NC

คำเตือนเนื้อหา

เรื่องนี้อาจมีเนื้อหาหรือการใช้ภาษา
ที่ไม่เหมาะสม เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน
กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา

อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gundam Seed Extended : Bluedevil from Mars

    ลำดับตอนที่ #19 : Phase 19 : Negotiations and Departure(100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 951
      39
      24 มิ.ย. 65

    เฟส 19 : การเจรจาและการออกเดินทาง

    15 มีนาคม , CE71

    แพลนท์ , สภาสูงแพลนท์

    ซีเกล ไคลน์เตือนตัวเองเสมอให้ผ่อนคลายทุกขณะและเพื่อให้ได้ผลลัพย์ดีในสถานการณ์ที่เลวร้าย ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูเครเซีย ภรรยาผู้ล่วงลับและลักซ์ ลูกสาวของเขาจะบอกเขาทุกครั้งที่เขามีช่วงเวลาเหล่านั้น

    ตอนนี้สิ่งที่เขาประสบอยู่ไม่มีอะไรเลยนอกจากความโชคร้ายที่แสดงให้เห็นผ่านความล้มเหลวของกองทัพในญี่ปุ่น เขานิ่งเงียบเมื่อสภาปะทุขึ้นมาด้วยความโกลาหลกับรายงานที่พวกเขาได้รับจากแนวหน้า

    ญี่ปุ่นควรถูกใช้เป็นฐานทัพหน้าในอนาคตและโจมตีทางอากาศไปยังจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อฐานที่มั่นสุดท้ายของกองทัพโลกที่คิวชูแตกพ่าย ร่วมกับฐานทัพไต้หวัน กวางสีและกวนตง จะเป็นการจัดหาทรัพยากรเพิ่มเติมสำหรับการทำสงคณามและพลเมืองในแพลนท์

    บลูแฟลชได้เขย่าพวกเขาไปที่แกนกลางตั้งแต่การรบที่วงโคจร อย่างน้อยที่ดินแดนอาทิตย์อุทัยพวกเขาสถานการณ์ได้เปรียบและน่าจะยึดคิวชูในไม่ช้า

    นั่นคือจุดที่เริ่มตกต่ำ

    กองกำลังบุกของซาฟท์ถูกขับไล่โดยสูญเสียอย่างหนักเมื่อบลูแฟลชและยานมีขามาถึงเสริมกำลังเอเชียตะวันออกและยูราเซีย ภายในเวลาไม่ถึงสัปดาห์ โชคพวกเขาก็หมดลง จากรายงานล่าสุดเกาะญี่ปุ่นถูกกองทัพโลกยึดคืนเมื่อผู้บัญชาการวูล์ฟได้ยอมจำนนต่อหน้ากองเรือจากจีนแผ่นดินใหญ่ที่ขู่จะล้อมและทำลายพวกเขา กองทัพซาฟท์ที่เหลือที่ฮอกไกโดรีบอพยพไปยังฐานที่เกาะแบริ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือของรัสเซียหนีการปิดล้อม

    รายงานทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่คณะสภา หลายคนตื่นตระหนกที่บลูแฟลชและยานมีขาสามารถย้อนกลับความได้เปรียบก่อนหน้านี้ได้อย่างรวดเร็ว ถ้าสามารถฟื้นประเทศได้เร็วขนาดนั้น พวกเขาจะสูญเสียมากแค่ไหนถ้าอลาสก้าผลิตจำนวนมากขึ้น

    นั่นเป็นความคิดที่ถูกสาปโดยสภาสูงของแพลนท์ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น มันจะบอกถึงหายนะของทุกอย่างที่พวกเขาทำ

    “ไม่กี่สัปดาห์ก่อน เราใกล้จะโจมตีเอเชียตะวันออกแล้ว”แพทริคครุ่นคิดกำหมัดแน่น พยายามไม่ระเบิดตั้งแต่ได้รับรายงาน”แต่แล้วเพียงแค่โมบิลสูทตัวเดียวทำให้ทุกอย่างพัง”

    “เราไม่ได้พูดถึงโมบิลสูทเครื่องเดียววุฒิสมาชิกซาล่า”ไอลีนเตือนเขาเช็ดเหงื่อจากหน้าผาก”ยังมียานมีขาและโมบิลสูทตัวอื่นๆ หนึ่งในนั้นคือGที่ประสานงานกับเขาได้ดี”

    “ทั้งหมดขับโดยเนเชอรัล”เจเรมีพูดเสียงไม่พอใจและรังเกียจ”และคิดว่าพวกเขาส่งผลกระทบต่อการปฎิบัติการของเราในเอเชีย”

    “จากปัญหาที่วงโคจร แอฟริกา แล้วก็ที่นี่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากองทัพโลกจะใช้สิ่งนี้เป็นโฆษณาชวนเชื่อเพื่อระดมมวลชนไปยังเป้าหมายของพวกเขา”เท็ด เอลฟ์แมนพูดอย่างตื่นตระหนก”เพื่อแสดงให้ชาวโลกเห็นว่าโคออดิเนเตอร์ไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่ทุกคนคิด”

    คำพูดนั้นทำให้สภาเหมือนโดนฟ้าผ่า บรรยากาศสงครามในตอนนี้ คนจำนวนมากในกองทัพซาฟท์ไม่มั่นใจในสิ่งที่พวกเขาเชื่อเหมือนตอนเริ่มสงคราม พวกเขาถูกแทนที่ด้วยความกลัวและแม้แต่ลังเลที่จะไปตามยานมีขาและบางคนเริ่มส่งคำร้องขอหน้าที่ในอวกาศ

    “เรากำลังนอกเรื่องแล้ว”แพทริกแทรก มองเจ้าหน้าที่ชุดดำที่ส่งข่าว”เกิดอะไรขึ้นที่โตเกียว แล้วทัสก์ฟอสโนวากับหน่วยครูเซ่ล่ะ พวกเขาไม่ปรากฎตัวเมื่อพันธมิตรถูกปิดล้อมหรือ”

    “พวกเขามาครับท่าน”เขากล่าวด้วยความกลัวต่อความโกรธของสมาชิกสภา”ตามรายงาน พวกเขามาสกัดกั้นยานมีขาและโมบิลสูท แต่ผู้บัญชาการวูล์ฟสั่งให้พวกเขาล่าถอยก่อนจะยอมแพ้ต่อกองทัพโลก มีคลิปวิดีโอที่หน่วยสอดแนมของเราถ่ายได้ในการต่อสู้ครับ”

    หน้าจอเผยให้เห็นการต่อสู้ที่โตเกียว พวกเขาพบว่าบลูแฟลชปะทะกับทีมโนวา ไฮเปอเรียนที่ปกป้องยานเกราะยูราเซียด้วยโล่แสง มีการส่งโมบิลสูทน้อยเพราะการโจมตีก่อนหน้านี้ของเอเชียตะวันออกที่เผาบ่อน้ำมัน พวกเขายังมองดูสไตรค์ปลดอาวุธอีจิสและเกือบทำลายบลิตซ์ แต่ดินน์ช่วยเขาไว้

    หัวใจของยูริ อามาลฟี่เต้นระรัวเมื่อสไตรค์กำลังจะจบชีวิตลูกชายเขา แต่โล่งอกเมื่อเขาถูกช่วยโดยหน่วยโนวา แพทริคหน้าบึ้งอย่างผิดหวังเมื่ออัสรันถูกจัดการโดยนักบินเนเชอรัลไม่สนใจว่าลูกชายจะตาย

