NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One piece Another Nakama 2

    ลำดับตอนที่ #84 : งานเลี้ยงค่ำคืนก่อนล่าขุมทอง(RE2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.3K
      38
      18 ก.พ. 62

    การต่อสู้ระหว่างเทพคุมกฎกับแชนเดียร์ยังดำเนินต่อไป

     

    โครววิ่งผ่านสนามรบมาเห็นบราฮัมสู้กับเกดาซ

     

    "บราฮัม!!"โครวตะโกน

     

    "โครวไปด้านหน้าเลย พวกเขาต้องการคนเพิ่ม"บราฮัมกล่าว

     

    โครวไปด้านหน้าเห็นโฮลี่เตะอัดแชนเดียร์

     

    "เฟลมโครว!!!"โครวตวัดกรงเล็บ

     

    "เปรี้ยง!!!!"โฮลี่โดนแรงอัดคลื่นเพลิงกระเด็นออกไป

     

    "คลื่นลม"

     

    "เปรี้ยง!!!!"โครวโดนแรงลมกระแทกกระเด็นตกพื้นเพราะเบอร์ก้า

     

    "ตูม!!!!"ไวเปอร์ยิงบาซูก้าแต่เบอร์ก้าหลบได้

     

    "อึดชะมัด"ไวเปอร์สบถ"โครว"

     

    "ฉันไม่เป็นไร"โครวลุกขึ้นมา

     

    "โฮ่ง!!!"ร่างใหญ่ลอยมาเหนือหัว

     

    "ตูมมม!!!!"ทั้งสองหลบหมัดของโฮลี่

     

    โอมตวัดดาบฟันแชนเดียร์หลายคน

     

    โฮลี่ยกเท้าหมัดจัดการเหล่าแชนเดียร์และเริ่มวิ่งไป

     

    "สัตว์ป่าตัวนั้นร้ายกาจน่าดู"รากิพูด เธอและคามาคิริมองดูอยู่ไม่ไกลนัก

     

    "เข้าพวกนั้นรู้สึกจะไม่ยอมให้ถอยเลยแฮะ"คามาคิริกล่าว

     

    "ดีล่ะ งั้นก็ลองดู"เก็นโบโดดเข้ามาบอกแล้วพุ่งไป รากิกับคามาคิริตามเขาไป

     

    "เปรี้ยง!!!!"โอมตวัดดาบป้องกันกระสุนพวกแชนเดียร์

     

    "โฮ่ง!!!!"โฮลี่ตะโกนไปทางต้นไม้

     

    "ตูม!!!!!"ต้นไม้ยักษ์ทรุดล้มลงมาเพราะโดนเก็นโบยิง โอมรีบโดดหลบไป

     

    "วี้ด!!!!"โอมผิวปากเรียกโฮลี่

     

    อีกด้านนึงของต้นไม้แชนเดียร์3คนจะลอบโจมตีเขา

     

    "2คน...3คน"โอมรู้สึกถึงศัตรูได้จากมันตราระดับสูง เขากระโดดขึ้นไปฟันใส่แชนเดียร์ทั้งสามร่วงลงพื้น

     

    "ปังๆๆๆ!!!!"รากิยิงไรเฟิลจากบนกิ่งต้นไม้ใส่โฮลี่ แต่เธออยู่ไกลจึงขับสกีไดอัลเข้าไปให้ใกล้กว่านี้

     

    "ตึง!!!"โฮลี่หันมาและเอาหัวพุ่งชนเธอ

     

    รากิลอยคกลงไป แต่กระเป๋าเธอถูกจับไว้ด้วยดาบของโอม

     

    "รากิ!!!!"เก็นโบตกใจเมื่อเห็นรากิห้อยอยู่ด้วยดาบเทพคุมกฎ

     

    "มัวทำอะไรอยู่ ห้อยไว้แบบนั้นก็ไม่มีประโยชน์หรอก"โอมพูดขณะเศษวาสค่อยๆไหลออก"สำคัญขนาดนั้นเชียวรึ ไอ้นี่น่ะ"

     

    รากิเร่งสเก็ตไดอัลช่วยพลิกตัวกลับมาและยิงปืนใส่โอม

     

    "ปัง!!!"แต่โอมเอียงหัวหลบกระสุนได้ง่ายๆ

     

    โอมโยนรากิให้ออกไปจากดาบตนและยกดาบจะฟันเธอ

     

    คามาคิริพุ่งเข้ามาจับรากิให้ออกไปพ้นก่อนที่ดาบโอมจะฟันลงมา

     

    "ปังๆๆๆ"ปืนยิงเข้ามาหาโอม

     

    "ช่วยไว้ได้พอดีเลยคามาคิริ"รากิขอบใจคามาคิริ ทั้งสองล้มอยู่ที่พื้น

     

    แต่แล้วเธอก็เห็นเลือดจากหลังคามาคิริที่โดนฟันเพราะช่วยเธอ

     

    "คามาคิริ!!!"

     

    "โธ่เว้ย!!"เกนโบยิงกระสุนออกไป

     

    "ไวเปอร์ คามาคิริเสียท่าแล้ว เราต้องให้ชาช่าช่วยเขาโดยเร็ว!!!"บราฮัมบอกผู้นำ

     

    "ว่าไงนะ"ไวเปอร์ตกใจ ทั้งสองรีบโดดหลบโฮลี่ที่พุ่งเข้ามา"โธ่เว้ย กำลังได้เปรียบอยู่แท้ๆ"

     

    "หึ ได้เปรียบอะไรของแก อีกเดี๋ยวถ้าตกดินเมื่อไหร่ล่ะก็ พวกเราก็จะยิ่งได้เปรียบเข้าไปใหญ่"โอมกล่าว

     

    ไวเปอร์กัดฟันกรอด แต่เขารู้ดีว่าไม่ควรสู้กับเทพคุมกฎตอนกลางคืนในแอเรียพวกมัน เขาไม่อยากเสียนักรบเพิ่มอีกในวันนี้

     

    "พยุงคนเจ็บเอาไว้ ถอนตัวกลับก่อน ไปรวมพลกันที่เกาะวิเวก!!!"ไวเปอร์ตะโกน

     

    พวกแชนเดียร์ต่างถอยหนีไป

     

    "คิดจะหนีงั้นรึ?"เบอร์ก้าจะตามไป

     

    "ตามไปเลย"โอมกล่าว

     

    "เดี๋ยวก่อนโอม เบอร์ก้า"เกดาซโผล่มาจากต้นไม้ที่ล้มลง

     

    "มีอะไร?"โอมถาม

     

    "ก็อดเอเนลเรียกให้กลับไป"เกดาซกล่าว

     

    โอมกับเบอร์ก้ารู้ดีว่าไม่ควรขัดคำสั่งก็อดเอเนล จึงต้องปล่อยให้แชนเดียร์หนีไปได้

     

    __________________

     

    ในป่าที่กลุ่มหมวกฟางตั้งแคมป์กันอยู่ ช็อปเปอร์หยุดเดินไป

     

    "มีอะไร?"โซโลถาม

     

    "รู้สึกว่าแรงสั่นสะเทือนจะค่อยๆหายไปแล้วล่ะ"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "อ๋อ เจ้าพวกกองโจรกับเทพคุมกฎ พอดึกแล้วก็เลยกลับบ้านกันละมั้ง พวกเราเองก็ต้องรีบทำให้เสร็จๆแล้วกลับไปนะ"โซโลเดินต่อไป

     

    "รอด้วยสิโซโล"ช็อปเปอร์รีบตามไป

     

    "มาเร็วๆไม่งั้นทิ้งไว้นะ"โซโลกล่าว

     

    "นายน่ะรู้ทางกลับไปซะที่ไหนเล่า!!!!"ช็อปเปอร์ตะโกน

     

    ______________________

     

    ที่แคมป์ไฟ ซันจิปอกแครอทเป็นรูปหัวใจ วางมันไว้ที่หั่นอีกชิ้นและหันไปสับปลา ลูฟี่กำลังจ้องหม้อที่ทอดไฟรอให้สุก

     

    "ว่างจนเบื่อแล้วเนี่ย"ลูฟี่หมดความอดทน

     

    "ใครใช้ให้นั่งจ้องแบบนั้นกันเล่า"ซันจิบอกเขา"แค่ให้คอยดูว่าถ้าน้ำเต็มภาชนะเมื่อไหร่ก็ให้กรอกใส่กระติกเอาไว้เท่านั้นเอง เราต้องสำรองน้ำดื่มเอาไว้เผื่อทุกคนในวันพรุ่งนี้ทั้งวัน"

     

    "แต่ว่ามัน...."

     

    "ซันจิ เก็บมาได้เยอะแยะเลยล่ะ"ช็อปเปอร์กับโซโลเดินมาจากหลังต้นไม้

     

    "โอ้ ขอบใจมากนะ มีอะไรบ้าง?"ซันจิถาม

     

    "วอลนัท ว่านหางจระเข้ กล้วยแล้วก็กระเทียม"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "ของฉันมีหนูกับกบ"โซโลถือหนูท้องฟ้ากับกบท้องฟ้าไว้

     

    "ดีมาก เอามาบดทำสตูว์เลย"ซันจิกล่าว

     

    "เดี๋ยวก่อนสิ!!!!"นามิที่ดูแผนที่อยู่กับคิรัวร์ตะโกน"ตะกี๊มีวัตถุดิบแปลกๆด้วยนะ"

     

    "นั่นสินะ ดันเผลอไปหน่อย ไม่ชอบกระเทียมเหรอครับ?"ซันจิกล่าวเกาศีรษะ

     

    "ไม่ใช่ย่ะ ไม่ใช่อย่างนั้น"นามิตะโกน

     

    "ไม่ใช่อะไรเหรอคุณต้นหน?"โรบินเดินมากับวีวี่ถือคริสตัลขนาดใหญ่ไว้

     

    "ว้าว โรบิน ก้อนสีฟ้านั่นมันอะไรอัญมณีเหรอ?"นามิถาม

     

    "สวยใช่มั้ยล่ะ แต่ว่าไม่ใช่หรอกนะ"โรบินกล่าว

     

    "ผลึกเกลือนี่นา ตาแหลมไม่เบาเลยนะโรบินจัง"ซันจิกล่าว

     

    "ฉันเจอที่ริมทะเลสาบ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์อะไรบ้าง"โรบินพูดขณะนามิยังจ้องมองมัน

     

    "เกลือนั่นช่วยประทังชีวิตพวกเราได้เลยนะครับเนี่ย"ซันจิพูดแล้วลงมือสับต่อ

     

    "ขอกระเทียมกับว่านหางจระเข้ครึ่งนึง ฉันจะเอาไปถอนทำยาถอนพิษกับยาแก้ไฟลวก ช่วยอัศวินนภาได้แน่"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "แล้วกบล่ะ?"โซโลถาม

