คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #66 : GSD 6 : End of the World
5 ตุลาคม , CE73
วงโคจรโลก
มิเนอร์วาเคลื่อนตัวไปพร้อมเศษชิ้นส่วนสีแดงของยูนิอุสเซเว่นขณะร่อยลงสู่ชั้นบรรยากาศ ชิ้นส่วนยังมีขนาดใหญ่พอจะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อโลก
“เข้าสู่เฟส3แล้วครับ”อาเธอร์พูดหันไปหาทาเลีย”จะถึงขีดจำกัดยิงทันฮาวเซอร์แล้วนะครับ”
“แต่ว่าเรายังจับตำแหน่งของอิมพัลด์และเครื่องอื่นไม่ได้นะครับ”เบิร์ตกล่าว”พวกเขาอาจจะโดนลูกหลงไปด้วย”
“อัสรัน”คางาริกระซิบ
พวกเขารอไม่ได้แล้ว ทาเลียรู้ดี
“ทันฮาวเซอร์ทำงาน”ทาเลียสั่ง ทำให้คางาริ เมย์รินและคนอื่นบนสะพานอ้าปากค้าง”จะหยุดการตกของยูนิอุสเซเว่น มันเป็นหน้าที่ที่เราต้องทำ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เล็งเป้า กราบขวาด้านหน้าเตรียมยิงได้”
มิเนอร์วาเริ่มหันไปทางยูนิอุสเซเว่นขณะทันฮาวเซอร์โผล่ออกมาจากหัวบาน
“ยิง”
กระสุนนัดแรกโดนยูนิอุสเซเว่นและทำให้โคโลนี่หลุดออกไปอีก แต่ยังไม่พอ ทันฮาวเซอร์ยิงอีกครั้งเจาะชิ้นใหญ่ที่สุดแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยหลายร้อย ไม่มีขนาดใดที่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงต่อโลกได้
มิเนอร์วาร่อนลงต่อไป เศษซากหลายชิ้นเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศก่อนถึงพื้นโลก แต่ยังมีเศษซากจำนวนมากตกลงสู่โลก
@@@@@@@@@@
หมู่เกาะมาร์แชล
“ฮาโล่ๆ เรามีปัญหา”
“จะมีอะไรมาเหรอ”
“เราต้องอยู่ที่นี่ตลอดไปเหรอครับ”
ลักซ์ยิ้มเห็นแก่พวกเขา พวกเธอพาเด็กๆไปเชลเตอร์ใต้โบสต์ มันอยู่ใต้ดินลึกพอจะปกป้องพวกเขาจากสิ่งที่พุ่งชนหรือใกล้เกาะ
“ไม่เป็นไรหรอกนะ เราไปแค่แป๊บเดียวเท่านั้นเอง เดี๋ยวเราก็จะกลับกันแล้วนะจ๊ะ”เธอตอบพยายามทำให้พวกเขามั่นใจ
ทันใดนั้นเชลเตอร์ก็เริ่มสั่นสะเทือนจากการตกของซากโคโลนี่ใกล้เคียง เด็กๆเริ่มครางและร้องไห้ ลักซ์กอดเด็กสองคนที่อยู่ข้างๆเธอ
“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะ”
จากนั้นเธอก็เริ่มร้องเพลงหวังให้เด็กๆสงบลง
@@@@@@@@@@@
ออร์บ
“พ่อแม่อยู่ไหน”เด็กหัวแดงกระซิบหวาดกลัว”หินจะชนพวกเขารึเปล่า”
“เธอสบายดี ไคโตะ”คาริด้า ยามาโตะตอบอย่างมั่นใจแก่หลายชายที่นั่งบนตักเธอ”เธออยู่ในหลุมหลบภัย หินที่ตกลงมาไม่สามารถไปถึงเธอได้”
เด็กน้อยกอดเธอและซุกใบหน้าเขาไว้ในอกเธอ และร้องไห้เมื่อได้ยินเสียงกระทบครั้งแรก เมอริว ราเมียสและแอนดริว วอลเฟลนั่งถัดจากพวกเขาในเชลเตอร์ใต้คฤหาสน์อัลตาร์ มีการคาดการณ์ว่าออร์บจะได้รับความเสียหายเล็กน้อยจากยูนิอุสเซเว่น แต่ปลอดภัยดีกว่าเสียใจ
คาริด้ามองขึ้นไปบนเพดานลูบหลังไค
@@@@@@@@@@
บนอวกาศ
ยานเกอร์ตี้ลัว Extendedมองดูเศษชิ้นส่วนกระจายตัวตกลงไป
“ตายแล้วเหรอ…ทุกคนตายกันหมดแล้วเหรอ?”
