NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One piece Another Nakama 2

    ลำดับตอนที่ #146 : กลับไปที่เรือ(RE2)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 713
      19
      30 ธ.ค. 61

    ทางด้านบรู๊คกำลังอธิบายแผนให้คิรัวร์ แฟรงกี้และโรบิน

    "หา กลับไปที่เรือเหรอ ให้พวกเรากลับเรือซันนี่เนี่ยนะ"แฟรงกี้กล่าว

    "ใช่ครับ กรณีเลวร้ายที่สุดที่จะเกิดขึ้นกับเพื่อนๆที่ถูกจับตัวไปของพวกคุณก็คือถูกแย่งเงาไป แต่ว่าคนที่ถูกแย่งเงาไปก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะตายในทันทีนะครับ ก็อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ ผมยังมีชีวิตอยู่ อ๊ะ แต่เราตายไปแล้วนี่นา!!!!"

    "ไอ้นั่นมันคนละประเด็นแล้ว!!!!"แฟรงกี้ตะโกน

    "สรุปก็คือถึงถูกแย่งเงาไปก็ไม่ตายสินะ"คิรัวร์ตัดบท

    "ถูกต้องครับ เพียงแต่ปัญหาอยู่ที่พอถูกแย่งเงาทุกคนจะหมดสติครับ แถมหลับไปอีก2วันเต็มๆ ยิ่งเก่งมากเท่าไหร่ก็จะถูกเอาตัวไปขึ้นเรือและขับออกนอกธริลเลอร์ บาร์ค อันนี้ผมพูดไปแล้วรอบหนึ่ง รู้ไหมครับว่าเพราะอะไร"

    "เพื่อไม่ให้ผู้เสียหายกลับมาที่ธริลเลอร์ บาร์คเพื่อทวงเงาคืนได้อีกงั้นสินะ"โรบินกล่าว

    "ใช่แล้วครับ"

    "ถ้าอย่างงั้นฆ่าทิ้งตอนหมดสติอยู่ไม่ง่ายกว่าเหรอ?"แฟรงกี้ถาม

    "ทำแบบนั้นไม่ได้หรอกครับ"บรู๊คตอบ"ประเด็นอยู่ตรงนี้ตั้งใจฟังให้ดีนะครับ ก่อนอื่น แม้เงากับร่างจะขาดจากกันแต่ก็ยังเป็นหนึ่งเดียวกันอยู่ ถ้าตัวจริงตายเงาก็จะสูญสลายไปด้วย เท่ากับว่าซอมบี้ที่สวมเงาอยู่ก็จะสูญสิ้นชีวิตตามไปด้วย ฝ่ายศัตรูก็กลุ้มใจเรื่องนี้อยู่จึงต้องปล่อยให้ตัวจริงมีชีวิตอยู่ต่อไป นั่นก็แปลว่าต่อให้เพื่อนๆพวกคุณถูกแย่งเอาเงาไปแล้วก็ตาม พวกเขาจะถูกส่งออกทะเลในสภาพที่ยังมีชีวิตอยู่อย่างแน่นอน ดังนั้นแล้วถ้าพวกคุณที่เหลืออยู่ถูกแย่งเงาไปด้วย นั่นแหละครับสถานการณ์ขั้นเลวร้ายที่สุด คุณจะสูญเสียเงาและไปไหนไม่ได้อีกเลย ในระหว่างที่ยังพอมีโอกาสอยู่นี้ การรอให้เพื่อนของคุณฟื้นขึ้นมาและหาโอกาสแย่งเอาเงากลับคืนมาได้คือหนทางที่ดีที่สุดนะครับ ไม่ทราบว่าเข้าใจที่ผมพูดไหมครับ"

    "เข้าใจแล้ว"คิรัวร์พยักหน้า"กลับไปที่เรือซันนี่กันเถอะ"

    "พวกคุณเอานี่ไปนะครับ"บรู๊คยื่นถุงสีน้ำตาลให้

    "นี่อะไร?"โรบินถาม

    "จุดอ่อนของพวกซอมบี้ครับ ผลของมันสไปเดอร์มังกี้ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วเมื่อครู่นี้"บรู๊คกล่าว

    "จุดอ่อนเหรอ ตกลงมันคืออะไรกันแน่?"แฟรงกี้ถาม

    "เกลือน่ะครับ"บรู๊คตอบ

    "เกลือเรอะ พอสาดเกลือก็ขับสิ่งชั่วร้ายได้เนี่ย มันเป็นคำสาปหรือไง?"แฟรงกี้ถาม

    "ถ้าจะพูดไปแล้วก็คงประมาณนั้นแหละครับ เหล่าบรรดาซอมบี้ที่ลุกขึ้นมาเคลื่อนไหวได้ด้วยพลังของผลปีศาจแบบนี้จะหมดพลังเช่นเดียวกับพวกมีพลังที่ตกลงไปในทะเล ด้วยเกลือที่มีพลังของท้องทะเล จะทำให้ร่างที่สวมวิญญาณปลอมอยู่ไม่สามารถคงสภาพอยู่ได้ ประมาณนั้นแหละครับ"

    "อย่างงี้นี่เอง งั้นวิญญาณที่ลอยออกมาจากปากนี้ คือเงาที่ถูกจับยัดอยู่ในตัวของมันอย่างงั้นสินะ"

    "มีจุดอ่อนแบบนี้อยู่ด้วยเหรอเนี่ย"

    "ดังนั้นเวลาที่จะปราบซอมบี้กรุณาเอาเกลือยัดใส่ปากซอมบี้ด้วยนะครับ นี่คือเคล็ดลับ"บรู๊คกล่าว

    "แต่ว่านะบรู๊ค ที่คุณรู้เรื่องเกี่ยวกับเกาะแห่งนี้แล้วก็พวกซอมบี้ได้ละเอียดขนาดนี้เนี่ยเพราะอะไร?"โรบินถาม

    "เพราะว่าผมถูกแย่งเงาไปเมื่อ5ปีที่แล้วยังไงล่ะครับ แน่นอนว่าผมถูกปล่อยลอยทะเล แต่โชคดีที่ผมรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาได้ทันเวลาพอดี

    บรู๊คตื่นขึ้นมาได้เพราะพวกนกพิราบมาเคาะเข้าที่หัว

    "หลังจากนั้นผมกลับไปที่เกาะและต่อสู้ ต่อสู้กับซอมบี้ที่สวมเงาของผมอยู่ แต่ว่าผมแพ้ราบคาบ ผมเสียดายชีวิตจึงหนีออกมา ไม่ว่ายังไงผมก็ยังไม่อยากที่จะตายในตอนนี้ เพราะว่าผมคือผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวบนเรือลำนั้น สักวันผมจะต้องออกไปจากทะเลปีศาจแห่งนี้และทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนๆ ผมจึงหนีเพื่อมีชีวิตต่อไป"

    คิรัวร์ แฟรงกี้และโรบินยืนนิ่งฟังโครงกระดูกเล่า

    "แต่ว่าถึงจะมีชีวิตยืนยาวมันก็ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว ดังนั้นคราวนี้ผมจะไม่หนีอีก จนกว่าจะชนะผู้ชายคนนั้นและทวงเงากลับมาได้"

    บรู๊คนึกภาพตัวเองตายขึ้นมา

    คิรัวร์ แฟรงกี้และโรบินมองบรู๊คที่สะดุ้งและเหงื่อไหลเพราะกลัวความตาย

    "เอาล่ะคือผมขอโทษด้วย ผมต้องรีบไปแล้ว โชคดีนะครับ"

    "เดี๋ยวก่อนสิ"คิรัวร์เรียกเขาไว้"ไหนๆก็พูดแล้ว นายตอบคำถามของฉันอีกสักข้อก่อนแล้วกัน"

    บรู๊คหันมามองคิรัวร์

    ________________________

    ที่ห้องของโมเลีย

    "คิชิๆๆ แค่นี้ลูฟี่หมวกฟางก็ตกอยู่ในมือของฉันแล้ว ฉันได้มาแล้วลูกน้องที่แข็งแกร่งที่สุดของฉัน คิชิๆๆๆ"

    "เซียร์ ลูฟี่"นามิร้องเบาๆ

    "ไม่เป็นไรน่า เมื่อตะกี้นี้เห็นไหม"อุซปกล่าว

    "หมอนั้นดึงและก็ตัดเอาเงาออกไป"ช็อปเปอร์กล่าว

    "เงาเหรอ จะว่าไปแล้วเจ้าโครงกระดูกนั่นก็พูดเรื่องนี้เหมือนกันนี่นา"นามิกล่าว

    "ที่ว่าถูกแย่งเงาไป งั้นบรู๊คก็โดนแบบนี้ด้วยเรอะ"อุซปกล่าว

    "ไม่อยากจะเชื่อเลย ทำไมหมอนั้นถึงได้ทำเรื่องแบบนี้ได้"ช็อปเปอร์กระซิบ

    คุมาซี่มองพวกเขา เพโรน่าหันมาสนใจทำให้ทั้งสามรีบกลับเข้าไปซ่อนในตัว

    "นี่คุมาซี่แอบบ่นอะไรพึมพำใช่มั้ยเมื่อกี้น่ะ?"เพโรน่าเข้ามาถาม

    "โอะๆๆ"คุมาซี่จะพูด

    "ฉันบอกแล้วไงว่าห้ามพูด"เพโรน่าสั่ง คุมาซี่ได้แต่เงียบ

    "จะเคี่ยวอะไรกับคุมาซี่นักหนา"อับซารอมกล่าว

    "คิชิๆๆๆ ท่าทางเจ้านี้จะช่วยให้ฉันใกล้ตำแหน่งราชาโจรสลัดเข้าไปอีกก้าวแล้วนะเนี่ยฮอกแบค"โมเลียกล่าว

    "โฮ่ๆๆ ตั้งแต่เจอกับนายเมื่อสิบปีก่อน ฉันทุ่มเทความสามารถสร้างหมายเลข900ขึ้นมาก็เพื่อวันนี้ไง เมื่อใส่เงาลงไปมันจะกลายเป็นสุดยอดซอมบี้และกลายเป็นขุมกำลังที่ยิ่งใหญ่ของพวกเราอย่างแน่นอน"ฮอกแบคกล่าว

