NC

คำเตือนเนื้อหานิยาย

นิยายเรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหานิยาย

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gundam Seed Extended : Bluedevil from Mars

    ลำดับตอนที่ #20 : Phase 20 : Invasion of Taiwan

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.03K
      37
      10 ต.ค. 65

    เฟส 20 : การบุกไต้หวัน

    21 มีนาคม , CE71

    ภายในโรงเก็บยานคอสแตร์

    อิซาคได้ปรับเปลี่ยนจินน์ไฮไทป์ที่ได้รับมอบหมายอย่างเงียบๆโดยพยายามทำให้สมรรถนะของมันเทียบเท่ากับดูเอล แต่ไม่ว่าเขาพยายามยังไงก็ทำให้เท่าหุ่นGของกองทัพโลกไม่ได้

    ก่อนหน้านี้ช่างแนะนำเขาใช้เพิ่มโมดูลใหม่ลงในจินน์เพื่อให้มีความสามารถในการบินและเพิ่มอาวุธ ซึ่งเป็นสิ่งที่อิซาคไม่ยอมใช้โดยเฉพาะเมื่อมันเหมือนกับหญิงที่ขโมยดูเอลไปใช้

    อิซาคคิดอย่างฉุนเฉียวขณะมองหน้าจอเงาสะท้อนแสดงแผลเป็นด้วยหน้าบึ้ง สักวันหนึ่ง ฉันจะกำจัดสไตรค์

    "ทีมซาล่าและทีมโนว่ากลับมาแล้ว"ประกาศแจ้งเตือน อิซาคหูผึ่งและก้าวออกจากจินน์เพื่อดูการมาถึงของทั้ง2ทีม และอิซาคตกตะลึงเมื่อพบว่าอีจิสกับบลิตซ์ขาดทั้งแขนขาตามลำดับ บัสเตอร์ โซล และดูเอลได้รับความเสียหายน้อยกว่า และเซนติเนลเสียแขนขวา

    ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเนเชอรัลตอบโต้อย่างหนัก

    ต้องใช้เวลากว่าโมบิลสูทจะเข้าจอดในโรงเก็บและอิซาคลงจากหุ่นไปดูน้องสาวกับเพื่อนร่วมทีมที่เหน็ดเหนื่อยจากการต่อสู้ ทุกคนหอบหายใจได้รับผ้าเช็ดและขวดน้ำจากช่าง

    "เกิดอะไรขึ้น"อิซาคเข้าหาดีอัคก้ากับอัสรันทันทีที่พวกเขาลงจากหุ่น ทั้งสองมีสีหน้ารำคาญ

    ซาอูลยักไหล่"เราแพ้เจ้าพวกนั้น ถ้านายอยากถาม"

    "พวกเนเชอรัลน่ะเหรอ"

    "พวกเขาวางแผนโจมตีโตเกียวร่วมกับกองเรือจากจีนแผ่นดินใหญ่"นิโคลอธิบายนักบินผมเงินฟังด้วยความรู้สึกท้อแท้"สไตรค์ก็สู้ได้ดีแม้ไม่มีความช่วยเหลือจากบลูแฟลชตอนที่ผมกับอัสรันพยายามโค่นเขา"

    อิซาคเงยหน้ามองสภาพบลิตซ์กับอีจิส"ฝีมือสไตรค์เหรอ"

    "สไตรค์เก่งขึ้นในทุกการต่อสู้"อัสรันพูดพยายามทำเสียงเรียบเฉยหรือไม่ท้อแท้ ไม่อยากเชื่อว่าคิระเป็นนักบินที่เก่งกาจทั้งที่ไม่เคยได้รับการฝึกให้เป็นทหารหรือนักบินมาก่อน"และผู้บัญชาการวูล์ฟไม่สามารถต้านทานได้ เราต้องถอยเมื่อกองเรือเอเชียตะวันออกปิดล้อมท่าเรือ"

    อิซาคไม่อยากเชื่อ นับแต่เริ่มสงครามซาฟท์ชนะมาตลอดยกเว้นศึกที่วิคตอเรีย พวกเขาเป็นฝ่ายเหนือกว่าด้วยโมบิลสูท และพวกเขามั่นใจว่าจะชนะสงคราม แต่ตอนนี้ นับแต่บลูแฟลชเข้ามาเกี่ยวข้อง ภัยพิบัติหนึ่งก็ตามมาด้วยอีกภัยพิบัติหนึ่ง การยึดเกาะญี่ปุ่นกลับคืนมาได้เป็นชัยชนะใหญ่ครั้งแรกของกองทัพโลกนับตั้งแต่วิคตอเรีย

    อิซาคพยายามเปลี่ยนเรื่องมองเกวซสีม่วง"แล้วพวกนั้นล่ะ พวกหล่อนโชคดีไหม"

    อิลลิเทียนั่งลงที่ลังไม้ใกล้ๆมีถือขวดน้ำหายใจแรง เมื่อสงบสติอารมณ์ได้เธอเดินมาหาหน่วยซาล่า

    "นี่ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้"เธอยอมรับจากใจจริง มากาเร็ต ริกะและคอนนี่ออกจากหุ่นมารวมกลุ่ม

    "บอกผมที เราจัดการงานแนวหลังได้"ดีอัคก้าพูดในฐานะหน่วยซาล่า"เนเชอรัลรู้ดีว่าเมื่อไหร่ควรโจมตี เมื่อบลูแฟลชอยู่กับพวกเขา"

    "ฉันจะไม่เรียกศัตรูของเราตามพันธุกรรมของพวกเขาเอลฟ์แมน"ร้อยโทไคลน์เตือน"ถ้าพวกนั้นสู้เราได้ การดูถูกพวกเขาก็ไม่ช่วยอะไร"

    "มันไม่เปลี่ยนความจริงสิ่งที่พวกคนแก่ๆที่บ้านคิดใช่ไหม"

    "นั่นเพราะพวกเขาสอนเด็กๆแบบนั้นเพราะพวกเขาไม่ชอบอีกฝ่ายเนื่องจากพันธุกรรม"มากาเร็ตพูดกับนักบินบัสเตอร์โดยเลิกคิดเรื่องความแตกต่างของพันธุกรรมนานแล้ว

    "สภาจะไม่ยอมรับข่าวนี้หลังจากความพินาศในวงโคจร"เทียร์มองสภาพหุ่นของหน่วยเธอและถอนหายใจ"ทุกคนไปพักผ่อน ฉันจะแจ้งความคืนหน้ากับกองบัญชาการ"

    "ผมอดใจไม่ไหวที่จะได้ยินผบ.ครูเซ่พูดเกี่ยวกับเรา"นิโคลกล่าว

    "ฉันจัดการเรื่องครูเซ่เอง อย่างน้อยพวกนายทุกคนก็พยายามเต็มที่"เทียร์รับรองด้วยรอยยิ้ม ทำให้อัสรันกับดีอัคก้าประหลาดใจ พวกเขาเชื่อว่าโดนเธอดูถูกเมื่อพวกเขาพบกันครั้งแรกบนอวกาศ"ตอนนี้เราต้องซ่อมแซมโมบิลสูทก่อนที่เราจะ-"

