คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #41 : Phase 40 : Day of Wrath
ลำแสงจากเจเนซิสพุ่งเข้าหากองเรือรบของสหพันธ์โลกและออร์บ ไม่มียานรบสักลำที่เทียบได้กับเจเนซิส มันทำลายยานรบและโมบิลสูททุกลำในเส้นทางของมัน
ยานรบอามาเกม่อน เนลสันและเดร็ก โมเบียสกับสไตรค์แด็กเกอร์ถูกทำลายในพริบตา ภายในไม่กี่วินาที กองยานของโลกหายไปกว่าครึ่ง
ทุกคนตกตะลึงและหวาดกลัว กองทัพโลกที่ยังรอด สหพันธ์มนุษย์และแม้แต่กองทัพซาฟท์ก็จ้องมองสิ่งที่เกิดกับกองทัพโลก
@@@@@@@@
"เจเนซิสใช้พลังงานไปกว่า60%ในการยิง"
"กองทัพโลกที่เหลือรีบถอนกำลังไปแล้วครับ"
"สมกับที่หวังเลยนะครับท่านผู้นำซาล่า ไม่คิดเลยว่าเจเนซิสจะมีพลังถึงขนาดนี้"ราอูลกล่าว แพทริคหันมามอง
"สงครามน่ะ ถ้าไม่ชนะมันจะไปมีความหมายอะไร"แพทริคตอบ
@@@@@@@@
โดมิเนียน
"ราวเซวิก ตอบกลับด้วย"
"CSโดนทำลายแล้ว ขออนุญาติลงจอดฉุกเฉินครับ
"ดอลตันล่ะ กัปตัน ผู้พันครับ"
ทุกคนตกตะลึงและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งกองยานระส่ำระส่าย แม้แต่นาทาลก็พูดไม่ออก แต่เธอรู้ว่าถ้ากองยานยังอยู่พวกเขายังฟื้นกลับมาได้
"อย่าพึ่งแตกตื่นไปสิ รีบตรวจสอบเรือที่เหลืออยู่เร็วเข้า แล้ววอชิงตันเรือธงของเราเป็นไงบ้าง"นาทาลกล่าว
"สัญญาณของกองยานวอชิงตันหายไปแล้วครับ"
“โครว์กับแกรนด์ก็เงียบหายไปเหมือนกันค่ะ”เฟรย์เสริม
"เนื่องจากเรือธงได้จมไปแล้วจากนี้ไปยานของเราจะเป็นผู้สั่งการเอง ยิงสัญญาณออกไป สั่งกองกำลังที่เหลือให้ถอยออกจากแนวรบทันทีเลย ให้รวมพลโดยใช้ยานแม่เป็นจุดหมาย"เธอสั่ง
@@@@@@@@
แม้กองยานของสหพันธ์มนุษย์และกองกำลังไคลน์จะหนีพ้นการยิงของเจเนซิสได้ แต่พวกเขาก็ตกตะลึงและหวาดกลัวเหมือนกองทัพโลก
"กองทัพโลกกำลังถอยจากแนวรบ"
"เราเองก็เหมือนกัน ยิงพลุสัญญาณออกไป ถอนกำลัง"
"เรียกโมบิลสูทกลับมา"เมอริวสั่ง
@@@@@@@@
ในยาคินดูเอ้ แพทริคลุกขึ้นยืนและประกาศ
"พวกเรา เหล่าทหารกล้าแห่งกองทัพซาฟท์ เราจะยอมยกโทษให้กับความมักใหญ่ใฝ่สูงที่น่ารังเกียจของพวกเนเชอรัลอีกไม่ได้แล้ว การยิงขีปนาวุธใส่แพลนท์ของพวกเรา มันไม่ใช่การทำสงคราม แต่มันเป็นการสังหารหมู่ต่างหาก กับพวกเนเชอรัลที่ลงมือทำเรื่องโหดร้ายได้หน้าตาเฉยแบบนี้ เราจะยอมให้อภัยพวกมันต่อไปไม่ได้แล้ว"
