NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One piece Another Nakama 2

    ลำดับตอนที่ #74 : ม็อคทาวน์(RE2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.5K
      52
      12 ก.พ. 62


    "อุซปยังอีกเหรอ?"ลูฟี่ถาม

     

    "เออ ยังมองไม่เห็นเลย"อุซปกล่าว

     

    "มันไม่ไกลขนาดนั้นไม่ใช่เหรอ? เจ้าเกาะจายานั่นน่ะ"โซโลกล่าว

     

    "นั่นสิ สภาพอากาศเมื่อกี้ก็โอเคตลอดนี่นา น่าจะเข้าใกล้พื้นที่ของเกาะแล้วล่ะ"นามิกล่าว

     

    "ถ้าอย่างงั้นที่นั่นอากาศคงดีสินะ"ลูฟี่กล่าว

     

    "ฟังงี้แล้วรู้สึกดีจังเลย"ช็อปเปอร์พูดมองไปที่นกนางนวล"อากาศอย่างงี้ดีจังเลยนะ พวกนกนางนวลนั่นก็คงจะรู้สึกดีเหมือนกันนะเนี่ย"

     

    "ตุ้บๆๆ!!!"ทันใดนั้นนกนางรวลทั้ง3ก็ร่วงตกลงมาบนดาดฟ้า

     

    "อ๊า โดนยิงแล้วจ้า!!!!"ช็อปเปอร์รีบวิ่งไปดูนกนางนวล

     

    "งั้นก็เอาไปทำนกย่างกินเลย"ลูฟี่ออกความเห็น ไม่มีใครสนใจ

     

    "โดนยิงเหรอ ฉันไม่ได้ยินเสียงปืนเลยนี่นา"อุซปที่อยู่บนเสากระโดงเรือกล่าว

     

    "นี่ไงลูกปืนน่ะ"ช็อปเปอร์หยิบกระสุนที่โดนนกนางรวลออกมาให้ดู"ดูจากทิศทางปืนแล้วมันมาจากทางโน้นน่ะ"

     

    ช็อปเปอร์ชี้ไปทางหน้าเรือ

     

    "ฉันไม่เห็นอะไรเลยนอกจากท้องฟ้าและมหาสมุทร"เอลซ่ากล่าว

     

    "ยังมองไม่เห็นเกาะเลยนี่ จะไปยิงโดนได้ยังไง ช็อปเปอร์มันเป็นไปไม่ได้หรอก"นามิเดินมาหน้าเรือพูดขึ้น

     

    "นายจะบอกว่ามีคนยิงจากเกาะที่เรายังไม่เห็นเหรอ ไม่มีทางหรอกน่า"อุซปเสริม

     

    "แต่ว่าฉันดูอยู่ตลอดเลยนะ"ช็อปเปอร์ยังเถียง

     

    "ฮะๆๆ ถ้างั้นเขาใช้ปืนอะไร มองยังไง ใช้ความสามารถอะไรในการยิง แค่ยิงมั่วๆแล้วก็ฟลุ๊คโดนแค่นั้นเองแหละน่า"อุซปกล่าว

     

    "ซันจิทำนกย่างที"ลูฟี่ยื่นนกนางนวล2ตัวที่ตายแล้วให้ซันจิ

     

    ช็อปเปอร์ได้แต่เงียบมองไปด้านหน้าเรือ

     

    _______________________

     

    ไม่มีใครรู้ว่าช็อปเปอร์พูดถูก จายาอยู่เลยเส้นขอบฟ้าไป

     

    บนหลังคาบ้านหลังเล็กๆ มีชายร่างผอมสวมแว่นตาเลนเป้าใหญ่ที่ตาซ้ายและสวมชุดสีน้ำเงิน ถือปืนยาวผิดปกติไว้กระบอกนึงที่มีควันเพราะพึ่งยิงไป ใกล้ปากกระบอกมีเป้าเล็งช่วยขยายระยะยิง

     

    "น่าสงสาร"มือปืนพูดขึ้นมา"น่าเสียดายนะ มีตัวนึงที่ไม่ยอมตาย แต่การที่ตัวนั้นยังรอดอยู่ได้เนี่ย เพราะว่าวันนี้เป็นวันโชคดีของเจ้านะ"

     

    ________________________

     

    ไกลออกไปที่ร้านบาร์ไวท์เชอรี่ ชายสองคนกำลังนั่งเล่นไพ่ คนร่างผอมโชไพ่ออกมาให้ดู

     

    "เท่านี้เงินที่อยู่ในมือของนายก็เป็นศูนย์แล้วนะ"ชายร่างสูงใหญ่ ผมสีเทาและสวมที่คาดหัวสัญลักษณ์คนโดนแขวนคอ เป็นโจรสลัดโรชิโอนั่นเอง"ที่เหลือจะเอาเสื้อผ้ามาเดิมพันมั้ยล่ะ"

     

    "โชคไม่ดีเลยนะนายเนี่ย ถ้ารู้ชื่อหมอนั้นละก็ไม่ว่าจะเป็นใครก็เอาชนะไม่ได้หรอก"

     

    "โทษทีนะขอเงินทั้งหมดนี้ไปละนะ"โรชิโอยื่นมือไปหยิบเงิน แต่แล้วชายที่เล่นไพ่ด้วยคว้ามือของเขาไว้"ปล่อยซะทีน่า แกแพ้แล้วนะ"

     

    "กึกๆๆ"ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามบีบแขนโรชิโอแน่นทำให้เขาเจ็บ

     

    "แกน่ะเมื่อกี้เล่นโกงใช่มั้ย"

     

    "อะไรของแก ข้าน่ะรึจะโกง"

     

    "เออสิ แกน่ะเล่นโกงเมื่อกี้นี้"

     

    "อย่ามาพูดพล่อยๆนะเจ้าเด็กน้อย"

     

    "ซาคีส!!!"เขาเรียกชายที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบาร์

     

    "หือ อะไร?"ชายที่นั่งอยู่ตรงบาร์เทนเดอร์โอบแขนรอบแฟนสาวเขา มีผมสีฟ้า สวมแว่นกันแดดสีม่วงและเสื้อคลุมขนสัตว์หันมามองทางนี้ สัญลักษณ์ที่หน้าอกขวาเป็นหัวกะโหลกทรงวงกลมมีรอยโดนตัดแทยงมุม

     

    "แกก็เห็นใช่มั้ย

     

    "โกงเหรอ? ใช่สิ เจ้านั้นมันเล่นโกงนี่นา"ซาคีสหันมามองทางนี้

     

    "เงียบไปเลย ข้าน่ะเป็นใครรู้เปล่า!!!"โรชิโอชักปืนออกมา

     

    ก่อนที่โรชิโอจะยิงก็โดนฝ่ายตรงข้ามเตะใส่กระเด็น ปืนหลุดมือกระสุนลั่นไปโดนหน้าต่างด้านหลัง โรชิโอกระเด็นกระแทกหน้าต่างตกลงไปด้านล่าง

     

    "ตึง!!!!"โรชิโอกระแทกโดนเกวียนด้านล่างพังเละ

     

    ชายที่จัดการโรชิโอยืนอยู่ที่หน้าต่าง เขาเป็นชายผิวน้ำตาล มีผมสีทองสั้น มีแผลรอยถูกเย็นบนหน้าผากและแลบลิ้นออกมา เขาคือไอ้หมาบ้าเบรามี่ กัปตันกลุ่มโจรสลัดเบรามี่ที่มีค่าหัว55ล้านเบรี

     

    "ฮะๆๆๆ"

     

    ______________________

     

    ในที่สุดกลุ่มหมวกฟางก็แล่นเรือมาเข้าใกล้ฝั่งม็อคทาวน์บนเกาะจายา

     

    "โห แจ๋วไปเลย มองเห็นเรือโน้นแล้ว"ลูฟี่ร้อง

     

    "โอ้โหยังกับรีสอร์ทไม่มีผิดเลยแฮะ"อุซปกล่าว

     

    "รีสอร์ทเหรอ?"ช็อปเปอร์ร้อง

     

    "ไปเรื่อยๆเลยแมรี่"ลูฟี่กระตือรือร้นจะเข้าไปในเมือง

     

    "จริงด้วย อยากจะเข้าไปเดินเที่ยวพักผ่อนให้สบายๆจัง"นามิกล่าว

     

    "ฉันว่าเราคงไม่มีโอกาสหรอกนะ"คิรัวร์มองไปที่เรือลำอื่นๆ"เรือที่จอดอยู่ทั้งหมดเป็นเรือโจรสลัด"

     

    "ไม่มีทางน่า"นามิหัวเราะฝืนๆ"เรือโจรสลัดจะไปจอดอยู่ในท่าแบบนั้น--"

     

    "ช่วยด้วย ฉันยังไม่อยากตาย!!!!!"เสียงร้องในเมืองดังขึ้น

     

    "นี่มันเมืองอะไรกันเนี่ย!!!!"ช็อปเปอร์ นามิ และอุซปร้องไห้

     

    ________________________

     

    นักสู้คนนึงยืนอยู่เหนือคนของกลุ่มโจรสลัดโรชิโอ

     

    "ฮ่าๆๆๆ ช่างอ่อนแอจริงๆ"ชายร่างใหญ่บอกกับชายที่เขาซัดหมอบ เขาเป็นชายร่างใหญ่เป็น2เท่าของคนปกติ มีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่ ขาของเขาผอมถ้าเทียบกับขนาดของแขน ทำให้ดูเหมือนกอริลลา สวมผ้าคาดหัวสีม่วงเข้มปิดหน้าส่วนบนโผล่แค่ตาและสวมที่คาดเข็มขัดเหมือนเป็นแชมเปี้ยน

     

    "เฮ้ หมอนี่มันคนของกลุ่มโรชิโอค่าหัว42ล้านเบรีเชียวนะ เมื่อกี้ฉันเห็นคนที่เล่นไพ่ชนะโรชิโอถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาเลยนะรู้มั้ย ถ้าเจ้านั้นรู้เข้าละก็นายระวังตัวให้ดีก็แล้วกัน"ชายคนนึงเตือน

     

    ________________________

     

    เบรามี่กำลังนั่งดื่มในบาร์กับซาคีสและแฟนสาวของเขา

     

    "เรานั่งดูเมื่อกี้ มีการโกงซะที่ไหนกันล่ะ"

     

    "เจ้าคนที่จัดการโรชิโอได้นี่มัน"

     

    "ไอ้หมาบ้าเบรามี่ไง"

     

    "เจ้านั้นเหรอเบรามี่ ค่าหัว55ล้านเบรีเนี่ย หมาบ้าเบรามี่เนี่ยนะ"

     

    บนถนนด้านล่างโรชิโอไม่ขยับหลังตกลงไปกระแทกรถเกวียน

     

    "กัปตัน"

     

    "ใครเป็นคนทำกัปตันเนี่ย กัปตัน"

     

    "เรียกหมอมาดีกว่านะ หมอมาเร็วเข้าหมอ"

     

    เบรามี่ได้ยินจากด้านบนบาร์แล้วกระโดดลงจากชั้น5ลงไปที่ถนนด้านล่าง เขาไม่ปล่อยให้ศัตรูที่แพ้เขาไปแล้วมีโอกาสได้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม

     

    _____________________

     

    เรือแมรี่กำลังเข้าไปใกล้ท่าเรือ ขณะที่คิรัวร์พึ่งอาบน้ำเสร็จและสวมกางเกงกำลังจะใส่เสื้อ

     

    "ก็อกๆๆๆ"มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น"ว่าไง?"

     

    คิรัวร์หันไปมองและเห็นโรบินยืนอยู่หน้าประตู เขาหน้าแดงเพราะไม่ได้ใส่เสื้อและนักโบราณคดีสาวกำลังจ้องมาที่เขา

     

    "อะไรทำให้เธอมาที่นี่?"คิรัวร์พึมพำหันไปมองเธอ"ชอบที่เห็นไหม?"

     

    "ไม่....เธอเป็นคนเจ้าชู้เหรอ?"โรบินถาม

     

    "เรื่องเจ้าหญิงสินะ ผู้ชายก็อย่างงี้แหละ แต่อย่างน้อยไม่เท่าไอ้กุ๊กหื่นนั่นหรอก แต่เธอสำคัญที่สุดนะ"คิรัวร์พูดยิ้มแล้วโรบินอายเล็กน้อยแต่เก็บอาการไว้

     

    "แล้วมีอะไร?"คิรัวร์ถาม

     

    "ฉันจะไปซื้อของ อยากจะไปด้วยไหม?"โรบินชวน

     

    "แน่นอน"คิรัวร์ยิ้มออกมา

     

    เมื่อคิรัวร์แต่งตัวเสร็จแล้วเดินลงมาจากเรือพร้อมคนอื่นๆ

     

    "โอ้โห มีคนแปลกๆเพียบเลยนี่นา"ลูฟี่กล่าว

     

    ตอนนี้ลูฟี่ โซโล คิรัวร์และโรบินลงมาที่ท่าจอดเรือ ตอนนี้คิรัวร์สวมเสื้อสูทสีดำและหมวกสีดำเหมือนมาร์เฟีย โรบินสวมเสื้อสีม่วง

     

    "เมืองนี้น่าสนุกดีนี่"โซโลกล่าว

     

    "แยกกันไปหาข้อมูลแล้วกัน"คิรัวร์กล่าว

     

    "ตลกน่า คิดเหรอว่าเจ้าสองคนนั้นจะกลับมาโดยที่ไม่ก่อเรื่องได้อย่างงั้นเหรอ"นามิมองลูฟี่กับโซโลอย่างกังวล วีวี่ก็น่าห่วงไม่น้อยเพราะเห็นเรื่องผิดๆเป็นไม่ได้

     

    "เออนี่ ดูจากสภาพเมืองแบบนี้แล้วเนี่ย คงจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยแฮะ"อุซปกล่าว

     

    "ถ้างั้นปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้"นามิโดดลงจากเรือ"ไปเถอะวีวี่"

     

    "เอ๋ คะ"วีวี่รีบตามลงไป

     

    "เฮ้ยนามิ วีวี่!!!"อุซปร้อง

     

    "รอด้วยลูฟี่ โซโล"นามิกับวีวี่วิ่งตามลูฟี่กับโซโลไป

     