ไม่ทราบตำแหน่ง
ในหลุมหลบภัยของเขา จีบริลเฝ้าดูเหตุการณ์ต่างๆที่กำลังดำเนินอยู่บนผนังทีวีหน้าเขา เขาลูบหัวแมว และเซรีน่า ไรเกอร์ยืนอยู่ข้างหลังเขา
“ให้เหตุการณ์นี้เป็นจุดเริ่มต้นของโลกใบใหม่”
“ใช่ โลกใหม่….โลกที่ถูกปกครองโดยพวกเรา”
@@@@@@@@@@@
วอลแตร์
ประธานดูแรนดัลพร้อมเจ้าหน้าที่เฟธสองคนเฝ้าดูการทำลายล้างของเศษซากยูนิอุสเซเว่นอย่างเงียบๆ
“จัดการเรื่องต่างๆหรือยัง”
“ครับท่าน”เจ้าหน้าที่คนนึงพูด”อย่างไรก็ตาม ถ้าใครฉลาดและตั้งใจพอ พวกเขาสามารถเข้าใจสิ่งต่างๆได้”
“จริง แต่เมื่อสงครามเริ่มต้น ผู้คนจะโฟกัสไปเรื่องนั้นไม่ใช่ยูนิอุสเซเว่น และเมื่อสงครามสิ้นสุดจะไม่มีใครสนใจ”
“ครับท่าน”
“อาโมรี่วันมีปัญหาตรงไหน”
เจ้าหน้าที่นิ่งเงียบไปชั่วครู่
“ไม่ครับ ไม่มีปัญหาเลย”
@@@@@@@@@@@@@
เป็นเวลากว่าหนึ่งชั่วโมง ซากชิ้นส่วนของยูนิอุสเซเว่นตกชงมาบนพื้นโลก เมืองและนครต่างๆถูกทำลายด้วยเศษเล็กเศษน้อย เศษใดที่กระทบพื้นก็พ่นฝุ่นขึ้นไปในอากาศ เศษชิ้นส่วนที่ตกลงทะเลก็ทำให้เกิดคลื่นสึนามิซัดเข้าหาชายฝั่งใกล้เคียงทำลายบ้านเรือนและอาคารต่างๆ
“กัปตันครับ เราสามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบควบคุมแอโรไดนามิกได้แล้ว”อาเธอร์กล่าว
“กางปีกออก”เธอสั่ง”ใจเย็นๆนะเฮล์ม”
“กางปีก เปลี่ยนไปใช้การบินในชั้นบรรยากาศ”
“ฝ่ายสื่อสารเป็นไงบ้าง”ทาเลียถนม
“ใช้ไม่ได้ค่ะ เศษชิ้นส่วนรบกวนคลื่นวิทยุ”เมย์รินรายงาน
“จะเซ็นเซอร์หรือเลเซอร์ก็ได้ หาเอ็กเซียและเครื่องอื่นให้เจอนะ”
“คิดว่าพวกเขาจะลงมาได้อย่างปลอดภัยเหรอครับ”อาเธอร์ถาม
“เรายิงทันฮาวเซอร์ไปแล้วนี่นา แต่ถึงมาคาดหวังอะไรตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก แต่ฉันก็อยากจะเชื่อนะ”