"อนาคตใหม่ที่กำลังมาถึง แสงสว่างอันเรืองรองแห่งยุคใหม่จะอยู่กับพวกเรา พร้อมๆกับแสงสว่างนี่ และในที่สุดวันนี้ จะเป็นวันเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของพวกเราโคออดิเนเตอร์ เผ่าพันธุ์ใหม่ของโลกนี้"แพทริค ซาล่าตะโกน
"ซาฟท์จงเจริญๆๆ..."เสียงร้องในชัยชนะของซาฟท์ดังขึ้น พร้อมกับกองทัพโลกที่ถอยหนีไป
@@@@@@@@@@
กองทัพโลกที่รอดตายล่าถอย แต่จินน์และเกวซที่โกรธแค้นยิงสไตรค์แด็กเกอร์และยานซาฟท์ยิงยานของกองทัพโลกที่กำลังหนี
"หยุดนะ พวกเขาไม่คิดจะสู้อีกต่อไปแล้ว"ฟรีด้อมปลดตัวเองจากมีทีเออร์และยิงหัวจินน์ให้ล่าถอยและสไตรค์แด็กเกอร์ที่รอดตายกลับไปกองทัพโลก
คิระไม่ใช่คนเดียว เอล เอเลน่าและอัสรันยิงกองทัพซาฟท์โดยปลดแขน ขาและหัวออก
เมื่อเสร็จแล้วพวกเขาก็รวมกลุ่มกลับไปที่กองยาน
“นี่คือความบ้าคลั่ง”เอลพูดขึ้น”ยังกับนิวเคลียร์ไม่เลวร้ายพอแล้ว ซาฟท์สร้าง....รังสีแกมม่าขนาดยักษ์”
“อาวุธนิวเคลียร์เป็นเรื่องหนึ่ง เราสามารถสกัดมันได้ แต่เจ้านั่น...เราจะหยุดมันได้ยังไง”เอเลน่าถาม
“ฉันไม่รู้”
อัสรันได้แต่ส่ายหัวและคิดว่าทำไมพ่อสร้างอาวุธแบบนั้นขึ้นมา แต่ในใจเขารู้อยู่แล้ว
@@@@@@@@@@@
นาทาลถอนหายใจขณะดูรายชื่อผู้เสียชีวิต อาวุธใหม่ของซาฟท์ทำลายกองยานครึ่งหนึ่ง และยังมีการสูญเสียก่อนและหลังล่าถอย กองยานรวมพลใหม่และหาทางจัดการกับความสูญเสียที่พวกเขาได้รับ
"ใช่ ใช่แล้วล่ะ แบบนี้ไม่ตลกเลยนะ"อัสราเอลตะโกนใส่หูฟังกับไมล์สื่อสารจากที่นั่งของเฟรย์"เพราะพวกคุณเอาแต่โอ้เอ้ตัดสินใจชักช้านั่นแหละ ถึงได้เป็นแบบนี้ไง"
"กัปตัน มีสัญญาณขอกำลังหนุนมาจากซากิลค่ะ"เฟรย์รายงาน
กองยานเสียหายมากพอแล้ว พวกเขาต้องช่วยก่อนจะสูญเสียมากกว่านี้
"เข้าใจแล้ว ตอบกลับไปว่าเรากำลังจะไป"นาทาลกล่าว
"เฮ้ย พูดเป็นเล่นไปน่า กำลังหนุนเหรอ แล้วทำไมยานนี้ต้องไปช่วยพวกมันด้วยล่ะ"อัสราเอลตะโกน
"หัวหน้าฝ่ายอัสราเอล แต่ว่า..."