    เธอชะงัก หลับตาและจับหน้าผาก หน่วยโนวากังวลและหน่วยซาล่าประหลาดใจ

    "ร้อยเอก?"ริกะถามด้วยความกังวล

    ภายในไม่กี่วินาทีเทียร์ก็ลืมตาขึ้น ส่ายศีรษะ

    "ฉันไม่เป็นไรริกะ"เทียยืนยันแต่คนอื่นไม่แน่ใจ"ยังไงก็ตามเราต้องเตรียมพร้อมและจัดกลุ่มใหม่ที่ฐานทัพมาเรียน่าก่อน เราจึงจะไล่ตามยานมีขาไปได้ ตอนนี้ทุกคนไปพักผ่อน

    คำว่าสบายดีใช้ไม่ได้กับอิลลิเทียร์ในตอนนี้

    ผ่านไปครึ่งชั่วโมงเธอก็ไม่สามารถหลับได้ เธอลุกจากเตียงไปที่ห้องน้ำ

    เธอเช็ดหน้าด้วยผ้าขนหนูมองตัวเองในกระจก การได้เห็นตัวเองก็เหมือนได้เห็นคนที่เธอเคยเป็นและมีความคล้ายคลึงกับคนที่เธอเรียกว่าน้อง

    เทียร์ไปจับลูกบิดประตูและอาการปวดหัวพุ่งขึ้นมา เธอถอยเข้าไปในห้องน้ำนั่งจ๋อมลงไปในสุขาโดยไม่ตั้งใจ ร้องด้วยอาการไมเกรนขึ้น

    การมองเห็นเธอพร่ามัว จนกระทั่งคุกเข่าและทุกอย่างกลายเป็นสีดำ

    @@@@@@@

    การเดินทางของอาร์คแองเจิ้ลนั้นเงียบสงัด ตั้งแต่ออกจากเกาะญี่ปุ่น และล่องเรือไปตามชายฝั่งจีนซึ่งถูกคุ้มกันโดยพลจัตวาฟง เมื่อพวกเขาจากไป เจ้าหน้าที่เอเชียตะวันออกได้บอกเส้นทางที่ปลอดภัยจนถึงเวียดนาม ซาฟท์ยังไม่ได้รุกล้ำเข้ามา ทำให้พวกเขาเลี่ยงเกาะไต้หวันที่ถูกยึด

    ที่ห้องโถงใหญ่ ทีมกำลังรับประทานอาหาร ปกติทุกคนจะเงียบยกเว้นกลุ่มนักเรียนเฮลิโอโปลิส โดยทอลล์ ไซและคาสึอิพยายามยิงคำถามใส่เนียร์ตั้งแต่กลับมา

    "ก่อนนายจะได้รับมอบหมายให้ประจำอาร์คแองเจิ้ล ลูกเรือเก่าเธอเป็นยังไง"ลิซถาม

    "ลูกเรือของเราส่วนใหญ่เงียบๆ แม้จะมีคนพยายามทำให้บรรยากาศดีขึ้นบ้าง"เนียร์พูดโดยไม่บอกรายละเอียดที่ชัดเจนกับเขา แต่ให้ข้อมูลว่าพวกเขาเป็นคนแบบไหน”กัปตันคล้ายกัปตันราเมียสมาก ยกเว้นเธอเป็นนักวางกลยุทธ์ที่เก่งและชอบเหล้า หัวหน้าช่างก็คล้ายกับเมอร์ด็อกและลูกสาวของเขารับตำแหน่งCICโมบิลสูทเหมือนมิลี่ ยกเว้นเธอร่าเริงและอยากรู้อยากเห็นทุกสิ่งรอบตัว”

    “ดูเหมือนนายทำงานร่วมกับอันธพาล”ลิซหัวเราะคิกคัก”ฉันสงสัยว่านายเคยร่วมงานกับนักบินคนอื่นไหม”

    “คนหนึ่งเย็นชาและจริงจัง แต่เขาดูแลเพื่อนร่วมทีมทุกคน คนหนึ่งเงียบมาก แต่ห่วงใยเพื่อนร่วมทีมและช่วยระงับการทะเลาะระหว่างนักบิน แต่เขามีอาการสองบุคลิกที่ต้องรับมือ”

    “มันฟังดู…น่าสนใจ”คริสกล่าว มีสมมติฐานในใจว่าทำไมผู้บัญชาการของพวกเขาถึงเงียบตลอดเวลา

    “แล้วก็มีคนสุดท้าย…เขามักจะเป็นคนทำให้ทีมเรายังอยู่ ชั้นไม่ค่อยสนิทกับใคร แต่เขาเข้ากันได้ดีกับทุกคน”

    คริสกับลิซ่าเห็นว่าเนียร์ให้พูดถึงนักบินคนสุดท้ายด้วยความเคารพ

    “แล้วจะมีการซ้อมอีกไหม”

    “การฝึกครั้งต่อไปของเราจะเน้นไปที่การประสานงาน”เนียร์พูดเคลียร์คออธิบาย”เราต้องตามหลังยิงสนับสนุนระยะไกล ขณะที่เรา3คนจะมุ่งเอาชนะศัตรู มันเป็นกลยุทธ์ที่ชื่อแบ่งแยกและพิชิต โดยเฉพาะเมื่อใดที่เราถูกซุ่มโจมตีโดยซาฟท์”

    @@@@@@@@@

    หากมีสิ่งหนึ่งที่อธิบายคำว่าโชคได้ อาร์คแองเจิ้ลและลูกเรือคงถูกเรียกแบบนั้น"ฮาเบอร์ตันรำพึงด้วยรอยยิ้มบางๆ ภาพเขาฉายบนมอนิเตอร์ พวกเธอได้รับการติดต่อจากพลเอกซึ่งแสดงความยินดีกับการขับไล่ซาฟท์ออกจากเกาะญี่ปุ่น"และการที่คุณสามารถรวมยูราเซียและเอเชียตะวันออกรับรองความช่วยเหลือ"

    เมอริวยิ้มตอบ"เหมือนจะเป็นเช่นนั้นค่ะท่าน ขณะนี้เรากำลังมุ่งหน้าไปเวียดนามโดยมีกองเรือของนายพลฟงคุ้มกัน เมื่อเราไปถึงเวียดนามแล้ว เราต้องไปทางตะวันตกไปถึงอะลาสก้า"

    ฮาเบอร์ตันพยักหน้าเห็นด้วย มองความวุ่นวายบนสะพาน เขาไม่เห็นทหารอาสาอีกต่อไป แต่ในฐานะทหารผ่านศึก

    "และฉันสามารถพูดได้ว่าผู้บัญชาการเซย์เอย์และทีมของเขาสร้างความยินดีให้แก่กองทัพโลกหลังจากที่หลายคนสูญเสียศรัทธาจากความล้มเหลว ทั้งทหารและพลเรือนได้ใช้เขาและทีมในการโฆษณาชวนเชื่อระดมกำลังต่อสู้ต่อไป แต่คิดว่าเขาคงไม่ชอบเรื่องนี้"

