NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gundam Seed Extended : Bluedevil from Mars

    ลำดับตอนที่ #60 : Phase Final : Between the Star

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 563
      19
      30 ต.ค. 66

    14 ตุลาคม , CE96

    หมู่เกาะมาร์แชล

    1เดือนครึ่งหลังศึกยาคินดูเอ้ครั้งที่2

    คิระ ยามาโตะนั่งอยู่ระเบียงบ้านเด็กกำพร้าของบาทหลวงมาคิโอ้มองพระอาทิตย์ตกดิน

    เสียงเด็กๆกำลังเล่นดังในอากาศ แต่มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น มันเป็นเสียงเฮลิคอปเตอร์ นีลเงยหน้าขึ้น ยานสำหรับ2คนร่อนลงจอดที่ท่าเรือใกล้สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

    คิระลุกขึ้นยืนขณะที่อัสรันและคางาริออกจากเครื่องบิน

    “ลักซ์ พวกเขามาถึงแล้ว”คิระตะโกนเรียกเข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า

    “จะไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ”ลักซ์ตอบกลับ

    อัสรันกับคางาริมาถึงระเบียง คางาริกอดน้องชายไว้ในอ้อมแขน

    “คิระเป็นไงบ้าง?”คางาริถาม

    “ฉันสบายดี”คิระกล่าว”เธอเป็นยังไงบ้าง?”

    “การซ่อมแซมความเสียหายที่ออร์บได้รับในช่วงสงครามยาวนานและลำบาก ทุกคนพยายามอย่างหนักเพื่อฟื้นฟูออร์บให้กลับสู่สภาพเดิม”

    @@@@@@@

    คืนนั้น

    เสียงพูดคุยและรับประทานอาหารดังในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ขณะที่คิระ , ลักซ์ , อัสรัน, คางาริ มาคิโอและเด็กๆรับประทานอาหารเย็น ขณะที่เด็กๆคุยกันเรื่องเด็กๆ วัยรุ่นทั้ง4คุยเรื่องของผู้ใหญ่

    "ให้ตายสิ ออร์บเองก็เป็นประเทศที่เคราะห์ร้ายเพราะภัยสงคราม เพราะงั้นเรื่องที่ว่าความสงบสุขสำคัญแค่ไหน"เจ้าหญิงออร์บพูดขณะกิน"แต่มีหลายประเทศที่ไม่เป็นแบบนั้น"

    "ถ้าไม่เชื่อใจในฝ่ายตรงข้ามก็ไม่มีทางวางปืนลงได้หรอกนะ คงเป็นอย่างงั้นสินะ"ลักซ์กล่าว

    "ทั้งๆที่น่าจะรู้อยู่แล้วแท้ๆ ก็คงไม่มีใครโง่หรอกนะ"คางาริกล่าว

    “พวกเราทุกคนต้องลดปืนลงไม่เช่นนั้นจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง”ลักซ์กล่าว

    คางาริถอนหายใจ“แม้เราจะเข้าใจเรื่องนั้นอยู่แล้ว...แต่ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่พวกนั้นไม่สามารถเข้าใจได้”

    “นักบิน3คนนั้นเป็นยังไงบ้าง”ลักซ์ถาม ต้องการเปลี่ยนเรื่อง

    ลักซ์แสดงความกังวลต่อนักบิน3คนที่พวกเขาจับได้ที่ยาคินดูเอ้ แม้ทั้งสามจะเป็นหนึ่งในคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดที่พวกเขาเคยสู้มาและเกือบฆ่าพวกเขาในสนามรบหลายครั้ง

    สถานะปัจจุบันพวกเขามันยากจะเชื่อว่าเป็นนักบินอันตรายคนเดียวกับที่พวกเขาเคยสู้ด้วยที่ออร์บ เมนเดลและยาคินดูเอ้ พวกเขาแทบไม่สามารถขยับร่างกายตัวเองได้เลยในตอนนี้

    “สามคนนั้นหมอบอกว่าพวกเขาจะผ่านไปได้ แต่ต้องใช้เวลาอีกหลายสัปดาห์ก่อนพวกเขาจะเคลื่อนไหวได้ด้วยตัวเอง”คางาริตอบ”ไม่ว่ากองทัพโลกทำอะไรกับพวกเขามันก็รุนแรง แต่เมื่อพวกเขาฟื้นตัวเราจะทำยังไงกับพวกเขา เราไม่สามารถคืนพวกเขาให้กองทัพโลกได้ใช่มั้ย?“

    “ไม่แน่นอน”ลักซ์กล่าว”พวกเขาเป็นเหยื่อมากพอๆกับคนอื่นๆในช่วงสงคราม และการส่งกลับไปหาคนที่ทำแบบนั้นกับพวกเขามีแต่จะทำให้ทุกอย่างเลวร้ายขึ้น”