    "ไปซะแล้ว"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "มี3คนนั้นอยู่คงไม่เป็นไรหรอก"อุซปกล่าว

     

    "ถ้าคุณนามิ วีวี่จังและโรบินจังไปผมก็ไปด้วย"ซันจิจะลงไปอีกคน

     

    อุซปกับช็อปเปอร์ต่างผลักซันจิไม่ให้ลงจากเรือ

     

    "นายห้ามไปนะ"อุซปร้อง

     

    "อะไรเล่าปล่อยนะ"ซันจิสะบัดขาแต่พวกเขาเกาะแน่น

     

    "ไหวล่ะอย่าไปเลยนะ"ช็อปเปอร์

     

    "ถ้านายไปละก็เรือลำนี้โดนโจมตีจะทำยังไง แถมที่นี่ยังมีเซียร์อยู่นะ"อุซปร้องหาข้ออ้าง ถึงแม้เซียร์จะช่วยคุ้มกันเรือได้ก็ตาม

     

    "เออ รู้แล้ว ปล่อยได้แล้ว"ซันจิกล่าวหันไปมองหญิงสาวคนเดียวบนเรือ"ถ้างั้นระหว่างรอมาดื่มชากันไหมครับเซียร์จัง"

     

    "ฉันจะไปยกน้ำหนักที่ห้อง อย่ามารบกวนนะ"เซียร์เดินไปที่ห้องผู้หญิง

     

    มีความเงียบในหมู่ชาย3คน โดยเฉพาะซันจิที่ผู้หญิงทิ้งไปหมด

     

    "ซันจิชาล่ะ?"อุซปถามขึ้น

     

    "ชงเองสิ"ซันจิตอบ

     

    _______________________

     

    "ฉันสาบานว่าจะไม่ก่อเรื่องในเมืองนี้เด็ดขาด"ลูฟี่กล่าว

     

    "ดีมาก ห้ามจริงๆนะทั้งคู่เลย"นามิย้ำ

     

    "อื่อ"ลูฟี่กล่าว

     

    "เออ"โซโลกล่าว

     

    "อะไร ตอบแบบไม่ใส่ใจแบบนี้เหรอ พวกเธอเนี่ยถ้าก่อเรื่องขึ้นมาละก็จะไม่สามารถอยู่ที่เมืองนี้ต่อได้นะ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ไม่รู้วิธีไปเกาะแห่งท้องฟ้ารู้มั้ย"นามิกล่าว

     

    "เออ"ลูฟี่ตอบ

     

    มีชายล้มลงจากม้าด้านหน้า เขาเป็นชายสวมหมวกดำ ผมสีบลอนด์อ่อนๆและจมูกที่ยาวกว่า2เท่าของคนปกติ สีหน้าดูซีดเหมือนคนป่วยหนัก

     

    "อะไรน่ะ?"นามิถาม

     

    "ดูสิตกม้า"ลูฟี่กล่าว

     

    "เออตกม้า"โซโลกล่าว

     

    "เป็นอะไรไหมคะ"วีวี่ถามอย่างเป็นห่วง

     

    "อา โทษทีพวกนายน่ะช่วยยกฉันขึ้นมาทีเถอะ"คนป่วยพูด

     

    "ไม่มีแรงจะลุกเองรึไง?"โซโลถาม"ลูฟี่ เอ้า"

     

    ทั้งสองไปยืนคนละด้านจับชายป่วยโยนขึ้นไปนอนบนบังเหียนม้าสีขาว

     

    "โทษทีนะ ได้ขึ้นสักที ฉันน่ะตั้งแต่เกิดมาก็ร่างกายอ่อนแอแล้ว ไปกันเถอะสตรองเกอร์"

     

    ม้าที่ป่วยเหมือนเขาหน้าล้มลงพื้น

     

    "ม้าก็เหมือนกันเหรอเนี่ย"ลูฟี่กับโซโลกล่าว

     

    ทั้งสองดึงม้าสตรองเกอร์ขึ้นมา

     

    "ลำบากหน่อยนะ เอ้านี้แทนคำขอบคุณ"ชายหนุ่มยิ้มกว้างเอาตะกร้าแอปเปิ้ลให้พวกเขาหยิบไปกิน

     

    "เอ่อ ไม่ดีกว่าคะ"วีวี่ปฎิเสธ มันดูน่าสงสัยและเธอไม่อยากรับของคนแปลกหน้า

     

    "น่าสงสัยเหลือเกิน จะไปไหนก็รีบไปซะ"โซโลกล่าว

     

    "เฮ้ย แอปเปิ้ลนี่นากินละครับ"ลูฟี่หยิบแอปเปิ้ลมาและกัดไปคำนึง

     

    "บรึ้ม!!!!!!!"เกิดระเบิดไกลออกไปทำให้มีรูทะลุกำแพงร้าน

     

    "เกิดอะไรขึ้นน่ะ?"นามิตกใจ

     

    "นั่นมันคนที่รับแอปเปิ้ลจากชายแปลกๆนั่นนี่นา พอกินแล้วละก็ระเบิดตูมเลย"

     

    "อึก"ลูฟี่กลืนแอปเปิ้ลลงท้อง

     

    "ฮี่ๆๆ"ชายป่วยหัวเราะออกมาเบาๆ

     

    "ไม่จริงน่า คุณลูฟี่รีบคายออกมา ที่กินเมื่อตะกี้คายออกมาเดี๋ยวนี้เลย!!!!"วีวี่ตะโกน

     

    "ฉันกลืนเข้าไปแล้ว"ลูฟี่ตอบ

     

    "แกเป็นใครกันแน่"โซโลถามจับดาบ

     

    “ฮะๆๆ ไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าพลาดละก็กัดคำเดียวก็ไปโลกโน้นแล้วล่ะ เจ้านี้น่ะโชคดีจริงๆนะเนี่ย”

     

    คนป่วยขี่ม้าเดินจากไป

     

    _______________________

     

    ที่ร้านไวท์เชอรี่มีสภาพเหมือนโดนปืนใหญ่ยิงเข้ามา ฝูงชนมาชุมนุมกันที่ถนนหน้าร้าน

     

    “เฮ้ย นี่อะไรเนี่ย”

     

    “ศพของพวกโรชิโอ”ชายคนนึงกล่าว แม้โรชิโอจะเป็นโจรสลัดทีร้ายกาจแต่วิธีการที่เบรามีกำจัดพวกเขาก็น่ากลัว

     

    “ยังกับร่องรอยของสงครามอย่างงั้นแหละ”

     

    “จริงๆขนาดผู้ที่เห็นเหตุการณ์กับตาตัวเองยังไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นเลยละนะ ที่รู้ก็คือคู่ต่อสู้ของโรชิโอก็คือเบรามี่ที่อยู่ตรงนั้นไง”

     

    “หมาบ้าเบรามี่น่ะเหรอ?”

     

    “เออ”

     

    “เจ้านั้นน่ะจะต้องมีพลังของผลปีศาจอย่างแน่นอน”

     

    สิ่งที่เหลือไว้เพียงอย่างเดียวของโรชิโอคือผ้าโพกหัวเปื้อนเลือด

     

    _________________________

     

    “นี่มันอะไรกันแน่เนี่ยเมืองนี้”นามิพูดอย่างโมโห

     

    “น่า อย่าคิดมากสินามิ”ลูฟี่พูดขณะเอามือไว้หลังหัว

     

    “เธอนี่นะ เมื่อกี้เกือบจะตายอยู่แล้วนะ”นามิกล่าว

     

    “เออ มันก็จริงอยู่น่ะนะ”ลูฟี่กล่าว

     

    “อยากตายนักรึไงห๊ะ”นามิตะโกน

     

    “โอ้ ฮะๆๆๆ”ชายร่างใหญ่สวมหน้ากากที่เรียกตัวเองว่าแชมเปี้ยนอยู่บนหลังคาสูง

     

    นามิที่ปวดหัวกับเมืองนี้ไม่สนใจเดินจากไป แต่ลูฟี่กับโซโลไม่ได้ตามมา

     

    “หมอนั้นอีกแล้วเหรอเนี่ย”

     

    “มีคนซวยกี่คนแล้วละเนี่ย”

     

    “เจ้านั้นมันไม่ใช่คนที่มีค่าหัวซะด้วยสิ เป็นใครกันแน่นะ”

     

    “เอาเถอะน่า ไม่เห็นจะต้องรู้เลย ก็แค่อย่าไปยุ่งกับเจ้านั้นก็พอแล้ว เจ้าแชมเปี้ยนแห่งการต่อสู้นั่นน่ะ”

     

    “แชมเปี้ยน?”ลูฟี่กับโซโลหยุดเดินหันไปมอง

     

    “จะไปยุ่งกับมันทำไมกันเล่า”นามิตะโกนใส่พวกเขา”เมืองแบบนี้เนี่ยจะไปหาข่าวสารได้จริงๆน่ะเหรอ?”

     

    พวกลูฟี่เดินมาจนผ่านประตูทางเข้าที่เขียนว่า”ทรอปิคอล โฮเทล”

     

    “ที่นี่ล่ะเป็นไง?”โซโลถาม

     

    “อืม ท่าจะไม่ค่อยหนวกหูเท่าไหร่นะ”ลูฟี่แสดงความเห็น

     

    “แต่ว่านะที่นี่สวยจังเลย”นามิเดินผ่านมองดูโรงแรม”ถึงแม้เมืองมันจะแย่ไปหน่อย แต่ก็มีที่ดีๆแบบนี้เหมือนกันนะ”

     

    ตัวโรงแรมสร้างอยู่ริมทะเล ตัวอาคารเป็นหลังคาทรงสามเหลี่ยมเหมือนพวกวัดหรือราชวัง

     

    “ทะเลเนี่ยมีที่แบบนี่ด้วยเหรอ? อย่างกับรีสอร์ตกลางทะเลเลย”โซโลกล่าว

     

    “แต่ไม่มีคนเลยน่ะ น่าจะมีกลิ่นของอาหารอร่อยๆบ้างนะ”ลูฟี่กล่าว

     

    ตอนนั้นเองชายตัวเล็กมีหนวดสวมผ้าโพกหัวเดินเข้ามา

     

    “คุณลูกค้าครับ เข้ามาเองแบบนี้ไม่ได้นะครับ ตอนนี้โรงแรมของเราน่ะครับ คุณเบรามี่ได้ทำการจองเพียงผู้เดียวหมดแล้ว ลูกค้าคนอื่นน่ะไม่สามารถเข้าได้น่ะครับ ได้โปรดเถอะครับ”

     

    “ที่นี่เป็นโรงแรมอย่างงั้นรึ?”

     

    “ถ้าคุณเบรามี่มาเห็นเข้าละก็จะเกิดเรื่องได้นะครับ เพราะงั้นได้โปรดเถอะครับได้โปรด”

     

    “อะไรกันน่ะ เข้านิดหน่อยไม่เป็นไรเลย”

     

    “ใครกันน่ะเบรามี่เนี่ย?”

     

    “เฮ้ เกิดอะไรขึ้นน่ะ?”เสียงจากทางเข้าดังทำให้พนักงานสะดุ้ง คนที่เข้ามาคือซาคีสที่มีค่าหัว42ล้านกับแฟนสาวผมทองสวมแว่นกัแดด”อะไรกันน่ะพวกสกปรกพวกนี้ มาจากไหนกันเนี่ย”

     

    “คุณซาคีส ขอต้อนรับกลับครับ คือพวกนี้ก็คือ---“

     

    “ไม่ต้องพูดแล้วล่ะ รีบๆไล่ไปสิ รู้ไหมต้องเสียเงินเท่าไหร่เพื่อเช่าที่นี่มาทั้งหมด”แฟนของซาคีสตะโกน

     

    ซาคีสเดินเข้ามาหาลูฟี่ เขาตัวสูงใหญ่กว่าลูฟี่มาก

     

    “เพราะอย่างงี้แหละ กลับไปได้แล้วเจ้าเด็กบ้า”ซาคีสกล่าว

     

    “เฮ้ยนี้ ขอซัดเจ้านี้ให้กระเด็นหน่อยได้ไหม?”ลูฟี่ถาม

     

    “ไม่ได้”นามิร้อง

     

    “เฮอะ ฮ่าๆๆ จะอัดข้าคนนี้ให้กระเด็นอย่างงั้นเหรอ เป็นเด็กน่าสนุกดีนี่ ถึงงั้นก็เถอะท่าทางจะจนน่าดู เอ้า”ซาคีสโยนเงินในกระเป๋ามาโปรยลงพื้นด้านหน้าพวกเขา”เอาไปซื้อชุดดีๆใส่ซะไอ้หนู”

     

    “ซาคีสก็เสียของเปล่าๆน่า ให้พวกนี้เนี่ยนะ”

     

    “ฮะๆๆ ดูเหมือนเอาเงินไปทิ้งชักโครกนั่นแหละน่า”

     

    “เฮ้ ให้จริงอ๊ะ”ลูฟี่จะรับเงินไว้ก็โดนนามิดึงพาออกจากโรงแรมไป

     

    “ไปกันเถอะ มันไม่ตลกเลยนะทำแบบนี้”นามิกล่าว

     

    “อย่าดึงสิ!!!”ลูฟี่ร้อง โซโลตามหลังไปเงียบๆ

     

    “อะไรกัน ไม่ต้องการอย่างงั้นเหรอ ฮ่าๆๆๆ”ซาคีสเยาะเย้ย

     

    “ซาคีส ลิลลี่ อย่าไปดูถูกพวกนั้นมากเชียวนะ”

     

    เสียงดังมาจากชายผมทองสวมแว่นกันแดดที่นั่งอยู่กับคนที่เหลือของกลุ่มโจรสลัดเบรามี่

     

    “อะไร อยู่นั่นเองงั้นเหรอ”ซาคีสเดินเข้าไปหา

     

    “เจ้าพวกนั้นน่ะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อมาถึงที่นี่เชียวนะ”ชายสวมหมวกขาวเอาใบค่าหัวเก่าของลูฟี่ออกมา”ดูนี่สิ"

     

    เขาส่งใบค่าหัวไปให้หญิงสาวผมชมพูหางม้า

     

    “ถึงงั้นก็เถอะ เมื่อเปรียบเทียบกับเบรามี่แล้วก็แค่ขยะ”

     

    “พวกระดับกลางเนี่ยพยายามเต็มที่แล้วละนะ”

     

    “ก็รู้ๆอยู่ว่าพึ่งจะเริ่มต้นยุคสมัยใหม่ พวกแบบนี้มันเยอะ”

     

    “เห 30ล้านเชียวเหรอ ค่าหัวตอนนี้เนี่ย เอาเจ้านี้ให้เบรามี่ดูดีกว่า”ซาคีสดูใบค่าหัว

     

    ทางด้านคิรัวร์ และโรบินมาที่ย่านตลาดเพื่อหาซื้อเสื้อผ้าให้  พวกเขาถามหาข้อมูลเรื่องเกาะท้องฟ้าไม่กี่คน พวกเขาไม่รู้และบางคนก็บอกว่าพวกเขาบ้าและหัวเราะเยาะ

     

    โรบินไปหาซื้อชุดในร้าน ขณะที่คิรัวร์รออยู่ด้านนอก

     

    ตอนนั้นเองพวกเขาก็เห็นชายที่เรียกตัวเองว่าแชมเปี้ยนตะโกนบนหลังคา

     

    “หมอนั้นควรจะหุบปาก”คิรัวร์กล่าว

     

    “พวกแกจะไปไหน?”แชมเปี้ยนกระโดดลงพื้นมาเผชิญหน้าพวกเขา”อยากสู้ไหม?"

