NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gundam Seed Extended : Bluedevil from Mars

    ลำดับตอนที่ #41 : Phase 40 : Day of Wrath

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 598
      24
      23 เม.ย. 64

    ลำแสงจากเจเนซิสพุ่งเข้าหากองเรือรบของสหพันธ์โลกและออร์บ ไม่มียานรบสักลำที่เทียบได้กับเจเนซิส มันทำลายยานรบและโมบิลสูททุกลำในเส้นทางของมัน

     

    ยานรบอามาเกม่อน เนลสันและเดร็ก โมเบียสกับสไตรค์แด็กเกอร์ถูกทำลายในพริบตา ภายในไม่กี่วินาที กองยานของโลกหายไปกว่าครึ่ง


    ทุกคนตกตะลึงและหวาดกลัว กองทัพโลกที่ยังรอด สหพันธ์มนุษย์และแม้แต่กองทัพซาฟท์ก็จ้องมองสิ่งที่เกิดกับกองทัพโลก


    @@@@@@@@

     

    "เจเนซิสใช้พลังงานไปกว่า60%ในการยิง"

     

    "กองทัพโลกที่เหลือรีบถอนกำลังไปแล้วครับ"

     

    "สมกับที่หวังเลยนะครับท่านผู้นำซาล่า ไม่คิดเลยว่าเจเนซิสจะมีพลังถึงขนาดนี้"ราอูลกล่าว แพทริคหันมามอง

     

    "สงครามน่ะ ถ้าไม่ชนะมันจะไปมีความหมายอะไร"แพทริคตอบ

    @@@@@@@@

    โดมิเนียน

     

    "ราวเซวิก ตอบกลับด้วย"

     

    "CSโดนทำลายแล้ว ขออนุญาติลงจอดฉุกเฉินครับ

     

    "ดอลตันล่ะ กัปตัน ผู้พันครับ"


    ทุกคนตกตะลึงและตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ทั้งกองยานระส่ำระส่าย แม้แต่นาทาลก็พูดไม่ออก แต่เธอรู้ว่าถ้ากองยานยังอยู่พวกเขายังฟื้นกลับมาได้

     

    "อย่าพึ่งแตกตื่นไปสิ รีบตรวจสอบเรือที่เหลืออยู่เร็วเข้า แล้ววอชิงตันเรือธงของเราเป็นไงบ้าง"นาทาลกล่าว

     

    "สัญญาณของกองยานวอชิงตันหายไปแล้วครับ"


    “โครว์กับแกรนด์ก็เงียบหายไปเหมือนกันค่ะ”เฟรย์เสริม

     

    "เนื่องจากเรือธงได้จมไปแล้วจากนี้ไปยานของเราจะเป็นผู้สั่งการเอง ยิงสัญญาณออกไป สั่งกองกำลังที่เหลือให้ถอยออกจากแนวรบทันทีเลย ให้รวมพลโดยใช้ยานแม่เป็นจุดหมาย"เธอสั่ง


    @@@@@@@@


    แม้กองยานของสหพันธ์มนุษย์และกองกำลังไคลน์จะหนีพ้นการยิงของเจเนซิสได้ แต่พวกเขาก็ตกตะลึงและหวาดกลัวเหมือนกองทัพโลก


    "กองทัพโลกกำลังถอยจากแนวรบ"


    "เราเองก็เหมือนกัน ยิงพลุสัญญาณออกไป ถอนกำลัง"


    "เรียกโมบิลสูทกลับมา"เมอริวสั่ง


    @@@@@@@@

     

    ในยาคินดูเอ้ แพทริคลุกขึ้นยืนและประกาศ

     

    "พวกเรา เหล่าทหารกล้าแห่งกองทัพซาฟท์ เราจะยอมยกโทษให้กับความมักใหญ่ใฝ่สูงที่น่ารังเกียจของพวกเนเชอรัลอีกไม่ได้แล้ว การยิงขีปนาวุธใส่แพลนท์ของพวกเรา มันไม่ใช่การทำสงคราม แต่มันเป็นการสังหารหมู่ต่างหาก กับพวกเนเชอรัลที่ลงมือทำเรื่องโหดร้ายได้หน้าตาเฉยแบบนี้ เราจะยอมให้อภัยพวกมันต่อไปไม่ได้แล้ว"