"รีบสั่งให้ยานที่ปลอดภัย รีบเตรียมบุกอีกระลอกหนึ่งเร็วเข้า แทนที่จะทำเรื่องไร้สาระนั้น รีบเติมเชื้อเพลิงกับซ่อมบูสเตอร์เร็วๆเข้าสิ"
"อะไรกันละค่ะ มันมากเกินไปแล้วนะ ตอนนี้กองทัพเราเสียหายแค่ไหนแล้วรู้ไหม"นาทาลลุกขึ้นจากที่นั่งเธอ
"คุณเองก็น่าจะเข้าใจดีไม่ใช่เหรอค่ะ"
"เดี๋ยวก็มีหน่วยเสริมกำลังมาจากดวงจันทร์แล้วละน่า เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ มัวแต่พูดมากอยู่ได้ คนที่ไม่เข้าใจสถานการณ์น่ะคือเธอมากว่าละมั้ง จะปล่อยให้เหลือของแบบนั้นอยู่ได้ยังไงเล่า"
อัสราเอลพูดแล้วชี้หน้าจอที่ฉายภาพยาคินดูเอ้กำลังเปลี่ยนมิเรอร์อันใหม่
"อาวุธที่แสนป่าเถื่อนของเนเชอรัลอะไรกัน นั่นต่างหากล่ะ อาวุธอันร้ายแรงของพวกมันต่างหากล่ะ ของที่ยิงใส่โลกเราได้จากตรงนั้นน่ะ ป่าเถื่อนกว่าพวกเราเป็นไหนๆเลยไม่ใช่เหรอ แล้วที่สำคัญเราไม่รู้ว่าพวกมันเล็งไปที่โลกของเรารึยังด้วยนะ ขืนปล่อยให้มันยิงได้ก็สายไปแล้ว"
ในตอนนั้นมีแสงวาบจากการระเบิดใกล้ นาทาลไม่ต้องมองว่าเกิดอะไร ยานซากิลที่เสียหายหนักระเบิด นาทาลโกรธแต่ไม่พูดอะไร เธอเกลียดชายคนนี้ แต่เขาพูดถูก พวกเขาต้องทำลายอาวุธชิ้นนั้น
"คนที่ให้เวลาพวกมันสร้างของแบบนั้นขึ้นมาได้ก็คือ พวกกองทัพของคุณนั่นแหละ"อัสราเอลกล่าวแล้วหันไปมองเจเนซิส"จะไหวหรือไม่ก็ตามที เราต้องทำลายมันและแพลนท์ทิ้งให้ได้ ก่อนที่มันจะยิงไปที่โลกของเรา"
@@@@@@@@@
เอเทอร์นอล
"แสงที่ยิงออกมาคือรังสีแกมม่าค่ะ ต้นกำเนิดพลังแสงนั่นมันใช้นิวเคลียร์ และเอาพลังงานที่ส่งออกมาแปลงเป็นคลื่นแสงโดยตรง เจ้านั่นก็คือปืนใหญ่เลเซอร์รังสีแกมม่าขนาดยักษ์นั่นเองค่ะ ถ้ามันเล็งไปที่โลกละก็ พลังงานมหาศาลนั้นจะแผดเผาพื้นผิวโลกทั้งหมดเป็นบริเวณกว้าง และทำลายสิ่งมีชีวิตนั่นทั้งหมดด้วยค่ะ"เอริก้ากล่าว
ลักซ์ เอล เซเรน คิระ คางาริ เมอริว จอห์นและแอนดี้ต่างไังรายงานของเธอเกี่ยวกับอาวุธสุดยอดใหม่ของซาฟท์
"คิดว่ามันจะยิงไปรึเปล่าค่ะ ยิงไปที่โลกน่ะ"เมอริวถาม
"เป้าหมายของอาวุธระยะไกลที่มีพลังทำลายสูงขนาดนั้น คืออะไรเราก็รู้ๆกันอยู่แล้วนี่นา แต่ว่ามันก็ถูกยิงไปแล้วครั้งนึง ทั้งนิวเคลียร์ ทั้งเจ้านั่น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็คงหนักใจอยู่แน่ๆ"วอลเฟลกล่าว