     

    “แล้วแกจะหุบปากไหม?”คิรัวร์ถาม

     

    “คิรัวร์คุงหยุดนะ”เสียงโรบินดังจากปากที่งอกขึ้นมาจากไหล่เขาพูดขึ้น"เรามาเพื่อหาข้อมูลนะ"

     

    “จะไปไหนก็ไป ฉันกำลังรอแฟนซื้อของอยู่”คิรัวร์กล่าว

     

    “ฉันเข้าใจแล้ว เป็นพวกขี้ขลาดหลบหลังกระโปรงผู้หญิงสินะ”แชมเปี้ยนพูดขึ้น”บางทีหลังชนะนายแล้วพวกเธอจะมากับฉัน”

     

    “เมื่อกี้แกพูดว่าอะไรนะ?”คิรัวร์ถาม

     

    “ฉันบอกว่าผู้หญิงของนายควรมากับลูกผู้ชายตัวจริง”แชมเปี้ยนกล่าว

     

    “พูดแบบนั้นอีกครั้งแล้วฉันจะฆ่านาย”คิรัวร์จ้องมันเขม็ง

     

    “เธอควรเลิกอยู่รอบๆเด็กผู้ชายที่ไม่รู้เรื่องผู้หญิงและไปกับลูกผู้ชายตัวจริง”แชมเปี้ยนกล่าว

     

    คิรัวร์ทนไม่ไหวจะชักดาบ แต่แล้วมีมืองอกมาจับแขนเขาไม่ให้ชักดาบออกมาได้

     

    “ฉันบอกให้หยุดไง”โรบินเดินออกมาจากประตูร้านพร้อม

     

    "คิดจะมีเรื่องกับเราเรอะ สนใจสู้กับฉันไหม" พูดขึ้นมา จ้องแชมเปี้ยนแววตานึกสนุก

     

    "ผลปีศาจแล้วก็จิตสังหารนี่ไม่เบาเลย"แชมเปี้ยนคิดในใจแล้วเดินจากไป

     

    “รู้จักปล่อยผ่านบางอย่างไปบ้างสิ แค่เดินหนีมาก็พอ”โรบินกล่าว


    “เธอพูดเหมือนวีวี่”คิรัวร์กล่าว

     

    “เธอเป็นหญิงฉลาด”โรบินกล่าว

     

    คิรัวร์เดินตามโรบินกับ เข้ามาในร้านต่อไป เพราะไม่ไว้ใจให้คิรัวร์คลาดสายตา สองสาวที่เริ่มคุยกันเรื่องเสื้อผ้า เขาพยายามไม่สนใจเสียงของแชมเปี้ยนนอกร้านที่ยังตะโกนให้คนออกมาท้าสู้

     

    ในที่สุด ก็เข้าไปเปลี่ยนเสื้อ เหลือแต่พวกเขา โรบินเดินเข้ามาหา

     

    “เมื่อฉันให้เธอมาช่วยถือของก็ควรปล่อยผ่านเรื่องบางอย่างไป”โรบินพูดเรื่องเหตุการณ์เมื่อกี้”แค่หลีกทางเขาบ้าง”

     

    “หึ"คิรัวร์หันไปทางอื่นแต่ก็รับฟัง

     

    ___________________________

     

    ด้านนามิ ลูฟี่และโซโลมานั่งดื่มอยู่ที่บาร์แห่งนึง

     

    “หนอย อยากจะไปจัดการมันจริงๆเลย”นามิกล่าว

     

    "แต่ยังไม่แย่หรอกนะ เมืองท่าแห่งนี้มันเต็มไปด้วยพวกที่ใช้เงินมือเติงแบบพวกโจรสลัดแบบนี้แหละนะรู้เปล่า"บาเทนเดอร์กล่าว

     

    "ก็มีคนมาเรียกว่าโจรสลัดจนๆนี่นา"นามิบ่น

     

    "ท่าทางจะไม่ใจเย็นลงง่ายๆสินะ"บาเทนเดอร์วางน้ำส้มไว้ข้างหน้านามิ"อันนี้แถมให้แล้วกัน"

     

    นามิยิ้มให้ของฟรีดื่มน้ำส้ม

     

    "พวกหัวแข็งมันรวมตัวกันอยู่ยังงี้มันก็ต้องมีเรื่องต่อยตีกันอยู่ จะไปใส่ใจมันทุกเรื่องก็อยู่เมืองนี้ไม่ได้หรอก อย่าไปยุ่งกับพวกนั้นก็พอแล้ว"

     

    "แต่ว่ารู้สึกแย่จริงๆนะเมืองนี้"นามิกล่าว

     

    "ฮะๆๆ ช่างเป็นคนที่ซื่อตรงจริงๆเลยนะเธอเนี่ย แต่ว่าแย่หน่อยที่คนที่ซื่อตรงในเมืองนี้มันน้อยหน่อย ระหว่างนั่งรอล็อคตำแหน่งก็อดทนหน่อยก็แล้วกัน ถึงเวลาก็ค่อยไป"

     

    "4วันเหรอ"นามิมองล็อคโพสที่ชี้ขึ้นฟ้า"งั้นก็อยู่ได้ไม่ถึง2วัน นี่ลุงคะ--"

     

    "เฮ้ย ลุง!!!"ลูฟี่กับชายร่างใหญ่ข้างๆตะโกนพร้อมกัน

     

    "มีอะไรเหรอ?"บาเทนเดอร์ถาม

     

    "พายเชอรี่นี่สุดแสนจะห่วย/อร่อยจริงๆเลย"ลูฟี่กับชายคนนั้นตะโกน พวกเขาจ้องกันเมื่อคำพูดพวกเขาแย้งกัน

     

    ลูฟี่กับชายคนนั้นต่างดื่มน้ำอึกใหญ่

     

    "น้ำแก้วนี่ทำไมอร่อย/ห่วยมากๆแบบนี้เนี่ย"ลูฟี่กับชายคนนั้นแย้งกันอีกครั้ง

     

    "แกน่ะลิ้นเพี้ยนรึเปล่า"

     

    "สมองแกเนี่ยท่าจะเพี้ยนนะเนี่ย"

     

    "เอาน่าฉันไม่ใช่กุ๊กนะ เพียงแต่คือ--"

     

    "นี่ลุง ฉันขอเนื้อ50ชิ้นเป็นของฝากนะ"ลูฟี่เปลี่ยนเรื่องแทรกขึ้น

     

    "ลุง ข้าขอพายเชอร์รี่51ชิ้นเป็นของฝากแล้วกัน"ชายตัวใหญ่พูด

     

    "ไม่เอาล่ะขอเป็น52ชิ้น"

     

    "ก็ดีขอพายเป็น53ชิ้น"

     

    "ไม่ดีกว่า54ชิ้น"

     

    "พาย55ชิ้น"

     

    "เนื้อ60ชิ้น"


    "พาย70ชิ้น"

     

    "80ชิ้น"

     

    "100ชิ้น"

     

    ลูฟี่ลุกขึ้นไปยืนบนโต๊ะ ขณะที่ชายตัวใหญ่ยกหมัดเขาขึ้น

     

    "คิดจะหาเรื่องกันใช่มั้ย!!!!!"

     

    "ทำไมมาทะเลาะกันได้เนี่ยเจ้าพวกบ้า"

     

    "ลูฟี่สัญญาแล้วนะ ยิ่งกว่านั้นเงินที่จะซื้อเนื้อหลายสิบชิ้นน่ะมีที่ไหนกันล่ะ ซื้อกลับไม่ได้หรอก"

     

    "แกเป็นโจรสลัดเหรอ?"ชายตัวใหญ่ถาม

     

    "เออ แล้วไง"

     

    "ค่าหัวเท่าไหร่?"

     

    "30ล้าน"ลูฟี่

     

    "จริงสิลูฟี่"โซโลนึกได้ว่าลูฟี่ยังไม่รู้"พวกเราน่ะ--"

     

    "30ล้าน? โกหกไม่มีทางเป็นไปได้หรอก"

     

    "โกหกซะที่ไหนล่ะไอ้บ้า"

     

    "หยุดนะ"โซโลห้าม

     

    "นี่ ในร้านอย่าใช้ความรุนแรง"บาเทนเดอร์เอาถุงกล่องมาวาง"นี่นายเอานี่แล้วกลับไปได้แล้วนะ พาย50ชิ้น"

     

    ชายร่างใหญ่และลูฟี่จ้องกันอีกครั้งก่อนที่เขาจะหยิบถุงและเดินออกจากร้าน

     

    ในตอนที่เขาเดินออกจากร้านไปเบรามี่ก็สวนทางมาโดยใส่ชุดเสื้อคลุมสีฟ้า ชายร่างใหญ่มองเบรามี่ที่เดินเข้าไปในร้านแล้วจากไป

     

    "โจรสลัดที่ใส่หมวกฟางอยู่ที่นี่รึเปล่า?"เบรามี่ถามขึ้นมา

     

    พวกลูฟี่หันไปมองขณะที่คนอื่นในร้านมองด้วยความตกใจ

     

    "นั่นมันเบรามี่นี่นา"

     

    "แกน่ะเหรอค่าหัว30ล้าน ลูฟี่หมวกฟาง"

     

    "อะไรกันน่ะ?"ลูฟี่ถาม

     

    "ดูท่าจะมาหาเรื่องกับนายนะ"โซโลกล่าว

     

    "นี่ ลูฟี่คือคนที่จองโรงแรมเมื่อกี้ทั้งหมดไม่ใช่เหรอ?"นามินึกขึ้นได้

     

    เบรามี่เดินเข้าไปหาลูฟี่เงียบๆ ขณะที่คนรอบข้างคุยเรื่องลูฟี่มีค่าหัว30ล้าน

     

    "หมู่นี้เจอคนตัวใหญ่บ่อยจังแฮะ"ลูฟี่กล่าว

     

    "ข้าเอาเหล้าที่แพงที่สุดของที่นี่ ส่วนเจ้านี้ให้ของที่มันชอบไป"

     

    "ได้"บาเทนเดอร์ตกลง ขณะที่เบรามี่นั่งลงข้างๆลูฟี่

     

    "หือ ที่นั่งเต็มหมดเลยนี่นา"ซาคีสเดินเข้ามาในร้านกับกลุ่มโจรสลัดเบรามี่

     

    "อะไรกันน่ะ ร้านนี้สกปรกจริงๆเลย"ลิลลี่กล่าว

     

    "ยิ่งกว่านั้นยังดูถูกๆอีกต่างหาก"

     

    "นั่นมันพวกเมื่อตะกี้นี่"นามิกระซิบ


    ชายสองคนล้มลงกองกับพื้นเหนือมีดใหญ่โค้งของซาคีส

     

    "เจ้าพวกโง่นี้ดังไม่รีบลุก เลยต้องเป็นแบบนี้ไง"ซาคีสกล่าว ลูกค้าหลายคนรีบวิ่งออกจากร้านเพราะไม่อยากเจอแบบเดียวกัน ทำให้กลุ่มเบรามี่มีที่นั่งว่าง

     

    "มากันหมดกลุ่มนี้คงไม่ได้มาแค่ดื่มกินแน่"

     

    "ใจเย็นน่าพวกเราไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย"

     

    "เบรามี่ชอบคนเยอะๆน่ะ"

     

    "แน่นอนอยู่แล้ว"

     

    บาเทนเดอร์วางแก้วไว้ตรงหน้าเบรามี่กับลูฟี่

     

    "เอ้า ดื่มซะ"เบรามี่กล่าว

     

    "โอ้ แต๊งกิ้ว นายก็เป็นคนดีนี่นา"ลูฟี่จะยกแก้วดื่ม ไม่รู้ว่าเบรามี่เอาแขนมาด้านหลังหัวตัวเอง

     

    "โครม!!!!"เบรามี่กระแทกหัวลูฟี่ใส่เคาเตอร์พังลงไปกระแทกพื้น

     

    "ลูฟี่!!!!!"โซโล วีวี่และนามิตะโกน

     

    "ฮ่าๆๆๆ เอาจนได้นะเจ้าเบรามี่"ซาคีสหัวเราะออกมา

     

    "หือ?"เบรามี่เห็นว่ามีดาบจ่อมาที่คอของเขา"มีอะไรงั้นเหรอเจ้าลูกกระจ๊อก"

     

    "คำถามนั่นน่ะ แกนั่นแหละตอบมา"โซโลแย้ง

     

    "ฮะๆๆๆ"เบรามี่หัวเราะ"

     

    "โซโล รอเดี๋ยวก่อนสิ เรายังไม่ได้หาข่าวสารอะไรในเมืองนี้เลยนะ"นามิห้าม

     

    "เงียบน่า ก็แค่ตอบโต้กลับไปเท่านั้นเอง"โซโลตะโกน

     

    เบรามี่ถอยห่างจากดาบของโซโลขณะที่ลูฟี่ยืนขึ้น

     

    "ยืนขึ้นได้แล้วนี่นา เฮะๆๆ"เบรามี่ล้อเลียน

     

    "เอาล่ะคงจะเตรียมพร้อมแล้วสินะแกน่ะ"ลูฟี่กล่าว

     

    "ฮะๆๆ เจ้าพวกนั้นคิดจะต่อกรกับเบรามี่"

     

    "เอาเลยๆๆๆ"

     

    "ฮ่าๆๆ เจ้านี้มันอยากมีเรื่อง แค่ทดสอบเท่านั้น"เบรามี่ยิ้มออกมา"แสดงฝีมือให้ดูหน่อยสิ"

     

    "จะทดสอบแล้วสู้กันเพื่ออะไร?"วีวี่ถาม ขณะที่นามิหันไปถามบาเทนเดอร์

     

    "นี่พวกเราอยากไปเกาะแห่งท้องฟ้า รู้วิธีอะไรบ้างรึเปล่าคะ?"

