คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #70 : GSD 10 Father's Spell
เฟส 10 : คำสาปของพ่อ
@@@@@@
หมายเหตุ : ไรเตอร์อาจเพิ่มLemonภายหลัง ถ้าเปลี่ยนใจให้นิโคลคู่กับชิโฮะ
@@@@@@
16 ตุลาคม , CE73
ทุกคนที่คฤหาสน์อัสตาร์กำลังนั่งรับประทานอาหารเย็น แสงบนท้องฟ้าดึงดูดสายตานาซ่า
“นั่นอะไรน่ะ”เขาลุกขึ้นจากโต๊ะ
เมื่อมองไปบนท้องฟ้า ทั้งกลุ่มเห็นไฟสว่างวาบนับร้อย
“นั่นมัน…”
“แสงของนิวเคลียร์”
คิระจับราวบันได นอกจากแสงไฟเหล่านั้น เขายังเห็นเงาของชายคนหนึ่ง…ชายที่อยากให้มนุษย์ชาติสูญพันธุ์
นาซ่ามองท้องฟ้าต่อไปและมีมือมาสัมผัสเขา เขามองไปเห็นลักซ์มีสายตาหวาดกลัวในดวงตา เขากุมมือเธอไว้เพื่อปลอบโยนก่อนกลับไปมองท้องฟ้า
ลักซ์เห็นสายตาของเขา…รู้ว่าน็อคจะกลับเข้าสู่สงครามอีกครั้ง
@@@@@@@@
แอพิลิอุส
ในสำนักงานของประธาน อัสรันได้รับการบอกเล่าเหตุการณ์นี้
“การโจมตีด้วยนิวเคลียร์เหรอ”อัสรันถามอย่างตกใจ ไม่นึกว่ากองทัพโลกจะใช้นิวเคลียร์ตั้งแต่เนิ่นๆ
“ใช่”ดูแรนดัลกล่าว
“ไม่มีทาง เป็นไปไม่ได้”
“ฉันก็อยากจะพูดแบบนั้นเหมือนกันอัสรัน แต่ว่าความจริงก็คือความจริง”
ดูแรนดัลหยิบรีโมทขนาดเล็กมากดฉายภาพหัวรบนิวเคลียร์ถูกทำลายด้วยนิวตรอนสแตมป์ของZAFT
[ขอย้ำอีกครั้ง หลังจากEAเปิดฉากโจมตีแพลนท์และยิงนิวเคลียร์ แต่กองทัพZAFTที่ตั้งป้องกันอยู่ภายใต้การนำของดูแรนดัล ได้ทำลายขีปนาวุธทั้งหมดที่แนวป้องกันสุดท้าย ขณะนี้กองทัพโลกได้ล่าถอยไปที่ฐานดวงจันทร์และยุติการโจมตีชั่วคราว]
“เธอเองก็นั่งก่อนสิอเล็กซ์คุง”
อัสรันยอมฟังนั่งลงที่โซฟาตรงข้ามดูแรนดัล
“แต่ว่าไม่ใช่ว่าจะเหนือความคาดหมายหรอกนะ แต่ฉันก็ช็อคเหมือนกันที่มันบานปลายจนกลายเป็นสงครามอีก และอยู่ๆก็โดนโจมตีด้วยนิวเคลียร์ EAถอยทัพก็จริงแต่ฉันไม่คิดว่ามันจะจบแค่นี้หรอกนะ กลับกัน ฝ่ายเรากลับเกิดจลาจลขึ้น”
“ทางสภามัวทำอะไรอยู่เนี่ย”
“ถ้าโดนสักลูกละก็จะเป็นยังไงกันล่ะ”
“ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ทำสงครามกันเลยดีกว่า”
ในแพลนท์ ประชาชนโต้เถียงกันหนัก
“แล้วทางแพลนท์…การโจมตีนี้แพลนท์มีแผนจะทำอะไรต่อไปบ้างครับ”อัสรันถาม
“หากเราตอบโต้ละก็ โลกจะเข้าไปพัวพันกับสงครามอีกครั้ง”
ภาพของวาเลนไทน์เลือดและสงครามนองเลือดที่ตามมาในใจอัสรัน การเสียชีวิตของมิเกลกับรัสตี้ การตายของอิซาคกับเอมิเลีย การต่อสู้ที่โหดร้ายของเขากับคิระ เหล่าคนที่ตายที่ยาคินดูเอ้ผ่านเข้ามาในใจ อัสรันกำหมัดแน่น สงครามและการตายที่ไร้ความหมาย
“แน่นอนฉันไม่อยากให้มันกลาายเป็นแบบนั้น แต่สถานการณ์มันแย่จริงๆ หากพวกเขารู้รายละเอียดทั้งหมด ผู้คนจะโกรธแค้น พวกเขาต้องการแก้แค้น เธอคิดว่าเราควรทำยังไง นาฬิกากำลังนับถอยหลัง เหมือนสงครามครั้งก่อน และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาโจมตีด้วยนิวเคลียร์ เราจะหยุดเรื่องนี้ได้ยังไง”
“ท่านประธาน ผมเข้าใจสิ่งที่คุณพูด แต่โปรดพิจารณาใหม่ การต่อสู้ไม่ใช่คำตอบ เราไม่สามารถปล่อยให้ความโกรธและความเกลียดชังควบคุมเราได้ หากเราโจมตีตอนนี้โลกจะกลายเป็นสนามรบอีกครั้ง จะไม่ได้อะไรมา ทุกอย่างจะสูญสิ้น ปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ได้”
“อเล็กซ์ ฉัน…”
“ผมคืออัสรัน ซาล่า”อัสรันตัดบทขณะมือสั่น”ลูกชายของแพทริค ซาล่า ผู้ก่อสงครามครั้งก่อนอย่างโง่เขลา ตอนนี้ แม้เขาจะตายไปแล้ว แต่คำพูดของพ่อก็ยังอยู่และกำลังก่อให้เกิดสงครามขึ้นอีกครั้ง..."