    เมอริวและมูดูกังวล โดยเฉพาะเมื่อเซ็ตสึนะมีเหตุผลที่จะปกปิดภูมิหลังของเขา"เขาไม่ต้องการออกสื่อเกี่ยวกับสิ่งที่เขาและลูกเรือทำ เขาอยากใช้เวลาฝึกฝนพวกเขาในการทำงานเป็นทีมและขัดเกลาทักษะโมบิลสูทแต่ละคน"

    "นั่นอธิบายได้ว่าพวกเขาเป็นหัวหอกในการยึดหมู่เกาะคืนได้ยังไง"ฮาเบอร์ตันกล่าวอย่างภาคภูมิใจกับทีม"ถ้าหากเป็นฉัน ฉันคงอยากได้เขาเป็นครูฝึกหน่วยโมบิลสูทของกองทัพโลก ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้าง"

    "ตอนนี้เขากำลังพักอยู่ เขาได้กำหนดการฝึกของทีมในการซ้อมอีก1ชั่วโมง"

    "เข้าใจล่ะ"ฮาเบอร์ตันพยักหน้า"ฉันหวังว่าทุกคนจะยังสบายดีในการเดินทางไปยังอะลาสก้า โดยเฉพาะตอนนี้ซาฟท์น่าจะระบุว่าพวกเธอเป็นเป้าหมายที่สำคัญที่สุด"

    นาทาลพูดด้วยเสียงสงบ"เราจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งที่ซาฟท์จะทำต่อยานลำนี้ และจะต่อสู้เมื่อสถานการณ์จำเป็นเท่านั้น มีคำสั่งจากกองบัญชาการไหมค่ะ"

    "เกรงว่าจะไม่ ตอนนี้สายข่าวแจ้งว่าพวกซาฟท์มีเป้าหมายหลัก2แห่งคืออลาสก้าและปานามา"

    "กองบัญชาการและแมสไดรเวอร์สุดท้ายของกองทัพโลก"ไซพูดกับเพื่อนๆบนสะพาน

    "เราไม่มีข้อมูลว่าพวกซาฟท์จะโจมตีเมื่อไหร่ แต่เราไม่สามารถนั่งเฉยๆได้ โดยเฉพาะเมื่อรัฐมนตรีต่างประเทศจอร์จ อัสตาร์เพิ่งได้รับการเลื่อนตำแหน่งกำลังเจรจากับยูราเซียเพื่อลงนามในสนธิสัญญาใหม่ สัญญารับประกันว่าจะยังอยู่ในพันธมิตร"

    เฟรย์เบิกตากว้าง"พ่อได้เลื่อนขั้นเหรอค่ะ"

    "ใช่ แต่เราต้องการใช้จุดยืนของรัฐมนตรีเบลิโควาที่ไม่มั่นใจว่าจะรักษาความเป็นพันธมิตร นี่เป็นความท้าทายสำหรับพ่อคุณ"เขาบอกเธออย่างมีชั้นเชิง หันไปสนใจลูกเรือที่เหลือ"พวกเธอทุกคนได้ช่วยให้ยานลำนี้รอดมาได้โดยไม่สูญเสียเลย ฉันไม่รู้จะแสดงความขอบคุณยังไง ตลอดเวลาที่ฉันรับใช้ประเทศชาติ พวกเธอกลายเป็นบุคลากรที่ดีที่สุดที่ฉันเคยมี"

    จิตวิญญาณของลูกเรือเพิ่มขึ้นตามประกาศของนายพลก่อนจะเสริม

    "และฉันอยากขอบคุณนักบินของยานลำนี้ โดยเฉพาะผู้บัญชาการเซย์เอย์และร้อยตรียามาโตะ ถ้าไม่มีพวกเขาเราคงมาได้ไม่ไกลขนาดนี้"

    เมอริวยิ้มพยักหน้า"ฉันจะบอกให้ค่ะ"

    "ถ้างั้นเลิกกัน โชคดีอาร์คแองเจิ้ล"ฮาเบอร์ตันตัดสายไป

    มูถอนหายใจ"นี่เป็นการเดินทางที่ยาวนาน บางทีเราควรขอให้พลเรือฟงช่วยดูแลการเดินทางของเรา"

    กัปตันคิดครู่หนึ่งก่อนหันไปทางเฟลท์ เกรซ"พลทหารเกรซ ช่วยติดต่อไห่หนานได้ไหม"

    "ค่ะ จะติดต่อไห่หนานเดี๋ยวนี้"

    สักพักจอมอนิเตอร์ฉายภาพเจียนฟง

    "ฉันได้ยินมาว่าคุณมีเรื่องจะสอบถามกัปตันราเมียส"

    "ใช่ เกี่ยวกับเส้นทางไปเวียดนาม มีรายงานการเคลื่อนไหวของซาฟท์ทางใต้จีนแผ่นดินใหญ่ไหม"เธอถามตั้งสมมุติฐานว่าซาฟท์อาจส่งกำลังเสริมไปทางใต้"ตอนนี้เรากำลังเข้าใกล้ไต้หวันที่โดนยึดครอง"

    ฟงกำลังจะเอ่ยปาก แต่เสียงแจ้งเตือนมาจากคอนโซล

    "กัปตันราเมียส"พลเรือจัตวาฟงร้องขึ้น"ได้รับข้อความจากพลเอกเป่ายี่"

    ขณะฟังนายพลเฒ่าพูดด้วยภาษาจีน เมอริวและคนอื่นไม่เข้าใจ แต่เฟลท์สามารถแปลให้พวกเขาฟัง

    "พลเรือตรีต้องการบอกอะไร"

    "นายพลเป่ายี่ขอให้ยานหยุดที่ฐานคิงแมนซ์เพื่อประชุมสำคัญ"ฟงตอบ

    ตอนนี้พวกเขาจะแวะพักครั้งแรกตั้งแต่ออกจากญี่ปุ่น นาทาลไม่พอใจ แต่เมอริวมองดูทุกคนบนเรือ ดูเหมือนพวกเขาจะโอเคถ้าหยุดพักที่จีนตอนใต้

    "ดี ฉันจะแจ้งลูกเรือให้ทราบ"เมอริวถอนหายใจ พวกเธอต้องเลื่อนการเดินทางไปอะลาสก้าอีกครั้ง"นำทางไปพลจัตวา"

    ฟงพยักหน้าก่อนใบหน้าเธอจะหายไปจากหน้าจอ

    @@@@@@@@@@

    "เกิดอะไรขึ้น"เนียร์ถามช่าง เขากับคิระสังเกตเห็นยานเข้าเทียบท่าฐานทัพเอเชียตะวันออก

    "มีการเปลี่ยนแผนนิดหน่อย"เมอร์ด็อกพูดเกาหัว"พลจัตวาฟงและกองเรือคุ้มกันได้รับคำสั่งโดยผู้บัญชาการ เราต้องอยู่ที่นี่จนกว่า"

    นักบินทั้งสองออกจากเรือและพบกัปตันราเมียส นาทาลและมู ยืนอยู่ที่ระเบียงฐานซึ่งพวกเขารอคำอธิบายจากฟง ซึ่งกำลังประชุมกับเจ้าหน้าที่เอเชียตะวันออก

