NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One piece Another Nakama 2

    ลำดับตอนที่ #85 : งูยักษ์แยกเขี้ยว เซอไววัลเกมเริ่มแล้ว(RE2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 943
      31
      18 ก.พ. 62

    "เฮ้ จะไปไหนน่ะโซโล!?"ลูฟี่ตะโกนเรียกโซโลที่ไปทางต้นไม้รากใหญ่"นั่นมันตรงข้ามแล้ว ตะวันตกต้องทางนี้ต่างหาก"

     

    ลูฟี่ชี้ไปอีกทางฝั่งตรงข้าม

     

    "นายนี่มันขี้หลงทางซะจนเห็นแล้วหน่ายเลยแฮะ"ลูฟี่บ่น

     

    "ตะวันตก นั่นมันตะวันออกนะ?"ช็อปเปอร์กล่าว คิรัวร์ โรบิน เซียร์เดินตามมาด้านหลัง

     

    "นี่ลูฟี่ ทำไมนายถึงไม่ยอมฟังที่คนอื่นเขาพูดบ้างล่ะ ตาขวาของหัวกะโหลกน่ะมันต้องไปทางขวาสิ"โซโลตะโกนชี้ทางผิด"นายน่ะบ้ารึเปล่า"

     

    "แล้วทำไมนายไปทางซ้าย?"คิรัวร์ถามจากระยะไกล

     

    "หุบปาก!!!!"โซโลตะโกนใส่คิรัวร์

     

    "ไม่มีความรู้เรื่องทิศทางเลย"คิรัวร์บ่น

     

    "พวกเขาสองคนมีความจำทางได้แย่ที่สุดในกลุ่ม"เซียร์ถอนหายใจมองอีก3คน"เตือนฉันหน่อย ทำไมเราปล่อยให้พวกเขานำเรา"

     

    "พวกเราต้องมุ่งหน้าไปทางทิศใต้"โรบินคุกเข่ามองช็อปเปอร์"ช่วยบอกพวกเขาหน่อยได้มั้ยว่าเราต้องไปทางนี้"

     

    "เข้าใจแล้ว"ช็อปเปอร์วิ่งไปหาลูฟี่กับโซโล

     

    "ฮี่ๆๆ"ลูฟี่หยิบเศษแท่งไม้ขึ้นมา

     

    "ลูฟี่ โซโล!!!!"ช็อปเปอร์วิ่งมาหาพวกเขา

     

    "อะไรกันทิศใต้เหรอ?"ลูฟี่ถามขณะเดินถือไม้ไป"งั้นก็รีบๆบอกกันก่อนสิ"

     

    ลูฟี่ โซโล ช็อปเปอร์ เดินตามหลังคิรัวร์  เซียร์และโรบิน

     

    "โรบิน ต้องใช้เวลาแค่ไหนถึงจะไปถึงที่นั่น"ลูฟี่ถาม

     

    "น่าจะราว1ชั่วโมง"โรบินกล่าว

     

    ช็อปเปอร์เฝ้ามองลูฟี่อย่างอิจฉา มนุษย์ยางถือท่อนไม้เคาะพื้นและลำต้นไม้ไปเรื่อยๆ

     

    "ลูฟี่ ไม้ท่อนนั่นดูเจ๋งมากเลยนะ"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "ฮะๆๆ ใช่มั้ยล่ะ ไม่ให้หรอกไปหาเอาเอง"ลูฟี่กล่าว

     

    "ดีจัง ไม้ๆ"ช็อปเปอร์เดินไปหาท่อนไม้บ้าง

     

    "จะเอาไม้ไปทำอะไร?"โซโลสงสัย

     

    "ตอนแรกฉันคิดว่าป่านี้จะน่ากลัวกว่านี้ซะอีก แต่ก็ไม่เห็นเท่าไหร่เลย ฮะๆๆ"ช็อปเปอร์พูดเดินถือท่อนไม้มา

     

    "อย่าชะล่าใจช็อปเปอร์ มันก็แค่ยังไม่มีศัตรูมาโจมตีเราเท่านั้น"คิรัวร์เตือนเขา

     

    "ช็อปเปอร์ วันนี้นายคึกคักดีนี่"ลูฟี่ยิ้มกว้างหันหลังมองเรนเดียร์

     

    "่แหงอยู่แล้ว ฮะๆๆ"ช็อปเปอร์หัวเราะ"มี5คนนี้อยู่ด้วยแล้วใจชื้่นขึ้นเยอะ"

     

    "แต่ว่าขอบอกตามตรงเลยนะ ว่ามันน่าเบื่อชอบกล เมื่อวานตอนที่เราเข้าไปในป่าก็ด้วย ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ไม่ยักเจอเทพคุมกฎสักคน เข้าใจความรู้สึกของนายเลยล่ะ ช็อปเปอร์"โซโลกล่าว

     

    "ใช่มั้ยล่ะ"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "พิลึกกันจังแฮะพวกนี้"โรบินแสดงความเห็น"อยากให้เกิดเรื่องกับตัวเองขนาดนั้นเชียว?"

     

    "ฉันไม่ใช่คะ"เซียร์ยืนยัน"ถ้าเราไม่ต้องเจอก็อดหรือเทพคุมกฎจะดีมาก"

     

    "ฮะๆๆๆ"ช็อปเปอร์หัวเราะ

     

    "ครืด"แต่แล้วเขาก็ได้ยินเสียงบางอย่างเคลื่อนไหว เขาหันไปมองรากสีฟ้าขนาดใหญ่ที่มีแถบสีน้ำเงินเข้ม

     

    "รากไม้นั่นใหญ่จัง รูปร่างก็พิลึกด้วย"ช็อปเปอร์คิดในใจ

     

    จากนั้นเขาก็เห็นมันขยับ

     

    "ขยับแล้ว"ช็อปเปอร์พูดขึ้น

     

    "อะไรขยับงั้นเหรอช็อปเปอร์"ลูฟี่ถาม

     

    "เปล่า ไม่มีอะไร ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไรหรอก"ช็อปเปอร์บอกแล้วรีบตามไป"ขืนบอกว่ารากไม้ขยับได้ล่ะก็ มีหวังถูกหัวเราะเยาะหาว่ากลัวแหงๆ วันนี้เราต้องเข้มแข็งเข้าไว้ คงคิดไปเองมากกว่า"

     

    "รู้สึกถึงกลิ่นอายแปลกๆ"โรบินกล่าว

     

    ช็อปเปอร์กำลังมองข้างหลังเรื่อยๆ


    "ช็อปเปอร์ มัวหันรีหันขวางอยู่ทำไม?"โซโลถาม

     

    "ไม่มีอะไรหรอก"ช็อปเปอร์กล่าว


    "อะไรน่ะ รากไม้ยักษ์ท่าทางพิลึกๆนั่น"ลูฟี่หันไปเห็นรากไม้ประหลาด

     

    "เห็นมั้ย มันพิลึกจริงๆด้วย"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "ทำไมรากไม้ถึงขยับได้ล่ะ?"โซโลถาม


    "เนอะที่จริงฉันรู้ตัวตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "ฉันว่าเราไม่ต้องสนใจมัน"คิรัวร์กล่าว

     

    ทันใดนั้นเองพื้นดินทั้งหมดก็สั่นสะเทือน

     

    "อะไรน่ะ!?"โซโลกล่าว

     

    "อา!!!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

     

    พวกเขาเห็นว่ารากไม้ใหญ่ที่แท้จริงก็คืองูยักษ์ ตัวมันเป็นสีฟ้าอ่อนจริงๆ มีลานสีน้ำเงินและมีดวงตาสีเหลือง มีหนวดอยู่เหนือปาก

     

    ____________________

     

    นามิ ซันจิ วีวี่และอุซปกำลังนำเรือโกอิ้งแมรี่ไปตามมิลกี้โร้ด

     

    "ใบเรือพร้อม หางเสือพร้อม"อุซปยืนอยู่หน้าเรือทำตัวเป็นกัปตัน"ไปได้สวยเลยแฮะ ลูกเรือก็โอเค แต่ว่าแบบนี้มันอืดไปหน่อย นี่ ต้นหนเรือ ทำอะไรหน่อยสิ"

     

    "ทำอะไรไม่ได้หรอก กัปตันอุซป"นามิรายงาน

     

    "อะไรกัน?"อุซปถาม

     

    "ก็บอกว่าทำอะไรไม่ได้ไง"นามิพูดซ้ำ

     

    "พูดง่ายๆเลยเนี่ยนะ"อุซปกล่าว

     

    "มิลกี้โร้ดน่ะ มีทางลาดขึ้นลงชันมาก คงได้แต่พึ่งแรงขับของเรือไดอัลเท่านั้นแหละ"นามิกล่าว