    “เรามีข้อมูลอะไรบ้างว่าเกิดอะไรขึ้นกับทหารที่ถูกกองทัพโลกจับได้”ซีเกลถาม แม้สถานการณ์เลวร้ายที่เป็นอยู่ตอนนี้ เขาอธิษฐานขอให้เชลยซาฟท์อยู่ในมือที่ดี

    “จากรายงานของหน่วยสอดแนม 3,000คนถูกขังไว้ในค่ายกักกันซึ่งมีรายงานว่ากองกำลังเอเชียตะวันออกและยูราเซียมีแผนจะใช้พวกเขาแลกเปลี่ยนเชลยศึกที่ถูกจับในคาร์เพนทาเรียและหมู่เกาะแบริ่ง แต่ยังได้รับการปฎิบัติอย่างดี”เจ้าหน้าที่บอกประธาน ซึ่งทำได้เพียงถอนหายใจอย่างโล่งอก”นอกจากนี้ โมบิลสูทอย่างน้อย30ถูกยึดเมื่อยอมแพ้”

    ซีเกลสะดุ้งเมื่อได้ยินเรื่องนี้ โดยเห็นว่าพวกเขาน่าจะใช้โมบิลสูทที่ยึดได้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด แต่เขาก็ส่ายหัว ชีวิตคนที่โดนจับมีค่ามากกว่าอาวุธ และเขายินดีจ่ายถ้าเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม พวกหัวรุนแรงโดยเฉพาะซาล่าไม่มีอารมณ์จะเจรจากับเนเชอรัลในตอนนี้และตะโกนใส่เขาเงียบๆ

    “ถ้างั้นแจ้งพวกเขาว่าเรายินดีจะเจรจาแลกเปลี่ยนตัวนักโทษกับพวกเขาเพื่อส่งคืนคนของเราอย่างปลอดภัย”ซีเกลแจ้งเจ้าหน้าที่ปฎิบัติตามคำสั่งโดยปล่อยให้คนอื่นตกใจเพราะตอนนี้กองทัพโลกสามารถเข้าถึงโมบิลสูท แม้เชื่อว่าเนเชอรัลไม่สามารถขับโมบิลสูทได้ แต่มันถูกหักล้างด้วยการมีอยู่ของยานมีขา ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเนเชอรัลสามารถขับโมบิลสูทด้วยระบบOSและการฝึกที่ถูกต้อง

    แพทริคกัดฟันด้วยความโกรธเต็มที่ 

    “ถ้าวูล์ฟ พาวเวล และไรชาร์ตกล้าปรากฎตัวที่ห้องนี้ ฉันจะยิงพวกเขาเพราะเหตุภัยพิบัตินี้”

    “ตอนนี้เราต้องกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมว่าเราจะตอบโต้บลูแฟลชด้วยสิ่งที่เรามีได้อย่างไร และแจ้งให้ผู้บัญชาการภูมิภาคอื่นหยุดปฎิบัติการชั่วคราว และมุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงหรือปรับแต่งอาวุธที่มีประสิทธิภาพให้มากขึ้น”

    “ท่านประธาน เราต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาไปที่อลาสก้า”เอซาเลียประท้วงอย่างหงุดหงิด เป็นความคิดร่วมกันของสมาชิกสภาคนอื่นๆ”ถ้าเป็นอย่างนั้นฉันขอให้เราใช้โมบิลสูทเทรียมโปรเจ็กสู้กับบลูแฟลช”

    “การส่งโมบิลสูทที่ยังไม่ได้ทำการทดสอบเป็นแนวทางที่ดีแล้วหรือ”สมาชิกฝ่ายซีเกลกล่าวอย่างตกตะลึง”เราอาจต้องเสียมันแทนหรือถูกยึดโดยกองทัพโลก”

    “ผมต้องเห็นด้วยกับสมาชิกคาริม”ยูริ อามาลฟี่พูดขึ้น”โมบิลสูทนั้นต้องการพลังงานจำนวนมหาศาลซึ่งไม่สามารถต้านบลูแฟลชได้หากส่งออกไป และโชคไม่ดีที่ระบบพลังงานนิวเคลียร์คืบหน้าเพียงเล็กน้อย”

    “การใช้จินน์และดินน์มาตรฐานถือเป็นโทษประหารชีวิตสำหรับนักบิน”สมาชิกสภาหลุยส์ เลเทอร์”ฉันขอเสนอให้นำโมบิลสูททีมโนวามาผลิตในปริมาณจำกัด อย่างน้อยเราก็มีความได้เปรียบหากมีอาวุธล้ำสมัยจำนวนมากขึ้น”

    ซีเกล ไคลน์ขมวดคิ้วอยู่ครู่หนึ่ง แม้จะมีราคาแพงและใช้เวลานาน เมื่อเวลาผ่านไป ขวัญกำลังใจกองทัพซาฟท์ก็ค่อยๆลดลง มีการร้องขอไปประจำภาคพื้นอวกาศเพิ่มขึ้นในตอนนี้ หลายคนต้องการเลี่ยงบลูแฟลชและยานมีขา แต่ซีเกลต้องเลือกหยุดพวกเขาจากการไปถึงอลาสก้าด้วยความสูญเสียที่ยอมรับได้ 

    และไม่มีใครลืมว่าถ้ามันหายไปพร้อมกับความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์โคออดิเนเตอร์ โอกาสนั้นไม่สามาถมองข้ามได้

    “ดีมาก ผมให้สิทธินั้นกับคุณสมาชิกสภาไลต์เนอร์ในการปรับปรุงสายการผลิตโมบิลสูทของเราตอบสนองพัฒนาการนี้ แจ้งผู้บัญชาการภูมิภาคให้ระมัดระวังและเสริมกำลังในเส้นทางที่เป็นไปได้ที่ยานมีขาและบลูแฟลชจะผ่าน”

    @@@@@@@@

    อาร์คแองเจิ้ล

    “แล้วรู้สึกยังไงที่ได้เป็นวีรบุรุษของคนทั้งประเทศ”มูถามด้วยรอยยิ้ม

    2วันแล้วตั้งแต่การปลดปล่อยญี่ปุ่น อาร์คแองเจิ้ลอยู่ที่เมืองหลวงเพื่อซ่อมแซมและเติมเสบียง เมอริวอนุญาติให้ลูกเรือพักสั้นๆและออกไปเดินเล่นในเมือง เซ็ตสึนะเลือกจะใช้เวลาปรับแต่งโมบิลสูท

    มันช่วยไม่ให้เซ็ตสึนะเป็นที่รู้จักในวงกว้างสำหรับความพยายามของหน่วยข่าวกรองซาฟท์และมูเข้าใจเหตุผลที่เขาเลือกจะอยู่บนยานเพื่อเลี่ยงความสนใจจากมวลชนและทหาร

    “ส่วนตัวก็ไม่ต่างกันมาก”เซ็ตสึนะตอบเหยี่ยวแห่งเอ็นดีเบี่ยนอย่างไม่ใส่ใจ”ยกเว้นการที่คนมองเราในมุมที่ต่างไปจากเดิม”

    “เดี๋ยวก็ชินไปเอง”มูพูดอย่างไร้กังวล”เซเลสเชี่ยลบีอิ้งได้รับการยอมรับสำหรับสิ่งที่นายทำไหม”