"ตัวฉันไม่อยากให้สงครามเริ่มอีกครั้ง"เขาพูดอีกครั้งดึงความสนใจหนุ่มสาวทั้งสองกลับมาที่ตัวเอง"แต่ผู้คนตะโกนด้วยความโกรธว่ายกโทษให้ไม่ได้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทำให้ผู้คนสงบลง และนั่นคือเหตุผลที่ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำอะไรที่น่าละอายใจ"
กิลเบิร์ตขยับไปทางหน้าจอโดยชี้ให้อัสรันตามเขาไป และเปิดหน้าจอ
ร่างหนึ่งปรากฎขึ้นบนหน้าจอ คนที่มีผมยาวสีชมพูและตาสีฟ้า
"ทุกท่านค่ะ ฉันคือลักซ์ ไคลน์ ทุกท่านค่ะ ได้โปรดอยู่ในความสงบก่อนและฟังฉันพูดหน่อยนะค่ะ เรื่องยูนิอุสเซเว่นที่เกิดขึ้นครั้งนี้ และเรื่องที่เกิดขึ้นตามมานั้น การโจมตีโดยไม่แจ้งล่วงหน้าของสหพันธ์โลกเมื่อวันก่อน นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามาก อยู่ๆเราก็โดนยิงด้วยนิวเคลียร์ ความรู้สึกที่ตกใจกลัวนั้น ฉันเองก็รู้สึกเหมือนทุกท่านนั่นแหละค่ะ แต่ว่าได้โปรดนะค่ะทุกท่าน ตอนนี้กรุณาอยู่ในความสงบกันก่อนนะค่ะ หากเราระเบิดความโกรธเกรี้ยวออกไปหรือทำอะไรลงไปล่ะก็ มันจะทำให้เกิดสงครามครั้งใหม่ขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ ทางสภาสูงกำลังพยายามอย่างหนักเพื่อไม่ให้สถานการณ์มันเลวร้ายลงไปกว่านี้ เพราะฉะนั้นได้โปรดเถอะค่ะ ตัวแทนของทุกท่านที่รักความสงบและหวังก้าวไปสู่ทางที่ดีกว่าเดิม กำลังพยายามกันอย่างเต็มที่ ได้โปรดเชื่อใจทุกคนในสภาและท่านประธานดูแรนดัลด้วยเถอะนะค่ะ"
เมื่อลักซ์พูดจบเธอก็เริ่มร้องเพลงทำให้ประชาชนเริ่มสงบลง
"จะหัวเราะก็ได้นะ"ดูแรนดันหันไปหาแขกของเขาและยิ้มเยาะกับตัวเอง"เธอก็คงจะรู้อยู่แล้ว ที่จริงฉันก็ไม่น่าทำเรื่องแบบนี้ลงไปเลย แต่มันก็ช่วยไม่ได้ พลังของหล่อนยิ่งใหญ่มาก มากกว่าฉันซะอีกนะเนี่ย"
ผู้นำแพลนท์ให้เหตุผลและมันจริง ชาวแพลนท์ทุกคนเชื่อว่าถ้าเป็นลักซ์ ไคลน์เธอต้องพูดถูก หลายคนได้ยินคำพูดของเธอในศึกที่ยาคินดูเอ้
"อาจจะคิดว่ามันดูบ้าๆบอๆ แต่ตอนนี้ฉันจำเป็นต้องพึ่งพลังของหล่อน เหมือนกับที่ฉันต้องพึ่งพลังของเธอนั่นแหละ"เขาประกาศ สร้างความประหลาดใจให้กับทูตออร์บ
"ฉันขอแสดงอะไรให้ดูหน่อยได้ไหม อัสรันคุง"
ดูแรนดัลพาอัสรันออกจากห้องทำงานไปขึ้นยานที่พาพวกเขาไปยังโรงเก็บ เมื่อไปถึงอัสรันเห็นโครงสร้างของโมบิลสูท แสงไฟสว่างขึ้น อัสรันเห็นว่ามันคล้ายคลึงกับอีจิสและจัสติส
"ZGMF-X23S เซเวีย สมรรถภาพกลางๆ แต่ว่าเป็นเครื่องที่พัฒนาขึ้นมาพร้อมกับอิมพัลด์ , สเป็กเตอร์ , เคออส , ไกอา แล้วก็อาบีส"
อัสรันหรี่ตามองเขา"หมายความว่ายังไงครับ จะให้ผมกลับมาที่ซาฟท์อีกอย่างงั้นเหรอ"