     

    "น่าเสียดายนะที่ต้องจากเกาะนี้ไปเร็วๆนี้"วีวี่มองป่าที่เงียบสงบ

     

    "มันอาจดูเงียบสงบวีวี่ แต่ถ้าเธอได้เห็นแบบที่ฉันเจอต้องอยากหนีแน่"นามิกล่าว

     

    "คนอื่นจะเป็นยังไงบ้างนะ"วีวี่พูดอย่างกังวล

     

    "ฉันว่าไม่ต้องห่วงพวกนั้นหรอก"นามิกล่าว

     

    "พวกนั้นต้องทำได้วีวี่จัง"ซันจิพูดขณะจุดบุหรี่"และถ้าพวกเขาปล่อยให้ผู้หญิงบาดเจ็บ พวกนั้นโดนผมเตะแน่"

     

    เรือโกอิ้งแมรี่ในตอนนี้เคลื่อนไปข้างหน้าเพราะติดการาสุมารุไว้ที่ท้ายเรือช่วยดันเรือไปข้างหน้า

     

    "พยายามเข้าการาสุมารุ"อุซปตะโกนบอกเรือเล็ก"อ้อ จริงด้วยซันจิ ขอแต่งตั้งนายเป็นองครักษ์พิทักษ์ฉัน....กัปตันกลัวป่านี้มากเลยอ่ะ"

     

    "เงียบไปเลย"ซันจิบอกขณะยกถังออกมาจากห้องเก็บของ"งั้นก็อย่ามาทำคุยโอ่เป็นกัปตันสิฟะ บอกไว้ก่อนฉันจะปกป้องแต่คุณนามิกับวีวี่จังเท่านั้น"

     

    "จริงสิ ถึงเวลากินยาของอัศวินพิลึกแล้ว ช็อปเปอร์เอาไปวางไว้ตรงไหนกันนะ?"นามิกล่าว

     

    "ก็บอกว่าข้าชื่อกันโฟลไง กันโฟล"กันโฟลกล่าว เขานั่งอยู่ที่ราวดาดฟ้าหน้าเรือหลังอุซป ข้างๆปิแอร์

     

    "ถ้ายาละก็วางอยู่บนถังข้างๆตู้เย็นน่ะครับ"ซันจิกล่าว"ฝากด้วยนะครับคุณนามิ"

     

    "โอเค"นามิไปเอายา

     

    "นี่ลุง ท่าทางแข็งแรงขึ้นแล้วนี่นา"อุซปกล่าว

     

    "รบกวนพวกเจ้าแล้วจริงๆ"กันโฟลกล่าว

     

    "ถ้าจะขอบคุณละก็เอาไว้บอกหมอบนเรือของพวกเราเถอะ ยาที่ช็อปเปอร์ทำน่ะได้ผลดีสุดๆเลยนะ แต่ลุงเองก็มาช่วยช็อปเปอร์กับคิรัวร์ไว้เหมือนกันนี่ งั้นก็เจ๊ากันล่ะ"

     

    "....."กันโฟลเงียบ

     

    "ลุง?"อุซปเรียกเขา

     

    "อยากฟังประวัติศาสตร์ของอาณาจักรนี้หน่อยมั้ย?"กันโฟลพูดขึ้น เนื่องจากอุซปไม่ปฎิเสธเขาก็เริ่มเล่า"ข้าน่ะเคยเป็นจอมเทพเมื่อ6ปีก่อน"

     

    "สมองกระทบกระเทือนรึไงลุง"อุซปถาม

     

    "อ๊าก!!!!"อุซปโดนปิแอร์ร่างม้ากัดที่หัว

     

    "ตอนที่อัปเปอร์ยาร์ดแห่งนี้ปรากฎขึ้นมาที่สกายเปีย ก็อย่างที่พวกเจ้ารู้ ได้ยินว่านั่นเป็นเรื่องเมื่อ400ปีก่อน แต่ก่อนหน้านั้นสกายเปียเคยเป็นเกาะท้องฟ้าที่สงบสุข นานๆทีก็มีวาสและของอื่นๆจากทะเลสีฟ้าลอยขึ้นมากับน็อคอัพสตรีม ซึ่งเป็นของแปลกสำหรับชาวท้องฟ้า วาสที่อยู่บนเกาะท้องฟ้า ล้วนแต่บังเอิญลอยขึ้นมาบนท้องฟ้าทั้งนั้น แต่ว่าการที่วาสใหญ่โตขนาดอัปเปอร์ยาร์ดลอยขึ้นมาบนท้องฟ้านั้นไม่เคยมีมาก่อนเลย นับเป็นปาฏิหาริย์ ชาวท้องฟ้าต่างก็ดีใจกันใหญ่ และคิดว่านั่นเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สวรรค์ประทานให้"

     

    ซันจิกับวีวี่เดินมาฟังด้วยและนามิก็เดินถือยามาด้วย วางถาดไว้ข้างกันโฟล

     

    "แต่ว่าที่วาสนั่นมีเจ้าของอยู่ก่อนแล้ว การต่อสู้เพื่อแย่งชิงวาสจึงเริ่มขึ้น ซึ่งคนพวกนั้นก็คือแชนเดียร์"

     

    "หมายถึงพวกกองโจรงั้นเหรอ?"อุซปถาม

     

    "งั้นเดิมทีพวกนั้นก็เป็นคนที่อาศัยอยู่บนเกาะจายาน่ะสิคะ?"วีวี่กล่าว

     

    "ใช่แล้ว พวกนั้นเองก็คงตกใจที่เกาะถูกซัดลอยขึ้นมาอยู่บนฟ้า"กันโฟลกล่าว


    "ถึงอย่างนั้น พวกคุณก็ยังขับไล่พวกเขาออกไปจากเกาะเหรอ?"นามิถาม มันเป็นเรื่องต่ำช้าแม้ในสายตาโจรอย่างเธอ

     

    "ถูกต้อง ชาวท้องฟ้าช่วงชิงบ้านเกิดของพวกเขาเพื่อสนองความอยาก การต่อสู้ระหว่างแชนเดียร์กับชาวท้องฟ้าดำเนินมากว่า400ปีแล้ว แชนเดียร์ก็แค่อยากจะชิงบ้านเกิดของตัวเองกลับคืนมาเท่านั้น"กันโฟลกล่าว

     

    "แบบนั้น...มันน่าเศร้าจังเนอะ"นามิพูดอย่างเห็นใจ

     

    "งั้นพวกแกก็เป็นฝ่ายผิดน่ะสิ"ซันจิกับอุซปกล่าว ปิแอร์เข้ามากัดหัวพวกเขาทันที"อ๊าก!!!"

     

    "ใช่แล้วล่ะ ก็ถูกอย่างที่พวกเจ้าพูดน่ะแหละ"กันโฟลเหลือบมองยาที่นามิยกมา"ยาเหรอขอบใจนะ ขอกินก่อนล่ะ"

     

    กันโฟลกินยาที่ช็อปเปอร์ทิ้งไว้และดื่มน้ำตาม

     

    "เอเนลล่ะ?"นามิถามขึ้นทำให้กันโฟลชะงัก"เขาเป็นใครล่ะก็อดเอเนลน่ะ?"

     

    "สมัยที่ข้ายังเป็นจอมเทพ จู่ๆมันก็คุมกำลังทหารโผล่มาที่เกาะท้องฟ้า แล้วเข้าตีกองทัพเทพที่ข้าบัญชาการอยู่กับแชนเดียร์จนยับเยิน ก่อนจะยึดครองอัปเปอร์ยาร์ดไป นั่นเป็นเรื่องเมื่อ6ปีก่อน ตอนนี้กองทัพเทพส่วนใหญ่ถูกเอเนลใช้อำนาจบางอย่างควบคุมอยู่ ข้าเองก็ไม่แน่ใจนัก แต่ว่า สำหรับแชนเดียร์แล้วใครจะเป็นจอมเทพสถานการณ์ก็ไม่ต่างกัน เลยยังคงพยายามชิงบ้านเกิดกลับคืนมา"

     

    "แล้วทำไมพวกแชนเดียร์ที่ต้องการชิงบ้านเกิดนั่นถึงมาเล่นงานพวกเราตั้งแต่ตอนที่มาถึงใหม่ๆด้วยล่ะ?"ซันจิถาม นึกย้อนไปตอนที่ไวเปอร์เข้ามาโจมตีพวกเขา

     

    "กองทัพเทพที่เมื่อกี้ข้าบอกว่าถูกควบคุมอยู่ ก็เคยขโมยเรือแล้วหลบหนีอยู่เหมือนกัน แต่ก็ยังเป็นศัตรูสำหรับพวกแชนเดียร์ เลยคิดจะกำจัดไม่ปล่อยให้หนี บางทีพวกนั้นอาจจะเข้าใจผิดเองก็ได้"กันโฟลกล่าว