@@@@@@@@@@@
แซ็ควอริเออร์ที่ฝ่าชั้นบรรยากาศมาได้อย่างปาฏิหาริย์เสียหายอย่างรุนแรงตกลงมาจากท้องฟ้า
“ไม่มีบูสเตอร์ล่ะก็ ก็คงจะฝ่าชั้นบรรยากาศไม่ได้”อัสรันพูดพยายามบังคับแซ็คไว้ในอากาศให้นานที่สุด
“คุณอัสรัน”เสียงหนึ่งดังขึ้นทางวิทยุ
“ชินงั้นเหรอ”
“รอเดี๋ยวนะครับ ผมกำลังจะไป”
“อย่านะ ถึงจะเป็นอิมพัลด์ก็เถอะ คงไม่มีพลังพอสำหรับ2เครื่องหรอกน่า”
อิมพัลด์พุ่งเข้ามาคว้าแซ็คไว้ได้และชะลอความเร็วลง
“ทำไมคุณถึงได้ชอบพูดแบบนี้ทุกทีเลยล่ะ”
“แล้วจะให้พูดยังไงล่ะ”
“บอกว่าช่วยฉันด้วยสิไอ้บ้าเอ๊ย”
“แบบนั้นดีกว่าเหรอ”
ในตอนนั้นสัญญาณไฟก็ปะทุขึ้นมา มิเนอร์วาอยู่ด้านหน้าพวกเขา ฉายภาพหุ่นสองตัว
“อิมพัลด์ปลอดภัย แซ็คด้วยค่ะ”
“เอ็กเซียล่ะ”
“มีบางอย่างหลุดไปทางกราบขวา ระยะ153 เคลื่อนด้วยความเร็วสูงครับ”
หุ่นที่สง่างามตอนนี้เหมือนก้อนเหล็กบิดเบี้ยว บางส่วนขาดหายไปและมีควันดำลอยออกมา
เมย์รินเฝ้าดูด้วยความสยดสยองเมื่อหุ่นที่หมดสภาพปะทะเข้ากับคลื่นโซนิค หัวใจเธอกำลังกรีดร้องและขอร้องให้เขารอดมาได้
นี่มันไม่ถูกต้อง ในที่สุดพี่สาวเธอก็เริ่มใกล้ชิดเขา หรือมีหลักฐานว่าเธอพยายามจีบ ตอนนี้มันหายไปต่อหน้าต่อตาเธอลงสู่มหาสมุทร สำหรับนักบิน มีแนวโน้มว่าเขาจะเสียชีวิตจากแรงกระแทก
@@@@@@@@@@@@
โรงเก็บยานมิเนอร์วา
ไม่นานหลังจากนั้น
คางาริวิ่งผ่านโรงเก็บไปยังแซ็คที่เสียหายขณะอัสรันปีนออกมา
“อัสรัน”
“ว้าว”
เธอร้องเรียกเมื่อถึงแซ็คและกอดเขาไว้
เมื่อชินลงมาจากอิมพัลด์ ลูน่ามาเรียมาหาเพื่อน
“ชิน ปลอดภัยดีนะ แล้วเอ็กเซียล่ะ”
“ไม่นะ ฉันไม่เห็นเขาเลย”
“ไม่…”
ก่อนเธอจะพูดอะไรอีก ก็มีเสียงระเบิดดังสนั่นและยานดังก้องครู่หนึ่ง
“อะไรน่ะ ยังมีอะไรอีกเหรอ?”
