NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gundam Seed Extended : Bluedevil from Mars

    ลำดับตอนที่ #66 : GSD 6 : End of the World

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 518
      14
      31 ต.ค. 66

    เฟส 6 : แผ่นดินที่พังทลาย

    5 ตุลาคม , CE73

    วงโคจรโลก

    มิเนอร์วาเคลื่อนตัวไปพร้อมเศษชิ้นส่วนสีแดงของยูนิอุสเซเว่นขณะร่อยลงสู่ชั้นบรรยากาศ ชิ้นส่วนยังมีขนาดใหญ่พอจะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อโลก 

    “เข้าสู่เฟส3แล้วครับ”อาเธอร์พูดหันไปหาทาเลีย”จะถึงขีดจำกัดยิงทันฮาวเซอร์แล้วนะครับ”

    “แต่ว่าเรายังจับตำแหน่งของอิมพัลด์และเครื่องอื่นไม่ได้นะครับ”เบิร์ตกล่าว”พวกเขาอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย”

    “อัสรัน”คางาริกระซิบ

    พวกเขารอไม่ได้แล้ว ทาเลียรู้ดี

    “ทันฮาวเซอร์ทำงาน”ทาเลียสั่ง ทำให้คางาริ เมย์รินและคนอื่นบนสะพานอ้าปากค้าง”จะหยุดการตกของยูนิอุสเซเว่น มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เล็งเป้า กราบขวาด้านหน้าเตรียมยิงได้”

    มิเนอร์วาเริ่มหันไปทางยูนิอุสเซเว่นขณะทันฮาวเซอร์โผล่ออกมาจากหัวบาน

    “ยิง”

    กระสุนนัดแรกโดนยูนิอุสเซเว่นและทำให้โคโลนี่หลุดออกไปอีก แต่ยังไม่พอ ทันฮาวเซอร์ยิงอีกครั้งเจาะชิ้นใหญ่ที่สุดแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหลายร้อย ไม่มีขนาดใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อโลกได้

    มิเนอร์วาร่อนลงต่อไป เศษซากหลายชิ้นเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศก่อนถึงพื้นโลก แต่ยังมีเศษซากจำนวนมากตกลงสู่โลก

    @@@@@@@@@@

    หมู่เกาะมาร์แชล

    “ฮาโล่ๆ เรามีปัญหา”

    “จะมีอะไรมาเหรอ”

    “เราต้องอยู่ที่นี่ตลอดไปเหรอครับ”

    ลักซ์ยิ้มเห็นแก่พวกเขา พวกเธอพาเด็กๆไปเชลเตอร์ใต้โบสต์ มันอยู่ใต้ดินลึกพอจะปกป้องพวกเขาจากสิ่งที่พุ่งชนหรือใกล้เกาะ


    “ไม่เป็นไรหรอกนะ เราไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้นเอง เดี๋ยวเราก็จะกลับกันแล้วนะจ๊ะ”เธอตอบพยายามทำให้พวกเขามั่นใจ

    ทันใดนั้นเชลเตอร์ก็เริ่มสั่นสะเทือนจากการตกของซากโคโลนี่ใกล้เคียง เด็กๆเริ่มครางและร้องไห้ ลักซ์กอดเด็กสองคนที่อยู่ข้างๆเธอ

    “ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ”

    จากนั้นเธอก็เริ่มร้องเพลงหวังให้เด็กๆสงบลง


    @@@@@@@@@@@

    ออร์บ

    “พ่อแม่อยู่ไหน”เด็กหัวแดงกระซิบหวาดกลัว”หินจะชนพวกเขารึเปล่า”

    “เธอสบายดี ไคโตะ”คาริด้า ยามาโตะตอบอย่างมั่นใจแก่หลายชายที่นั่งบนตักเธอ”เธออยู่ในหลุมหลบภัย หินที่ตกลงมาไม่สามารถไปถึงเธอได้”

    เด็กน้อยกอดเธอและซุกใบหน้าเขาไว้ในอกเธอ และร้องไห้เมื่อได้ยินเสียงกระทบครั้งแรก เมอริว ราเมียสและแอนดริว วอลเฟลนั่งถัดจากพวกเขาในเชลเตอร์ใต้คฤหาสน์อัลตาร์ มีการคาดการณ์ว่าออร์บจะได้รับความเสียหายเล็กน้อยจากยูนิอุสเซเว่น แต่ปลอดภัยดีกว่าเสียใจ

    คาริด้ามองขึ้นไปบนเพดานลูบหลังไค

    @@@@@@@@@@

    บนอวกาศ

    ยานเกอร์ตี้ลัว Extendedมองดูเศษชิ้นส่วนกระจายตัวตกลงไป


    “ตายแล้วเหรอ…ทุกคนตายกันหมดแล้วเหรอ?”