     

    "อะไรเนี่ย พวกเราถูกจ้องเอาชีวิตด้วยความเข้าใจผิดอย่างงั้นรึ"ซันจิกล่าวอย่างไม่พอใจ

     

    "การที่ข้ากลายมาเป็นอัศวินนภา ก็เพื่อช่วยผู้หลบหนีพวกนั้นให้เผ่นไปยังเกาะอื่นได้อย่างปลอดภัยน่ะแหละ เพราะเป็นอาชญากร เลยต้องส่งไปยังเกาะอื่นที่สายตาของเอเนลสอดส่องไม่ถึง"

     

    "เท่าที่ฟังดู ก็อดเอเนลเนี่ยเหมือนราชาที่น่าหวาดกลัวเลยแฮะ"ซันจิกล่าว

     

    "นี่แน่ะๆๆๆ นายน่ะอย่าปากเสียได้มั้ย"อุซปตบซันจิที่แขน"ก็อดเอเนลผู้ปราดเปรื่องมองดูทุกอย่างอยู่นะเฟ้ย"

     

    "แล้วแกกลายเป็นคนของสกายเปียตั้งแต่เมื่อไหร่?"ซันจิถาม

     

    "ก็ได้ยินแล้วไม่ใช่เหรอ เมื่อกี้น่ะ"อุซปพูด

     

    "น่าหวาดกลัวรึ ไม่หรอก ที่จริงมันยิ่งกว่านั้นซะอีก เอเนลจะคอยตั้งข้อหาคนที่มาจากนอกอาณาจักรอย่างพวกเจ้าให้เป็นอาชญากร แล้วก็ให้ชาวเมืองสกายเปียช่วยนำทางมาเพื่อพิพากษาอีกที สิ่งที่เกิดขึ้นจากการทำแบบนี้ก็คือความสำนึกบาปในหมู่ชาวเมือง"

     

    วีวี่ อุซปกับซันจิคิดเรื่องโคนิสพยายามเตือนพวกเขา และชาวสกายเปียต่างตกใจ

     

    "ยามที่รู้สึกว่าสิ่งที่ตัวเองทำเป็นบาป คนเราจะรู้สึกอ่อนแอที่สุด เอเนลรู้ซึ้งถึงจุดนั้นดี ก็เลยปกครองลูกแกะผู้หลงทางเหล่านั้นได้ ซึ่งก็คือเลียนแบบการกระทำของพระเจ้านั่นเอง เป็นชายที่ร้ายกาจมาก"


    "เฮ้อ"นามิถอนหายใจ"ตอนที่มาถึงแองเจิ้ลบีซ อุตส่าห์นึกว่าที่นี่เป็นสวนสวรรค์แท้ๆเชียว แต่ที่ไหนได้ ขุมทองในอดีต ดันลอยมาอยู่ในที่น่ากลัวแบบนี้ซะได้"

     

    "อ้อ จริงสิ พวกเจ้าน่ะ ขุมทองที่ทำให้จัดงานซะครึกครื้นเมื่อคืนนี้ มันคืออะไรอย่างงั้นรึ?"กันโฟลถาม

     

    "เอ๋?"กลุ่มหมวกฟางทั้ง4ตกใจที่จอมเทพไม่รู้จักทองคำซึ่งน่าจะมีอยู่เต็มที่ซากเมืองโบราณของเกาะนี้

     

    _________________

     

    6ปีก่อน

     

    "โผล่หัวมาอีกแล้วรึ?"ไวเปอร์กล่าว เมื่อ6ปีก่อนเขามีผมดำยาวและสวมที่คาดหน้าผากสีส้ม"กลับไปซะตาเฒ่า"

     

    กันโฟลในตำแหน่งจอมเทพได้มายังหมู่บ้านของแชนเดียร์ที่อยู่ใต้เมฆเกาะ

     

    "พอทีเถอะไวเปอร์"หัวหน้าเผ่าชราบอกนักรบหนุ่ม"กันโฟลเขามาเพื่อเจรจานะ"

     

    "จะเจรจาไปทำไม?"ไวเปอร์ตะโกน"หัวหน้าเผ่าน่ะหลีกไปเลย คิดว่าคนหนุ่มอย่างพวกเราขะยอมรับผลการเจรจาประนีประนอมของพวกคนแก่ทั้งสองฝ่ายรึไง ฟังนะกันโฟล พวกเราน่ะไม่ยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว ถ้าบอกว่าการต่อสู้มันไร้ประโยชน์ละก็ เอาทุกอย่างคืนมาสิ รู้ตัวบ้างรึเปล่า ว่าพวกแกทำอะไรบ้างกับแชนเดียร์แต่ละรุ่น ป่านนี้แล้วจะให้มาอยู่ร่วมกันเนี่ยนะ"

     

    "ข้าคงคืนทุกสิ่งให้ไม่ได้หรอก พลังของวาสแห่งอัปเปอร์ยาร์ดได้กลายเป็นสิ่งที่สกายเปียขาดไปไม่ได้เสียแล้ว ทุกคนรู้สึกซาบซึ้งกับสิ่งนั้นเป็นอย่างมาก ป่านนี้แล้วจะให้ไปช่วงชิงสิ่งนั้นมาจากผู้คนที่ไร้ความผิดข้าคงทำไม่ได้หรอก"

     

    "เหล่าผู้คนแห่งท้องฟ้าไม่มีความผิดงั้นรึ?"ไวเปอร์เดินมาหาจอมเทพ"ถ้าต่างฝ่ายต่างอยู่อย่างสงบก็อาจจะเป็นอย่างที่แกพูด พวกแกอยากดึงคนอื่นนอกจากกองทัพเทพเข้ามาสู้รบด้วยรึไง"

     

    "พูดอะไรบ้าๆ"กันโฟลกล่าว ไวเปอร์จับคอเสื้อเขา

     

    "ถ้าอยากชดเชยความผิดนักล่ะก็ มันต้องเสี่ยงกันหน่อย เอาคนที่ไม่อยากตาย100คนมาเป็นเครื่องสังเวยแล้วตัดหัวมาให้ฉันสิ"

     

    "เรื่องนั้นข้าทำไม่ได้หรอก"

     

    "งั้นก็ไม่ต้องมาเจรจาแล้ว"ไวเปอร์ปล่อยมือเดินกลับไปหาคนของเขา"ไส่หัวไปซะ ถ้าแกไม่อยากทิ้งหัวเอาไว้ที่นี่ละก็"


    "เดี๋ยวก่อนไวเปอร์"กันโฟลเรียกไว้

     

    "อย่าซี้ซั้วมาเรียกชื่อฉันพล่อยๆนะ"ไวเปอร์หันไปข่มขู่

     

    "ข้าน่ะชอบน้ำฟักทองที่ปลูกเองที่สุดเลย"กันโฟลกล่าว

     

    คำพูดไร้สาระของกันโฟลทำให้ไวเปอร์โกรธ

     

    "ตายซะเถอะแก!!!!"ไวเปอร์พุ่งเข้าไปหากันโฟล

     

    "หยุดนะไวเปอร์ นี่พวกเจ้ามาห้ามไวเปอร์เร็ว"

     

    แชนเดียร์หลายคนรีบมาหยุดไวเปอร์เอาไว้ ขณะที่ทหารเทพวิ่งมาปกป้องจอมเทพ

     

    "มัวทำอะไรอยู่โครว คามาคิริ บราฮัม พวกเจ้าก็ด้วยรึเนี่ย"

     

    แชนเดียร์หลายคนจับไวเปอร์ไว้ แชนเดียร์บางคนเข้าโจมตีทหารเทพ ทำให้การทะเลาะวิวาทเริ่มรุนแรงขึ้น

     

    ด้านหลังหมู่บ้าน รากิเฝ้ามองจากในเต็นท์

     

    "แง!!!!!"รากิหันไปมองทารกในอ้อมแขนของป้าเธอ

     

    "คุณป้าคะ ไอซ่าเนี่ยร้องไห้บ่อยจังเลยนะคะ"

     

    "อื้อ พอมีเรื่องน่ากลัวเกิดขึ้นที่หมู่บ้านทีไร เป็นต้องร้องไห้ทุกทีเลย"

     

    "เพราะไวเปอร์เหรอ?"รากิถาม ขณะที่ไวเปอร์ยังสู้กับกองทัพเทพ

     

    "โอ๋ๆๆ"ป้ารากิปลอบไอซ่า"อือ...ไม่รู้สิ อาจเป็นเพราะเวลามีเรื่องกันทีไร เด็กคนนั้นมักจะมีเอี่ยวอยู่เรื่อยละมั้ง ทำไมคิดแบบนั้นล่ะ?"