    "อนาคตใหม่ที่กำลังมาถึง แสงสว่างอันเรืองรองแห่งยุคใหม่จะอยู่กับพวกเรา พร้อมๆกับแสงสว่างนี่ และในที่สุดวันนี้ จะเป็นวันเริ่มต้นประวัติศาสตร์ของพวกเราโคออดิเนเตอร์ เผ่าพันธุ์ใหม่ของโลกนี้"แพทริค ซาล่าตะโกน

     

    "ซาฟท์จงเจริญๆๆ..."เสียงร้องในชัยชนะของซาฟท์ดังขึ้น พร้อมกับกองทัพโลกที่ถอยหนีไป


    @@@@@@@@@@

    กองทัพโลกที่รอดตายล่าถอย แต่จินน์และเกวซที่โกรธแค้นยิงสไตรค์แด็กเกอร์และยานซาฟท์ยิงยานของกองทัพโลกที่กำลังหนี

     

    "หยุดนะ พวกเขาไม่คิดจะสู้อีกต่อไปแล้ว"ฟรีด้อมปลดตัวเองจากมีทีเออร์และยิงหัวจินน์ให้ล่าถอยและสไตรค์แด็กเกอร์ที่รอดตายกลับไปกองทัพโลก


    คิระไม่ใช่คนเดียว เอล เอเลน่าและอัสรันยิงกองทัพซาฟท์โดยปลดแขน ขาและหัวออก


    เมื่อเสร็จแล้วพวกเขาก็รวมกลุ่มกลับไปที่กองยาน


    “นี่คือความบ้าคลั่ง”เอลพูดขึ้น”ยังกับนิวเคลียร์ไม่เลวร้ายพอแล้ว ซาฟท์สร้าง....รังสีแกมม่าขนาดยักษ์”


    “อาวุธนิวเคลียร์เป็นเรื่องหนึ่ง เราสามารถสกัดมันได้ แต่เจ้านั่น...เราจะหยุดมันได้ยังไง”เอเลน่าถาม


    “ฉันไม่รู้”


    อัสรันได้แต่ส่ายหัวและคิดว่าทำไมพ่อสร้างอาวุธแบบนั้นขึ้นมา แต่ในใจเขารู้อยู่แล้ว


    @@@@@@@@@@@


    นาทาลถอนหายใจขณะดูรายชื่อผู้เสียชีวิต อาวุธใหม่ของซาฟท์ทำลายกองยานครึ่งหนึ่ง และยังมีการสูญเสียก่อนและหลังล่าถอย กองยานรวมพลใหม่และหาทางจัดการกับความสูญเสียที่พวกเขาได้รับ

     

    "ใช่ ใช่แล้วล่ะ แบบนี้ไม่ตลกเลยนะ"อัสราเอลตะโกนใส่หูฟังกับไมล์สื่อสารจากที่นั่งของเฟรย์"เพราะพวกคุณเอาแต่โอ้เอ้ตัดสินใจชักช้านั่นแหละ ถึงได้เป็นแบบนี้ไง"

     

    "กัปตัน มีสัญญาณขอกำลังหนุนมาจากซากิลค่ะ"เฟรย์รายงาน


    กองยานเสียหายมากพอแล้ว พวกเขาต้องช่วยก่อนจะสูญเสียมากกว่านี้

     

    "เข้าใจแล้ว ตอบกลับไปว่าเรากำลังจะไป"นาทาลกล่าว

     

    "เฮ้ย พูดเป็นเล่นไปน่า กำลังหนุนเหรอ แล้วทำไมยานนี้ต้องไปช่วยพวกมันด้วยล่ะ"อัสราเอลตะโกน

     

    "หัวหน้าฝ่ายอัสราเอล แต่ว่า..."