    ไม่ทราบตำแหน่ง

    ในหลุมหลบภัยของเขา จีบริลเฝ้าดูเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังดำเนินอยู่บนผนังทีวีหน้าเขา เขาลูบหัวแมว และเซรีน่า ไรเกอร์ยืนอยู่ข้างหลังเขา


    “ให้เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของโลกใบใหม่”

    “ใช่ โลกใหม่….โลกที่ถูกปกครองโดยพวกเรา”

    @@@@@@@@@@@

    วอลแตร์

    ประธานดูแรนดัลพร้อมเจ้าหน้าที่เฟธสองคนเฝ้าดูการทำลายล้างของเศษซากยูนิอุสเซเว่นอย่างเงียบๆ

    “จัดการเรื่องต่างๆหรือยัง”

    “ครับท่าน”เจ้าหน้าที่คนนึงพูด”อย่างไรก็ตาม ถ้าใครฉลาดและตั้งใจพอ พวกเขาสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆได้”

    “จริง แต่เมื่อสงครามเริ่มต้น ผู้คนจะโฟกัสไปเรื่องนั้นไม่ใช่ยูนิอุสเซเว่น และเมื่อสงครามสิ้นสุดจะไม่มีใครสนใจ”

    “ครับท่าน”

    “อาโมรี่วันมีปัญหาตรงไหน”

    เจ้าหน้าที่นิ่งเงียบไปชั่วครู่

    “ไม่ครับ ไม่มีปัญหาเลย”

    @@@@@@@@@@@@@

    เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ซากชิ้นส่วนของยูนิอุสเซเว่นตกชงมาบนพื้นโลก เมืองและนครต่างๆถูกทำลายด้วยเศษเล็กเศษน้อย เศษใดที่กระทบพื้นก็พ่นฝุ่นขึ้นไปในอากาศ เศษชิ้นส่วนที่ตกลงทะเลก็ทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าหาชายฝั่งใกล้เคียงทำลายบ้านเรือนและอาคารต่างๆ

    “กัปตันครับ เราสามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบควบคุมแอโรไดนามิกได้แล้ว”อาเธอร์กล่าว

    “กางปีกออก”เธอสั่ง”ใจเย็นๆนะเฮล์ม”

    “กางปีก เปลี่ยนไปใช้การบินในชั้นบรรยากาศ”

    “ฝ่ายสื่อสารเป็นไงบ้าง”ทาเลียถนม

    “ใช้ไม่ได้ค่ะ เศษชิ้นส่วนรบกวนคลื่นวิทยุ”เมย์รินรายงาน

    “จะเซ็นเซอร์หรือเลเซอร์ก็ได้ หาเอ็กเซียและเครื่องอื่นให้เจอนะ”

    “คิดว่าพวกเขาจะลงมาได้อย่างปลอดภัยเหรอครับ”อาเธอร์ถาม

    “เรายิงทันฮาวเซอร์ไปแล้วนี่นา แต่ถึงมาคาดหวังอะไรตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก แต่ฉันก็อยากจะเชื่อนะ”

    @@@@@@@@@@@

    แซ็ควอริเออร์ที่ฝ่าชั้นบรรยากาศมาได้อย่างปาฏิหาริย์เสียหายอย่างรุนแรงตกลงมาจากท้องฟ้า 


    “ไม่มีบูสเตอร์ล่ะก็ ก็คงจะฝ่าชั้นบรรยากาศไม่ได้”อัสรันพูดพยายามบังคับแซ็คไว้ในอากาศให้นานที่สุด

    “คุณอัสรัน”เสียงหนึ่งดังขึ้นทางวิทยุ

    “ชินงั้นเหรอ”

    “รอเดี๋ยวนะครับ ผมกำลังจะไป”

    “อย่านะ ถึงจะเป็นอิมพัลด์ก็เถอะ คงไม่มีพลังพอสำหรับ2เครื่องหรอกน่า”


    อิมพัลด์พุ่งเข้ามาคว้าแซ็คไว้ได้และชะลอความเร็วลง

    “ทำไมคุณถึงได้ชอบพูดแบบนี้ทุกทีเลยล่ะ”

    “แล้วจะให้พูดยังไงล่ะ”

    “บอกว่าช่วยฉันด้วยสิไอ้บ้าเอ๊ย”

    “แบบนั้นดีกว่าเหรอ”

    ในตอนนั้นสัญญาณไฟก็ปะทุขึ้นมา มิเนอร์วาอยู่ด้านหน้าพวกเขา ฉายภาพหุ่นสองตัว


    “อิมพัลด์ปลอดภัย แซ็คด้วยค่ะ”

    “เอ็กเซียล่ะ”

    “มีบางอย่างหลุดไปทางกราบขวา ระยะ153 เคลื่อนด้วยความเร็วสูงครับ”

    หุ่นที่สง่างามตอนนี้เหมือนก้อนเหล็กบิดเบี้ยว บางส่วนขาดหายไปและมีควันดำลอยออกมา

    เมย์รินเฝ้าดูด้วยความสยดสยองเมื่อหุ่นที่หมดสภาพปะทะเข้ากับคลื่นโซนิค หัวใจเธอกำลังกรีดร้องและขอร้องให้เขารอดมาได้

    นี่มันไม่ถูกต้อง ในที่สุดพี่สาวเธอก็เริ่มใกล้ชิดเขา หรือมีหลักฐานว่าเธอพยายามจีบ ตอนนี้มันหายไปต่อหน้าต่อตาเธอลงสู่มหาสมุทร สำหรับนักบิน มีแนวโน้มว่าเขาจะเสียชีวิตจากแรงกระแทก