     

    "ฉันเองก็กลัวนะ คนคนนั้นน่ะ"รากิกล่าว"เหมือนกับอสูรเลย"

     

    _______________

     

    ปัจจุบัน

     

    รากิตื่นขึ้นหยิบปืนเดินออกมา แล้วเห็นกระเป๋าของไอซ่า วาสในกระเป๋าถูกเทออกมากองบนเมฆ

     

    "วาส!?"รากิวิ่งเข้าไปหาไวเปอร์และกระเป๋า"นั่นมันสมบัติล้ำค่าของไอซ่านะ"

     

    "หยุดเถอะ"บราฮัมยกมือห้ามไว้

     

    "บราฮัม"รากิกล่าว

     

    "โอกาสแบบนี้ไม่มีอีกแล้ว ฉันจะไม่ยอมปล่อยให้มันหลุดมือเด็ดขาด คนที่เตรียมใจไม่พร้อมก็รออยู่ที่นี่แหละ ไม่มีใครว่าหรอก"ไวเปอร์กล่าว

     

    "นี่ไวเปอร์ พวกเราน่ะเตรียมใจมาพร้อมแต่ไหนแต่ไรแล้วนะ"แชนเดียร์กล่าว

     

    "แต่ครั้งนี้เราต้องพร้อมที่จะทอดทิ้งคนที่ล้มระหว่างต่อสู้เอาไว้"ไวเปอร์พูดทำให้หลายคนตกใจ"เหยียบย่ำพวกพ้องก้าวข้ามไป เพื่อให้คนอื่นๆไปข้างหน้าต่อได้ วันนี้แหละฉันจะเด็ดหัวเอเนล"

     

    ____________________

     

    "หนีเร็ว งูยักษ์มาแล้ว!!!!!"ลูฟี่ตะโกน กลุ่มหมวกฟางพบกับงูยักษ์

     

    พวกเขาวิ่งหนีให้เร็วที่สุดขณะโดนไล่ล่าด้วยงูยักษ์

     

    "จ๊ากกกก!!!"ช็อปเปอร์ร้องขณะวิ่งหนีจากงู

     

    "ตัวใหญ่จังเลย"โรบินมองดูงูขณะวิ่งไป"นี่ก็เป็นเพราะสิ่งแวดล้อมของเกาะท้องฟ้ารึ?"

     

    โซโลหยุดวิ่งและหันมาเผชิญหน้างูยักษ์

     

    "หน้าอย่างกับปลาดุกแน่ะ จะสับให้เละเลย"โซโลกล่าว

     

    งูยักษ์พุ่งเข้ามา โซโลกระโดดหลบออกไป

     

    งูยักษ์ยังพุ่งไปทางลูฟี่กับช็อปเปอร์

     

    "โว๊ว!!!"ลูฟี่โดดหลบปากมัน ขณะที่ช็อปเปอร์สะดุดไปด้านหลังทำให้พ้นจากปากมัน

     

    โซโลกระโดดไปบนต้นไม้เหนืองูยักษ์

     

    คิรัวร์โดดไปต้นไม้ใกล้ๆ

     

    "ตัวใหญ่แบบนั้น ทำไมถึงได้เร็วนักนะ?"โซโลถามอย่างสงสัย

     

    โรบินสร้างมืองอกขึ้นตามต้นไม้โดดไปบนกิ่งไม้เหนืองู

     

    "กรี๊ดดด ฉันเกลียดงูที่สุด!!!"เซียร์กำลังโดนงูยักษ์ไล่ตามมาด้านหลังแล้วใช้พลังเผ่าคนยักษ์ชกงู

     

    “เปรี้ยง!!!!!

     

    “โดนเต็มๆ”ช็อปเปอร์ร้อง

     

    แต่งูหันกลับมาในไม่กี่วินาที

     

    "ฟุ่บ"เซียร์กระโดดวิ่งขึ้นไปบนต้นไม้ ขณะที่งูยักษ์กัดเข้าไปลำต้นไม้ยักษ์

     

    ต้นไม้ทรุดล้มลงและลำต้นไม้โดนหลอมละลายด้วยไอพิษสีม่วงจากปากมัน

     

    "พิษ!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

     

    "ออกห่างซะช็อปเปอร์"คิรัวร์ตะโกนแล้วช็อปเปอร์รีบถอยหนี

     

    "แบบนี้เผ่นท่าจะดีกว่าแฮะ"โซโลกล่าว

     

    "เห็นด้วยเลย"โรบินกล่าว

     

    "น่ากลัว"ลูฟี่พูดแต่ยังยิ้มกว้าง

     

    งูยักษ์เอาปากออกจากต้นไม้หันมาทางพวกเขา

     

    "อย่าให้โดนพิษของมันนะ ไม่งั้นตายแน่"โซโลตะโกน

     

    "โห่ฮี้โห่"ลูฟี่โหนตัวกับกิ่งไม้เรียกความสนใจ"นี่เจ้างูพิษยักษ์ทางนี้ ตามมาสิ เหยื่อจะหนีแล้วนะ"

     

    "วิชา2ดาบ บอลเพลิงสุริยา!!!!"คิรัวร์ตวัดดาบชินโซริวกับอามาเทราสุ กลายเป็นบอลเพลิงลูกใหญ่พุ่งใส่งูยักษ์

     

    ไฟโดนงูยักษ์เต็มๆ แต่งูยักษ์หันมามองอย่างระคายเคือง

     

    คิรัวร์รีบหลบปากมันที่พุ่งเข้ามากระโดดหนีไปกิ่งไม้อื่น เซียร์ก็โดดหนีตามมา

     

    "มันตัวใหญ่เกินไป ไม่ระคายผิวเลย"เซียร์กล่าว

     

    งูยักษ์เงยหน้าขึ้นไปมองกิ่งไม้ที่โรบินอยู่

     

    "โรบิน อันตราย!!!!"ช็อปเปอร์ คิรัวร์และเซียร์ร้อง

     

    "ตูม!!!!!"งูยักษ์พุ่งไปกระแทกหักกิ่งไม้ ขณะที่โรบินโดดหนี

     

    "ซิงโค เฟลอร์"โรบินกล่าว

     

    มือเริ่มงอกออกมาแล้วโรบินใช้เหวี่ยงตัวเองออกไป

     

    "เสียใจด้วยนะ"โรบินพูดพร้อมโหนตัวถอยไป

     

    "โรบินสุดยอด"ช็อปเปอร์พูดชื่นชม

     

    งูยักษ์หันมามองช็อปเปอร์

     

    "จ๊าก!!!!!"ช็อปเปอร์กลายเป็นวอร์คพอยต์หนีไป

     

    "ดีล่ะ เท่านี้ก็อ้อมมาที่ส่วนหางของมันได้แล้ว"โซโลพูด แต่ปรากฏว่าเจ้างูหันมาทางเข้า"ซวยแล้ว"

     

    "ทางนี้"ลูฟี่เรียกงูให้เข้ามาหา

     

    "ฟ่อ!!!!!!"งูยักษ์พุ่งเข้าใส่กลุ่มหมวกฟาง

     

    _____________________

     

    "ไอ้งูบ้านั่น"คิรัวร์สบถ ตอนนี้พวกเขากลับมาที่เดิมที่ต้นไม้พังระเนระนาด

     

    "แย่ล่ะสิ กลับมาอีกทีก็ไม่มีใครอยู่แล้ว"โรบินกล่าว"เหมือนพวกเราจะพลัดหลงกับกลุ่มซะแล้วละนะ"

     

    "หาไปก็ไม่เจอ คงกระจายกันไปหมดแล้ว"คิรัวร์กล่าว

     

    "เราควรรอพวกเขากลับมาหรือตามหาพวกเขา?"โรบินถาม

     

    "มันจะใช้เวลานานไป"คิรัวร์แย้ง"นามิ วีวี่ ซันจิและอุซปกำลังรอเราอยู่ และอยู่นานจะยิ่งอันตราย ฉันรู้ว่าลูฟี่ โซโล และช็อปเปอร์เอาตัวรอดได้ในป่านี้ เราล่วงหน้าไปรอก่อนแล้วกัน"

     

    "เธอมั่นใจในความสามารถพวกเขามาก"โรบินแสดงความเห็น

     

    "ใครจะรู้ บางทีทุกคนอาจมุ่งหน้าไปที่นั้น"คิรัวร์คิรัวร์กล่าว โรบินยิ้มเดินตามไป

     

    _________________

     

    ช็อปเปอร์กำลังมองไปรอบๆ

     

    "แย่แล้ว พลัดหลงกัน ช่วยด้วย ทุกคนอยู่ไหน?"