     

    ทุกคนหยุดโห่ร้องและจ้องไปที่นามิ

     

    "พูดอะไรออกมาเนี่ยผู้หญิงคนนั้น"

     

    "โกหกใช่มั้ยเนี่ย"

     

    "บอกวิธีไปเกาะแห่งท้องฟ้าทีสิ"นามิถามอีกครั้ง

     

    "ฮ่าๆๆๆๆ"ทั้งบาร์ต่างหัวเราะเยาะและชี้มาที่ลูฟี่กับเพื่อนๆ

     

    "จะไปเกาะแห่งท้องฟ้า?"

     

    "ฮ่าๆๆๆ ขำจริงๆให้ตายเถอะ"

     

    "แต่ว่าล็อคโพสมันชี้ไปบนฟ้าจริงๆนะยะ!!!!"นามิเถียงชี้ที่ล็อคโพส ทุกคนหยุดมองเธออีกครั้งแล้วหัวเราะ

     

    "ฮ่าๆๆๆ ล็อคโพสมันชี้ไปบนฟ้าจริงๆอย่างงั้นเหรอ?"

     

    "ล็อคโพสนั้นคงพังแล้วมั้ง"

     

    นามิหน้าแดงด้วยความอับอาย

     

    "ฮะๆๆๆ สนุกจริงๆ"เบรามี่หัวเราะแล้วนั่งลง"พวกแกนี่เชื่อตำนานหลอกลวงนั้นจริงๆเหรอ เจ้าเกาะแห่งท้องฟ้านั่นน่ะ ยังมีเหลืออยู่อีกเหรอเนี่ย ตอนนี้ในแกรนไลน์เนี่ยก็เคยมีหลายวิธีที่บันทึกไว้อยู่ น็อคอัพสตรีมก็เป็นวิธีหนึ่งในนั้น ไอ้ของแบบนั้นข้าเองก็ไม่เคยได้เห็นเหมือนกันแหละเฟ้ย เรือที่ถูกสังเวยให้กระแสน้ำที่พุ่งขึ้นนั้นน่ะ ถูกดันขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วก็ตกลงมากระแทกทะเลตายทั้งยังงั้นแหละ สมัยก่อนน่ะพวกลูกเรือเห็นเรือตกลงมาจากท้องฟ้า ก็เลยคิดว่าข้างบนจะต้องมีโลกอีกแห่งอยู่อย่างแน่นอน จริงๆก็แค่เป็นปรากฏการณ์บางอย่างเท่านั้นเอง เหตุผลบ้าๆอย่างงั้นน่ะตอนนี้ไขกระจ่างทั้งหมดแล้ว คงจะช็อคล่ะสิ ทั้งๆที่าข้าตั้งใจทดสอบแกเพื่อจะได้เอามาเป็นลูกเรือของข้าซะหน่อย ก็แค่พวกเพ้อฝันแค่นั้นเอง"

     

    เบรามี่หันมามองกลุ่มหมวกฟางทั้งหมด

     

    "ยุคสมัยของโจรสลัดที่ตามหาความฝันน่ะมันจบลงไปแล้วเฟ้ย อาณาจักรขุมทอง เมืองแห่งมรกตเหรอ ขุมทรัพย์ที่ยิ่งใหญ่วันพีช สมบัติแห่งความฝันพวกนั้นมีแต่พวกโง่ที่ตามรอยอดีตอยู่เท่านั้นที่ยังเชื่ออยู่ ไอ้พวกที่คิดว่าแข็งแกร่งกว่าใครแล้วจะสามารถข้ามทะเลไปได้เนี่ย โดนไอ้ของหลอกลวงที่ไม่รู้ว่ามีรึเปล่าหลอกให้ตายมานัดต่อนัดแล้ว ไอ้พวกบ้าที่ตายไปแล้วเคยพูดไว้ เจ้านั้นน่ะบอกว่าถ้าได้ตายในความฝันก็จะมีความสุข ฮ่าๆๆๆ ไอ้พวกหมาขี้แพมันพูดไว้น่ะ"

     

    "....."มือที่กำหมัดของลูฟี่คลายลง

     

    "พอมองไอ้คนที่ไล่ตามความฝันแบบนั้น ข้าก็จะทำอย่างงี้ซะ"เบรามี่ชกใส่ลูฟี่ที่ไม่ป้องกันตัวล้มลงพื้น

     

    "กัปตัน"วีวี่ร้อง

     

    "ลูฟี่"นามิร้อง

     

    "เจ้านั้นน่ะเป็นโจรสลัดกระจอกเหมือนกับแกเลย ถ้าใช้ชื่อกลุ่มโจรสลัดเหมือนกับพวกข้าแล้วละก็ ทำให้ชื่อเสียงที่มีมาเสื่อมเสียหมด"

     

    เบรามี่โยนแก้วลงไปแตกข้างหัวลูฟี่

     

    "ออกไปซะพวกกระจอกเอ๊ย เสียรสชาติเหล้าหมดเลย"

     

    "เบรามี่พูดถูกต้องแล้วล่ะ"

     

    "ออกไปซะออกไป"โจรสลัดคนอื่นเริ่มขว้างปาของมาที่ลูฟี่ที่นอนบนพื้น เขาไม่ได้ทำอะไรเพื่อปกป้องตัวเอง

     

    "ไสหัวไปจากเมืองนี้ซะเลยไป"

     

    "ฮ่าๆๆ เบรามี่ ให้มันไปเป็นลูกเรือทำความสะอาดก็ได้นี่นา"

     

    "ฮ่าๆๆ เป็นหน้าที่ที่เหมาะสมดีนี่นา"เบรามี่เยาะเย้ย

     

    "ลูฟี่ โซโล ไม่ต้องไปสนใจสัญญาแล้ว อัดเจ้าพวกนั้นให้เละไปเลย"นามิกล่าวมองวีวี่"ชักดาบฟันพวกนั้นเลย"


    "ได้"วีวี่จะชักดาบ

     

    "โซโล วีวี่"ลูฟี่เรียกเขา

     

    "อืม"โซโลรับคำสั่ง

     

    "ครั้งนี้ห้ามโต้ตอบเด็ดขาดนะ"ลูฟี่สั่ง

     

    "ว่าไงนะ"วีวี่ตกใจ

     

    "ฮ่าๆๆๆ"เบรามี่หัวเราะเยาะ เห็นว่าเป็นพวกขี้ขลาด


    _____________________


    ที่ร้านขายเสื้อผ้าแห่งนึงในม็อคทาวน์

     

    โรบินเปิดผ้ากั้นเดินออกมาสวมเสื้อสีม่วงที่เผยบริเวณตรงกลางหน้าท้องและสะดือเธอ สวมกางเกงขายาว สวมหมวกคาวบอยสีขาว

     

    ทางด้านคิรัวร์เดินออกมาในชุดเสื้อกั๊กสีดำ เสื้อคลุมสีดำ กางเกงยีนสีดำและรองเท้าบู๊ตสีดำ และยังสวมหมวกสีดำของตัวเอง

     

    "อืม ไม่เลว"คิรัวร์กล่าว

     

    "ฮิๆๆ เธอชอบสีดำเอามากๆเลยนะ"โรบินกล่าว

     

    "มันเป็นสีประจำตัวฉัน"คิรัวร์กล่าว

     

    "แล้วเธอคิดว่าฉันเป็นยังไง?"โรบินถามขึ้น เธอเอามือจับเองเอียงเอวเล็กน้อยดูเซ็กซี่


    "ดูเซ็กซี่มาก"คิรัวร์กล่าวทำให้เธอเขินอายเล็กน้อย"เสร็จรึยัง?"

     

    "ขอไปดูทางนั้นก่อน"โรบินเดินไป

     

    คิรัวร์ออกมายืนห่างๆรอเธอเลือกซื้อเสร็จ

     

    "ให้ตายสิ พวกลูฟี่จะเจอข้อมูลเรื่องเกาะแห่งท้องฟ้าไหมนะ"คิรัวร์กล่าว

     

    ชายชราได้ยินที่เขาพูดแล้วมองไปรอบๆที่ลูกค้าส่งเสียงเอะอะจนไม่ได้ยินที่เขาบอก

     

    "ถ้าฉันเป็นแกนะไอ้หนู ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้ออกมาดังๆ"ชายชราเตือน

     

    "ทำไมล่ะ?"คิรัวร์ถาม

     

    "เมืองนี้ไม่เหมาะกับพวกที่มีความฝันหรอก"

     

    "น่าจะมีใครสักคนที่ช่วยเราได้"คิรัวร์กล่าว

     

    "มันก็มีอยู่คนนึงละนะ เขาถูกหัวเราะเยาะจนออกไปจากเมืองนี้นานแล้ว ชื่อของเขาคือมองบลัง คริกเก็ต"

     

    "ฉันหาเขาได้ที่ไหน?"คิรัวร์ถาม

     

    "ฉันรู้แต่เขาอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของเกาะ"ชายชรากล่าว

     

    "ขอบคุณ"คิรัวร์กล่าว

     

    "คิรัวร์คุงเสร็จแล้วล่ะ”โรบินเดินมาทางนี้

     

    เขาเดินไปหาโรบินและช่วยจ่ายเงินให้ของที่เธอซื้อ

     

    "ฮะๆ เกาะแห่งท้องฟ้าเหรอ"ชายชราหัวเราะกับตัวเอง

     

    _________________________

     

    นามิมองด้วยความอับอายและโกรธ วีวี่กังวลเมื่อเห็นลูฟี่กับโซโลโดนทำร้ายฝ่ายเดียว แถมกัปตันสั่งห้ามทำอะไร

     

    "ฮ่าๆๆๆ ดูสิ พวกมันยังยืนได้"

     

    "ก่อนจะยืนน่ะกลับบ้านไปกินนมดีกว่าเจ้ากระจอกเอ๊ย"


    "เมืองนี้ไม่ต้อนรับคนอย่างแกหรอกนะจะบอกให้"

     

    "ฉันหวังว่าเราจะคุยกันได้ แต่ตอนนี้ฉันแค่อยากให้พวกเขาอัดพวกนี้ให้หมอบ"วีวี่หงุดหงิดเมื่อเพื่อนเธอโดนดูถูก ทั้งที่พวกเธอเคยล้ม7เทพโจรสลัดและองค์กรอาชญากรรมมาแล้ว

     

    "เพล้งๆๆเปรี้ยงๆๆ"ขวดเหล้าฟาดใส่หัวโซโล ลูฟี่โดนทุบด้วยเก้าอี้

     

    ด้านนอกก็มีคนมาชุมนุมกัน

     

    "เกิดอะไรขึ้น?"

     

    "ได้ยินว่ามีคนหาเรื่องกับเบรามี่น่ะสิ"

     

    "ลูฟี่ โซโล มัวทำอะไรอยู่เล่า สู้มันสิ ทำไมไม่ตอบโต้เจ้าพวกนั้นมันกลับไปเลยเล่า ทำสิ"นามิตะโกน

     

    "....."แต่ลูฟี่กับโซโลที่บาดเจ็บยังยืนนิ่งไม่ทำอะไร

     

    "ฮ่าๆๆ เปล่าประโยชน์น่าคุณหนู รู้ว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่จะต่อกรได้ ไม่เผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งกว่า ช่างเป็นการตัดสินใจที่น่าขายหน้าจริงๆ"ซาคีสกล่าว

     

    "ฮะๆๆ ช่างเป็นกัปตันที่ไม่มีศักดิ์ศรีเอาซะเลย"ริเวอร์สกล่าว


    "หลังๆมาเนี่ย พวกทหารเรือชักจะใจกว้างมากเกินไปแล้ว ถึงขนาดตั้งค่าหัวไก่อ่อนนี้ไว้ตั้ง30ล้านเบรี"

     

    "โซโล การโต้แย้งครั้งนี้ห้ามตอบโต้เด็ดขาดเลยนะ"

     

    "ฮิๆๆ นอกจากจะไม่มีศักดิ์ศรีแล้ว ยังสู้กับใครไม่เป็นอีกต่างหาก แต่ดังมีความฝันเฟื่องอยู่เต็มไปหมด ฮะๆๆ ที่แท้ก็เป็นแค่พวกเศษสวะ"

     

    "จริงด้วยๆๆ"

     

    "ฮ่าๆๆๆ"

     

    "จากที่ดู จะเป็นเด็กกระจอกหรือมีค่าหัว30ล้านก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะมองยังไงก็ตาม ฮะๆๆ มันก็น่าผิดหวังซะจริงๆ พึ่งเจอพวกขี้ขลาดอย่างงี้เป็นครั้งแรก

     

    "พรวด!!!!"เบรามี่พ้นเหล่าใส่หน้าลูฟี่กับโซโลเต็มๆ

     

    "แค่กๆๆ"ลูฟี่สำลักเหล่าออกมา

     

    "เฮ้ จัดการเจ้าพวกนี้สิ"เบรามี่สั่งลูกน้อง"เกะกะลูกตา"

     

    "เปรี้ยง!!!"ริเวอร์สเตะโซโลกระเด็นไปอีกด้านของบาร์

     

    "หมับ....เพล้ง!!!!"รอสจับหัวลูฟี่พุ่งไปกระแทกหน้าต่างแตกกระจาย

     

    "คุณลูฟี่ คุณโซโล"นามิวิ่งไปดูพวกเขาที่นอนล้มกับพื้น

     

    "หนอยพวกแก"นามิมองพวกเบรามี่สีหน้าโกรธ

     

