ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kingdom War Online สงครามแห่งอำนาจ

    ลำดับตอนที่ #20 : บทที่ 18 ศึกกลางทะเลหมอก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.49K
      44
      31 ก.ค. 59

    บทที่ 18

    ปีK.W.994 เดือน 5 วันที่ 10

         ห่างจากแคว้นไอโรเนียไปทางเหนือ ชายแดนทางเหนือของคาออสที่มีทะเลหมอกกลางทวีป เป็นจุดรวมของแม่น้ำหลายสาย ขวางกั้นระหว่างแคว้นคาออสกับอาณาจักรไทโรเนีย ทะเลแห่งนี้มีหมอกหนาปกคลุมตามชื่อ มีสัตว์อสูรมากมายอาศัยอยู่ใต้ทะเลสาบแห่งนี้ ซึ่งมันจะออกอาละวาดเฉพาะตอนกลางคืนเท่านั้น ในเช้าวันนี้ ทะเลสาบมีเรือรบจำนวนมากที่กำลังแบ่งเป็นสองกองเผชิญหน้ากัน

         กองทัพเรือนึงตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ เป็นกองทัพของคาออส ส่วนอีกกองทัพนึง เป็นกองทัพของอาณาจักรไทโรเนีย มีธงดวงอาทิตย์สีขาวและผืนธงสีแดงโบกสะบัดอยู่บนเสากระโดงเรือ กองทัพคาออสได้นำทัพเรือมาสกัดไม่ให้กองทัพใหญ่ของไทโรเนียบุไปถึงชายฝั่งได้ ถึงแบบนั้น กองทัพคาออสมีเรือรบอยู่เพียง40ลำ ในขณะที่เรือรบไทโรเนียมีถึง130ลำ และยังไม่นับเรือของไทโรเนีย ซึ่งเป็นเรือลำเลียงทหารยกพลขึ้นบกอีก

         โดยปกติแล้วคาออสกับไทโรเนียมักจะทำสงครามอยู่บริเวณชายฝั่งของทั้งสองดินแดน แต่แน่นอนว่าผู้นำแต่ละอาณาจักร ต่างก็ไม่อยากให้ดินแดนของตนกลายเป็นสมรภูมิ ทั้งคาออสและไทโรเนียจึงใช้งบประมาณสร้างกองทัพเรือของตนขึ้นมา ไทโรเนียสร้างได้มากกว่าเพราะมีไม้ชั้นดีมากมายในผืนป่าที่กว้างใหญ่ ส่วนคาออสนั้นขาดแคลนไม้ ต้องทำการซื้อจากแคว้นอื่นซะส่วนใหญ่

         ตอนนี้เรือรบของ2กองทัพอยู่ในรูปแบบของกระบวนทัพ กองทัพคาออสตั้งแนวกำแพงโดยหันข้าง จอดเรือนิ่งไว้เพื่อสร้างกำแพงเตรียมรับมือการบุกโจมตี ฝ่ายไทโรเนียก็ตั้งกระบวนทัพเรือแนวที่ใช้การทะลวงมาเต็มที่

         กองทัพเรือของไทโรเนียแล่นตรงเข้ามาหากองทัพคาออสใจกลางของกองเรือคาออสที่ตั้งฃแนวกำแพงไว้อยู่ โครอนยืนอยู่บนเรือธงของกองทัพเฝ้ารออย่างใจเย็น จนกองเรือไทโรเนียเข้ามาอยู่ในระยะยิง

         "ยิงได้!!!!!!"

         ทหารคาออสเปิดฉากด้วยการระดมยิงธนูหน้าไม้ ซึ่งยิงได้ไกลกว่าธนูทั่วไปใส่กองทัพไทโรเนีย เหล่าทหารไทโรเนียบนเรือรบยกโล่ขึ้นมาป้องกันธนูไว้ แต่ก็มีไม่น้อยที่ธนูพุ่งทะลุโล่สังหารทหารบนเรือไป และยิ่งไปกว่านั้นธนูทุกอันยังติดไฟไว้ ทำให้เรือสั่นสะเทือนเพราะแรงระเบิด ทหารไทโรเนียต้องรีบช่วยกันดับไฟตามจุดต่างๆ เกิดความวุ่นวายจนกระบวนทัพเสียรูปไปบ้าง

         "ให้ตายสิ ไอ้พวกคาออสนี่มีอาวุธดีกว่าของเราจริงๆ ไม่ต้องตกใจไปทุกคน หน้าไม้ยิงต่อเนื่องไม่ได้ ก่อนที่พวกมันจะยิงครั้งต่อไปรีบแล่นเรือเข้าไปซะ!!!!!"