    “ใช่ เป็นไปได้ว่าคนในกองกำลังโลกจะสั่งทำการทดลองเพิ่มหรือกำจัดพวกเขาทิ้งเพื่อไม่ให้การมีอยู่ของพวกเขารู้ถึงสาธารณะ”อัสรันพูด”แต่ถึงอย่างนั้นทั้งสามก็ดุร้ายและป่าเถื่อน ร่างกายและจิตใจพวกเขาเปลี่ยนแปลงหนัก พวกเขาไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากสู้”

    “ฉันไม่เชื่ออย่างนั้นค่ะ พวกเขาเคยเป็นคนปกติมาก่อน”ลักซ์กล่าว

    “แต่เราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาเป็นใคร”อัสรันแย้ง”พวกเขาอาจเป็นอาชญากรใช้ความรุนแรงก่อนจะถูกทดลอง”

    “ถ้าเป็นเช่นนั้นเราจะเผชิญมันและข้ามสะพานนั้น ระหว่างนั้นเราควรพยายามเต็มที่เพื่อช่วยพวกเขา”ลักซ์กล่าว

    อัสรันถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าและเกาหัว“เข้าใจแล้ว”เขายอมแพ้

    @@@@@@@@

    หลังมื้อเย็นเสร็จแล้วเด็กๆออกไปเล่นข้างนอก แต่บางคนก็ช่วยสาวๆล้างจาน อัสรันเดินออกไป ท้องฟ้าเต็มด้วยดาวตก ช่างเป็นคืนที่เงียบสงบ…คิระออกไปก่อนใครยืนอยู่ที่ชายหาด

    "มันแปลกจังเลยนะ ทำไมฉันถึงยังมีชีวิตอยู่ อะไรที่ทำให้ฉันพิเศษ ทำไมฉันยังได้อยู่กับคนที่ฉันรักขณะที่คนอื่นไม่ได้ ทำไมฉันได้อยู่กับเฟรย์ ขณะที่ลักซ์จะไม่ได้เจอน็อคอีกแล้ว”

    "พวกเราก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันคิระ”อัสรันกล่าว”ฉันตอบไม่ได้ว่าทำไมเราถึงรอดขณะที่คนอื่นไม่รอด บางทีเราอาจรอดเพื่อให้แน่ใจว่าโศกนาฎกรรมนี่ไม่เกิดขึ้นอีก”

    @@@@@@@@

    ที่อื่น ลักซ์ และคางาริยืนอยู่ที่ระเบียงมองคิระกับอัสรันคุยกัน

    “รู้ไหม ฉันประหลาดใจมากที่เธอเข้าสนามรบ”คางาริบอกเด็กสางผมชมพู

    “จริงเหรอ”

    “ใช่ แต่การอยู่ข้างนอกนั้นเหมือนจะเหมาะกับเธอ”

    “อย่างนั้นเหรอ?”เธอถาม”ฉันแค่พยายามยุติการต่อสู้ให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้”

    “ถึงอย่างนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องออกไปในสนามรบ”

    “ฉันจะไม่ไปได้ไงเมื่อคิระ อัสรัน คุณและคนอื่นๆยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อให้ได้สันติภาพมาขณะฉันหลบอยู่ในที่ปลอดภัย”

    คางาริพยักหน้า”ฉันเข้าใจที่เธอพูด วันหนึ่งจะไม่มีใครต้องเข้าสู่สนามรบอีก”

    @@@@@@@@

    คฤหาสน์อัลสตาร์

    เฟรย์พิงราวระเบียงคฤหาสน์ของครอบครัวเธอในออร์บ มันบังเอิญรอดจากการโจมตีออร์บโดยเสียหายเพียงเล็กน้อย เธอสวมชุดสีฟ้าเรียบง่ายปกปิดร่องรอยการตั้งครรย์ของเธอได้เล็กน้อย

    เธอสูญเสียไปมากในสงคราม บ้านของเธอที่เฮลิโอโปลิส และพ่อของเธอ แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอได้รับจากสงครามนี้ ลูกของเธอ ลูกของเธอกับคิระที่ไปเยี่ยมลักซ์

    “ชาได้แล้ว”เมอริวเรียกจากในคฤหาสน์

    เฟรย์หันหลังเข้าไปในบ้าน หลังเธอมาอาศัยที่คฤหาสน์ของครอบครัว เธอได้ให้ลูกเรืออาร์คแองเจิ้ลคนใดก็ได้ที่ต้องการที่พัก มันใหญ่เกินกว่าเธอจะอยู่คนเดียว เมอริว จูเลีย จอห์น และแอนดี้รับข้อเสนอนั้น

    เฟรย์นั่งลงบนเก้าอี้ขณะที่เมอริวเข้ามาในห้องและรินชาให้พวกเธอ พวกเธอดื่มชาอย่างเงียบๆ กัปตันยังเสียใจกับการสูญเสียชายที่เธอรัก

    “อร่อยจัง”

    “ขอบใจจ๊ะ”เมอริวพูดก่อนจะหยุดคิด”อืม...เลือกชื่อแล้วหรือยัง?”