    "มีข้อความจากพลจัตวาฟงอีกไหม คุณเมอร์ด็อกบอกเราเรื่องการเปลี่ยนแผนของพลจัตวา"

    เมอริวส่ายหัว"ฉันไม่รู้เซ็ตสึนะ เรามีแต่ต้องรอจนกว่าจะรู้คำตัดสิน"

    "ฉันไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหามากนัก"เนียร์ตอบเสียงเรียบ"แม้มันไม่ปกติที่เราต้องแวะที่นี่โดยไม่มีคำอธิบายชัดเจน"

    ก่อนเมอริวจะตอบพวกเขาได้ยินเสียงประตูเปิด พลจัตวาฟงและพลเอกเปายี่ออกจากห้องประชุม ทั้งคู่ทำความเคารพ

    "พลเอกเป่ายี่ พลจัตวาฟง ฉันเชื่อว่าเราได้รับอนุญาติให้ไปตามทางของเรา"

    "แน่นอนกัปตันราเมียส"พลเรือเฒ่ากล่าวโบกมือที่กันดั้มไมสเตอร์"ความสำเร็วของคุณที่โตเกียวแพร่ไปทั่วเอเชียตะวันออก ขอโทษสำหรับความไม่สะดวก เรากำลังวางแผนการที่ละเอียดอ่อน"

    นาทาร์ลเลิกคิ้ว"ละเอียดอ่อน"

    "เราได้รับรายงานว่าซาฟท์กำลังสร้างแมสไดรเวอร์ที่คาชุนขึ้นมาใหม่ มันน่าจะใช้ส่งเสบียงไปที่อวกาศและแพลนท์"เป่ายี่ชี้ไปยังแผนที่ไต้หวันบนกำแพง"ตอนนี้การยึดครองซาฟท์ในเอเชียตะวันออกอ่อนแอลง เป็นโอกาสที่จะยึดไต้หวันกลับมา แต่เราได้ยินว่ากองกำลังที่ฮอกไกโดถูกส่งไปไต้หวันโดยเป็นกองกำลังที่ถูกส่งไปช่วยโตเกียว กำลังของเราไม่เพียงพอจะโจมตี"

    เจ้าหน้าที่ทั้งสามเฝ้ามองอย่างระมัดระวัง"การโจมตีจะทำให้เกิดการสูญเสียมาก"นาทาร์ลชี้"โดยเฉพาะเมื่อทางนั้นมีแมสไดรเวอร์"

    "การล่มสลายของแมสไดรเวอร์ที่คาชุนส่งผลต่อกองทัพโลกมาก และเราไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆเนื่องจากซาฟท์เหนือกว่าทางทะเลด้วยโมบิลสูทใต้น้ำที่เราไม่อาจเทียบได้ ดังนั้นผมคิดว่า..."เป่ายี่พูดมองเจ้าหน้าที่สหพันธ์แอตแลนติก"เราต้องขอความช่วยเหลือจากอาร์คแองเจิ้ลในการยึดคาชุนกลับมา เพื่อแลกกับเสบียงและเส้นทางออกจากเอเชีย"

    ทั้งกลุ่มเงียบ ตกตะลึงกับคำขอร้องของพลเรือเอกแห่งเอเชียตะวันออก

    @@@@@@@@

    “คาชุนเป็นภารกิจที่ท้าทาย”เป่ายี่บอกกับทหารในห้องประชุม”ตามรายงานจากหน่วยสอดแนม ซาฟท์ได้เสริมกำลังด้วยปืนใหญ่ชายฝั่ง แท่นปืนใหญ่ และโมบิลสูทติดอาวุธหนักเช่นซูโน”

    เมอริว นาทาร์ล และเซ็ตสึนะมองแผนที่แนวป้องกันที่ซาฟท์สร้างขึ้น และวิเคราะห์ว่าพวกเขาควรใช้แผนจู่โจมแบบไหนดี ต่างจากชิมิสึ ซาไกมินาโตะ และโตเกียว พวกเขาใช้ยุทธิวิธีสายฟ้าแลบไม่ได้เมื่อศัตรูเตรียมการป้องกันไว้แล้ว

    “เราได้รับแจ้งว่ามีโมบิลสูทอย่างน้อย65ตัวประจำการอยู่ที่ไต้หวัน มากกว่าครึ่งอยู่ในเมืองเพื่อคุ้มกันแมสไดรเวอร์ซึ่งอยู่ระหว่างซ่อมแซม สำหรับแผนปฏิบัติการ เราจะทิ้งระเบิดปูพรมเพื่อลดการป้องกันถ้าโชคดี และส่งรถถังกับกองทัพอากาศไปพบโมบิลสูทข้าศึก…“

    กัปตันคนหนึ่งยกมือขึ้น”ท่านครับ กองกำลังที่ญี่ปุ่นมีโมบิลสูทอยู่ เราขอยืมจากพวกเขาได้ไหม”

    “เป็นไปไม่ได้กัปตัน”เซ็ตสึนะพูดขึ้น ที่ประชุมหันหาเขา”มีนักบินไม่กี่คนที่ปฏิบัติการได้ และพวกเขาต้องอยู่ป้องกันเผื่อมีการบุกญี่ปุ่นอีกครั้ง”

    นายพลจีนและนายทหารบางส่วนเข้าใจ เซ็ตสึนะและนักบินอาร์คแองเจิ้ลทำการฝึกนักบินของชิราโทริใช้โมบิลสูทซาฟท์ที่ถูกยึดที่โตเกียว และเขารู้ว่าไม่อาจล้ำเส้นในการขอความช่วยเหลือจากกันดั้มไมสเตอร์

    “ซึ่งหมายความว่าเราต้องจัดการหน่วยโมบิลสูทร่วมกับอาร์คแองเจิ้ลกันเอง นอกจากนี้ยังมีจุดยุทธศาสตร์อื่น คลังกระสุนและแบตเตอร์รี่ของโมบิลสูท สะพานที่ใช้ส่งเสบียงไปยังท่าเรือจีหลง”

    คิระกับเซ็ตสึนะเหลือบมองกันและกัน

    “ดีมาก เราจะเริ่มดำเนินการเมื่อไหร่”

    “จุดนักรบของเราอยู่ที่ฮ่องกง เร็วๆนี้คณะจะมุ่งหน้าไปที่คาชุน”เป่ายี่ตอบกลับมองเจ้าหน้าที่สหพันธ์แอตแลนติก”ในฐานะที่เป็นผู้นำในสมรภูมิญี่ปุ่น คุณมีความเห็นใดเกี่ยวกับปฏิบัติการครั้งนี้ไหม”

    นาทาร์ลและเซ็ตสึนะก้าวไปข้างหน้า”ก็มีบ้างพลเรือเอก ก่อนอื่นเราต้อง…”

    @@@@@@

    ความอดทนของรอนโด มิน่า ซาฮาคุกำลังจะหมด พ่อของเขาบอกเสมอว่าความอดทนเป็นสิ่งจำเป็นในความสำเร็จ จีน่าเป็นหลายสิ่งหลายอย่าง แต่ไม่ใช่คนที่อดทน

    ทั้งหมดเพราะความฝันในการบรรลุอำนาจที่แท้จริงอยู่ห่างจากเรือดำน้ำเขาเพียงไม่กี่ร้อยเมตร