"ครั้งแรกที่ยิงคนตายในสนามรบ ตัวฉันน่ะสั่นไปหมดเลย แต่ก็มีคนบอกฉันว่าอีกไม่นานก็จะชินไปเอง แล้วไม่นานฉันก็ชินกับมันจริงๆ"วอลเฟลกล่าว
"จะบอกว่าปุ่มยิงนิวเคลียร์กับปุ่มยิงเจ้านั่นเหมือนกันเหรอค่ะ"เมอริวถาม
"แล้วมันไม่ใช่รึไง คนเราน่ะชินกันง่ายจะตายไป ทั้งการรบ ทั้งการฆ่าฟันกัน"
"อาวุธเป็นสิ่งที่สร้างการต่อสู้แน่เหรอค่ะ หรือว่าเป็นเพราะว่าจิตใจคนกันแน่?"ลักซ์พูดมองเอล
"จะยังไงก็ตาม เราปล่อยให้มันยิงนิวเคลียร์หรือเจเนซิสอีกไม่ได้เด็ดขาด"อาวด์กล่าว
"ใช่แล้วครับ ถ้าปล่อยให้มันยิงออกมา ทุกอย่างก็จะสายเกินแก้นะครับ"คิระพูดเสริม
"ใช่"อัสรันพยักหน้า
@@@@@@@@@@@
ฐานทัพยาคินดูเอ้
"การปรับปรุงมิเรอร์บล็อคเป็นยังไง?"แพททริคถาม
"อีกประมาณ1ชั่วโมงครับ"
"เร่งมือหน่อยสิ การเคลื่อนไหวของกองทัพโลกล่ะ?"
"ตอนนี้ยังเลยครับ"
"เหอะ พวกมันไม่คิดถอยกลับฐาน แต่คิดจะลองบุกพยายามใหม่งั้นเหรอ"แพททริคกล่าว
"พวกมันเองก็ต้องสู้ตายเหมือนกันนะครับ เมื่อเห็นพลังทำลายขนาดนั้นแล้ว ตอนนี้คงกำลังเร่งเพิ่มเติมกำลังคนและเชื้อเพลิงอยู่แน่ๆ พวกเราควรจะบุกก่อนเลยดีไหมครับ"ราอูลกล่าว
"ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกน่า แค่รอการยิงครั้งที่2ทุกอย่างก็จบแล้ว พวกเราจะเป็นฝ่ายชนะ"
"เราจะเล็งไปที่โลกเลยเหรอครับ"
"ถึงจะเล็งไปที่ดวงจันทร์ เดี๋ยวพวกมันก็ขึ้นมาใหม่อีกจนได้"
ด้านอิซาคกับชิโฮะเจอเอซาเลีย
"ท่านแม่ครับ"อิซาคร้องเรียก
"อิซาค"เอซาเลียกล่าวอย่างมีความสุข อิซาคเดินเข้ามาหา
"คุณเอซาเลีย จูล"ซาอูลกับชิโฮะกล่าว เธอพยักหน้าให้
"อยู่ที่นี่ตลอดเลยเหรอครับ?"อิซาคถาม
"ใช่จ๊ะ เพราะอยู่ในสถานการณ์คับขันไงล่ะ อีกไม่นานเราก็จะเริ่มยิงเจเนซิสเป็นครั้งที่2แล้ว และตอนนั้นสงครามที่ยาวนานนี่ก็จะจบลงซะทีนะจ๊ะลูก"
"เอ่อคือ.."
"แม่เข้าใจจ๊ะว่าลูกเองก็คงต้องเหนื่อยที่ต้องออกรบเป็นเวลานาน แต่อีกนิดเดียวเท่านั่นนะลูก"
"ครับ"
"อนาคตจะเป็นของพวกเรานะจ๊ะ"
อิซาคนึกถึงตอนที่เขาคุยกับพวกดิอัคก้า
"ท่านแม่ครับ เป้าของการยิงครั้งที่2...."