    @@@@@@@@@@@@

    โรงเก็บยานมิเนอร์วา

    ไม่นานหลังจากนั้น

    คางาริวิ่งผ่านโรงเก็บไปยังแซ็คที่เสียหายขณะอัสรันปีนออกมา


    “อัสรัน”

    “ว้าว”


    เธอร้องเรียกเมื่อถึงแซ็คและกอดเขาไว้

    เมื่อชินลงมาจากอิมพัลด์ ลูน่ามาเรียมาหาเพื่อน

    “ชิน ปลอดภัยดีนะ แล้วเอ็กเซียล่ะ”

    “ไม่นะ ฉันไม่เห็นเขาเลย”

    “ไม่…”

    ก่อนเธอจะพูดอะไรอีก ก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นและยานดังก้องครู่หนึ่ง

    “อะไรน่ะ ยังมีอะไรอีกเหรอ?”

    “ไปวนรอบโลกมารอบหนึ่ง นี่คงเป็นแรงปะทะตอนร่อนลงครั้งแรก คิดว่างั้นนะ”

    “พวกเราสามารถไปถึงออร์บได้ไหม”คางาริถามเดินเข้ากลุ่ม น้ำเสียงสิ้นหวังอย่างชัดเจน

    “ไม่ ฝุ่นกำลังปิดสัญญาณใดๆที่เราส่งไป”ซุยเรนตอบ”ไม่ต้องห่วง ชาวเมืองจะลี้ภัยอยู่ในเชลเตอร์ก่อนอุกกาบาตจะตกลงมา”

    “มันไม่สำคัญมากในตอนนี้”จอห์นกล่าว”เราต้องพาเธอกลับออร์บทันทีคางาริ”

    “แต่ทำไม? ฉันรู้ฉันต้องกลับไปที่ออร์บหลังสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ฉัน…”

    “การตกของยูนิอุสเซเว่นไม่ใช่อุบัติเหตุ”จอห์นตอบกลับ”มันถูกทิ้งโดยชายหญิงที่ขับจินน์”

    คำพูดของเขาทำให้ทุกคนประหลาดใจ

    “อะไรนะ? ทำไมใครๆก็อยากทำแบบนั้นล่ะ”

    “พวกเขาเป็นผู้สนับสนุนแนวคิดของแพทริค ซาล่าไปที่ยูนิอุสเซเว่น

    “และการกระทำของเราเศษซากชิ้นส่วนตกลงมายังโลก”อัสรันเสริมอย่างเคร่งขรึม”เราไม่สามารถหยุดมันได้อย่างสมบูรณ์ แม้จะเกิดจากกลุ่มอาชญากรเล็กๆ ทุกคนจะรู้แค่พวกเขาเป็นโคออดิเนเตอร์

    จอห์นถอนหายในอย่างเหนื่อยหน่าย”นี่อาจเป็นวาเลนไทน์เลือดครั้งที่2 เราต้องพาเธอกลับออร์บโดยเร็วที่สุด”

    @@@@@@@@@@@

    ลักซ์ไม่มีทางเห็นด้วยกับความคิดของเขา และเธอไม่คิดชักจูงผู้คนให้เข้าสู่สงคราม แต่มีวิธีแก้ไขเสมอ ลักซ์ตัวปลอมของเขาใกล้จะพร้อมเปิดตัวครั้งแรก และหน่วยลอบสังหารเขาจะโจมตีตัวจริง

    สิ่งเดียวที่เขากังวลคืออาร์คแองเจิ้ล เอเทอร์นอล ฟรีด้อมและลูซิเฟอร์ ซึ่งหายไปหลังสงคราม กองกำลังเล็กๆที่แสดงศักยภาพที่สามารถต่อกรทั้งกองทัพโลกและZAFTได้ และมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะทำเช่นเดิมในสงครามครั้งนี้

    ดูแรนดัลรู้ว่าเขาต้องยึดยานก่อนที่มันจะเตรียมอุปกรณ์และลูกเรือสำหรับทำสงคราม หรือดีที่สุดทำลายมันทิ้ง แต่เขาไม่รู้ตำแหน่งของยาน กันดั้มทั้ง4ถูกทำลายในสงครามครั้งก่อน เขาจึงไม่ต้องเปลืองแรงค้นหามัน

    อัสราเอลกับแพทริคประมาทพวกเขาและแลกด้วยความตาย เขาจะไม่ทำพลาดอย่างเดียวกัน

    แต่องค์ประกอบสำคัญที่เขาไม่ค้นหาโดยเชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคอีกแล้วกลับปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังผ่านไป2ปี ทันทีที่มันปรากฏตัวก็หายไปอีก

    ดูแรนดัลพยายามรวบรวมข้อมูลของนักบินอีกครั้ง นาซ่า อัคคาแมน เขาเป็นทหารZAFTในช่วงแรกของสงครามที่เสียชีวิตที่คาเพนทาเรีย เห็นชัดว่านักบินลึกลับของเอ็กเซียไม่ใช่คนที่ถูกฝังร่วมกับทหารในสงครามนองเลือด ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม นาซ่า อัคคาแมนเป็นนามแฝงของชายคนนี้