     

    "กบไม่เอาหรอก"ช็อปเปอร์ปฎิเสธ

     

    "เฮ้ โซโล"ซันจิเรียกโซโลให้หันมามอง"ว่างอยู่สินะ มาช่วยกันหน่อย"

     

    ต่อมา โซโลใช้ดาบสองเล่มยกหินก้อนใหญ่ย่างไฟ

     

    "เอ่อนี่ ดาบของฉันไม่ได้มีไว้ทำเรื่องแบบนี้นะ"โซโลกล่าว

     

    "หุบปากเถอะน่า"ซันจิไม่สนใจ"ขัดคำสั่งกุ๊กเดี๋ยวก็อดกินข้าวหรอก"

     

    จากนั้นพวกเขาก็โยนหินย่างไฟเข้าไปในหม้อแล้วปิดฝา

     

    "เอ๋กินกระทั่งกินเชียวเหรอ อร่อยรึเปล่า?"ลูฟี่ถาม

     

    "ไม่ได้กิน สตูว์หินร้อนต่างหาก เอาหินย่างไฟใส่ลงไปเพื่อต้มสตูว์ด้วยความร้อนต่างหาก"ซันจิอธิบาย

     

    "โอ้"ช็อปเปอร์จ้องหม้อใกล้ๆ

     

    "สตูว์น่ะดีมากนะ เพราะมันไม่ทำให้วัตุดิบเสียคุณค่าทางอาหารไป"ซันจิอธิบาย

     

    "อย่างนี้นี่เอง"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "งั้นรึ คืนนี้มีสตูว์เหรอ"ลูฟี่เดินมาจะเปิดฝา

     

    "เปรี้ยง!!!"ขาซันจิทุบหัวกัปตันจอมตะกละ"ไม่ได้ฟังเลยนี่หว่า!!!"

     

    "ซันจิ หิวแล้วล่ะ"ลูฟี่กล่าว

     

    "ยังไม่ทันจะสุกเลย ว่าแต่เมื่อกี้นายเพิ่งกินฉลามท้องฟ้าย่างไปตัวนึงไม่ใช่เรอะ"

     

    "อ๋อ นั่นมันแค่ออเดิร์ฟน่ะ"ลูฟี่พูดง่ายๆ

     

    ด้านโรบินกับนามิกำลังมองดูอยู่

     

    "ให้ตายสิ กระเพาะคนรึเปล่าเนี่ย?"นามิแสดงความเห็น

     

    "คงงั้น"คิรัวร์พูดแล้วมองนามิ"เธอสวมแว่นตาตอนไหน?"

     

    "โอ๊ะ นี่เรอะ"นามิขยับแว่นให้พอดี"นี่เป็นแว่นตาสำหรับอ่านหนังสือ ฉันจะใช้มันตอนดูแผนที่และข้อมูลน่ะ ฉันมักจะสวมตลอดเวลาแต่เธอพึ่งสังเกตเหรอ?"

     

    "ฉันจดจ่อกับเรื่องอื่นเลยไม่ได้สนใจ"คิรัวร์พูดแล้วนามิขมวดคิ้วหงุดหงิดเล็กน้อย"แต่มันดูดีนะ"

     

    "แค่นั้นเหรอ?"นามิถาม"เธอไม่คิดว่ามันทำให้ฉันดูฉลาดขึ้น?"

     

    "ฉันคิดเสมอว่าเธอฉลาดมาก"คิรัวร์ตอบพร้อมรอยยิ้ม"ทำไมต้องสวมแว่นตาเพื่อให้ฉันคิดแบบนั้น?"

     

    แก้มของนามิขึ้นสีแดงระเรื่อ โรบินหัวเราะ วีวี่เฝ้าดูเงียบๆ

     

    "ตอบได้ดี"วีวี่ยิ้มเหลือบมองคิรัวร์

     

    โซโลเดินมาเห็นอุซปกำลังทำอะไรบางอย่าง เขานั่งอยู่ข้างกองไม้

     

    "ทำอะไรอยู่น่ะอุซป?"โซโลถาม"ได้เวลากินข้าวเย็นแล้วนะ"

     

    "ก็กะว่าจะขนไม้สำหรับซ่อมเรือมาเก็บไว้สักหน่อยน่ะ"อุซปตอบ

     

    "คิดจะว่ายน้ำข้ามไปรึ?"

     

    "อื้อ"อุซปยืนยัน

     

    "ที่นี่มีฉลามยักษ์อยู่นะ"โซโลบอกแล้วทั้งสองเห็นฉลามท้องฟ้าโดดผ่านหน้ากลับลงทะเล

     

    "ไว้ค่อยซ่อมพรุ่งนี้แล้วกัน"อุซปรีบเดินไป"กินข้าวกันดีกว่าโซโล"

     

    "ให้ตายสิ"โซโลหยิบรองเท้าอุซปที่เขาลืมทิ้งไว้ตามไป

     

    "เอาล่ะ เสร็จแล้ว"นามิทำแผนที่เสร็จ

     

    ด้านซันจิก็ทำอาหารเสร็จแล้ว

     

    "อันดับแรกต้องเลดี้เฟิร์ส คงเข้าใจสินะ?"ซันจิส่งสตูว์แครอทให้ช็อปเปอร์

     

    "อื้อ"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "ดีล่ะ ทุกคนนั่งที่กันได้แล้ว จะเสิร์ฟให้ตามลำดับ รีบกินตอนที่ยังร้อนๆอยู่นะ"ซันจิบอกทุกคน

     

    "นี่ทุกคน เรามาเริ่มประชุมกันเถอะ"นามินั่งลงที่ท่อนไม้""ว่าพรุ่งนี้ควรจะเคลื่อนไหวกันยังไง"

     

    ช็อปเปอร์เอาสตูว์ไปให้โรบินกับคิรัวร์ คิรัวร์ส่งต่อให้เซียร์

     

    "ขอบใจ"เซียร์กล่าว

     

    "น่าอร่อยจัง"ลูฟี่ก็ได้จานสตูว์จากซันจิ คนอื่นก็ทยอยได้

     

    "ทุกคน...ขอบใจนะ"นามิรับจานจากอุซป"จะกินไปด้วยก็ได้ ฟังหน่อยสิ"

     

    "คร้าบ!!!"ซันจิร้องตอบ

     

    "ก่อนอื่นขอเท้าความถึงสมุดภาพของโนแลนด์นะ โนแลนด์ค้นพบขุมทองเป็นครั้งแรกเมื่อ400ปีก่อน แต่ว่าหลายปีหลังจากนั้น พอเขามาเยือนจายาอีกครั้งนึง ที่นั่นไม่มีขุมทองเหลืออยู่แล้ว"นามิกำลังอธิบาย

     

    "อยากได้ไหม?"คิรัวร์ตักแครอทรูปหัวใจให้โรบิน

     

    "คิรัวร์คุง...น่ารักมาก"โรบินกล่าวแล้วหันมาจูบแก้มเขา

     

    "หา ไม่!!!!"ซันจิวิ่งพรวดพราดเข้ามาทันที"โรบินจัง มันไม่ได้มาจากเขา ผมทำมาเป็นพิเศษเพื่อคุณ คุณนามิ วีวี่จังและเซียร์จัง"

     

    "แล้วทำไมมันมาอยู่ในจานของฉัน?"คิรัวร์ถาม

     

    "แกขโมยมันไป!!!"ซันจิตะโกนใส่เขา

     

    "ฉันว่าแทนที่จะสนใครที่ได้จานที่นายจะให้สาวไป นายกังวลคนที่จะกินเนื้อสัตว์ทั้งหมด"คิรัวร์ชี้ไปยังหม้อที่เขาทิ้งไว้

     

    ซันจิเห็นลูฟี่กำลังใช้ที่ตักช้อนสตูว์มากินคำเดียวไปเรื่อยๆ

     

    "ซันจิ อร่อยจริงๆ สตูว์นี่สุดยอด....เปรี้ยง!!!"ลูฟี่เจอซันจิเอาฝาหม้อทุบหัว

     

    "นี่ ฟังอยู่รึเปล่า?"นามิร้องเรียก


    "คุณนามิครับก็เจ้านี่น่ะ"ซันจิหาข้ออ้าง

     

    "ข้าวกล่องเกาะท้องฟ้าก็อร่อยเนอะ"ลูฟี่กล่าว

     

    "จะพูดต่อล่ะนะ สรุปแล้วในช่วงหลายปีนั้น เกาะซึ่งเป็นส่วนนึงของจายาได้ลอยขึ้นมาอยู่บนท้องฟ้า"นามิพูดต่อ

     

    "ขึ้นมาด้วยน็อคอัพสตรีมนั่นนะรึ?"ช็อปเปอร์ถาม

     

    "ใช่ คิดได้แค่นั้นแหละ จุดที่ระเบิดที่ก้นทะเลจะเปลี่ยนไปทุกครั้ง คุณคริกเก็ตก็บอกอย่างนั้นน่ะ"นามิกล่าว

     

    "รุนแรงขนาดนั้น เกาะต้องลอยขึ้นมาได้อยู่แล้ว"อุซปกล่าว

     

    "แต่ก็นะ ดูยังไงป่าแห่งนี้กับจายาที่พวกเราเคยเข้าไป ก็ไม่น่าเป็นอันเดียวกันได้เลย"โซโลเงยหน้ามองต้นไม้ยักษ์ที่สูงตระหง่ายเหนือพวกเขา

     

    "เรื่องนั้นคงเป็นเพราะองค์ประกอบที่สร้างเมฆสมุทรกับเมฆเกาะละมั้ง รู้สึกว่าสภาพแวดล้อมของเกาะท้องฟ้า จะมีพลังช่วยเร่งการเติบโตของสัตว์อย่างผิดปกติ"โรบินกล่าว"ถ้าคิดอย่างงั้น การที่อารยธรรมถูกป่ากลืนกินก็พอจะรับได้"

     

    ซันจิมองไปที่วีวี่แล้วเห็นเจ้านกปิแอร์กินแครอทรูปหัวใจที่เขาทำเป็นพิเศษ กุ๊กถอนหายใจกับความพยายามที่เสียใจ

     

    "สตูว์รูปหัวใจของฉัน"เขากล่าว

     

    "จะว่าไปแล้วเซาธ์เบิร์ดที่ฉันกับคิรัวร์เจอที่ทะเลสาบเองก็ตัวใหญ่เบ้อเริ่มเลย"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "อืม ผ่านมา400ปีคงพัฒนาจนตัวใหญ่ขึ้นมั้ง"โซโลกล่าว

     

