกินลีย์สั่ง
"คุณหัวหน้า"โคนิสกล่าว
"ชะตากรรมของกองทัพเทพฉันเห็นมากับตาแล้ว"แม็คกินลีย์บอกเธอ"เอเนลมันเป็นผู้ชายแบบนั้นแหละ
ฉันรู้ดีเต็มอก แต่ว่าตอนนี้ต้องรีบให้ผู้คนบนเกาะแห่งนี้อพยพไปโดยเร็วที่สุด
จะให้ซ้ำรอยเดิมกับ"บิลก้า"ไม่ได้"
"บิลก้า?"โคนิสถาม
"เกาะท้องฟ้าทางตะวันออกเฉียงใต้ เป็นบ้านเกิดของเอเนล"แม็คกินลีย์อธิบาย"6ปีก่อน
ได้ยินว่ามันสลายหายไปโดยไม่เหลือแม้แต่เงา"
"6ปีก่อน
หรือว่า..."
"ใช่แล้ว
เอเนลมันทำลายบ้านเกิดของตัวเอง จากนั้นก็มายังอาณาจักรแห่งนี้
ได้ยินว่าที่บิลก้าเองก็มีนักรบที่แข็งแกร่งเหมือนกัน
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเอเนลก็ไร้ความหมาย เพราะเขาคือเทพผู้ไร้เทียมทาน"แม็คกินลีย์มีรอยยิ้มที่ข่มขืน"อาจจะเป็นอย่างนั้นจริงๆก็ได้
คิดว่าเธอคงจะรู้อยู่แล้ว
เดิมทีพวกเราเองก็เป็นสมาชิกของกองทัพเทพที่คอยรับใช้ท่านกันโฟล
ถึงจะต้องหักหลังกองทัพเทพก็เถอะ แต่ก็เชื่อมั่นว่าการเชื่อฟังเอเนลก็อดเอเนลและคงอยู่ที่เกาะแห่งนี้เป็นวิธีที่จะปกป้องผู้คนเอาไว้
แต่ว่า สุดท้ายแล้ววิธีนั้นมัน....น่าสมเพชสิ้นดี
อย่างน้อยๆขอแค่ไม่ให้ก็อดพิโรธขึ้นมา
และก็ไม่ยอมให้ใครไปแข็งข้อกับเขาคนนั้นมันก็เท่านั้น น่าสมเพชๆๆ"
"ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกค่ะ"โคนิสกล่าว
แม็คกินลีย์หันมามองเธอด้วยความประหลาดใจ"ดีจริงๆค่ะที่ได้ยินคำพูดแบบนั้นจากปากของคุณ
อย่าเดือดเนื้อร้อนใจไปเลยนะคะ ก็คุณทำไปเพื่อปกป้องทุกคนนี่นา
พวกเรานึกอยากจะขอบคุณด้วยซ้ำ"
"คุณหัวหน้า
ฝากจัดการที่นี่ให้หน่อยได้รึเปล่าคะ?"โคนิสถาม
"เรื่องนั้นได้แน่นอนอยู่แล้ว จะไปไหนรึ?"แม็คกินลีย์ถาม
"คือว่ายังมีคนที่ไม่รู้วิธีหลบหนีอยู่ด้วยค่ะ
เป็นเพื่อนของฉันเอง ต้องรีบกลับไปบอก รบกวนด้วยนะคะ"โคนิสพูดแล้ววิ่งไป
"จริงสิ
พวกคนทะเลสีฟ้า"แม็คกินลีย์จำได้ขณะที่โคนิสวิ่งไปดึงเวฟเวอร์ขึ้น"เฮโสะ"
"เฮโสะ"โคนิสตอบ