    สิ่งที่เรียกว่าบลูแฟลชเป็นโมบิลสูทที่ทรงพลังที่สุด เหนือกว่าG Projectcและแอสเทรย์โปรเจ็กต์ของเฮลิโอโปลิส เมื่อเร็วๆนี้เขาได้ยินว่าอาร์คแองเจิ้ลและหน่วยโมบิลสูทช่วยเอเชียตะวันออกขับไล่ซาฟท์ออกจากญี่ปุ่นได้สำเร็จ และนั่นทำให้สมรรถภาพหุ่นแข็งแกร่งขึ้น เขาจำได้ดีว่าอัสราเอลเบิกบานใจแค่ไหนเมื่อแจ้งข่าวให้เขาทราบและรอคอยให้ยานลำนั้นไปถึงอลาสก้า

    ซาฟท์จะตามล่าหุ่นตัวนั้นไปทั่วโลกไม่ให้ไปถึงอลาสก้า และจีน่ารู้ว่าเขาต้องจับโมบิลสูทตัวนั้นอย่างรวดเร็ว แต่เขาไม่ได้ไปคนเดียว เขาได้ขอสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของอัสราเอล แม้จะเป็นหุ้นส่วนกัน แต่จีน่าไม่ได้ชอบอุดมการณ์ของอัสราเอล และจะกำจัดเขาเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ

    เขาสามารถขอความช่วยเหลือจากฝาแฝดได้ เนื่องจากหุ่นตัวนั้นเป็นที่สนใจของออร์บมาก แต่หากให้น้องสาวมาร่วมด้วย เธอจะเตือนเขาในทุกแผนการที่จะจับบลูแฟลชและให้รอเวลาเหมาะสม

    @@@@@@@@

    "คุณต้องการให้ผมทำอะไร"

    อิลลิเทียร์ถอนหายใจ วางมือสองข้างบนเอวอย่างไม่พอใจต่อคำตอบของนักบินผมเงิน

    "อย่างที่ฉันพูดอิซาค หุ่นของเราส่วนใหญ่กำลังซ่อมแซม เธอเป็นคนเดียวที่หุ่นพร้อมใช้ปฏิบัติภารกิจลาดตระเวณเพื่อดูว่ามียานกองทัพโลกไล่ตามเราหรือไม่"

    ตอนนี้อิซาคไม่รู้ว่าจะโล่งอกหรือรำคาญกับพันตรี(เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอเรียกเขาด้วยชื่อจริง ซึ่งเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับเขา)เขาอยากจะออกไปตั้งแต่ถูกผลักไปเป็นนักบินสำรอง แต่ผิดหวังเมื่อเขาต้องทำภารกิจสอดแนม

    "แล้วทำไมฉันต้องออกไปลาดตระเวณแทนที่จะร่วมหน่วยเพื่อกำจัดสไตรค์"อิซาคโต้เถียงอย่างรุนแรง แต่พันตรีไม่สะทกสะท้านเลยสักนิด

    "ถ้าเธอยังจำได้ สภาได้สั่งให้นายพักงานจนกว่าจะมีคำสั่งใหม่"

    "ผมรู้พันตรี"เขาพูดด้วยหน้าบึ้งตึง"คุณไม่ต้องย้ำ"

    "ถ้าฉันไม่ย้ำก็ไม่รู้นายจะทำอะไรเมื่อออกไป"เธอพูดอย่างอดทน"ฉันไม่ได้บอกว่าเราไม่ต้องการนายอิซาค พูดตามตรง ฉันต้องการความช่วยเหลือจากทุกคนในภารกิจนี้รวมถึงนายด้วย แต่เหตุผลก็คือ ฉันไม่คิดว่านายพร้อม"

    "ผมพร้อมแล้ว ผมเป็นชุดแดง"

    "แล้วทำตัวเหมือนเมื่อก่อน"เธอตอบอย่างใจเย็น ซึ่งทำให้เขาเงียบทันที อัสรันหรือซาอูลรับมือเขายังไง? ฉันต้องถามพวกเขาสักครั้ง เธอคิดในใจก่อนจะถอนหายใจ"ฟังนะ อิซาค เอายังงี้ ถ้าเธอสามารถทำผลงานได้ดี ฉันจะคุยกับผู้บัญชาการครูเซ่เพื่อให้สภาพิจารณาคำตัดสินพวกเขาอีกครั้ง"

    อิซาคเลิกคิ้วกับข้อเสนอของพันตรี คุมตัวเองให้อยู่ในความสงบ เขาไม่อยู่ในฐานะจะโต้แย้งได้ แต่นี่เป็นโอกาสเดียวที่เขาจะกลับไปจัดการสไตรค์ได้

    "ผมจะไปที่ล็อกเกอร์"

    เทียร์ถอนหายใจด้วยความโล่งอก"งั้นฉันว่าเราเข้าใจกันแล้ว"

    เธอเดินผ่านอิซาคไป แต่เขาเรียกเธอไว้"อะไรทำให้คุณเปลี่ยนใจส่งผมไป"

    "เพราะการทำงานล่วงเวลา ผู้คนจะเรียนรู้ที่จะระมัดระวังในสิ่งที่พวกเขาทำ"เทียร์ตอบอย่างสุภาพ"และฉันไม่เห็นว่าเธอทำไม่ได้หลังสิ่งที่เราผ่านมา"

    เธอออกไปปล่อยให้อิซาคอยู่คนเดียวขณะที่เขาถอนหายใจและไปที่ล็อกเกอร์รูม

    @@@@@@@@

    ที่โรงเก็บ เมอร์ด็อกสั่งพวกช่างให้เตรียมโมบิลสูทให้พร้อม หลังได้รับแจ้งเรื่องปฏิบัติการ เนียร์แปลกใจที่ลูกเรือบนสะพานแตกต่างจากเมื่อขึ้นยานครั้งแรก พวกเขาไม่ใช่พลเรือแล้ว แต่เป็นทหารที่มีประสบการณ์จากการสู้รบหลายครั้งในญี่ปุ่นและอวกาศ

    คริสถอนหายใจอยู่ในเรเวน"เมื่อเราออกจากญี่ปุ่น เราก็ถูกส่งไปไต้หวัน"

    "ฉันไม่เกลียดมันหรอกคริส"ลิซแทรกด้วยน้ำเสียงไร้กังวลจากการ์เดี้ยน"แถมดีกว่านั่งเฉยๆไม่ทำอะไรบนเรือ"

    "แต่เราต้องจัดการที่นั่นถ้าจะเดินทางไปอลาสก้า"คิระให้เหตุผลจากสไตรค์ รู้สึกไม่มั่นใจแต่ก็มุ่งมั่น"ไม่งั้นเราจะเจอการไล่ตามขณะมุ่งหน้าไปกองบัญชาการ"

    "คิระพูดถูก"เนียร์กล่าว ใบหน้าปรากฏบนจอมอนิเตอร์"ฉันเข้าใจว่าพวกนายไม่เต็มใจที่จะออกไปร่วมปฏิบัติการครั้งต่อไป อย่างน้อยมันสามารถลดภาระเราในการเดินทางไปอลาสก้าได้"