“ไปวนรอบโลกมารอบหนึ่ง นี่คงเป็นแรงปะทะตอนร่อนลงครั้งแรก คิดว่างั้นนะ”
“พวกเราสามารถไปถึงออร์บได้ไหม”คางาริถามเดินเข้ากลุ่ม น้ำเสียงสิ้นหวังอย่างชัดเจน
“ไม่ ฝุ่นกำลังปิดสัญญาณใดๆที่เราส่งไป”ซุยเรนตอบ”ไม่ต้องห่วง ชาวเมืองจะลี้ภัยอยู่ในเชลเตอร์ก่อนอุกกาบาตจะตกลงมา”
“มันไม่สำคัญมากในตอนนี้”จอห์นกล่าว”เราต้องพาเธอกลับออร์บทันทีคางาริ”
“แต่ทำไม? ฉันรู้ฉันต้องกลับไปที่ออร์บหลังสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ฉัน…”
“การตกของยูนิอุสเซเว่นไม่ใช่อุบัติเหตุ”จอห์นตอบกลับ”มันถูกทิ้งโดยชายหญิงที่ขับจินน์”
คำพูดของเขาทำให้ทุกคนประหลาดใจ
“อะไรนะ? ทำไมใครๆก็อยากทำแบบนั้นล่ะ”
“พวกเขาเป็นผู้สนับสนุนแนวคิดของแพทริค ซาล่าไปที่ยูนิอุสเซเว่น
“และการกระทำของเราเศษซากชิ้นส่วนตกลงมายังโลก”อัสรันเสริมอย่างเคร่งขรึม”เราไม่สามารถหยุดมันได้อย่างสมบูรณ์ แม้จะเกิดจากกลุ่มอาชญากรเล็กๆ ทุกคนจะรู้แค่พวกเขาเป็นโคออดิเนเตอร์
จอห์นถอนหายในอย่างเหนื่อยหน่าย”นี่อาจเป็นวาเลนไทน์เลือดครั้งที่2 เราต้องพาเธอกลับออร์บโดยเร็วที่สุด”
@@@@@@@@@@@
ลักซ์ไม่มีทางเห็นด้วยกับความคิดของเขา และเธอไม่คิดชักจูงผู้คนให้เข้าสู่สงคราม แต่มีวิธีแก้ไขเสมอ ลักซ์ตัวปลอมของเขาใกล้จะพร้อมเปิดตัวครั้งแรก และหน่วยลอบสังหารเขาจะโจมตีตัวจริง
สิ่งเดียวที่เขากังวลคืออาร์คแองเจิ้ล เอเทอร์นอล ฟรีด้อมและลูซิเฟอร์ ซึ่งหายไปหลังสงคราม กองกำลังเล็กๆที่แสดงศักยภาพที่สามารถต่อกรทั้งกองทัพโลกและZAFTได้ และมีแนวโน้มว่าพวกเขาจะทำเช่นเดิมในสงครามครั้งนี้
ดูแรนดัลรู้ว่าเขาต้องยึดยานก่อนที่มันจะเตรียมอุปกรณ์และลูกเรือสำหรับทำสงคราม หรือดีที่สุดทำลายมันทิ้ง แต่เขาไม่รู้ตำแหน่งของยาน กันดั้มทั้ง4ถูกทำลายในสงครามครั้งก่อน เขาจึงไม่ต้องเปลืองแรงค้นหามัน
อัสราเอลกับแพทริคประมาทพวกเขาและแลกด้วยความตาย เขาจะไม่ทำพลาดอย่างเดียวกัน
แต่องค์ประกอบสำคัญที่เขาไม่ค้นหาโดยเชื่อว่าจะไม่เป็นอุปสรรคอีกแล้วกลับปรากฏขึ้นอีกครั้งหลังผ่านไป2ปี ทันทีที่มันปรากฏตัวก็หายไปอีก