"ท่านเอซาเลียครับ"
"อืม"เอซาเลียพยักหน้าแล้วกอดลูกชายไว้
"ถ้าอย่างนั้นก็อย่าทำอะไรเสี่ยงเกินไปนะ หน่วยของลูกให้ย้ายไปอยู่แนวหลังซะ"
"ท่านแม่ครับ"
"งานของลูกน่ะมันอยู่ที่แนวหลังมากกว่านะจ๊ะ"เอซาเลียจูบแก้ม เธอแสดงความรักที่มีต่อลูกต่อหน้าคนอื่น จากนั้นเดินจากไปพร้อมเจ้าหน้าที่
ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงหัวเราะจากด้านหลัง ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชิโฮะและทหารซาฟท์ชุดเขียวทั้งหลาย
"อิซาคเจ้าอารมณ์ไปไหนแล้ว"ชิโฮะกล่าวยังหัวเราะไม่หยุด
"ชิโฮะ!!!"อิซาคโกรธและหน้าแดง
____________________
"จุดอ่อนเดียวของเจเนซิสก็คือไม่สามารถยิงต่อเนื่องได้ค่ะ คิดว่าหลังจากยิงไปครั้งนึงแล้วต้องทำการเปลี่ยนมิเรอร์ใหม่ทุกครั้ง"เอริก้า ชิม่อน บอกจากในหน้าจอ
"แต่ว่าตัวมิเลอร์ถูกเคลือบด้วยเกราะเฟสชิฟท์ และกว่าจะถึงมันก็ยังมียาคินดูเอ้ ต้องฝ่าแนวรับของมันไปก่อน ถึงกองกำลังโลกจะเปิดฉากบุกอย่างหนัก แต่คงหวังอะไรไม่ได้หรอก"วอลเฟลกล่าว
“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น”จอห์นกล่าว”กองยานที่11จะเปิดทางให้อาร์คแองเจิ้ล เอเทอร์นอลและคุซานางิ แต่ผมขอแนะนำให้รอกองทัพโลกเปิดฉากโจมตีดึงกำลังยาคินออกไปและทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับเรา”
“นายรู้ดีว่าพวกนายต้องเจอกับโมบิลสูทและยานรบจำนวนมาก”วอลเฟลกล่าว”นายรู้ว่ามันหมายถึงอะไร”
“ไม่ต้องห่วงคุณวอลเฟล หน่วยโซลาสจะรับทุกอย่างที่พวกนั้นขว้างใส่เรา”เอลตอบ”ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา พวกคุณต้องทำลายอาวุธนั้น”
“แล้วนิวเคลียร์ล่ะ”เซเรนถาม”ทั้งหมดนี้ไม่มีความหมายถ้าเราทำลายอาวุธซาฟท์เพื่อให้แพลนท์โดนทำลายด้วยนิวเคลียร์”
“ฟรีด้อมกับจัสติสและโมบิลสูทจากอาร์คแองเจิ้ลสามารถตั้งทีมสกัดนิวเคลียร์และจัดการยานบรรทุกมัน”จอห์นตอบ”เมื่อจัดการนิวเคลียร์ได้แล้ว พวกเขาสามารถมารวมพลกับเราที่เหลือได้”
"ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเปลี่ยนมิเลอร์?"เมอริวถาม
"เป้าหมายการยิงครั้งที่2ก็คือดวงจันทร์ หรือว่าจะเป็น...”