"คงไม่ใช่แบบนั้นหรอก ก็ถ้าเรื่องการลงทะเบียนแล้วมันก็อาจเป็นอย่างที่เธอว่านะ แม้เราพยายามเลี่ยงสงครามแต่ถ้ามันเกิดขึ้นอีก ฉันมั่นใจว่าเธอต้องอยากยุติมัน แต่ถ้าจะทำอย่างนั้นมันจำเป็นต้องมีพลังจริงไหม"
อัสรันนึกถึงการโจรกรรมที่อาโมรี่วัน เนื่องจากเขาไม่มีพลัง เขาจึงไม่สามารถหยุดการอาละวาดและการขโมยหุ่นทั้ง4เครื่องได้
"มันอาจจะกระทันหันไปนิดนะแต่ฉันไม่ได้เร่งรัดให้เธอตัดสินใจหรอก แต่ว่าสิ่งที่เธอทำได้ สิ่งที่เธอหวังไว้....พวกเธอน่าจะรู้ดีที่สุดไม่ใช่รึไงกัน?"ประธานทิ้งคำพูดไว้และออกไป ทิ้งอัสรันที่สับสนไว้
@@@@@@@@@@
กอลโดวาน่า
ซาอูลก้าวออกจากห้องอาบน้ำเช็ดผมเปียกด้วยผ้าขนหนู คอนโซลที่โต๊ะส่งเสียงปิ๊บ เรารีบไปที่โต๊ะทำงานและนั่งลง เขากดปุ่มคอนโซลและใบหน้าเจ้าหน้าที่สื่อสารคนหนึ่งปรากฏขึ้น
“ผู้บัญชาการเคสเซล มีข้อความจากสภาสูง”
ซาอูลแสดงสีหน้าประหลาดใจ ทำไมสภาสูงส่งข้อความหาเขา
“ส่งมาเลย”เขาบอก
ข้อความปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ซาอูลอ่านข้อความแล้วสบถ เขาไม่อยากเชื่อเลย มันต้องเป็นเรื่องตลกแน่ๆ เขาตรวจสอบรหัสรับรองความถูกต้องของข้อความอีกครั้ง มันจริง คำสั่งนี้เป็นของจริง เขารีบเปลี่ยนชุดที่สะอาดและออกจากห้องพัก มุ่งหน้าไปยังห้องพักของเพื่อนๆ
เขาตรวจทั้งห้องของชิโฮะและนิโคลแต่ไม่พบ หายใจเข้าออกเพื่อสงบสติอารมณ์ เขาสาบานว่ากำลังกลายเป็นอิซาค ซาอูลไปที่ห้องโถงพบทั้งคู่กำลังทานอาหารอยู่
“และเขาใช้เวลาครึ่งคอนเสิร์ตหลับขณะที่ซาอูลตื่นตลอดเวลา”นิโคลบอกชิโฮะ ทำให้มีเสียงหัวเราะเบาๆจากนักบิน ซาอูลส่ายหัวเข้าหาทั้งคู่
“เฮ้ พวก”เขาเรียกทั้งคู่”ฟังนะ ฉันเพิ่งได้รับข้อความ เราถูกเรียกไปยังสภาสูง”
“อะไรนะ? ทำไมพวกเขาอยากพบเรา”
“ฉันไม่รู้”ซาอูลตอบ”แต่พวกเขาขอพบเราสามคนโดยเร็ว ขอโทษด้วยเรื่องอาหาร แต่ถึงเวลาต้องไปแล้ว”
“เข้าใจแล้ว”ชิโฮะพูดทั้งสองลุกขึ้นยืน”นายรู้ไหมเราจะกลับเมื่อไหร่”
“พวกเขาไม่ได้บอก”ซาอูลตอบยักไหล่”แต่ฉันอยากจบเรื่องนี้และกลับมาที่นี่”
@@@@@@@@@
แอพิลิอุส
อัสรันกลับไปที่โรงแรมที่เขา เมื่อผ่านประตูเข้ามา เสียงผู้หญิงก็เรียกชื่อ"อัสรัน"อย่างร่าเริง
เธอโอบแขนกอดอัสรันที่ตกใจ
"มีอาค่ะ"
"เอ๊ะ"อัสรันสับสน
"มีอา แคมเบล แต่ว่าต่อหน้าคนอื่นน่ะเรียกว่าลักซ์นะค่ะ"เธอขยิบตาให้
อัสรันถอนหายใจจะเดินผ่านแต่มีอาคว้าแขนเขาไป
"นี่ยังไม่ได้ทานข้าวสินะ ยังไม่ได้ทานสินะ ไปทานด้วยกันนะค่ะ"เธออุทานโดยไม่ให้อัสรันปฎิเสธ"อัสรันเป็นคู่หมั้นของลักซ์นี่นา"
ในร้านอาหาร อัสรันนั่งลงที่โต๊ะและมีอาหยิบเมนูขึ้นมาดู