    "นี่พวกเธอ อยู่กับพวกขี้แพ้นี้ต่อไปก็เสียเวลาเปล่าๆ จะให้ฉันซื้อพวกเธอมาเป็นพวกมั้ยล่ะ ต้องจ่ายเท่าไหร่ถึงจะยอมไปกับฉัน?"ซาคีสถาม ทำให้นามิกับวีวี่เดือด

     

    "นี่นาย--นามิจะพูดแต่วีวี่พูดขึ้นมาก่อน

     

    "ปากดีนักนะ บอกว่าจะซื้อฉันงั้นเหรอ?"วีวี่พูดเสียงดัง

     

    "ใช่ มาอยู่กับฉันสนุกกว่าเยอะนะ"ซาคีสกล่าว

     

    นั่นเป็นฟางเส้นสุดท้ายของวีวี่ เธอลุกขึ้นยืนมองซาคีส

     

    "ฉันไม่ได้มีไว้ขาย"วีวี่เริ่มพูด"และพวกนายโชคดีที่แฟนของฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ เขาไม่พอใจแน่ที่นายพูดเหมือนฉันเป็นผู้หญิงชั้นต่ำแบบนั้น"

     

    "หา...แฟน?"นามิคิดว่าวีวี่หมายถึงใคร แต่คงมีแค่คนเดียว

     

    "แฟนเหรอ? อย่าบอกนะว่าเขากระจอกเหมือนเจ้าสองคนนี้"ซาคีสเยาะเย้ย

     

    "เขาไม่เหมือนพวกเขา!!!!"วีวี่ตะโกน"ถ้าเขาอยู่ที่นี่ละก็ เขาจะเผาใบหน้ารอยยิ้มโง่ๆของแกทิ้งแน่"

     

    ลิลลี่กระทืบเท้าและเดินเข้ามาหาวีวี่

     

    "เธอกล้าพูดกับซาคีสแบบนั้นได้ยังไง เขาเหนือกว่าแฟนของเธอเป็นสิบเท่า"

     

    "ฮะๆๆๆ"วีวี่ขำทำให้ลิลลี่ขมวดคิ้ว

     

    "ขำอะไร!!"ลิลลี่ถาม

     

    "แฟนของฉันเขามีเงินซื้อหญิงอย่างเธอได้เป็นร้อยคน น่าเสีย แต่เธอต่ำเกินไปสำหรับเขา"วีวี่กล่าว

     

    "วีวี่..."นามิตะลึงที่เพื่อนเธอกล้าพูดอะไรแบบนี้ แต่เธอคงโกรธถึงขีดสุดแล้ว

     

    "ยัยสาว--"

     

    "ระวังหน่อย"วีวี่เตือนเธอ"ไม่เหมือน2คนนั้น ถ้าเธอจะสู้ฉันจะโต้กลับ"

     

    "วีวี่--"ลูฟี่จะห้าม

     

    "พวกนายน่ะหุบปากไป!!!!"วีวี่ตะโกนทำให้กัปตันเงียบ เธอไม่พอใจที่พวกลูฟี่ได้รับบาดเจ็บเพราะไม่ปกป้องตัวเอง ถ้าพวกเขาไม่ทำเธอจะทำเอง

     

    "จัดการเธอเลยลิลลี่"ซาคีสบอกแฟนเขา"นังหนูต้องรู้จักสถานะของตัวเอง ซัดเธอให้ล้มไปเหมือนพวกมัน"

     

    "เธอมีมีด"ลิลลี่พูดขึ้นมองที่เอว

     

    "ฉันไม่ใช้มันก็ได้"วีวี่กล่าว

     

    กลุ่มโจรสลัดเบรามี่คนอื่นต่างโห่ร้องเชียร์ลิลลี่ ซึ่งเธอไม่ได้เต็มใจจะสู้กับวีวี่

     

    "เอาเลยลิลลี่"

     

    "เอาพวกขยะนี้ออกไป"

     

    "สั่งสอนมันเลย"

     

    "ลิลลี่จัดการซะ"เบรามี่สั่ง"ยัยนี้ก็เป็นคนโง่ที่เชื่อเรื่องเกาะแห่งท้องฟ้า มันเป็นหน้าที่โจรสลัดตัวจริงอย่างเราที่จะสอนให้รู้ถึงโลกแห่งความจริง"

     

    เมื่อถูกกัปตันสั่งให้สู้ ลิลลี่ได้แต่ทำตามและค่อยๆเดินมาหาวีวี่

     

    เจ้าหญิงมองคู่ต่อสู้ของเธอ เธอสวมผ้าขนสัตว์หรูหรา เล็บของเธอถูกตกแต่งและไม่มีรอยสกปรกบนตัวเลย เห็นชัดว่าเธอไม่ใช่นักสู้ ในขณะที่เธอเป็นถึงนักดาบที่มีหมายจับแล้ว

     

    ลิลลี่เข้ามาใกล้วีวี่แล้วยกมือขวาจะตบเธอ แต่วีวี่ก้มหัวหลบแล้วผ่านแขนมาอยู่ด้านหลังลิลลี่

     

    "ตุบ"วีวี่เตะขาให้ลิลลี่สะดุดเสียการทรงตัวจะล้มลง ก่อนที่เธอจะทำยกเท้าและกระแทกกลางอกลิลลี่เหมือนซันจิ

     

    "ฟุ่บ....ตูม!!!!"ลิลลี่ถูกกระแทกผ่านโต๊ะและล้มลงพื้น เครื่องดื่มต่างๆหกลงราดบนตัวเธอ เศษอาหารตกใส่รอบๆ

     

    "ตอนนี้ใครเป็นขยะ"วีวี่ล้อเลียนใส่ลิลลี่และมองเบรามี่

     

    "ฮ่าๆๆๆ"แทนที่เขาจะโกรธเบรามี่กลับหัวเราะขึ้นมา

     

    "ฮ่าๆๆๆ"กลุ่มโจรสลัดเบรามี่คนอื่นต่างหัวเราะอย่างเสียไม่ได้เพื่อเลี่ยงความโกรธของกัปตัน และทุกคนก็หัวเราะกับความพ่ายแพ้ของลิลลี่

     

    "ฮ่าๆๆๆ เธอมีความกล้า ข้ามีข้อเสนอให้ ทิ้งพวกขยะนั่นซะและมาเข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดจริงๆอย่างฉัน"

     

    "ไม่"วีวี่ตอบทันที"ฉันดีเกินกว่าจะเข้าร่วมกลุ่มโจรสลัดเหมือนพวกนาย พวกนายไม่ได้เป็นมากกว่ากลุ่มอันธพาลเล็กๆ"

     

    "ฮะๆๆ ออกไปซะขณะที่ฉันยังอารมณ์ดีอยู่ เอาสวะสองคนนั้นออกไปด้วย"

     

    "ไปเถอะนามิ"วีวี่เดินมาลากตัวลูฟี่ไป นามิส่งสายตามองพวกมันครั้งสุดท้ายก่อนจะดึงตัวโซโลตามออกไป

     

    "ซาคีส ช่วยฉัน...."ลิลลี่เอ่ยขอร้องเอื้อมมือไปหาแฟนของเธอ

     

    "ไม่มีทาง"ซาคีสปฏิเสธ เขามองไปที่เธอด้วยความรังเกียจ แม้เขาจะเป็นคนที่ทำให้เธอตกอยู่ในสภาพนี้"เธอทำให้กลุ่มของเราอับอายโดยแพ้พวกสวะนั้น เราเลิกกันแล้ว"

     

    ___________________________

     

     

     

    ___________________________

     

    นามิและวีวี่ลากตัวลูฟี่กับโซโลมาเรื่อยๆ

     

    "เกาะแห่งท้องฟ้ามีอยู่จริงนะ"มีเสียงดังขึ้น นามิกับวีวี่หันไปมองชายร่างใหญ่ที่นั่งกลางถนนกินพายเชอรี่50ชิ้น"ฮ่าๆๆ พายเชอรี่ของที่นี่รสชาติสุดยอดจริงๆเลย"

     

    "นายคนเมื่อกี้นี่นา"นามิพูดปล่อยตัวโซโลลงพื้น วีวี่ค่อยๆปล่อยลูฟี่

     

    "จะโกรธไปทำไมล่ะพวกเธอ?"ชายร่างใหญ่ถาม"การต่อสู้เมื่อกี้สองคนนั้นเป็นฝ่ายชนะนะ"

     

    ลูฟี่กำลังครุ่นคิด

     

    "โอ้ จะแซงนำหน้าฉันไปอีกอย่างงั้นเหรอ"แชงค์ล้อเลียเขาตอนที่มอบหมวกฟางให้ลูฟี่

     

    "ต่อเมื่อได้เจอกันอีก คือความสูงส่งของโจรสลัด"เอสบอกก่อนจะแยกทางที่อลาบัสต้า

     

    ลูฟี่มีความฝันที่ยิ่งใหญ่และให้สัญญาไว้แล้ว เขาไม่จำเป็นต้องสู้กับเบรามี่ เหมือนที่แชงค์ไม่คิดสู้กับฮิกุมะ

     

    "ไม่ว่าจะเป็นการยืนกรานที่เด็ดขาดของพวกนาย หรือพี่สาวที่โต้กลับสู้ได้เยี่ยมมาก ใจเด็กมากเลยพี่สาว"ชายร่างใหญ่ชม

     

    "โซโล ลูฟี่"นามิกับวีวี่มองทั้งสองที่ลุกขึ้นยืนปัดฝุ่น

     

    "ไอ้ยุคใหม่ที่พวกนั้นพูดถึงน่ะตลกสิ้นดีแหละ บอกว่าโจรสลัดที่ตามหาความฝันมันจบแล้วอย่างงั้นเหรอ ฮ่าๆๆๆ"

     

    "อะไรของมันวะ"ชาวเมืองมองชายร่างใหญ่ที่หัวเราะเหมือนคนบ้า

     

    "ตึง!!"ชายร่างใหญ่กระแทกขวดเหล้าลงพื้น"ความฝันของคนเราน่ะไม่มีที่สิ้นสุดหรอก!!!"

     

    "...."ลูฟี่จ้องมองเงียบๆ

     

    "ใช่มั้ย?"ชายร่างใหญ่

     

    ผู้คนรอบๆมองเขา

     

    "แก ตะกี้ตะโกนว่าอะไร"

     

    "ความฝันของคนเราทำไมนะ"

     

    "การต้องทนคนอื่นมันไม่ใช่เรื่องง่าย"ชายร่างใหญ่ตะโกน"ฮ่าๆๆๆ"

     

    "ฮ่าๆๆ หมอนี้ท่าจะบ้า"

     

    _______________________

     

    กลับมาภายในบาร์ กลุ่มเบรามี่ได้ยินเสียงหัวเราะข้างนอก

     

    "ฮ่าๆๆๆ

     

    "อะไร ทำไมข้างนอกมันหนวกหูเหลือเกิน"

     

    "ช่างเหอะน่า โดนไปขนาดนั้นเจ้าพวกนั้นก็คงจะอาละวาดอยู่ละมั้ง ฉันคิดว่าแค่ผู้หญิงคนนั้นจัดการลิลลี่ยังไม่พอหรอก"

     

    ลิลลี่นั่งอยู่ที่มุมร้านปัดเศษอาหารออกจากผมและเสื้อผ้าของเธอ

    ____________________

     

    คิรัวร์กับโรบินกำลังเดินไปหาข้อมูลที่ร้านเหล้า

    "แล้วเธอกับนามิเป็นไงบ้าง?"นักโบราณคดีสาวถามขึ้น

     

    "หา นามิทำไมเหรอ?"คิรัวร์ถาม

     

    "ก็ที่เธอไม่รับสมบัติที่นายหามาได้จากเรือไง"โรบินกล่าว

     

    "ฉันว่าเธอป่วยนิดหน่อย"คิรัวร์กล่าว"นามิชอบสมบัติจะตาย"

     

    โรบินถอนหายใจ

     

    "นั่นแหละที่เธอกลัว"โรบินแสดงความเห็น"เธอชอบและเอาใจใส่นายนะคิรัวร์คุง และคงอยากก้าวไปความสัมพันธ์ต่อไป แต่เธอกังวลภาพลักษณ์ว่านายจะมองเธอยังไง"

     

    "เรื่องนั้น...."

     

    "ขโมย ใครก็ได้จับขโมยที"มีเจ้าของร้านโดนขโมยหิวโซแย่งขนมไป

     

    "ให้ตายสิ"คิรัวร์เดินเข้าไปและแย่งถาดเหล็กคืนมาคืนให้เขา


    "ปัง!!!!"

     

    "เคร้ง!!!"ในตอนนั้นกระสุนปืนจากระยะไกลพุ่งมาและเฉียดจะโดนเขา แต่มันโดนถาดเหล็กฝังลึกซะก่อน

     

    "ฉันถูกซุ่มยิง"คิรัวร์ตกใจ เขามีสัญชาตญาณระวังภัยสูง การที่อีกฝ่ายยิงมาโดยที่เขาไม่รู้ตัวแปลว่าต้องอยู่ไกลหรือกลบจิตสังหารดีมาก

     

    คิรัวร์ทิ้งถาดเนื้อย่างไปแล้ว

     

    "เฮ้ ทำอะไร....เฮือก!!!"เจ้าของร้านเห็นสายตาที่คิรัวร์จ้องถึงกับสะดุ้งและสลบเหมือดไป

     

    "โอโจฟูลเร่"โรบินใช้พลังดูว่าใครที่ยิงมา ดวงตาโผล่บนหลังคาบ้าน"มีชายแปลกหน้านั่งบนดาดฟ้า ในมือเขามีปืนยาวมากผิดปกติ"

     

    "ฉันอยากเห็นหน้ามัน"คิรัวร์พูดแล้วเขากับโรบินวิ่งไป

     

    ____________________

     

    ชายแปลกหน้ามองโรบินกับคิรัวร์วิ่งมายังตึกที่เขาอยู่

     

    "น่าแปลกใจ โชคชะตานำเด็กเข้ามาในวิถีกระสุน แต่มันก็ปกป้องเขาไว้

     

    "แกมีปัญหาอะไร?"คิรัวร์วิ่งมาถึงหน้าบ้าน"ทำไมถึงพยายามยิงฉัน"

     

    "ฉันแค่ยิงปืนเล่นฆ่าเวลาและโชคชะตาก็นำนายมาเข้าวิถีกระสุนฉัน"

     

    "นั่นเหรอข้อแก้ตัวหลังพยายามฆ่าฉัน"คิรัวร์พูดเสียงโกรธ

     

    "แต่ฉันก็ไม่ได้ฆ่า โชคชะตาปกป้องนายอยู่"

     

    คิรัวร์เห็นว่าไอ้หมอนี่ไม่มีทางฟังอะไรทั้งนั้น

     

    "ไปกันเถอะโรบิน ฉันไม่อยากโดนคนบ้ายิงปืนใส่อีก"คิรัวร์กล่าว

     

    "เห็นด้วย ไปที่ร้านเหล้าเถอะ"โรบินกล่าว

     

    พลซุ่มยิงมองพวกเขาเงียบๆ

     

    ____________________

     

    "....."ลูฟี่มองชายร่างใหญ่พูดต่อ

     

    "ไม่ใช่ถูกหัวเราะเยาะหน่อยก็ตอบโต้ ถ้าต้องการพบกับความยิ่งใหญ่ที่แท้จริง การทะเลาะวิวาทต่อสู้ บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องใช้กำปั้นอะไร"

     

    "ไปกันเถอะ"โซโลหันหลังเดินไป

     

    "อืม"นามิจะตามไปแต่ลูฟี่ยังไม่เดิน"ลูฟี่?"