"กองทัพโลกจะต้องยิงนิวเคลียร์มาอีกสินะครับ”คิระกล่าว
“แน่นอน”จอห์นตอบจ้องมองแผนที่”พวกเขากลัวอาวุธนั้นมาก ถ้าฉันเป็นพวกเขา ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้นิวเคลียร์เพื่อทำลายมัน”
“กัปตัน”ดาคอสต้าตะโกน”กองกำลังโลกเริ่มเปิดฉากโจมตีแล้วครับ”
“ทุกคนเตรียมพร้อมออกยานและ....อย่าตายล่ะ”
วอลเฟลไปที่เก้าอี้ผู้บัญชาการของเขา ขณะที่อัสรัน เอล คางาริและเมอริวไปที่ลิฟต์
"เอล"ลักซ์เข้ามาหาเขา
"ลักซ์"เอลหยุดและจับสองสาวที่ลอยอยู่ไว้
เอลมองทุกคนในลิฟท์ จอห์นยิ้มและปิดประตู เวลาต่อมาลิฟต์ก็ว่างและวัยรุ่นทั้งสามเข้ามา ลักซ์หยิบบางอย่างจากกระเป๋า
"นี่คะ"ลักซ์หยิบแหวนสีเงินให้เขา
"ขอบคุณมากนะ"เอลยิ้มรับของขวัญเธอ
“กลับมาให้ได้นะค่ะ กลับมาหาฉันและลูกของเรา”
ลักซ์วางมือบนท้องเธอ เอลยิ้มและกอดเธออย่างอ่อนโยน
“ฉันสัญญา”
“เอลคุง”
เอลหันมาจูบเธออย่างดูดดื่ม น้ำตาร่วงหล่นจากตาของเธอ
“ฉันรักเธอลักซ์...ตลอดไป”
“ฉันก็เหมือนกันค่ะ”
@@@@@@@@@
ทางด้านอัสรันดึงคางาริ ตอนนั้นเองเธอก็บอกว่าจะขึ้นสไตรค์รูจ ก่อนจะเดินแยกไปอัสรันรีบดึงตัวเข้ามาหา
"เธอว่าจะไป ใช้สไตรค์รูจเหรอ?"อัสรันถาม
"อะไรกันเล่า ฉันเคยฝึกขับโมบิลสูทมาแล้วนะ ฝีมือฉันสูงกว่าแอสเทรย์อีกนะ"คางาริเถียง
"เปล่า แต่ว่านะ..."
"สิ่งที่ทำได้ สิ่งที่หวังไว้ สิ่งที่ควรทำ ทุกคนก็เหมือนกันนี่นา ทั้งคิระ ทั้งเอล ทั้งลักซ์ แล้วก็ตัวฉันด้วย"
"คางาริ"
"ถึงจะอยู่ในสนามรบ แต่ก็มีบางอย่างที่ทำไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้มันจำเป็นแล้วไม่ใช่เหรอ สิ่งนั้นน่ะ"
อัสรันจ้องมองเธอด้วยความประหลาดใจ
"อย่าทำหน้าแบบนั่นสิ แทนที่จะห่วงฉันน่ะห่วงตัวเองก่อนดีกว่านะ ฉันไม่ให้นายตายแน่ ไม่ยอมหรอก"คางาริกล่าว"รวมทั้งเอลและหมอนั้นที่อาจจะเป็นน้องชายของฉันด้วย"
"น้องชาย? ไม่ใช่พี่ชายเหรอ"อัสรันถามด้วยรอยยิ้ม
"ไม่มีทางหรอกน่า หมอนั่นน่ะต้องเป็นน้องชายนะ"คางาริพูดเสียงแข็ง
"นั่นสินะ"อัสรันดึงตัวคางาริเข้ามาและกอดเธอ คางาริหน้าแดง
"ฉันดีใจนะที่ได้พบกับคางาริ"อัสรันกล่าว
"อัสรัน"คางาริเรียก ก่อนที่ทั้งสองจะมองหน้ากัน
"ฉันจะปกป้องเธอเอง"อัสรันพูดแล้วจูบคางาริ
@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
"จัสติส อิคารุกะ ฟรีด้อมเตรียมออกปฎิบัติการได้"เสียงประกาศดังขึ้น
"สไตรค์รูจพาวเวอร์เอ็กซ์เพนเดอร์ นักบินเป็นมือใหม่กรุณาตรวจสอบAIช่วยเหลือด้วยคะ"เสียงประกาศหญิงสาวดังในคุซานางิ คางาริเข้าไปในค็อกพิทสไตรค์รูจ