     

    ช็อปเปอร์วิ่งหาคนอื่นๆและไปผิดทาง 

    ______________________________

     

    ทางด้านเซียร์ก็โดนทิ้งหลังงูยักษ์ไล่ล่า

     

    "คิรัวร์คุง โรบิน ลูฟี่ โซโล ช็อปเปอร์"เซียร์ตะโกน

     

    "....."เงียบไม่มีใครตอบ

     

    "เยี่ยมเลย ฉันหลงกับกลุ่มซะแล้ว ไปก่อนเลยแล้วกัน เดี๋ยวทุกคนก็ไปรวมกันที่นั่นเอง"เซียร์เริ่มเดินตรงไปที่โบราณสถาน

     

    ___________________

     

    โซโลมองไปรอบๆ

     

    "พวกนั้นอยู่ไหนเนี่ย คลาดสายตาไปแค่นิดเดียวเอง ช่างเถอะ พวกนั้นก็ส่วนพวกนั้นคงพอเอาตัวรอดได้ เราเองก็จำแผนที่ไว้ในหัวได้หมดแล้วนี่ ทางขวาสินะ"

     

    โซโลเดินไปทางซ้าย

     

    ___________________

     

    ลูฟี่มองไปรอบๆที่ไม่มีใครอยู่

     

    "ให้ตายสิ ไม่ไหวเลยแฮะ พวกนั้นหลงทางไปไหนหมดนะ ช่วยไม่ได้ งั้นไปรอที่โบราณสถานก็แล้วกัน ตรงดิ่งไปทางใต้ ถ้าไปทางทิศใต้ก็อาจจะเจอก็ได้"

     

    ลูฟี่เดินไปทิศตรงข้าม

     

    ____________________

     

    ขึ้นไปที่ตำหนักเทพ เอเนลนอนอยู่บนบัลลังก์

     

    "รู้สึกว่าพวกแชนเดียร์จะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว พวกทะเลสีฟ้าก็แยกเป็นสองทางรึ มีการเคลื่อนไหวเพิ่มด้วย คนเดียวงั้นรึ วันนี้รู้สึกจะเป็นวันที่คึกคักน่าดูเลยแฮะ สุดท้ายจะเหลือรอดอยู่สักกี่คนกันนะ เอาล่ะ เซอร์ไววัลเกมส์เริ่มได้ ฮะๆๆๆ"

     

    ____________________

     

    เหล่าแชนเดียร์กำลังมุ่งหน้าไปยังอัปเปอร์ยาร์ด

     

    "จากนี้ไปเราจะมุ่งหน้าไปยังตำหนักเทพกัน อย่าได้ชะงักเป็นอันขาด เป้าหมายคือหัวของเอเนลเท่านั้น"

     

    "เฮ!!!!"

     

    ______________________

     

    "ตอนที่ได้พบพวกเจ้าครั้งแรก ไม่นึกเลยว่าจะเอาชนะทหารข้าได้ เพราะเห็นว่าพวกเจ้าไม่รู้จักการต่อสู้แห่งท้องฟ้า"กันโฟลกล่าว

     

    "การต่อสู้แห่งท้องฟ้า?"อุซปทวน"อะไรละนั่น?"

     

    "ถ้าอย่างนั้นเอาถังไปวางตรงนั้นสิ"กันโฟลกล่าว

     

    ซันจิเอาหอยไดอัลไปวางไว้ด้านบนและถือค้อนใหญ่ของอุซปเอาไว้

     

    "ดูให้ดีล่ะ"กันโฟลกล่าว

     

    "จะทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกันคะ?"วีวี่ถาม

     

    "ลองทำดูเดี๋ยวก็รู้ ทุบใส่หอยนั่นให้เต็มแรงเลยสิ"กันโฟลกล่าว

     

    "ค่อยๆนะซันจิ"อุซปเตือนเขาไม่อยากให้เรือแมรี่เสียหายหลังโดนซ่อมแซมแล้ว"ถ้านายทำเรือเป็นรูล่ะก็รับรองเรื่องไม่จบแค่จ่ายเงินแน่"

     

    "หวดให้แหลกเลยก็ได้"กันโฟลกล่าว

     

    "ลุง เห็นเป็นเรือคนอื่นเลยพูดซี้ซั้วได้งั้นสินะ!!!"อุซปร้อง

     

    "อือ งั้นจะทำตามที่บอกล่ะ"ซันจิยกค้อนขึ้น

     

    "เดี๋ยวสิๆๆ ไม่ต้องเงื้อซะขนาดนั้นก็ได้"อุซปร้องห้าม

     

    "กึง!!!!"ซันจิทุบค้อนลงไปแต่หอยและถังไม้ไม่เป็นไรเลย

     

    "ทำอะไรของนายน่ะถึงจะบอกให้ออมแรงยังไงก็เถอะ แต่ว่าแบบนั้น....ขนาดเปลือกหอยยังไม่สะเทือนสักนิดเลยนะ"อุซปกล่าว

     

    "เปล่านะ ฉันน่ะหวดสุดแรงเกิดแล้ว"ซันจิยกค้อนมาพาดไหล่"กะว่าจะให้มันแหลกคาค้อนเลยนะเนี่ย"

     

    "เฮ้ย!!!!"อุซปประท้วง

     

    "แต่เหมือนกับว่าหอยนี่ มันดูดซับแรงกระแทกเอาไว้ได้"กันโฟลกล่าว

     

    "หา?"อุซป วีวี่และนามิงุงงง

     

    "งั้นก็ลองหันรูของไดอัลไปที่ถังเปล่าแล้วกดที่ปลายของเปลือกหอยดูสิ"กันโฟลกล่าว"พอจะรู้วิธีกดอยู่แล้วสินะ

     

    ซันจิทำตามที่กันโฟลบอก เอาหอยทาบไว้ที่ด้านข้างแล้วกดปลายของไดอัล

     

    "บรึ้ม!!!!!"

     

    ซันจิกระเด็นไปกระแทกราวกั้นจากแรงระเบิดที่ควรจะเกิดขึ้นตอนเขาทุบค้อนลงไป

     

    "จ๊าก!!!!"อุซปร้อง ขณะที่นามิกับวีวี่ยกมือขึ้นมาบังเศษไม้ที่พุ่งเข้ามา

     

    "นั่นคืออิมแพ็คไดอัล มันจะดูดซับแรงกระแทกไว้ แล้วปล่อยออกมาได้อย่างอิสระ ปกติจะวางไว้ที่อุ้งมือแล้วใช้ถุงมือกับผ้าพันแผลยึดเอาไว้ให้แน่น ถ้าซัดถูกจังๆล่ะก็ พลังรุนแรงขนาดทำให้คนธรรมดาตายคาที่ได้เลย"

     

    ซันจิกับอุซปนึกย้อนไปที่โดนแรงซัดจากซาโตริ

     

    "อุซป วีวี่จัง นี่มัน..."ซันจิกล่าว

     

    "เจ้าเทพคุมกฎลูกชิ้นนั่นก็ใช้ไอ้นี่แหละ"อุซปกล่าว

     

    "ว่าแต่หัดบอกกันก่อนเซ่"ซันจิพูดขณะยกฝ่ามือตีหัวกันโฟล"ตกอกตกใจหมดตาแก่"

     

    "ได้ยินว่าเกาะท้องฟ้าในสมัยโบราณ เคยมีไดอัลที่ร้ายกาจกว่านี้อยู่ด้วย"กันโฟลอธิบายต่อ"เป็นรูปแบบทำลายที่เรียกว่ารีเจ็คท์ไดอัล มีพลังทำลายมากกว่ารีเจ็คท์ไดอัลนี่ถึง10เท่า แต่ว่าแรงกระแทกที่หนักหน่วงเกินไปนั่น ก็เป็นดาบสองคมที่อาจจะส่งผลถึงชีวิตของผู้ใช้ไปด้วย ดังนั้นจึงแทบไม่เคยมีใครเอามันมาใช้งานเลย"

     

    "มีหอยอันตรายพรรค์นั้นอยู่ด้วยเรอะ! อย่างกับอาวุธสงครามเลย"วีวี่กล่าว

     

    "นึกว่าไดอัลเป็นแค่ของใช้ประจำวันซะอีก"นามิกล่าว

     