    "หึหึ นั่นรวมไปถึงฉันที่ใกล้จะได้เป็นจ้าวแห่งสุสานของโลกใบนี้ด้วยเช่นกัน"อับซารอมกล่าว

    "ฮิๆๆ ดินแดนในฝันของฉันที่จะเปลี่ยนสิ่งน่ารักในโลกให้เป็นซอมบี้ที่เชื่อฟังคำสั่งของฉันก็ใกล้แค่เอื้อมแล้วเหมือนกัน"เพโรน่ากล่าว

    "ใช่แล้ว ไม่ว่าหน้าไหนพอกลายเป็นเงามันจะต้องเชื่อฟังอย่างไม่มีข้อแม้ โลกใบนี้จะกลายเป็นโลกของซอมบี้ที่เชื่อฟังว่านอนสอนง่าย ถ้ามีลูกน้องแบบนี้ตั้งแต่แรก ตอนนั้นฉันก็คงไม่เสียท่าแพ้ให้กับเจ้าบ้าไคโดที่อยู่ในนิวเวิลด์นั่นอย่างแน่นอน"

    โมเลียหันไปมองประตูหมายเลข900

    "งั้นเรามาปลุกให้มันตื่นขึ้นมาดีกว่า เกียวโระ นิน บาโอะ เปิดประตูห้องแช่แข็งพิเศษซะ"

    "ครับ เจ้านาย!!!!"ซอมบี้วิ่งไปยังประตูแช่แข็งหมายเลข900

    "สไปเดอร์เมาส์ เอาร่างของหมวกฟาง ลูฟี่ไปทิ้งไว้ที่เรือ อย่าลืมคลายใยที่รัดตัวมันด้วย ขืนมันตายขึ้นมาเราจะแย่"

    "ครับ"

    "เดี๋ยวก่อนครับ ผมมีเรื่องรายงาน"สไปเดอร์เมาส์อีกตัวลงมา

    "มีอะไร?"อับซารอมถาม

    "เมื่อสักครู่สไปเดอร์มังกี้หัวหน้าทาทาลันถูกเล่นงานไปแล้วครับ"

    "ถูกเล่นงานเหรอ หึ ถ้าแค่นั้นเงาก็ไม่ได้หลุดหายไปซะหน่อยนี่นา"อับซารอมกล่าว

    "แต่เงาหลุดลอยไปเรียบร้อยแล้วครับ"

    "เงาหลุดไปแล้วเนี่ยนะ?"อับซารอมถามอีกครั้ง

    "ใช่ครับ"

    "คนที่ทำเรื่องแบบนั้นได้มีแค่ผู้ชายคนนั้นคนเดียว"

    "นักดาบฮัมเพลงเหรอ ดูท่าเรื่องที่ฮิลดอนแจ้งมาจะเป็นความจริงอย่างงั้นสินะ"ฮับซารอมกล่าว

    "เจ้านักดาบฮัมเพลงนั้นไล่ดึงเงาออกมาเป็นว่าเล่น เผลอแปปเดียวก็มีพวกที่ถูกเล่นงานไปแล้วจำนวนมาก ขืนเป็นแบบนี้ได้ย้อนรอยฝันร้ายเมื่อ5ปีก่อนแน่ครับ"

    "เจ้าฮัมเพลงนั่น บ้าจริง เป็นศัตรูแท้ๆแต่หมอนั่นดังรู้ความลับจุดอ่อนของซอมบี้ซะได้ เดี๋ยวสิ แล้วหมอนั้นไปรู้ความลับมาจากไหน แล้วหมอนั้นกลับมาที่นี่ได้ยังไง"ฮอกแบคกล่าว

    ตอนนั้นซินดี้ก็มายืนบังหน้าฮอกแบค

    "นี่ซินดี้จังมายืนบังหน้าฉันทำไมเนี่ย?"

    "นักดาบฮัมเพลง ได้ยินชื่อตั้งหลายครั้งแล้วมันเป็นคนแบบไหรเหรอ?"เพโรน่าถาม

    "เพโรน่า นี่เธอไม่เคยเจอหน้าเจ้าหมอนั่นเลยเหรอ? เพราะงั้นถึงได้คลาดสายตามันไปตอนออกตรวจตราสินะ"

    "คงงั้นมั้ง"เพโรน่ากล่าว

    "เจ้านาย เจ้าตัวยุ่งนั่นมันกลับมาที่เกาะนี้อีกแล้ว"

    "เรื่องนั้นฉันไม่รับรู้หรอกนะไอ้พวกบ้า"โมเรียเดินไปทางห้องแช่แข็ง"พวกนายไปหาทางจัดการเอง"

    "เดี๋ยวสิ!!!!"อับซารอมตะโกน

    แต่โมเลียเปิดห้องแช่แข็งและเดินเข้าไปตามทางเดินยาวแล้ว

    "คือแบบว่านะครับ"

    "เจ้าบ้าทำไมไม่รีบมาบอกก่อน"อับซารอมทุบหัวแมงมุม"ไม่งั้นเราก็สกัดมันได้ไม่ยากเลย"

    "ครับ"

    "ถ้ามีปัญหาอะไรอีกก็รีบมารายงาน รีบเอาเจ้าหมวกฟางไปทิ้งได้แล้ว"อับซารอมสั่ง

    พวกแมงมุมเข้ามาเอาตัวลูฟี่ไป

    "ลูฟี่--"นามิจะโดดจากหลังแต่อุซปห้ามไว้

    "จะบ้าเหรอเปิดทำไม"อุซปปิดปากเธอปิดซิบหลังคุมาซี่

    "เอาเงาไปแต่ก็ยังไม่ตายซะหน่อย ดูบรู๊คเป็นตัวอย่างก็ได้"

    "อื้อ"นามิพยักหน้า

    "คุมาซี่เร็วๆหน่อย"เพโรน่าที่เดินเข้าห้องแช่แข็งบอก คุมาซี่รีบวิ่งตามไป

    "ตอนนี้ยังออกไปไม่ได้ต้องรอไปก่อน แถมจะเอาเงาของลูฟี่ไปทำอะไรก็ไม่รู้ เราต้องซุ่มจับตาดูเอาไว้ จะได้มาเอาคืนทีหลังได้ไง"

    _______________________

    บนสะพานใยแมงมุม พวกเจเนรัลซอมบี้กลับขึ้นมาถึงเห็นศพของสไปเดอร์มังกี้

    "สามคนนั้นไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว"

    "เฮอะ ไม่นึกเลยว่าจะเก็บเจ้าทาลาลันได้เลยนะเนี่ย"

    "ตรงนี้เอง"จิโกโร่ตามขึ้นมาถึง

    "อะไรกัน หลงทางรึไงจิโกโร่"

    "หนวกหู ที่สำคัญคือศัตรูอยู่ที่ไหน มาให้ฉันเชือดเร็วๆหน่อย อยู่ไหน!!!!"

    ____________________

    คิรัวร์ แฟรงกี้และโรบินกำลังวิ่งขึ้นบันไดรีบกลับไปที่เรือซันนี่ แต่แฟรงกี้ร้องไห้ไม่หยุด

    "แฟรงกี้"

    "ฉันไม่ได้ร้องไห้ซะหน่อย ยัยบ้าเธออย่ามองมาทางนี้สิ ฮือๆๆ"แฟรงกี้ร้องไห้

    "เพราะอะไรคุณถึงถามคำถามนั่นกับเขา?"โรบินถามก่อนมองแฟนเธอ"แล้วทำไมเธอยิ้มแบบนั้น

    "ยุ่งน่ามันเรื่องของฉันนี่นา"แฟรงกี้กล่าว

    "ไม่มีอะไรน่ากังวล ฮึๆๆ"คิรัวร์บอกแล้วหัวเราะ

    "ฮือๆ บ้าชะมัดเลย ฉันรักเจ้าหัวกะโหลกนั่นที่สุดเลย หมอนั้นนิสัยดีขนาดนั้นแท้ๆ บ้าบอที่สุดเลย"แฟรงกี้กล่าว

    "ฮึๆๆ จริงด้วยนะ"โรบินเห็นด้วย

    _____________________

    ทางด้านบรู๊คจัดการฝูงซอมบี้เดินไปที่ห้องวิจัยของฮอกแบค

    "คราวนี้เราจะไม่แพ้เด็ดขาด"บรู๊คกล่าว

    สาเหตุที่เขาตกลงไปที่พื้นตอนแรกเพราะโดนริวมะส่งกระเด็นออกจากตึกไป

    ภายในห้องริวมะกำลังนั่งดื่มชารอเขาอยู่แล้ว

    "โยโฮ่ๆๆ ตกลงไปแค่นั้นไม่ทำให้คุณตัดใจยอมแพ้สินะ"

    "แน่นอนสิครับ"บรู๊คกล่าว

    ริวมะกระแทกดาบลงพื้น

    "คุณไม่รู้รึไงว่าผมเป็นใคร แค่เอ่ยชื่อจอมดาบริวมะทุกคนก็กลัวหัวหดกันหมดแล้ว"ริวมะกล่าว

    "หุบปาก นายคือเงาของผมต่างหาก"บรู๊คตะโกน

    "โยโฮ่ๆๆ แต่ระดับร่างกายมันผิดกัน"ริวมะกล่าว

    "คราวนี้ขอรับมาล่ะนะ กลับมาอยู่ใต้เท้าผม"บรู๊คกล่าว

    ____________________

    ทางเดินไปยังห้องแช่แข็งโมเลีย ฮอกแบค อับซารอม เพโรน่า ซินดี้และคุมาซี่เดินเข้าไปเรื่อยๆ

