ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kingdom War Online สงครามแห่งอำนาจ

    ลำดับตอนที่ #4 : บทที่ 2 พบเจอ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.45K
      152
      18 ก.พ. 60

    บทที่ 2

    ปีK.W.993 เดือน 10 วันที่ 27

         หลังจากได้อาชีพคลาส4มาแล้ว อาโรนก็บินมาที่เมืองซิสการ์ด เมืองหลักของแคว้นคาออส อาโรนมาถึงช่วงกลางคืนใกล้รุ่งสาง เขาบินพร้อมทั้งใช้เวทพรางกายมาร่อนลงในตรอกร้างคนแห่งนึง เขาเก็บชุดเกราะอัศวินแห่งความมืดกับดาบใหม่ทั้งสองเล่มไป และสวมใส่ชุดเกราะสีเทากับดาบระดับCแทน

         อาโรนเดินออกจากตรอกซอย และเดินมาที่หน้าประตูเมืองฝั่งตะวันออกของซิสการ์ด แคว้นคาออสเป็นถิ่นฐานของปีศาจและอสูร ปีศาจจะมีหน้าตาคล้ายคนหลายส่วน ขณะที่อสูรมีน้อยมาก พลังเวทของอสูรด้อยกว่าปีศาจ แต่ก็มีพละกำลังมหาศาลทดแทน ระหว่างทางมีผู้เล่นหญิงมองเขาไม่น้อยเลย

         "พี่ชาย ไปตีมอนสเตอร์กับกลุ่มฉันไหมค่ะ"เด็กสาวอายุราว15ใจกล้าเดินเข้ามาชวนเขาเข้าปาร์ตี้

         "ขอโทษครับ พอดีผมนัดกับเพื่อนไว้แล้ว"อาโรนปฎิเสธอย่างนุ่มนวลและเดินจากมา เด็กสาวเคลิ้มไปหลายวิ ก่อนที่เพื่อนจะมาสะกิดให้ได้สติ

         มีผู้เล่นหญิงหลายคนที่ชวนอาโรนเข้าปาร์ตี้ แต่เขาก็บอกปัดไปหมด จนเขาเดินมาถึงหน้าประตูเมือง มีเด็กสาวคนนึงกำลังยืนอยู่ โดยที่เธอแผ่พลังเวทออกมาอย่างไม่เกรงใจ สายตาเธอเหลือบมองมาที่อาโรนทันทีที่เขาเดินเข้ามาใกล้ ถึงเขาจะเปลี่ยนหน้าตาไปบ้าง แต่เธอก็จำเขาได้ดี

         "ทำไมช้าอย่างงี้เฟต!!!!!"เด็กสาวตวาด

         "โทษทีมิร่า"อาโรนขอโทษแล้วยิ้มทักทาย เธอคือมิร่า เด็กสาวที่เขาคุยทางโทรศัพท์นอกเกมส์

         มิร่าเป็นสาวร่างเล็ก ใบหน้ารูปไข่ ขาวเนียนสวย สูงประมาณ160หรือน้อยกว่า สวมชุดเกราะเบาสีฟ้า เน้นความคล่องตัว เธอถือหอกน้ำเงินเป็นอาวุธ มีดวงตาสีน้ำเงินอ่อน ผมยาวสีฟ้าของเธอถูกมัดรวบให้เหลือเป็นทรงสั้น

         มิร่าเป็นลูกสาวคนเล็กของไมก้า เขาเป็นคนคอยดูแลเฟตตั้งแต่ย้ายมาอยู่บราซิล เขาจึงสนิทกับเธอและพี่ๆเธอมาก มิร่าเป็นเด็กฉลาด เธออายุ16เท่าเขา กำลังเรียนอยู่มัธยมปลายปี2 ใกล้จะขึ้นปี3 ส่วนพี่สาวเธอเรียนจบไปแล้ว และเล่นเกมส์นี้เช่นกัน เฟตได้ยินว่ามิร่าอยู่สหพันธ์เดียวกับพี่สาวเธอ

         "ขอโทษงั้นเหรอ ฉันบอกนายแล้วว่าออนไลน์เมื่อไหร่ให้มาหาฉัน แต่นายไม่มา ให้ฉันรอจนขึ้นวันใหม่เลยนะ ฉันรู้นะว่านายออนไลน์อยู่ตลอด หายไปทำอะไรมา"เธอมองเขาอย่างจับผิด

         "ขอโทษจริงๆ ฉันบอกไม่ได้"อาโรนส่งสายตาลูกหมาน้อยอ้อนเจ้านาย

         เด็กสาวเห็นรอยยิ้มของอาโรน สายตาวาวโรจน์เมื่อกี้ก็อ่อนลงทันตา หน้าเธอเริ่มขึ้นสีแดง เพราะเฟตในเกมส์ดูหนุ่มขึ้น

         'เฟตหล่อชะมัดเลย ท่าทางอ้อนแบบนี้อยากกิน...เอ๊ย...ไม่ใช่'มิร่ารีบหยุดความคิดในหัวเธอและตั้งสติ

         "อย่ามาทำสายตาแบบนั้นกับฉันนะเฟต ลูกไม้นี้มันเก่าไปแล้ว รีบพูดมา"ปากเธอพูดไปอย่างงั้น แต่หน้าเธอเริ่มขึ้นสีแดงระเรื่อแล้ว

         "หน้าแดงจัง เธอเป็นไรรึเปล่า"อาโรนยกมือขึ้นมากแตะหน้าผากเธอ

         ฉ่า~

         ควันเธอลอยออกมาจากหัวเธอ มิร่าอายสายตาที่เริ่มมองมาทางน้ำเพราะบริเวณนี้มีคนสังจรมาก