    "แต่มันก็แปลกนะ"โซโลเดินมาโยนสตูว์ให้โซโล เขารับแทบไม่ทัน"ทำไมเซาธ์เบิร์ดนั่นถึงห่วงตาแก่นี่"

     

    "ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"ช็อปเปอร์กล่าว"แต่ว่าเซาธ์เบิร์ดทุกตัว เรียกอัศวินนภาว่าจอมเทพด้วยล่ะ"

     

    "เทพเหรอถ้างั้นแค่ซัดตาลุงนี่ให้เละก็พอแล้วงั้นรึ?"ลูฟี่ถาม

     

    "ปิเอ!!!"ปิแอร์ยกปีกมาบังปกป้องกันโฟล

     

    "ซะที่ไหนกันเล่า เจ้าซื้อบื้อเอ๊ย"อุซปตะโกน

     

    "ที่จริงเอเนลเองก็เรียกเขาว่าเทพเหมือนกัน"คิรัวร์กล่าวขึ้น"เขาเรียกกันโฟลอดีตจอมเทพ ฉันคิดว่าตำแหน่งจอมเทพมันเหมือนตำแหน่งกษัตริย์ แต่อัศวินนภาเห็นได้ชัดว่าทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ปกป้องทุกคน เอเนลเป็นผู้เข้ามาชิงตำแหน่งของเขาและใช้อำนาจปกครองทุกคน ถ้าเราจะทำอะไรบางอย่างนะลูฟี่ ก็ต้องอัดคนที่เชื่อว่าตนเป็นพระเจ้านี่ซะ"

     

    "โอเค ไปจัดการมันเลย!!"ลูฟี่ตะโกน

     

    "เรามาที่นี่เพื่อหาทองคำ ไม่ใช่ไปสู้กับพระเจ้า"นามิพูดเสียงหวาดกลัว

     

    "นายทำอย่างงั้นได้หลังหาเจอแล้ว"คิรัวร์เสริมทำให้นามิมองเขา

     

    "ยังไงก็เถอะ มาช่วยกันนึกหาข้อมูลเกี่ยวกับขุมทองที่โนแลนด์บันทึกไว้ในบันทึกเดินเรือกันดีกว่า"นามิกล่าว

     

    "อื้อ ฉันเห็นทองคำ"ลูฟี่กล่าว

     

    "มันแหงอยู่แล้วเจ้าซื่อบื้อเอ๊ย!!!"อุซปตะโกน"อย่านึกปุ๊บแล้วก็พูดออกมาปั๊บได้มั้ย"

     

    "จำได้ว่ามีเรื่องเกี่ยวกับทองคำรูประฆังขนาดยักษ์ แล้วก็เรื่องของเซาธ์เบิร์ด"ซันจิกล่าว

     

    "หน้าสุดท้ายของบันทึกมีข้อความที่ไม่เข้าใจอยู่ด้วย ย่อหน้าที่โนแลนด์เหลือทิ้งไว้ตอนกำลังจะตาย ที่บอกว่าเห็นทองคำที่ตาขวาของหัวกะโหลก"โรบินกล่าว

     

    "นั่นไงล่ะ ดูนี่สิ แผนที่ที่โรบินได้มาที่จายากับแผนที่โบราณของสกายเปีย พอเอามาเปรียบเทียบกันดู รวมๆแล้วก็โอเค แต่พอเอาแผนที่ทั้งสองมาประกบกันตรงตำแหน่งที่บ้านชายฝั่งปุ๊บ"

     

    กลุ่มหมวกฟางมองแผนที่ทั้งสองโดนนำมาวางรวมกัน มันเหมือนเกาะหัวกะโหลกจริงๆ

     

    "เห็นมั้ย นี่แหละรูปร่างของจายาเมื่อ400ปีก่อน"นามิกล่าว

     

    "หัวกะโหลกนี่"ลูฟี่กล่าว

     

    "เห็นเป็นรูปหัวกะโหลก"ช็อปเปอร์มองจากบนไหล่คิรัวร์

     

    "ไง?"นามิถาม

     

    "สุดยอด"ลูฟี่ร้อง

     

    "สมกับเป็นคุณนามิ"ซันจิกล่าว

     

    "งั้นตาขวาของหัวกะโหลกที่โนแลนด์อยากบอกคือภาพรวมทั้งหมดของเกาะ?"วีวี่กล่าว

     

    "ใช่แล้ว แต่ตอนนี้มีแค่ครึ่งเดียว ปริศนานี่ก็เลยไม่สามารถคลี่คลายได้"นามิกล่าว

     

    "อย่างนี้นี่เอง"โซโลกล่าว

     

    "สมบัติ!!!"ลูฟี่ร้อง

     

    "สมบัติ!!!"ช็อปเปอร์ร้องตาม

     

    "ที่เหลือแค่ตรงดิ่งไปยังจุดนี้ก็พอแล้วล่ะ ระหว่างนั้นจะปล่อยเรือทิ้งไว้ก็ไม่ได้"นามิเตือนพวกเขาเรื่องสำคัญ"พรุ่งนี้เราแบ่งกันเป็นสองทีมแล้วค่อยลงมือเถอะ ไม่ผิดแน่ ที่แห่งนี้มีขุมทองมหาศาลกำลังเฝ้ารอพวกเราอยู่

     

    _____________________

     

    เหล่าแชนเดียร์ได้ถอยกลับไปและตั้งแคมป์ ผู้บาดเจ็บกำลังรักษาแผลและกำลังรวมกลุ่มกันใหม่

     

    ไวเปอร์อยู่ในอารมณ์ฉุนเฉี่ยวเดินผ่านแคมป์มา

     

    "ไวเปอร์"โครวเรียกเขาขณะนั่งพิงต้นไม้

     

    "โครว เป็นไงบ้าง แผลของคามาคิริน่ะ?"ไวเปอร์ถาม

     

    "แผลหนักเอาการ"โครวกล่าว

     

    "อืม ไม่น่าเชื่อว่าเจ้านั่นจะมัวชักช้าอยู่ โอมน่ะ ร้ายกาจจริงๆ"เก็มโบกล่าว

     

    ถ้าอสูรสงครามไวเปอร์กำลังโกรธ รากิที่ฟังอยู่ก็แย่ยิ่งกว่าอีก คามาคิริได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยเธอ เธอรู้สึกผิดและต้องรับผิดชอบต่อเรื่องนี้

     

    "ขอโทษ"รากิพูดทำให้ไวเปอร์กับเก็มโบหันไปมองเธอ"ฉันเอง....เป็นความผิดของฉัน"

     

    ___________________

     

    "อิ่มแล้ว!!!"ลูฟี่ร้อง

     

    "พรุ่งนี้แหละขุมทอง"ช็อปเปอร์พูดขณะถือชามของทุกคนไปใส่ถังน้ำ

     

    "ใช่แล้ว"นามิเห็นด้วย

     

    "พรุ่งนี้อากาศจะแจ่มใส่มั้ยนะ"ลูฟี่พูดอย่างคาดหวัง

     

    "นี่เราอยู่บนเมฆกันนะเฟ้ย"อุซปกล่าว

     

    "ชักจะเริ่มมืดขึ้นทุกทีแล้วล่ะ ไฟที่ไม่ได้ใช้ก็ดับเถอะ"โรบินแนะนำนั่งอยู่ใกล้ๆ"ไม่งั้นจะทำให้ศัตรูรู้ตำแหน่งของเราได้"

     

    "พูดบ้าๆ ได้ยินมั้ยอุซป เขาว่าอย่างงั้นแน่ะ บอกให้เราดับไฟ"ลูฟี่พูดทำให้โรบินมองเขาอย่างแปลกใจ

     

    "ช่วยไม่ได้นี่ ที่เขาจะพูดแบบนั้น ก็โรบินน่ะใช้ชีวิตอยู่ในโลกมืดมาตลอดเลย ไม่รู้ย่อมไม่ผิด"อุซปกล่าว

     

    "หมายความว่าไง?"โรบินถาม

     

    ลูฟี่กับอุซปต่างหันมามองเธอ ก่อนจะทรุดลงพื้นและเริ่มร้องไห้

     

    "ก็เรื่องตั้งแคมป์ไฟยังไงเล่า!!!"ลูฟี่ตะโกน

     

    "ถึงจะอันตรายแค่ไหนก็เถอะ แต่ถ้าต้องตั้งแคมป์ตอนกลางคืน มันก็ต้องแคมป์ไฟเท่านั้นแหละ"อุปกล่าว

     

    "พวกนายสามคนพูดถูก เราต้องการแคมป์ไฟ แต่เราจะให้ศัตรูรู้ตำแหน่งไม่ได้"คิรัวร์พูดขึ้นทำให้ทั้งสามหันมามอง"โชคดีที่ฉันสามารถแก้ปัญหาได้"

     

    หลังจากนั้นไม่กี่นาที กองไม้ที่มีถ่านหินใส่เอาไว้ก็เรืองแสงสีส้มสว่างขึ้นมา ด้านในมีหินเวทแสงใส่ไว้อยู่

     

    "โชคดีฉันยังมีหินแอคเฟลชเหลืออยู่ เอาล่ะ"คิรัวร์หันไปมองลูฟี่กับอุซป"ถ้าพวกแกดูถูกความรู้ของโรบินอีกครั้ง ฉันจะให้นามิจัดการพวกนาย!!!"

     

    ลูฟี่กับอุซปเหงื่อตกทันที

     

    "ขอโทษคร้าบ"ทั้งสองผงกหัวให้กับโรบิน

     

    ทางด้านนามิมองกองไฟที่สร้างจากวิชาแปรธาตุทำให้ไม่เกิดควันอย่างกังวล

     

    "จะเป็นไรไหมเนี่ย"นามิกล่าว

     

    "ไม่ต้องห่วงคุณนามิ สัตว์ร้ายน่ะมันกลัวไฟนะครับ"ซันจิพูดให้เธอวางใจ โดยไม่เห็นสายตาด้านหลัง

     

    "กรี๊ด!!!! ไม่เห็นได้เรื่องเลย!!!!"นามิตะโกนใส่คิรัวร์ เขายักไหล่

     

    "ซันจิข้างหลัง!!!"เซียร์เตือน

     

    หมาตัวตัวนึงที่มีแผลเป็นที่ตาข้างนึงเดินออกมาและพูดบางอย่าง

     

    "เฮ้ มันพูดอะไรด้วย มานี่หน่อยสิช็อปเปอร์"ซันจิเรียกล่ามแปลภาษาสัตว์

     

    ช็อปเปอร์เดินเข้ามาขณะที่หมาป่าเห่าออกมาสีหน้าโกรธ

     

    "มันว่าหนวกหูตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะไอ้พวกคนนอก รีบๆนอนกันได้แล้วเจ้าบ้าเอ๊ย!!"