         "ครับท่านไตตัส!!!!"

         ไตตัสเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ มีผมสีแดงและดวงตาสีเขียวเข้ม สวมชุดเกราะสีแดงและถือดาบใหญ่ไว้ด้วยมือข้างเดียว เขาเป็นหนึ่งในขุนพลของไทโรเนีย

         "ต้านไว้ๆ!!!..เคร้งๆๆ/อ๊วกกก!!!!"

         ทหารที่กำลังกุลีกุจอยกโล่ขึ้นมาป้องกันลูกธนูและกระสุนเวท มีทหารบนเรือเป็นจำนวนมากที่คายของเก่าออกมาเพราะเมาเรือ ทำให้ทหารหลายคนพลาดโดนธนูปักหัวตายไป การดับไฟบนเรือก็เป็นไปได้อย่างยากลำบาก เพราะเรือโคลงเคลงไปมา

          กองทัพไทโรเนียที่โดนกระหน่ำยิงแล่นเรือจนเข้าใกล้กองเรือคาออสในระยะยิงของพวกตน ก็เริ่มระดมยิงธนูและกระสุนเวทใส่กองเรือคาออสทันที

         "เปรี้ยงๆๆตูมๆๆ....อ๊ากกก!!!!/เปรี้ยง!!!/ฉึกๆๆ..!!!!"

         ธนูไฟและกระสุนไฟปลิวว่อนไปทั่วเหนือท้องทะเล แม้ไทโรเนียจะยิงตอบโต้ แต่เป็นฝ่ายเสียหายมากกว่า เพราะคาออสมีอาวุธที่ดีกว่า หน้าไม้เจาะทะลุโล่ได้ง่ายกว่า จำนวนมือธนูที่ยิงได้ก็มากกว่าเพราะตั้งแนวกำแพง ต่างกับไทโรเนียที่พุ่งมาเป็นแนวยาวเส้นตรง ทำให้มีธนูและจอมเวทไม่มากที่ยิงได้ ทางด้านจอมทัพไทโรเนียก็รู้เรื่องนั้นดี จึงสั่งให้เรือไทโรเนียเร่งพุ่งเข้าประชิดเรือคาออส

         "บรึ้มๆๆ......ตูมมมมมม!!!!!"

         "ท่านแม่ทัพครับ เรือรบ3ลำถูกจมครับ!!!"นายทหารรายงาน

         "ฉันรู้แล้ว!!!! ไม่ต้องสนอะไรทั้งนั้น ยิงเข้าไปแล้วก็บุกเข้าไปพุ่งชนเรือพวกมันเลย!!!"

         ทหารไทโรเนียล้มตายอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ทหารคาออสมีตายไม่ถึง200คน แต่กองเรือไทโรเนียก็พุ่งเข้ามาจนเข้าใกล้กองทัพคาออส เรือรบของคาออสเริ่มยก ขึ้นจากใต้พื้นน้ำ เรือรบเริ่มขยับหนี แต่ก็มีบางลำที่หนีไม่ได้ เพราะเรือรบโดนยิงจนเปลวไฟลุกลามตามส่วนต่างๆของเรือรบ จนยากจะควบคุมเรือไว้ได้

         "กัปตัน เสากระโดงเรือเราพังแล้วครับ บังคับเรือไม่ได้"

         "กัปตันครับ เรือรบโทโรเนียกำลังจะพุ่งเข้ามาชนเราแล้วครับ....ฉึก!!!!!"ทหารเรือคนนึงวิ่งเข้ามาบอกกัปตัน ก่อนที่ธนูลูกนึงจะพุ่งทะลุหน้าต่างมาปักเข้ากลางหัวฆ่านายทหารคนนั้นตาย

         "พวกเราสละเรือ!!!!"