         "พอได้แล้วยะ เอามือออกไปได้แล้ว ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอก"เด็กสาวปัดมือเขาทิ้งไปทันทีและหันไปมองทางอื่น

         "ไอ้คนเจ้าเล่ห์"รู้ทั้งรู้ว่าเธอแพ้ลูกไม้แบบนี้ แต่เฟตก็ยังทำ

         "เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะมิร่า"

         "เปล่าไม่มีอะไร และในเกมส์ต้องเรียกฉันว่ามิโอเรีย นายใช้ชื่ออะไร"มิโอเรียถามด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง

         "ฉันใช้ชื่อว่าอาโรน"

         "อาโรนที่แปลว่าโดดเดี่ยวเหรอ เซ้นตั้งชื่อแย่ชะมัดเลย ที่นี่เปิดหน้าต่างระบบให้ฉันดูซะ และปิดตัวป้องกันด้วย"มิโอเรียสั่ง

         เขาเปิดตามที่เธอสั่ง ในเกมส์นี้จะไม่ให้ผู้เล่นเห็นข้อมูลผู้เล่นคนอื่นเด็ดขาด ผู้เล่นคนอื่นจะเห็นหน้าต่างระบบเป็นแค่แสงสี่เหลี่ยม ทั้งนี้ก็เพื่อเคารพสิทธิส่วนบุคคล แต่จะดูได้ถ้าถอนตัวป้องกันออก เขาถอนระบบป้องกันและกรอกชื่อคนที่เขาจะให้เห็นหน้าต่างระบบของตัวเองได้

         มิโอเรียเริ่มเห็นข้อมูลหน้าต่างระบบของอาโรน

    ผู้เล่น อาโรน เผ่า:มนุษย์ สังกัด:ไม่มี ฉายา:ไม่มี ยศ:ไม่มี
    คลาส 1 นักดาบ Lv.30
    คลาส 2 ???
    อาชีพเสริม พ่อครัว
    HP 8,500/8,500
    MP 4,200/4,200
    Exp 0/10,000
    STR 65 AGI 50 VIT 60 INT 34
    พลังโจมตี 100-800 พลังป้องกัน 142-600
    พลังโจมตีเวทมนตร์ 293-584 พลังป้องกันเวทมนตร์ 183-305

         "หืม คราวนี้นายเลือกนักดาบเหรอ เกมส์ก่อนนายเลือกเป็นนักเวทมาตลอดนี่นา"มิโอเรียแปลกใจไม่น้อย

         "อยากลองอะไรใหม่ๆดูน่ะ"

         "งั้นเหรอ รีบตามฉันมาเร็วเข้า เราจะเข้าไปในเมืองกัน ฉันจะพานายไปสมัครเป็นขุนนางคาออสก่อน"มิร่าเดินผ่านอาโรนจะเข้าไปในเมือง

         "ไม่ไปตีมอนสเตอร์เหรอ"อาโรนแกล้งถามเหมือนทำเป็นไม่รู้

         "พวกมือใหม่ก็แบบนี้แหละ อาโรน ในเซิร์ฟเวอร์หลักของเกมส์นี้เน้นการทำสงครามเป็นหลัก ถ้านายมีตำแหน่งขุนนางและทำผลงานได้ดี นายจะได้รับEXPมากกว่าล่าพวกสัตว์อสูร ฉันคงต้องอธิบายนายหลายอย่างเลย รีบตามมาเร็ว"

         อาโรนรีบวิ่งตามมิโอเรียไป เขามองหน้าต่างระบบของตัวเองแล้วทำการสลายภาพลวงตาชั้นสูงที่สร้างปิดบังข้อมูลจริงไว้ ข้อมูลสถานะจริงของเขาโผล่มาแล้ว แต่มิโอเรียไม่มีโอกาสได้เห็น

         ระหว่างทางไปที่ปราสาท มิโอเรียก็อธิบายข้อมูลต่างๆของเซิร์ฟเวอร์หลักให้อาโรน เขาฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา และสร้างภาพทำเป็นตั้งใจฟัง จนกระทั่งเธออธิบายเสร็จ

         "เพราะฉะนั้นเกมส์นี้นายเล่นเดี่ยวๆไม่ได้หรอกนะ ควรจะไปเข้าร่วมสังกัดไหนสักแห่ง ถ้าเป็นสหพันธ์ได้ยิ่งดี เพราะพวกนี้มีกำลังคนและอาวุธมากกว่าสมาพันธ์กับกิลด์"

         "แล้วเธออยู่สหพันธ์ไหนล่ะ"มิโอเรียได้ยินแล้วยิ้มขึ้นมาและพูดอย่างภูมิใจ

         "ฉันอยู่สหพันธ์เงาอสูร หนึ่งในสังกัดของ12ราชันเชียวนะ"

         "แต่ฉันได้ยินมาว่าราชันที่เป็นหัวหน้าน่ะ ฝีมืออ่อนที่สุดในราชันทั้งหมดเลยไม่ใช่เหรอ เขายังเคยสู้แพ้อัศวินดำด้วยนะ"อาโรนตอบด้วยความพอใจ เพราะมันเป็นความจริง

         มิโอเรียชักสีหน้าไม่พอใจ

         "ก็ช่วยไม่ได้นี่นา ท่านโครอนเก่งในเรื่องบัญชาการในสงครามมากกว่า ในสงครามพวกราชันคนอื่นก็ไม่ค่อยอยากเป็นศัตรูกับเราเท่าไหร่หรอก"