    "แทบอดใจรอไม่ไหว ตอนที่ขุดพบศพของมันที่นครน้ำแข็งนั่นตัวของฉันสั่นไม่ยอมหยุดเลยทีเดียว แทบไม่อยากเชื่อว่าเมื่อ500ปีที่แล้วเคยมีตัวน่าสะพรึงกลัวแบบนี้อาละวาดอยู่ในทะเลด้วย"

    "หนาว!!!"อับซารอมกล่าว

    "ไม่ว่าไปถล่มที่ไหนก็ยึดเกาะทั้งเกาะเป็นของตัวเอง สร้างอาณาจักรของเหล่าวายร้ายขึ้นมาจนกลายเป็นตำนาน และเจ้าตัวที่สร้างวีรกรรมดังไปทั่วโลกก็อยู่นี่แล้ว"โมเลียกล่าว

    "ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นตำนานด้วยตาของตัวเอง นี่แหละคือความสนุกของการสร้างซอมบี้"ฮอกแบคกล่าว

    "ตำนานอีกหนึ่งบทจะฟื้นคืนชีพที่นี่แล้ว"โมเลียกล่าว

    เขาเปิดประตูเข้าไปในห้องแช่แข็งมองร่างขนาดใหญ่

    "ไม่ได้เจอกันซะนานเลยหมายเลข900"

    พวกเขามองร่างมหึมาที่ใหญ่ยิ่งกว่าคนยักษ์ถึง4เท่าถูกแช่แข็งเอาไว้ มีผมสีบลอนด์หลังผมและปากของมันมีฟันแหลมคมใหญ่ยื่นออกมา แขนซ้ายมีรอยสักSZ-900 มันไม่ได้สวมอะไรเลยนอกจากกางเกงขนสัตว์

    "นักรบคลั่งที่ถูกเรียกว่าปีศาจ ออสเอ๋ย!!!"

    _____________________

    โมเลียเดินไปยืนตรงหน้าหัวของออส

    "มาเริ่มกันเลยดีกว่า"

    ที่ซิบด้านหลังคุมาซี่ นามิ อุซปและช็อปเปอร์มองด้วยความกลัว

    "นี่มันอะไรกันเนี่ย ซากศพเผ่าคนยักษ์เหรอ มีด้วยเหรอเนี่ยเผ่าคนยักษ์ตัวขนาดนี้"อุซปกระซิบเบาๆ

    "ฮือๆๆ.."ช็อปเปอร์กลั้นไม่ให้ร้องไห้

    "นี่อย่าส่งเสียงออกมาสิช็อปเปอร์"

    เงาของลูฟี่ยังดิ้น โมเลียยกมันขึ้นมา

    "นิ่งๆหน่อยเงาของโจรสลัดลูฟี่หมวกฟางเอ๋ย นับจากนี้ไปฉันคือเจ้านายคนใหม่ของแก"

    เงาของลูฟี่สงบลง

    "คิชิๆๆ หลังจากนี้ฉันจะมอบร่างกายและเสียงพูดให้แกได้ถือกำเนิดใหม่ในฐานะซอมบี้ จงลืมทุกอย่างที่ผ่านมาให้หมดและกลายเป็นทหารที่ภักดีของฉันซะ"

    เงาของลูฟี่พยักหน้า

    "คิชิๆๆ ทำสัญญาเสร็จสิ้นแล้ว"

    "ซินดี้จังก็น่าจะลืมเรื่องในอดีตให้หมดแล้วทำสัญญากับฉันเหมือนกันนะ ฉันจะได้มีจานไว้กินข้าวซะที

    "กระดูกในตัวแกแหลกไปเหมือนจานนั่นแหละดีแล้ว"ซินดี้กล่าว

    "ซินดี้จังน่ากลัวที่เธอพูดเมื่อตะกี้น่ะ!!!"

    "ซินดี้เนี่ยโหดกับฮอกแบคซะจริง"

    "เอาล่ะจงตื่นจากการหลับไหล500ปีที่ผ่านมา"โมเลียใส่เงาลงไปในตัวออส

    เกิดแรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งตึก พวกนามิตัวสั่นด้วยความกลัว ออสลืมตาขึ้นมา

    "เหวอ ศพขยับได้!!!!"ทั้งสามลงมาจากหลังคุมาซี่

    "อะไรกัน?"โมเลียมองทั้งสามคน

    "แย่แล้วถูกเจอเข้าซะแล้ว"

    "เผลอส่งเสียงไปซะได้"

    "ปีศาจฟื้นคืนชีพแล้ว!!!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

    "คุมาซี่นี่แกแอบซ่อนพวกโจรสลัดเอาไว้เหรอ?"เพโรน่าเดินมาถามลูกน้องเธอ

    "เจ้าสาวของฉันทำไมมาอยู่ที่นี่ได้"อับซารอมกล่าว

    "ไม่ปล่อยให้หนีไปได้หรอก"เจ้าตัวเล็กทั้งสามขวางประตูหน้า

    "ตึง!!!"เกิดแรงสั่นทำให้ทั้ง3ตัวล้ม

    "เปรี๊ยะๆๆ...เคร้งๆๆ"ออสปลดโซ่ตรวนแตกและลุกขึ้นยืน

    "โฮ่ๆๆๆ วิเศษมาก แรงกดดันขนาดนี้เชียว มันคือศิลปะ มันคือมนุษย์ปีศาจ

    "เอาเนื้อมา หิวข้าว!!!!!!"

    เสียงร้องของออสกระจายดังออกไปทั่ว

    ทั้งฮอกแบค ซินดี้ เพโรน่าและคุมาซี่กระเด็นไปกระแทกกำแพง

    พวกนามิโดนแรงลมพัดออกนอกห้องไป

    "ตอนนี้แหละ"ทั้งสามคนรีบหนี

    "เจ้าสาวของฉันหายไปไหนแล้ว?"

    "หนีไปแล้วครับ!!!"

    "ฝีเท้าไวสุดๆเลย!!!"

    "ไม่ให้หนีหรอก"อับซารอมวิ่งไล่ตามไป

    "ซันจิเอาข้าวมา!!!!.....ซันจิเนี่ยใครเหรอ?"

    _______________________

    นามิ อุซปและช็อปเปอร์วิ่งหนีมาตามทางเดิน

    "เมื่อตะกี้มันหมายความว่ายังไง"

    "พอใส่เงาของลูฟี่เข้าไปมันก็ขยับได้"

    "ที่แท้ก็แบบนี้เองพวกซอมบี้น่ะ"

    "ที่ด็อกเตอร์ฮอกแบคบอกว่าชุบชีวิตคนตายนั่น"

    "ความสามารถของผู้ชายตัวใหญ่นั่นจะต้องเป็นผลปีศาจแน่"อุซปกล่าว

    "เอ่ยปากคำแรกก็ขอเนื้อกินแบบนั้นน่ะ สัตว์ประหลาดยักษ์นั่นเห็นได้ชัดว่าแสดงอุปนิสัยของลูฟี่ออกมา ลองนึกย้อนดูเพนกวินที่คล้ายกับซันจิที่เราเจอตรงทางเข้านั่นน่ะ"นามิกล่าว

    "จริงด้วย แปลว่าเจ้านั่นสวมเงาของซันจิอย่างงั้นสิเนี่ย"อุซปกล่าว

    "ต้องใช่แน่ๆเลย"นามิกล่าว

    "งั้นซามูไรที่แกล้งทำเป็นฟันพวกเราก็คือบรู๊ค"

    "เรื่องประหลาดต่างๆที่เกิดขึ้นทุกอย่างมันเกี่ยวข้องกันหมด คิดว่าเล่นเป็นซอมบี้อยู่รึไง เห็นชีวิตของคนอื่นเป็นอะไรกัน นี่เหรอความฝันของมวลมนุษย์ นี่เหรอชุบชีวิตคนตาย!!!"

    "ด็อกเตอร์ฮอกแบคน่ะเป็นผู้ชายที่น่ายกย่องจริงๆนะ ฉันนับถือในตัวของเขา"

    "ความคิดที่จะช่วยผู้คนไม่มีเลยสักนิด หมอนั้นมันเป็นแค่พวกวายร้ายเท่านั้น!!!"

    "ช็อปเปอร์"

    "นี่ไม่ใช่เวลามาเสียใจเรื่องนั้นอยู่นะ เพื่อนของเราตกเป็นเหยื่อการเล่นซอมบี้ของพวกนั้นอยู่เข้าใจมั้ย คนที่ช่วยพวกนั้นได้ก็มีแต่พวกเราเท่านั้น ไปกันเถอะ ไปตามทางที่ร่างของลูฟี่ถูกขนไป"

    "อื้อ เห็นบอกว่าเอาไปที่เรือ หมายถึงเรือซันนี่รึเปล่า"

    "โซโล ซันจิและวีวี่ ถ้าโดนแบบนี้เหมือนกันล่ะก็น่าจะอยู่ที่เดียวกันนะ"

    "พวกนั้นนี่ไม่ไหวเลยจริงๆ"

    "ต้องให้ลำบากอยู่เรื่อยเลย"อุซปกล่าว

    "ตูม!!!!"อุซปกับช็อปเปอร์โดนยิงกระเด็นลงบันไดไป

    "อุซป ช็อปเปอร์!!!"

    "หมับ!!!"

    "เจ็บนะ เดี๋ยวสิปล่อยฉันนะ หมอนี้ทำไมแรงเยอะแบบนี้"

    "บอกลากันซะหน่อยดีไหม วันนี้หล่อนจะต้องเป็นเจ้าสาวของฉันแล้ว"

    "บ้าเหรอ ถ้าปกป้องผู้หญิงคนเดียวไม่ได้ก็เสียทีที่นายอุซปเกิดมาเป็นลูกผู้ชายแล้ว"อุซปตะโกน

    ช็อปเปอร์ลุกขึ้นมาเห็นอุซปถือหนังสติ๊กคาบูโตะ

    "โอ้ อุซป อาวุธนั่นมัน"ช็อปเปอร์แปลกใจเมื่อเห็นอาวุธของโซเงคิง"ทำไมอุซปถึงมีไอ้นั่นอยู่ด้วย"

    "เอานี้ไปกินหกกระสุนดาวอสรพิษ!!!"อุซปยิงกระสุนไป

    แต่ร่างของอับซารอมเริ่มเลือนหายไป

    "แย่แล้วมันจะหายไปแล้ว!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

    จากนั้นร่างของนามิก็เริ่มล่องหนหายไปด้วย

    "กระทั่งฉันด้วยเหรอ!!!"นามิตกใจ

    ทั้งอับซารอมและนามิต่างหายไปและกระสุนอุซปพลาดเป้า

    "นามิก็หายไปด้วย"อุซปกล่าว

    ช็อปเปอร์พยายามดมกลิ่นของนามิ แต่กลิ่นสัตว์ของอับซารอมกลบกลิ่นเธอหมด

    "อุซป ช็อปเปอร์ ช่วยฉันด้วย!!!!!"