ดูแรนดัลพยายามรวบรวมข้อมูลของนักบินอีกครั้ง นาซ่า อัคคาแมน เขาเป็นทหารZAFTในช่วงแรกของสงครามที่เสียชีวิตที่คาเพนทาเรีย เห็นชัดว่านักบินลึกลับของเอ็กเซียไม่ใช่คนที่ถูกฝังร่วมกับทหารในสงครามนองเลือด ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม นาซ่า อัคคาแมนเป็นนามแฝงของชายคนนี้
ดูแรนดัลจับตาดูการใช้ชีวิตของเขาที่อคาเดมี่มาตลอด2ปีและให้เขาขึ้นขับเอ็กเซีย ซึ่งเขาก็ได้แสดงให้เห็นถึงฝีมือที่ยอดเยี่ยมกว่านักบินหน้าใหม่
ไม่ว่านักบินคนนี้มีชื่อจริงว่าอะไร เขาเป็นพวกไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ดูแรนดัลจำเป็นต้องรู้ว่านักบินคนนี้จะช่วยเหลือหรือเป็นอุปสรรค แต่ยังเร็วไปที่จะรู้เจตนาของนักบิน
ดูแรนดัลได้ให้กองกำลังZAFTค้นหาจุดที่เอ็กเซียตกลงไปทันทีที่เขาให้หน่วยกู้ภัยZAFTช่วยเหลือผู้รอดชีวิต
"ไม่เป็นไรหรอก"
@@@@@@@@@@@
เสียงปืนดังหลายนัด
ลูน่ากับเมย์รินกำลังฝึกซ้อมยิงปืน
อัสรันประทับใจในทักษะของเรย์ และเมย์รินก็ไม่ได้แย่ แม้ลูน่ามาเรียจะมีปัญหา เขาวิเคราะห์ว่าเธอขาดสมาธิ
ลูน่ามาเรียไม่ได้สนใจเป้าหมายเลย เพราะเธอเอาแต่คิดถึงนักบินExia
ซุยเรนใช้ปืนพกสองกระบอกยิง รัวๆแถมยังยิงโดนหัวและหน้าอกได้อย่างแม่นยำ
ลูน่ามาเรียทำหน้าบึ้งและซุยเรนสังเกตเห็น
“มีอะไร”
“เปล่า”
ลูน่าหันไปเห็นอัสรันกำลังเฝ้าดูพวกเขาฝึกซ้อมอยู่
“อ้าว คุณอัสรัน”
ลูน่ามาเรียเดินมาหาเขา ขณะที่ซุยเรนบรรจุกระสุนใหม่และยิงปืนพก
“ฝึกซ้อมกันอยู่เหรอ”
“ค่ะ ถึงอยู่ข้างนอกจะรู้สึกสดชื่นก็เถอะแต่ฉันทำได้ไม่ค่อยดี อาจเป็นเพราะฉันเป็นนักบิน”
“ถ้าเป็นนักบินก็น่าจะคุ้นเคยกับปืนโมบิลสูท เธอแค่ต้องใช้กับอาวุธมือ”
“ซ้อมด้วยกันไหมละค่ะ”
เขารู้ว่าลูน่ามาเรียพยายามทำอะไร แต่เขาไม่ได้มาเพื่อผูกมิตรลูกเรือ
“อ้อ ไม่ล่ะ”
“รู้ไหมคะ…ที่จริงเราทุกคนรู้จักคุณเป็นอย่างดีเลยนะ อดีตZaft Redสังกัดหน่วยครูเซ่ ในสนามรบว่ากันว่าเป็นผู้กำจัดสไตรค์หุ่นรุ่นสุดยอด หลังจากนั้นก็ไปสังกัดหน่วยพิเศษFAITHที่ขึ้นตรงกับสภาสูง เป็นนักบินของZGMF-X09A Justice อัสรัน ซาล่า”
“……”