    “เราไม่เคยได้รับสิ่งใดเลยตั้งแต่แทรกแซงด้วยกำลังอาวุธ”เซ็ตสึนะตอบ"ผมยังเด็กจึงเป็นแค่สมาชิกระดับล่าง กระทั่งถูกเวด้าเลือกเป็นกันดั้มไมสเตอร์และได้โค้ดเนมเซ็ตสึนะ เอฟ เซย์เอย์ และถูกส่งไปเฮลิโอโปลิสเพื่อเอาหุ่นที่พลาดไปตกอยู่ในมือสหพันธ์โลกคืน แต่....ผมล้มเหลวเรื่องปกปิดตัวตน"

    "เห็นชัดเลยล่ะ ไม่รู้เบื้องบนของเธอจะว่ายังไงบ้าง"มูพูดคลายเครียดแต่เซ็ตสึนะไม่ขำด้วย โทษของคนที่ทรยศหรือเปิดเผยข้อมูลขององค์กรคือโดนกำจัดทิ้ง ทีแอเรียต้องคิดแบบนั้นอยู่แน่

    "ผมยังสงสัยว่าทำไมไม่มีกันดั้มไมสเตอร์คนไหนบุกมากำจัดผม"เซ็ตสึนะพูดตรงๆ มูรู้สถานะของเขาที่ไม่อาจกลับไปกลุ่มตัวเองได้

    "นายถูกซาฟท์หวาดกลัวในฐานะบลูแฟลชและเป็นที่เคารพของเอเชียตะวันออกและยูราเซียในฐานะคิชิน"

    "ผมไม่ค่อยชินกับมัน แต่มันคงคล้ายกับที่คุณโดนเรียกด้วยฉายาบางครั้ง"

    รอยยิ้มมูจางหายไปพร้อมกับถอนหายใจ"ฉันไม่เคยบอกสินะว่านั่นไม่ใช่ฉายาที่ฉันภูมิใจ โดยเฉพาะสิ่งที่เกิดในการรบที่เอนดีเบี่ยน"

    "อะไรนะครับ?"

    "ไม่หรอก ลืมไปเถอะ"

    เนียร์จ้องเขาด้วยตาว่างเปล่า มูสังเกตได้ว่าเป็นความอยากรู้อยากเห็นของเด็กๆแบบคิระ เขาถอนหายใจและอธิบาย

    "เมื่อ1ปีก่อน ที่แนวรบกลานาดี้ เอ็นดีเบี่ยน เครเตอร์เป็นฐานทัพกองทัพโลกบนดวงจันทร์ และฉันได้รับมอบหมายให้ดูแลฝูงบินซีโร่ เราต้องปกป้องฐานทัพจากซาฟท์ แต่ฉันต้องสูญเสียฝูงบินทั้งหมด และกองยานที่3ก็ถูกกองทัพซาฟท์กำจัดไป"

    เนียร์สัมผัสได้ถึงความโกรธที่เพิ่มขึ้นของเขา เขารู้สึกว่ายังมีอะไรมากกว่านั้น

    "ระบบไซคลอปส์ในฐานทัพทำงาน สังหารเจ้าหน้าที่ในฐานและซาฟท์ที่พยายามยึดมัน ฉันพยายามหาคำตอบว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่กองบัญชาการสูงสุดบอกว่าพวกซาฟท์ได้ใช้เครื่องแอนแจมเมอร์ พวกเขาไม่มีทางเลือก และยกย่องสิ่งที่ฉันทำที่นั่นและมอบฉายาให้ฉันมา"

    มูขมวดคิ้วที่ตัวเองเล่าเบื้องหลังให้คนอื่น เขาไม่แน่ใจว่าทำไมเล่าส่วนสุดท้าย แต่เขารู้สึกว่าอย่างน้อยเซ็ตสึนะจะฟัง

    "พลเอกฮาเบอร์ตันบอกว่ากองบัญชาการสูงสุดถูกควบคุมโดยหัวรุนแรงและบลูคอสมอส ฉันคงไม่คิดจะอยู่กับกองทัพโลกอีกถ้าเราใกล้ถึงอะลาสก้า

    "ผมขอแสดงความเสียใจด้วย แต่ผมต้องยอมรับว่าการกระทำของกองบัญชาการสูงสุด....โหดเหี้ยม เห็นชัดว่าพวกเขาไม่เห็นคุณค่าชีวิตที่เสียไป"

    "ฉันไม่โทษหรอกถ้าเธอมีปัญหาที่จะไว้ใจกองทัพโลกนับตั้งแต่อาร์เทมิส โดยเฉพาะเธอไม่ใช่ทหารอย่างเป็นทางการ"

    "ไม่...อย่างน้อยก็ไม่ใช่ทั้งหมด"เซ็ตสึนะตอบ เขาได้พบพลเอกฮาเบอร์ตันกับนายพลชิราโทริแล้ว ทั้งสองเห็นค่าชีวิตคนของเขาและสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิด"ถ้าสิ่งที่คุณสงสัยอาจเป็นจริง เราควรระวังกองบัญชาการสูงสุด"

    "เธอคิดว่าเราควรบอกเรื่องนี้กับกัปตันราเมียสหรือร้อยตรีบาจิรูลไหม"

    "ไม่ ผมไม่คิดว่านั่นเป็นทางเลือกที่ดี โดยเฉพาะถ้าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ของยานลำนี้"เซ็ตสึนะให้เหตุผล"เพราะถ้ากองบัญชาการสูงสุดสงสัยในความจงรักภักดีก็อาจจะเกิดเรื่องเลวร้ายตามมา"

    "ที่เธอพูดก็ถูก"มูพยักหน้าก่อนจะเปลี่ยนเรื่อง"ฉันนึกขึ้นมาได้ คลังแสงของซาฟท์ถูกยึด เธอช่วยฝึกคนที่นี่ให้ใช้ป้องกันตัวได้ไหม"

    เซ็ตสึนะได้ยินแล้วถอนหายใจ"คุณไม่ใช่คนแรก นายพลชิราโทริขอให้ผมฝึกซ้อมให้นักบินใช้หุ่นซาฟท์ที่ยึดมา คิระช่วยเขียนระบบOSใหม่ อย่างน้อยผมก็ไม่ได้ทำงานคนเดียว เรน่า เจน และเฟลท์ก็เต็มใจจะช่วยเรื่องนี้ก่อนที่เราจะออกเดินทาง"

    มูผิวปากจิบกาแฟ"ฉันว่าพวกเขาต้องตื่นเต้นที่ได้ถูกฝึกโดยวีรบุรุษสงคราม....โอ๊ะ จริงสิ"

    "อะไร?"

    "นายโชคดีจังนะที่มีสาวน้อยน่ารักอย่างเฟลท์ เกรซเป็นฝ่ายตามจีบ"มูยิ้มมีเลศนัย เขาอิจฉาจริงๆที่เนียร์มีดวงเรื่องผู้หญิงน่ารัก ทั้งเฟลท์ เกรซ , ลักซ์ ไคลน์ หรือแม้แต่บลัดดี้ปริ๊นเซส

    "ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร เฟลท์ เกรซ คอยดูแลผมเพราะเป็นคำสั่งองค์กร"เซ็ตสึนะพูดจบเดินจากไป

    ".....เจ้าหนูนี่งี่เง่าเรื่องผู้หญิงแฮะ"

    เสียงหนึ่งดังขึ้น มูหันไปเห็นจอห์น อลาริคเดินออกมา เขาเองก็ต้องซ่อนตัวอยู่บนยานเช่นกัน และเขาคอยจับตาดูนักบินบลูแฟลชที่เพิ่งถล่มกองยานที่11ของเขา

    "คุณเห็นว่ายังไง"

    "ฉันว่าเฟลท์ เกรซเป็นคนทำให้เซเลสเชี่ยลบีอิ้งยังไม่ส่งคนมาตามล่า"