    "เป็นอะไรน่ะนามิ เธออยู่ตรงไหนน่ะ ตอบหน่อยสินามิ"อุซปตะโกนแต่ไม่มีเสียงนามิตอบกลับ

    "หึๆๆ ซอมบี้ทั้งหลายจัดการที่เหลือด้วย จับพวกมันสองคนไปส่งให้กับท่านโมเลีย"

    "บ้าเอ๊ย มันพูดมาจากที่ไหนเนี่ย?"อุซปถาม

    "อุซป ข้างหลัง!!!!"

    อัศวินพุ่งเข้ามาตวัดขวานฟันอุซป แต่ดีที่เขาหลบได้ทัน

    "อะไรกันเนี่ย ซอมบี้ใส่เกราะเหรอ"

    ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัวตัวด้านล่างบันไดก็มีพวกซอมบี้แห่กันขึ้นมาเป็นฝูง ข้างบนก็มีมาเหมือนกัน

    "โผล่มาอีกเพียบเลย"อุซปตกใจ

    "แย่แล้วข้างบนก็มีด้วย"ช็อปเปอร์ตะโกน

    "ไอ้พวกโจรสลัด เอาเงาของแกมา"

    "ช็อปเปอร์อย่าโดนจับนะ ไม่งั้นพวกเราโดนเอาเงาไปหมดแน่เลย"

    ช็อปเปอร์โดนคว้าด้วยมือของซอมบี้ขวัญผวาจากรูปภาพ

    "ว๊ากกกก!!! ซอมบี้รูปภาพมาอีกแล้ว!!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

    ทั้งสองต่างโดนซอมบี้เข้าจับกุมไว้

    "บ้าเอ๊ย ขี้โกงนี่หว่าพวกแก เป็นอมตะแล้วยังจะมารุมกันอีก ไอ้พวกขี้ขลาดไอ้พวกขี้โกง!!!!"อุซปร้อง

    "ขอแค่เงาอย่างเดียวก็พอแล้วน่าพี่ชาย"ซอมบี้กล่าว

    "ปล่อยฉันสิ ไอ้เจ้าบ้าปล่อย!!!!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

    "อ๊าก!!!"ซอมบี้ตัวนึงเงาหลุดออกไป

    "เฮ้ มีใครมาก็ไม่รู้ 

    โรบินกับแฟรงกี้โยนเกลือใส่ปากพวกซอมบี้ทำให้เงาหลุดออกมา

    "ซูม!!!!!"คิรัวร์ตวัดดาบปล่อยเปลวเพลิงแผดเผาพวกซอมบี้ไม่เหลือซาก ทำให้เงาที่ไม่มีร่างสิงลอยขึ้นฟ้าไป

    "พรรคพวกของเรากำลังถูกชำระวิญญาณอยู่"

    "เอามือสกปรกของพวกแกออกไปห่างๆลูกเรือของฉันเดี๋ยวนี้"คิรัวร์เดินนำมาด้านหน้าถือดาบชินโซริวและฮารุซาเมะ ตามมาด้วยแฟรงกี้กับโรบิน

    "ครับ"พวกซอมบี้ปล่อยทั้งสองคน

    "ดูเหมือนเกลือจะไม่จำเป็นเลยนะ"โรบินยิ้ม

    "ถ้าใช้ไฟขนาดนี้ตั้งแต่แรกคงมาเร็วกว่านี้"แฟรงกี้กล่าว

    "โทษทีแล้วกัน"คิรัวร์ยกดาบขึ้นเตรียมฟัน

    "เจ้าพวกนี้เป็นใครกันอันตรายชะมัดเลย"

    "พวกแกไม่ต้องรู้ เพราะพวกแกจะไม่เหลือแม้แต่ซาก"คิรัวร์กล่าว

    วิชา2ดาบ กำแพงเพลิง!!!

    พายุเพลิงพุ่งเข้าพัดใส่เหล่าซอมบี้ด้านหน้า แผดเผาพวกซอมบี้หายไป มีแต่ช็อปเปอร์กับอุซปที่ไม่เป็นไร

    ขณะที่เงาลอยขึ้นฟ้าพวกเขาก็เดินมาหาทั้งสามทั้งน้ำตา

    "รองกัปตันครับ"ช็อปเปอร์ร้องไห้

    "คิรัวร์ โรบิน แฟรงกี้"อุซปกล่าว

    "หืม สงสัยจะมาช้าไปแฮะ พวกผู้หญิงไม่อยู่นี่นา"แฟรงกี้กล่าว

    "อุซป ช็อปเปอร์ ไม่เป็นไรใช่มั้ย?"โรบินยิ้มถามพวกเขา

    "ฮือๆๆ"พวกเขาร้องไห้เข้ามากอดขาคิรัวร์ไว้

    "นามิกับวีวี่อยู่ไหน บอกมาสิ บอกมา"คิรัวร์กระชากคอพวกเขา

    "เฮ้ ใจเย็นสินามิคาเสะ"แฟรงกี้กล่าว

    ___________________

    พวกซอมบี้มองศพซอมบี้ที่เสียเงาไปและหลายตัวโดนเผาเหลือแต่เถ้าถ่านทำให้เงาหลุดไป

    "เฮ้ย นี่มันอะไรกัน นอกจากเจ้าฮัมเพลงนั่นยังมีคนอื่นที่รู้จุดอ่อนของพวกเราโผล่มาอีกเหรอเนี่ย"

    "แบบนี้ไม่ไหวพวกเราที่ขึ้นชื่อว่าไม่รู้จักตาย กลับยืนตัวสั่นเพราะโดนรู้จุดอ่อนแบบนี้"

    __________________

    คิรัวร์ แฟรงกี้ อุซป โรบินและช็อปเปอร์กำลังวิ่งลงบันได

    "บันไดทางยาวนี่เห็นว่าเอาไว้ขนย้ายคนที่ถูกแย่งเอาเงาไปน่ะ"โรบินกล่าว

    "ใช่แล้วล่ะ ลูฟี่ก็ถูกหิ้วไปด้วยอีกคนนึง พอเราจะไล่ตามไปนามิก็..."

    "นามิกับเซียร์จะเป็นยังไงบ้างเนี่ย"ช็อปเปอร์กล่าว

    "ยัยพวกนั่นไม่ได้ถูกจ้องเอาชีวิต ถ้ารีบตามไปล่ะก็..."

    "เพื่อการนั้นเราต้องรีบกลับไปที่เรือซันนี่รอให้พวกลูฟี่ฟื้นจะได้ไปเอาเงาคืน"คิรัวร์กล่าว

    "แต่ว่าซอมบี้ยั่วเยี่ยเต็มเกาะแบบนี้มันจะไปได้เหรอ?"ช็อปเปอร์ถาม

    "จะว่าไปซอมบี้เมื่อตะกี้นายปราบมันได้ยังไง?"อุซปถาม

    "อันนั้นเจ้าโครงกระดูกนั่นสอนวิธีมาไง นี่ไงล่ะ"แฟรงกี้หยิบเกลือออกมา

    "อะไรน่ะ?"อุซปถาม

    "เกลือไง"คิรัวร์ตอบ

    "ซอมบี้ก็มีจุดอ่อนด้วยเหรอเนี่ย"ช็อปเปอร์กล่าว

    "ถ้าเอาเกลือยัดใส่ปากก็จะล้างวิญญาณได้สินะ"

    "ก็อย่างที่พวกนายเห็นไปนั่นแหละ"

    "ว่าแต่เสียงที่เหมือนอสูรกายร้องคำรามเมื่อครู่นี้มันคืออะไร?"โรบินถาม

    "เออ พวกเราได้ยินเลยรีบวิ่งมาดูนี่ล่ะ"แฟรงกี้กล่าว

    "นั่นเป็นเสียงของลูฟี่"

    "เอ๋?"

    "เดี๋ยวฉันจะเล่าทุกอย่างให้ฟังเอง ที่แน่ๆกลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว"อุซปกล่าว

    __________________

    พวกซอมบี้กำลังขนเนื้อเข้าห้องแช่แข็งไปเรื่อยๆ

    "เร็วๆขนไปอีกเยอะๆยังไม่พอ"

    "กินเข้าไปเท่าไหร่แล้วเนี่ย เจ้าสเปเชี่ยลซอมบี้ แบบนี้เสบัยงทั้งเกาะหมดเกลี้ยงไม่เหลือแน่เลย"

    ในห้องแช่แข็ง ออสที่สวมเงาของลูฟี่กินเนื้อเข้าไปไม่หยุด

    "เขมือบได้น่าทึ่งอะไรอย่างงี้"โมเลียกล่าว

    "คุมาซี่ เอาโจรสลัดพวกนั้นแอบซ่อนเข้ามามันหมายความว่ายังไง?"

    "คือว่า...ผมเปล่านะ"คุมาซี่พยายามอธิบาย

    "ห้ามพูดนะไม่น่ารักเลย"เพโรน่ากล่าว

    "โทษทีนะนายกระเทียมหัวลีบ ฉันยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครแท้ๆยังอุตส่าห์เอาของกินมาให้ ถึงรสชาติห่วยแตกแถมไม่อิ่มก็เถอะ ฮะๆๆๆ"

    "พูดงี้ได้ไงเนี่ย!!!!"