“ฉันน่ะไม่รู้เรื่องคุณพ่อของคุณหรอกนะค่ะ แต่ว่าคุณน่ะเป็นเหมือนวีรบุรุษของเราเลยนะคะ รวมถึงการต่อสู้ที่ยาคินดูเอ้ด้วย ฝีมือยิงปืนก็ได้ยินว่าไม่เป็นรองใครซะด้วย”ลูน่ามาเรียยื่นปืนพกให้”แสดงให้ดูหน่อยได้ไหมค่ะ”
อัสรันอยากปฏิเสธแต่มีบางส่วนในใจเขาที่อยากลองขัดเกลาว่าฝีมือเขาขึ้นสนิมไหม
“ก็ได้”
อัสรันรับปืนพกจากลูน่าชั่วน้ำหนักปืนพกก้าวขึ้นไปบนเครื่อง เขาไม่จำเป็นต้องตั้งค่าระดับ เขายิงเข้าเป้าอย่างแม่นยำ จุดสีแดงยืนยันจุดที่ยิงโดนครั้งแล้วครั้งเล่า
ลูน่ามาเรียอ้าปากหวอ ซุยเรนกับเมย์รินหยุดเฝ้ามองเงียบๆ ซุยเรนยังเห็นชินเข้ามา แม้ไม่ได้มาเพื่อฝึกก็ตาม
“ว้าว ยิงด้วยปืนกระบอกเดียวกันแท้ๆแต่ว่าทำไม”
“ไม่ใช่เพราะปืนหรอกนะ เพราะมือเธอสั่นตอนที่เหนี่ยวไกปืนต่างหากล่ะ”
“อัสรัน”
ทุกคนได้ยินเสียงตะโกน อัสรันเงยหน้าขึ้นไปเห็นคางาริ
“ถึงจะเก่งแต่เรื่องแบบนี้ไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอกนะ”เขาคืนปืนให้ลูน่า
“ไม่เป็นแบบนั้นหรอกค่ะ มันจำเป็นสำหรับการป้องกันตัวเองและเพื่อนๆจากศัตรูนะคะ”
“ศัตรูเหรอ เป็นใครกันล่ะ”
ขณะที่อัสรันเดินผ่านชินก็พูดขึ้น
“รู้สึกว่ามิเนอร์วาจะมุ่งหน้าไปออร์บนะครับ คุณเองก็จะกลับไปที่นั่นเหรอ”
“……“
อัสรันไม่มีคำตอบที่ชัดเจน เขาจะทำอะไรเมื่อเทียบท่าที่ออร์บ?
@@@@@@@@
เขาไม่รู้ว่าว่ายน้ำอยู่ในมหาสมุทรนานแค่ไหน สิ่งที่เขารู้คือใช้เวลาดำอยู่ใต้คลื่นมากกว่าว่ายน้ำซะอีก ในที่สุดหลังจากความพยายามอันยาวนานเขาก็เห็นแผ่นดินบนเส้นขอบฟ้า เมื่อถึงตรงนั้นเขาก็หมดแรง ปล่อยให้กระแสน้ำพัดเขาขึ้นฝั่ง เมื่อขึ้นบกและพ้นจากกระแสน้ำ เขาก็เป็นลมหมดสติ
แต่จิตสำนึกเขาตื่น เขาเริ่มตระหนักถึงบางอย่าง มันเหมือนมีคนเอาค้อนทุบหัว ร่างกายเขาเย็นและอ่อนล้า
จากนั้นเขาได้ยินเสียงร้องจากที่ไหนสักแห่ง
เพลงนี้มาจากไหน มีเพียงเทพธิดาที่สามารถร้องเพลงที่ไพเราะนี้ได้ เขาปรารถนาจะรู้ชื่อจริงของเทพธิดาเมื่อฟื้นขึ้นมา
นาซ่าลืมตาตื่นขึ้นอย่างช้าๆ ตระหนักว่าเขาไม่ได้อยู่ที่ชายหาด
เขานอนอยู่บนเตียงแข็งๆในห้องพยาบาลโดยมีเฝือกที่แขนซ้าย แต่ถ้ามองข้ามไปพบว่าเขาถูกมัดไว้กับเตียง
เกิดอะไรขึ้น?