     

    "ว่าไงนะ!!!"ลูฟี่กับซันจิตะโกน

     

    "ฉันไม่ได้พูดเองซะหน่อย"

     

    "กรรๆๆๆ"หมาป่ายังร้องต่อ

     

    "นี่พวกแก อย่าบอกนะว่าคิดจะมาสร้างความวุ่นวายในเขตของพวกเรา"ช็อปเปอร์แปล

     

    "ไม่นะ พวกเราเองก็ถูกบังคับให้มาที่แบบนี้เหมือนกัน"

     

    "ที่นี่เป็นดินแดนของเราพวกเรา"ช็อปเปอร์แปลภาษาหมาป่าต่อ"แต่พวกแกกลับซี่ซั้วก่อไฟซะได้"

     

    "ขอโทษ"ช็อปเปอร์เอ่ยขอโทษ

     

    "ทั้งไม้และหญ้าในป่าแห่งนี้ล้วนเป็นสมบัติของพวกเราทั้งหมด"

     

    "โป๊ก!!!!"นามิทุบใส่หัวหมาป่าลงไปนอน

     

    "ไม่ยกสมบัติให้หรอกยะ!!"นามิตะโกน

     

    "กรร...!!!!"พวกหมาป่าเริ่มร้องขู่

     

    "ดูนั่นสิ บรรยากาศชักแย่ขึ้นเรื่อยๆแล้ว ทำยังไงดีล่ะเนี่ย?"อุซปถาม

     

    "คิรัวร์คุงทำอะไรสักอย่างสิ นายเป็นคนก่อไฟนะ"นามิอ้างมาหลบหลังเขา

     

    "ทำไมต้องเป็นฉัน?"คิรัวร์ถามต้นหน"เธอเป็นคนทำร้ายจ่าฝูงของพวกมัน"

     

    "โฮ่ง!!!!"หมาป่าที่โดนนามิชกล้มลงลุกกลับมาเห่า ทำให้หมาป่าตัวอื่นหงอไป

     

    "พอซะที"ช็อปเปอร์แปลคำพูดจ่าฝูง"ต่อให้พวกแกมีกันเป็นฝูงก็สู้ไม่ได้หรอก นี่เจ๊ หมัดหนักไม่เบาเลยนี่ ชักถูกใจแล้วสิ"

     

    ทั้งนามิและจ่าฝูงหมาป่ายิ้มให้กัน

     

    "รู้สึกจะสงบแล้วละมั้ง"อุซปกล่าว

     

    "ก็คงงั้นแหละ"โซโลกล่าว


    "งั้นมาแจมด้วยกันเถอะ แคมป์ไฟ"ลูฟี่ตะโกน

     

    หลังพวกเขาแยกไปแล้วโรบินเดินมาหาคิรัวร์

     

    "ขอบคุณ"โรบินกล่าวด้วยรอยยิ้ม

     

    "ฉันควรจะพูด ความรู้ของเธอไม่ใช่สิ่งที่จะดูถูก"คิรัวร์ยักไหล่

     

    "หึหึหึ"โรบินหัวเราะ"ไปร่วมงานเลี้ยงกันเถอะ"

     

    แต่ก่อนโรบินจะเดินไป เธอลังเลก่อนจะเข้ามาจูบแก้มเขาเดินออกไปพร้อมหน้าที่แดงเล็กน้อย

     

    หลังจากนั้นกลุ่มหมวกฟางและฝูงหมาป่าก็จัดงานเลี้ยงแคมป์ไฟขึ้น

     

    ขณะที่คนอื่นอยู่รอบๆ ลูฟี่ อุซป ซันจิ และช็อปเปอร์ต่างเต้นรอบกองไฟกับพวกหมาป่า

     

    "เต้นเข้าๆ คืนฉลองก่อนขุมทอง"อุซปตะโกนขณะตีกลองไปด้วย

     

    "โบร๋วๆๆๆ"ลูฟี่เลียนแบบหมาป่า

     

    "โบร๋ว!!!!"หมาป่าร้อง

     

    "อะไรเนี่ย อร่อยจัง"นามิดื่มเหล่าที่หมาป่าทำไว้"น้ำผลไม้ที่พวกเธอทำเองเหรออร่อยจัง ขออีกสิ"

     

    หมาป่าพยักหน้าเติมน้ำผลไม้ให้

     

    "อืม"โซโลดื่มน้ำผลไม้ของหมาป่าจากขวดเหล่า แล้วหันไปเห็นหมาป่ากำลังดื่มจากถ้วยตัวเอง

     

    ทั้งสองยิ้มและชนแก้วกัน

     

    "ใครจะนึกว่าหมาป่ารู้วิธีทำน้ำผลไม้"เซียร์นั่งอยู่ใกล้ๆดื่มอยู่เหมือนกัน

     

    คิรัวร์ที่เข้ามาในงานเลี้ยงเผชิญหน้ากับซันจิ

     

    "เฮ้ วันนี้แกทำอะไรแปลกๆรึเปล่า?"ซันจิถาม แน่นอนเขาหมายถึงเรื่องผู้หญิง

     

    "เปล่า"คิรัวร์โกหกคำโต

     

    "ตลกมาก ทำไมฉันถึงอยากฆ่าเขา?"ซันจิถามตัวเองขณะเดินกลับไปร่วมงานเลี้ยง

     

    "หึหึหึ"โรบินหัวเราะมองงานเลี้ยงกลุ่มหมวกฟาง เธอนั่งอยู่ใกล้กับคิรัวร์ที่หมาป่ากำลังยื่นถ้วยน้ำผลไม้ให้

     

    แม้คิรัวร์จะบ่ายเบี่ยงแต่สุดท้ายเขาก็รับมาดื่มเล็กน้อย หมาป่าตัวนั้นเดินไป

     

    "นายรับมาดื่มเรอะ"โรบินมองอย่างแปลกใจ

     

    "ฉันมีทางเลือกที่ไหน ปฎิเสธแล้วตัวอื่นก็มาอีก"คิรัวร์กล่าว ทั้งสองนั่งห่างจากคนอื่นที่กำลังสนุกกับงานเลี้ยง

     

    "หมาป่าก็มาแจมด้วยรึเนี่ย"เสียงดังมาจากด้านหลังโรบินกับคิรัวร์ที่ห่างจากงานเลี้ยง คิรัวร์หันไปเห็นกันโฟลเดินมา"คงไม่มีใครกล้าส่งเสียงเอะอะขนาดนี้ในถิ่งที่อยู่ของเอเนลแล้วล่ะ"

     

    "อ้าว ตื่นแล้วสินะ ขยับตัวได้แล้วรึ?"โรบินถาม

     

    "ขอโทษที่รบกวน กะจะมาช่วยแท้ๆ"กันโฟลกล่าว

     

    "พูดอะไรอย่างงั้น แค่ก็ก็มากพอแล้ว"โซโลกล่าว"ขอบใจมากนะที่ช่วยเพื่อนกับเรือของเราไว้ให้"

     

    "ไม่หรอก"กันโฟลนั่งลง

     

    "สตูว์ยังเหลืออยู่นะ จะกินมั้ย"คิรัวร์กล่าว

     

    "ไม่เป็นไร อุตส่าห์ทำให้แต่ข้ากินไม่ไหวหรอก"กันโฟลกล่าว

     

    "ยาของช็อปเปอร์ทำให้คุณดีขึ้นไหม?"คิรัวร์ถาม

     

    "มันช่วยได้มาก"กันโฟลกล่าว

     

    "ลุงประหลาดตื่นแล้วรึเนี่ย?"ลูฟี่เห็นกันโฟลอยู่กับโรบิน คิรัวร์และโซโล"ขอบใจมากนะ"

     

    "มาเต้นกัน"ลูฟี่ตะโกน

     

    "มาเต้นกัน อัศวินนภา"ช็อปเปอร์ร้อง

     

    "นายเป็นหมอไม่ใช่เรอะ?"โซโลมองเรนเดียร์

     

    "จริงสิลุง โคนิสจังเป็นยังไงบ้าง?"ซันจิถามอย่างกังวลบนหลังหมาป่า"ปลอดภัยไหม?"

     

    "อื้อ ตอนนี้อยู่กับพ่อที่บ้านของข้าเอง วางใจได้เลย"กันโฟลกล่าว

     

    "งั้นเหรอ ค่อยยังชั่ว อย่างนี้ก็หายห่วงล่ะ"ซันจิโล่งใจ

     

    "ดีจังเนอะที่ทั้งสองคนปลอดภัย"อุซปกับหมาป่ากระโดดมาบนหลังเขา"ดีล่ะ ทุกคนมาโยนช็อปเปอร์กันเถอะ"

     

    "ทำไมล่ะ?"

     

    "เอ้าฮึบ!!!"แต่สุดท้ายช็อปเปอร์ก็ถูกจับโยน และโดนซันจิเหวี่ยงตัวไปรอบๆ

     

    กันโฟลยิ้มเฝ้าดูพวกโจรสลัดสนุกกับงานเลี้ยงร่วมกับหมาป่า

     

    "ฉันได้ยินเรื่องที่พวกเจ้าพูดเมื่อกี้ทั้งหมดแล้ว รู้สึกว่าเกาะนี้ชื่อเดิมคือจายางั้นสินะ"กันโฟลกล่าว

     

    "ใช่"โรบินยืนยัน

     

    "ทำไมตอนนี้ถึงถูกเรียกว่าแดนศักดิ์สิทธิ์ พวกเจ้าคงไม่เข้าใจสินะ?"กันโฟลกล่าว

    ____________________

     

    ที่ค่ายของแชนเดียร์ ไวเปอร์แย่งกระเป๋ามาจากรากิ


    "เพราะมีของแบบนี้อยู่น่ะแหละถึงต่อสู้ได้ไม่เต็มที่ เธอมาเพื่อเป็นตัวถ่วงงั้นรึ รากิ"ไวเปอร์ถามด้วยความโกรธ

     

    "คามาคิริน่ะ ฉันรู้สึกเสียใจต่อเขาจริงๆ"รากิกล่าว

     

    "คู่ต่อสู้คือเทพคุมกฎนะ ถ้าขาดกำลังรบที่สำคัญ เราจะไปถึงตำหนักเทพกันได้ยังไง"ไวเปอร์ตะโกน

     

    "ฉันรู้ดีว่ามันไม่ใช่แค่ขอโทษแล้วจะจบ แต่ขอคืนเถอะ ไอ้นั่นเป็นสมบัติของไอซ่า"รากิเข้าไปพยายามแย่งกระเป๋าคืน"ฉันเป็นคนไปซี่ซั้วสัญญาเองแหละ ว่าจะเก็บวาสกลัวไปให้"