     

    "...."ลูฟี่และชายร่างใหญ่มองอีกฝ่ายเงียบๆ ไม่สนคนที่เดินผ่านไปมาหัวเราะเยาะ

     

    "ลูฟี่?"นามิเรียกอีกครั้ง

     

    "ท่าทางฉันจะเกะกะทางชาวบ้านสินะ"ชายร่างใหญ่ลุกขึ้นยืน"ไปก่อนดีกว่า ไปให้ได้นะ ไปสู่เกาะแห่งท้องฟ้าไง ฮ่าๆๆ"

     

    ลูฟี่ไม่พูดอะไรแล้วตามโซโลกับวีวี่ไป นามิตามมาทีหลัง

     

    "นี่ หมอนั้นรู้อะไรเกี่ยวกับเกาะแห่งท้องฟ้ารึเปล่านะ หมอนั้นเป็นใครกันแน่?"นามิถาม

     

    "เออ ไม่ใช่แค่หมอนั้นหรอกนะ"ลูฟี่กล่าว

     

    "เอ๋ ไม่ใช่แค่หมอนั้นเหรอ อะไรน่ะ?"นามิถาม

     

    "หมายความว่ายังไงคะ?"วีวี่ถาม


    "เจ้าพวกนั้นก็ด้วย บางที"โซโลกล่าว

     

    "หมายความว่ายังไงกันแน่ เจ้าคนเมื่อตะกี้มีพรรคพวกด้วยเหรอ แล้วอยู่ที่ไหนเล่า นี่เดี๋ยวก่อนสิ"นามิรีบตามทั้งคู่ วีวี่รีบวิ่งตามพวกเขาไป

     

    ________________________

     

    "ตุบๆๆๆ"

     

    กลับไปที่เรือโกอิ้งแมรี่ อุซปกำลังซ่อมหลุมในเรือที่เกิดขึ้นระหว่างหนีจากอลาบัสต้า

     

    "แผ่นไม้"

     

    "เอ้า"

     

    "ตะปู"

     

    "เอ้า"

     

    "เชือก"

     

    "เอ้า"

     

    "กึง"อุซปดังเผลอทุบค้อนโดนนิ้วตัวเอง

     

    "โอ๊ย!!!"

     

    "เอ้า"ช็อปเปอร์เอาแผ่นไม้ให้แล้วเห็นอุซปมองนิ้วที่เป็นสีแดงกำ

     

    "ให้ตายสิ จะให้บอกกี่ครั้งนะว่าฉันคนนี้ไม่ใช่ช่างซ่อมเรือ"อุซปกล่าว

     

    "ถึงงั้นอุซปก็เก่งออกนะ"

     

    "งั้นเหรอ เห็นอย่างงั้นเหรอ ความสุดยอดของฉันคนนี้"

     

    "ถ้าซ่อมให้กลับเป็นเหมือนเดิมได้ก็คงดีนะ"ซันจิพูดขึ้นจากบนดาดฟ้า

     

    "พูดบ้าๆ นี่นายรู้ไหมว่าเรือลำนี้มีที่มายังไง"

     

    "เออๆ ได้ยินตั้งไม่รู้กี่ครั้งแล้ว ได้รับมาจากเด็กผู้หญิงน่ารักที่หมู่บ้านนายใช่ไหมล่ะ ถึงอย่างงั้นก็เถอะ ถ้าเอาเรือออกไปในสภาพนี้มันก็อันตรายเกินไป"

     

    "เพราะงั้นถึงได้ซ่อมอยู่นี่ยังไงเล่า ช่วยสิ มาช่วยกันด้วยสิ"

     

    "ซ่อมเหรอ? ไอ้นี้เนี่ยนะ"ซันจิเคาะแผ่นไม้ที่อุซปแปะใส่เรือ

     

    "หนวกอู๋!!!!"อุซปตะโกน ริมฝีปากนูนขึ้นและร่างเขาโค้งเหมือนปลาโลมา

     

    "ฮะๆๆ อุซปตลกจังเลย"ช็อปเปอร์หัวเราะ

     

    "ยังงี้เหรอ?"อุซปหมุนตัวและทำท่าเดียวกับเมื่อกี้

     

    "ฮะๆๆๆๆ"ช็อปเปอร์หัวเราะใหญ่

     

    "ใช่ พวกนาย ข้าวเย็นวันนี้--"

     

    "หนวกอู๋"พวกเขาตอบด้วยท่าโง่ๆ

     

    "คงไม่จำเป็นสินะ"ซันจิตัดสินใจแล้วเดินไป

     

    "จำเป็นสิ จำเป็นสิ!!!"อุซปร้อง

     

    "เอาเป็นซุปนกนางนวลท่าจะดีนะ"ซันจิเดินไปที่ห้องครัว

     

    "พับๆๆๆ"ตอนนั้นเองซันจิเห็นค้างคาวขนาดเล็กบินเข้ามา

     

    "ตุบ"ซันจิเห็นมันวางจดหมายลงบนดาดฟ้าเรือและบินจากไป

     

    "อะไรน่ะ?"ซันจิหยิบขึ้นมาดู"ถึงนามิคาเสะ คิรัวร์?"


    "จดหมายถึงคิรัวร์เหรอ?"อุซปถาม"คนรู้จักเก่าหมอนั้นรึไง?"

     

    แต่แล้วซันจิก็เห็นเรือลำนึงอยู่ไกลออกไป

     

    "ขุดซากเรือๆๆๆ"

     

    "เพลงนี้มัน!!!"อุซปและช็อปเปอร์ร้อง

    ____________________

     

    อีกด้านนึง ที่ร้านพับแอนพาย คิรัวร์กับโรบินเดินเข้ามาในร้านเงียบๆ พวกเขาเดินผ่านโต๊ะไปที่บาร์ แต่หน้าตาสองสาวยั่วยวนเหล่าโจรสลัดได้ไม่ยาก

     

    "เฮ้ น้องสาว ไปเที่ยวกับพี่ไหมจ๊ะ"

     

    "มาด้วยกันหน่อยสิพี่สาว"

     

    "ข้าขอยืมแฟนแกหน่อยคงไม่เป็นไรนะ"ชายที่น่าจะเป็นหัวหน้ากลุ่มมองคิรัวร์

     

    "อย่ายุ่งกับเธอ"คิรัวร์พูดเสียงเย็นชา ทำให้พวกเขาทุกคนหันมามองเด็กหนุ่ม

     

    "แล้วแกจะทำอะไรข้าได้"

     

    "ฆ่าแกได้ไง"คิรัวร์แสยะยิ้ม

     

    "หนอย ฆ่ามัน!!!!"

     

    หัวหน้าสั่งแล้วพวกลูกน้องที่นั่งกินอยู่ต่างก็กระโจนจากเก้าอี้พุ่งเข้าใส่คิรัวร์ บางคนก็เข้าไปหาสาวผมดำหมายจะเอาตัวมา

     

    "วิชาดาบเดียว กงล้อเพลิง!!!"

     

    “เชน ฟลูเร่...คลัช!!!ไ

     

    “ซูม!!!!”เปลวเพลิงพุ่งไปรอบทิศทางแผดเผาใส่พวกมันล้มลงร้องโอดครวญ

     

    “กร็อบ!!!!”อีกหลายคนโดนมือที่งอกมาหักคอไปด้านหลัง

     

    "อึก...นี่มัน..."หัวหน้าทรุดกับพื้นแต่ยังคงสติอยู่ได้

     

    "โอ้ ยังมีสติอยู่เรอะ"คิรัวร์กล่าว

     

    ภาพตรงหน้าทำให้หัวหน้ากลัวจนฉี่ราดและทำให้ผู้คนในโรงเหล้าไม่กล้าขยับ

     

    "ฉะ...ฉันขอโทษ ฉันผิดไปแล้ว!!!!!"หัวหน้าวิ่งออกจากร้านไป

     

    เมื่อหมดปัญหาแล้วพวกเขาก็นั่งลงโต๊ะบาเทนเดอร์ พวกคนที่เหลือในร้านไม่กล้ายุ่งอะไรอีก

     

    "รู้ไหม ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินคนบ้าพูดถึงเกาะแห่งท้องฟ้า"คิรัวร์กล่าวขึ้น

     

    "หึหึหึ ฟังเหมือนเรื่องในนิทาน"โรบินหัวเราะ"แกรนไลน์มีคนแปลกๆตั้งมากมาย"

     

    "คนที่แปลกประหลาดที่สุดบนเกาะนี้คือมองบลัง คริกเก็ตและพี่น้องวานร"ชายคนนึงพูด ทำให้พวกคิรัวร์หันไปสนใจรวมถึงโจรสลัดทุกคน

     

    "ใครนะ?"คิรัวร์ถามอีกครั้ง

     

    "มองบลัง คริกเก็ต เขาเคยอาศัยอยู่เมืองนี้แต่โดนขับไล่ไป เขาและสองพี่น้องวานรกำลังดำหาสมบัติใต้ทะเล"

     

    "สมบัติเรอะ น่าสนใจ แล้วฉันจะหาคนที่ชื่อคริกเก็ตได้ที่ไหน?"โรบินถาม

     

    "เขาอาศัยอยู่ที่บ้านทางตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะ"ชายอีกคนตอบ

     

    "ใครมีแผนที่เกาะให้เรายืมไหมคะ?"โรบินถาม

     

    "ฉันมีอยู่แผ่นนึง"ชายหนุ่มดึงแผนที่ออกมา

     

    "เอามาให้เราดู"โรบินสั่ง ชายคนนั้นเอาแผนที่มาวางบนโต๊ะ พวกเขาเห็นจุดกากบาทที่ตะวันออกเฉียงเหนือ

     

    "บ้านคริกเก็ตอยู่ที่นี่ มันอยู่ริมทะเลไม่น่าจะมองพลาด"

     

    "ขอบคุณ"คิรัวร์โยนถุงเหรียญให้ชายคนนั้นแล้วเก็บแผนที่ใส่กระเป๋าเสื้อ ทั้งสามคนลุกถือถุงเดินออกจากร้าน

     

    "เดี๋ยว พวกเธอจะไม่ดื่มอะไรหน่อยเหรอ?"

     

    "ไม่ เราได้สิ่งที่ต้องการแล้ว"คิรัวร์ตอบแล้วเดินออกประตูร้านไป

     

    "พวกเขาเป็นใคร?"ทุกคนได้แต่สงสัย

     

     

    _____________________

     

    ลูฟี่ โซโล วีวี่และนามิเดินกลับมาที่เรือแมรี่ นามิกับวีวี่กำลังเดือดจัดกับเรื่องที่บาร์ มองเพื่อนทั้งสองข้างหน้าที่เต็มไปด้วยเลือด

     

    "ลูฟี่ โซโล พวกนายไปทำอะไรมาน่ะ แผลพวกนั้นน่ะเกิดอะไรขึ้นเหรอ?"อุซปถาม

     

    "คุณนามิ วีวี่จัง ไม่เป็นไรใช่ไหม?"ซันจิร้องถาม

     

    "หมอ หมออยู่ไหน!!!!"ช็อปเปอร์ตะโกน

     

    "ก็แกเป็นหมอไม่ใช่เรอะ"อุซปตีที่หลังหัวช็อปเปอร์

     

    "เออ จริงด้วย"ช็อปเปอร์พยักหน้า

     

    เมื่อทั้ง4คนขึ้นเรือ ช็อปเปอร์ก็รีบมารักษาแผลของลูฟี่กับโซโล

     

    "เฮ้ ไปสู้กับสัตว์ประหลาดยักษ์ที่ไหนมากันละเนี่ย"อุซปถามลูฟี่ที่ช็อปเปอร์กำลังพันผ้าพันแผลให้

     

    "โจรสลัดน่ะ ไม่มีอะไรหรอก มันจบแล้วช่างมันเหอะ"ลูฟี่กล่าว

     

    "เออ"โซโลเอนตัวพิงราวบันได บาดแผลเขาส่วนใหญ่หายดีแล้ว

     

    "พวกนายจบแล้ว แต่ฉันน่ะรับไม่ได้นี่ มันอะไรกันนักกันหนา ลูกผู้ชายแท้ๆ ทำไมไม่จัดการซัดมันให้เรียบไปเลยเล่า ที่จริงฉันว่าน่าจะซัดเมืองงี่เง่านี้ให้หายไปเลยยิ่งดี"นามิโวยวาย

     

    "นี่เธอตอนแรกไม่ได้พูดอย่างงั้นไม่ใช่เหรอ?"โซโลถาม

     

    "อดีตยะอดีต ไม่ต้องเอาเรื่องเก่ามาพูดเลยนะ นายน่ะไม่ต้องพูดเลย"นามิกล่าว

     

    "เธอก็ไม่ได้เป็นอะไรสักนิดจะโวยวายอะไรนักหนา"อุซปกล่าว

     

    "นั่นสิ"ลูฟี่เห็นด้วย"ฉันว่าเพราะเธอไม่ได้อาละวาดในบาร์เหมือนวีวี่"