_____________________
ที่เมืองแชนโดรา
ลูฟี่วิ่งผ่านตึกซากปรักแชนโดราด้วยความเร็วสูงสุด กระโดดจากตึกนึงไปตึกนึง
ปีแอร์บินตามไปโดยมีไอซ่าที่หลัง
ด้านโรบินที่ได้สติและฟังที่ลูฟี่ไปจัดการเอเนลแล้ว
เธอพยายามดึงตัวมานั่งพิงกำแพง มองโซโล คิรัวร์ ช็อปเปอร์ เซียร์ กริฟฟิน กันโฟล
ไวเปอร์และโครว
"ท่าทางจะขนไปรวดเดียวไม่ได้สินะ"โรบินคิดในใจเงยหน้าขึ้น"อย่างน้อยขอแค่ชั้นบน
ต้องออกไปให้ได้"
"ไอซ่า!!!!"ลูฟี่ตะโกนเรียกขณะวิ่งผ่านซากปรัก"มาทางนี้ไม่ผิดแน่นะ"
"อื้อ
เรามาใกล้จะถึงตัวแล้วล่ะ ไม่ผิดแน่"ไอซ่ากล่าว
"ดีล่ะ"ลูฟี่กล่าว
ไอซ่ามองไปทางหน้าผาใกล้ป่าทางซ้ายที่เธอได้ยินเสียง
"นั่นไงลูฟี่
โพรงที่อยู่ทางซ้ายนั่น นั่นไง ตรงนั้นแหละ"
"ตรงนั้นเองเหรอ
ดีล่ะ"ลูฟี่วิ่งไปบนกำแพงแล้ววิ่งตรงไป ปีแอร์บินตามไป
_____________________
"กะแล้วเชียว
รู้สึกว่าจะไม่ใช่ใครใน7คนที่รอดอยู่เมื่อตอนนั้นจริงๆด้วย"เอเนลเดินไปที่ราวกั้น"ให้ตายสิ
มันไปมุดหัวซ่อนตัวอยู่ที่ไหนมานะ"
"หรือว่า"นามิคิดในใจ
เอเนลขึ้นไปยืนบนราวมองออกไปนอกถ้ำ
"ไม่สบอารมณ์เลยแฮะ
คำทำนายของเราผิดพลาดอย่างนั้นรึนี่"เอเนลกล่าว
"แกเองรึ? คนที่ชื่อเอเนล"ลูฟี่ตะโกน
"ลูฟี่!!!!!"นามิวิ่งมาเกาะราวกั้นมองลูฟี่ที่มาถึง
"แกทำอะไรลงไปกับพวกพ้องของฉัน"ลูฟี่จ้องเอเนลเขม็ง
"พูดถึงขยะชิ้นไหนล่ะ?"เอเนลถาม
"รออยู่ตรงนั้นเฉยๆเถอะ
จะไปอัดแกให้ปลิวเดี๋ยวนี้แหละ"ลูฟี่กล่าว
"ระวังคำพูดหน่อย
ฉันคือพระเจ้านะ"เอเนลเตือนด้วยความหยิ่งยโส
"อย่างแกมันพระเจ้าตรงไหน"ลูฟี่ตะโกน
"กล้าหาเรื่องกับเอเนลซึ่งๆหน้าเลยรึ"ไอซ่าพูดขณะที่เธอกับปีแอร์ซ่อนอยู่หลังม่านในอุโมงค์ถ้ำ"จะไหวมั้ยนะ? ลูฟี่"
"นี่ลูฟี่
ระวังตัว...."นามิพยายามเตือน แต่เอเนลหันไปมองทำให้เธอรีบยกมือปิดปาก
"ฮ่าๆๆๆ
เริ่มจะได้ยินแล้วล่ะ งานเลี้ยงของทูตสวรรค์
ผู้คนเริ่มรู้ชะตากรรมของสกายเปียกันแล้ว ฮ่าๆๆ
ก่อนที่จะสูญเสียที่ยืนจะหนีพ้นรึเปล่านะ?"