     

    ไวเปอร์จะโยนมันทิ้ง

     

    "หมับ!!!แต่มือของคามาคิริเข้ามาจับแขนเขาหยุดไว้ก่อน

     

    "คามาคิริ แผลนายล่ะ?"โครวถาม


    "ฉันดีขค่นเยอะแล้ว"คามาคิริกล่าว ไวเปอร์ปล่อยกระเป๋าทำให้ชาช่าเอาไปถือไว้"ก็อย่างที่นายพูดแหละ ถ้าจะถล่มอัปเปอร์ยาร์ดก็ต้องตอนนี้เท่านั้น จากการต่อสู้ในวันนี้ ทำให้เราแน่ใจแล้วว่าซาโตริกับชูร่าหายไป เอาไว้พรุ่งนี้เราค่อยบุกโจมตีกันอีกครั้ง ไวเปอร์"

     

    _____________________

     

    "สำหรับคนทะเลสีฟ้าอย่างพวกเจ้า พื้นดินที่อยู่ที่นี่คงจะเป็นแค่เรื่องปกติสินะ"กันโฟลถาม

     

    "มันก็แหงอยู่แล้ว"โซโลกล่าว

     

    "งั้นรึ แต่ว่านี่น่ะ สำหรับท้องฟ้าแล้วไม่ใช่สิ่งที่มีอยู่แต่เดิม เมฆเกาะน่ะปลูกพืชได้ก็จริง แต่ว่าก่อเกิดไม่ได้ ทั้งป่าและดินเดิมทีมันไม่ได้มีอยู่บนท้องฟ้า"กันโฟลตักดินขึ้นมากำนึง"พวกข้าก็เลยเรียกสิ่งนี้ว่าวาส สำหรับผู้คนที่อาศัยอยู่บนท้องฟ้าแล้วมันคือความหลงใหลชั่วนิรันดร์"

     

    _________________

     

    "ถ้ากำจัดเอเนลก็ล่ะก็ กระเป๋าแค่ใบเดียวนั่นก็จะไม่ใช่ความหลงใหลในวาสอีกต่อไป"คามาคิริพูดกับรากิที่กอดกระเป๋าไว้อยู่"กลับกันเถอะ ไปสู่บ้านเกิดเมื่อ400ปีก่อนของแชนเดียร์"

     

    "เธอไม่เต้นรำเหรอ?"โรบินมองคิรัวร์ที่เดินเข้ามา

     

    "ไม่ล่ะ"โรบินปฎิเสธ

     

    คิรัวร์จับมือเธอและพาเดินไปที่กองไฟ

     

    "มาเถอะน่า เธอนั่งเฉยๆไม่ได้นะ"คิรัวร์กล่าว

     

    จากนั่นเขากับโรบินก็เริ่มเต้นรำ และคืนนั้นคิรัวร์เต้นรำผลัดกับพวกผู้หญิงจนกระทั่งงานเลี้ยงจบลง

     

    _________________

     

    งานเลี้ยงแคมป์ไฟจบลงแล้ว กองไฟแสงที่คิรัวร์ทำไว้หมดพลังงานและดับไป โจรสลัดต่างนอนหลับอยู่ท่ามกลางหมาป่า

     

     "อืม"โรบินลืมตาตื่นขึ้นมา

     

    "ฉันทำให้ตื่นเรอะ?"เสียงคุ้นหูถาม

     

    โรบินลืมตาตื่นลุกขึ้นมานั่งพบว่าเธอนอนน้ำลายไหลอยู่ที่ตักคิรัวร์ เธอจำได้ว่าตอนนอนเธอพิงต้นไม้ใกล้กับคิรัวร์

     

    "เปล่า"โรบินพูดมองบาดแผลที่เขาได้จากชูร่าที่ตอนนี้ช็อปเปอร์พยาบาลและได้แสงฟื้นฟูจากเซียร์แล้ว"บาดแผลเป็นไงบ้าง?"

     

    "ไม่เป็นไรมาก ขอบใจ"คิรัวร์ยิ้มให้

     

    โรบินรู้สึกว่าหัวใจเธอเต้นระรัวและหน้าเธอแดง ทำให้เธอต้องก้มหน้าเอาเส้นผมด้านหลังยกมาปิดด้านหน้าไว้

     

    มือของโรบินยื่นไปลูบบริเวณอกที่เป็นแผลแล้วเธอยิ่งหน้าร้อนผาว

     

    คิรัวร์กำลังสังเกตพฤติกรรมของโรบินอยู่

     

    "ฉันกำลังทำอะไร?"โรบินคิดในใจ มันเป็นแค่บรรยากาศพาไปและแคมป์ไฟ เธอชอบคิรัวร์และคนอื่นในกลุ่ม

     

    โรบินทำเป็นลูบแผลคิรัวร์ถอยห่างออกไป ขณะที่คิรัวร์ค่อยๆหลับไปนอนกรนอีกครั้ง

     

    นักโบราณคดีไม่ได้หลับ คิรัวร์ทำให้เธอรู้สึกสบายใจและมีความสุข แต่ช่วงเวลานี้ไม่อาจหักล้าง20ปีที่ผ่านมาได้

     

    โรบินหยิบสมุดบันทึกมาเขียนและวาดซากปรักใกล้ๆแคมป์ของพวกเขา มันเป็นโบราณสถานที่เธอไม่เคยพบมาก่อน

     

    เมื่อยามเธอพบโบราณสถานหรือประวัติศาสตร์ที่เป็นปริศนา เธอหมกมุ่นกับมันมาก จนเธอไม่สังเกตว่าคิรัวร์เข้ามาใกล้

     

    "โรบิน เธอกำลังทำอะไร?"

     

    "ฉันพยายามถอดรหัสอักษรโบราณ"โรบินตอบ

     

    "เธออ่านได้มั้ย"

     

    "ไม่ง่ายหรอก"โรบินยอมรับ"อักษรโบราณย้อนหลังไปถึง400ปี แต่ยากจะบอกเพราะเกาะท้องฟ้า ฉันไม่คุ้นเคนภาษาแบบนี้มาก่อน"

     

    คิรัวร์เงียบ เก็บความรู้สึกสับสนเอาไว้

     

    "แล้วมันเขียนว่าอะไร?"


    "ส่วนใหญ่เป็นโศกนาฎกรรม มันเขียนอ้างถึงพระเจ้า บูชายัญและเสียสละ แต่ที่น่าสนใจคือตรงนี้ เมืองทองคำและระฆังทอง"

     

    "ขอดูหน่อย"คิรัวร์ดึงตัวมานั่งชิดโรบิน

     

    โรบินมองเขาอย่างแปลกใจ

     

    "ฉันเป็นคนชอบอ่านหนังสือ"

     

    "มันน่าเบื่อ"โรบินยอมรับ คนส่วนใหญ่จะเบื่อถ้าไม่ใช่นักโบราณคดี

     

    "ไม่ใช่ฉัน"คิรัวร์กล่าว"และไม่น่าเบื่อเมื่อฉันอ่านกับเธอ"

     

    เธอไม่ตอบสักพักแต่จ้องมองคิรัวร์

     

    "ฉันพูดอะไรผิดเรอะ"

     

    "ไม่ ไม่แน่นอน"โรบินส่ายหัว

     

    เธอหันไปอ่านอักษรโบราณ สายตาเธอจดจ่อกับหนังสือแต่ก็เหลือบมองคิรัวร์หลายครั้ง

     

    "เป็นไรไป"เขาถาม

     

    "เปล่า"โรบินยิ้ม

     

    โรบินยังแสร้งดูบันทึก ขณะที่จ้องมองคิรัวร์ที่ยังนอนอยู่ไม่ได้จ้องเธอด้วยสายตาลวนลาม สายตาเธอเหลือบมองไปยังหน้าอกของลูฟี่

     

    "ฉันกำลังคิดเรื่องงี่เง่า"โรบินคิดในใจ

     

    มันเป็นไปไม่ได้ เธอเป็นอาชญากรที่ทั่วโลกต้องการ เธอหายใจลึกๆเพื่อสงบสติอารมณ์ มันไม่ควร เขาอายุน้อยกว่าเธอถึง12ปี เป็นแค่เด็กวัยรุ่น พวกเขาต่างกันโดยสิ้นเชิง บางทีการมาเกาะท้องฟ้าทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยจากรัฐบาลโลก

     

    กลุ่มโจรสลัดนี้ร่าเริงและสนุก แต่ไม่ช้าก็เร็วเมื่อเวลามาถึงเธอต้องจากพวกเขาไป

     

    ดูน่าอาย แต่คิรัวร์เป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่เธอไว้ใจ ซึ่งหายากสำหรับเธอที่โดนตามล่ามา20ปี

     

    "แฮ่กๆๆ"โรบินเริ่มหอบเบาๆหวนนึกถึงอดีต ขณะมองคิรัวร์

     

    แม้จะพูดถึงสาวอีก3คนบนเรือ นามิ วีวี่และเซียร์เหมาะสมกับเขามากกว่าเธอ ไม่ใช่แค่อายุเท่านั้น โรบินไม่เคยมีช่วงวัยเด็กเหมือนคนปกติ แต่คิรัวร์ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นวัยรุ่นอีกครั้ง

     

    "เธอแน่ใจนะว่าไม่เป็นไร เธอเอาแต่จ้องฉัน"คิรัวร์กล่าว

     

    "เขารู้แต่ก็ทำเป็นไม่เห็น"โรบินยิ้มแห้งๆ

     

    ดูเหมือนโรบินจะต้านความรู้สึกไม่ได้ เธอตัดสินใจแล้ว

     

    โรบินเอามือโอบรอบคอคิรัวร์

     

    คิรัวร์ตกใจ เพราะไม่คาดคิดว่าเธอจะทำอะไรแบบนี้

     

    "โรบิน เธอจะทำอะไร?"คิรัวร์ถาม

     

    "คิรัวร์คุงเธอไว้ใจฉันไหม?"โรบินถามกลับ

     

    "ใช่"คิรัวร์พยักหน้า

     

    "ถ้างั้นเชื่อใจฉัน"โรบินกล่าว

     

    เกิดความเงียบก่อตัวขึ้นมา คืนนี้เธออยากทำอะไรด้วยความคิดชั่ววูบและโง่เขลา

     

    โรบินเลื่อนลงมาจูบและคิรัวร์ตอบรับอย่างดี เขาจับเธอหนุนตักและเริ่มมองดูบริเวณล้างคอ

     

    โรบินเห็นว่าเขามองตรงไหนก็หน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะโดนเขาคว้าลูกบอลกลมใหญ่2ลูก

     

    "อ๊า!!"โรบินครางออกมาเบาๆพยายามปิดไม่ให้ส่งเสียงทำคนอื่นตื่น

     