"ของที่อัสรันชอบคือเนื้อเหรอหรือว่าปลาค่ะ"เธอพูดพล่ามเรื่องอาหารต่อไป
อัสรันคิดเรื่องอื่นอยู่แต่มีอาไม่ได้สังเกต เมื่ออาหารถูกวางต่อหน้าเขา มีอาเริ่มพูดอีกครั้ง
"อ๊ะ จริงสิ วันนี้ดูการแสดงของฉันรึเปล่าคะ? เป็นไงคะ เหมือนรึเปล่าคะเนี่ย?"เธอถามอย่างกระตือรือร้น
อัสรันมองไปทางอื่น
"หรือว่าใช้ไม่ได้"เธอถามเสียงเศร้า
"เปล่า มันไม่ใช่อย่างงั้นหรอกนะ เหมือนมากเลย เหมือนจนแทบไม่ต่างจากตัวจริงเลย"
"แหม ดีใจจังเลย ถ้าอัสรันพูดแบบนั้นแล้วละก็ฉันดีใจจังเลยละค่ะ"มีอาร้องเสียงแหลมราวกับเด็กกอดเมนูแนบหน้าอกและส่ายไปมา ทำตัวเหมือนแฟนเกิร์ลอีกครั้งทำให้ชายหนุ่มถอนหายใจ
"ฉันน่ะที่จริงแล้วเป็นแฟนคลับของลักซ์มานานแล้วละค่ะ ฉันชอบเพลงของเธอแล้วก็ร้องบ่อยๆ ตอนนั้นแค่มีคนชมว่าเสียงเหมือนเท่านั้นเองคะ แต่อยู่ท่านประธานก็เรียกมาพบน่ะค่ะ ท่านบอกว่า'ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเธอ'"
"แล้วก็เป็นแบบนี้เรอะ"
"ค่ะ แต่ฉันมีความสุขมาก ดีใจที่เป็นที่ต้องการของผู้คน"
"คนที่เขาต้องการจริงๆคือลักซ์ ไม่ใช่เธอ"อัสรันพูดอย่างตรงไปตรงมา มีอาหลับตาลง
"ก็ใช่แหละคะ ตอนนี้ ไม่สิ ไม่ใช่แค่ตอนนี้หรอก ท่านลักซ์น่ะจำเป็นทุกเวลานั่นแหละ เธอเข้มแข็ง งดงาม ใจดีกับทุกคน มีอาน่ะไม่มีความจำเป็นกับใครๆหรอก"เธอพูดเสียงต่ำลง
"เพราะงั้นแค่ตอนนี้ก็พอคะ ฉันน่ะเป็นตัวแทนลักซ์ที่ไม่อยู่ตอนนี้และช่วยเหลืองานของท่านประธานได้ก็พอใจแล้ว ได้พบกับอัสรันฉันดีใจมากเลยคะ อัสรันคงรู้เรื่องคุณลักซ์เยอะแยะเลยใช่ไหม บอกให้ฟังหน่อยสิ ว่าปกติแล้วเขาเป็นคนแบบไหน ชอบอะไรบ้าง เอ่อแล้วก็ ของที่ไม่ชอบล่ะ เค้าเก่งเรื่องไหนเหรอค่ะ"
มีอากระหน่ำยิงคำถามใส่อัสรันเรื่องลักซ์ตลอดอาหารเย็น อัสรันให้ความสนใจครึ่งเดียว เขานึกย้อนไปถึงสิ่งที่ดูแรนดัลถามเขา
@@@@@@@@@
ตุลาคม 18, CE 73
อาคารรัฐสภาออร์บ
"ไม่ได้ๆ อย่ามาล้อเล่นนะ"คางาริตกใจกับการตัดสินใจของพวกเขา"ไม่ว่าใครจะพูดยังไง ฉันไม่มีทางเห็นด้วยกับการทำสัญญากับสหพันธ์แอตแลนติก"
สิ่งนี้ขัดกับทุกความปรารถนาของคางาริ เธอหวังจะโน้มน้าวให้สมาชิกสภาเข้าข้างเธอเพื่อต่อต้านสนธิสัญญา น่าเสียดายที่คนที่เธอพูดด้วยปฎิเสธที่จะเปลี่ยนจุดยืน ส่วนใหญ่เข้าข้างอูนาโตกับยูน่า คำพูดของซามูเอลดังก้องในใจเธออีกครั้ง
"น่าเสียดาย การเสียสละของพ่อคุณทำให้เราอยู่ในฐานะที่ลำบาก ผู้สนับสนุนส่วนใหญ่ของเขาเสียชีวิตเคียงข้างเขา เหลือเพียงศัตรูทางการเมือง"
คางาริตระหนักว่าคำพูดนั้นเป็นจริงแค่ไหนในตอนนี้
"แต่ท่านผู้แทนครับ--"อูนาโตเริ่ม