    "ให้มันน้อยๆหน่อยนะเจ้าสเปเชี่ยลซอมบี้"

    "คิดว่าที่พวกเราลุกขึ้นมาเดินได้เพราะใครฟะ"

    "ต่อหน้าผู้ปกครองธริลเลอร์บาร์คกล้าพูดจาสามหาวแบบนี้เลยเรอะ!!!"

    "อีกไม่นานเจ้านายของพวกเราจะขึ้นเป็นราชาโจรสลัด"

    ออสถลึงนามองพวกซอมบี้

    "ขอโทษด้วยครับ"

    "เมื่อกี้เจ้าหมอนี้เป็นคนพูดครับ"

    "พวกแกคิดจะขายเพื่อนรึไงฟะ!!!"

    "ฟังให้ดีนะออส เมื่อ500ปีก่อนเจ้าคือจอมวายร้ายที่สร้างวีรกรรมเอาไว้มากมายนับไม่ถ้วนและปัจจุบันเจ้าก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาในฐานะลูกน้องของฉันไงล่ะ"

    "ลูกน้องเหรอ ไม่เอาด้วยหรอก ฉันมีความฝันของฉันอยู่"

    "ซอมบี้โลกไหนฟะเนี่ย!!!?"

    "ที่นี่ทั้งแคบแล้วก็น่าเบื่อชะมัดเดี๋ยวออกไปข้างนอกหน่อยดีกว่า ไปออกทะเลแล้ววนรอบโลกสักรอบท่าจะดี"

    "มันนิดหน่อยตรงไหนฟะ!!!"

    "ตึงๆ"ออสพยายามทุบใส่ผนัง

    "งี่เง่าเอ๊ยไม่มีทางหรอกน่า"

    "ห้องแช่แข็งพิเศษนี่ใช้เหล็กกล้าหนาพิเศษเลยนะไม่ได้คุย"

    "อย่างแกน่ะไม่สะเทือนหรอก"

    "หมัดปืนยางยืด"ออสตะโกน

    "ตูมมมม!!!!"เขาชกพังผนังเหล็กหนาออกไปอย่างง่ายดาย

    "จ๊าก!!!!!"พวกซอมบี้ตกใจเมื่อเห็นออสพังออกไปได้ง่ายๆ

    ออสโดดออกจากห้องลงไปในป่าด้านล่าง

    "ออกไปข้างนอกแล้ว เจ้าออสหนีออกไปข้างนอกแล้ว"

    "....."โมเลียแค่ยิ้มมองเงียบๆ

    "แปลกแฮะ ตะกี้รู้สึกเหมือนแขนยืดออกไปได้ แต่ก็ช่างเถอะ ฉันต้องเป็นราชาโจรสลัดให้ได้เลย!!!!"

    ________________________

    "เดี๋ยวก็ไม่แคล้วร้องขอชีวิต ขอแค่แอฟโฟร่ๆอย่างน่าสมเพชเวทนาเหมือนกับในตอนนั้น"

    "ไม่หรอก มันจะไม่เป็นแบบนั้นอีก

    ย้อนอดีต

    บรู๊ควิ่งเข้ามาในป่าธริลเลอร์บาร์ค

    "แบบนี้ไม่ไหว ถึงจะใจกล้าชักดาบฟันซอมบี้หน้าตาน่ากลัวพวกนั้นไปแต่มันก็ลุกขึ้นมาได้อีก"

    บรู๊คหยุดพักอยู่ใต้ต้นไม้

    "มันจะต้องมีจุดอ่อนอะไรอยู่แน่ ขืนเป็นแบบนี้ต่อให้หาซอมบี้ของตัวเองเจอผมก็ทำอะไรกับมันไม่ได้อยู่ดี"

    "แว๊ก!!!!"

    เสียงร้องซอมบี้ดังขึ้น บรู๊คแอบซ่อนฟังพวกมันคุยกันมองเพื่อนซอมบี้ที่แน่นิ่งไป

    "พรรคพวกถูกชำระวิญญาณไปแล้ว"

    "เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?"

    "เจ้าหมอนี้มันตะกละก็เลยกินปลาย่างเกลือเข้าไปน่ะสิ"

    "เจ้าบ้าเอ๊ย พึ่งมาใหม่ล่ะสิเนี่ย"

    "กินปลาย่างเกลือเข้า หรือว่าจุดอ่อนของซอมบี้ก็คือนี่"บรู๊คคิดในใจ

    _______________

    บรู๊คบุกเข้าไปหาฮอกแบคในห้องวิจัยยกดาบชี้ใส่เขา

    "นี่แกเจ้าโคงกระดูกที่ถูกแย่งเงาเมื่อวันก่อนนี่นา กลับมาที่นี่อีกได้ยังไง"

    "ตอบคำถามของผมมา เงาของผมอยู่กับซอมบี้ตนไหน ถ้าไม่ตอบผมจะเอาปลาไปทิ้งไว้ทั่วเกาะเลย"

    "ปลาเหรอ โฮๆๆ จะเอาของแบบนั้นไปทิ้งทำไมเรอะ?"ฮอกแบคหัวเราะเยาะ

    "เอ๋ ถ้างั้น จะว่าเกลือมันก็ไม่น่าใช่นี่นา"บรู๊คกล่าว

    "โฮๆๆ จะเอาของแบบนั้นไปทิ้งทำไมล่ะ"ฮอกแบคเหงื่อตก

    "เกลือหรอกเรอะ?"

    __________________

    หมาป่าโห่ร้องในยามค่ำคืน เขาพยายามโจมตีซอมบี้ด้วยถุงเกลือบางครั้ง แต่ทุกครั้งที่เห็นหน้าซอมบี้เขาก็กลัวจนหนีไป

    เขาจึงตัดสินใจฮัมเพลงไปด้วยพร้อมกับจัดการซอมบี้เพื่อไม่ให้กลัว

    บรู๊คทำตามแผน เมื่อฟันใส่แล้วก็เทเกลือใส่ปากและวิ่งหนีไป พวกซอมบี้ก็โดนถอดเงาไป

    "มีอะไร บนเกาะนี้มันเกิดอะไรขึ้น?"อับซารอมถาม

    "จู่ๆเจ้าฮัมเพลงมันก็โผล่มาจากความมืด มันเป็นนักดาบหน้าตาน่าสะพรึ่งกลัวที่กำลังตามหาเงาของตัวเองไปทั่วทั้งเกาะอยู่ครับ ตอนนี้พวกเราโซลเยอร์ซอมบี้ถูกเล่นงานจนแทบไม่เหลือแล้ว ช่วยทำอะไรเข้าสักอย่างทีเถอะครับ"

    ___________________

    ด้านคุมาซี่ก็แจ้งเพโรน่าที่กำลังนอน

    "ท่านเพโรน่าเกิดเรื่องแล้วครับ"

    "หนวกหูอย่าปลุกฉันสิคุมาซี่"

    _____________________

    บรู๊คได้เจอกับริวมะในที่สุด

    "โยโฮ่ๆๆๆ"ริวมะร้องเหมือนเขา

    "ในที่สุดก็เจอ"บรู๊คกล่าว

    บรู๊คชักดาบและวิ่งเข้าฟัน

    "ฉัวะ!!!"ริวมะฟันบรู๊คทำให้เขาพ่ายแพ้ล้มลงพื้นอย่างง่ายดาย

    "ฝีมือนี่มันอะไรกัน ซอมบี้ตนนี้ไม่ใช่ว่าเป็นเงาของเราหรอกเหรอ?"

    "โยโฮ่ๆๆ"ริวมะวิ่งเข้ามาฟันและแทงต่อ บรู๊คพยายามหลบหลีก

    "ตามไม่ทันเลยสักนิดทั้งที่เพลงดาบเดียวกันแท้ๆ"

    บรู๊คโดนกระแทกล้มลงพื้น ริวมะเอาดาบจ่อหน้า

    "ยอมแพ้ซะเถอะ ถึงจะมาอีกกี่สิบหรอกผลลัพย์ก็เหมือนเดิม แต่ถ้าอยากเคลื่อนไหวได้คล่องแคล่วกว่านี้เดี๋ยวตัดผมแอฟโฟร่ที่เกะกะนั่นออกให้ก็ได้"

    "ยะ อย่านะ ขอแค่แอฟโฟร่นี่อย่าแตะต้องมันเด็ดขาดนะ ขอแค่อันนี้ ทำไมถึงไม่เข้าใจ ถ้าเป็นเงาของผมทำไมถึงไม่เข้าใจว่าแอฟโฟร่นี่สำคัญขนาดไหน ร่างกายของผมหยุดการเติบโตแล้ว ถ้าตัดมันออกมันจะไม่ยาวอีกเป็นครั้งที่2แล้ว"

    "โยโฮ่ๆๆๆ แล้วยังไงล่ะ ทุกเรื่องสมัยที่ยังเชื่อฟังคุณอยู่ผมลืมมันไปหมดแล้วล่ะ ตอนนี้ผมมีท่านโมเลียและท่านอับซารอมเป็นเจ้านายอยู่ก็พอแล้วล่ะ"

    "เคร้ง!!!"บรู๊คยกดาบรับดาบสีดำของริวมะไว้

    "โครงกระดูกที่หวนแหนผมแอฟโฟร่แบบคุณผมเห็นเป็นแค่ตัวตลกเท่านั่นแหละครับ"

    "หวา อย่านะ ขอแค่แอฟโฟร่อย่างเดียวเท่านั้น"บรู๊คร้อง

    "เปรี้ยง!!!"บรู๊คโดนแทงเข้าที่ใกล้ตาซ้าย กระดูกปริแตกเป็นรอย

    "น่าสมเพชจังเลยนะอดีตนายของผม"

    "ต้องขอโทษด้วยผมแพ้แล้วล่ะ ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ ผมจะรีบออกไปจากเกาะนี้ทันที"