         โครอนคือราชันลำดับที่12 เป็นชายที่สวมผ้าคลุมสีแดงปิดบังตัวตน ไม่เคยมีใครเห็นหน้าแบบเดียวกับเขา เมื่อ2ปีก่อนอาโรนเคยรับงานจ้างวานของราชันคนอื่นมาช่วยรับมือโครอน เขาสู้กับโครอนตัวต่อตัว และการต่อสู้จบลงโดยที่เขาเป็นฝ่ายชนะ แต่ในศึกป้องกันเมืองฝ่ายเขาแพ้ และก็เป็นมิโอเรียนี่แหละที่เข้ามาช่วยโครอนไว้ก่อนที่เขาจะได้สังหาร

         สหพันธ์เงาอสูรของโครอนมีจำนวนคนประมาณ120,000กว่าคน ถือว่าน้อยมาก สำหรับสหพันธ์ที่มีจำนวนตั้งแต่แสนขึ้นไป บางสหพันธ์ที่หัวหน้าไม่ใช่ราชันยังมีจำนวนมากกว่าเลย แต่สหพันธ์เงาอสูรครอบครองตลาดมืดเอาไว้และเชี่ยวชาญในการหาข่าวสาร ซึ่งในเกมส์นี้ทำได้ลำบาก ทำให้สหพันธ์มีอำนาจมากไม่ด้อยไม่กว่าสหพันธ์ของราชันอื่น ที่มั่นหลักของสหพันธ์เงาอสูรคือแคว้นคาออส แต่สมาชิกกว่าครึ่งจะกระจายตัวอยู่ทั่วKMO เพราะต้องคุมตลาดมืดเอาไว้

         เพราะอาโรนเกือบสังหารโครอนได้ และเป็นพวกไร้สังกัด ทำให้เขามีชื่อเสียงและถูกสหพันธ์อื่นชักชวนเข้าสังกัด แต่อาโรนปฎิเสธไป ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงถูกเหล่าราชันจับตามอง เขาไม่ถูกเรียกว่าราชัน เพราะเป็นคนที่ไม่มีสังกัด

         "นายมาร่วมสหพันธ์ของฉันสิอาโรน ฉันเป็นหนึ่งในขุนพลของเงาอสูรเชียวนะ ความฉลาดและเจ้าเล่ห์ของนายน่ะ คงช่วยให้นายขึ้นเป็นขุนพลได้ในเวลาไม่นาน"

         "เธอรู้ไหมว่าตอนนี้ฉันอยู่ในสถานการณ์ไหน"อาโรนพูดเสียงเรียบนิ่ง

         "นายต้องชนะสงครามในปีหน้า และนายต้องการกำลังทหารและคนคุ้มครอง นายจำเป็นต้องมีราชันเพื่อสู้กับราชันคนอื่นนะอาโรน"

         "ฉันอาจไปขอร้องอัศวินดำ เขาเก่งกว่าหัวหน้าเธออีก"อาโรนพูดยั่วมิโอเรียอย่างนึกสนุก

         "เจ้าหมอนั้นไม่ช่วยใครหรอกนะ อีกอย่างแค่จะหาตัวให้เจอยังยากเลย"มิโอเรียมีน้ำเสียงโกรธเกรี้ยวขึ้นมาทันที เด็กหนุ่มตรงหน้าเธอไม่เข้าสังกัดของเธอและยังคิดไปหาตัวไอ้บ้านี่อีก

         "ดูเหมือนเธอจะเกลียดอัศวินดำนะ"

         "มากเลยล่ะ เจ้านั่นเป็นตัวป่วนอันดับ1ในสงครามระหว่างเหล่าราชันนับตั้งแต่มันชนะการต่อสู้กับท่านโครอนได้ แถมเคยฆ่าฉันไปตั้งหลายครั้ง"มิโอเรียเน้นคำสุดท้าย

         "พยายามเข้าละกันนะ ฉันเอาใจช่วย"อาโรนยกมือขึ้นมาลูบหัวมิโอเรียสักพักและปล่อยมือ หน้ามิโอเรียแดงนิดๆ

         "ฉันไม่ใช่เด็กแล้วนะ รีบตามมาได้แล้ว(ซึน)"มิโอเรียตวาดเสียงโกรธเพื่อกลบความอายและวิ่งนำไป อาโรนวิ่งตามเธอไป โดยเว้นระยะห่างกับเธอมาก แต่ยังเห็นเธออยู่ตลอด เพื่อไม่ให้มิโอเรียสงสัยว่าทำไมเฟตวิ่งตามเธอทัน ทั้งที่เลเวลเธอเยอะกว่ามาก

         มิโอเรียมาถึงหน้าปราสาท ซึ่งตอนนี้ด้านหน้ามีป้ายรับสมัครทหาร เพื่อเตรียมรับศึกกับโซลแลนด์ที่กำลังระดมพลอยู่ มีชาวบ้านIและผู้เล่นแห่กันมาสมัครเป็นจำนวนมาก มิโอเรียรอสักพัก อาโรนก็วิ่งตามมาถึง

         "แฮ่กๆๆ รอกันซะบ้างสิ"

         "นายอยากทำให้ฉันโมโหเองนี้"มิโอเรียเมินหันไปมองทางอื่น แต่ที่จริงเธอหลบหน้าอาโรน เพื่อไม่ให้เขาเห็นหน้าที่เริ่มขึ้นสีแดงของเธอ เด็กสาวมองที่รับสมัครทหาร

         'อีกไม่นานเราก็คงถูกเรียกตัวแล้วสินะ ถ้าโดนพาตัวไปร่วมสงครามทั้งที่เลเวลต่ำต้องแย่แน่ ตอนนี้ให้หมอนั้นไปฆ่าสัตว์อสูรเก็บเลเวลก่อนดีกว่า'เธอคิดในใจและหันกลับมามองอาโรน แต่เมื่อเธอหันกลับมาก็เห็นว่าอาโรนไม่อยู่แล้ว