     

    "รีบสั่งให้ยานที่ปลอดภัย รีบเตรียมบุกอีกระลอกหนึ่งเร็วเข้า แทนที่จะทำเรื่องไร้สาระนั้น รีบเติมเชื้อเพลิงกับซ่อมบูสเตอร์เร็วๆเข้าสิ"

     

    "อะไรกันละค่ะ มันมากเกินไปแล้วนะ ตอนนี้กองทัพเราเสียหายแค่ไหนแล้วรู้ไหม"นาทาลลุกขึ้นจากที่นั่งเธอ

     

    "คุณเองก็น่าจะเข้าใจดีไม่ใช่เหรอค่ะ"

     

    "เดี๋ยวก็มีหน่วยเสริมกำลังมาจากดวงจันทร์แล้วละน่า เธอก็เหมือนกันนั่นแหละ มัวแต่พูดมากอยู่ได้ คนที่ไม่เข้าใจสถานการณ์น่ะคือเธอมากว่าละมั้ง จะปล่อยให้เหลือของแบบนั้นอยู่ได้ยังไงเล่า"

     

    อัสราเอลพูดแล้วชี้หน้าจอที่ฉายภาพยาคินดูเอ้กำลังเปลี่ยนมิเรอร์อันใหม่

     

    "อาวุธที่แสนป่าเถื่อนของเนเชอรัลอะไรกัน นั่นต่างหากล่ะ อาวุธอันร้ายแรงของพวกมันต่างหากล่ะ ของที่ยิงใส่โลกเราได้จากตรงนั้นน่ะ ป่าเถื่อนกว่าพวกเราเป็นไหนๆเลยไม่ใช่เหรอ แล้วที่สำคัญเราไม่รู้ว่าพวกมันเล็งไปที่โลกของเรารึยังด้วยนะ ขืนปล่อยให้มันยิงได้ก็สายไปแล้ว"

     

    ในตอนนั้นมีแสงวาบจากการระเบิดใกล้ นาทาลไม่ต้องมองว่าเกิดอะไร ยานซากิลที่เสียหายหนักระเบิด นาทาลโกรธแต่ไม่พูดอะไร เธอเกลียดชายคนนี้ แต่เขาพูดถูก พวกเขาต้องทำลายอาวุธชิ้นนั้น

     

    "คนที่ให้เวลาพวกมันสร้างของแบบนั้นขึ้นมาได้ก็คือ พวกกองทัพของคุณนั่นแหละ"อัสราเอลกล่าวแล้วหันไปมองเจเนซิส"จะไหวหรือไม่ก็ตามที เราต้องทำลายมันและแพลนท์ทิ้งให้ได้ ก่อนที่มันจะยิงไปที่โลกของเรา"


    @@@@@@@@@


    เอเทอร์นอล

     

    "แสงที่ยิงออกมาคือรังสีแกมม่าค่ะ ต้นกำเนิดพลังแสงนั่นมันใช้นิวเคลียร์ และเอาพลังงานที่ส่งออกมาแปลงเป็นคลื่นแสงโดยตรง เจ้านั่นก็คือปืนใหญ่เลเซอร์รังสีแกมม่าขนาดยักษ์นั่นเองค่ะ ถ้ามันเล็งไปที่โลกละก็ พลังงานมหาศาลนั้นจะแผดเผาพื้นผิวโลกทั้งหมดเป็นบริเวณกว้าง และทำลายสิ่งมีชีวิตนั่นทั้งหมดด้วยค่ะ"เอริก้ากล่าว


    ลักซ์ เอล เซเรน คิระ คางาริ เมอริว จอห์นและแอนดี้ต่างไังรายงานของเธอเกี่ยวกับอาวุธสุดยอดใหม่ของซาฟท์

     

    "คิดว่ามันจะยิงไปรึเปล่าค่ะ ยิงไปที่โลกน่ะ"เมอริวถาม

     

    "เป้าหมายของอาวุธระยะไกลที่มีพลังทำลายสูงขนาดนั้น คืออะไรเราก็รู้ๆกันอยู่แล้วนี่นา แต่ว่ามันก็ถูกยิงไปแล้วครั้งนึง ทั้งนิวเคลียร์ ทั้งเจ้านั่น ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็คงหนักใจอยู่แน่ๆ"วอลเฟลกล่าว

     

    "ครั้งแรกที่ยิงคนตายในสนามรบ ตัวฉันน่ะสั่นไปหมดเลย แต่ก็มีคนบอกฉันว่าอีกไม่นานก็จะชินไปเอง แล้วไม่นานฉันก็ชินกับมันจริงๆ"วอลเฟลกล่าว

     