    คนอื่นในทีมเงียบ ไตร่ตรองคำพูดของเขาอย่างรอบคอบ

    "หน้าที่ของเราในปฏิบัติการนี้ กองทัพเอเชียตะวันออกจะเริ่มโจมตีและหยุดกองทัพซาฟท์จนกว่าเราจะเจอช่องโหว่ เมื่อได้สัญญาณเราจะโจมตีแนวรบนั้น ล่อให้พวกซาฟท์ส่งกำลังมาให้กองเรือจัดการกองกำลังที่เหลือ และหนึ่งในพวกเราจะทำลายสะพานที่เชื่อมแมสไดรเวอร์กับท่าเรือจีหลง"

    "แล้วแมสไดรเวอร์ล่ะ"มูถามหัวหน้าทีม"จะปล่อยไว้หรือทำลายมัน"

    "การยึดคืนได้จะทำให้เอเชียตะวันออกได้เปรียบในอวกาศ แต่ไม่มีทางที่ซาฟท์จะมอบให้ง่ายๆ"เนียร์กล่าวเตือน"ผมจะออกไปก่อนและจะส่งสัญญาณให้คิระ ลิซและมูรวมพลกันจัดการศัตรู"

    "รับทราบ"คำตอบของนักบินทั้งสาม ก่อนที่เนียร์จะหันไปหานักบินอีกสองคน

    "คริสโตเฟอร์กับคางาริพวกเธอจะอยู่คอยหนุนอาร์คแองเจิ้ล"เนียร์จ้องไปที่คางาริซึ่งพยักหน้าทำตามคำสั่ง"พวกเธอต้องคอยคุ้มกันยาน และไม่ต้องห่วงเรื่องน้องสาว ฉันจะคุ้มกันให้เอง"

    "คุณพูดเหมือนฉันต้องการการปกป้องผู้บัญชาการ"ลิซกล่าวติดตลก

    เนียร์ตัดการเชื่อมต่อก่อนจะติดต่อไปที่สะพาน"นี่ไรเซอร์ถึงอาร์คแองเจิ้ล เราใกล้จะถึงไต้หวันรึยัง"

    "อยู่ในระยะพันเมตร กำลังรอสัญญาณโจมตี"

    "งั้นแจ้งพลเอกเป่ายี่ให้เริ่มโจมตีไต้หวัน"เนียร์พูดหรี่ตาลง"

    @@@@@@@@

    "พลเอก เราอยู่ในระยะยิงของกองทัพป้องกันไคชุน"ฟงรายงานผู้บัญชาการ เรือรบ56ลำประกอบด้วยอาคันซาส เดสโมเนส และฟรีเซอร์ประจำที่พร้อม

    "กัปตันราเมียสได้ส่งสัญญาณให้เปิดฉากยิง อาร์คแองเจิ้ลกำลังเคลื่อนไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ"

    "เริ่มโจมตีได้"

    มิสไซล์และปืนใหญ่ยิงไปยังฐานทัพซาฟท์ บางอันโดนโมบิลสูทยิงตก แต่ส่วนใหญ่ทำลายแนวชายฝั่ง โมบิลสูทหลายเครื่องระเบิด 

    ซาฟท์ได้รับคำสั่งให้โต้กลับ กระสุนปืนใหญ่ มิสไซล์และบีมถูกยิงทำลายกองเรือเอเชียตะวันออกไปหลายลำ แท่นปืนใหญ่ที่ไม่ระเบิดก็ยิงโต้กลับ

    "เฉิงตู เทียนชุย และไคฟงจมแล้ว"เจ้าหน้าที่รายงานเป่ายี่"เรืออีก6ลำได้รับความเสียหาย"

    พลเอกยกแขนขึ้น"โจมตีกดดันต่อไปและทำลายแนวป้องกันที่เขตชีจินและกูชาน"เป่ายี่ถ่ายทอดคำสั่ง"เราต้องซื้อเวลาให้กัปตันราเมียสและลูกเรือ"

    @@@@@@@@@

    “กองเรือเอเชียตะวันออกเข้าปะทะกับศัตรูที่เขตฉีจินและกูซาน”มิริอาเรียรายงาน

    เมอริวหันไปหาเฟลท์”พลทหารเกรซ มีโมบิลสูทหรือเรือดำน้ำรอบเราไหม”

    หญิงผมชมพูมองเรดาห์”ไม่มีค่ะ ศัตรูกำลังไปรวมสองเขต”

    “เตรียมโคลินโทสและแวเรียตไว้สำหรับศัตรูใต้น้ำ แจ้งผู้บัญชาการเซย์เอย์และทีมของเขาให้พร้อม”

    เมื่อได้รับไฟเขียวจากมิลี่ เนียร์พยักหน้าตัดการสื่อสารและติดต่อเพื่อนร่วมทีม”กองเรือเป่ายี่ได้ปะทะกองกำลังป้องกันของซาฟท์ เราต้องโจมตีปีกที่ไร้การป้องกัน คิระ คริสและมูให้ปฏิบัติตามฉัน”

    “รับทราบ”

    @@@@@@@@

    อาร์คแองเจิ้ลได้บินไปยังเกาะ ตะวันตกเฉียงเหนือของคาชุนซึ่งกองกำลังที่นั่นตื่นตระหนกเมื่อเห็นโมบิลสูทสีฟ้า พวกเขาพยายามติดต่อกองบัญชาการ แต่โดนคลื่นสัญญาณรบกวนจากอนุภาคสีเขียว มันส่องแสงท้องฟ้าสีครามด้วยความงดงามของมัน อย่างไรก็ตาม ภาพอันน่าหลงใหลถูกแทนที่ด้วยความสยดสยองเมื่อโมบิลสูทอีก2เครื่องและยานไฟเตอร์ตามหุ่นยนต์นั้นมา โมบิลสูทในเขตตะวันตกพยายามสกัดกองทัพโลก

    กันดั้มไมสเตอร์หรี่ตาลง เอ็กเซียหลบเลี่ยงลำแสงมากมายจากจินน์ เปิดใช้GNซอร์ดIIIตัดเอวของCGUEชักเฮฟวี่เบลดไรเซอร์พุ่งผ่านไปเฉือนโมบิลสูทอีกหลายเครื่องและเปลี่ยนเป็นโหมดปืนไรเฟิลยิงลำแสงสีชมพูโดนซูโนที่ยิงจากผืนน้ำ

    สไตรค์เร่งแรงดันขับเคลื่อน คิระยิงลำแสงโดนลำตัวจินน์4ตัวอย่างแม่นยำ ก่อนมีสัญญาณแจ้งเตือน ดินน์สองตัวกำลังเล็งมาที่เขา คิระหลบไปให้พ้นทางและใช้CIWSยิงมิสไซล์และใช้บีมเซเบอร์จัดการ

    "คริส มุ่งหน้าไปที่สะพานและตัดเส้นทางลำเลียง"เนียร์บอกนักบินเรเวน"เราจะสกัดโมบิลสูทจนกว่าจะส่งสัญญาณให้กัปตันราเมียสได้"