         มิโอเรียรีบกวาดสายตามองหาตัวอาโรน ไม่นานเธอก็เห็นเด็กหนุ่มไปยืนต่อแถวเพื่อสมัครเป็นทหารอาสา สีหน้าเธอโกรธขึ้นมาทันที เพราะอาโรนต่อแถวที่ส่วนมากเป็นผู้เล่นหญิง ซึ่งพวกเธอก็มองอาโรนอย่างเอ็นดูและหลีกทางให้ ทำให้อาโรนอยู่ด้านหน้าสุด รอคนข้างหน้าเขียนชื่อเสร็จ

         เด็กสาวแผ่รังสีอำมหิตเดินเข้าไปหาอาโรน ผู้เล่นและชาวบ้านพากันหลีกทางให้ เพราะเธอเป็นที่รู้จักกันดีของคนในเมืองซิสการ์ด อาโรนกำลังจะลงชื่อ แต่มือมิโอเรียมาจับแขนเขาไว้ก่อน

         "อะไร?"อาโรนหันมาถาม

         "ยังจะมาถามอีกเหรอ นายพึ่งเลเวล30 แล้วคิดจะไปร่วมสงครามที่ชายแดนเนี่ยนะ พวกเลเวลน้อยแบบนายจะถูกจับให้อยู่กองหน้าสุด พอเริ่มปะทะไม่ถึง10วินายก็ตายรอเกิดใหม่แล้ว"

         "ของแบบนี้ไม่ลองก็ไม่รู้หรอกน่า"อาโรนกล่างพลางยิ้ม มิโอเรียไม่คล้อยตาม เธอเคยทำแบบอาโรนกำลังจะทำมาแล้วตอนที่พึ่งมาเซิร์ฟเวอร์หลักครั้งแรก สงครามเริ่มขึ้น เธอโดนลำแสงเวทของผู้เล่นฝ่ายศัตรูยิงตายทันที

         "ฉันไม่ให้"

         "เธอไม่มีสิทธิมาสั่งฉันนะ"

         ผู้เล่นและชาวบ้านเริ่มหันมามอง2หนุ่มสาวที่ทำตัวไม่ต่างจากสามีภรรยาที่กำลังทะเลาะกัน ที่ผู้เล่นแปลกใจก็คือ ผู้ชายคนนี้เป็นใคร ทำไมคุยกับผู้เล่นแถวหน้าของสหพันธ์เงาอสูรอย่างมิโอเรียสนิทสนมขนาดนี้

         "เอ่อ...ผมก็เลเวล30เหมือนกันครับ มันไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นาที่จะไปหาประสบการณ์ดู"ผู้เล่นชายคนนึง ที่เห็นทั้งคู่ทะเลาะกันก็เดินเข้าไปอ้างเหตุผล

         แต่สิ่งที่ผู้เล่นชายคนนั้นได้รับ คือสายตาแข็งกร้าวของมิโอเรียที่บอกชัดเจนว่า'อย่าเสือก' ผู้เล่นคนนั้นก็ถอยไป แต่ก็ทำให้มอโอเรียรู้ว่า เธอกำลังเถียงกับอาโรนต่อหน้าคนนับพัน และเธอก็คิดว่าคงห้ามเขาไม่ได้

         "แก ให้หมอนี่สมัครแล้วจับเข้ากลุ่มทหารที่ฉันจะคุม อย่าให้ผิดพลาดนะเข้าใจไหม"มิโอเรียสั่งทหารตรงหน้า ทหารคนนั้นสะดุ้ง

         "ครับท่านมิโอเรีย"

         อาโรนลงชื่อตัวเอง พวกทหารของอาณาจักรไม่มีทางรู้เลเวลของผู้เล่น แต่จะประเมินจากเครื่องสวมใส่และผลการฝึกที่จะเริ่มหลังจากนี้ อาโรนสมัครเสร็จก็เดินไปรวมกับกลุ่มชาวบ้านและผู้เล่นที่สมัครเสร็จแล้ว

         "วันเคลื่อนทัพอย่ามารายงานตัวสาย ฉันไปก่อนนะ"มิโอเรียบอกแล้วแยกกับอาโรน เดินเข้าไปในปราสาทด้วยท่าทางหงุดหงิดเล็กน้อย อาโรนรู้สึกผิดอยู่นิดๆ

         เดิมทีอาโรนมาเล่นเกมส์นี้เพราะสนใจและชอบเล่นคนเดียวมากกว่า แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป อาโรนรู้ดีว่าทางเดียวที่เขาจะชนะพวกพี่ๆของเขาได้ คือต้องมีกำลังทหาร และมีเมืองของตัวเอง เขาไม่ต้องการให้ใครรู้ว่าเขาเป็นอัศวินดำ จึงเลือกจะสร้างชื่อเสียงจากอีกตัวตนนึงอย่างเงียบๆ

         ในที่สุดคนที่มาก็ลงสมัครกันครบทุกคน ยกเว้นชาวบ้านบางคนที่โดนไล่กลับไปเพราะร่างกายอ่อนแอ ส่วนผู้เล่น รูปร่างจะเป็นยังไงก็ลงสมัครได้ทั้งนั้น จากนั้นอาโรนและทหารใหม่ก็ตามนายทหารเดินไปที่ค่ายฝึก ซึ่งตั้งอยู่ด้านหลังปราสาทใหญ่โตนี่