    "จะบอกว่าปุ่มยิงนิวเคลียร์กับปุ่มยิงเจ้านั่นเหมือนกันเหรอค่ะ"เมอริวถาม

     

    "แล้วมันไม่ใช่รึไง คนเราน่ะชินกันง่ายจะตายไป ทั้งการรบ ทั้งการฆ่าฟันกัน"

     

    "อาวุธเป็นสิ่งที่สร้างการต่อสู้แน่เหรอค่ะ หรือว่าเป็นเพราะว่าจิตใจคนกันแน่?"ลักซ์พูดมองเอล

     

    "จะยังไงก็ตาม เราปล่อยให้มันยิงนิวเคลียร์หรือเจเนซิสอีกไม่ได้เด็ดขาด"อาวด์กล่าว

     

    "ใช่แล้วครับ ถ้าปล่อยให้มันยิงออกมา ทุกอย่างก็จะสายเกินแก้นะครับ"คิระพูดเสริม

     

    "ใช่"อัสรันพยักหน้า


    @@@@@@@@@@@

     

    ฐานทัพยาคินดูเอ้

     

    "การปรับปรุงมิเรอร์บล็อคเป็นยังไง?"แพททริคถาม

     

    "อีกประมาณ1ชั่วโมงครับ"

     

    "เร่งมือหน่อยสิ การเคลื่อนไหวของกองทัพโลกล่ะ?"

     

    "ตอนนี้ยังเลยครับ"

     

    "เหอะ พวกมันไม่คิดถอยกลับฐาน แต่คิดจะลองบุกพยายามใหม่งั้นเหรอ"แพททริคกล่าว

     

    "พวกมันเองก็ต้องสู้ตายเหมือนกันนะครับ เมื่อเห็นพลังทำลายขนาดนั้นแล้ว ตอนนี้คงกำลังเร่งเพิ่มเติมกำลังคนและเชื้อเพลิงอยู่แน่ๆ พวกเราควรจะบุกก่อนเลยดีไหมครับ"ราอูลกล่าว

     

    "ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอกน่า แค่รอการยิงครั้งที่2ทุกอย่างก็จบแล้ว พวกเราจะเป็นฝ่ายชนะ"

     

    "เราจะเล็งไปที่โลกเลยเหรอครับ"

     

    "ถึงจะเล็งไปที่ดวงจันทร์ เดี๋ยวพวกมันก็ขึ้นมาใหม่อีกจนได้"

     

    ด้านอิซาคกับชิโฮะเจอเอซาเลีย

     

    "ท่านแม่ครับ"อิซาคร้องเรียก

     

    "อิซาค"เอซาเลียกล่าวอย่างมีความสุข อิซาคเดินเข้ามาหา

     

    "คุณเอซาเลีย จูล"ซาอูลกับชิโฮะกล่าว เธอพยักหน้าให้

     

    "อยู่ที่นี่ตลอดเลยเหรอครับ?"อิซาคถาม

     

    "ใช่จ๊ะ เพราะอยู่ในสถานการณ์คับขันไงล่ะ อีกไม่นานเราก็จะเริ่มยิงเจเนซิสเป็นครั้งที่2แล้ว และตอนนั้นสงครามที่ยาวนานนี่ก็จะจบลงซะทีนะจ๊ะลูก"

     

    "เอ่อคือ.."

     

    "แม่เข้าใจจ๊ะว่าลูกเองก็คงต้องเหนื่อยที่ต้องออกรบเป็นเวลานาน แต่อีกนิดเดียวเท่านั่นนะลูก"

     

    "ครับ"

     

    "อนาคตจะเป็นของพวกเรานะจ๊ะ"

     

    อิซาคนึกถึงตอนที่เขาคุยกับพวกดิอัคก้า

     

    "ท่านแม่ครับ เป้าของการยิงครั้งที่2...."