    ริวมะเก็บดาบของตัวเอง

    "งั้นก็รีบไปซะ เพราะถ้าคุณตายขึ้นมาผมเองก็จะแย่เหมือนกัน"ริวมะกล่าว

    บรู๊คได้แต่คลานเข้าไปหยิบดาบตัวเองเดินออกไป

    จบย้อนอดีต

    "น่าสมเพชเวทนาไหมล่ะ"ริวมะกล่าว

    "อยากจะพูดอะไรก็พูดไปเถอะครับ"บรู๊คชักดาบบุกเข้าใส่ริวมะ

    "เคร้งๆๆๆ....ฉัวะ!!"บรู๊คเป็นฝ่ายกดดันริวมะจนถอยออกไป เขาเอี้ยวตัวหลบดาบที่ฟันโดนโลงศพแทน

    "โยโฮ่ๆๆ"ริวมะหัวเราะ

    "ตลอดช่วงเวลา5ปีที่ผ่านมา ผมได้ฝึกตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อรอโอกาสนี้ยังไงล่ะ"

    บรู๊คยกดาบฟาดใส่ริวมะอีกครั้ง

    ______________________

    อับซารอมแบกนามิเข้ามาในห้องเจ้าสาวที่มีซอมบี้แก่ๆ ตัวเตี้ยนและสวมแว่นตา

    "หวัดดีครับท่านอับซารอม"

    "เตรียมพิธีเอาไว้เรียบร้อยแล้วใช่มั้ย"

    "ครับๆ เริ่มพิธีได้ทุกเมื่อเลยครับ

    นามิถูกวางลงบนโต๊ะ ซอมบี้ในรูปภาพมองดูเธอ

    "โอ้ เป็นเจ้าสาวที่สวยจริงๆ"

    "งั้นก็เริ่มพิธีเดี๋ยวนี้ ใส่ชุดเจ้าสาวและพาตัวไปที่งานพิธีเลย"อับซารอมสั่ง

    "ครับๆ เดี๋ยวนี้เลยครับ"

    "อึก.....คิรัวร์คุง"นามิละเมอออกมา

    "คิรัวร์เหรอ?"อับซารอมถาม

    "ฉันมีแฟนแล้วยะ ทั้งร่างกายและหัวใจก็ให้เค้าไปหมดแล้วด้วย!!!"

    "วะ...ว่ายังไงนะ"

    "เขาลูบไล่ฉันทั้งเนื้อทั้งตัวแล้ว แม้แต่ความบริสุทธิ์ก็ด้วย"

    อับซารอมมองดูใบค่าหัวของคิรัวร์

    "ค่าหัว200ล้านเบรี นักดาบทมิฬ เงามรณะ จะฉายาอะไรก็ช่าง นามิคาเสะ คิรัวร์!!!"อับซารอมขย้ำใบค่าหัว

    _____________________

    คิรัวร์ แฟรงกี้ โรบิน อุซปและช็อปเปอร์วิ่งข้ามสะพานกลับไปท่าเรือ

    "อสูรกายที่ตัวใหญ่กว่าเผ่าคนยักษ์เนี่ยนะ"แฟรงกี้กล่าว

    "เมื่อตะกี้ได้ยินเสียงคำรามดังกระหึมอีกรอบนั่นก็ใช่ นั่นจะต้องเป็นเสียงซอมบี้ของลูฟี่กำลังอาละวาดอยู่แน่ๆเลย"อุซปกล่าว

    "เร็วเข้าเถอะ"คิรัวร์กล่าว

    พวกเขาวิ่งมาปลายบันไดแล้วเห็นเรือซันนี่

    "ดูนั่น เรือซันนี่อยู่ตรงนั้นไง"

    "เป็นอย่างที่เจ้าโครงกระดูกพูดเลยนะ"แฟรงกี้กล่าว

    "ใช่"คิรัวร์กล่าว

    คิรัวร์ แฟรงกี้ โรบินและช็อปเปอร์วิ่งนำอุซปโดดขึ้นมาบนกำแพงมองหน้าประตูที่พวกเขาเคยเดินลงไป

    "อย่างงี้นี่เอง มาออกที่ปากทางเข้าได้สินะ ตอนบุกตะลุยเข้าไปหมอกลงจัดจนมองอะไรไม่เห็นเลยนี่นา แต่นึกไม่ถึงว่าแค่จากตรงนี้ขึ้นไปข้างบนก็จะเจอห้องบอสใหญ่แล้ว"

    "บันไดก็เป็นแบบพับได้ชนิดปีนลงไป"คิรัวร์กล่าว

    พวกเขาไต่บันไดลงไปที่ท่าเรือมายังเรือซันนี่ อุซปขึ้นไปคนแรกและเห็นสิ่งที่ซอมบี้ทำ

    "เฮ้ เรือของพวกเราถูกรื้อซะกระจุยเลย"

    "คงจะเป็นฝีมือของพวกซอมบี้ รองเท้าเปื้อนโคลนเต็มไปหมด"

    "เอ๋ ถ้าอย่างงั้นอาจจะยังอยู่ก็ได้นะ"

    พวกเขาต่างขึ้นมาบนเรือมองสภาพที่โดนรื้อค้นทั้งลำ ขยะตกพื้นเกลื่อนกลาด กล่องและอะไรต่างๆโดนทิ้งไว้บนหญ้า

    "รื้อซะกระจุยจริงๆด้วย ไม่มีอะไรให้เอาไปสักหน่อยนี่นา"แฟรงกี้กล่าว

    "ซอมบี้ยังอยู่ไหมเนี่ย"ช็อปเปอร์ดมกลิ่นหา

    "แล้วเจ้าพวกนั้นอยู่ไหนล่ะ?"

    "ไม่เห็นเลยแฮะ"แฟรงกี้กล่าว

    "เฮ้ ลูฟี่ โซโล ซันจิ วีวี่!!!!!"ช็อปเปอร์จะโกนเรียก

    "พวกนายอยู่ที่ไหนตอบด้วย!!!"อุซปตะโกน

    น่าจะอยู่ที่ห้องไหนสุกห้องนึงนะ"

    "ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ?"ช็อปเปอร์ถาม

    "ถ้าพวกลูฟี่ถูกแสงแดดเข้าพวกซอมบี้ก็จะสูญสลายไปด้วย"คิรัวร์ตอบแทน

    "แฟรงกี้ ช็อปเปอร์ พวกนายไปดูที่ชั้น1นะ เดี๋ยวฉัน คิรัวร์และโรบินจะขึ้นไปดูที่ชั้น2เอง แต่ว่าพวกซอมบี้อาจจะยังอยู่ในเรือก็ได้ ระวังเอาไว้ด้วยล่ะ"

    "โอเค"คิรัวร์พยักหน้า

    "จ๊ะ/โอ้/เออ"อีกสามคนตอบ จากนั้นทุกคนแยกย้ายไปห้องต่างๆ

    แฟรงกี้วิ่งไปที่ห้องผู้ชายก็ไม่เจอใคร

    ช็อปเปอร์วิ่งเข้ามาในอควาเรี่ยมบาร์ไม่เจอใคร

    โรบินวิ่งมายังห้องของผู้หญิงกับคิรัวร์ก็ไม่เจอใคร

    ทางด้านอุซปวิ่งตามหลังคิรัวร์มายังห้องกินข้าวและห้องครัว

    "เจอแล้ว อยู่ในห้องครัวทั้ง4คนเลย"อุซปตะโกนเรียก

    ทุกคนรีบวิ่งมาและเห็นทั้ง4คนนั่งเก้าอี้หันหัวมาทางที่พิงและโดนจับทำท่าตัวตลกขำๆ

    "ฮึๆๆ"คิรัวร์หัวเราะ

    "กลายเป็นของเล่นพวกซอมบี้ไปแล้วแฮะ"อุซปกล่าว

    "น่าสังเวชจัง"โรบินกล่าว

    "ตื่นสิลูฟี่ รู้ไหมว่าตัวเองอยู่ในสารรูปไหน"อุซปพยายามปลุกกัปตัน

    "วีวี่ ตื่นสิวีวี่...โป๊กๆๆ!!"คิรัวร์เรียกแฟนสาวพลางทุบหัวเธอเบา

    "โอ๊ย ตื่นแล้วๆ คิรัวร์คุง!!!"วีวี่ตื่นลุกขึ้นมาเห็นแฟนเธอก็กอดเขาด้วยความดีใจ

    "อีก3คนจะทำยังไง?"เขาถาม

    "เดี๋ยวฉันเอง"แฟรงกี้ยกมือทุบใส่พวกเขา"ตื่นเดี๋ยวนี้นะพวกแก นี่ไม่ใช่เวลามานอนสักหน่อย เหตุการณ์กำลังคับขันอยู่นะ"

    แฟรงกี้ทุบจนเก้าอี้แหลกและหัวปูดแต่ยังไม่ตื่น

    "ไม่ตื่นแฮะ"อุซปกล่าว

    "พวกนี้มันมีประสาทรับรู้รึเปล่าเนี่ย ช่วยไม่ได้ พวกนายหลบไปก่อนเดี๋ยวฉันจะใช้บาซูก้า"แฟรงกี้กล่าว

    "ต้องนี่เลย"อุซปสูดหายใจเข้าและตะโกน"นักดาบสาวสวยหอบเอาเนื้อมาโน้นแล้ว!!!!"

    ทั้งสามมีปฏิกิริยาลุกขึ้นมา

    "สาวสวย"

    "เนื้อ"

    "นักดาบ"

    "อะไรของเขาเนี่ยเจ้าพวกนี้!!!!"ช็อปเปอร์ร้อง

    ________________

    อีกด้านนึงซอมบี้แก่จะเปลี่ยนชุดเจ้าสาวให้นามิ แต่เอาที่วัดเอวฟาดใส่ซอมบี้รูปภาพที่รอดูร่างเปลื่อยเธอ เขาบอกว่าทำเดื่อปกป้องพวกเขาจากอับซารอมที่เฝ้ามองอยู่

    อับซารอมล่องหนเฝ้าดูอยู่จริง ทำให้ซอมบี้รูปภาพกล้ว เขาเดินออกไปนอกห้อง

    "เสร็จกันความแตกได้ไงเนี่ย"ที่จริงอับซารอมก็มาแอบดูเหมือนกัน

    "เอ่อ.."ซอมบี้บาทหลวงมองเขา

    "นี่ไปตามพวกเจเนรัลซอมบี้มาร่วมงานให้หมดเลย เดี๋ยวนี้เลย!!!"