    จอห์นคาดการณ์ได้ว่าเฟลท์ต้องคอยส่งการปฏิบัติการของเซ็ตสึนะไปให้องค์กรเธอโดยไม่ให้ใครบนยานจับได้ รวมทั้งข้อมูลหุ่นGซี่รี่ย์ตัวอื่น และรายงานว่าเซ็ตสึนะช่วยให้กำลังรบสองฝ่ายสมดุลมากขึ้น เซเลสเชี่ยลจึงเลือกซ่อนตัวดูสถานการณ์ต่อไป อย่างน้อยจนกว่าจะมีปฏิบัติการครั้งใหญ่

    "ให้ตายสิ งี่เง่าชะมัด"มูเกาหัว

    @@@@@@@@@@

    ทหารและพลเรือนกำลังยุ่งอยู่กับการซ่อมแซมเมือง ที่ฐานทัพอากาศ เจ้าหน้าที่ของเอเชียตะวันออกรวมกันอยู่ที่ห้องประชุม ได้รับแจ้งจากนายพลให้ไปรายงานตัว พวกเขาพบเซ็ตสึนะ คิระ เรน่า เจนและเฟลท์ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา กันดั้มไมสเตอร์ก้าวไปข้างหน้า

    "อย่างที่ทุกคนทราบ นายพลชิราโทริเรียกพวกคุณมาเพราะมีเรื่องประกาศ"เซ็ตสึนะทำงานเป็นมืออาชีพ คิระบิดตัวไปมารู้สึกประหม่ากับเจ้าหน้าที่หลายสิบคน ลิซ่าบีบมือเบาๆยิ้มให้กำลังใจให้เขาสงบลง"เมื่อสัปดาห์ก่อน พื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศถูกซาฟท์ยึดครองด้วยความเหนือกว่าของอีกฝ่ายเพราะพวกนั้นมีโมบิลสูท"

    ทหารเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะผู้ที่ต่อสู้ในช่วงแรก รู้สึกท้อแท้กับคำพูดของกันดั้มไมสเตอร์ แต่ยอมรับความจริงว่าในครั้งนี้ พวกเขามีอาวุธและจำนวนมากกว่า

    "อย่างไรก็ตาม ความตั้งใจในการปกป้องประเทศจากผู้รุกรานและประชาชนที่ไม่ยอมแพ้ทำให้สามารถปลดปล่อยประเทศจากซาฟท์ได้ แม้จะมีโมบิลสูทก็ตาม"

    ขวัญกำลังใจทหารได้รับการฟื้นฟู มันเป็นการปฏิบัติการร่วมของแอตแลนติก ยูราเซียและเอเชียตะวันออกที่ทำให้พวกเขาตีโต้พวกซาฟท์ในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด

    "เขามีเสน่ห์ดึงดูดมากเมื่อเทียบกับผู้บัญชาการส่วนใหญ่ของเราใช่ไหมเจน?"เรน่ากระซิบเพื่อนร่วมงานที่อดไม่ได้ที่จะพยักหน้า

    "นั่นคือเหตุผล..."เซ็ตสึนะพูดยังตีสีหน้าเคร่งขรึม"อาร์คแองเจิ้ลจะฝึกการใช้โมบิลสูทและอาวุธในคลังแสงซาฟท์ที่ยึดมาได้ เพื่อเป็นการปกป้องบ้านเกิด"

    คำประกาศของกันดั้มไมสเตอร์ทำให้ทหารเอเชียตะวันออกตกใจกับสิ่งที่เขาเสนอและเริ่มกระซิบกระซาบ

    "เราจะได้ขับโมบิลสูทเหรอ เจ๋ง"

    "คิชิน...จะฝึกพวกเราเหรอ?"

    "เขาจริงจังไหม เราจะทำตามที่สั่งได้ไหม"

    เซ็ตสึนะเข้าใจปฏิกิริยาของพวกเขา เนื่องจากคนส่วนใหญ่เชื่อว่าเนเชอรัลไม่สามารถขับโมบิลสูทได้ แต่การปรับระบบOSให้เหมาะสมจัดการปัญหานั้นได้

    "ด้วยความเคารพท่านผบ. แต่เราจะขับโมบิลสูทได้ยังไง มีแต่โคออดิเนเตอร์ที่ทำได้"

    "นั่นไม่สำคัญ....เพราะฉันก็เป็นเนเชอรัลเหมือนพวกนาย"

    เนียร์ไม่ได้โกหกจริงๆ ในขณะที่การใช้ชีวิตที่แพลนท์ทำให้เขาคุ้นเคยกับระบบOSของซาฟท์และขับมันได้ แต่เขาก็ไม่ได้รับการปรับแต่งพันธุกรรมเขาจึงถือได้ว่าเกิดมาเป็นตามธรรมชาติ

    "เป็นไปไม่ได้"หนึ่งในนั้นอุทาน"ไม่มีทางที่เนเชอรัลจะทำได้โดยเฉพาะกับกองยานที่6และโตเกียว"

    "เป็นไปไม่ได้เพราะนายคิดแบบนั้น"เซ็ตสึนะสั่งสอนอย่างใจเย็น"การเป็นเนเชอรัลไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่สามารถทำสิ่งที่โคออดิเนเตอร์ทำได้และมีแต่ความพยายามเท่านั้นที่จะทำให้ทุกคนดึงศักยภาพตัวเองออกมาได้สูงสุด"

    คำพูดเหล่านั้นทำให้ทหารตกตะลึงและเงียบไป สีหน้าของคิระสดใสขึ้น ขณะที่เฟลท์เฝ้ามองเขาจากด้านหลังด้วยความหลงใหล

    "ไม่ว่าเป็นโคออดิเนเตอร์หรือเนเชอรัล ไม่สำคัญตราบใดที่พวกเขาพยายามและมุ่งมั่นจะทำให้สำเร็จ"เซ็ตสึนะกล่าว"ดังนั้นฉันขอถามกับพวกนายทุกคน พวกนายอยากปกป้องประเทศไหม"

    "ครับ"

    "ถ้าฉันขอให้พวกนายเสียสละเลือด หยาดเหงื่อและน้ำตา พวกนายจะปฏิบัติตามเพื่อปกป้องบ้านและครอบครัวไหม"

    "ครับ"

    "และท้ายที่สุด ฉันคาดหวังความเต็มใจและความตั้งใจของพวกคุณว่าจะทำอะไรได้บ้าง"

    "เฮ!!!!"ฝูงชนโห่ร้อง ตอนนี้ยืนขึ้นและโห่ร้องให้กันดั้มไมสเตอร์ที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก สงสัยว่าเขาทำเกินไปในฐานะ"ผู้กอบกู้"ของที่นี่หรือไม่ เขาหันไปหาคิระ เจน เรน่าที่พยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แสดงว่าพวกเขาเต็มใจจะช่วยพวกเขา

    ขณะเดียวกันเฟลท์ที่จ้องเขาตลอดก็พยักหน้าก้มหัวไม่ให้สีหน้าแดงของเธอ

    เนียร์อดไม่ได้ที่จะยิ้มเช่นกัน

    สองวันแรกของการฝึกดำเนินไปอย่างราบรื่น ปัญหาเครื่องยนต์เป็นปัญหาหลักแต่ได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วด้วยความช่วยเหลือจากช่างซ่อม ซึ่งได้ทำการศึกษาโมบิลสูทและซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย คิระกับคริสใช้เวลาปรับระบบOSใหม่ให้เหมาะสมกับเนเชอรัลมากขึ้น ขณะที่เจน เรน่า และลิซ่าสอนเจ้าหน้าที่เอเชียตะวันออกในการขับโมบิลสูท ทรีเป็นผู้นำการสาธิตในการประลองที่เนียร์ให้เขาทำ

    จนถึงตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี เนียร์บอกกับตัวเองขณะเจ้าหน้าที่เอเชียตะวันออกปรับตัวกับระบบOS คิระได้รับคำชื่นชมจากนักบินเอเชียตะวันออกหลายคน โดยเฉพาะผู้หญิง ทำให้คิระเขินอายมาก

    ขณะคิระกำลังไปปรับระบบที่หุ่นตัวถัดไป เขาก็ชนร่างตรงหน้าล้มลง เขาเงยหน้าขึ้นเห็นสายตาแข็งกร้าวของกัปตันมอร์แกน ซึ่งคิระกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของนายทหารยูราเซีย

    "งั้น...นายเป็นเพื่อนสนิทของคิชิน ปีศาจสีขาวแห่งอาร์คแองเจิ้ล"

    คิระขมวดคิ้วกับชื่อเล่นที่กัปตันยูราเซียตั้งให้เขา ไม่คิดว่าจะมีชื่อเสียงจากผลงานที่เขาทำ"ใช่...ทำไมเหรอครับ"

    "ฉันอยากเรียนการขับโมบิลสูทด้วย"

    คิระกระพริบตาหลายครั้ง"อะไรนะครับ"

    "ฉันอยากเรียนขับโมบิลสูท"มอแกนบอกนักบินหนุ่ม"ฉันใช้เวลาหลายปีในแนวหน้าเพื่อหาทางเปลี่ยนกระแสสงคราม และโมบิลสูทเป็นกุญแจสำคัญในทุกวันนี้ ฉันคิดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องเปลี่ยนหน้าที่จากขับรถถังเป็นขับโมบิลสูท"

    คิระมองไปทางเนียร์ครู่หนึ่ง ซึ่งกันดั้มไมสเตอร์ยอมรับด้วยการพยักหน้าง่ายๆ

    "ก็ได้ แล้วจะเริ่มยังไงดี"

    "เริ่มจากจินน์"

    หลายชั่วโมงต่อมาเนียร์ยืนอยู่ในทุ่งพร้อมเจ้าหน้าที่หลายคนและมีดินน์ข้างหน้าพวกเขา

    "ต่อไปเราจะฝึกการเคลื่อนที่บนอากาศ แม้ดินน์จะมีน้อย แต่ใช้เกาส์ทดแทนได้ ทรี โซเซียสคนนี้จะสาธิตให้เป็นตัวอย่าง"

    เนียร์หยิบวิทยุติดต่อนักบินในหุ่นดินน์"ทรี นายพร้อมแล้วใช่ไหม"

    "ครับท่าน"ทรีตอบในหุ่นดินน์ที่อาวุธไม่เปิดใช้งาน มันเริ่มลอยขึ้นและตกลงมากระทันหัน

    "มีปัญหาทางเทคนิคอีกเหรอทรี"เนียร์ถามแต่พบกับความเงียบ

    "ทรี ได้ยินรึเปล่า ตอบด้วย"เนียร์พยายามเรียก จนกระทั่งได้ยินเสียงหอบหายใจ

    "คุณคิดว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่า"เรน่าถาม เหลือบมองเพื่อนนักบินคนอื่นที่กังวลที่นักบินเงียบไป

    "ตรวจสอบ แต่ระวังหน่อย"เนียร์นั่ง เรน่าก็ปีนขึ้นเครื่องเปิดค็อกพิทและพบทรีที่หอบหายใจ

    "ฉันคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดกับเขา"เรน่าร้องดึงทรีออกจากห้องนักบินพาลงพื้น แต่ทรีหลุดออกจากมือเรน่า เขาเดินโซเซไปข้างหน้าจับหน้าอกร้องด้วยความเจ็บปวด ฝูงนักบินรวมตัวดูว่าเกิดอะไรขึ้น

    "เรียกหน่วยแพทย์มาเร็วเข้า"เนียร์สั่ง คิระกับเจนรีบวิ่งไปหาคนที่ใกล้ที่สุด เรน่าเดินมาหาชายคนนั้นถูหลังเบาๆและเช็ดเหงื่อ

    ไม่นานแพทย์มาถึงและมัดทรีไว้บนเปลหามและพาไปห้องพยาบาล เนียร์มองหน่วยแพทย์ไปและมองคนฝึก

    "ฝึกต่อไป ฉันจะแทนที่ทรีในการสาธิต"เขาบอกและหันไปมองเพื่อนร่วมทีมของทรี

    "จีนด์ นายมีข้อมูลเกี่ยวกับยาของทรีไหม"

    "ไม่ครับผู้การ"เขาตอบ"ยาของทรีถูกเก็บเป็นความลับ แต่เขาเพิ่งกินเมื่อ2-3ชั่วโมงก่อน แปลกมาก ไม่น่าต้องกินอีกจนกว่าจะถึงเวลาทานยา"

    เนียร์พยักหน้าจับคางประเมินสถานะทรีในฐานะมนุษย์คาร์บอน แม้เขาจะมีความรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้ แต่เขาพอจะรู้ว่าโคลนนิ่งไม่สมบูรณ์ พวกเขาต้องทานยาต่อเนื่องให้เสถียร

    มีการพยายามสร้างทหารโคลนในบลูคอสมอส มันไม่ประสบความสำเร็จและพวกเขาหันมาใช้ซูเปอร์โซเจอร์โดยใช้เด็กกำพร้าเช่นอัลเลลูย่าและมารี นอกจากโคลนนิ่งแล้ว อาการของทรีคล้ายกับตัวเขาเมื่อก่อนที่ต้องใช้ยารักษาสภาพจิตใจจนกระทั่งGNรักษาได้

    และนั่นทำให้เนียร์เกิดความคิด

    @@@@@@@@@

    “ผู้บัญชาการเซย์เอย์ คุณแน่ใจเหรอว่ามันจะได้ผล”ชิราโทริถามกันดั้มไมสเตอร์เมื่อเห็นทรี โซเซียสถูกมัดไว้บนเปลหามที่ยกเชอร์รี่ พิคเกอร์ไว้ในอาร์คแองเจิ้ล โดย00ไรเซอร์อยู่ในสถานะเตรียมพร้อม

    “ผมยอมรับว่าไม่แน่ใจเหมือนกัน”เนียร์พูด กดปุ่มบน00ไรเซอร์”อย่างไรก็ตาม จากการสังเกตของผมเกี่ยวกับเขาและเวชภัณท์ที่แพทย์ให้มา สิ่งนี้น่าจะใช้ได้ ยาระงับปราสาทของเขาหมดฤทธิ์หรือไม่”

    ชิราโทริมองนักบินผมสีฟ้า ร่างกายเขากระตุกช้าๆด้วยความเจ็บปวด 

    “น่าจะใช้ท่านแม่ทัพ”

    เนียร์พยักหน้ามองเจ้าหน้าที่ผู้ดูแล”ยกเขาขึ้น”

    ทรีถูกยกไว้ที่ด้านหน้า00ไรเซอร์ด้วยความฉงนของบรรดาผู้ที่เฝ้ามอง อนุภาคสีฟ้าเริ่มพุ่งจาก00ไรเซอร์ GNไดรฟ์กลืนตัวทรี กินเวลา30วิ จนกระทั่งทรีเริ่มสงบและหมดสติไป

    “นำตัวเขาลงมา”