ทางด้านดิอัคก้ากำลังบ่นอยู่
"ทั้งเจเนซิสทั้งนิวเคลียร์ ระหว่างสู้จะให้ระวังด้านไหนกันเล่า"ดิอัคก้าบ่น
"ไม่พอใจก็เลิกไปสิ"มิลี่พูดแล้วตัดสายหายไป
"อ้าว เฮ้ อะไรกันเนี่ย"
จากนั้นมิลี่ก็ต่อสายเข้ามาใหม่
"โกหกนะ ขอโทษนะ ระวังตัวด้วยล่ะ"มิลี่กล่าว
"ขอบใจนะ"
มูกำลังรอถูกส่งออกไปอยู่ในสไตรค์ ตอนนั้นเองหน้าจอก็ฉายภาพเมอริว มูเปิดค็อคพิทออกมาหา
"นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว"เมอริวกล่าว
"อะไรของเธอน่ะบ้าจัง"มูกล่าว
จากนั้นเขาก็เห็นสร้อยคอรูปดอกไม้เธอ มูเดาได้ว่าเป็นของแฟนเก่าเธอ
"นี่เขาเคยขึ้นโมบิลอาเมอร์สินะ"
"ค่ะ"
"ไม่เป็นไรน่า เดี๋ยวฉันก็กลับมาแล้ว พร้อมกับชัยชนะไง"
มูพูดแล้วดึงเมอริวเข้ามาจูบ
@@@@@@@@
โรงเก็บยาคินดูเอ้
อิซาคกับเลออนกำลังดูแลพวกเด็กใหม่ที่ตื่นสนามรบให้พร้อมออกบิน
"เอ่อ ระวังตัวด้วยนะค่ะหัวหน้า"เด็กสาวผมแดงกล่าว
"เธอก็เหมือนกัน"เลออนพูดก่อนเดินไป ดูเหมือนเขาไม่ได้รู้สึกตัวเลย
คนอื่นๆที่ฟังอยู่ต่างก็ยิ้มเล็กน้อยแม้ว่าชิโฮะจะมองซายะด้วยความกังวล
“เลออนนี่งี่เง่าชะมัด”อิซาคกล่าว
“ไม่เท่าคุณหรอกค่ะหัวหน้า”ซายะพูดไม่ปิดอารมณ์ขันในน้ำเสียงของเธอ
“นั่นมันหมายความว่ายังไง!!”
อิซาคเป็นคนเดียวที่ไม่สังเกตเห็นหน้าสีแดงจางๆของชิโฮะ ขณะที่เธอสวมหมวกนิรภัยอย่างรวดเร็ว
อีกด้านโรงเก็บX14A
สเลนมองกองยานพันธมิตรที่ใกล้เข้ามา
"มาจบเรื่องทุกอย่างกันเอลเนสตี้"สเลนกล่าว
สเลนเข้าไปในค็อคพิทของเนเมซิส
"สเลน ทรอยยาร์ต, เนเมซิส จะไปล่ะ!!!!"
@@@@@@@@@@
ยาคินดูเอ้
"การเปลี่ยนมิเลอร์บล็อคใกล้เสร็จแล้วครับ"
"ป้อมข้อมูลเป้าหมาย พื้นผิวดวงจันทร์ ฐานทัพโปโตเลเมียส ฐานทัพกองทัพโลก"
"เริ่มการป้อนข้อมูลเป้าหมาย พื้นผิวดวงจันทร์ โปโตเลเมียส"ทหารเริ่มกำหนดเป้าหมายที่ฐานทัพดวงจันทร์
"ทิศทางกองทัพโลกล่ะ"
"กรีนอัลฟ่า5 มาร์ค3ครับ"
'พวกเราชนะมันแน่ๆ ไอ้พวกเนเชอรัล'
"เตรียมรับมือให้พร้อม ยันมันเอาไว้ให้ได้นะ"แพทริคสั่ง
"ถ้างั้นผมจะออกไปด้วยนะครับ"ราอูลกล่าว
"เออ"แพทริคพูดแล้วราอูลเดินจากไป ก่อนแพทริคจะหยุดเขา
"ครูเซ่ จะพลาดอีกไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ เพราะว่าเธอไม่ยอมจัดการเอเทอนอล ถือเป็นความรับผิดชอบของเธอ อย่าให้พวกมันโจมตีแพลนท์ได้"
"ถึงแม้ต้องจัดการกับอัสรันด้วยเหรอครับ?"ราอูลถามอย่างไม่จริงจัง
"ช่างหัวมันเถอะ!!!"