นาซ่าหายใจลึกๆเพื่อลดอัตราเต้นหัวใจและสงบสติอารมณ์ หางตามองรอบๆโดยไม่เคลื่อนศีรษะ ดูเหมือนจะเป็นห้องพักผ่อนในโรงพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน เพดานเป็นสีขาว ไม่มีหน้าต่าง และมีประตูที่ล็อคแน่นหนา
เสียงดังมาจากประตู หลอดไฟนีออนสีเขียวส่อง ร่างคู่หนึ่งเข้ามาสวมชุดหมอ
หมอหันมามองนาซ่า เขาประหลาดใจเมื่อเห็นลาซ่าฟื้นแล้ว ทันใดนั้นเขาตระหนักว่าลาซ่ากำลังจ้องมองมาที่เขา
“โอ้ คุณตื่นแล้ว”เขากล่าว”พ่อหนุ่มโชคดี ถ้าไม่มีใครไปพบเธอคงโดนกระแสน้ำพัดไป”
“ฉันอยู่ไหน”นาซ่าถามอย่างใจเย็น ด้วยเหตุผลบางอย่าง เขารู้สึกไม่ดีต่อชายคนนี้
“คุณอยู่ในโรงพยาบาลของออร์บ”พยาบาลตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เธอหยิบกระดาษที่โต๊ะ
“เธอคงสงสัยว่าทำไมเรามัดเธอไว้”หมอพูดเดินไปข้างหน้าคลายสายรัดลาซ่า”เธอเริ่มอาละวาดรุนแรงขณะเราพยายามรักษาเธอที่โดนพามาเมื่อ2วันก่อน เธอทำแบบนั้นตลอด2วันที่ผ่านมา”
เมื่อสายรัดหลุดออก นาซ่าลุกขึ้นนั่งได้
ความรู้สึกเจ็บแสบร้อนแผ่ไปทั่วร้อน นาซ่าต้องอดกลั้นไม่ตะโกนออกมา
“เธอชื่ออะไร”หมอถาม นาซ่าจ้องมองเขาและเห็นแววตาอันตราย”เราไม่พบบัตรประจำตัวหรือของติดตัว มีเพียงสร้อยคอเท่านั้น”
คำสุดท้ายประมวลผลในสมองเขา นาซ่าลืมทุกอย่างชั่วขณะ มือที่ว่างจับบริเวณหน้าอก แต่…ไม่มีแหวน
“อยู่ไหน”
ก่อนเขาตะคอก แหวนที่คล้องโซ่ห้อยอยู่ตรงหน้าเขา พยาบาลมีรอยยิ้มขบขัน เธอมองเขาแย่งมันไปและสวมด้วยความหวงแหน
“ใครคือหญิงที่โชคดี”
นาซ่าเพียงเหลือบมองเธอด้วยรอยยิ้มเล็กๆ
"เธอชื่ออะไร"
"ไลน์"นาซ่าโกหกชื่อทันที
"โอเคไลน์"หมอพูดง่ายๆชัดเจนว่าไม่เชื่อ"นักบินZAFTอย่างคุณลอยมาเกยตื้นที่ออร์บได้ยังไง คุณถูกแยกจากหน่วยหรือชนบางอย่าง"
"คุณต้องติดต่อผู้บัญชาการของฉันเพื่อสอบถาม"
"เข้าใจแล้ว เดาว่าเราไม่ต้องคุยอะไรแล้ว"หมอหันไปหาพยาบาล"จูดี้ ไปแจ้งสำนักงานว่าผู้ป่วยตื่นแล้ว ไม่มีผลเสียต่อการรักษา"
ขณะพยาบาลออกจากห้อง นาซ่าสังเกตว่าเธอต้องแสกนบัตรประจำตัว การรักษา ด้วยเหตุผลบางอย่างคำว่ารักษาทำให้เขารู้สึกถึงอันตรายยิ่งกว่าเดิม
เขามองหมอที่บรรจุของเหลวสีเหลืองลงไปในหลอด
"ดูเหมือนเธอยังรู้สึกไม่สบายจากยาระงับประสาท"
ตอนนี้เขาเห็นด้วยกับชายคนนี้ ร่างกายเขากำลังกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และอยากได้บางอย่างเพื่อบรรเทาอาการ
“อาวุธฉันไปไหน”นาซ่าถามเสียงเรียบ