"สหพันธ์แอตแลนติกทำอะไรลงไปน่ะพวกคุณก็เห็นกับตาตัวเองแล้วนี่นา เป็นการบุกฝ่ายเดียว แล้วยังใช้นิวเคลียร์อีกด้วย"
"ท่านคางาริ นั่นคือเหตุผลที่เราสร้างพันธมิตรกับพวกเขา เพื่อปกป้องออร์บให้ปลอดภัย"อูนาโตตอบกลับ
"คนที่ทำให้โลกไม่ปลอดภัยก็คือสหพันธ์แอตแลนติกนั่นแหละ แล้วทำไมต้องไปร่วมมือกับคนพวกนั้นด้วย"
ยูน่าลุกขึ้นจากที่นั่ง"เลิกมีทิฐิเหมือนเด็กๆซะทีเถอะนะ ถ้าจะถามว่าทำไมละก็เพราะเป็นประเทศแบบนั้นยังไงล่ะ"
"แต่--"
"การกระทำของสหพันธ์แอตแลนติกน่ะมันรุนแรงก็จริงอยู่ แต่ว่าเรื่องนั้นต้องขอโทษด้วยนะ ถึงท่านผู้แทนไม่พูดออกมาพวกเราก็รู้อยู่เต็มอกอยู่แล้ว แต่ว่าทำไมล่ะ ถ้าถามแบบนั้นแล้วผู้แทนจะให้ออร์บทำอย่างไรต่อไปเหรอครับ ถ้าเราไม่ทำสัญญาพันธมิตร เราจะถูกโดดเดี่ยวในโลก หากเกิดอะไรขึ้นจะไม่มีชาติไหนให้ความช่วยเหลือเรา และต้องขอบคุณพวกราลที่หยิ่งผยองอย่างเห็นได้ชัด เราสูญเสียอำนาจที่มีไปมาก เราควรเรียกแพลนท์ที่อยู่ไกลออกไปในอวกาศไหม?"
"ไม่ใช่นะ"
"ขอให้ประเทศของตัวเองปลอดภัยเท่านั้นก็พอและจะไม่ยอมช่วยเหลือประเทศที่กำลังทุกข์ทรมาณยังงั้นเหรอครับ"
"ไม่ใช่นะ"
"งั้นคิดจะทำยังไงล่ะครับ"
"ออร์บน่ะยึดมั่นในเอกเทศและมีหนทางของตัวเอง"
"แล้วจะให้ประเทศนี้ต้องล่มจมเหมือนท่านอุซึมิอีกเหรอครับ"ผู้แทนคนนึงพูดอย่างไม่เคารพ
ภาพการบุกโจมตีออร์บของกองทัพโลกโผล่ขึ้นในความคิดเธอ คางาริตบมือลงโต๊ะ
"ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นนะ"
"แต่ว่าดีไม่ดีสถานการณ์แบบนี้อาจจะทำให้เกิดเรื่องเช่นนั้นได้อีกนะคนับ ท่านผู้แทน ความหวังที่จะให้ประเทศนี้สงบสุขและปลอดภัยน่ะพวกเราก็คิดเหมือนกันนั่นแหละครับ เพราะอย่างงั้นสิเราถึงจำเป็นต้องเจรจาเข้าร่วมเป็นพันธมิตร"นายกรัฐมนตรีลุกขึ้นเดินมาหาเธอ
"ทางสหพันธ์แอตแลนติกน่ะ ไม่ได้พูดให้ออร์บทำอย่างโน้นอย่างนี่หรอกนะ แต่ว่าถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ละก็จะเกิดอะไรขึ้น หากเราเป็นพันธมิตรกันมันจะเป็นการดีกว่านะครับลองคิดดู แทนที่จะถือทิฐิแล้วสร้างศัตรูโดยไม่จำเป็น เป็นศัตรูกับประเทศใหญ่น่ะมันอันตรายแค่ไหน ท่านเองก็น่าจะทราบดีอยู่แล้วนะครับ"
“และคุณจะบอกว่าเราควรทิ้งประชากรครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นสุนัขของสหพันธ์แอตแลนติกเหรอ หากเราสละความเป็นกลางจะเสียพลเมืองครึ่งหนึ่ง…พวกเขาทำให้ออร์บเป็นประเทศมหาอำนาจอย่างในตอนนี้”
“ไรเนอร์”คางาริกระซิบโล่งใจ ดีใจที่ยังมีคนอยู่เคียงข้าง
“ผู้แทนเลฟฟอร์ต อย่าลืมว่าหากเราไม่ทำอะไรเลยประเทศจะต้องลุกเป็นไฟ ไม่ใช่แค่ประชากรกลุ่มเดียว แต่ทั้งประเทศจะได้รับผลจากการตัดสินใจ”