    พวกเขาทำตามที่บอก ทรีถูกนำลงมาที่พื้นที่คณะแพทย์เข้ามาดู ปลดสายรัดและตรวจร่างกาย ทรีไม่มีภาวะแทรกซ้อนทางจิตใจอีกแล้ว พวกเขามองผู้บัญชาการเซย์เอย์เพื่อหาคำตอบ ซึ่งเพียงยักไหล่เป็นคำตอบ

    @@@@@@@@@

    “เท่าที่ผมบอกได้ พวกคุณมีความก้าวหน้ามากใช้การฝึกขับโมบิลสูท”เนียร์กล่าวชมนักบินเอเชียตะวันออก โดยมีจีนด์และนักบินอาร์คแองเจิ้ลยืนด้านหลัง การฝึกวันที่สองสิ้นสุดก่อนที่อาร์คแองเจิ้ลมีกำหนดการจะออกจากญี่ปุ่น

    "ผมพูดไม่ได้ว่าพวกคุณเป็นนักบินที่มีทักษะ แต่ก็ยังมีศักยภาพที่จะเป็นได้ตราบใดที่ยังฝึกฝนต่อไป ขอให้สัญญา"

    "อาริกาโตะ"นักบินทั้งหมดร้องพร้อมกันและแยกย้ายไปจากห้องประชุม ชายคนหนึ่งเข้ามาหาเนียร์ เขาเป็นชายอายุ20ปลายๆ ผมสั้นสีบลอนด์จาง สวมเครื่องแบบสีขาวของกองทัพโลก เว้นเครื่องเกียรติภูมิที่เป็นสัญลักษณ์ของสหพันธ์ยูราเซีย

    "ผู้บัญชาการเซย์เอย์ ผมดิมิทรี คาร์ซอฟจากกองพลที่12ของยูราเซีย"ชายคนนั้นทำความเคารพต่อกันดั้มไมสเตอร์"ผมได้รับมอบหมายจากผู้บัญชาการให้ดูแลการเสริมกำลังภาคพื้น การยกพลขึ้นญี่ปุ่นตามคำเรียกร้องของประธานาธิบดี"

    "ยินดีที่ได้รู้จัก"เนียร์ตอบกลับทูต"แต่ผมอยากรู้ว่าคุณมานี่ทำไม"

    "ประธานาธิบดีของสหพันธ์ยูราเซียอยากคุยกับคุณเป็นการส่วนตัว"

    เนียร์เบิกตากว้าง เช่นเดียวกับคิระ คริส ลิซ่า

    "พวกนาย3คนกลับไปที่อาร์คแองเจิ้ลก่อน ฉันจะตามไปทีหลัง"

    พวกเขามองหน้ากันอย่างกังวล และปล่อยให้กันดั้มไมสเตอร์อยู่กับเจ้าหน้าที่ยูราเซีย

    ทั้งสองเดินไปขึ้นเรือชั้นอาคันซาสไปที่สะพาน เนียร์เห็นว่ามีคนไม่มากประจำอยู่บนเรือ เมื่อเข้าไปในสะพานมันก็ว่างเปล่า เนียร์มองดิมิทรีที่ยังคงสงบขณะเดินไปใกล้โต๊ะ มือกันดั้มไมสเตอร์อยู่ใกล้กับปืนพกที่ซ่อนอยู่หลังเครื่องแบบของเขา

    ทหารหนุ่มดึงแท็บเล็ตออกมา เปิดฉายภาพหญิงที่สวยมาก ผมสีเกาลัดยาวระต้นคอ สวมชุดเขียวของนักการเมืองหญิงและเนียร์จำได้ว่าเคยเห็นเธอในหนังสือพิมพ์

    "ฉันอยากเจอเธอจริงๆ"หญิงสาวเริ่มด้วยรอยยิ้ม"ผู้บัญชาการเซ็ตสึนะ....ไม่สิ เออร์เนสตี้ ราล อิสมาอิล ฉันต้องบอกว่าไม่คิดว่าคุณจะ....เด็กขนาดนี้"

    เนียร์ไม่รู้จะตอบโต้ยังไง แต่เขายังไม่สนใจอยู่ดี"ประธานาธิบดีเวโรนิก้า เบลิโควาร์แห่งสหพันธ์ยูราเซีย"เขาตอบพลางก้มหน้าทำความเคารพ"ทำไมถึงอยากพบผม"

    "ผู้บัญชาการ....จากความสำเร็จของคุณในการป้องกันการบุกของซาฟท์ผ่านญี่ปุ่นไปยังเอเชียตะวันออก และอาจเป็นไปได้ว่ายูราเซียด้วย ฉันคิดว่าควรแสดงความยินดีกับความพยายามของคุณ"

    เนียร์รู้สึกไม่ไว้ใจ แต่ตัดสินใจตามน้ำ"ขอบคุณมากครับท่านประธาน"เขาตอบ ยูราเซียเป็นคู่แข่งของสหพันธ์แอตแลนติก [เซ็ตสึนะ]ก็เป็นเจ้าหน้าที่สหพันธ์แอตแลนติก แม้จะไม่เป็นทางการ เนียร์รู้สึกไม่ปลอดภัย

    อีกเรื่อง ประสบการณ์ที่อาร์เทมิส แต่นั่นเป็นเรื่องต่างออกไปเพราะเหมือนจะไม่มีประโยชน์ที่จะใช้ต่อต้านเขา แต่เขาก็ยังต้องระมัดระวัง

    "เหมือนคุณมีเรื่องอื่นอยากคุย"

    "ผู้การ เราบอกได้ว่ามันน่าสงสัยที่ฉันขอคุยเป็นการส่วนตัว เช่นคุณสังกัดอยู่องค์กรใดนอกเหนือจากกองยานที่8ของพลเอกฮาเบอร์ตันหรือสหพันธ์แอตแลนติกปฏิบัติต่อคุณดีไหม"

    เนียร์เลิกคิ้ว"ขอโทษนะ?"

    "สหพันธ์แอตแลนติกมีชื่อเสียงในการปฏิบัติต่อคนของพวกเขาเอง...และฉันหวังเป็นอย่างยิ่งว่าพวกเขาจะใช้ประโยชน์จากพรสวรรค์ของคุณเพื่อประโยชน์ของผู้คนและโลก ไม่ใช่แรงจูงใจที่ซ่อนเร้นอยู่"

    "ผมไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพยายามจะบอก"เนียร์แสร้งเป็นสับสนเพราะเขาไม่ค่อยไว้ใจพวกเขาและสิ่งที่มูเพิ่งบอก"คุณหมายความว่ายังไงที่สหพันธ์แอตแลนติกมีเป้าหมายอื่น"

    "คุณทราบไหมว่าทำไมสหพันธ์ยูราเซียมีการแข่งขันรุนแรงกับสหพันธ์แอตแลนติกแม้เป็นพันธมิตร"

    "ผมคิดได้2อย่าง บลูคอสมอสและความสัมพันธ์ทางการเมืองนับแต่สงครามเกิดใหม่"

    "ใช่แล้ว"เวโรนิก้าประทับใจกับสติปัญญาของเด็กหนุ่ม"คุณก็น่าจะรู้ว่าเบื้องบนของสหพันธ์แอตแลนติกถูกแทรกซึมโดยกลุ่มหัวรุนแรงที่มีอิทธิพลด้านธุรกิจและการเมืองเพื่อเป็นมหาอำนาจชั้นนำโดยไม่ลังเลจะแสดงความแข็งแกร่งต่อประเทศเพื่อนบ้าน"