    ดูแรนดัลจับตาดูการใช้ชีวิตของเขาที่อคาเดมี่มาตลอด2ปีและให้เขาขึ้นขับเอ็กเซีย ซึ่งเขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงฝีมือที่ยอดเยี่ยมกว่านักบินหน้าใหม่

    ไม่ว่านักบินคนนี้มีชื่อจริงว่าอะไร เขาเป็นพวกไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ดูแรนดัลจำเป็นต้องรู้ว่านักบินคนนี้จะช่วยเหลือหรือเป็นอุปสรรค แต่ยังเร็วไปที่จะรู้เจตนาของนักบิน

    ดูแรนดัลได้ให้กองกำลังZAFTค้นหาจุดที่เอ็กเซียตกลงไปทันทีที่เขาให้หน่วยกู้ภัยZAFTช่วยเหลือผู้รอดชีวิต




    แพลนท์ แอพิลิอุสวัน 

    1ชั่วโมงต่อมา

    "โรม เซียงไฮ้ ทะเลทราบโกบี ควิเบก ฟิลาเดลเฟีย แล้วก็ด้านเหนือของแอตแลนติก จำนวนผู้เสียชีวิตมีมากสักแค่ไหนกันนะ เจ็บปวดจริงๆแฮะ"

    ดูแรนดัลกล่าว ในขณะที่มีหญิงสาวคนนึงนั่งอยู่บนโซฟาด้านหลังเขา

    "แต่เรื่องใหญ่จริงๆมันต่อจากนี้ต่างหากล่ะ เธอพร้อมจะช่วยฉันไหม?"

    "ค่ะ ฉันจะทำตามที่ท่านประธานต้องการ"หญิงสาวกล่าว

    @@@@@@@@@@

    มิเนอร์วา

    มิเนอว่าลงสู่ผืนทะเลแปซิฟิกอย่างปลอดภัย ลูกเรือหยุดพักก่อนจะเริ่มซ่อมแซมยาน กลุ่มหนุ่มสาวพากันออกมามองดูมหาสมุทรแปซิฟิกที่ดาดฟ้าเรือ ท้องฟ้ายังปกคลุมไปด้วยเมฆ มีแสงสว่างเพียงเล็กน้อยส่องลงมา


    ใกล้ๆคางาริกับอัสรันยืนจ้องมหาสมุทรด้วยกัน

    "ไม่เป็นไรใช่ไหมอัสรัน"

    "ไม่เป็นไรหรอก"

    "แต่ว่าฉันตกใจจริงๆนะ เป็นห่วงมากด้วย ไม่เห็นบอกเลยว่าจะเอาโมบิลสูทออกไปแบบนี้"

    "ขอโทษนะที่ทำไปโดยพลการ"

    "เรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ ฉันเองก็รู้ฝีมือของนายดีอยู่แล้ว แต่ฉันกลับคิดว่านายออกไปเองแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะนะ มันกลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว แต่เพราะมิเนอร์วาและพวกอิซาคก็เลยลดลงไปมาก"

    อัสรันไม่ได้รู้สึกว่าเป็นความสำเร็จเท่าไหร่ โลกยังได้รับความเสียหายมาก และถ้าคนบนโลกพบว่ามันไม่ใช่อุบัติเหตุและโคออดิเนเตอร์ทุกอย่างจะเลวร้ายลง

    "ขอโทษนะ ขอฉันคุยกับอัสรันตามลำพังได้ไหม"จอห์นถามเดินมาใกล้ทั้งคู่

    "อื้อ แน่นอน"คางาริพูดเดินจากทั้งสองไป

    "ตามฉันมา"จอห์นเดินนำกลับเข้ายาน อัสรันตามไป"เป็นไงบ้าง?"

    "ผมสบายดี"

    "จริงเหรอ ฉันคิดว่าไม่เป็นอย่างงั้นนะ"จอห์นพูดเหมือนอ่านใจได้"หัวหน้ากลุ่มที่ก่อเรื่องเชื่อมั่นในความคิดบ้าๆของพ่อเธอ"

    อัสรันเงียบไม่ได้ตอบคำถาม

    "เธอไม่ใช่พ่อของเธออัสรันและเธอไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของเขา หยุดโทษตัวเองในสิ่งที่เขาทำและหยุดคิดว่าคุณสามารถทำให้เขาเข้าใจและหยุดความบ้าเขาได้ เขาเลือกมานานแล้ว โศกนาฎกรรมวาเลนไทน์เลือดกระตุ้นเขาเท่านั้น หยุดสงสัยตัวเองและเดินตามเส้นทางของเธออัสรัน ฉันพูดได้แค่นี้"

    "ผมรู้ พ่อผมไม่อยากให้ผมคิดแบบนั้น ผมแค่รู้สึกว่าผมสามารถทำอะไรเพื่อหยุดเขาได้ สิ่งที่เขาทำเขาทำตัวเอง ผมไม่สามารถเปลี่ยนใจเขาได้ ที่ผมทำได้แค่พยายามหยุดเขา ก็แค่นั้น"