"ฉันถามว่าแกน่ะเป็นพระเจ้าตรงไหนกัน!!!"ลูฟี่ตะโกน
"เดี๋ยวก็รู้เองแหละ"เอเนลตอบ
ลูฟี่วิ่งมาตามเรือพายและยืดแขนไปใบบนเสาเชื่อมใบพัด
พาตัวเองยืดขึ้นไปบนใบพัดเหล็กด้านข้างดาดฟ้าเรือ
"อย่างนี้นี่เอง
ท่าทางแกเองก็ไม่ใช่คนธรรมดาสินะ แต่ว่า พวกสายพารามิเซียรึ
ไร้สาระจริงๆ"มือของเอเนลมีสายฟ้าออกมา"เมื่ออยู่ต่อหน้าฉัน
ไม่ว่าอะไรก็ไร้ความหมาย ดังนั้ ฉันถึงเป็นพระเจ้าไง"
ลูฟี่โดดพุ่งเข้าไปหาเอเนล
"เอลธอร์!!!!"เอเนลยิงลำแสงกลืนลูฟี่หายไปอย่างสมบูรณ์
"ลูฟี่"นามิร้อง
"กรี๊ด!!!!!"ไอซ่ากรีดร้อง
แต่เมื่อควันจางลงปรากฎว่าลูฟี่ยืนอยู่บนดาดฟ้าแม็กซิมตรงหน้าเอเนล
เขาหันไปมองหลุมที่เกิดจากการยิงลำแสง
"หลบได้เก่งไม่เบาเลยนี่นา"เอเนลชมแล้วควงกระบอง
"หลบได้งั้นรึ"นามิคิดในใจ
ลูฟี่ไม่ได้หลบได้
เอเนลเคาะกลองที่หลังสองอัน
"60ล้านโวลด์
แจมโบล"
"เปรี๊ยะๆๆๆๆ...!!!!"สายฟ้าร่างมังกรพุ่งเข้าใส่ลูฟี่
แต่เมื่อสายฟ้าสลายไป
ลูฟี่ไม่เป็นไรเลย
"เปรี๊ยะ!!!"เอเนลหายตัวไปยืนอยู่ตรงหน้าลูฟี่และยื่นมือไปที่หัวเขา"100ล้านโวลด์
แวรี่!!!"
"ตูมมม!!!
เปรี๊ยะๆๆๆ"สายฟ้าขนาดใหญ่ฟาดลงมาใส่ลูฟี่อย่างรุนแรง
"จริงด้วย
แค่ดูสักนิดก็น่าจะเข้าใจแล้ว"นามิก้มหลบสายฟ้าอยู่หลังราวกั้น"สายฟ้าใช้ไม่ได้ผลกับลูฟี่
ก็เป็นยางนี่นา"
"ให้มันน้อยๆหน่อย"ลูฟี่โยนเขาออกไป
เอเนลพลิกตัวไปในอากาศและลงมายืนที่พื้น
เอเนลจ้องลูฟี่ด้วยตาที่เปิดกว้างสุด
อ้าปากค้างและขี้มูกไหลออกมา
"ย๊ากกก!!!!"ลูฟี่วิ่งเข้าหาเอเนล
"ใจเย็นไว้
ยังไงซะการโจมตีทางฟิสิกส์ก็ทำอะไรร่างของเราไม่ได้อยู่แล้ว"เอเนลพยายามสงบสติ"คิดๆดูลิงทะเลสีฟ้าแค่ตัวเดียว.."
"เปรี้ยง!!!!"ลูฟี่ยกเท้าถีบเข้าเต็มท้องทำให้เอเนลกระอักเลือดออกมาและพุ่งไปด้านหลังล้มลง
"พลังสายฟ้าใช้ไม่ได้ผลโดยสิ้นเชิงเลย"นามิมองดูด้วยสีหน้าตะลึง"มนุษย์ที่โดนสายฟ้าแล้วไม่เป็นไรมีอยู่ในโลกนี้จริงๆ
เอเนลเองก็คงจะคาดการณ์ไม่ถึงแน่
ไม่แน่ว่าลูฟี่อาจจะเป็นคู่ปรับที่ฟ้าส่งมาเพื่อกำจัดเอเนลโดยเฉพาะก็ได้"
ความคิดเห็น