     

    "ท่านเอซาเลียครับ"

     

    "อืม"เอซาเลียพยักหน้าแล้วกอดลูกชายไว้

     

    "ถ้าอย่างนั้นก็อย่าทำอะไรเสี่ยงเกินไปนะ หน่วยของลูกให้ย้ายไปอยู่แนวหลังซะ"

     

    "ท่านแม่ครับ"

     

    "งานของลูกน่ะมันอยู่ที่แนวหลังมากกว่านะจ๊ะ"เอซาเลียจูบแก้ม เธอแสดงความรักที่มีต่อลูกต่อหน้าคนอื่น จากนั้นเดินจากไปพร้อมเจ้าหน้าที่

     

    ทันใดนั้นเขาได้ยินเสียงหัวเราะจากด้านหลัง ซึ่งเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชิโฮะและทหารซาฟท์ชุดเขียวทั้งหลาย

     

    "อิซาคเจ้าอารมณ์ไปไหนแล้ว"ชิโฮะกล่าวยังหัวเราะไม่หยุด

     

    "ชิโฮะ!!!"อิซาคโกรธและหน้าแดง

     

    ____________________

     

    "จุดอ่อนเดียวของเจเนซิสก็คือไม่สามารถยิงต่อเนื่องได้ค่ะ คิดว่าหลังจากยิงไปครั้งนึงแล้วต้องทำการเปลี่ยนมิเรอร์ใหม่ทุกครั้ง"เอริก้า ชิม่อน บอกจากในหน้าจอ

     

    "แต่ว่าตัวมิเลอร์ถูกเคลือบด้วยเกราะเฟสชิฟท์ และกว่าจะถึงมันก็ยังมียาคินดูเอ้ ต้องฝ่าแนวรับของมันไปก่อน ถึงกองกำลังโลกจะเปิดฉากบุกอย่างหนัก แต่คงหวังอะไรไม่ได้หรอก"วอลเฟลกล่าว


    “ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้น”จอห์นกล่าว”กองยานที่11จะเปิดทางให้อาร์คแองเจิ้ล เอเทอร์นอลและคุซานางิ แต่ผมขอแนะนำให้รอกองทัพโลกเปิดฉากโจมตีดึงกำลังยาคินออกไปและทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับเรา”


    “นายรู้ดีว่าพวกนายต้องเจอกับโมบิลสูทและยานรบจำนวนมาก”วอลเฟลกล่าว”นายรู้ว่ามันหมายถึงอะไร”


    “ไม่ต้องห่วงคุณวอลเฟล หน่วยโซลาสจะรับทุกอย่างที่พวกนั้นขว้างใส่เรา”เอลตอบ”ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรา พวกคุณต้องทำลายอาวุธนั้น”


    “แล้วนิวเคลียร์ล่ะ”เซเรนถาม”ทั้งหมดนี้ไม่มีความหมายถ้าเราทำลายอาวุธซาฟท์เพื่อให้แพลนท์โดนทำลายด้วยนิวเคลียร์”


    “ฟรีด้อมกับจัสติสและโมบิลสูทจากอาร์คแองเจิ้ลสามารถตั้งทีมสกัดนิวเคลียร์และจัดการยานบรรทุกมัน”จอห์นตอบ”เมื่อจัดการนิวเคลียร์ได้แล้ว พวกเขาสามารถมารวมพลกับเราที่เหลือได้”

     

    "ต้องใช้เวลานานแค่ไหนในการเปลี่ยนมิเลอร์?"เมอริวถาม

     

    "เป้าหมายการยิงครั้งที่2ก็คือดวงจันทร์ หรือว่าจะเป็น...”

     

    "กองทัพโลกจะต้องยิงนิวเคลียร์มาอีกสินะครับ”คิระกล่าว


    “แน่นอน”จอห์นตอบจ้องมองแผนที่”พวกเขากลัวอาวุธนั้นมาก ถ้าฉันเป็นพวกเขา ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้นิวเคลียร์เพื่อทำลายมัน”


    “กัปตัน”ดาคอสต้าตะโกน”กองกำลังโลกเริ่มเปิดฉากโจมตีแล้วครับ”


    “ทุกคนเตรียมพร้อมออกยานและ....อย่าตายล่ะ”


    วอลเฟลไปที่เก้าอี้ผู้บัญชาการของเขา ขณะที่อัสรัน เอล คางาริและเมอริวไปที่ลิฟต์

     

    "เอล"ลักซ์เข้ามาหาเขา

     

    "ลักซ์"เอลหยุดและจับสองสาวที่ลอยอยู่ไว้

     