    จอห์นยิ้มและตอบรับ นิสัยจริงจังเกินไปของอัสรันนี่แก้ไม่หายเลย

    @@@@@@@@@

    กิวตี้ลัวร์

    นีโอเดินเข้าไปในห้องทดลองเอ็กซ์เท็นเด็ด มิคาอิล แอนเดอลัสอยู่ที่นั่นฮัมเพลงขณะพิมพ์เทอร์มินัลขนาดเล็ก ถัดจากเขาเทรซถูกมัดแน่นกับโต๊ะ แขนขาถูกมัดด้วยสายหนังหลายเส้น หมวกโลหะยึดศีรษะไว้มีสายไฟเชื่อมต่อ

    ไม่เหมือนเอ็กซ์เท็นเด็ดรุ่นที่2 รุ่นที่3ไม่สามารถรับการปรับเปลี่ยนซ้ำๆทำให้ร่างกายพวกเขาอ่อนแอและพัง เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นต้องมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาโปรแกรมทุกๆสามสัปดาห์ แอนเดอรัสผู้สร้างพวกเขาเป็นคนเดียวที่ได้รับอนุญาติ

    หมอพิมพ์คำสั่งเสร็จแล้งกดปุ่มไอรีนอ้าปากค้างเหมือนฟื้นคืนชีพ ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

    “ฉันจะให้แกชดใช้”เธอดิ้นรนให้หลุดจากเครื่องพันธนาการ”ฉัน...จะ...ฆ่า...แก”

    “คุณทำอะไรเธอ”

    “นี่เป็นครั้งแรกที่คุณเห็นสินะ แค่ปิดการการตรวจสอบโปรแกรม นี่เป็นเพียงเศษเสี้ยวของความทรงจำเดิมเท่านั้น”แอนเดอรัสบอกดวงตาจดจ่อที่หน้าจอคอมพ์”ถ้าคุณคิดว่าเขาอาการเลวร้าย คุณควรดู1004 จิตใจเธอแตกเป็นเสี่ยงๆ การเขียนโปรแกรมเป็นอย่างเดียวที่ทำให้เธอมีสติ แต่เธอก็ทำตามคำสั่งเหมือนคนอื่นๆ คุณบอกว่า1304มีปัญหากับกองกำลังซาฟท์ใช่ไหม”

    “ใช่”

    “งั้นก็ไม่ต้องห่วง”แอนเดอรัสพิมพ์ต่อไป”1304เป็นสุดยอดผลการวิจัยของเรา ไม่มีใครหยุดเขาได้”

    “ไอรีนและคนอื่น...”

    “ไอรีน ฉันไม่เข้าใจว่าทำไมคุณตั้งชื่อEX-C”ด็อกเตอร์แทรกขึ้นมา”พวกเขาเป็นแค่อาวุธ การตั้งชื่อไม่มีความหมาย พวกเขามีเพื่อสู้และฆ่าเท่านั้น พวกเขาเป็นทหารที่แท้จริง ปราศจากความเห็นแก่ตัว เมตตา ความเสียใจและคุณธรรม พวกเขาไม่ใช่มนุษย์ ไม่ต้องปฎิบัติต่อพวกเขาแบบนั้น”

    นีโอเกลียดชายคนนี้ เขาเห็นการทดสอบครั้งสุดท้ายของดร.แอนเดอรัส เขาปล่อยให้34คนสู้อย่างอิสระและจบใน2ชั่วโมง ซึ่งเหลือเอ็กซ์เท็นเด็ดแค่5คน เขาถามว่าทำไม แอนเดอรัสตอบว่ายารักษาแพงเกินกว่าจะรักษาพวกเขาครึ่งโหล การทดสอบสุดท้ายเป็นการตัดพวกอ่อนแอไป นีโอรู้ว่าชายคนนี้ทำสิ่งเลวร้ายในช่วงหลายปีมานี้

    “เรียกชื่อมันง่ายกว่าเรียกหมายเลข”เขาตอบ

    แอนเดอรัสพิมพ์เสร็จกดปุ่มทำให้ไอรีนกรีดร้องอย่างเจ็บปวด ตาเหลือกขึ้นและหมดสติไป

    “การบำรุงรักษาและปรับเปลี่ยนสมบูรณ์”เขาพูดปลดเทรซออกจากโต๊ะ

    “ท่านค่ะ”ไอรีนลุกขึ้นนั่ง ดูเหมือนไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”การบำรุงรักษาของผมเสร็จสมบูรณ์ไหม”

    “ใช่2304 สวมหน้ากากและกลับเข้าห้องไปพักผ่อน”

    ไอรีนคว้าหน้ากากเขาจากโต๊ะใกล้ๆและเดินออกจากแล็บ

    “ไม่ต้องห่วงกัปตันนีโอลอน็อค 1304จะออกปฎิบัติการอย่างเต็มที่ตั้งแต่นี่เป็นต้นไป”