"ไม่ต้องห่วงเรื่องปืน"หมอพูดสนุกสนาน"ยาระงับประสาทนี้จะทำให้เธอหลับจนกว่าจะอาการดีขึ้น"
"ไม่เป็นไร ผมสบายดี"
"เธอดูไม่ดีจริงๆ"
"ฉันบอกว่าฉันสบายดี"นาซ่าจับมือหมอก่อนที่จะคว้าแขนซ้ายของเขา"ปล่อยฉันไว้คนเดียว"
หมอพยายามสู้เพื่อให้เขาปล่อยมือออก และนาซ่าก็สู้กลับ ในที่สุดหมอก็พยายามแทงเข็มที่แขน นาซ่าขยับร่างกาย เข็มแทงที่แขนซ้ายของหมอเอง
หมอกรีดร้องออกมาและเข็มฉีดยาตกพื้น แพทย์ล้มลงมีอาการเจ็บปวด
นั่นไม่ใช่ยาระงับประสาทแน่ๆ
นาซ่าลุกขึ้น เขาดึงสายรัดออกจากแขน เดินไปที่โต๊ะเอาผ้ามาพันแขนที่เลือดออก
เขาใช้บัตรของหมอผ่านประตูเดินไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยพยาบาล และผู้ป่วยจำนวนมากที่ส่วนใหญ่นั่งรถเข็น เขาเห็นแสงที่ปลายทางเดิน เขาเดินไปถึงหน้าต่าง เขาเห็นทะเลและโรงพยาบาลที่ตั้งอยู่บนขอบหน้าผา
"ใครก็ได้ช่วยด้วย หมอสแตนซ์ชักกระตุก คนไข้หายตัวไป"
นาซ่าไม่หันไปมองไปตามทางเดินริมหน้าต่าง จะต้องมีทางออกที่ไหนสักแห่ง
“เฮ้ ออกมาทำอะไรที่นี่”เมื่อหันกลับไป พยาบาลจ้องมาที่เขา”กลับไปที่ห้องของคุณ เราไม่…”
รปภและพยาบาลกำลังเข้ามา นาซ่ารีบวิ่งหนี
“กลับมานี่ ใครก็ได้หยุดเขา”
นาซ่าวิ่งต่อไปอย่างเจ็บปวด เขามองหาทางหลบหนีอย่างสิ้นหวังขณะหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่และผู้ป่วยในโรงพยาบาล เขาเห็นเก้าอี้ที่จอดอยู่นอกห้อง
นาซ่าคว้าเก้าอี้กระแทกกระจกหน้าต่างแตก แต่แล้วก็มีแขนใหญ่โอบนาซ่าไว้ยกเขาขึ้นจากพื้น ส้นเท้ากระแทกเข่าชายคนนั้นอย่างแรงจนหัก ชายคนนั้นกรีดร้องเจ็บปวดล้มลงพื้น ลาซ่าพุ่งตัวออกไปนอกหน้าต่าง
หากเป็นคนธรรมดาทั่วไป การตกจากความสูงขนาดนี้ต้องตายแน่นอน สำหรับโคออดิเนเตอร์อาจรอดจากการตกที่สูง แต่มีเพียงคนที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น แม้นาซ่าจะเจ็บไปทั้งตัว เขาก็พุ่งตัวดำดิ่งไปตามทางลาดหน้าผา
เขาหมุนตัวจนพ้นอันตรายเมื่อไปถึงหน้าผา หลังไถลไปตามพื้นหินเขาก็กลิ้งตัวบนชายหาด
เมื่อตัวหยุด นาซ่าถอนหายใจด้วยความโล่งอก ตอนนี้เขาพ้นจากอันตรายแล้ว…หรือน้อยกว่าเมื่อก่อน เขาลุกขึ้นโดยเท้ามีเลือดไหล เต็มไปด้วยรอยถลอกและฟกช้ำ เขามองย้อนกลับไปหน้าต่างที่เขาโดดออกมา มีหลายคนจ้องมองเขาที่รอดชีวิตมาได้โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
เขาเริ่มเดินช้าๆไปตามชายหาดมุ่งหน้าไปยังเมืองโอโนโกร
เขาต้องหาเสื้อผ้า ที่ซ่อนและสิ่งที่เกิดขึ้น หลังจากนั้นเขาจะค้นหาและซ่อมแซมเอ็กเซีย
ความคิดเห็น