         พวกอาโรนมาถึงค่ายทหารใหญ่แล้ว ก็ถูกบังคับให้วิ่งรอบค่าย10รอบทันที ซึ่งก็มีผู้เล่นและชาวบ้านกลายคนหมดแรงกลางทางและสอบตกไป ตอนที่เขาพึ่งเลเวล30ต้นๆ ก็โดนแบบนี้มาทีนึง มันทำให้พละกำลังเขาเพิ่มมากขึ้น ในกลุ่มทหารใหม่มีแต่เขาที่ไม่รู้สึกเหนื่อยล้า แต่อาโรนแกล้งทำเป็นหอบและวิ่งอยู่กลุ่มหลังๆ เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต เพราะที่นี่มีผู้เล่นระดับสูงอยู่มากไม่น้อย

         หลังจากวิ่งครบ10รอบ ต่อมาก็เป็นการรับน้อง อาโรนกับคนอีกเกือบ50คนโดนพามาประลองดกับทหารรุ่นพี่ที่เป็นผู้เล่น แน่นอนว่าบรรดาทหารใหม่เละเป็นโจ๊ก

         "อ๊ากกกกก!!!!!!"ลมปราณที่ผนึกลงในหอกสลายไป หอกก็แตกละเอียด ผู้เล่นที่ประลองอยู่ล้มลงไปนอนกับพื้น อาโรนเป็นคนสุดท้ายของกลุ่มพอดี

         "คนต่อไป!!!"ทหารคนนึงโยนดาบไม้ให้อาโรน เขาเดินมายืนในวงกลมและชักดาบออกมา

         "โห่ หายากนะที่จะเห็นผู้เล่นมาใหม่มีชุดเกราะระดับC"ผู้เล่นยศนายกองที่จัดการพวกทหารใหม่กว่า50คนด้วยตัวคนเดียว โดยที่ยังไม่ได้สักแผลพูดขึ้น เขาเป็นชายผมสีน้ำตาลและดวงตาสีเขียวเข้ม อายุประมาณ16-18ปี หน้าตาไปทางหล่อ อาโรนเงียบไม่พูดอะไร

         เมื่อมีคนให้สัญญาณ นายกองก็บุกเข้าหาอาโรน ยกดาบตวัดใส่จากด้านบน

         "เปรี้ยงงงงง.....ครืดดดด!!!!"อาโรนผนึกลมปราณยกดาบขึ้นมารับไว้ ผู้เล่นตรงหน้าตกใจที่เด็กหนุ่มคนนี้รับดาบเขาได้ เขาใส่ลมปราณไว้แค่อ่อนๆ จากนั้นก็เอียงดาบตัวเองลง ให้ดาบอีกฝ่ายไหลไปและตกลงไปโดยไม่ฟันโดนเขา

         "ไม่เลวนี่นา"เด็กหนุ่มคนนั้นยิ้มแล้วลงมือหนักกว่าเดิม

         "เปรี้ยงๆๆเคร้งๆๆ.....!!!!!"ทั้งสองฟาดฟันกว่า30เพลง แต่ยังไม่มีใครพลาดท่า อาโรนทำให้ตัวเองเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เพราะดูเหมือนถูกไล่ต้อน

         "เปรี้ยงงงง!!!!!!"ดาบของอาโรนโดนฟาดกระเด็นหลุดจากมือ ผู้เล่นคนนั้นฟาดดาบลงมาเพื่อปิดฉาก

         "ฟุ่บ!!!....ตูมมมม!!!!"อาโรนทำสิ่งที่ชายหนุ่มไม่คาดคิด เขาพุ่งเข้าประชิดและยกหมัดลมปราณชกใส่ชายหนุ่มเข้าเต็มท้อง

         "อั๊ก!!!!!"ผู้เล่นชะงัก ร่างกายขยับไม่ได้ไป2วิ เวลาแค่นั้นก็เพียงพอที่อาโรนจะแย่งดาบจากมือเด็กหนุ่มและยกเท้าเตะเด็กหนุ่มล้มลงพื้นและทาบคอมัน

         "ยะ...ยอมแพ้"เด็กหนุ่มกล่าว อาโรนทิ้งดาบแล้วเดินไปเก็บดาบของตัวเอง และโดนไปรวมกลุ่มกับพวกทหารใหม่ ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของทหารนับร้อย

         เด็กหนุ่มที่ประลองดาบแพ้เขาลุกขึ้นมา มีนายทหารเข้ามากระซิบหูเขา ก่อนจะเดินเข้ามาหาอาโรน

         "นายชื่ออะไร"อาโรนเงียบไปพักนึง

         "อาโรน"

         "ท่านแม่ทัพต้องการพบ ตามมา นายไม่ต้องอยู่ฝึกกับพวกทหารใหม่แล้ว"เด็กหนุ่มคนนั้นกล่าว อาโรนตามเด็กหนุ่มไป

         "แล้วชื่อนายล่ะ?"อาโรนถามขึ้น

         "ฉันชื่อโจเซฟ ยินดีที่ได้รู้จักนะ"เด็กหนุ่มแนะนำตัว

         "เช่นกัน"อาโรนยิ้มรับไมตรี

         โจเซฟพาอาโรนเข้ามาในกระโจมใหญ่ของแม่ทัพ ในกระโจมมีชายหนุ่มคนนึงนั่งทำงานด้วยสีกน้าเรียบเฉย

         "พี่ครับ ผมพาเขามาแล้ว"อาโรนชะงักเมื่อได้ยินโจเซฟเรียกชายคนนี้ว่าพี่ เขาเงยหน้าขึ้นมา

         "อยู่ที่นี่แกต้องเรียกฉันว่าแม่ทัพโจนาส"