    "ครับ!!"

    "เดี๋ยวก่อน"อับซารอมเรียกไว้"และเรียกนักดาบริวมะมาร่วมงานด้วย บอกว่าเป็นคำสั่งฉัน"

    "ครับ!!!!"

    "แฟนของว่าที่เจ้าสาวมีค่าหัว200ล้านและเป็นนักดาบ คงต้องระวังเอาไว้หน่อย"

    ________________


    "ไอ้ตัวแสบเอ๊ย เอาเงาฉันคืนมา!!!!"ลูฟี่ชกไปด้านหน้าแต่แฟรงกี้ยกมือจับหัวเขาไว้

    "ใจเย็นโมเลียไม่ได้อยู่ตรงนี้หรอก"

    ทั้งสามมองไปรอบๆ

    "ที่นี่ที่ไหน?"

    "เรือซันนี่ไง"แฟรงกี้ตอบ

    "เรือซันนี่เหรอ แล้วไหงกลับมาที่เดิมได้ แต่ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน เราของฉันหายไปแล้ว"โซโลมองใต้เท้าตัวเองที่ไม่มีเงา"รู้สึกแปลกๆแฮะ"

    "แย่แล้วเกิดเรื่องใหญ่แล้ว ของกินหายไปหมดเกลี้ยงเลย"

    "ที่ห้องครัวในห้องผู้หญิงก็ด้วย"โรบินกล่าว

    "อาหารที่ตุนเอาไว้สำหรับเป็นเสบียงไม่เหลือสักอย่าง นอกจากอาหารฉุกเฉินแล้วถูกขนออกไปจนหมดเกลี้ยง"ซันจิกล่าว

    "แค่ชีสกับขนมปังมันจะไปอิ่มได้ยังไงเล่ามันต้องเนื้อ!!!!!"ลูฟี่ตะโกน

    "น่าขายหน้าชะมัดดันประมาทมันเกินไป"โซโลกล่าว

    "ปิ่นโตโจรสลัดก็ไม่เหลือเลยสักอย่าง แค่ชีสจะไปอิ่มได้ไง"ลูฟี่กล่าว

    "ว่าแต่ฉันไม่เห็นคุณนามิกับเซียร์จังเลยแฮะ"ซันจิมองหาสองสาว

    "เอ่อ คือว่า..."อุซปกับช็อปเปอร์มองหน้ากันและบอกเรื่องสองสาว

    "ถูกพาตัวไปแล้วเนี่ยนะ"ซันจิตะโกนเข้าไปจับคอเสื้อคิรัวร์"แล้วทำไมแกไม่ตามไปฟะ!!!!"

    คิรัวร์ปัดมือซันจิออกไป

    "ฉันก็อยากไล่ตามไปแต่เราต้องมาที่นี่ก่อน เจ้าพวกนั้นไม่ได้คิดจะทำอันตรายนามิกับเซียร์ ถ้าเจอกันฉันจะฟันพวกมันทิ้งแน่"คิรัวร์กล่าว

    คิรัวร์หันไปพูดกับทุกคน

    "ฟังให้ดี จากนี้ไปเรามี3สิ่งต้องไปทวงคืนมา นามิ เซียร์แล้วก็เงา"

    "ข้าวด้วยไม่ใช่เรอะ 4อย่างแล้ว"ลูฟี่กล่าว

    "ก็ได้ คงทวงคืนมาไม่ได้ง่ายๆ เพราะคู่ต่อสู้เราคือเจ็บเทพโจรสลัด เก็กโค โมเลีย"คิรัวร์กล่าว

    "ว่าไงนะ!!!!"อุซป วีวี่และช็อปเปอร์ตะโกน

    ตอนนี้ทุกคนออกมาที่สนามหญ้าฟังความลับในธริลเลอร์บาร์คที่รู้มาจากบรู๊ค

    "แต่เราต้องรีบไปช่วยนามิก่อนอับซารอมจะแต่งงานกับเธอ"อุซปกล่าวขึ้น

    "ตะ..แต่งงานเนี่ยนะ!!! พูดเป็นเล่นไปได้ฉันไม่ยอมเด็ดขาด!!!!!"ซันจิตะโกนออกไปนอกเรือ

    "แต่งงานกับนามิเรอะใจกล้าชะมัดเลย แล้วอะไรนะฉันกลายเป็นยักษ์งั้นเหรอ?"ลูฟี่ถาม

    "อย่างงั้นก็แปลว่าพวกนายเจอซอมบี้ของลูฟี่ วีวี่และเจ้ากุ๊กแล้วสินะ"โซโลกล่าว

    "เจ้าหมอนั่นเป็นถึง1ใน7เทพโจรสลัดเลยเหรอเนี่ย"อุซปกล่าว

    "ฉันรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเลย"ช็อปเปอร์กล่าว

    "นี่พวกนายยังไม่รู้หรอกเหรอ?"แฟรงกี้ถาม

    "ฉันจะไปรู้ได้ยังไงละฟะ!!!"ทั้งสองตะโกน

    "ถ้าบอกว่าซอมบี้จะเป็นเหมือนกับตัวจริงล่ะก็ ฉันว่าฉันเจอซอมบี้ของโซโลแล้วนะ"

    "เป็นไงเหรอเจ้าตัวที่ว่า?"โซโลถาม

    "จะว่าเหมือนก็เหมือนนะ แต่เจ้านั่นใส่เกี๊ยะมาก็เลยรู้ว่าไม่ใช่นาย"ลูฟี่กล่าว

    "จะยังไงก็ช่างเถอะ ขอแค่ตามหาซอมบี้พวกนั้นเจอแล้วจับยัดเกลือใส่ปาก แค่นี้ก็ได้เงาคืนสินะ"โซโลกล่าว

    "แล้วเซียร์ล่ะอยู่ไหน?"คิรัวร์ถาม

    "โดนผู้หญิงที่ชื่อเพโรน่าเอาตัวไปแล้ว"

    "ว่าแต่ยังหาจุดอ่อนพวกมันเจอจนได้นะ"โซโลกล่าว

    "ทั้งเรือจุดอ่อนและให้มาช่วยพวกนายให้ได้ก่อน ทั้งหมดนั่นเจ้าโครงกระดูกเป็นคนแนะนำให้"แฟรงกี้กล่าว

    "เอ๋? เจอบรู๊คแล้วเหรอ?"ลูฟี่ดีใจ

    "เออ เจอแล้ว แถมยังถามคำถามโง่ๆออกไปด้วย ตอนที่นายพาหมอนั่นมาครั้งแรกแล้วบอกว่าจะเอามาเป็นพวกน่ะ บอกตรงๆว่าทำใจยอมรับไม่ได้ เจ้าหมอนั่นทั้งๆที่เป็นแค่โครงกระดูกแท้ๆ แต่พอได้คุยด้วยแล้วมันมีกึ๋นใช้ได้เลย เป็นโครงกระดูกแท้ๆ หมอนั่นเป็นลูกผู้ชายตัวจริง"

    ย้อนอดีต

    "ไหนๆก็พูดแล้ว งั้นนายตอบคำถามของฉันอีกสักข้อก็แล้วกันนะ นายน่ะโผล่ไปเจอหน้าผู้คนด้วยสารรูปแบบนั้น คนอื่นเขาจะคิดยังไงนายคงรู้สินะ โครงกระดูกพูดได้เชียวนะ เจ้าตัวประหลาดน่าขนลุกแบบนั้นคิดว่าจะมีเพื่อนได้รึไง มีแต่จะถูกกีกกันมากกว่า"

    "คิรัวร์คุง เธอพูดอะไรน่ะ?"โรบินถาม

    "ต่อให้นายสามารถออกไปจากทะเลปีศาจนี้ได้จริงๆ แต่ชะตาที่รอนายอยู่คือช่วงเวลาหลายสิบปีแห่งความสิ้นหวังที่ไม่จางหายไปไหนเลย นายน่ะบอกว่าเหงาจนแทบไม่อยากจะอยู่ต่อไปแล้วสินะ ถ้าฉันเป็นนายฉันคงตัดใจไปนานแล้ว ทั้งๆที่ตัวตนของนายพิลึกพิลั่นแบบนั้นแต่บางครั้งก็สวมมาดสุภาพบุรษปิดความจริงในใจ ต้องทำถึงขนาดนั้นเพื่อมีชีวิตต่อไป สัญญากับพวกพ้องที่นายว่ามันคืออะไรกันแน่"

    "โยโฮ่ๆๆๆ ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นสินะครับ เรื่องง่ายๆครับ ในอดีตกลุ่มโจรสลัดของพวกผมจำเป็นต้องทิ้งเพื่อนเอาไว้ในสถานที่แห่งหนึ่ง มันเป็นการลาจากที่ช่วยไม่ได้จริงๆ พวกผมสัญญาว่าจะกลับไปให้ได้อย่างแน่นอนแล้วก็เอาเรือออกู่ทะเลไป แต่พวกผมกลับต้องมาตายที่ทะเลแห่งนี้ ตายทั้งๆที่ยังไม่ได้ทำตามสัญญา ตัวผมที่เหลือรอดอยู่คนเดียวมีหน้าที่จะต้องเอาเรื่องราวทั้งหมดไปบอกให้เขารู้ นับตั้งแต่วันที่ผมตาย ถึงมันจะผ่านมา50ปีแล้วก็เถอะ

    "50ปีเหรอ นานขนาดนั้นเชียว นั่นฉันยังไม่เกิดเลยนะ โทษทีนะ นานขนาดนั่นเพื่อนนายคงไม่อยู่รอแล้วละมั้ง"แฟรงกี้กล่าว