    "รู้มั้ยว่าถ้าทุกคนตื่นได้วุ่นวายแน่"โรบินกล่าว 

     

    "บางที...เราควรไปทำในที่ส่วนตัวกว่านี้"คิรัวร์บอกเป็นนัย

     

    โรบินหน้าแดงขึ้นมาและแล้วคิรัวร์ก็ยกเธออุ้มเดินเข้าไปในป่าลึก

    _________________________

     

    คนอื่นที่ยังไม่หลับคือโซโลและอุซป และพวกเขาไม่ได้สังเกตว่าโรบินหายไป

     

    "นะ โซโล ขอร้องล่ะ นิดเดียวเอง"อุซปบอกโซโล

     

    "นิดเดียวตรงไหน นายน่ะตั้งกี่ครั้งแล้ว ถ้ากลัวก็ทนรอให้ถึงเช้าก่อนสิ"โซโลบ่น

     

    "ถ้าฉันทนไหวก็ไม่ต้องมาขอร้องกันแล้ว"อุซปกล่าว

     

    "ฉิ่งฉ่องแค่นี้ไปคนเดียวได้มั้ย"โซโลกล่าว

     

    "อะไรเนี่ย เย็นชาชะมัดยากเจ้าโซโล"อุซปบ่น

     

    เมื่อโซโลไม่ยอมไปด้วยทำให้อุซปต้องเดินไปฉิ่งฉ่องที่ใกล้แท่นบูชายัญ

     

    "กึงๆๆ"อุซปได้ยินเสียงบางอย่าง

     

    "เสียงอะไรน่ะ?"เขาสงสัย

     

    "กึงๆๆๆๆ"

     

    เสียงคุ้นเคยเหมือนตอนอุซปใช้ค้อนตอกตะปูซ่อมเรือ

     

    "กึงๆๆๆ"

     

    อุซปมองไปที่เรือโกอิ้งแมรี่บนแท่นบูชายัญ มีหมอกหนาปกคลุมทำให้เขามองเห็นได้ยาก

     

    "บนเรือไม่น่าจะมีใครอยู่แล้วนี่นา?"อุซปคิดในใจ"หมอกก็ลงจัดจนมองเห็นไม่ชัด"

     

    อุซปเดินมาใกล้เพื่อมองดูและเขาเห็นเงาคนกำลังทุบค้อนใส่ตัวเรือ

     

    ศีรษะไร้หน้าที่มีแต่ปากโผล่มายิ้มเขา

     

    "เหวอ!!!!!!"

     

    เสียงกรีดร้องของอุซป ทำให้โซโลเดินมาเห็นอุซปนอนล้มตัวสั่นกระตุก

     

    "ทำอะไรของมัน เจ้านี่ บอกจะไปฉี่แล้วไหงถึงมานอนหลับอยู่ตรงนี้ล่ะ ไม่ไหวเลยจริงๆ"โซโลบ่น

     

    "ผี...ผีหลอก"อุซปกล่าว

     

    "กำลังฝันอยู่รึ?"โซโลถาม

     

    "ผีหลอก"อุซปพูดเหมือนเดิม

     

    __________________

     

    โอม เบอร์ก้าและเกดาซยืนอยู่หน้าประตูตำหนักเทพนาน

     

    "พวกเราน่ะ....."เกดาซจะพูดแต่กัดปากไว้

     

    "กัดปากเอาไว้แบบนั้น ใครมันจะไปฟังรู้เรื่องฟะ?"เบอร์ก้ากล่าว

     

    "เผลอไปหน่อย"เกดาซเลิกกัดปาก

     

    "ทำไมก็อดถึงเรียกเราตอนกำลังจะจัดการพวกแชนเดียร์ได้"โอมกล่าว

     

    "กำลังหงุดหงิดน่าดูนะ"เสียงนึงดังขึ้น

     

    โอม เบอร์ก้าและเกดาซหันไปเห็นชูร่าที่มีผ้าพันแผลไว้เต็มเดินเข้ามา

     

    "โอ้ ชูร่า"โอมมองอย่างแปลกใจและดูถูก"ถ้าประหลาดใจที่แกยังมีหน้ามาพบก็อดหลังถูกคนทะเลสีฟ้าจัดการ"

     

    "อย่างน้อยฉันก็เอาชนะกันโฟลได้"ชูร่ากล่าว

     

    "ใช่"โอมยอมรับ"แต่เราได้รับคำสั่งให้จับคนทะเลสีฟ้าคนนึงและนายล้มเหลว"

     

    "ก็อดเอเนลควรให้ฉันจัดการกับเขา"เกดาซกล่าวขึ้น"ฉันจะล้มเขาและพาให้ไปก็อดเอเนล และไม่ต้องรอรับการลงโทษจากเอเนลพร้อมไอ้โง่สองคนนี้"

     

    "เกดาซ ไอ้โง่อย่างแกน่ะทำไม่ได้หรอก"ชูร่ากล่าว

     

    "ว่าไงนะ!!!"เกดาซจะพูดแต่กัดปากไว้อีกครั้ง

     

    "ขอบอกอะไรพวกแก2คนไว้หน่อย หัดเจียมตัวซะบ้าง ไม่อย่างงั้นมันตราจะปั่นป่วน"โอมกล่าว

     

    "คนที่ต้องหัดเจียมตัวน่ะมันแกต่างหาก โอม"ชูร่าควงหอก

     

    โอมเห็นแล้วชักดาบออกมา

     

    "น่าสนุกนี่"เบอร์ก้าจะร่วมด้วย

     

    "เคร้งๆๆๆๆ"เทพคุมกฎทั้ง4เริ่มต่อสู้กัน

     

    ในตอนนั้นเองประตูก็เปิดออก ชายผมดำม้วนๆยาว ร่างอ้วนและใหญ่กว่า2เมตรเดินออกมา

     

    "อีกแล้วเหรอ ทำอะไรของพวกแกเนี่ย"เขามองเทพคุมกฎที่ต่อสู้กัน"ไม่ไหวเล้ย"

     

    "หนวกหูน่า"ชูร่าตะโกน เหล่าเทพคุมกฎต่างหยุดสู้และรอทำภารกิจต่อไป"3คนนี้มันมาดูถูกฉัน ฉันจะแสดงให้เห็นว่าถึงบาดเจ็บมันก็เทียบพลังฉันไม่ได้"

     

    "ยังจะปากดีอีกนะแก"โอมโต้กลับ"เดี๋ยวจะสั่งสอนให้รู้เอง ว่าที่จริงแล้วฝีมือแกน่ะ มันก็แค่หางอึ่งเท่านั้น อย่างแกน่ะ ต้องเจอบททดสอบเหล็กของฉัน"

     

    "ลองมาเจอบททดสอบลมของฉันสิ พวกแกสามคนไม่รอดแน่"เบอร์ก้ากล่าว

     

    "ไร้สาระ ฝีมือของพวกแกแต่ละคนยังไม่ถึงขั้นหรอก"เกดาซกล่าวขณะหมุนแขนล้มเหลว"บึงของฉันต่างหากล่ะสุดยอดบททดสอบ จะลองดูมั้ย?"

     

    "ท่านเกดาซ แบบนั้นคงลำบากแย่เลยนะครับ การกอดอกน่ะเค้าต้องเอามือสอดเข้าไปที่ด้านในของข้อศอก"หนึ่งในข้ารับใช้เอเนลกล่าว

     

    "เผลอไปหน่อย"เกดาซตกใจ

     

    "พอซะที"ยามะตะโกนขึ้น"เลิกบ้าซะทีเถอะ อยู่ต่อหน้าก็อดนะ"

     

    "ต่อหน้าแล้วก็อดที่ว่าล่ะอยู่ตรงไหนมิทราบ!?"ชูร่าชี้ไปยังบัลลังก์ที่ว่างเปล่า

     

    "เป็นคนเรียกพวกเรามาพบเองไม่ใช่รึไง"โอมกล่าว

     

    "แล้วท่านเอเนลล่ะ"เกดาซถาม

     

    "เปรี๊ยะๆๆๆ"ประกายสายฟ้าปรากฏกลาง3ผู้คุมกฎ

     

    "มีช่องว่าง"สายฟ้าช็อตใส่ร่างทั้งสามกระเด็นไป เอเนลปรากฏตัวและโดดตีลังกาจนเข้าไปนั่งที่บัลลังก์ของเขา

     

    "ฉันคือ...จอมเทพ"เอเนลประกาศ"ก็อยู่ตรงนี้แล้วไงล่ะ พวกแกยังต้องฝึกอีกมากนะ ยังอ่อนหัดอยู่เลย ฉันเองก็ไม่อยากให้พวกแกต้องพบจุดจบแบบเดียวกับซาโตริหรอกนะ"

     

    "ทำอะไรน่ะ!!?"เบอร์ก้าถาม

     

    "ให้ตายสิ เล่นอะไรเนี่ย"โอมกล่าว

     

    "ก็มันน่าเบื่อนี่นา แต่ก่อนอื่น..."เอเนลพูดขณะโยนแอปเปิ้ลขึ้นลง สายตาเขามองชูร่า"ฉันจำไม่ได้ว่าเรียกแกมาที่นี่นะชูร่า ฉันมอบภารกิจให้แกไปนำคนทะเลสีฟ้าคนนึงมาให้ฉัน และแกก็ล้มเหลว บอกหน่อยทำไมฉันไม่ควรปลดนายจากตำแหน่งเทพคุมกฎ"

     

    "ก็อดเอเนล ผมมาที่นี่เพื่อขออภัยโทษในความล้มเหลว"ชูร่าอธิบาย"ผมประมาทเขาและเขามีพลังที่ประหลาด ถ้าท่านให้โอกาสผมอีกครั้ง ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังอีก อย่างน้อยฉันก็ฆ่ากันโฟลไปได้"

     

    "เรื่องนั้นแกก็ล้มเหลวชูร่า"เอเนลตอบ"กันโฟลยังมีชีวิตอยู่"

     

    "บ้าน่า เจ้านั่นถูกฉันจัดการไปแล้ว"ชูร่ากล่าว

     

    "นายทำให้มันบาดเจ็บ"เอเนลบอกเขา"เจ้านั่นยังแข็งแรงดีอยู่เลยนะ รู้สึกจะสนิทกับเจ้าพวกคนทะเลสีฟ้าซะด้วย แม้แต่ความสำเร็จของนายก็กลายเป็นความล้มเหลว"

     

    "ฉัน...ฉัน..."ชูร่าไม่รู้จะแก้ตัวยังไง

     