    "มันก็มีส่วน แต่ว่าของที่คนเราคิดว่าสะดวกสบาย บางทีก็มีคนที่เอาไปใช้ในทางที่ผิดอยู่เหมือนกัน มันขึ้นอยู่กับคนที่ใช้แหละนะ ไดอัลเป็นสิ่งที่สะดวกสบายอย่างยิ่ง ดังนั้นถ้าเอาไปใช้ในการต่อสู้ก็จะก่อเกิดพลังอย่างมากมายมหาศาล ยกตัวอย่างเช่น ฮีทไดอัลที่เอาไว้สำหรับอุ่นอาหารให้ร้อน ถ้าเอามาติดกับหอกก็จะกลายเป็นหอกเพลิงที่ปล่อยความร้อนได้อย่างอิสระ ฮีทจาเวริน ส่วนเฟลมไดอัลที่เอาไว้สำหรับจุดไฟนั้น ถ้าเอามาติดไว้ในปากของนกก็จะเกิดเป็นนกพ่นไฟที่หาได้ยากในโลก"

     

    "จะว่าไปช็อปเปอร์ก็เคยเล่าให้ฟังด้วย"อุซปกล่าว

     

    "นั่นน่ะรึการต่อสู้แห่งท้องฟ้า?"นามิถาม

     

    "ใช่แล้ว"กันโฟลยืนยัน"คนทะเลสีฟ้าที่ไม่รู้จักชนิดของไดอัล ก็เลยมองวิชาต่อสู้ของพวกมันไม่ออก เมฆเองก็มีอยู่มากมายหลายชนิด เหล่านักรบแห่งท้องฟ้าถ้าขัดเกลาฝีมือจนใช้งานมันได้คล่องล่ะก็ คนที่ไม่รู้เรื่องคงหมดสิทธิรับมือ"

     

    "คิรัวร์คุงจัดการได้"นามิโต้ขึ้นมา"แต่เขาเป็นหนึ่งในคนเก่งที่สุดที่ฉันรู้จัก"

     

    "เดี๋ยวก่อนนะ ถ้างั้น มันตราที่เอาไว้ใช้อ่านการเคลื่อนไหวของพวกเรา มันเป็นยังไงเหรอ?"ซันจิถาม

     

    "มันตรารึ ไอนั่นน่ะข้าเองก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน คงอธิบายได้ไม่ดีเท่าไหร่ มันตรานั้นกล่าวกันว่ามันคือพลังในการได้ยิน ดูเหมือนว่าคนเราจะมีเสียงเปล่งออกมาจากร่างกายเสมอตราบใดที่ยังมีชีวิตอยู่"


    "เสียง?"ซันจิทวน เขาพึ่งเก็บกวาดถังที่พังไปเสร็จ

     

    "อื้อ ถ้าได้ยินเสียงนั่น ก็จะอ่านการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายได้ล่วงหน้า ยิ่งฝึกจนเชี่ยวชาญด้วยแล้ว อาณาเขตในการได้ยินเสียงก็จะยิ่งกว้างออกไปอีก เหล่าเทพคุมกฎก็ในเขตอัปเปอร์ยาร์ด ส่วนเอเนลก็มีพลังครอบคลุมไปทั่วอาณาจักรแห่งนี้ เฉพาะพลังนั่นแหละที่ข้าเองก็ไม่รู้จัก เพราะพลังที่ว่านั่นแหละ พวกเราก็เลยไม่มีทางทำอะไรเจ้านั่นได้"

     

    ______________________

     

    "ข้างล่างเตรียมการเสร็จกันรึยัง?"เอเนลถามขณะนอนอยู่บนบัลลังก์

     

    "ครับ ทุกอย่างเตรียมการเสร็จเรียบร้อยหมดแล้ว"หนึ่งในสามขุนนางหนวดเคราตอบ พวกเขาเป็นที่ปรึกษาเอเนล แม้เอเนลมักจะไม่สนคำแนะนำพวกเขาก็ตาม"เทพคุมกฎทั้ง4กำลังเริ่มใช้บททดสอบ และยังมีกองทัพเทพของหัวหน้ายามะ50คน ก็อดครับ ใช้กำลังรบมากถึงขนาดนี้ เราจำเป็นต้องระวังตัวขนาดนี้เชียวรึครับ คู่ต่อสู้ก็แค่แชนเดียร์กับคนทะเลสีฟ้าเอง"

     

    "ฮะๆๆ งานเทศกาลน่ะยิ่งคึกคักมันถึงจะยิ่งสนุกจริงมั้ยล่ะนอกจากนั้นแกน่ะประเมินต่ำไปแล้วมั้ง การต่อสู้แห่งท้องฟ้าคือพลังที่ซ่อนเร้นนะ"เอเนลกล่าว


    "พลังซ่อนเร้น?"ที่ปรึกษาคนแรกถาม

     

    "อ้อ จริงสิ เดี๋ยวจะแสดงให้เห็นเอง ฮ่าๆๆ ขอกล้วยหน่อย"เอเนลบอกคนรับใช้หญิงข้างๆก็มาปลอกกล้วยให้เอเนล

     

    "เอาล่ะ กำลังรบของฝ่ายเรา กองทัพเทพ50กับเทพคุมกฎอีก4 รวมกับฉันด้วยก็เป็น55คน พวกแชนเดียร์ที่กำลังมุ่งหน้ามาที่เกาะนี้มีอยู่21คน แล้วก็คนทะเลสีฟ้าที่อยู่ในป่าอีก6คน กับพวกที่กำลังหนีอีก5คน ไม่สิ 4คนต่างหาก ตาแก่นั่นสู้ไม่ไหวแล้ว รวมเบ็ดเสร็จก็86คน นี่คือการต่อสู้ห้ำหั่นกันเองเพื่อความอยู่รอดไงล่ะ จากนี่ไปอีก3ชั่วโมง คิดว่าจำนวนจะลดลงไปสักเท่าไหร่ลองทายดูสิ"

     

    "ไม่ไหวเลย จู่ๆก็ให้เล่นเกมส์แบบนี้รึครับ"ที่ปรึกษาถาม

     

    "ไม่เห็นเป็นไรเลย เฮ้ เธอลองทายดูหน่อยสิ"เอเนลหันไปถามสาวใช้หลังเธอปลอกเปลือกกล้วยเสร็จแล้ว

     

    "ให้ฉันทายหรือคะเอ่อ เรื่องแบบนั้น ฉันไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่หรอกค่ะ"

     

    "อะไรของเธอ ไม่รับมุขเลยแฮะ"เอเนลบ่น"ใช้เซนต์ก็ได้นี่ เซนต์น่ะ"

     

    จากนั้นเอเนลก็ใช้นิ้วเท้าชี้ที่ปรึกษาคนนึง

     

    "งั้นแกก็ได้ ลองทายดูซิ"เขาบอก

     

    "เอ่อ....ในเมื่อเทพคุมกฎออกโรงพร้อมกัน4คน แถมยังมีกองทัพเทพที่ร้ายกาจอีกตั้ง50คน คิดยังไงก็ไม่น่าถึงกับแพ้ได้อยู่แล้ว แต่ศัตรูเองก็เก่งถึงขนาดต้านผู้คุมกฎได้ตั้งนาน ถ้าผ่านไป3ชั่วโมงก็คงจะหายไปสัก30คน น่าจะเหลืออยู่56คนได้มั้ง?"

     

    "ฮ่าๆๆๆๆ เข้าใจแล้วล่ะ56คนเหรอ แต่ว่าแบบนั้นมันดูกระจอกไปหน่อยนะ แกน่ะดูถูกการต่อสู้ครั้งนี้เกินไปแล้ว"เอเนลกล่าว

     

    "ถ้างั้น ก็อดคิดว่ายังไงล่ะครับ?"ที่ปรึกษาถาม

     

    "ดีล่ะ ฉันจะตอบให้ชัดเจนไปเลยก็ได้ อีก3ชั่วโมงให้หลัง คนที่ยังรอดอยู่บนเกาะแห่งนี้ได้ ในจำนวน86คน จะมีแค่...7คน"เอเนลยกมือชู7นิ้ว

     

    _____________________

     

    ไวเปอร์และนักรบแชนเดียร์ทั้ง21คนบุกเข้ามาในอัปเปอร์ยาร์ด

     

    "ซูมๆๆๆ"

     

    พวกเขาผ่านป่าเข้ามา สายตามองหากองทัพเทพของเอเนลหรือคนทะเลสีฟ้า

     

    "ซูมๆๆๆ...."