         ทหารคาออสบนเรือรบที่กำลังโดนเปลวไฟเผาไหม้พากันกระโดดลงน้ำ เรือรบไทโรเนียที่มีขนาดใหญ่พุ่งเข้าชนใส่เรือรบคาออสที่เป็นเรือขนาดกลางค่อนเล็ก

         "เปรี้ยงๆๆตูมๆๆ.....!!!!!!"

         เหล็กปลายแหลมด้านหน้าเรือรบของไทโรเนียทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มันถูกผนึกลมปราณและพลังเวทธาตุไฟไว้ ทำให้มีพลังไว้ใช้ทะลวงเรือข้าศึกให้พังพินาศไปในครั้งเดียว มีทหารคาออสไม่น้องที่หนีลงทะเลไม่ทันตายไปพร้อมเรือรบ

         แต่พวกที่ลงไปในทะเลก็ใช้ว่าจะปลอดภัย เพราะมีสัตว์อสูรอยู่เต็มไปหมด ทหารทั้งหลายต่างรีบว่ายน้ำหนีสัตว์อสูร ส่วนมากโดนสัตว์อสูรฆ่าตาย พวกที่ลืมถอดเกราะก่อนโดดลงน้ำก็ต้องจมน้ำตายไปตามระเบียบ มีน้อยคนที่โชคดีได้เรือรบคาออสลำอื่นช่วยไว้

         "เปรี้ยงๆๆตูม!!!....อ๊ากกกกก!!!!!"

         เรือรบคาออสหลายลำโดนเรือไทโรเนียชนแหลกเป็นเสี่ยง ส่วนเรือลำอื่นถอนสมอและถอยหนีได้ทัน แนวป้องกันของกองทัพคาออสถูกทำลาย กระบวนทัพเริ่มแตกออก

         "ตึงงงงง!!!!!"เรือรบด้านหน้าสุดของกองทัพไทโรเนียพุ่งชนใส่เรือรบลำใหญ่ของคาออส ได้รับความเสียหายทั้งคู่ แต่ไม่ระเบิด

         "ยิงฉมวกได้!!!!"

         "เปรี้ยงงงง!!!.....เฟี้ยว!!!!!....ฉึก!!!!!"

         ฉวาดยิงทะลุใส่ด้านข้างเรือแล้วเกาะยึดติดกับเรือ ทำให้เรือคาออสขยับหนีไม่ได้ เรือไทโรเนียเข้าประชิดเรือคาออส

         เรือรบไทโรเนียลำอื่นเริ่มชิดด้านข้างเรือรบคาออส ไม่ก็พุ่งไล่ชนเรือคาออสที่ยังแล่นหนีต่อ เพราะเรือคาออสน้อยกว่าถึง2เท่า ทำให้มีบางลำโดนเรือล้อมไว้2ถึง3ลำ

         "เตรียมสู้รบแบบประชิดตัว!!!!"ไตตัสตะโกน เรือธงของไทโรเนียก็พาดบันไดไปที่เรือรบคาออสลำนึงเช่นกัน

         "เฮ!!!!!!!!"ทหารบนเรือไทโรเนียวิ่งบุกขึ้นเรือคาออส เรือรบไทโรเนียสองลำเข้ามาประชิดเรือคาออสลำนี้และพาดบันไดบุกเช้าใส่เรือด้วย

         พลธนูคาออสพยายามยิงสกัดไม่ให้พวกมันขึ้นมาบนเรือได้ ทหารไทโรเนียโดนยิงตกน้ำไปไม่ต่ำกว่า50คน แต่พวกมันมีจำนวนมาก ทหารไทโรเนียเริ่มเหยียบบนเรือคาออสและพุ่งเข้าไปฟันพลูธนูหลายสิบโดยถูกรุมสับเป็นชิ้นๆ

         "ฆ่าพวกมัน!!!!"ไตตัสกระโดดขึ้นมาบนเรือคาออส สร้างขวัญและกำลังใจ

         "เฮ!!!!!!/เฟี้ยว!!!!!!....เปรี๊ยะๆๆๆ"

         คลื่นพายุหิมะต้องสาป

         "อ๊ากกกกกก!!!!!!"35,738!59,302!....