    คริสพยักหน้า"รับทราบ"เขาตอบมุ่งหน้าไปทางตะวันตกต่อไป เนียร์ไปหาไอล์สไตรค์

    "คิระ เราจัดการโมบิลสูทไปกี่ตัวแล้ว"

    "12ตัว"คิระตอบก่อนมองความเสียหายที่พวกเขาได้ทำ ก่อนสัญญาณแจ้งเตือนดังขึ้นและกล้องจับภาพ"โมบิลสูทอย่างน้อย25ตัวกำลังมุ่งหน้ามาทางเรา"

    "นั่นคือเหตุผลที่เรามาอยู่ตรงนี้"เขาบอกแล้วติดต่ออาร์คแองเจิ้ล"กัปตันราเมียส เราจะเปลี่ยนเส้นทาง ซาฟท์ส่งกำลังบางส่วนมาที่ตำแหน่งของเรา เปลี่ยนไปใช้แผนB"

    "เข้าใจแล้ว"เมอริวหันไปสั่งลูกเรือ"เตรียมพร้อมรบระดับ2 เปิดใช้อาวุธหลักและนำยานขึ้นเหนือน้ำ"

    ซาฟท์ประหลาดใจเมื่อยานลำนั้นโผล่ขึ้นมาและระบบอาวุธมันก็ออนไลน์ขณะมุ่งหน้าไปหาเนียร์และคนอื่นๆ ภาพนายพลฟงปรากฏขึ้น"กัปตัน ซาฟท์กำลังส่งกองทัพหลักไปยังตำแหน่งของคุณ ขณะนี้เรากำลังรอสัญญาณบุก"

    "แจ้งนายพลเป่ายี่ว่าให้เขาพร้อมบุกไปพร้อมกองเรือที่เหลือ"เมอริวบอกพันธมิตรมองดูกองกำลังซาฟท์กลุ่มใหม่"เราจะพยายามตรึงศัตรูไว้ในพื้นที่ของเรา"

    พลจัตวาพยักหน้าก่อนจะตัดสาย เธอหันไปสั่งCIC"แจ้งร้อยตรีดันเต้และคุณคางาริว่าพวกเขาพร้อมจะออกไปสนับสนุนคุ้มกันกองเรือ"

    .

    .

    .

    "เอาล่ะ พร้อมแล้วนะสาวๆ"วิคเตอร์หรือชื่อจริงจอห์น อลาริกแจ้งพวกสาวๆในการ์เดี้ยนกับสกายแกรสเปอร์ติดดาบ เขามองดูเด็กสาวทั้งคู่ผ่านจอมอนิเตอร์"ประหม่า"

    สาวๆมองขึ้นไปที่จอภาพของอดีตผู้บัญชาการหน่วยแบล็คฮอว์คซาฟท์

    "เปล่าสักหน่อย"คางาริพูดขึ้น"ที่ฉันกังวลคือฉันจะให้ความร่วมมือยังไง ฉันไม่เคยเข้าร่วมการฝึกของเนียร์"

    "ไม่ต้องห่วง"จอห์นโบกมือให้เธอมั่นใจ"ถ้ามีสิ่งหนึ่งที่เราได้รับนอกจากการปวดหลังและมือจากผู้บัญชาการ เราใช้ทักษะที่เรียนรู้เพื่อฝึกใช้ในสถานการณ์จริง"

    "ประสบการณ์มีค่ามากกว่าบทเรียนที่เขาให้เราทุกคน?"

    "เอ่อ....หมายถึงทั้งสองอย่างรวมกัน"วิคเตอร์พูด อะดรีนาลีนพลุ่งพล่านขณะช่องปล่อยโมบิลสูทเปิด"แต่ไม่ต้องห่วง หน้าที่ฉันคือดูแลความปลอดภัยของพวกเธอ....เจ้าหญิง"

    ลิซคิดว่าเขาแค่ล้อเลียนคางาริ แต่คางาริเบิกตากว้างมองวิคเตอร์....เขารู้รึเปล่า

    เธอนิ่งเงียบไปแต่ก็ตอบ"เข้าใจแล้ว"

    เมื่อได้สัญญาณ ทั้งสามก็บินออกไป

    .

    .

    .

    "กองทัพโลกต่อสู้อย่างหนัก"จีน่าพึมพำกับตัวเองขณะสังเกตการต่อสู้จากระยะไกลโดยใช้เรดาห์ของโกลด์เฟรม ข้างๆคือบาเร็ตแด็กเกอร์และฟอลบิดเดนบลู"พวกแก3คน เราจะเข้าไป หยุดสหายมันไว้ ฉันจะสู้กับบลูแฟลช"

    "แต่เราระเบิดอย่างอื่นได้ใช่ไหม"หนึ่งในนักบินถามอย่างกระตือรือร้น

    "ได้"กีน่ายอมรับคำขอของเขา และเขาได้ยินเสียงหัวเราะจากนักบินทั้งสาม

    @@@@@@@

    "สำเร็จ"ลิซ่าถอนหายใจขณะเรเวนทำลายสะพานเชื่อมได้ ที่เหลือก็แค่แมสไดรเวอร์ซึ่งน่าจะเป็นงานง่าย แต่เมื่อเธอซูมเข้าไป สิ่งที่เห็นทำให้เธอเบิกตากว้างด้วยความตื่นตระหนกติดต่อเอ็กเซียร์"ฉันกำลังสังเกตการณ์แมสไดรเวอร์ ซาฟท์กำลังติดตั้งอุปกรณ์บางอย่าง"

    "พวกนั้นตั้งใจทำลายแมสไดรเวอร์"เนียร์คิดในใจ แน่นอนซาฟท์ไม่ยอมให้แมสไดรเวอร์ตกอยู่ในมือกองทัพโลก

    "เธอช่วยยืนยันได้ไหมว่ามันเป็นวัตถุระเบิดหรืออุปกรณ์ติดขัดประเภทหนึ่ง"

    "ก็ได้"ลิซ่าพูดด้วยความหงุดหงิดหลบเลี่ยงการยิงจากจินน์พยายามเข้าไปใกล้เพื่อทำลายโมบิลสูทที่ติดตั้งอุปกรณ์"แต่ฉันต้องการความช่วยเหลือ"

    "เราจะมุ่งหน้าไปทางนั้นเมื่อยึดหัวหาดได้แล้ว"เนียร์บอกเธอหันไปทางสกายแกรสเปอร์ของมู"คุณมู ไปที่นั่นและช่วยลิซ เราให้ซาฟท์เปิดใช้งานมันไม่ได้"

    "รับทราบ"

    เนียร์หันไปสนใจด้านหน้า กองกำลังซาฟท์เสียโมบิลสูทไปมากจากการโจมตี เหลือไม่กี่ตัวที่ต่อต้าน กองกำลังยานเกราะของเปายี่เข้ายึดหัวหาด แต่ยังมีการต่อต้านจากรังปืนกลและปืนครก ทำให้นึกถึงการยกพลขึ้นยกของฝ่ายสัมพันธมิตรในสงครามโลกครั้งที่2 กำลังทหารของซาฟท์บนเกาะไต้หวันอ่อนแอลงมาก