    นีโอเลิกคิ้วซึ่งซ่อนอยู่หลังหน้ากาก

    “แม้ต้องเจอกับตัวสีขาวกับหุ่นรุ่นเก่าของเราน่ะหรือ?“

    “ใช่ แม้3คนนั้นยังมีชีวิตอยู่และขับหุ่นพวกนั้น ฉันรับประกันได้เลยว่าเขาจะเอาหัวพวกมันมาให้”แอนเดอรัสยิ้มเยาะ”เขาเป็นผลงานชิ้นเอกของฉัน”

    @@@@@@@@@@@

    เสียงปืนดังหลายนัด

    ลูน่ากับเมย์รินกำลังฝึกซ้อมยิงปืน


    อัสรันประทับใจในทักษะของเรย์ และเมย์รินก็ไม่ได้แย่ แม้ลูน่ามาเรียจะมีปัญหา เขาวิเคราะห์ว่าเธอขาดสมาธิ

    ลูน่ามาเรียไม่ได้สนใจเป้าหมายเลย เพราะเธอเอาแต่คิดถึงนักบินExia


    ซุยเรนใช้ปืนพกสองกระบอกยิง รัวๆแถมยังยิงโดนหัวและหน้าอกได้อย่างแม่นยำ


    ลูน่ามาเรียทำหน้าบึ้งและซุยเรนสังเกตเห็น

    “มีอะไร”

    “เปล่า”

    ลูน่าหันไปเห็นอัสรันกำลังเฝ้าดูพวกเขาฝึกซ้อมอยู่

    “อ้าว คุณอัสรัน”

    ลูน่ามาเรียเดินมาหาเขา ขณะที่ซุยเรนบรรจุกระสุนใหม่และยิงปืนพก

    “ฝึกซ้อมกันอยู่เหรอ”

    “ค่ะ ถึงอยู่ข้างนอกจะรู้สึกสดชื่นก็เถอะแต่ฉันทำได้ไม่ค่อยดี อาจเป็นเพราะฉันเป็นนักบิน”

    “ถ้าเป็นนักบินก็น่าจะคุ้นเคยกับปืนโมบิลสูท เธอแค่ต้องใช้กับอาวุธมือ”

    “ซ้อมด้วยกันไหมละค่ะ”

    เขารู้ว่าลูน่ามาเรียพยายามทำอะไร แต่เขาไม่ได้มาเพื่อผูกมิตรลูกเรือ

    “อ้อ ไม่ล่ะ”

    “รู้ไหมคะ…ที่จริงเราทุกคนรู้จักคุณเป็นอย่างดีเลยนะ อดีตZaft Redสังกัดหน่วยครูเซ่ ในสนามรบว่ากันว่าเป็นผู้กำจัดสไตรค์หุ่นรุ่นสุดยอด หลังจากนั้นก็ไปสังกัดหน่วยพิเศษFAITHที่ขึ้นตรงกับสภาสูง เป็นนักบินของZGMF-X09A Justice อัสรัน ซาล่า”

    “……”

    “ฉันน่ะไม่รู้เรื่องคุณพ่อของคุณหรอกนะค่ะ แต่ว่าคุณน่ะเป็นเหมือนวีรบุรุษของเราเลยนะคะ รวมถึงการต่อสู้ที่ยาคินดูเอ้ด้วย ฝีมือยิงปืนก็ได้ยินว่าไม่เป็นรองใครซะด้วย”ลูน่ามาเรียยื่นปืนพกให้”แสดงให้ดูหน่อยได้ไหมค่ะ”

    อัสรันอยากปฏิเสธแต่มีบางส่วนในใจเขาที่อยากลองขัดเกลาว่าฝีมือเขาขึ้นสนิมไหม

    “ก็ได้”

    อัสรันรับปืนพกจากลูน่าชั่วน้ำหนักปืนพกก้าวขึ้นไปบนเครื่อง เขาไม่จำเป็นต้องตั้งค่าระดับ เขายิงเข้าเป้าอย่างแม่นยำ จุดสีแดงยืนยันจุดที่ยิงโดนครั้งแล้วครั้งเล่า

    ลูน่ามาเรียอ้าปากหวอ ซุยเรนกับเมย์รินหยุดเฝ้ามองเงียบๆ ซุยเรนยังเห็นชินเข้ามา แม้ไม่ได้มาเพื่อฝึกก็ตาม

    “ว้าว ยิงด้วยปืนกระบอกเดียวกันแท้ๆแต่ว่าทำไม”

    “ไม่ใช่เพราะปืนหรอกนะ เพราะมือเธอสั่นตอนที่เหนี่ยวไกปืนต่างหากล่ะ”

    “อัสรัน”

    ทุกคนได้ยินเสียงตะโกน อัสรันเงยหน้าขึ้นไปเห็นคางาริ

    “ถึงจะเก่งแต่เรื่องแบบนี้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะ”เขาคืนปืนให้ลูน่า

    “ไม่เป็นแบบนั้นหรอกค่ะ มันจำเป็นสำหรับการป้องกันตัวเองและเพื่อนๆจากศัตรูนะคะ”

    “ศัตรูเหรอ เป็นใครกันล่ะ”

    ขณะที่อัสรันเดินผ่านชินก็พูดขึ้น

    “รู้สึกว่ามิเนอร์วาจะมุ่งหน้าไปออร์บนะครับ คุณเองก็จะกลับไปที่นั่นเหรอ”

    “……“

    อัสรันไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เขาจะทำอะไรเมื่อเทียบท่าที่ออร์บ? 