“การเป็นส่วนหนึ่งของEAหมายถึงเป็นศัตรูกับแพลนท์ เราควรยึดมั่นเส้นทางตัวเองและเลือกเป็นกลาง”ไรเนอร์ยืนกราน นั่นคือสิ่งที่อุซึมิทำในสงครามครั้งก่อน
"เราเดินตามเส้นทางนั้นและผลเป็นยังไง พวกเราจะไม่ยอมให้เกิดเรื่องเช่นนั้นอีก”นายกพูดหันไปหาหัวหน้าผู้แทน”ถ้าเราปฎิเสธก็เท่ากับทำให้ประเทศนี้ต้องหายนะอีกครั้ง ประเพณีหรือคุณธรรม แทนที่จะถือทิฐิ เรามาคิดถึงความปลอดภัยของประเทศและประชาชนก่อนดีกว่านะครับท่านผู้แทน"
หลังการประชุมสิ้นสุดลง ข้าราชการ ผู้ช่วยและที่ปรึกษาออกจากห้อง ส่วนใหญ่เดินไปทางเดียวกัน คางาริที่หดหู่ใจไปทางตรงข้าม
ไรเนอร์กำลังจะตามไปแต่เขาได้รับโทรศัพย์”เข้าใจแล้ว…ฉันจะรีบไปที่นั่น”เขาวางสายและไปหาคางาริแต่เขาเห็นยูน่าเข้าไปหาเธอ ไรเนอร์หงุดหงิดมากและเดินจากไป
ยูน่าแสดงความกังวลต่อเด็กสาวบอกว่าเธอดูเหนื่อยมากและถามว่าสบายดีไหม คางาริเงียบเดินไป คู่หมั้นเธอตามไปและขอโทษสำหรับในที่ประชุม แต่เป็นหน้าที่เขาที่ต้องแสดงความเห็นที่ชัดเจนและโอบแขนรอบไหล่เธอ
"ฉันรู้แต่ว่าเรื่องนั้นฉันยังทำใจรับไม่ได้น่ะ เรื่องแบบนี้ต้องโดนพวกนายกหัวเราะเยาะอีกแน่เลย"เธอถอนหายใจเหน็ดเหนื่อย
อูนาโตยิ้มขณะมองพวกเขาเดินไป นั่นลูกชายของเขา…”จัดการตอนเธอกำลังอ่อนแอ”
"ไม่ต้องห่วงหรอกทุกคนเข้าใจดี แต่ว่าปัญหาในคราวนี้น่ะมันใหญ่เกินไปสำหรับเธอ"ยูน่าพูดพยายามให้เธอมั่นใจ
"มาชิม่าเองก็ไม่อยากจะว่าท่านอุซึมิหรอกนะ แต่ว่าเขาคงห่วงที่ลูกสาวอย่างเธอจะทำแบบเดียวกันอีกน่ะสิ"
"ฉันรู้แล้วล่ะ"
ยูน่านำทางเธอไปที่เก้าอี้ใกล้ๆ"เอาล่ะยังไงก็พักผ่อนก่อนเถอะ จะดื่มอะไรไหมหรือว่าจะหาอะไรเบาๆทานดี"
"ไม่ล่ะ ไม่เป็นไร ขอบใจนะ"เธอตอบอย่างอ่อนแรง
ยูน่ายิ้มและเปลี่ยนสีหน้าเป็นกังวลคุกเข้าหน้าเธอ
"น่าสงสาร…เธอน่ะเป็นแค่เด็กอายุ18เองแท้ๆ”
ยูน่าปัดผมลูบหน้าผากของเธอ
”แต่ว่าไม่เป็นไรหรอก ฉันยังอยู่อีกทั้งคนนี่นา"
ยูน่าจะจูบคางาริแต่เธอเบือนหน้าหนีเขาเลยจูบหน้าผากแทน
คางาริยกมือขึ้นหน้าผาก ทำให้ยูน่าเห็นแหวนที่อัสรันมอบให้คางาริ แม้เขาไม่แสดงออกแต่ภายในใจเขาโกรธมาก
ไม่เป็นไร พวกเขาแค่ต้องเร่งแต่งงานกว่าที่วางแผนไว้ ยูน่ายิ้ม
@@@@@@@@@@
กลับไปที่แพลนท์
อัสรันก้าวออกจากห้องอาบน้ำ เช็ดตัวให้แห้ง แล้วเปลี่ยนเสื้อผ้า ประธานเสนอให้เขาพักห้องVIP แน่นอนมันเป็นห้องที่ดี แม้พูดตามตรง อัสรันไม่เคยพักห้องแบบนี้มาก่อน
ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตู อัสรันเปิด คนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือ…
“ซาอูล?”