     

    อุซป ซันจิ และช็อปเปอร์ต่างมองวีวี่ที่ปกติเรียบร้อยอย่างตะลึงไม่น้อย

     

    "หนวกหูยะ ฉันยังอยากซัดไอ้คนที่บอกจะซื้อพวกเราอยู่เลย"นามิโกรธมองไปที่เมืองด้วยความเกลียดชัง

     

    "ซื้อ....ซื้อคุณนามิกับวีวี่จัง"ซันจิพูดแล้วมีเปลวไฟลุกโชน"มันเป็นใคร? ฉันจะเตะหักกระดูกพวกมันให้หมดเลย"

     

    "เย็นไว้ซันจิ"เซียร์ขอร้องซันจิที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

     

    "ลืมไปซะเถอะ พวกนั้นไม่คุ้มค่าหรอก"โซโลกล่าวขึ้น

     

    "ว่าไงนะไอ้หัวมอส บอกว่าร่างกายคุณนามิกับวีวี่ไร้ค่าเหรอ"ซันจิตะโกนก

     

    "ทำไมสมองแกคิดได้แต่เรื่องนี้ฟะ!!!"โซโลตะโกน

     

    ทั้งสองคนเริ่มทะเลาะกัน

     

    "จริงด้วย แล้วเรื่องเกาะแห่งท้องฟ้าได้อะไรบ้างมั้ย?"ช็อปเปอร์ถามขึ้น

     

    นามิกับวีวี่หันมามองเขาด้วยสีหน้าโกรธทันที

     

    "เกาะแห่งท้องฟ้า?"นามิกับวีวี่พูดเสียงต่ำ

     

    "จ๊าก!!!!"ช็อปเปอร์หวาดกลัว

     

    "ไม่รู้สิ แค่พูดชื่อเกาะแห่งท้องฟ้าไปแค่นั้นพวกมันก็ขำกลิ้งกันทั้งร้านแล้ว ฉันพูดอะไรน่าขำนักหนารึไงห๊ะ!!"นามิตะโกน

     

    อุซปลงไปนอนจมกองซอสมะเขือเทศ ช็อปเปอร์กินรัมเบิ้ลบอลอยู่ในร่างการ์ดพอยต์ปกป้องตัวเองจากความโกรธของนามิกับวีวี่

     

    "ท่าพิฆาตซอสมะเขือเทศ"อุซปกล่าว

     

    "การ์ดพอยต์"ช็อปเปอร์ใช้รัมเบิ้ลบอล

     

    "ดูเหมือนเราจะพลาดเรื่องน่าสนุกไปนะ"โรบินพูดขึ้น เธอกับคิรัวร์เดินขึ้นบันไดกลับขึ้นเรือ ในมือถือถุงไว้หลายใบ"มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ?"

     

    “โรบิน คิรัวร์คุงพวกนายไปไหนมา!!!”นามิถามเสียงดัง

     

    “ทำไมหายหัวไปเวลาสำคัญ”วีวี่ก็ด้วย

     

    “ไปซื้อเสื้อผ้าน่ะ”โรบินตอบพวกเธอ

     

    "ท่าทางนามิกับวีวี่จะหัวเสีย"คิรัวร์กล่าว

     

    "เกิดอะไรขึ้นนะ?"โรบินสงสัย

     

    "โอ้ กลับมาแล้วเหรอครับโรบินจัง จะกินอะไรไหมครับ จะอาบน้ำเลยไหมครับ"โซโลร้องจากบนดาดฟ้าข้างลูฟี่

     

    "ว่าแต่พวกนายได้ข้อมูลอะไรบ้างมั้ย?"คิรัวร์ถามขึ้นมา

     

    "คิรัวร์คุง เพราะนายนั่นแหละที่ไปเก็บแผนที่เกาะแห่งท้องฟ้ามา เรื่องมันก็เลยกลายเป็นแบบนี้ไง มันจะมีหรือไม่มีก็ช่างหัวมันแล้ว"นามิกล่าว

     

    "จั้มปิ้งพ้อยต์"ช็อปเปอร์เปลี่ยนร่างโดดหนีไป แต่เขาดังตกลงไปในทะเล

     

    "ช็อปเปอร์"โซโลรีบโดดลงไปช่วย

     

    "นี่ ตอนนี้เอาเป็นว่าค่อยๆพูดกันดีกว่านะ มันน่าจะดีกว่านะว่าไหม"อุซปกล่าว

     

    ขณะเดียวกันโรบินยิ้มและถอดหมวกเดินกลับห้องปล่อยให้คิรัวร์จัดการ

     

    โรบินเอาแผนที่เกาะจายาให้ลูฟี่ด้วยพลังผลปีศาจเธอ

     

    "นี่จ๊ะคุณกัปตัน"โรบินกล่าว

     

    "แผนที่สมบัติ"ลูฟี่ร้องดีใจ

     

    "ของที่ไหนน่ะ"อุซปถาม

     

    "เกาะนี้ไงล่ะ"คิรัวร์ตอบ"ภาพเมืองด้านซ้ายคือม็อคทาวน์ที่เราอยู่ตอนนี้ ด้านตรงข้ามมีเครื่องหมายกากบาทใช่มั้ย คิรัวร์ได้ยินชายชราที่น่าจะมีข้อมูลที่เราต้องการ ชื่อของเขาคือมองบลัง คริกเก็ต เขาเป็นคนที่พูดถึงความฝันเลยถูกลากออกไปจากเมืองนี้ ก็เหมาะที่จะลองไปคุยด้วยไม่ใช่รึไง"

     

    "ลองไปดูกันมั้ย"ลูฟี่กล่าว

     

    "เดี๋ยวก่อนนะลูฟี่ ลองคิดดูให้มันดีๆหน่อยสิ ช็อปเปอร์ นายก็มาดูสิ"อุซปเรียก

     

    แต่ช็อปเปอร์นอนแผ่หลังถูกพาตัวขึ้นมาจากน้ำ โซโลกำลังบีบน้ำออกจากเสื้อผ้า

     

    "ทำอะไรของนายเนี่ยห๊ะ"อุซปถาม

     

    "เฮ้อ นึกว่าจะตายซะแล้ว"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "ชอบก่อเรื่องจริงๆเลย"โซโลกล่าว

     

    "แต่ว่านามิเค้า--"ช็อปเปอร์จะพูด

     

    "อะไร!!!"นามิถามเสียงดุ"ฉันทำไม อยากจะให้พูดเรื่องบ้าๆนั้นอีกรึไง"

     

    "อ๊า กลัวแล้ว!!!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

     

    "เฮ้ คิรัวร์"ซันจิเดินมาหาเขา"ขณะที่นายออกไปกับโรบินจังก็มีค้างคาวสีดำแปลกๆมันบินมาที่เรือแล้วปล่อยจดหมายไว้"

     

    "มีเพื่อนนายส่งมาให้เหรอ?"ลูฟี่ถาม

     

    "ไม่รู้สิ แต่มันระบุว่าส่งมาหานาย"ซันจิกล่าว

     

    "คุณกุ๊กพูดว่าค้างคาวดำเหรอ?"โรบินถามด้วยตาเบิกกว้างเล็กน้อย

     

    "รู้อะไรเหรอโรบิน?"เซียร์ถาม

     

    "มันเป็นค้างคาวสื่อสารที่ใช้โดยรัฐบาลโลก"โรบินอธิบาย

     

    "รัฐบาลโลก?"ลูกเรือแทบทุกคนตะโกน ยกเว้นคิรัวร์ที่จ้องมองจดหมาย

     

    "ใช่แล้ว และเมื่อพวกเขาส่งข้อความมาให้โจรสลัด ส่วนใหญ่เพื่อจุดประสงค์เดียวเท่านั้น"โรบินพูดขณะมองคิรัวร์เปิดอ่านจดหมาย

     

    "เขียนว่าอะไรคะ?"วีวี่ถาม ขณะที่นามิมองผ่านไหล่อ่านจดหมายด้วย

     

    นามิอ่านได้ไม่ถึงครึ่งก็อ้าปากค้าง เมื่อเห็นปฎิกิริยาต้นหนแล้วลูกเรือทุกคนต่างมามุงดูอ่านจดหมาย

     

    ถึงนามิคาเสะ คิรัวร์

     

    พวกเรารัฐบาลโลกต้องการเนเฟลตาลี วีวี่ เจ้าหญิงอลาบาสต้ากลับมาอย่างปลอดภัยและเราจะยกเลิกค่าหัวเธอ หากยอมทำตาม รัฐบาลโลกจะตอบแทนโดยมอบตำแหน่งให้นายได้เป็น1ใน7เจ็ดเทพโจรสลัด เมื่อเห็นว่านายได้โค่นคล็อกโคไดล์พร้อมทั้งชื่อเสียงนักล่าค่าหัวจากเซาธ์บลู ตำแหน่งนี้จะทำให้ค่าหัวของนายรวมทั้งลูกเรือถูกยกเลิกและมีอิสระในการเดินเรือ แต่เมื่อได้ตำแหน่งนี้ คุณต้องตอบรับการเรียกตัวของรัฐบาลและมองส่วนแบ่งต่างๆในอนาคต โปรดติดต่อไปยังฐานทัพเรือที่ใกล้ที่สุดหากคุณยอมรับข้อเสนอ

     

    5ผู้เฒ่า

     

    ลูกเรือแทบทุกคนต่างอ้าปากค้าง คางของพวกเขาตกลงพื้น

     

    "ฉันอ่านไม่ผิดใช่มั้ย?"อุซปถามให้แน่ใจ

     

    "รัฐบาลโลกต้องการให้นาย....เป็นเจ็ดเทพโจรสลัด!!!"นามิตะโกน

     

    "พวกเขาตีค่านายไว้สูงเลยนะคิรัวร์"โซโลกล่าว

     

    "ใครคือ5ผู้เฒ่า?"เซียร์ถาม"กลุ่มระดับสูงในรัฐบาลโลกเหรอ?"

     

    "พวกเขาเป็น5ผู้อาวุโสที่มีอำนาจสูงสุดในรัฐบาลโลกคะ"วีวี่อธิบายแม้แต่ท่านพ่อก็ไม่เคยพบหน้าพวกเขาเลย"

     

    "ผู้ทรงอำนาจสูงสุดของรัฐบาล!!!"หลายคนตะโกน

     

    "และพวกเขาจะตัดสินใจเรื่องต่างๆของรัฐบาลและการเลือกเจ็ดเทพโจรสลัด ฉันว่าคิรัวร์คุงถูกทาบทามเพราะผลปีศาจที่เขาครอบครอง เขาสู้กับคล็อกโคไดล์และชนะเขาถึงสองครั้ง"โรบินอธิบายหันไปมองคิรัวร์"เธอจะทำยังไงคิรัวร์คุง มีทั้งข้อดีและข้อเสียจากการเป็นเจ็ดเทพโจรสลัด"

     

    "เธอพูดถูก ถ้าทำวีวี่จะได้กลับบ้านไปเป็นเจ้าหญิง"นามิกล่าว

     

    "ไม่!!!!"ซันจิปฎิเสธ ตอนนี้ทุกคนเมินเขา

     

    "กองทัพเรือจะไม่พยายามจมเรือเราอีก"เซียร์กล่าว

     

    "โจรสลัดอีกหลายกลุ่มจะหนีเมื่อเจอเรา"อุซปกล่าว

     

    "แต่เราต้องให้ส่วนแบ่งสมบัติที่ปล้นได้กับพวกเขาด้วย"โซโลกล่าว

     

    "ไม่มีทาง ข้ามศพฉันไปก่อน!!!!"นามิตะโกน

     

    "ค่าหัวนายจะถูกยกเลิกและนักล่าค่าหัวจะไม่ตามไล่ล่า"โซโลกล่าว

     

    "คิรัวร์คุง"วีวี่กระซิบเบาๆ เธอมีโอกาสจะได้กลับไปอยู่กับพ่อและน้องสาวอีกครั้ง แต่เธอก็อยากรู้ว่าคิรัวร์จะเลือกอะไร

     

    "......"ลูฟี่มองดูคิรัวร์เงียบๆ

     

    "แคว่ก!!!"คิรัวร์ฉีกจดหมายโปรยทิ้งไป

     

    "ลืมมันซะเถอะ"

     

    "แน่ใจนะคิรัวร์?"โซโลถาม

     

    "ฉันไม่เคยอยากเกี่ยวข้องกับรัฐบาลโลกและไม่อยากไปยุ่งด้วยในตอนนี้"คิรัวร์กล่าว"ฉันกลายเป็นโจรสลัดเพื่อทำตามความฝันเป็นจักรพรรดิและนักดาบที่ยิ่งใหญ่ ไม่ใช่สุนัขรับใช้ของรัฐบาล"

     

    "พูดได้ดี"โซโลยิ้ม

     

    "แต่ว่าวีวี่..."