    เอลมองทุกคนในลิฟท์ จอห์นยิ้มและปิดประตู เวลาต่อมาลิฟต์ก็ว่างและวัยรุ่นทั้งสามเข้ามา ลักซ์หยิบบางอย่างจากกระเป๋า

     

    "นี่คะ"ลักซ์หยิบแหวนสีเงินให้เขา

     

    "ขอบคุณมากนะ"เอลยิ้มรับของขวัญเธอ


    “กลับมาให้ได้นะค่ะ กลับมาหาฉันและลูกของเรา”


    ลักซ์วางมือบนท้องเธอ เอลยิ้มและกอดเธออย่างอ่อนโยน


    “ฉันสัญญา”


    “เอลคุง”


    เอลหันมาจูบเธออย่างดูดดื่ม น้ำตาร่วงหล่นจากตาของเธอ


    “ฉันรักเธอลักซ์...ตลอดไป”


    “ฉันก็เหมือนกันค่ะ”


    @@@@@@@@@

     

    ทางด้านอัสรันดึงคางาริ ตอนนั้นเองเธอก็บอกว่าจะขึ้นสไตรค์รูจ ก่อนจะเดินแยกไปอัสรันรีบดึงตัวเข้ามาหา

     

    "เธอว่าจะไป ใช้สไตรค์รูจเหรอ?"อัสรันถาม

     

    "อะไรกันเล่า ฉันเคยฝึกขับโมบิลสูทมาแล้วนะ ฝีมือฉันสูงกว่าแอสเทรย์อีกนะ"คางาริเถียง

     

    "เปล่า แต่ว่านะ..."

     

    "สิ่งที่ทำได้ สิ่งที่หวังไว้ สิ่งที่ควรทำ ทุกคนก็เหมือนกันนี่นา ทั้งคิระ ทั้งเอล ทั้งลักซ์ แล้วก็ตัวฉันด้วย"

     

    "คางาริ"

     

    "ถึงจะอยู่ในสนามรบ แต่ก็มีบางอย่างที่ทำไม่ได้ แต่ว่าตอนนี้มันจำเป็นแล้วไม่ใช่เหรอ สิ่งนั้นน่ะ"

     

    อัสรันจ้องมองเธอด้วยความประหลาดใจ

     

    "อย่าทำหน้าแบบนั่นสิ แทนที่จะห่วงฉันน่ะห่วงตัวเองก่อนดีกว่านะ ฉันไม่ให้นายตายแน่ ไม่ยอมหรอก"คางาริกล่าว"รวมทั้งเอลและหมอนั้นที่อาจจะเป็นน้องชายของฉันด้วย"

     

    "น้องชาย? ไม่ใช่พี่ชายเหรอ"อัสรันถามด้วยรอยยิ้ม

     

    "ไม่มีทางหรอกน่า หมอนั่นน่ะต้องเป็นน้องชายนะ"คางาริพูดเสียงแข็ง

     

    "นั่นสินะ"อัสรันดึงตัวคางาริเข้ามาและกอดเธอ คางาริหน้าแดง

     

    "ฉันดีใจนะที่ได้พบกับคางาริ"อัสรันกล่าว

     

    "อัสรัน"คางาริเรียก ก่อนที่ทั้งสองจะมองหน้ากัน

     

    "ฉันจะปกป้องเธอเอง"อัสรันพูดแล้วจูบคางาริ


    @@@@@@@@


    อาร์คแองเจิ้ล

     

    "จัสติส อิคารุกะ ฟรีด้อมเตรียมออกปฎิบัติการได้"เสียงประกาศดังขึ้น


    "สไตรค์รูจพาวเวอร์เอ็กซ์เพนเดอร์ นักบินเป็นมือใหม่กรุณาตรวจสอบAIช่วยเหลือด้วยคะ"เสียงประกาศหญิงสาวดังในคุซานางิ คางาริเข้าไปในค็อกพิทสไตรค์รูจ

     

    ทางด้านดิอัคก้ากำลังบ่นอยู่

     

    "ทั้งเจเนซิสทั้งนิวเคลียร์ ระหว่างสู้จะให้ระวังด้านไหนกันเล่า"ดิอัคก้าบ่น

     

    "ไม่พอใจก็เลิกไปสิ"มิลี่พูดแล้วตัดสายหายไป

     