"รับทราบครับ ขอตัว"ราอูลทำความเคารพและเดินออกไป
@@@@@@@@
"กัปตัน มีโมบิลสูทใกล้เข้ามา บลู12 มาร์ค4 ระยะ600"
เซเรนรู้ว่าเป็นใคร
"ฉันจะจัดการเขาเอง ทุกคนเดินหน้าต่อไปเถอะค่ะ”เซเรนกล่าว
"แต่..."
"ไม่ต้องห่วงฉันค่ะ"เซเรนตัดบทเธอ"อย่างที่คุณอลาริคพูดเราจะมาหยุดที่นี่ไม่ได้"
"เข้าใจแล้ว"เมอริวกล่าว"แต่ระวังด้วย"
เอ็กเซียมุ่งหน้าไปหาโมบิลสูทที่ใกล้เข้ามา
@@@@@@@@@@
“ไม่นาน”เอเลน่าพุ่งไปข้างหน้าจับพรีเมียมด้วยมือสองข้างของแร็กนาร็อค
พรีเมียมยิงลำแสงขนาดใหญ่กวาดเกวซ ปืนใหญ่อิฟิตัสและป้อมปืนของแร็กนาร็อคได้ระดมยิงพวกที่หลบหลีก
แหล่งความร้อนขนาดใหญ่ใกล้เข้ามาและลำแสงขนาดยักษ์ฉีกผ่านไอเฮอร์จาร์ นักบินและลูกเรือไม่สามารถทำอะไรได้เลยเมื่อยานถูกทำลาย เมื่อหันไป พวกเขาเห็นโมบิลสูทขนาดใหญ่ใกล้เข้ามาดูเหมือนอีจิสขนาดยักษ์ก่อนเปลี่ยนร่างเป็นโมบิลสูทมีปืนใหญ่ในมือ
“นั่นคือX11A ฉันคิดว่าจั้งกิลด์ทำลายมัน แต่....นิโคล คาเอเดะ นานะ อยู่ใกล้ฉันไว้”
“รับทราบ”
การต่อสู้ดำเนินต่อไปขณะที่แร็กนาร็อค , นีโอบลิตซ์ และอาเธน่าบินเข้าเผชิญหน้ากับโมบิลสูทยักษ์
@@@@@@@@@@
ล็อกเกอร์รูมยาคิน ดูเอ้
ราอูลสวมชุดนักบินและกินยาเกินขนาด แต่แล้วเสียงที่เขาไม่ได้ยินมานานก็ดังขึ้นในหัว
“ดูแลตัวเองด้วย”
คำพูดสุดท้ายของเธอกับเขา ถึงแม้เธอจะเกลียดเขา แต่เธอก็เตือนเขา นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เขาสวมชุดนักบิน
@@@@@@@@@@
โรงเก็บX13A
"คงเข้าใจทฤษฎีแล้วนะครับ"
"อืม"ราอูลเข้าค็อคพิทมาและเริ่มเปิดให้โมบิลสูทเดินเครื่อง
"หึ ลองดูก็ได้ ถ้าเจ้านั่นใช้ได้ ฉันเองก็ต้องใช้ได้เหมือนกัน"
"ราอูล เลอ ครูเซ่ โปรวิเดนซ์ ออกได้!!!!"
@@@@@@@@
ห้องบัญชาการยาคินดูเอ้
"เอ็นแจมเมอร์คอนเซลเลอร์ทำงาน เชื่อมต่อนิวเคลียร์คอนทริค เชื่อมต่อทุกระบบ ออลกรีน"
"ยิงได้!!!!"แพทริคสั่ง ลำแสงพุ่งไปหากองยานของกองทัพโลก
เวลาเดียวกับโปรวิเดนซ์ก็พุ่งออกจากยาคินดูเอ้
ความคิดเห็น