    เฟรย์กุมหน้าท้องของเธอเบาๆ

    “ไม่ ฉันไม่รู้จริงๆว่าจะเลือกชื่อยังไง ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นชายหรือหญิง”

    “เลือกเลยดีกว่า”เมอริวกล่าว”ฉันมีเพื่อนก่อนสงครามที่ตั้งครรย์และขอคำแนะนำจากเพื่อนและครอบครัวของเธอ มันเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ ทุกคนต่างแนะนำชื่อลูกเธอเป็นสัปดาห์ก่อนเธอจะบอกให้พวกเขาทุกคนหุบปาก”

    “ฉันจะจำไว้ค่ะ”

    “แม่”เด็กสาววัย10ขวบวิ่งเข้ามาขัดจังหวะ

    มายุ เด็กสาวที่เสียครอบครัวและจำอะไรไม่ได้ เมอริวรับเลี้ยงเธอเป็นลูกบุญธรรม 

    @@@@@@@@

    กองบัญชาการซาฟท์

    ซาอูล เคสเซลถอนหายใจมองไปที่ยานชั้นนาสก้าที่พึ่งสร้างเสร็จและได้รับการปรับปรุงใหม่พร้อมจะออกจากท่าเรือ 

    ยานลำนี้ชื่อกัวแตร์ จะเข้ามาแทนที่ยานอลาริคที่หายไปของหน่วยเคสเซล ยานลำนี้ซาอูลและชิโฮะจะควบคุมภายใต้การบัญชาของพี่สาวเขา ไดอาน่า เคสเซล

    “มันเป็นการเตือนความทรงจำว่าเสียอะไรไปใช่ไหม”ชิโฮะถามยืนอยู่ข้างๆซาอูล

    “อิซาค , เอมิเลีย , ซายะ , ไอน์เฮอร์จาร์ และคนอื่นตั้งมากมาย”เขาพูดเบาๆ”ฉันได้ยินว่าพ่อฉันให้พวกเขาได้เหรียญตราเนบิวล่า”

    “ฉันดีใจ”ชิโฮะกล่าว”แต่ฉันหวังว่าพวกเขาจะอยู่ที่นี่”

    “เราทุกคนคิด แต่...”

    “การมองอดีตไม่มีความหมาย”ชิโฮะกล่าว”เราต้องมองไปในอนาคต”

    @@@@@@@@

    โรงงานมอเก้นเรท

    จอห์น , ทีฟาและโจแอนนาเข้าไปในโรงเก็บ ทันทีที่เขาเข้าไปสายตาจอห์นก็ถูกดึงไปที่วัตถุขนาดใหญ่กลางโรงเก็บ

    “นี่คือโปรเจ็กต์ที่เรากำลังทำอยู่”เขาพูดพลางจิบกาแฟ”ผมนึกว่าเรากำลังทำโปรเจ็กต์มุราซาเมะ”

    โจแอนนาพยักหน้าขณะพวกเขาเดินไปข้างหน้า

    “ไม่ เรากำลังดำเนินโครงการนี้เป็นคำขอพิเศษ ไม่ใช่โครงการปกติของออร์บ”

    “ไม่แปลกใจเลย นี่คือการสร้างใหม่หรือออกแบบใหม่หมด”

    “อืม...เราสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้”ลิซกล่าว”แต่ดูเหมือนจะไม่ได้สร้างขึ้นมาใหม่ซะทีเดียว”

    “ไม่จริง”ซามูเอลกล่าว เขากับแอนดี้เข้ามาในโรงเก็บ

    “ฉันไม่คิดเลยว่าจะได้เจอเขาอีก”

    “ใช่ ร่างกายถูกทำลายแต่ส่วนหัวรอดได้ เราถูกขอให้กู้ศีรษะและวางไว้บนโมบิลสูท เรากำลังตัดสินใจว่าควรสร้างใหม่เหมือนเดิมหรือสร้างโมบิลสูทตัวใหม่สำหรับมัน”

    ซามูเอลวางแผ่น

    “มันไม่สำคัญหรอก สัตว์ร้ายแห่งความเป็นไปได้จะกลับมาอีกครั้ง”

    .

    .

    .

    2เดือนต่อมา 22 ธันวาคม

    โรงพยาบาลทหารของZAFT

    “เขาฟื้นแล้ว”

    “ฉันอยู่…ที่ไหน”เด็กหนุ่มที่เต็มไปด้วยผ้าพันแผล

    “เธออยู่ที่โรงพยาบาลทหารของZAFT เราพบเธอกลางซากยานรบ…ปาฏิหาริย์จริงๆที่ยังไม่ตาย”

    “ขอบคุณที่ช่วยผมครับ”

    “ว่าแต่เธอชื่ออะไร”

    เด็กหนุ่มจำไม่ได้ เขามองชุดนักบินZAFTสีเขียวที่เขาสวมอยู่มีชื่อสลักไว้

    “นาซ่า อัคคาแมน”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×