         โจนาสเป็นชายหนุ่มผมสีน้ำตาลอ่อยและมีดวงตาสีฟ้าคราม มีรูปร่างสูง แข็งแรงและใบหน้าที่หล่อเหลา สวมชุดเกราะระดับAสมระดับยศแม่ทัพไว้ เหน็บดาบยาวไว้ที่เอว

         "ขอโทษด้วยครับ โทษทีนะ พี่ฉันเป็นพวกเจ้าระเบียบน่ะ"คำพูดหลัง โจเซฟหันมากระซิบบอกอาโรน

         "ฉันได้ยินที่แกพูดนะ"โจนาสกล่าวก่อนจะหันมามองอาโรน

         "แกชื่ออะไร"

         "อาโรนครับ"

         เขาประเมินระดับพลังของคนคนนี้ที่ไม่คิดจะปกปิด จากท่าทางที่ดูเป็นคนหยิ่งทะนง เขาน่าจะมีพลังอยู่คลาส3ต้นๆ ส่วนโจเซฟน่าจะแค่คลาส2

         "ฉันได้ยินว่านายชนะโจเซฟในการประลองดาบ แกคงไม่ได้อ่อนให้หรอกนะ"โจนาสมองน้องชายอย่างจับผิดเล็กน้อย

         "ผมเปล่านะครับท่านแม่ทัพ"เด็กหนุ่มรีบปฎิเสธ ความจริงเป็นเขาต่างหากที่อ่อนให้ อาโรนคิดยังงั้นในใจแต่ไม่พูดออกมา

         อาโรนมองไปภายในกระโจมใหญ่ ความกว้างของมันมากกว่าห้องพักเล็กๆในโรงแรมซะอีก มีเตียงนอนอย่างดี อ่างอาบน้ำที่ใหญ่พอสำหรับสองคน กระถางไฟเพื่อกันความหนาวตอนกลางคืน เก้าอี้หนังแบบพับเก็บได้ที่โจนาสนั่งอยู่ โต๊ะเขียนหนังสือกับปากกาขนนกในมือชายหนุ่ม บนโต๊ะมีจานสีเงินสุดหรูที่ใส่พืชผักผลไม้และถ้วยเหล้าองุ่นที่เข้าชุดกัน มีชั้นหนังสือที่ใส่หนังสือไว้เต็ม พิณสูง แผนที่ พรมหนังเสือบนพื้น

         คนคนนี้ไม่สมถะเลย อะไรที่ตัวเองมี จะแสดงให้คนอื่นเห็น เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเขาเหนือกว่า บอกตามตรงว่าเขาไม่อยากเป็นมิตรกับคนแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเขาเกลียด แต่ก็ไม่ได้ชอบ คนแบบนี้มักจะมีคนเกลียดมากกว่าชอบอยู่แล้ว ในเกมส์สงครามแบบนี้ มีมอตรไว้มากย่อมดีกว่ามีศัตรูเยอะ

         "ฉันได้รับแจ้งเรื่องแกจากมิโอเรียแล้ว ฉันเป็นแม่ทัพในสังกัดเธอ ฉันจะแต่งตั้งยศให้แกได้เป็นนายกองพัน"

         อาโรนตกใจและแปลกใจในเวลาเดียวกัน เขามั่นใจว่าตัวเองต้องได้ตำแหน่งนายกองแน่ เพราะชนะโจเซฟ แต่ถึงขั้นได้ขึ้นเป็นนางกองพันนี่สิ มันจะข้ามชั้นจนผิดปกติเกินไป

         "โห่ ท่านแม่ทัพ อาโรนตำแหน่งใหญ่กว่าผมอีก"โจเซฟพูดเพราะอิจฉานิดๆ

         "แกสู้แพ้เขามาไม่ใช่เหรอ เอาล่ะ อาโรน โจเซฟ พวกนายสองคนรีบไปนอกเมือง ฆ่าสัตว์อสูรเก็บระดับซะ โจเซฟ แกต้องขึ้นเป็นคลาส3ภายใน3วันที่เราจะเดินทางไปรับศึกกับโซลแลนด์ และฉันจะมอบตำแหน่งนายกองพันให้แก อาโรนต้องขึ้นคลาส2ฉันถึงจะมอบตำแหน่งนายกองพันอย่างเป็นทางการให้ ถ้าพวกแกเพิ่มคลาสไม่ทัน ฉันจะไม่พาพวกแกไปร่วมรบด้วย แยกกันไปจะได้ไม่หารEXPกัน ออกไปได้แล้ว"

         "ครับท่านแม่ทัพ"โจเซฟก้มลงคำนับ แต่อาโรนไม่ทำเดินออกไปเลย โจเซฟรีบตามไป โจนาสเห็นแล้วไม่พอใจเล็กน้อย แต่ไม่ว่าอะไร เพราะอาโรนเป็นคนสำคัญของมิโอเรีย มิโอเรียพูดถึงอาโรนแล้วพวงแก้มชอบแดงนิดๆให้เขาเห็น เขาจึงรู้ว่าหัวหน้าตนรู้สึกยังไงกับคนคนนี้

         อาโรนออกมาจากกระโจมไม่ทันไร โจเซฟก็วิ่งนำเขาไปอย่างเร่งรีบ เพราะเวลาแทบไม่มี ก่อนวิ่งหายไปก็โบกมือลา อาโรนยิ้มให้ เขาสงสารโจเซฟนิดๆ เพราะการจะเลื่อนเลเวลให้เต็มร้อย พร้อมทั้งเลื่อนคลาสใน3วัน คงต้องทำหามรุ่งหามค่ำ ส่วนเขาแค่ต้องอยู่ในป่า3วันแล้วค่อยกลับมา ปล่อยพลังระดับคลาส2ให้โจนาสเห็นก็พอแล้ว

         อาโรนเดินไปทางประตูฝั่งตะวันออก เพราะสัตว์อสูรทางประตูนั้นเป็นพวกไม่โจมตีก่อน

         "โครม!!!!"