    @@@@@@@@

    เขาไม่รู้ว่าว่ายน้ำอยู่ในมหาสมุทรนานแค่ไหน สิ่งที่เขารู้คือใช้เวลาดำอยู่ใต้คลื่นมากกว่าว่ายน้ำซะอีก ในที่สุดหลังจากความพยายามอันยาวนานเขาก็เห็นแผ่นดินบนเส้นขอบฟ้า เมื่อถึงตรงนั้นเขาก็หมดแรง ปล่อยให้กระแสน้ำพัดเขาขึ้นฝั่ง เมื่อขึ้นบกและพ้นจากกระแสน้ำ เขาก็เป็นลมหมดสติ

    แต่จิตสำนึกเขาตื่น เขาเริ่มตระหนักถึงบางอย่าง มันเหมือนมีคนเอาค้อนทุบหัว ร่างกายเขาเย็นและอ่อนล้า

    จากนั้นเขาได้ยินเสียงร้องจากที่ไหนสักแห่ง

    เพลงนี้มาจากไหน มีเพียงเทพธิดาที่สามารถร้องเพลงที่ไพเราะนี้ได้ เขาปรารถนาจะรู้ชื่อจริงของเทพธิดาเมื่อฟื้นขึ้นมา

    นาซ่าลืมตาตื่นขึ้นอย่างช้าๆ ตระหนักว่าเขาไม่ได้อยู่ที่ชายหาด

    เขานอนอยู่บนเตียงแข็งๆในห้องพยาบาลโดยมีเฝือกที่แขนซ้าย แต่ถ้ามองข้ามไปพบว่าเขาถูกมัดไว้กับเตียง

    เกิดอะไรขึ้น?

    นาซ่าหายใจลึกๆเพื่อลดอัตราเต้นหัวใจและสงบสติอารมณ์ หางตามองรอบๆโดยไม่เคลื่อนศีรษะ ดูเหมือนจะเป็นห้องพักผ่อนในโรงพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน เพดานเป็นสีขาว ไม่มีหน้าต่าง และมีประตูที่ล็อคแน่นหนา

    เสียงดังมาจากประตู หลอดไฟนีออนสีเขียวส่อง ร่างคู่หนึ่งเข้ามาสวมชุดหมอ

    หมอหันมามองนาซ่า เขาประหลาดใจเมื่อเห็นลาซ่าฟื้นแล้ว ทันใดนั้นเขาตระหนักว่าลาซ่ากำลังจ้องมองมาที่เขา

    “โอ้ คุณตื่นแล้ว”เขากล่าว”พ่อหนุ่มโชคดี ถ้าไม่มีใครไปพบเธอคงโดนกระแสน้ำพัดไป”

    “ฉันอยู่ไหน”นาซ่าถามอย่างใจเย็น ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกไม่ดีต่อชายคนนี้

    “คุณอยู่ในโรงพยาบาลของออร์บ”พยาบาลตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอหยิบกระดาษที่โต๊ะ

    “เธอคงสงสัยว่าทำไมเรามัดเธอไว้”หมอพูดเดินไปข้างหน้าคลายสายรัดลาซ่า”เธอเริ่มอาละวาดรุนแรงขณะเราพยายามรักษาเธอที่โดนพามาเมื่อ2วันก่อน เธอทำแบบนั้นตลอด2วันที่ผ่านมา”

    เมื่อสายรัดหลุดออก นาซ่าลุกขึ้นนั่งได้

    ความรู้สึกเจ็บแสบร้อนแผ่ไปทั่วร้อน นาซ่าต้องอดกลั้นไม่ตะโกนออกมา

    “เธอชื่ออะไร”หมอถาม นาซ่าจ้องมองเขาและเห็นแววตาอันตราย”เราไม่พบบัตรประจำตัวหรือของติดตัว มีเพียงสร้อยคอเท่านั้น”

    คำสุดท้ายประมวลผลในสมองเขา นาซ่าลืมทุกอย่างชั่วขณะ มือที่ว่างจับบริเวณหน้าอก แต่…ไม่มีแหวน

    “อยู่ไหน”

    ก่อนเขาตะคอก แหวนที่คล้องโซ่ห้อยอยู่ตรงหน้าเขา พยาบาลมีรอยยิ้มขบขัน เธอมองเขาแย่งมันไปและสวมด้วยความหวงแหน

    “ใครคือหญิงที่โชคดี”

    นาซ่าเพียงเหลือบมองเธอด้วยรอยยิ้มเล็กๆ

    "เธอชื่ออะไร"

    "ไลน์"นาซ่าโกหกชื่อทันที

    "โอเคไลน์"หมอพูดง่ายๆชัดเจนว่าไม่เชื่อ"นักบินZAFTอย่างคุณลอยมาเกยตื้นที่ออร์บได้ยังไง คุณถูกแยกจากหน่วยหรือชนบางอย่าง"

    "คุณต้องติดต่อผู้บัญชาการของฉันเพื่อสอบถาม"