    "แต่อย่างน้อยที่สุดการต่อสู้ระหว่างนายกับคนทะเลสีฟ้าก็ช่วยให้ฉันประเมินพลังของเขาได้ ฉันจะยกโทษความล้มเหลวของแกสำหรับคืนนี้"

     

    "ขอบคุณก็อด ผมจะไม่ล้มเหลวอีก"ชูร่ากล่าว

     

    "เราจะได้เห็นกัน"เอเนลตอบ"ถ้าแกล้มเหลวอีกครั้งจะมีโทษถึงตาย เอ้า นั่งลงซะ"

     

    เหล่าเทพคุมกฎทั้ง4ต่างนั่งลงหน้าบัลลังก์ ชูร่าถอดหมวกนักบินเผยให้เห็นผมสีดำสั้นๆ

     

    "ว่าแต่ เป้าหมายของเจ้าพวกคนทะเลสีฟ้าล่ะ?"ชูร่าถาม

     

    "เป้าหมายของพวกมันก็คือขุมทอง"เอเนลตอบ

     

    "ขุมทอง?"เกดาซถาม

     

    "ทำไม...พวกมันถึงรู้เรื่องนั้น?"โอมกล่าว

     

    "เดิมทีเกาะนี้เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลสีฟ้ามาก่อน ถ้าคนทะเลสีฟ้าจะรู้เรื่องนั้นมันก็ไม่น่าแปลก"เอเนลพูดพลางกินแอปเปิ้ล"พรุ่งนี้น่าจะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว พวกแชนเดียร์เองก็คงบุกมาอีกครั้ง ที่อัปเปอร์ยาร์ดแห่งนี้มีเอเรียส่วนตัวของพวกแกอยู่ ก็เลยตั้งกฎขึ้นมาว่าห้ามรุกล้ำแดนของกันและกัน พรุ่งนี้ฉันจะปลดปล่อยอาณาเขตทั้งหมดให้พวกแก อยากจะใช้บททดสอบตรงไหนก็ตามสะดวก อาละวาดได้เลยไม่ต้องไปสนใจกฎอีก"

     

    "ทำไมต้องรีบร้อนขนาดนั้นด้วย?"เกดาซถาม

     

    "ที่จริงมันเกือบจะสมบูรณ์อยู่แล้ว แม็กซิมน่ะ รีบจัดการธุระบนเกาะนี้ให้เสร็จๆแล้วออกเดินทางดีกว่า ไปสู่โลกแห่งความฝัน"

     

    ___________________

     

     

    กันโฟลกำลังนอนอยู่มองกลุ่มหมวกฟาง ลูฟี่กำลังใช้หมาป่าเป็นหมอนกอด โซโลกำลังนอนกับดาบของเขา ซันจิกับช็อปเปอร์ใช้รากไม้เป็นเตียง นามิกับโรบินหลับไปในอ้อมแขนคิรัวร์ในเต็นท์ เซียร์นอนอยู่ในเต็นอีกหลังนึง

     

    "คนพวกนี้ถึงกับจัดการซาโตริและชูร่าได้"กันโฟลคิดในใจ"เท่ากับประกาศเป็นศัตรูต่อเอเนลอย่างสมบูรณ์ แล้วก็แชนเดียร์เองก็คงไม่พลาดโอกาสนี้แน่ เอเนล แกกำลังต้องการอะไรกันแน่?"

     

    ___________________________

     

    ไวเปอร์นั่งอยู่คนเดียวนอกแคมป์ของแชนเดียร์ กองไฟหน้าเขาดับไปนานแล้ว แต่เขายังนอนไม่หลับคิดถึงแผนโจมตีในเช้าวันนี้

     

    "เป็นโอกาสที่เหมาะจริงๆ วันนี้แหละจะต้องบุกถล่มตำหนักเทพให้ได้เลย แล้วก็จัดการเอเนล"

     

    __________________________

     

    คิรัวร์ตื่นขึ้นมาตอนพระอาทิตย์ เขามองสาวที่นอนเปลื่อยอยู่ข้างๆเขา

     

    "อืม!!!โรบินขณะยืดตัวขยี้ตาเหมือนแมวพึ่งตื่นนอน

     

    "ขอโทษ"คิรัวร์หลบหน้า

     

    "ไม่เป็นไร เธอมองฉันได้"โรบินกล่าว

     

    "อืม"

     

    "สวัสดีตอนเช้าคิรัวร์คุง"โรบินจูบแก้มเขา

     

    โรบินมีความสุขกับเรื่องเมื่อคืน เธอจะไม่เสียใจและเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำดีๆ

     

    "คือว่า--"

     

    "ไม่ต้องพูด เมื่อคืนเป็นความต้องการของฉันและเราสนุกกับมัน"โรบินกล่าว

     

    "แต่ว่า--"คิรัวร์จะแย้ง ทำให้โรบินพูดเสียงข่มขู่เด็กน้อยของเธอ

     

    "เธอสนุกกับเมื่อคืนนี้มั้ย"

     

    "ใช่"คิรัวร์พยักหน้า

     

    "ฉันก็เหมือนกัน"โรบินกล่าว"เธออาจจะคิดว่าเป็นเซ็กส์เฟรนก็ได้"

     

    "เธอพูดเหมือนง่ายๆ"คิรัวร์คิดในใจ

     

    "ถ้าเธอไม่ต้องการเป็นอะไรกับฉันมากกว่าเพื่อนสนิท ฉันจะไม่ว่าอะไร"โรบินกล่าวแม้จะเศร้าเล็กน้อย

     

    คิรัวร์นิ่งเงียบ

     

    "ฉันจะไม่ทำให้เธอต้องมีภาระ"โรบินให้เหตุหผล"เธออายุแค่16ปีและเป็นฉันเองที่โดดเข้าหาเธอ"

     

    โรบินหน้าแดงระเรื่ออาย ดูน่ารัก

     

    "เธอไม่ต้องรับผิดชอบ"โรบินกล่าว"เธอก็แค่สนุกกับเรือนร่างฉัน"

     

    "ฉันชอบเธอโรบิน"คิรัวร์กล่าว"และไม่คิดจะมองเธอเพราะแค่รูปร่างหน้าตา"

     

    "เขาจะทำให้ฉันรักมากขนาดไหน"โรบินคิดในใจด่าทอเขา

     

    "ขอบคุณ"โรบินกล่าว"มาเถอะ เราต้องรีบไปรวมกลุ่มไปก่อนคนอื่นเห็นเราหายไป"

     

    "ถ้างั้นอาบน้ำก่อน"คิรัวร์ยิ้มมองแม่น้ำ

     

    ทั้งสองไปอาบน้ำกันที่แม่น้ำ คิรัวร์จัดการสัตว์ที่เข้ามาขวางและจัดกันไปอีก2ครั้งก่อนจะเช็ดตัวให้สะอาด

     

    คิรัวร์กับโรบินเดินกลับมารวมกลุ่มตอนที่ทุกคนเริ่มตื่นนอนดูไม่ผิดสังเกต

     

    ทุกคนได้เดินมาที่แท่นบูชาและพบเรื่องน่าประหลาดใจ

     

    "ดูสิ อย่างที่บอกเลยเห็นมั้ย ตรงนี้มีใครอยู่ด้วย"อุซปกล่าว

     

    ทุกคนมองเรือโกอิ้งแมรี่ที่ถูกซ่อมแซมแล้ว เสากระโดงเรือถูกเอากลับไปติดและใช้เหล็กตอกยึดไว้

     

    "เรือโกอิ้งแมรี่ซ่อมเสร็จแล้วนี่!!"กลุ่มหมวกฟางเกือบทุกคนพูด

     

    "ฉันเห็นมันจริงๆ ไม่ได้ฝันไปจริงๆด้วย"อุซปพูดแล้วร้องไห้

     

    "ขนาดเสากระโดงเรือที่โดนหัก ยังซ่อมให้ซะเรียบร้อย"นามิจับดูเสากระโดงเรือ

     

    "จริงด้วย ลำพังแค่เอาของหนักๆแบบนี้มาตั้งได้ก็แทบแย่แล้ว"โรบินกล่าว

     

    "ไม่อยากจะว่าหรอกนะ แต่"ซันจิมองการซ่อมแซม"ฝีมือห่วยชะมัด"

     

    "มีคนดีๆอยู่ด้วยแฮะ"ลูฟี่กล่าว"ฮิๆๆๆ"

     

    "มีอยู่จริงๆรึเนี่ย ฉันเห็นเข้าซะแล้ว"อุซปพึมพำ

     

    "ว่าแต่ แถวนี้ยังจะมีใครใจดีมาซ่อมเรือให้พวกเราอีก?"โซโลถามเรื่องที่น่าสงสัยที่สุด"ที่อัปเปอร์ยาร์ดนี่ นอกจากพวกเราก็มีแต่ศัตรูทั้งนั้น"

     

    "ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม เขาเอาปีกและหางทิ้งไป"คิรัวร์กล่าว"น่าสงสัยนะ?"

     

    ปีกที่กลุ่มสหพันธ์ลิงภูเขาทำไว้ให้สำหรับบินขึ้นมาบนท้องฟ้าหายไปแล้ว ทำให้มีรูปร่างเหมือนเรือแมรี่แบบเดิม

     

    "นั่นสินะ"อุซปบอกเขา"ทำไมคนที่ช่วยซ่อมเรือให้เราถึงรู้จักรูปร่างเดิมของแมรี่ได้นะ?"


    "ที่อุซปเห็นมันใครกันล่ะ?"ช็อปเปอร์ถามขณะเหวี่ยงตัวบนเชือกไปมา

     

    "คิดยังไง ก็เป็นแค่ความฝันของหมอนั่นแหละ"โซโลพูดก่อนช็อปเปอร์จะปล่อยเชือกพุ่งมาโดนหน้าโซโล

     

    "พวกนายมัวอู้อะไรอยู่ได้"นามิบอกพวกเขา"มีเรื่องต้องทำอีกเยอะแยะเลยไม่ใช่เหรอ"

     

    "นามิ ไม่รู้สึกคาใจบ้างเหรอ?"ช็อปเปอร์ถาม

     

    "อะไรล่ะ?"นามิขมวดคิ้ว

     

    "ว่าคนที่ซ่อมเรือโกอิ้งแมรี่ให้เราเป็นใคร?"ช็อปเปอร์ลงมาจากหน้าโซโล

     

    "ถ้าเรือถูกทำลายก็ว่าไปอย่าง แต่ถ้าช่วยซ่อมให้ก็ไม่มีปัญหาหรอก หรือว่าเธอคิดจะออกตามหาคนซ่อมแล้วไปพูดขอบคุณเขา?"นามิถาม

     

    "ไม่ใช่อย่างงั้น"ช็อปเปอร์ตอบ

     

    "ทำไมถึงรู้ได้นะ?"อุซปนึกไปถึงเงาที่เขาเห็นมองหัวเรือแกะของแมรี่"นี่แมรี่ ใครเป็นคนซ่อมเรือให้เหรอ?"