         แต่ระหว่างทางเขาดังเผลอชนโดนหญิงสาวร่างสูงคนนี้ หน้าเขาโดนหน้าอกเธอ อาโรนล้มลงไปกับพื้นเพราะแรงกระแทก ทำให้อาโรนรู้ว่าเธอคนนี้ต้องเลเวลสูงพอๆกับเขาหรือมากกว่าแน่ เขาสัมผัสได้ถึงไอเย็นที่รายล้อมรอบตัวเขา เธอต้องไม่พอใจแน่ที่เขาดังไปชนโดนหน้าอกเธอ

         "ลุกขึ้นมาซะ"อีกฝ่ายพูดเสียงเย็นยะเยือก แต่เสียงของเธอทำให้เขาต้องเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าหญิงสาว เธอมีรูปร่างสูงโปร่ง ใบหน้าเรียวสวยงาม ขาวราวกับหิมะ มีผมเรียบยาวสีฟ้าถึงเอวและดวงตาเย็นชาดุจน้ำแข็ง ที่ตอนนี้ส่องประกายอย่างประหลาด แม้เธอจะสวมชุดทหารสีขาวไว้ แต่ก็ไม่อาจปกปิดรูปร่างทั้งหน้าอก เอว สะโพกที่เซ็กซี่ของเธอได้ ตอนนี้มือเธอข้างนึงยกขึ้นมาปิดปากเพราะตกใจ

         "พี่.../เฟต...."อาโรนกับหญิงสาวพูดพร้อมกัน ทหารด้านหลังเธอมองเขาอย่างสงสัย หญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาใกล้เฟตและ....

         "หมับ!!!!"เฟตโดนคว้าตัวเข้าไปกอด ทำให้ทหารหลายคนต้องร้อง'เฮ้ย'กันถ้วนหน้า

         "คิดถึงจังเลยเฟต ไม่ได้เจอกันตั้ง3ปีแน่ะ โตขึ้นเยอะเลยนะ ไม่เห็นบอกพี่บ้างเลยว่าน้องเล่นเกมส์นี้อยู่"

         "เอ่อ...พี่อานิลครับ ช่วยวางผมลงทีเถอะ "อาโรนพูดเสียงเบา ตอนนี้เขาตกเป็นเป้าสายตาของคนจำนวนมาก อาเดลหน้าแดงก่อนจะปล่อยเฟตเป็นอิสระ

         "ในเกมส์พี่ใช้ชื่อว่าอาเดลนะ แล้วน้องล่ะ"เธอถามด้วยรอยยิ้มอบอุ่น

         "อาโรน"เขาพูดด้วยใบหน้าที่ขึ้นสีแดงนิด เพราะเธอสวยมาก

         อาเดลเป็นพี่สาวของมิโอเรีย ในโลกจริงเธอมีชื่อว่าอานิล ฟอมิร่า อายุ20ปี อาโรนชอบอาเดลมากในฐานะพี่สาว เขารู้จักเธอมาตั้งแต่เด็ก ตอนที่อาโรนเสียพี่สาวไป ก็มีเธอที่ทำหน้าที่พี่สาวแทน เธอเป็นคนจริงจังกับงาน ทำงานบ้านเก่ง ทำอาหารเก่งและรวย ใครได้เป็นเมียคงสบายไปทั้งชาติ อาโรนคิดถึงตรงงนี้แล้วรีบตั้งสติ เพราะเริ่มออกทะเล

         แน่นอนว่าอาโรนเคยสู้กับอาเดลมาแล้วในคราบของอัศวินดำ เพลงดาบและมนตร์น้ำแข็งของเธอร้ายกาจมาก ไม่แปลกที่เธอจะได้เป็น1ใน4ขุนพลของสหพันธ์เงาอสูร แต่ยังเทียบชั้นอาโรนไม่ได้ เขาเคยฆ่าเธอไป2ครั้งแล้ว

         "น้องไปที่ปราสาทกับพี่ไหม เดี๋ยวเลี้ยงน้ำชาให้ พี่เป็นหนึ่งในขุนพลของเงาอสูรเชียวนะ"อาเดลเอ่ยปากชวน อาโรนสังเกตสีหน้าพวกทหารด้านหลังเธอที่มองอาโรนด้วยสายตาอึ้งมากขึ้นทุกที

         "เรื่องนั้นไว้ทีหลังครับ ตอนนี้ผมต้องไปเก็บเลเวลเพิ่ม....."

         "อาเดล!!!!"เสียงนึงดังขึ้น ทำให้ทั้งสองที่กำลังคุยกันหันไปมองด้านหลัง ชายหนุ่มสองคนเดินเข้ามา โดยที่หนึ่งในนั้นปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างไม่ปกปิด เขามองหน้าทั้งสองแล้วรู้สึกคุ้นๆ

         "ไอ้เด็กนี่ใคร"ชายหนุ่มผมทองถาม เขามีดวงตาสีฟ้า มีรูปร่างสูงโปร่งและใบหน้าที่หล่อเหลากับหูยาวของเผ่าเอลฟ์ สวมชุดเกราะสีขาวอมทอง เหมือนอาเดลจะเป็นชื่อของอานิลในเกมส์

         "เฟตไงจำไม่ได้เหรอ"ชายหนุ่มอีกคนพูด มีผมสีดำและดวงตาสีแดงโลหิต เขามีรูปร่างสูงใหญ่และร่างกายบึกบึน สวมชุดเกราะหนักสีดำ ด้านหลังมีดาบใหญ่สองมือเหน็บไว้