    "เข้าใจแล้ว เดาว่าเราไม่ต้องคุยอะไรแล้ว"หมอหันไปหาพยาบาล"จูดี้ ไปแจ้งสำนักงานว่าผู้ป่วยตื่นแล้ว ไม่มีผลเสียต่อการรักษา"

    ขณะพยาบาลออกจากห้อง นาซ่าสังเกตว่าเธอต้องแสกนบัตรประจำตัว การรักษา ด้วยเหตุผลบางอย่างคำว่ารักษาทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายยิ่งกว่าเดิม

    เขามองหมอที่บรรจุของเหลวสีเหลืองลงไปในหลอด

    "ดูเหมือนเธอยังรู้สึกไม่สบายจากยาระงับประสาท"

    ตอนนี้เขาเห็นด้วยกับชายคนนี้ ร่างกายเขากำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และอยากได้บางอย่างเพื่อบรรเทาอาการ

    “อาวุธฉันไปไหน”นาซ่าถามเสียงเรียบ 

    "ไม่ต้องห่วงเรื่องปืน"หมอพูดสนุกสนาน"ยาระงับประสาทนี้จะทำให้เธอหลับจนกว่าจะอาการดีขึ้น"

    "ไม่เป็นไร ผมสบายดี"

    "เธอดูไม่ดีจริงๆ"

    "ฉันบอกว่าฉันสบายดี"นาซ่าจับมือหมอก่อนที่จะคว้าแขนซ้ายของเขา"ปล่อยฉันไว้คนเดียว"

    หมอพยายามสู้เพื่อให้เขาปล่อยมือออก และนาซ่าก็สู้กลับ ในที่สุดหมอก็พยายามแทงเข็มที่แขน นาซ่าขยับร่างกาย เข็มแทงที่แขนซ้ายของหมอเอง

    หมอกรีดร้องออกมาและเข็มฉีดยาตกพื้น แพทย์ล้มลงมีอาการเจ็บปวด

    นั่นไม่ใช่ยาระงับประสาทแน่ๆ

    นาซ่าลุกขึ้น เขาดึงสายรัดออกจากแขน เดินไปที่โต๊ะเอาผ้ามาพันแขนที่เลือดออก

    เขาใช้บัตรของหมอผ่านประตูเดินไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยพยาบาล และผู้ป่วยจำนวนมากที่ส่วนใหญ่นั่งรถเข็น เขาเห็นแสงที่ปลายทางเดิน เขาเดินไปถึงหน้าต่าง เขาเห็นทะเลและโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่บนขอบหน้าผา

    "ใครก็ได้ช่วยด้วย หมอสแตนซ์ชักกระตุก คนไข้หายตัวไป"

    นาซ่าไม่หันไปมองไปตามทางเดินริมหน้าต่าง จะต้องมีทางออกที่ไหนสักแห่ง

    “เฮ้ ออกมาทำอะไรที่นี่”เมื่อหันกลับไป พยาบาลจ้องมาที่เขา”กลับไปที่ห้องของคุณ เราไม่…”

    รปภและพยาบาลกำลังเข้ามา นาซ่ารีบวิ่งหนี

    “กลับมานี่ ใครก็ได้หยุดเขา”

    นาซ่าวิ่งต่อไปอย่างเจ็บปวด เขามองหาทางหลบหนีอย่างสิ้นหวังขณะหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยในโรงพยาบาล เขาเห็นเก้าอี้ที่จอดอยู่นอกห้อง

    นาซ่าคว้าเก้าอี้กระแทกกระจกหน้าต่างแตก แต่แล้วก็มีแขนใหญ่โอบนาซ่าไว้ยกเขาขึ้นจากพื้น ส้นเท้ากระแทกเข่าชายคนนั้นอย่างแรงจนหัก ชายคนนั้นกรีดร้องเจ็บปวดล้มลงพื้น ลาซ่าพุ่งตัวออกไปนอกหน้าต่าง

    หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป การตกจากความสูงขนาดนี้ต้องตายแน่นอน สำหรับโคออดิเนเตอร์อาจรอดจากการตกที่สูง แต่มีเพียงคนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น แม้นาซ่าจะเจ็บไปทั้งตัว เขาก็พุ่งตัวดำดิ่งไปตามทางลาดหน้าผา

    เขาหมุนตัวจนพ้นอันตรายเมื่อไปถึงหน้าผา หลังไถลไปตามพื้นหินเขาก็กลิ้งตัวบนชายหาด

    เมื่อตัวหยุด นาซ่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตอนนี้เขาพ้นจากอันตรายแล้ว…หรือน้อยกว่าเมื่อก่อน เขาลุกขึ้นโดยเท้ามีเลือดไหล เต็มไปด้วยรอยถลอกและฟกช้ำ เขามองย้อนกลับไปหน้าต่างที่เขาโดดออกมา มีหลายคนจ้องมองเขาที่รอดชีวิตมาได้โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

    เขาเริ่มเดินช้าๆไปตามชายหาดมุ่งหน้าไปยังเมืองโอโนโกร

    เขาต้องหาเสื้อผ้า ที่ซ่อนและสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นเขาจะค้นหาและซ่อมแซมเอ็กเซีย

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×