    "ฉันรู้อยู่แล้ว"เนียร์คิดในใจและตัดสินใจเล่นไปตามน้ำ"เป็นข่าวลือ"

    "อืม ฉันคิดว่ามันถูกปิดเป็นความลับ"เวโรนิก้าลูบคาง"คุณำโศกนาฏกรรมที่คอมเปอนิคัสได้ไหม"

    "ใช่ ผู้ก่อการร้ายโจมตีคณะผู้แทนสังหารประธานในการเจรจาของแพลนท์กับผู้นำทั่วโลก พวกเขาตำหนิแพลนท์ แม้หลักฐานชี้ไปที่บลูคอสมอส พวกเขาควบคุมสหพันธ์แอตแลนติกและกองทัพโลก"

    ประธานาธิบดีประทับใจเช่นเดียวกับดิมิทรี"บรรพบุรุษของฉัน"อเล็กซานเดอร์ คาร์ซอฟเป็นหนึ่งในผู้เสียชีวิตที่คอมเปอนิคัสด้วยมือผู้ก่อการร้ายเหล่านั้นเตือนใจฉันอย่างถาวร ในตอนนั้นผู้ก่อการร้ายได้ผูกมัดประเทศต่างๆลงนามในสัญญาเพื่อลากพวกเขาเข้าสู่สงคราม ใช้พันธมิตรเพื่อทำสงครามและผลประโยชน์ของพวกเขา"

    "คุณอ้างว่าสหพันธ์ยูราเซียไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่กองทัพโลกทำกับซาฟท์"เนียร์โต้กลับ"แต่ประเทศนี้ก็ยังเป็นสมาชิกสหพันธ์โลก ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับที่ยิงนิวเคลียร์คร่าชีวิตคนนับแสน"

    "แต่มันเป็นความจริงผู้การ"ประธานาธิบดีตอบเสียงไร้เดียงสา"ยูราเซียต่อสู้เพื่อปกป้องตัวเอง เช่นเดียวกับเอเชียตะวันออก แต่พวกหัวรุนแรงมีอิทธิพลของสหพันธ์แอตแลนติกได้เริ่มสงครามนี้ในนามเผ่าพันธุ์และผลประโยชน์ทุนนิยมเพื่อให้แน่ใจว่าชาวโลกส่วนใหญ่อยู่ข้างพวกเขาจึงได้เรียกว่ากองทัพโลกเพื่อให้มีความชอบธรรม อำนาจพวกเขาเติบโตขึ้นในหลายปีที่ผ่านมาซึ่งกดดันยูราเซียและเอเชียตะวันออก"

    "ถ้าอย่างนั้นทำไมไม่ลาออกจากพันธมิตร ถ้ายูราเซียต่อสู้เพื่อป้องกันตัวเอง"

    ประธานาธิบดีถอนหายใจ"หากยูราเซียออกจากพันธมิตร พวกเขาไม่ลังเลจะส่งกองทัพในนามตัวแทนความมั่นคงของโลกและบังคับให้เราเข้าร่วมกับพวกเขาอีกครั้ง และเสี่ยงที่รัฐบาลเราจะถูกแทนที่โดยผู้ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพวกเขาและทำให้ยูราเซียกลายเป็นหุ่นเชิด"

    "คุณต้องการตัดสัมพันธ์ยูราเซียกับแอตแลนติกหรือ"เนียร์เดาและยืนยันเมื่อเวโรนิก้าพยักหน้า"และการที่มาบอกผม คุณคาดหวังให้ผมสงสัยเกี่ยวกับพวกเขาและร่วมงานกับคุณ ผมต้องขอโทษ แต่ผมจะไม่ทิ้งยานหรือลูกเรือ"

    เวโรนิก้าถอนหายใจด้วยความท้อแท้"แน่นอน คุณได้รับมอบหมายให้ปกป้องสมบัติล้ำค่าจากซาฟท์ อย่างไรก็ตาม มีอย่างอื่นที่ฉันไม่อยากให้สหพันธ์แอตแลนติกรู้"

    คำพูดของเธอทำให้กันดั้มไมสเตอร์ขมวดคิ้ว"อะไรท่านประธาน"

    "ด้วยการติดต่อฉันพบบางอย่างที่น่าสนใจเกี่ยวกับภูมิหลังคุณผู้การ"เวโรนิก้ารำพึงดึงเอกสาร2-3ฉบับ"คุณสังกัดองค์กรติดอาวุธเซเลสเชี่ยลบีอิ้งที่หมายจะขจัดสงครามให้หมดไป แต่....ด้วยเหตุผลบางอย่าง กันดั้มของคุณถูกส่งไปที่เฮลิโอโปลิส ฉันเชื่อว่าคุณเป็นหน้าใหม่ที่ถูกส่งไปทวงหุ่น ระหว่างที่คุณอยู่กับอาร์คแองเจิ้ล เพื่อนของคุณก่อปัญหามากมายบนโลก"

    เนียร์รู้สึกตื่นตระหนกกับสิ่งที่ประธานาธิบดีสหพันธ์ยูราเซียประกาศออกมา

    "แต่อย่าหงุดหงิดเลยผู้บัญชาการ"เวโรนิก้าให้ความมั่นใจกับเขา"ในเรื่องความสัมพันธ์ของเรากับสาธารณรัฐเอเชียตะวันออกและการสนับสนุนของคุณ เราสามารถรับประกันความปลอดภัยของคุณได้ หากคุณยินดีจะให้ความร่วมมือ"

    เขาขมวดคิ้ว"ความร่วมมือ คุณหมายถึงแบล็คเมลเหรอ"

    เวโรนิก้าไม่พอใจ"แบล็คเมล ไม่ๆ การแบล็คเมลวีรบุรุษสงครามไม่ใช่เรื่องดี ความปลอดภัยของคุณสำคัญกับเราที่สุด เราสามารถรับประกันตำแหน่งของคุณในสหพันธ์ยูราเซียได้หากสหพันธ์แอตแลนติกยอมรับ"

    "ผมต้องขอปฏิเสธท่านประธานาธิบดี"เนียร์ตอบด้วยเสียงเยือกเย็น"ผมเข้าใจความต้องการปกป้องประเทศของคุณจากสหพันธ์แอตแลนติก แต่หุ่นของผมมีค่าเกินกว่าจะตกไปอยู่ในมือของใคร"

    "คุณคิดพวกเขาจะยอมรับคุณเป็นพวกเขาจริงๆเหรอ"เวโรนิก้าถาม เนียร์ตอบด้วยการส่ายหัว"และถ้าคุณกับเพื่อนๆไปถึงอะลาสก้า คุณเชื่อถือสหพันธ์แอตแลนติกหรือไม่ หรือพวกเขาจะไม่บังคับให้คุณบอกความลับของคุณกับพวกเขา"

    เนียร์กังวลเรื่องที่จะเกิดกับคิระและคนอื่นๆเมื่อไปถึงอะลาสก้า แต่เขาก็ไว้ใจยูราเซียไม่ได้เพราะเรื่องอาร์เทมิส และเขาไม่ไว้ใจสหพันธ์แอตแลนติก จากทุกสิ่งทุกอย่างที่รู้ เขาต้องหาพันธมิตร เขาต้องเผื่อกรณีที่ต้องตีตัวออกห่างและกลายเป็นศัตรูของเซเลสเชี่ยลบีอิ้ง