    "อ้าว เฮ้ อะไรกันเนี่ย"

     

    จากนั้นมิลี่ก็ต่อสายเข้ามาใหม่

     

    "โกหกนะ ขอโทษนะ ระวังตัวด้วยล่ะ"มิลี่กล่าว

     

    "ขอบใจนะ"

     

    มูกำลังรอถูกส่งออกไปอยู่ในสไตรค์ ตอนนั้นเองหน้าจอก็ฉายภาพเมอริว มูเปิดค็อคพิทออกมาหา

     

    "นึกว่าจะมาไม่ทันซะแล้ว"เมอริวกล่าว

     

    "อะไรของเธอน่ะบ้าจัง"มูกล่าว

     

    จากนั้นเขาก็เห็นสร้อยคอรูปดอกไม้เธอ มูเดาได้ว่าเป็นของแฟนเก่าเธอ

     

    "นี่เขาเคยขึ้นโมบิลอาเมอร์สินะ"

     

    "ค่ะ"

     

    "ไม่เป็นไรน่า เดี๋ยวฉันก็กลับมาแล้ว พร้อมกับชัยชนะไง"

     

    มูพูดแล้วดึงเมอริวเข้ามาจูบ


    @@@@@@@@

     

    โรงเก็บยาคินดูเอ้


    อิซาคกับเลออนกำลังดูแลพวกเด็กใหม่ที่ตื่นสนามรบให้พร้อมออกบิน


    "เอ่อ ระวังตัวด้วยนะค่ะหัวหน้า"เด็กสาวผมแดงกล่าว


    "เธอก็เหมือนกัน"เลออนพูดก่อนเดินไป ดูเหมือนเขาไม่ได้รู้สึกตัวเลย


    คนอื่นๆที่ฟังอยู่ต่างก็ยิ้มเล็กน้อยแม้ว่าชิโฮะจะมองซายะด้วยความกังวล


    “เลออนนี่งี่เง่าชะมัด”อิซาคกล่าว 


    “ไม่เท่าคุณหรอกค่ะหัวหน้า”ซายะพูดไม่ปิดอารมณ์ขันในน้ำเสียงของเธอ


    “นั่นมันหมายความว่ายังไง!!”


    อิซาคเป็นคนเดียวที่ไม่สังเกตเห็นหน้าสีแดงจางๆของชิโฮะ ขณะที่เธอสวมหมวกนิรภัยอย่างรวดเร็ว




    อีกด้านโรงเก็บX14A

     

    สเลนมองกองยานพันธมิตรที่ใกล้เข้ามา

     

    "มาจบเรื่องทุกอย่างกันเอลเนสตี้"สเลนกล่าว

     

    สเลนเข้าไปในค็อคพิทของเนเมซิส

     

    "สเลน ทรอยยาร์ต, เนเมซิส จะไปล่ะ!!!!"


    @@@@@@@@@@

     

    ยาคินดูเอ้

     

    "การเปลี่ยนมิเลอร์บล็อคใกล้เสร็จแล้วครับ"

     

    "ป้อมข้อมูลเป้าหมาย พื้นผิวดวงจันทร์ ฐานทัพโปโตเลเมียส ฐานทัพกองทัพโลก"

     

    "เริ่มการป้อนข้อมูลเป้าหมาย พื้นผิวดวงจันทร์ โปโตเลเมียส"ทหารเริ่มกำหนดเป้าหมายที่ฐานทัพดวงจันทร์

     

    "ทิศทางกองทัพโลกล่ะ"

     

    "กรีนอัลฟ่ามาร์ค3ครับ"

     

    'พวกเราชนะมันแน่ๆ ไอ้พวกเนเชอรัล'

     

    "เตรียมรับมือให้พร้อม ยันมันเอาไว้ให้ได้นะ"แพทริคสั่ง

     

    "ถ้างั้นผมจะออกไปด้วยนะครับ"ราอูลกล่าว

     

    "เออ"แพทริคพูดแล้วราอูลเดินจากไป ก่อนแพทริคจะหยุดเขา

     

    "ครูเซ่ จะพลาดอีกไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ เพราะว่าเธอไม่ยอมจัดการเอเทอนอล ถือเป็นความรับผิดชอบของเธอ อย่าให้พวกมันโจมตีแพลนท์ได้"

     

    "ถึงแม้ต้องจัดการกับอัสรันด้วยเหรอครับ?"ราอูลถามอย่างไม่จริงจัง

     

    "ช่างหัวมันเถอะ!!!"