     

    เหล่าแชนเดียร์พบว่าพวกตนเริ่มช้าลงและหยุดชะงักไปกลางอากาศ

     

    "ร่างกายมัน"บราฮัมร้อง

     

    "อึก..."โครวพยายามขยับแขน

     

    "อะไรกัน ขยับตัวไม่ได้เลย"คามาคิริกล่าว

     

    "ไง เจ้าพวกแชนเดียร์ทั้งหลาย"เสียงคุ้นเคยดังขึ้น แชนเดียร์เห็นชูร่าและนกของเขาฟูซ่านั่งอยู่บนก้อนหินใหญ่ด้านหน้า"ทุเรษจริงนะ ยกโทษให้ด้วยที่ต้อนรับหนักไปหน่อย"

     

    "ก๊าซ!!!!"ฟูซ่าพ่นไฟไปในอากาศ

     

    "ชูร่า!!!"แชนเดียร์ ถ้าพวกเขาไม่สามารถขยับได้เพราะติดอยู่ในบททดสอบเชือก

     

    "เฮ้ยๆ รู้แล้วไม่ต้องเรียกดังก็ได้ แค่ชื่อตัวเองฉันจำได้อยู่น่า"ชูร่าล้อเลียนแล้วหัวเราะ"สำหรับพวกแกแล้วก็คงจะเป็นข่าวร้ายละมั้ง อัปเปอร์ยาร์ดในตอนนี้น่ะ สภาพมันต่างจากเมื่อคืนโดยสิ้นเชิงแล้ว ขยับไม่ได้หรอก อยู่เฉยๆไปเถอะ ที่นี่มีโอกาสรอดแค่3% บททดสอบเชือกไงล่ะ"

     

    "เราได้ยินว่าคนทะเลสีฟ้าเอาชนะแก เราไม่นึกว่าจะมีบททดสอบของแกอยู่"บราฮัมกล่าว

     

    "หึ นั่นมันฟลุ๊คต่างหาก ก็อดเอเนลเข้าใจและมอบโอกาสให้ฉันแก้ตัว ฉันวางแผนจะฆ่าพวกแกทุกคน เมื่อฉันจัดการพวกแกแล้ว ฉันจะไปหาคนทะเลสีฟ้านั้นและจัดการมันเหมือนกัน เซอร์ไววัลเกมส์นี่จะไม่นานนัก และฉันจะจบมันเอง และหลังจากนั้นฉันจะได้เป็นหัวหน้าผู้คุมกฎ"

     

    ชูร่ารู้ว่าถ้าเขาจัดการแชนเดียร์และคิรัวร์ได้ ก็อดเอเนลจะต้องพอใจมาก

     

    "ก๊าซ!!!!"ฟูซ่าคำรามพ่นไฟ

     

    "ระวังตัวไว้ด้วย แต่ถึงจะบอกตอนนี้ก็คงสายไปแล้วมั้ง"ชูร่ากล่าว

     

    "กรอด.."คามาคิริจ้องมองชูร่าและแสงที่ส่องมาทำให้เขาเห็นเส้นบางๆที่ผูกเขาไว้"เมฆเชือกรึ!?"

     

    "โห่ ใช่แล้วล่ะ รู้ดีเหมือนกันนี่ ไอ้ที่กางเอาไว้ทั่วในแอเรียของฉันน่ะ มันเล็กจบแทบมองไม่เห็น แต่ถ้าถูกพันเข้าล่ะก็ ถึงเป็นผู้ชายตัวใหญ่ๆก็ขยับเขยื้อนไม่ได้หรอก นี่แหละเมฆเชือกอันร้ายกาจ และตอนนี้พวกแกแต่ละคน ก็พันตัวเองตั้งแต่มาถึงทางเข้าซะแล้ว"

     

    ไวเปอร์กำลังจ้องมองจากหลังต้นไม้ห่างออกไป ไม่ได้ติดกับเมฆเชือก

     

    "ลองดูให้ดีๆสิ ทั่วร่างมีแต่เชือกทั้งนั้น นี่ล่ะมั้งที่เขาเรียกว่าทำตัวเองน่ะ ฮ่าๆๆ แค่นี้พวกแกก็ไม่รอดแม้แต่คนเดียวแล้ว"ชูร่ากล่าว

     

    "ซูม!!!!"ไวเปอร์กระโจนเข้าใส่

     

    "ไปเลยฟูซ่า"ชูร่าขึ้นหลังฟูซ่ากางปีกบินเข้าหาไวเปอร์

     

    "ไวเปอร์"เก็นโบตะโกน

     

    "ตูม!!!"ไวเปอร์ยิงบาซูก้าใส่ขณะที่ฟูซ่าบินหลบไป กระสุนโดนพื้น

     

    "อย่าคิดนะว่าจะสู้กับฉันกลางอากาศได้"ชูร่ายกหอกพุ่งเข้าใส่

     

    "หลบเร็ว นั่นมันฮีทจาเวริน"คามาคิริตะโกน

     

    แต่ไวเปอร์กับทิ้งโล่กับปืนแล้วพุ่งตัวลงมา ชูร่าประหลาดใจชั่วขณะ แต่ก็ยังพุ่งแทงหอกใส่ไหล่ขวาของไวเปอร์

     

    "ทำไมแกถึงทิ้งปืนกับโล่ บ้ารึเปล่า?"ชูร่าถาม ปลายหอกเริ่มเผาไหม้ไหล่ของไวเปอร์

     

    "หรือว่าหมอนั่นจะ..."คามาคิริกล่าว

     

    "พรึ่บ!!!"ไฟลุกไหล่ไหล่เขา ไวเปอร์เอื้อมมือจับไหล่ชูร่า

     

    "ก็เอาสิ แค่ไหล่ข้างเดียวถ้าแกอยากได้นักล่ะก็"เขากล่าว

     

    ไวเปอร์ยื่นมือซ้ายที่ปกคลุมด้วยผ้าพันแผลทาบไปที่อกของชูร่า

     

    "อิมแพ็คเรอะ ของแค่นี้ทำอะไรฉัน.."ชูร่ากล่าว

     

    "ใครบอก แรงกว่านั้น10เท่าต่างหากล่ะ รีเจ็คท์!!"ไวเปอร์ตะโกน

     

    แรงอัดกระแทกของรีเจ็คท์อัดใส่ชูร่าและส่งเทพคุมกฎกระแทกพื้น หมวกนักบินของเขาหลุดออกและตาเหลือกขึ้นกลายเป็นสีขาว

     

    ไวเปอร์ร่อนลงพื้นพร้อมจับไหล่ขวาด้วยแขนซ้ายของเขา ผลกระทบจากการใช้รีเจ็คท์นั่นสูงมาก

     

    ____________________

     

    "เปิดศึกมาปุ๊บก็เละไม่เป็นท่าเลยแฮะ"เอเนลเห็นได้จากมันตราของเขา"ชูร่าโดนเล่นงานซะแล้ว"

     

    "อะไรกันท่านชูร่าน่ะเหรอ?"ที่ปรึกษาตกใจ

     

    "ชูร่าเองก็ดูถูกการต่อสู้แห่งท้องฟ้าเกินไป เจ้าโง่เอ๊ย ฮะๆๆๆ"เอเนลหัวเราะไม่กังวลที่เสียเทพคุมกฎ

     

    "แต่ว่า นี่มันเรื่องใหญ่เลยนะครับ 6ปีมานี้เทพคุมกฎที่ไร้พ่าย แค่เมื่อวานกับวันนี้กลับถูกเล่นงานไปถึงสองคน"ที่ปรึกษากล่าว

     

    "เอาน่า ถูกเล่นงานไปแล้วก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่ได้รับการคุ้มครองจากเทพแล้วนี่นา ฮ่าๆๆ"เอเนลกล่าว

     

    ____________________

     

    ทางด้านยามะกำลังรวมพลกับกองทัพเทพในป่า

     

    "เอาล่ะพวกแก ศัตรูคือแชนเดียร์21คนกับคนทะเลสีฟ้า10คน ไม่ต้องออมมือแล้ว จะปล่อยให้เทพคุมกฎรับมืออย่างเดียวคงไม่ไหว ออกไปอาละวาดกันให้เต็มที่เลย"ยามะกล่าว


    "เม!!!!"เหล่านักรบที่ร้องเหมือนแพะกล่าว พวกเขาสวมเสื้อสีขาวและมีเขากับหูยาวคล้ายแพะ

     

    ______________________

     

     

    ที่ค่ายของแชนเดียร์ รากิกำลังเก็บวาสใส่กระเป๋าของไอซ่านึกถึงคำพูดของไวเปอร์

     

    "เหยียบย่ำพวกพ้องก้าวข้ามไป เพื่อให้คนอื่นๆไปข้างหน้าต่อได้ วันนี้แหละฉันจะเด็ดหัวเอเนล"

     

    ขณะเดียวกันเธอก็นึกถึงคำพูดของคามาคิริ

     

    "ถ้าโค่นเอเนลได้ วาสแค่กระเป๋าเดียวนั่นก็จะไม่ใช่ความหลงใหลอีกต่อไป"

     

    ________________________

     

    ที่บททดสอบเชือก ไวเปอร์ทรุดอยู่ข้างชูร่าที่แพ้ไป

     