    เขาเป็นพวกทำตามใจตัวเองและชอบสร้างปัญหา ทำให้มีคนในองค์กรหลายคนไม่พอใจและอยากปลด[เซ็ตสึนะ]จากการเป็นกันดั้มไมสเตอร์ โดยเฉพาะทีแอเรีย ตอนนี้พวกเขายังเฝ้าสังเกตการณ์อยู่

    มีหลายฝ่ายที่ต้องการ00ไรเซอร์ของเขา สหพันธ์ยูราเซียก็เช่นกัน และเวโรนิก้ารู้ว่าหากเธอเอาเรื่องนี้ไปเจรจากับกันดั้มไมสเตอร์คนอื่น โอกาสที่จะได้มีไม่ถึง1%ด้วยซ้ำ

    "ถ้าอย่างนั้นก็ได้...."เนียร์พูด ทำให้ดิมิทรีและเวโรนิก้าประหลาดใจเพราะไม่คิดว่าเขาจะยอมรับเงื่อนไข

    "จริงเหรอ"หญิงสาวถาม"แม้ฉันคิดว่ามันต้องมีเงื่อนไข"

    "ก็จริง ผมยังพูดไม่เสร็จ....ผมตกลงจะช่วยคุณและคนของคุณ แต่คุณต้องทำตามข้อเรียกร้องของผม"

    "ทุกสิ่งที่คุณเซ็ตสึนะต้องการ สหพันธ์ยูราเซียจะจัดหาให้ดีที่สุด"

    "อาร์คแองเจิ้ลมีอิสระที่จะเติมเสบียงในฐานทัพยูราเซียใดก็ตามโดยปราศจากการแทรกแซงของเจ้าหน้าที่ยูราเซียทุกรูปแบบ"เซ็ตสึนะระบุ เวโรนิก้าพยักหน้าและดิมิทรีจดบันทึก"ในกรณีที่เกิดความขัดแย้งระหว่างอาร์คแองเจิ้ลและเซเลสเชี่ยลบีอิ้ง สหพันธ์ยูราเซียจะเปิดท่าเรือให้ที่หลบภัยสำหรับเรา ถ้าเป็นไปได้"

    ความต้องการที่2ของเนียร์ทำให้ทั้งคู่ประหลาดใจ"ฉันคิดว่าคุณคงมีเป้าหมายที่ต่างจากองค์กรตั้งแต่ก่อนเราพบกันแล้ว"เวโรนิก้าพึมพำสงสัย"แต่เรายอมรับ มีอะไรอีกไหม ผู้บัญชาการ"

    "ใช่ ฉันต้องการให้ยูราเซียที่ไว้ใจได้คอยจับตาดูสหพันธ์แอตแลนติกและเฝ้าระวังพวกเขา"เขากล่าวเสริมและถ้ามันไม่ชัดเจน"ผมขอยืมแล็บท็อปสักครู่ได้ไหม"

    ดิมิทรีมองหัวหน้าที่พยักหน้าให้ เนียร์รับแล็บท็อปมาเสียบแฟลชไดรฟ์เข้าไป คัดลอกและวางไฟล์ที่เขียนว่า09 ก่อนจะเปิดไฟล์และแสดงให้ดิมิทรีดู เนื้อหานั่นทำให้เขาเงียบ

    "ดิมิทรี มีอะไรรึเปล่า"เวโรนิก้าถามคนสนิทด้วยท่าทีตกใจ ดูเหมือนดวงตาจะทะลุออกจากเป้า ขณะที่เซ็ตสึนะยังคงสงบ

    เมื่อสงบสติลงได้ดิมิทรีกระแอมลำคอ"ขออภัยท่านประธาน แต่ผมคิดว่าท่านควรดูสิ่งนี้ด้วยตัวเอง"

    เมื่อส่งไฟล์ไปให้เวโรนิก้าที่กำลังบินไปมอสโก ประธานาธิบดีเปิดแล็บท็อปรับไฟล์ที่ดิมิทรีส่งมา เมื่อเธอได้อ่านเนื้อหา ก่อนหันไปมองเซ็ตสึนะที่กอดอก

    "ผมไม่สามารถเสนออะไรสำหรับหุ่นของผมได้ แต่ผมเชื่อว่านี่อาจเป็นรางวัลเพียงพอสำหรับการเป็นหุ้นส่วน"

    เวโรนิก้าหัวเราะคิกคัก คนสนิทประหลาดใจเพราะเขาแทบไม่เคยเห็นเธอทำแบบนั้น"คุณได้ตามที่ตกลงผู้บัญชาการ"

    @@@@@@@@@@

    ที่ท่าเรือโตเกียว ลูกเรืออาร์คแองเจิ้ลยืนใกล้ทางเข้ายาน โดยมีทหารและพลเรือนเอเชียตะวันออกเฝ้าดูขณะเตรียมออกเดินทาง ชายสูงวัยก้าวไปข้างหน้า

    "ขอบคุณ เราทุกคนเป็นหนี้พวกคุณสำหรับการปลดปล่อยบ้านของเรา"เขากล่าว ผู้นำยานอาร์คแองเจิ้ลยิ้ม"ขณะที่เราไม่มีสิ่งใดจะมอบให้ แต่ประชาชนของเราเป็นหนี้บุญคุณพวกท่านมาก หากต้องการความช่วยเหลือ สามารถเรียกได้ตลอด"

    "เราซาบซึ้งในน้ำใจจริงๆค่ะท่านนายกรัฐมนตรี"เมอริวกล่าวทำความเคารพพร้อมลูกเรือ"อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการเซย์เอย์มีเรื่องจะพูดก่อนออกเดินทาง"

    เซ็ตสึนะขมวดคิ้วเมื่อได้ยิน มู คริส และคิระหัวเราะเยาะ เขาถอนหายใจเดินไปหาทหารญี่ปุ่น

    "หากมีสิ่งใดที่เราควรขอบคุณคือเหล่าทหารที่ต่อสู้และตาย เราคงทำไม่สำเร็จถ้าไม่มีทหารเอเชียตะวันออกและยูราเซียช่วยเหลือเรา"

    "การเสียสละของพวกเขาไม่สูญเปล่าผู้บัญชาการ คุณได้จุดไฟให้เราในช่วงเวลาที่มืดมนที่สุด คุณและพันธมิตรได้แสดงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า ความแข็งแกร่งและความกล้าหาญ เป็นคุณสมบัติทหารชั้นยอด เป็นเกียรติที่ได้สู้เคียงข้างคุณ"

    ทหารเอเชียตะวันออกและชิราโทริ ทั้งหมดยกมือทำความเคารพกันดั้มไมสเตอร์ และเซ็ตสึนะก็ทำความเคารพกลับเช่นกัน จากนั้นลูกเรือก็เข้าไปในยาน เสียงขับเคลื่อนยานดังขึ้น พลเรือนและทหารต่างโห่ร้องสรรเสริญ โยนกระดาษและดอกไม้ให้ยานที่กำลังออกเดินทาง

    จากหน้าต่าง เซ็ตสึนะ....ไม่สิ เนียร์มองดูพวกเขาด้วยรอยยิ้มสงบ เขาไม่ได้ภูมิใจเพราะความสำเร็จของเขา แต่เป็นความสามัคคีของอาร์คแองเจิ้ลและชาวญี่ปุ่นที่อยากเป็นอิสระ เมื่อหันไปเขาพบมู คิระและคนอื่นมีสีหน้าภูมิใจในสิ่งที่เขาทำเพื่อพวกเขา เขาเพียงยิ้มเล็กน้อย

    และตอนนี้ เขารู้ว่าอาร์คแองเจิ้ลและตัวเขาเองมีความท้าทายมากต้องเผชิญตลอดเส้นทาง


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×