    "แล้วทำไมผมถึงจะมีสิทธิคิดว่าเขาไม่อยู่รออีกต่อไปแล้วด้วยล่ะ ถ้าหากเขาเชื่อเรื่องที่ผมสัญญาไว้แล้วรออยู่ที่นั่นมาโดยตลอดล่ะก็ ตอนนี้เขาจะรู้สึกเหงาแค่ไหนกัน ถ้าหากเขาคิดว่าพวกผมผิดคำพูดและยังรออยู่ที่นั่นมาโดยตลอดละก็เขาจะรู้สึกเศร้าเสียใจมากขนาดไหน"

    "เขาชื่ออะไร?"คิรัวร์ถาม

    "ลาบูน"

    คิรัวร์เบิกตากว้างขึ้น

    "ลาบูน.....หรือว่า"คิรัวร์ครุ่นคิด

    "เฮ้ นามิคาเสะ รีบมาเร็วเข้า!!!"แฟรงกี้ตะโกน บรู๊คหายไปแล้ว

    "อะ...อื้อ"คิรัวร์รีบตามไป โรบินแค่มองแฟนเธออย่างสงสัย

    กลับมาปัจจุบัน

    "ลาบูน"คิรัวร์พูดแล้วกลุ่มหมวกฟางตกตะลึง"เขาสู้เพื่อคำสัญญาที่ให้ไว้กับลาบูน"

    "เจ้านั่นแน่"ซันจิกล่าว

    "จริงเรอะเนี่ย"อุซปกล่าว

    "ไม่อยากเชื่อ"โซโลกล่าว

    "เจ้านั่น?"ช็อปเปอร์ไม่เข้าใจ

    "จริงสิ พวกนายน่ะไม่รู้เรื่องนี้นี่นา"อุซปมองช็อปเปอร์ โรบินและแฟรงกี้

    "ปลาวาฬตัวนั่นพวกเรารู้จัก"ลูฟี่กล่าว

    "นายรู้จักเนี่ยนะ มันยังไงกันแน่เนี่ย?"แฟรงกี้ถาม

    "ที่ปากทางเข้าแกรนไลน์มีแหลมแฝดอยู่ และที่นั่นก็มีปลาวาฬตัวใหญ่เบิ้มอยู่ เพราะความงี่เง่าของลูฟี่ พวกเราเลยถูกเจ้านั่นกลืนเข้าไปกันหมด"ซันจิกล่าว

    "ถูกปลาวาฬกลืนลงท้องเนี่ยนะ"ช็อปเปอร์กล่าว

    "และข้างในท้องก็มีลุงเฝ้าหอประภาคารอยู่คนนึงด้วย"ซันจิพูดต่อ"เขาทำการรักษาลาบูนอยู่ข้างในตัวของมัน"

    "เขาเฝ้ารักษาปลาวาฬเหรอ?"แฟรงกี้กล่าว

    "เห็นว่าสมัยก่อนเคยเป็นหมอประจำเรือโจรสลัดมาก่อนน่ะนะ"อุซปกล่าว

    "เห ว่าแต่เป็นอะไรเหรอถึงต้องทำการรักษาน่ะ เขาป่วยเหรอ?"ช็อปเปอร์ถาม

    "เจ้านั่นเอาหัวพุ่งชนเรดไลน์ที่เป็นกำแพงแบ่งโลกมาตลอด เพื่อรอพรรคพวกโจรสลัดที่สัญญาว่าจะไปวนรอบโลกและกลับมาหามาตลอดตั้ง50ปี ถึงสุดท้ายลูฟี่จะช่วยหยุดเจ้านั่นไม่ให้เอาหัวพุ่งชนกำแพงเหมือนแบบเดิมอีก แต่เจ้านั่นก็ยังมีชีวิตอยู่รอคอยพรรคพวกอยู่ที่แหลมนั่นต่อไป"ซันจิอธิบาย

    "เหลือเชื่อจริงๆเลย ทั้งสองฝ่ายต่างก็รักษาสัญญาที่ให้ไว้มาตลอด50ปี"อุซปกล่าว

    "นึกไม่ถึงว่าหนึ่งในพรรคพวกที่ลาบูนมาตลอดก็คือเจ้าโครงกระดูกนั่น"โซโลกล่าว

    "โลกมันกลมกว่าที่คิด"คิรัวร์กล่าว

    ____________________

    ในห้องวิจัยของฮอกแบค บรู๊คกับริวมะยังสู้กันต่อไป

    "โยโฮ่ๆๆๆ ที่คุณแข็งแกร่งขึ้นในช่วง5ปีนี้ ผมเองก็เช่นกัน"

    ริวมะตวัดดาบฟันที่ผม แต่บรู๊คเอียงหัวหลบไปด้านหลังเพื่อไม่ให้แอฟโฟร่ถูกตัดไป

    "เพราะพวกเรามีแนวความคิดที่เหมือนกันยังไงล่ะ"

    ริวมะแทงดาบเข้าที่สะโพกทำให้บรู๊คกระเด็นล้มลงพื้น

    "โยโฮ่ๆๆๆ ยังให้ความสำคัญกับผมแอฟโฟร่เหมือนเดิมเลยนะ จุดอ่อนใหญ่แบบนั้นคุณป้องกันเอาไว้ไม่ไหวหรอกครับ"

    บรู๊คจับดาบลุกขึ้นยืนอีกครั้ง

    "หุบปาก"

    บรู๊คเข้าต่อสู้กับริวมะ ดาบปะทะกันอีกครั้ง ขณะที่บรู๊คครุ่นคิดเรื่องอื่นขึ้นมา

    "ลาบูน เจ้ายังจำเรื่องราวของพวกเราได้อยู่รึเปล่านะ พอนึกถึงความรู้สึกของเจ้าผมก็รู้สึกปวดใจทุกครั้งถึงตอนนี้ผมไม่มีหัวใจแล้วก็เถอะ โยโฮ่ๆๆ เส้นทางแกรนไลน์ที่ยากเข็ญมันเกินกำลังของเรา พรรคพวกของเราทุกคนตายหมดแล้วล่ะ สำหรับผมหนักกว่าคนอื่นๆ ทั้งใบหน้า ร่างกาย ไม่มีอะไรเหลือสักอย่าง ต่อให้เจอกันด้วยร่างกายที่มีแต่โครงกระดูกนี้ เจ้าคงจำไม่ได้แน่ว่าผมเป็นใคร"

    ริวมะฟันบรู๊คล้มลงได้ เขาแทงดาบที่แอฟโฟร่ บรู๊คพยายามหลบหลีกและสู้ต่อ

    "อย่าทิ่มผมแอฟโฟร่สิ"บรู๊คฟันปัดป้อง ริวมะโดดถอยออกไป

    "โยโฮ่ๆๆ"ริวมะหัวเราะ

    บรู๊คใช้ดาบไม้เท้ายันตัวเองลุกขึ้นยืน

    "ถึงผมจะไม่เหลืออะไรอีกแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ให้ทุกคนหัวเราะว่าหัวของผมเหมือนลามูนเลย เราต้องปกป้องโครงหน้านี้เอาไว้ให้ได้"

    "ฉึก!!!"ริวมะแทงดาบทะลุท้องบรู๊ค

    "เพราะว่าผมจะกลับไปหาแน่นอน รอผมก่อนนะที่แหลมแห่งคำสัญญา"

    ดาบของบรู๊คหลุดมือไป

    _____________________

    กลับมาที่เรือเธาซันต์ ซันนี่ แฟรงกี้ร้องไห้ออกมา

    "ฮือๆๆๆ ฉันรักเจ้าโครงกระดูกนั่นแล้วก็ปลาวาฬนั่นจังเลย"แฟรงกี้ร้องไห้

    "หนวกหูเฟ้ย!!!"คิรัวร์ โซโล ซันจิและอุซปตะโกน

    "ฮ่าๆๆๆ ชักตื่นเต้นซะแล้วสิ หมอนั่นเป็นนักดนตรี เป็นโครงกระดูกพูดได้ ไว้ผมแอฟโฟร่ หัวเราะโยโฮ่ๆๆ แถมยังเป็นเพื่อนของลาบูนอีกต่างหากด้วย ถึงต้องใช้กำลังฉันก็จะลากหมอนั่นขึ้นเรือให้ได้ เอาหมอนั้นเป็นพวก มีปัญหารึเปล่าพวกนาย?"ลูฟี่ถามทุกคน

    "ถึงมีก็คงเปลี่ยนใจหมดแล้วละมั้ง"

    "ยังไงก็ห้ามกัปตันของเราไม่ได้อยู่แล้ว"วีวี่ปลงตก

    "ฉันอยากพาเจ้าหมอนั่นไปเร็วๆจัง ไปหาลาบูน"อุซปกล่าว

    "ฉันเห็นด้วยเต็มๆเลย"แฟรงกี้ร้อง

    "ฉันก็เห็นด้วยเหมือนกัน ฉันจะไม่กลัวโครงกระดูกแล้วล่ะ"ช็อปเปอร์ร้องไห้

    "แต่ตอนนี้มีเรื่องที่สำคัญกว่า"ซันจิพูดแล้วตะโกน"คือต้องรีบไปยับยั้งงานแต่งงานของคุณนามิให้ได้ก่อน!!!!"

    แต่คิรัวร์กับโซโลหายไป ลูฟี่หันไปเห็นพวกเขาเดินลงจากเรือไปแล้ว

    "เฮ้ คิรัวร์ โซโล นั่นพวกนายจะไปไหน?"

    "รีบๆไปได้แล้ว มีเงาต้องเอาคืนเพิ่มมาอีกหนึ่งไม่ใช่รึไง"คิรัวร์กล่าว

    "ฮิๆๆ ดีล่ะพวกเราเตรียมตัวไปเอาคืนได้ อัดธริลเลอร์บาร์คให้กระเจิงไปเลย"ลูฟี่ตะโกน

    "โอ้!!!!!!"

    "สู้เขา!!"อุซปตะโกนไม่ลงจากเรือ

    "แกก็ด้วยไอ้บ้า!!"ซันจิตะโกน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×