         ชายหนุ่มผมทองได้ยินแล้วมองอาโรนอย่างไม่ไว้ใจ

         "มาริค นายเลิกจ้องอาโรนแบบนั้นได้แล้ว ไฮเกลก็ช่วยห้ามหน่อยสิ"อาเดลพูดอย่างเหนื่อยใจ ชายผมดำก็เหนื่อยกับเพื่อนคนนี้ไม่แพ้กัน

         'ให้ตายสิ วันนี้ได้เจอขุนพลของเงาอสูรครบทุกคนเลย'อาโรนคิดในใจ ยากที่จะเห็นขุนพลของเงาอสูรมารวมตัวกัน ศึกกับโซลแลนด์คงหนักมากแน่

         "สวัสดีครับพี่โจชัว พี่ฮัตซัน หรือผมควรเรียกมาริคกับไฮเกลดีล่ะ"อาโรนยิ้มทักทาย มีแต่ไฮเกลที่เข้ามาลูบหัวอาโรน ส่วนมาริคส่งเสียงในลำคอแล้วหันไปมองทางอื่น โดนอาเดลยกขาเหยีบยเท้าเต็มแรง

         "เดี๋ยวเราค่อยมาคุยกันใหม่นะครับ ผมขอออกไปเก็บเลเวลก่อน"อาโรนไม่ถามความเห็นทั้งสามวิ่งหนีหายไปท่ามกลางฝูงชน

         "จะรีบไปทำไมนะอาโรน เดี๋ยวพี่พาออกไปเก็บเลเวลให้ก็ได้"หลังอาโรนหนีหายไป ขุนพลทั้งสามเดินกลับเข้าปราสาทมาแล้ว อาเดลยังบ่นเรื่องเดิมไม่หยุด ไฮเกลตบไหล่มาริค

         "คู่แข่งคนสำคัญของนายโผล่มาแล้วนะ ฉันว่าตัดใจดีกว่ามั้ง"

         "ยุ่งน่า"มาริคสะบัดมือของเพื่อนออกไป เขามองหญิงสาวผมฟ้าเบื้องหน้าที่เขาแอบชอบเธออยู่ แต่จนถึงตอนนี้เขาไม่กล้าสารภาพรักออกไป สาเหตุเพราะเด็กที่อาเดลรักเหมือนน้องแท้ๆ ที่มาริคกับไฮเกลต่างรู้สึกว่ามันมากกว่านั้นอีก

         ทั้งสามเดินเข้าไปในห้องประชุม ภายในห้องประชุมมิโอเรียกับแม่ทัพใหญ่หลายคนนั่งรออยู่ โดยที่หัวโต๊ะมีชายร่างสูงใหญ่เกือบ2เมตร สวมชุดคลุมสีแดง ฮู้ดถูกยกขึ้นมาปิดบังใบหน้า ทั้ง3รีบนั่งที่ตัวเอง

         "ถ้าทุกคนมาครบแล้ว ก็เริ่มประชุมได้"โครอนกล่าวด้วยเสียงแหบพร่า





    แคว้นโซลแลนด์,เมืองเดสไซธ์

         "กำลังพลเราพร้อมเคลื่อนทัพแล้วครับท่านอาร์รอส"ผู้เล่นคนนึงกล่าว อาร์รอสมองกองทัพมนุษย์กับเอลฟ์กว่า300,000นาย บวกกับกองทัพของสหพันธ์อาชาสวรรค์ ทำให้มีกำลังถึง400,000คน

         "ขุนพลคนอื่นล่ะคาโรลัส"อาร์รอสหันไปมองชายหนุ่มที่ชื่อคาโรลัส เขาเป็นหนึ่งในขุนพลทั้ง5แห่งอาชาสวรรค์

         คาโรลัสเป็นชายหนุ่มเงียบขรึม ใบหน้าคมเข้ม ผมสีเงินเข้มและตาสีน้ำตาลยืนเคียงข้างหัวหน้าสหพันธ์ สวมชุดเกราะหนักสีดำถือหอกสีดำลวดลายเพลิงไว้

         "เหล่าขุนพลทั้ง4คนพร้อมแล้วครับ ผมจะอยู่ดูแลโซลแลนด์พร้อมทหารแสนนาย หัวหน้าไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด"

         อาร์รอสอยากครองคาออสเพราะต้องการถ่านหินและแร่เหล็กที่คาออสมีอยู่มหาศาล แต่ตอนนี้ นอกจากเหตุผลเดิมแล้ว นอกเกมส์ โรเบิร์ตสืบข่าวเฟตจนรู้ว่ามิโอเรียที่อยู่ในสหพันธ์เงาอสูรสนิทกับเฟต ราชันอัศวินต้องการกำจัดคนรู้จักของเฟตเช่นมิโอเรีย เขากลัวมากว่าเฟตจะให้สหพันธ์เงาอสูรช่วยในศึกแย่งชิงอำนาจของตระกูล นั่นจะทำให้เฟตที่ฐานกำลังที่มั่นคง ซึ่งเขายอมไม่ได้

         เมื่อก่อนเขาเคยให้ขุนพลบุกไปแล้วแต่พลาดท่า ครั้งนั้นเขาประมาทราชันแห่งสหพันธ์เงาอสูรเกินไป ครั้งนี้เขาจะไปเอง พร้อมขุนพลทั้ง4และทหาร3แสนอาวุธครบมือ

         "ชิ้ง!!!!"อาร์รอสชูดาบของตัวเองชูขึ้นเหนือหัว

         "ทหารแห่งโซลแลนด์ทั้งหลาย เคลื่อนทัพได้!!!!!"

         "เฮ!!!!!!!!!"
    __________________________________________
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×