     

    _____________________

     

    หลังจากนั้นคิรัวร์ ช็อปเปอร์และอุซปกำลังแล่นเรือการาสุมารุไปรอบๆแท่นบูชายัญ


    "คิรัวร์คุมอสูรทะเลพวกนี้ไม่ได้รึไง?"โซโลถาม


    "นี่ไม่ใช่ทะเลสีฟ้า ที่นี่คือทะเลขาวอยู่นอกอำนาจของชาวแอตแลนติส"โรบินอธิบาย

     

    "ฟังนะ จะเอาเรือแมรี่ลงมาจากแท่นบูชายัญ คอยดูฝีมือของกัปตันอุซปคนนี้ให้ดีๆแล้วกัน"

     

    "ส่วนฉันคือรองกัปตันที่จะช่วยเอาแมรี่ลงมาจากแท่นบูชายัญ รับรองว่าพึ่งพาได้แน่"ช็อปเปอร์

     

    "คิดจะทำอะไรน่ะอุซป?"นามิร้องถาม


    "ดีล่ะ ช็อปเปอร์"

     

    "ครับ"

     

    อุซปย้ายไปที่ข้างเรือใช้อุซปโห่ฮี้โฮ่ ตะขอเชือกพุ่งไปเกี่ยวกับคอหัวเรือแมรี่ มันวนรอบสามครั้ง ก่อนตะขอจะเกี่ยวยึดกับเชือก

     

    "สำเร็จแล้ว ไปเลย!!!"คนอื่นยกเว้นโรบินร้องเชียร์

     

    "ช็อปเปอร์ ความเร็วสูงสุด"อุซปกล่าว

     

    "สุดยอด สุดยอดอุซป"ช็อปเปอร์บังคับพวงมาลัยและเหยียบเร่งความเร็ว

     

    การาสุมารุเร่งความเร็วไปด้านหน้าเต็มกำลัง กลุ่มหมวกฟางมองอย่างลุ้น แต่แล้วหัวการาสุมารุก็พังลงเพราะทนแรงดึงไม่ไหว

     

    "ไม่ไหวละมั้งอุซป"ช็อปเปอร์ถอดใจ

     

    "นายมีแผนอะไรมั้ย?"คิรัวร์ถาม

     

    "แน่นอน"อุซปยืนยัน"นึกอยู่แล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ ก็เลยเตรียมแผนลับเอาไว้ด้วย"

     

    "งั้นเหรอ แผนแบบไหนล่ะ?"ช็อปเปอร์ถาม

     

    "แถวนี้มีฉลามท้องฟ้าตัวใหญ่อยู่ใช่มั้ยล่ะ"อุซปกล่าว

     

    "มีสิ ยั่วเยี้ยเลยล่ะ"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "เราต้องอาศัยพลังของพวกมันให้เป็นประโยชน์"อุซปกล่าว

     

    "พลังของฉลามท้องฟ้า อื้อ พวกมันมีพลังมหาศาลจริงๆด้วย ฉันเคยเห็นกับตามาแล้ว"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "ไม่หรอก"คิรัวร์รู้ว่าอุซปจะทำอะไร

     

    "นี่ช็อปเปอร์ ฉันมีเรื่องจะต้องพึ่งนายด้วย"

     

    "อะไรก็บอกมาได้เลย"ช็อปเปอร์ยอมรับ"อะไรก็ว่ามา"

     

    "งั้นเหรอ พูดได้ดีมาก"

     

    ____________________

     

    เวลาต่อมาช็อปเปอร์ก็โดนจับเป็นเหยื่อปลาหลังเรือการาสุมารุ

     

    "อุซป อย่าบอกนะว่าฉันต้องเป็นคน?"ช็อปเปอร์ถาม

     

    "ฝูงฉลามที่กำลังหิวโหย มันต้องอยากเขมือบนายแน่ๆ"อุซปพูดอย่างมั่นใจ

     

    "ใช้ฉันเป็นเหยื่อล่อเหรอ?"ช็อปเปอร์พูดร้องไห้"ไม่เอาๆ ไม่อยากเป็นเหยื่อ ไม่อยากโดนเขมือบ"

     

    "ไม่ต้องห่วงช็อปเปอร์ ฉันจะระวังไม่ให้พวกมันกินนาย"คิรัวร์ยืนอยู่ที่ด้านหลังเรือเลยอยู่ใกล้ช็อปเปอร์

     

    "ซ่า!!!!"ครีบปลาฉลามยักษ์โผล่มาแว็บนึง

     

    "จ๊าก!!!!!!!!"ช็อปเปอร์กรีดร้องเมื่อเห็นครีบปลาฉลามโผล่มาและพุ่งมาทางนี้

     

    "อุซป แผนนี้ต้องสำเร็จ"คิรัวร์เตือนอุซปเสียงเรียบ"ฉันไม่อยากให้ช็อปเปอร์บาดเจ็บโดยไม่ได้อะไร"

     

    "มันสำเร็จแน่นอน"อุซปบอกอย่างกลัวๆ

     

    "ซ่า!!!!"ฉลามโผล่พ้นน้ำจะกินช็อปเปอร์

     

    "ตอนนี้แหละซันจิ"อุซปบอกไปที่แท่นบูชายัญ

     

    ซันจิเตะตะขอขนาดใหญ่พุ่งมาเสียบทะลึหางปลาฉลามท้องฟ้า มันร่วงตกลงไปในทะเล

     

    "มาเลย ฉลามท้องฟ้า"อุซปเร่งการาสุมารุไปข้างหน้า

     

    ฉลามท้องฟ้าพุ่งไล่ตามเหยื่อมา ขณที่เรือโกอิ้งแมรี่เริ่มขยับเพราะพลังของมัน โกอิ้งแมรี่เลื่อนลงมาตามบันได


    "อย่านะ!!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

     

    "ไม่ต้องห่วงช็อปเปอร์ มันเกือบจบแล้ว

     

    โซโลเข้าไปตัดสายเชือกที่ผูกฉลามติดกับเรือ

     

    ฉลามบินผ่านช็อปเปอร์และการาสุมารุและกลับลงไปในทะเล และเรือแมรี่ลงน้ำอย่างสมบูรณ์

     

    "สำเร็จ อุซปเยี่ยมมาก"กลุ่มหมวกฟางร้อง

     

    "แหม่ เรื่องแค่นี้เอง"อุซปกล่าว

     

    "อา!!..."ช็อปเปอรช็อคสลบไปชั่วครู่ก่อนจะตื่นขึ้นมาเห็นฉลามพุ่งมาอีกตัว"ไม่เอา!!!!"

     

    ______________________

     

    "เอาล่ะ ดูแผนที่ก่อน ทีมค้นหาไปตามเส้นทางนี้"นามิวนนิ้วที่แผนที่ตรงไปทางใต้เรื่อยๆ ที่ตาขวาจะต้องมีโบราณสถานอยู่แน่ เพราะงั้นยังไงก็ระวังศัตรูให้ดี แล้วเอาขุมทองกลับมาให้ได้ล่ะ"

     

    "เธอนี่พูดง่ายจังนะ"โซโลกล่าว

     

    "เรื่องสำรวจซากโบราณสถานพวกเราจัดการเอง"โรบินกล่าว

     

    "แล้วไม่มาด้วยเหรอ?"โซโลถาม

     

    "ไม่ดีกว่า ฉันเหนื่อยกับเดินป่าแล้ว"นามิหาข้ออ้าง

     

    "อยากได้นัก ทำไมไม่ไปหาเอง?"โซโลถาม

     

    "แหงสิ ก็มันน่ากลัวนี่"นามิพูดง่ายๆ

     

    "อยากได้ขุมทองแต่ไม่อยากเสี่ยงอันตรายรึเนี่ย!นามิแย่มาก นิสัยเสีย"ช็อปเปอร์ก็พึมพำขึ้นมา

     

    "ว่ายังไงนะ?"นามิถาม

     

    ช็อปเปอร์รีบส่ายหัว

     

    "ยัยจอมโลภเอ๊ย"โซโลบ่น

     

    "อย่ามาว่าคุณนามินะ!!!"ซันจิตะโกน

     

    "ระหว่างนั้นพวกเราจะออกจากเกาะนี้ด้วยเรือโกอิ้งแมรี่ เราเองก็เสี่ยงเหมือนกัน แล้วค่อยมาสมทบกันตรงนี้นะ"นามิลากเส้นทางหนีจากเกาะ"จากนั้นก็หนีออกจากเกาะท้องฟ้าด้วยกันเลย ที่นี้พวกเราก็เป็นโจรสลัดเศรษฐีแล้ว อยากซื้ออะไรก็ซื้อได้สบาย"

     

    "ไชโย กินเนื้อได้ตามใจชอบแล้ว"ลูฟี่กล่าว

     

    "หนีงั้นเหรอ...ดีแล้วล่ะ"


    "ไม่เป็นเหยื่อแล้วนะ"ช็อปเปอร์ร้อง

     

    "ดูสิ ท้องฟ้าแจ่มใส"อุซปร้อง

     

    "ก็อยู่บนเมฆนี่นา"ซันจิกล่าว

     

    "งั้น ไว้เจอกันที่ชายฝั่งทางตะวันออกนะ"

     

    "ดีล่ะ ไปกันเลยมั้ย?"

     

    "ฮื่อ!!!!"

     

    และหมวกฟางก็แยกกลุ่มกัน ลูฟี่ คิรัวร์ โรบิน เซียร์ โซโลและช็อปเปอร์ มุ่งหน้าสู่ป่าเพื่อหาขุมทอง นามิ วีวี่ อุซปและซันจิไปพร้อมกันโฟลและปิแอร์เพื่อนำเรือไปจุดนัดพบ

     

    ____________________

     

    กลุ่มหมวกฟางไม่ใช่พวกเดียวที่เคลื่อนไหว 4ผู้คุมกฎ เกดาซ เบอร์ก้า โอม และชูร่าได้ใช้เวลาทั้งคืนเตรียมพร้อมสำหรับบททดสอบ

     

    ชูร่าที่หมายจะแก้ความผิดตนได้กางบททดสอบเชือกไว้แล้ว

     

    "พวกที่จะรับบททดสอบเชือกของตน คือพวกแชนเดียร์หรือคนทะเลสีฟ้า?"

     

    เอเนลนั่งอยู่บนบัลลังก์จอมเทพ

     

    "เป็นวันที่เหมาะกับงานฉลอง ที่กำลังจะเริ่มขึ้นจากนี้จริงๆ"

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×