    "ไวเปอร์ แกอยากตายนักรึไง"คามาคิริตำหนิผู้นำพวกเขาที่ปล่อยให้ตัวเองบาดเจ็บ"รีเจ็คท์ไดอัลน่ะ ลองแกใช้อีกครั้งนึงสิ รับรองร่างกายได้แหลกเป็นชิ้นๆแน่"

     

    ไวเปอร์ไม่พูดอะไรและหยิบปืนบาซูก้าขึ้นมาพาดไหล่ขวา

     

    "จะห่วงร่างกายทำไม!!! บอกแล้วไงว่าเราต้องเตรียมใจให้พร้อม ถ้าไม่คิดจะเสียสละขนาดนี้ คงโค่นเจ้าพวกนี้ไม่ไหวหรอก"

     

    "ตูม!!!!!"ไวเปอร์ยิงปืนใหญ่ออกไประเบิด ตัดเมฆเชือกให้ทุกคนเป็นอิสระ

     

    เหล่าแชนเดียร์ต่างลงมายืนที่พื้น ขณะที่ไวเปอร์พุ่งหายเข้าไปในป่าแล้ว

     

    "เจ้าบ้านั่น"คามาคิริกล่าว

     

    "มัวชักช้าอะไรอยู่เล่า?"บราฮัมกล่าว"ที่นี่มันถิ่งศัตรูนะ แยกย้ายกันไปดีกว่า เทพคุมกฎยังเหลืออีกตั้ง3คน ดูท่าทางพวกมันจะวางบททดสอบเอาไว้ซะด้วย คงไม่อยากติดกับพร้อมกันหมดทุกคนอีกใช่มั้ย คงไม่มีใครนึกกลัวขึ้นมาตอนนี้นะ งั้นฉันไปก่อนล่ะ"

     

    "ซูม!!!!"บราฮัมไปข้างหน้า แต่ใช้คนละทางกับไวเปอร์

     

    ทางด้านโครวโดดไปขึ้นขี่หลังฟูซ่า

     

    "ก๊าซ!!!"มันร้องออกมา

     

    โครวจับแผงคอสีแดงของมัน

     

    "ตอนนี้ฉันคือเจ้านายของแก แกต้องฟังฉัน"โครวสั่งแล้วฟูซ่าก็เริ่มสงบลง

     

    "ถ้างั้นฉันไปก่อนนะ"โครวบอกแล้วให้ฟูซ่าบินเข้าป่าไป

     

    "รู้แล้วละน่า อยากทำอะไรก็เชิญ อย่างน้อยก็ขอให้ทุกคนโชคดีละกัน"คามาคิริพูดแล้วพุ่งขึ้นไปบนมิลกี้โร้ดไปข้างหน้า

     

    "งั้นทุกคนก็ระวังตัวกันด้วยนะ"เก็นโบบอกแชนเดียร์คนอื่น"เจอกันที่ตำหนักเทพ"

     

    "ซูมๆๆๆ"เก็นโบและแชนเดียร์ทั้งหมดต่างกระจายกันไป

     

    _____________________

     

    เซียร์กำลังวิ่งมาในป่า และเห็นคนที่สวมชุดเหมือนกองโจรที่เคยเจอบนมิลกี้โร้ด

     

    แชนเดียร์สองคนไปตามทางมิลกี้โร้ด

     

    "เมๆๆ"หนึ่งในนักรบแพะของกองทัพเทพกระโจนมาจากบนต้นไม้ ทุบมือใส่อกแชนเดียร์กระแทกให้กระเด็นตกมิลกี้โร้ดไปที่พื้นด้านล่าง

     

    "ใครน่ะ!แกทำอะไร!?"แชนเดียร์อีกคนถาม

     

    "เฮโสะ"เขากล่าวทักทาย

     

    "กองทัพเทพรึ?"แชนเดียร์กล่าว

     

    "ถูกต้อง พวกเรามากำจัดผู้ที่บุกรุกอัปเปอร์ยาร์ดทั้งหมด ตามคำสั่งของก็อดเอเนลผู้ปราดเปรื่อง อย่านึกว่าจะหนีพ้นจากกองทัพเทพทั้ง50คนได้ เดี๋ยวจะแสดงพลังของเอ็กซ์ไดอัลที่มีอยู่ในสกายเปียให้แกเห็นเอง"

     

    "เกะกะน่า"แชนเดียร์ยิงปืนใส่

     

    ทหารแพะหลบได้และโดดไปเหนือหัวแชนเดียร์

     

    "ร้ายแรงสุดขีด เฉียบคมเหลือกิน แอ็กซ์ไดอัล"ทหารแพะกล่าว

     

    แชนเดียร์ทิ้งปืนยกโล่ขึ้นมาป้องกัน


    "โล่น่ะไม่มีประโยชน์หรอก"ทหารแพะกล่าว

     

    "ฉัวะ!!!!"แอ็กซ์ไดอัลปล่อยใบมีดลมตัดโล่และฟันท้องเขา ส่งแชนเดียร์อีกคนร่วงลงพื้นไป

     

    ทหารเทพจัดการแชนเดียร์ได้แล้วหันไปเห็นเซียร์ที่เดินผ่านไม่ได้สนใจทางนี้

     

    "เดี๋ยวก่อนนังผู้หญิง"

     

    "อะไร?"เซียร์เหลือบมอง

     

    "แกคือหนึ่งในคนทะเลสีฟ้าที่เป็นอาชญากร"ทหารแพะกล่าวตั้งท่าเตรียมสู้และโดดพุ่งเข้ามาเตรียมตัวตายได้ แอ็กซ์ไดอัล!!"

     

    "ฉัวะ!!!!"เซียร์หลบคมดาบสายลมแล้วยกง้าวฟันเข้าที่ท้องของทหารเทพ

     

    "อ๊าก!!!!"ทหารเทพกระเด็นไปกระแทกต้นไม้หมดสติไป

     

    "ฝีมือไม่เห็นเท่าไหร่เลยนี่"เซียร์เดินทางต่อไป

     

    ______________________

     

    ลูฟี่ไม่ได้สนใจสงครามที่กำลังเกิดขึ้นและเดิมฮัมเพลงไปเรื่อยๆ

     

    "เม!!!"

     

    "แพะแพะงั้นเหรออยู่ไหน?"ลูฟี่มองหาต้นเสียง

     

    "ซูม!!!!"ทหารเทพพุ่งมาจากมิลกี้โร้ดพุ่งลงไปหาลูฟี่ยื่นมือไปข้างหน้า

     

    "เปรี้ยง!!!!"แต่ลูฟี่รู้ตัวยังหมัดชกใส่ทหารเทพกระเด็นไปกระแทกต้นไม้ร่วงลงพื้น

     

    "อะไรกันเนี่ยดังมาหลอกกันซะได้ นึกว่าแพะซะอีก เสียแรงที่ตื่นเต้น"ลูฟี่พูดพลางเดินทางต่อ

     

    ลูฟี่เดินฮัมเพลงต่อไม่นานก็ต้องหยุดเมื่อเขาเห็นคนคุ้นหน้าบนรากไม้ซึ่งก็คือไวเปอร์

     

    "นาย..."

     

    "แกมาทำอะไรอยู่ตรงนี้อุตส่าห์เตือนแล้วเชียวว่าให้รีบออกไปจากเกาะนี้"ไวเปอร์กล่าว

     

    "หนวกหูน่า ไม่ใช่เรื่องของนายซะหน่อย"ลูฟี่กล่าว

     

    "เรื่องของฉันสิ เกาะแห่งนี้ เป็นที่ของพวกเราแชนเดียร์"ไวเปอร์กล่าว

     

    "งั้นรึฉันนึกว่าเป็นของเทพซะอีก อย่างนี้นี่เอง งั้น ขอรบกวนด้วยนะ"ลูฟี่คำนับไวเปอร์แล้วเดินออกไปอีกครั้ง

     

    "หยุดนะ"ไวเปอร์เรียกลูฟี่

     

    "อะไรอีกเล่า?"ลูฟี่ถาม

     

    "เปล่า ไม่คิดจะพูดอะไรอีกหรอก แล้วก็ไม่คิดจะฟังแกพูดอะไรด้วย"ไวเปอร์ปลดเซฟบาซูก้า"ต้องกำจัดเท่านั้น"

     

    "อะไรกัน"ลูฟี่โยนท่อนไม้ทิ้งไปและตั้งท่าสู้"พูดแบบนี้แต่แรกก็รู้เรื่องไปนานแล้ว"

     

    กัปตันโจรสลัดเตรียมเผชิญหน้ากับหัวหน้านักรบแชนเดียร์

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×