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”ผู้บัญชาการซาฟท์กล่าว”เราเข้าไปได้ไหม”
“เอ่อ ได้สิ”อัสรันพูดก้าวออกไป ให้ซาอูลเข้ามาตามด้วยชิโฮะกับนิโคล
”เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?”อัสรันถาม
“นั่นมันคำถามของฉันต่างหากอัสรัน”ซาอูลกล่าว”เราถูกสภาสูงเรียกกลับมาจากแนวหน้า และบอกว่าพวกเราได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ติดตามนาย”
“จากสถานการณ์ในออร์บและบนโลกตอนนี้ ประธานและสภารู้สึกว่าควรมีคนคอยดูแลคุณ”นิโคลกล่าวเสริม”พวกเขาเลือกเรา เดาว่าพวกเขารู้สึกว่าคุณคงดีใจหากเป็นคนที่คุ้นเคย”
“ฉันว่ามีเพื่อนมาเยี่ยมดีกว่าเจอคนไม่รู้จัก”ชิโฮะพูดอย่างอ่อนโยนหันมาหาอัสรัน”เอาล่ะ ตอนนี้มาอัพเดทข้อมูลดีกว่า คนอื่นๆเป็นยังไงบ้าง”
“ดี”อัสรันพูดพาพวกเขาไปนั่งเก้าอี้ในห้องของเขา”สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของมาคิโอ้ถูกทำลาย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ตอนนี้ลักซ์และคนอื่นๆพักอยู่ที่บ้านเฟรย์”
“พูดถึงคุณลักซ์ อัสรันคิดยังไงกับตัวปลอมของดูแรนดัล”นิโคลถาม อัสรันยักไหล่
“ฉันเข้าใจเหตุผลของเขา”อัสรันยอมรับ”ในตอนนี้ฉันเพียงหวังว่าอิลลิเทียร์จะปล่อยผ่านไป ยกเว้นเธอทำตัวไม่เหมาะสม และทำลายชื่อเสียงน้องสาวจนเธอออกไล่ล่า”
ทุกคนตัวสั่น อิลลิเทียร์ยามโกรธจะออกไล่ล่าศัตรูดุจหมาล่าเนื้อ เธอเคยเป็นแบบนั้นมาแล้วหลังความอัปยศที่บลูแฟลชมอบให้ในการรบที่วงโคจร เพราะแบบนั้นหน่วยของเขาเลยต้องตามล่าอาร์คแองเจิ้ลและยูนิคอร์นไปทั่วโลก
“หล่อนไม่ใช่คนเดียว”ชิโฮะให้ความเห็น”ฉันไม่คิดว่าลักซ์จะมีความสุขเหมือนกัน พูดถึงแล้วเธอคนนั้นที่อยู่เบื้องหลังเป็นยังไงบ้าง”
อัสรันเหลือบมองชิโฮะก่อนมองออกไป ระหว่างเมนเดลและยาคิน ทีฟากับชิโฮะไม่ได้พูดคุยกันมากเกินกว่าที่พวกเขาต้องร่วมงานกันในการต่อสู้ อย่างไรก็ตามหลังยาคินดูเอ้ พวกเธอสนิทกันอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่อัสรันแปลกใจเสมอที่ชิโฮะไม่เคยตามนิโคลมาเยี่ยมออร์บเป็นครั้งคราว
“ก็ยังสบายดีอยู่นะ”
ลักซ์เป็นผู้นำของเทอร์มินัล องค์กรที่มีจุดประสงค์เพื่อให้เนเชอรัลและโคออดิเนเตอร์อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข มีคนขององค์กรแฝงอยู่ทั้งที่โลกและแพลนท์ และหนึ่งในผู้ให้ทุนสนับสนุนหลักคือบริษัทลูโอที่เป็นเจ้าของโดยทีฟา
ซาอูลผิวปาก”แล้วคนอื่นๆล่ะ? เฟรย์ 3คนบ้า ดีอัคก้า ผู้บัญชาการอลาริค และลูกเรืออาร์คแองเจิ้ล”
“พวกเขาทุกคนสบายดี”อัสรันกล่าวยิ้มเล็กน้อยให้กับชื่อเล่นซาอูลสำหรับลอร่า ชานี่และโครโต