    "เนียร์ กองทัพซาฟท์กำลังถอยกลับ"คิระพูดขึ้น

    "ฉันรู้แล้ว อีกนิดเดียวก็จบแล้ว"เนียร์บอกเพื่อน ซึ่งดีใจมากเมื่ออีกไม่นานการรบจะยุติ"ที่เหลือเราปล่อยให้เอเชียตะวันออกจัดการต่อได้ ว่าแต่โรงงานถูกยึดหรือยัง"

    คิระซูมภาพเข้าไปและพบว่าพื้นที่นั่นไม่มีเจ้าหน้าที่"เอ่อ ฉันไม่เห็นทหารในพื้นที่--"

    จู่ๆก็มีแรงเขย่า และเขาพบโฮปผลักมือที่ว่างใส่สไตรค์"ระวัง!!!"เขาผลักสไตรค์ออกจากลำแสงสีเขียวแดงที่ชวนให้นึกถึงเอจิส คิระฟื้นตัวและดูว่ามาจากไหน

    "กัปตันค่ะ ตรวจพบโมบิลสูทใหม่4ตัวจากทางใต้"เฟลท์รายงาน ทำให้เมอริวและนาทาร์ลประหลาดใจ

    เมื่อมองไปที่จอภาพ เขาเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจเมื่อเงาทั้ง4เข้ามาใกล้ โมบิลสูท3ตัวนำโดยหุ่นที่เหมือนแอสเทรย์เรดเฟรม แต่เป็นสีทอง และอุปกรณ์ตามมาตรฐานของกันดั้มเช่นบีมไรเฟิล โล่ และบีมเซเบอร์ เขาจำอาวุธชิ้นหนึ่งที่แอสเทรย์ถืออยู่ได้ มันคือเกโบลก์บาซูก้าของดูเอลตามข้อมูลที่เขาอ่านมา

    อีก3เครื่องยังเป็นปริศนา มันคล้ายบัสเตอร์แด็กเกอร์กับ105แด็กเกอร์

    "ลิซ เธอมีภาพเป้าหมายไหม ฉันไม่คิดว่ามันเป็นพวกซาฟท์"

    "ฉันไม่รู้เกี่ยวกับพวกนั้นเหมือนกันนะพันตรี"คริสอุทาน"แต่เราสามารถสรุปได้ว่าไม่ใช่อาวุธG พวกมันดูคล้ายบัสเตอร์ อีจิสและบลิตซ์ แต่อันสีทองนั่นไม่ใช่"

    @@@@@@@@@@

    "ในที่สุดฉันก็ได้พบคิชินตรงๆ"กีน่ารำพึงเข้าใกล้โมบิลสูทสีน้ำเงิน"แสดงให้เห็นว่าทำไมเธอคู่ควรกับอาวุธทรงพลังชิ้นนี้"

    กีน่าเปิดฉากยิงไรเฟิลบาซูก้าใส่เอ็กเซีย ซึ่งหักเลี้ยวขณะยิง3นัดจากGNซอร์ดIII กีน่าหลบออกไป โกลด์เฟรมยิงบาซูก้าอีกนัด เนียร์เปลี่ยนอาวุธเป็นโหมดซอร์ดและชักดาบต้านขณะกระสุนปะทะใบมีด เมื่อสัมผัสถึงบางอย่างด้านหลัง เนียร์หันกันดั้มกลับมาเพื่อปัดการฟันจากโกลด์เฟรม

    ที่อื่น ดีปฟอบิดเดนเปลี่ยนนำแบ็กแพ็กต์สีน้ำเงินคลุมหัวดำดิ่งลงใต้ทะเล เลี่ยงการยิงจากจินน์สีดำและการ์เดี้ยน

    "กัปตัน โมบิลสูทของศัตรูดำลงใต้น้ำและกำลังเคลื่อนที่ไปที่ท้ายยานค่ะ"เฟลท์รายงาน

    "เปิดใช้ปืนใหญ่แวเรียตและยิงโมบิลสูทสีน้ำเงินนั้นก่อนมันจะยิงเครื่องยนต์"นาทาร์ลสั่งอย่างรวดเร็ว ปืนใหญ่สองกระบอกหมุนลำกล้องยิงดีปฟอบิดเดนซึ่งใช้แบ็กแพ็ตซ์ป้องกันบีม

    "บ้าจริง"คิระตะโกนหงุดหงิดขณะสไตรค์ยิงบีมไรเฟิลไปที่แด็กเกอร์ฟูลสเป็กซ์โดยไม่สามารถยิงได้อย่างแม่นยำ เนื่องจากความเร็วในร่างโมบิลอาเมอร์ หุ่นสีน้ำเงินยิงปืนใหญ่6นัดเข้าหากันดั้ม คิระหลบไปทางขวา แต่เขาไม่รู้ว่ามิสไซล์คอบร้ามีระบบติดตามความร้อน คิระต้องร่อนลงมาเหนือพื้นดิน สไตรค์หันหลังและยิงบีมกับCIWSทำลายมิสไซล์ แต่เจอแรงกระแทกสะเทือนค็อกพิทเมื่อแด็กเกอร์เปลี่ยนเป็นโมบิลอาเมอร์และกระแทกที่ลำตัว

    บาเร็ตแด็กเกอร์อยู่เหนือทะเลเลี่ยงการยิงจากยานอาร์คแองเจิ้ล ใช้บีมแคนน่อนพลังงานสูง"ชลาร์ก"ปิดเครื่องยนต์ของยาน แต่ก่อนมันจะทำได้หุ่นสีฟ้าหลบกระสุนบีมสไนเปอร์จากจินน์ของจอห์น อลาริก เขายิงปืนใหญ่และลำแสงสคิวล่าไปที่จินน์สีดำนั่น แต่การ์เดี้ยนพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและป้องกันจอห์นด้วยโล่แสง

    @@@@@@@

    "คุณมู ผมเห็นแล้ว คุณบอกได้ไหมว่ามันคืออะไร"คริสร้องถามเหยี่ยวแห่งเอ็นดีเบี่ยนในสกายแกรสเปอร์ ซึ่งกัดฟันเมื่อเห็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนแมสไดรเวอร์

    "กุงเนียร์"มูชี้ไปที่อุปกรณ์ที่จินน์คุ้มกัน"มันถูกสร้างเพื่อปิดระบบโมบิลสูทด้วยคลื่นแม่เหล็กEMP พวกมันเคยใช้ที่สมรภูมิเอ็นดีเบี่ยนและอิกดราชิล"

    คริสขมวดคิ้วเมื่อรู้ถึงแผนการทำลายกองทัพโลกหากเปิดใช้งานได้

    "ถ้าพวกมันเปิดใช้ได้สักเครื่อง มันสามารถทำลายแมสไดรเวอร์ได้เพราะคลื่นแม่เหล็กสามารถทำลายรางได้และรวมทั้งปิดระบบอาวุธของกองทัพโลกทั้งหมด"

    "และหมายความว่าเราจะกลายเป็นเป้าให้ยิงเล่น"มูพูดขณะพวกเขาเข้าใกล้แมสไดรเวอร์"เราต้องจัดการมันเดี๋ยวนี้"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×