     

    "รับทราบครับ ขอตัว"ราอูลทำความเคารพและเดินออกไป


    @@@@@@@@


    "กัปตัน มีโมบิลสูทใกล้เข้ามา บลู12 มาร์ค4 ระยะ600"


    เซเรนรู้ว่าเป็นใคร


    "ฉันจะจัดการเขาเอง ทุกคนเดินหน้าต่อไปเถอะค่ะ”เซเรนกล่าว


    "แต่..."


    "ไม่ต้องห่วงฉันค่ะ"เซเรนตัดบทเธอ"อย่างที่คุณอลาริคพูดเราจะมาหยุดที่นี่ไม่ได้"


    "เข้าใจแล้ว"เมอริวกล่าว"แต่ระวังด้วย"


    เอ็กเซียมุ่งหน้าไปหาโมบิลสูทที่ใกล้เข้ามา

    @@@@@@@@@@


    “ไม่นาน”เอเลน่าพุ่งไปข้างหน้าจับพรีเมียมด้วยมือสองข้างของแร็กนาร็อค


    พรีเมียมยิงลำแสงขนาดใหญ่กวาดเกวซ ปืนใหญ่อิฟิตัสและป้อมปืนของแร็กนาร็อคได้ระดมยิงพวกที่หลบหลีก


    แหล่งความร้อนขนาดใหญ่ใกล้เข้ามาและลำแสงขนาดยักษ์ฉีกผ่านไอเฮอร์จาร์ นักบินและลูกเรือไม่สามารถทำอะไรได้เลยเมื่อยานถูกทำลาย เมื่อหันไป พวกเขาเห็นโมบิลสูทขนาดใหญ่ใกล้เข้ามาดูเหมือนอีจิสขนาดยักษ์ก่อนเปลี่ยนร่างเป็นโมบิลสูทมีปืนใหญ่ในมือ


    “นั่นคือX11A ฉันคิดว่าจั้งกิลด์ทำลายมัน แต่....นิโคล คาเอเดะ นานะ อยู่ใกล้ฉันไว้”


    “รับทราบ”


    การต่อสู้ดำเนินต่อไปขณะที่แร็กนาร็อค , นีโอบลิตซ์ และอาเธน่าบินเข้าเผชิญหน้ากับโมบิลสูทยักษ์


    @@@@@@@@@@


    ล็อกเกอร์รูมยาคิน ดูเอ้ 


    ราอูลสวมชุดนักบินและกินยาเกินขนาด แต่แล้วเสียงที่เขาไม่ได้ยินมานานก็ดังขึ้นในหัว


    “ดูแลตัวเองด้วย”


    คำพูดสุดท้ายของเธอกับเขา ถึงแม้เธอจะเกลียดเขา แต่เธอก็เตือนเขา นั่นอาจเป็นสาเหตุที่เขาสวมชุดนักบิน


    @@@@@@@@@@


    โรงเก็บX13A

     

    "คงเข้าใจทฤษฎีแล้วนะครับ"

     

    "อืม"ราอูลเข้าค็อคพิทมาและเริ่มเปิดให้โมบิลสูทเดินเครื่อง

     

    "หึ ลองดูก็ได้ ถ้าเจ้านั่นใช้ได้ ฉันเองก็ต้องใช้ได้เหมือนกัน"

     

    "ราอูล เลอ ครูเซ่ โปรวิเดนซ์ ออกได้!!!!"


    @@@@@@@@


    ห้องบัญชาการยาคินดูเอ้

     

    "เอ็นแจมเมอร์คอนเซลเลอร์ทำงาน เชื่อมต่อนิวเคลียร์คอนทริค เชื่อมต่อทุกระบบ ออลกรีน"

     

    "ยิงได้!!!!"แพทริคสั่ง ลำแสงพุ่งไปหากองยานของกองทัพโลก

     

    เวลาเดียวกับโปรวิเดนซ์ก็พุ่งออกจากยาคินดูเอ้


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×