“อืม…อัสรัน จะไปไหนต่อดี”นิโคลถาม”เราสามารถนั่งคุยได้ทั้งวัน แต่ฉันไม่คิดว่านั่นเป็นสิ่งที่คุณต้องการ”
อัสรันหยุดยิ้มก่อนถอนหายใจ
“อยากไปเยี่ยมพวกเขาน่ะ”เขาพูดเบาๆ รอยยิ้มของคนอื่นๆก็จางหายไปเช่นกัน อารมณ์เริ่มมืดมนลงทันที
@@@@@@@@@@
มีที่เดียวที่อัสรันอยากไป นั่นคือสุสานทหารที่เสียชีวิตของซาฟท์ มีหลายชื่อที่อัสรันรู้จัก แต่มีไม่กี่คนที่เขามาเยี่ยม
มิเกล รัสตี้ ทริซ่า เสียชีวิตที่เฮลิโอโปลิส และอีกสองคน อิซาคกับเอมิเลีย ตายที่ยาคิน
อัสรันวางช่อดอกไม้ไว้บนสุสานของอิซาค ทั้ง4ทำความเคารพสหายที่จากไป
“กองกำลังป้องกันตัวเองฉุกเฉินงั้นเหรอ”อัสรันกล่าว นึกถึงคำพูดดูแรนดัลจากการแถลงข่าวก่อนหน้านี้”ซาฟท์เองก็เคลื่อนไหวแล้วเหรอ”
“ทำไงได้ล่ะ โดนโจมตีด้วยนิวเคลียร์เชียวนะ”
“เรา3คนออกไปสกัดเมื่อพวกนั้นใช้นิวเคลียร์”ชิโฮะกล่าวอย่างเงียบงัน”เราคิดว่าพวกนั้นพยายามจะถล่มแพลนท์ให้ราบแน่ๆ”
“แล้วอัสรันล่ะครับ? คุณมาทำอะไรที่แพลนท์?”นิโคลถาม
“แล้วออร์บล่ะ?”ซาอูลถาม”จะทำยังไงต่อไป? แล้วคางาริล่ะ?”
“ไม่รู้เหมือนกัน”
“นายจะทำอะไร”
“ไม่รู้สิ”
“ไม่ว่านายจะตัดสินใจยังไง เราอยู่ข้างนายเสมอ”ซาอูลวางมือบนไหล่อัสรัน”ฉันรู้…เราทุกคนว่านายจะทำทุกอย่างที่นายรู้สึกว่าถูกต้อง”
อัสรันนิ่งเงียบเดินไปที่หลุมศพของเอมิเลีย เขาหยุดเมื่อสังเกตบางอย่างไม่คาดคิด
“นิโคล อามาลฟี่”เขาอ่านชื่อ คนอื่นมองตามเขา ซาอูลหัวเราะเล็กน้อย
“ใช่ นี่แหละทหาร 2ปีแล้วแต่กริมรีปเปอร์ยังอยู่ในนรก”
“โอเค ผมพอแล้วกับชื่อเล่นนั้นซาอูล”นิโคลพูดอย่างหงุดหงิด
อัสรันถอนหายใจ กริม รีปเปอร์เป็นชื่อเล่นที่ไม่เหมาะสมหนุ่มผมเขียวเลย
ขณะที่ทุกคนกำลังคิดเรื่องนั้น
อัสรันไม่ได้มองป้ายหลุมศพอีกต่อไป เขามองออกไปไกลๆเห็นหญิงผมเงินเดินมาอย่างช้าๆพร้อมช่อดอกไม้2ช่อในอ้อมแขน
“เราควรรีบไปจากที่นี่ แม่ของอิซาคกำลังเดินมาทางนี้และฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบเราจากสิ่งที่เราทำในสงครามครั้งก่อน”
อัสรันไม่ละสายตาจากเอซาเลีย เธอเป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งของพ่อเขา เธอมีชื่อเสียงว่าเกลียดเนเชอรัลพอๆกับพ่อเขา
ตอนนี้อาจจะมากกว่าเดิม เมื่อตอนนี้ลูกทั้ง2ของเธอตายเพราะช่วยพันธมิตร4กองยานทำลายGENESIS เธอมีเหตุผลมากที่จะแค้นพวกเขา
อัสรันไม่อยากคุยกับเธอไม่ว่ากรณีใด
ชายหญิงทั้ง4รีบออกไปก่อนที่เอซาเลียจะเห็นหรือทักทายพวกเขา
หลังพวกอัสรันไปแล้ว เอซาเลียได้นำดอกไม้ไปวางที่หลุมศพลูกทั้งสองของเธอ
“มาเยี่ยมหลุมศพหรือค่ะเอซาเลีย”
“จ๊ะ”เธอทักทาย
เจ้าของเสียงนำดอกไม้ไปวางที่ป้ายหลุมศพหนึ่ง
ราอูล เลอ ครูเซ่…
“หลับอย่างสงบเถอะคะ คุณพ่อ”
เธอทำความเคารพและจากไป
@@@@@@@@@@@
ความคิดเห็น