     

    "หมับ!!!!"วีวี่เข้าไปกอดคิรัวร์แน่น

     

    "คิรัวร์คุง...ขอบคุณนะ"วีวี่พูดแล้วจูบปากคิรัวร์ต่อหน้าทุกคน

     

    "ไม่เป็นไรเจ้าหญิง"คิรัวร์ลูบหัวเธอ

     

    ทุกคนอ้าปากค้างและมีคนร้องไห้โดยเฉพาะซันจิ

    __________________

     

    "บอสครับ สแตนบายเรียบร้อยแล้วครับ"

     

    "ไมโครโฟนก็โอเคแล้วครับ"

     

    "โอเค ปล่อยคลื่นเสียงโซน่าค้นหาได้"

     

    กัปตันยกไมโครโฟนขึ้นมาร้อง

     

    ใต้น้ำลงไป ไมโครโฟนขนาดใหญ่กำลังแผ่ขยายเสียงเขาออกไป

     

    กลุ่มลูกเรือที่สวมชุดดำกำลังเงี่ยหูฟังเสียงโซน่า 

     

    ชายคนนึงค้นพบบางอย่างแล้วโผล่ขึ้นมาจากน้ำ

     

    "หน่วยดำน้ำหมายเลข27ยืนยันเสียงสะท้อน ตรวจพบฝูงปลา ทิศทาง9นาฬิกา เข้าใจว่าเป็นปลาซามะครับผม"

     

    "ดี คืนนี้ได้กินบาบีคิวกันล่ะ"กัปตันร้อง

     

    "หน่วยดำน้ำหมายเลข4ยืนยันเสียงสะท้อน ตรวจพบเรือใบลำเล็กและอยู่เหนือผิวน้ำทะเลครับ"

     

    "อะไรนะ เรือใบ ตรวจสอบทิศทางให้แน่ชัดซิ"กัปตันสั่ง

     

    "ทิศทาง12นาฬิกาครับ"หน่วยดำน้ำหมายเลข4มองโกอิ้งแมรี่ที่มุ่งหน้ามาด้านหน้า

     

    "ก็มองเห็นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?"กัปตันโถงถังไม้ใส่หัวลูกน้อง"หยุดการค้นหาหน่วยดำน้ำกลับมาที่เรือเดี๋ยวนี้"

     

    "วู้ม!!!"หน่วยดำน้ำต่างปีนบันไดเชือกกลับเข้าเรือ

     

    _________________________

     

    คิรัวร์นั่งโดยที่วีวี่กอดแขนเขาไว้ แม้จะไม่ได้พูดอะไร แต่ทุกคนบนเรือต่างเห็นว่าคิรัวร์กับวีวี่เป็นแฟนกันแล้ว

     

    "จากนี้ไป...เธอต้องรับผิดชอบฉันนะ"วีวี่หน้าแดงพูด

     

    "แน่นอนเจ้าหญิง"คิรัวร์จูบปากเธอ

     

    "ฉันไม่ใช่เจ้าหญิงแล้ว"วีวี่กล่าวแย้ง

     

    "เธอเป็นเจ้าหญิงสำหรับฉันเสมอ"

     

    "ฉ่า!!!"วีวี่หน้าแดงซุกอกเขา"ฉันรักเธอคิรัวร์คุง"

     

    นามิที่เฝ้ามองห่างออกไปถอนหายใจออกมา

     

    "เพล้งๆๆ"ในห้องครัวดูเหมือนซันจิเหม้อลอยทำจานแตก

     

    "เฮ้ ซันจิ เลิกซึมซะทีได้มั้ย!!!"อุซปตะโกน

     

    "ทำไม.....ทำไมวีวี่จังเลือกเจ้าหัวกระต่ายมากกว่าฉัน"ซันจิกล่าว

     

    "เจ้าชายติงต๊องที่ไม่มีวันมีแฟน"โซโลกล่าว


    "ว่าไงนะแก!!!"

     

    โรบินที่อ่านหนังสือมองดูคิรัวร์อย่างชื่นชอบที่เขาเลือกเจ้าหญิงที่โดนตามล่าจากทั้งโลกแทนที่ตำแหน่งเจ็ดเทพโจรสลัด


    "เธอชื่นชมเขาสินะ"เซียร์เดินมาถามโรบิน

     

    "แน่นอน"โรบินกล่าว"พวกเขาเป็นคู่รักที่เหมาะสมดี"

     

    "แล้ว...เธออยากได้คนแบบเขาคอยปกป้องเธอไหม?"เซียร์ยิ้ม

     

    โรบินชะงักไป

     

    "เธอหมายถึงอะไร?"โรบินถามตื่นตระหนกเล็กน้อย

     

    "ฉันหมายความตามนั้นนิโค โรบิน"เซียร์ยิ้มมีเลศนัยเดินจากไป

     

    "อืม วีวี่ดังฉวยโอกาสได้คิรัวร์เป็นแฟนไปแล้ว ฉันต้องรีบก่อนนามิจะตัดหน้า ฮิๆๆ"เซียร์เดินไปยิ้มในใจ

     

    เรือโกอิ้งแมรี่มุ่งหน้ามาเจอเรือลำใหญ่ด้านหน้า

     

    "ไม่นึกว่าจะมาเจอกับคนพวกนั้นอีก นั่นมันพวกตอนนั้นไม่ใช่เหรออุซป?"ลูฟี่ถามอุซปที่ซ่อนอยู่หลังซันจิ

     

    "เออ มันจะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่สำคัญเลยนี่นาจริงไหม"ซันจิกล่าว

     

    "ถึงงั้นก็เถอะ พวกเราเคยเจอมันมาแล้วเนอะ"อุซปกล่าว


    "ใช่ เจ้าพวกนั้นน่าจะเป็นคนบนเกาะนี้ด้วยล่ะ เราเห็นตอนที่พวกมันกลับมา"ช็อปเปอร์กล่าว

     

    "เจอกันใหม่ก็ไม่เสียหายอะไรนี่

     

    เรือลำใหม่ที่เจอคล้ายกับของมาชิรา แต่ที่ต่างคือมีต้นไม้ปลูกอยู่บนเรือ หัวเรือเป็นหน้าลิงตัวอ้วนๆ และใบเรือเขียนว่า"โมริโนะฮิโตะ"

     

    "พี่ชายตรงนั้นน่ะพูดอะไรพึมพำกันอยู่เหรอ?"กัปตันเรือถาม

     

    เขาเป็นชายตัวใหญ่หน้าเหมือนลิงอุรังอุตัง มีผมสีเขียวยาวมากและเคราสีเขียวสั้นๆบนคางกลมของเขา สวมเสื้อคลุมกัปตันสีเขียวกับขาว

     

    ชื่อเขาคือ"โชโจ" เจ้าแห่งการค้นหาใต้สมุทร และมีค่าหัว36ล้านเบรี

     

    "เหอะ จริงๆเลย เป็นใครที่ไหนกันเนี่ย ไม่อยากเจอเลยอ๊ะ"

     

    "หน้าตาเกินบรรยายจริงๆ เป็นพันธุ์ไหนเนี่ย?"ลูฟี่ถาม


    "ฉันเป็นคนเฟ้ยจะบ้าเรอะ!!!"โชโจตะโกน

     

    "ฮูมๆๆ นี่พวกแก ไม่รู้ว่าหัวหน้าของพวกเรากลุ่มโจรสลัดนักสำรวจใต้ทะเลโชโจรึยังไง"

     

    "จะให้บอสของเราโกรธรึยังไง"

     

    "เอาน่า ไม่เป็นไรๆ พวกนายน่ะท่าทางจะเป็นโจรสลัดละสิใช่มั้ย รู้ข่าวมั้ยที่ว่า1ใน7เทพโจรสลัดคล็อกโคไดล์ตกกระป๋องไป ตอนนี้ก็เลยมีที่ว่างอยู่ ถ้าว่ากันตามความสามารถแล้วฉันคนนี้น่าจะเป็นคนต่อไปนะ"

     

    "โอ้ นายอยากเป็น7เทพโจรสลัดงั้นเรอะ?"ลูฟี่ถาม

     

    "ถ้าพูดถึงความสุดยอดของฉันคนนี้ละก็ตั้งแต่เกิดมา25ปีไม่เคยตัดผมเลยแม้แต่เส้นเดียวนะ เป็นไงถึงกับอึ้งในความเจ๋งของฉันเลยใช่มั้ย?"โชโจโม้ใหญ่

     

    "บ้าดีนะนายเนี่ย"ลูฟี่ตอบ

     

    "พวกแก กล้าว่าบอสอย่างงั้นเหรอ?"ลูกเรือโกรธ

     

    "เอาน่าๆ คำตอบของพวกนายเนี่ยทำให้ฉันอึ้งไปเลยนะ แต่ว่านะถ้าฉันคนนี้โกรธขึ้นมาเมื่อไหร่ละก็ ที่แห่งนั้นจะกลายเป็นทะเลเลือดไปเลยล่ะ"โชโจกล่าว

     

    "ก็ไม่เลวนะ แต่ว่าตอนนี้เรามีที่ที่ต้องไปอยู่ช่วยหลีกทางไปหน่อยได้มั้ย?"ลูฟี่กล่าว

     

    "เจ้าพวกโง่!!!!"โชโจตะโกน"ทะเลแถบนี้เป็นเขตของฉันนะ ถ้าจะผ่านก็ต้องจ่ายค่าผ่านทางมาก่อน"

     

    "อะไรของมันนั่นน่ะ เขตเรอะ พูดเหมือนเจ้ามาชิราเลย"อุซปกล่าว

     

    "มีพูดอย่างงั้นด้วยเรอะ?"ลูฟี่ถามอย่างสงสัย

     

    "อะไรนะมาชิรา เกิดอะไรขึ้นกับหมอนั้นงั้นเหรอ?"โชโจถาม

     

    "อ้อ? เจ้าหมอนั้นละก็พวกเราเป็นคนเตะลอยหายไปแล้ว"ลูฟี่กล่าว

     

    "เตะกระเด็นหายไปงั้นเรอะ พวกแกกล้าทำกับพี่น้องของฉัน"โชโจโกรธ

     

    "เฮ้เดี๋ยวก่อน แค่เตะไปเท่านั้นเอง ไม่ถึงตายซะหน่อย"ลูฟี่พยายามอธิบาย

     

    "คลื่นเสียงโซน่าทำลายล้าง!!!"โชโจยกไมโครโฟนขึ้นมา"อ๊า!!!!!"

     

    คลื่นเสียงที่ออกมาจากไมโครโฟนเริ่มทำให้พื้นไม้บนเรือของโชโจพังและลูกน้องลอยกระเด็นไป บางคนโชคร้ายตกจากเรือ

     

    "เรือ!!!"เซียร์เห็นว่าโชโจกำลังทำลายเรือตัวเอง

     

    "ทำอะไรน่ะเจ้าพวกนั้น?"ซันจิกล่าว

     

    "แต่พลังเสียงสุดยอดเลยนะ จะพังเรืออยู่แล้ว"ลูฟี่แสดงความเห็น

     

    "นี่เราโดนโจมตีใช่มั้ย?"เซียร์ถาม

     

    "ผมจะปกป้องสาวๆเอง"ซันจิร้องขึ้น

     

    "หุบปากไปเถอะแกน่ะ"คิรัวร์พูดเสียงเบื่อหน่าย

     

    "ว่าไงนะแก"ซันจิมองเขาอย่างโมโห

     

    "นี่ทุกคนอย่ามัวแต่ดูสิ เดี๋ยวจะไปต่อแล้วนะ เร็ว"นามิเรียกทุกคน

     

    "ครับคุณนามิ"ซันจิร้องตอบ

     

    "แล้วเธอก็กลับมาสั่งอีกครั้ง"คิรัวร์บ่น

     

    "โอ๊ะ นามิเลิกกลายร่างเป็นนางยักษ์แล้ว"ลูฟี่กล่าว

     

    "จริงเหรอ"ช็อปเปอร์โล่งอกและดีใจ

     

    "ก็ระบายไปซะขนาดนั้นนี่นา"อุซปกล่าว

     

    แต่แล้วคลื่นเสียงก็มาถึงเรือแมรี่และเริ่มทำให้ไม้ปริแตกออกมา แต่ต่างจากเรือของโชโจที่อยู่ในสภาพดี เรือแมรี่เสียหายและซ่อมแบบลวกๆของอุซป

     

    "แย่แล้ว เสียงนั้นมีผลต่อเรือลำนี้จริงๆซะด้วย"อุซปเอาเท้าเหยียบแผ่นไม้ที่จะหลุดออก"จุดที่พึ่งซ่อมมาเริ่มหลุดเป็นชิ้นๆแล้ว แม้แต่จุดที่ไม่เป็นไรก็เริ่มแตกออกแล้วด้วย ถ้ายังอยู่ที่นี่มีหวังเรือทั้งลำหลุดเป็นชิ้นๆแน่เลย"

     

    "เดินหน้าเต็มกำลัง ไปที่ที่เสียงนั้นตามมาไม่ถึง"นามิสั่ง

     

    เรือแมรี่เริ่มแล่นหนีไป ขณะที่ลูกเรือโชโจพยายามเอาตัวรอดจากคลื่นเสียงของกัปตัน

     

    "หัวหน้าครับ เรือจะพังแล้วครับหัวหน้าครับ!!!"

     

    "ไม่ไหวแล้วครับ พอเถอะครับ!!!"

     

    __________________________

     

    กลับมาที่บาร์พับแอนต์พาย พวกเขากำลังคุยเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อกี้

     

    "น่าตกใจจริงๆนะ หลังจากนั้นพี่ชายคนนั้นก็พูดว่าช่วยบอกวิธีไปหาคริกเก็ตคนนั้นหน่อยซิ"

     

    "ฮะๆๆ เป็นเด็กที่ใจเด็ดนะ"

     

    "ไม่ใช่แค่ใจเด็ดนะ ตอนเข้าร้านมาแล้วกลุ่มโจรสลัดมาหาเรื่อง ก็มีไฟโผล่มาจากไหนไม่รู้เผาใส่พวกนั้นล้มลงหมด ตัวกัปตันรีบเผ่นหนีจากร้านไปเลย เล่นเอาทุกคนตกใจเลย นี่ไม่ใช่เรื่องน่าหัวเราะนะ"

     

    "ฮ่าๆๆๆ"

     

    "แต่ว่านะพี่ชายคนนั้นน่ะมีธุระอะไรกับตาลุงคริกเก็ตนะ"

     

    "ทะเลแถบนั้นมันเป็นเขตของเจ้าลิงสองพี่น้องนั้นไม่ใช่เรอะ แล้วนอกจากนั้นเรื่องของตาลุงนั่นน่ะ ฮะๆๆๆ มันน่าขำจริงๆเลย"

     

    "พี่ชายคนนั้นคงเล็งตะเกียงทองอยู่แน่เลย"

     

    "ตะเกียงทองเหรอ"

     

    "ใช่ๆ เห็นว่าเจอเมื่อไม่นานนี้เอง"

     

    "เฮ้ พวกแกน่ะ"ทุกคนหันไปมองเห็นเบรามี่ที่นั่งดื่มอยู่ในบาร์ ซาคีสและสมาชิกคนอื่นอีกหลายคนของกลุ่มโจรสลัดเบรามี่ก็อยู่ด้วย

     

    "เบรามี่?"

     

    "ตะเกียงทองที่ว่าน่ะคืออะไร ชักอยากจะเจอขึ้นมาแล้วสิ เจ้าผู้ชายที่ชื่อคริกเก็ตนั่นน่ะ ช่วยบอกมาให้ละเอียดทีซิ ฮะๆๆๆ"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×