         ทันใดนั้นเอง ก็เกิดพายุหิมะขนาดใหญ่พัดไปทั่วบริเวณ ทำให้เรือไทโรเนียทั้ง3ลำกลายเป็นน้ำแข็ง ทหารไทโรเนียส่วนมากโดนแช่แข็งไป มีแต่พวกที่อยู่ข้างหลังไตตัสที่รอด เพราะเขาผนึกลมปราณป้องกันทัน

         ไตตัสมองหญิงสาวที่เปิดประตูเดินออกมาจากห้องสะพานเดินเรือ เพราเธอปิดกั้นจิตตัวเองไว้ ทำให้เขาไม่รู้เลยว่าเธออยู่บนเรือลำนี้

         "อย่างนี้มันค่อยสูสีกันหน่อยว่าไหมไตตัส"อาเดลยิ้มชักดาบออกมา

         "ไม่มั้ง"ไตตัสผนึกพลังใส่ดาบ ดาบเปล่งแสงสีแดง และส่งสัญญาณให้ลูกน้องที่ยังรอดรีบไปทำลายพื้นน้ำแข็งที่เกาะติดท้องเรือรบ แต่ก็อย่าหวังว่าอาเดลจะยอม ทหารคาออสก็ขยับตัวเตรียมขวางทาง

         "เปรี้ยงงงงงง....ตูมมมมมมม!!!!!!!"25,594!39,953!......

         ดาบเพลิงและน้ำแข็งพุ่งเข้าปะทะกัน แรงอัดจากศาสตราของสองขุนพล ทำให้ร่างน้ำแข็งของทหารไทโรเนียแตกเป็นเสี่ยงๆ ทหารคาออสและไทโรเนียนับร้อยคนกระเด็นตกจากเรือตกลงบนพื้นน้ำแข็ง หรือไม่ก็ตกทะเลใต้เรือคาอสที่ไม่ถูกน้ำแข็งเกาะติดเหมือนเรือไทโรเนีย

         ทหารทั้งสองฝ่ายเริ่มพุ่งเข้าฆ่าฟันกัน ขุนพลทั้งสองตวัดศาสตราหมายสังหารอีกฝ่ายให้ได้ สกิลประจำตัวก็ถูกนำออกมาใช้ บนเรือเริ่มไม่ปลอดภัย มีทหารทั้งสองฝ่ายโดนลูกหลงไปหลายสิบคน

         "ฟุ่บๆๆๆๆ...เคร้งๆๆฉึกๆ...!!!!"5,646!4,687!7,348!......

         อาเดลแทงดาบใส่ไตตัสด้วยความเร็วสูง ไตตัสเอี้ยวตัวหลบด้วยความเร็วสูง ผิดกับขนาดตัวที่ใหญ่ถึง2เมตร อาเดลเร็วกว่าทำให้มีรหลายครั้งที่แทงโดน แต่ความเสียหายที่ทำได้ช่างน้อยนิด เมื่อเทียบกับเลือดทั้งหมดของไตตัส เผ่าอ๊อคเป็นหนึ่งในเผ่าที่มีร่างกายทนทานและพลังชีวิตที่เยอะ แต่สิ่งที่ไตตัสผิดปกติไปจากพวกอ๊อค คือมีความเร็วสูงมาก

         อาเดลโจมตีเสร็จแล้วรีบดีดตัวถอยห่าง แต่ไตตัสไม่ยอม

         Axe Hammer

         "เฟี้ยว!!!!......ตูมมมมม!!!!"112,647!Critical!

         "กรี๊ดดดดด!!!!!"อาเดลกระเด็นตกลงมาที่พื้น เธอรีบยันตัวลุกขึ้น และรีบเอี้ยวตัวหลบไตตัสที่กระโดดจับขวานแล้วฟาดลงมาใส่เธอ อาเดลหลบได้ทันหวุดหวิด

         Blood of Orc Lord

         "ครืนนนน!!!!!" ออร่าสีแดงแผ่ออกมาจากร่างไตตัส ร่างกายของเขาขยายใหญ่ขึ้นเกือบครึ่งเมตรและผิวหนังเขียวอ่อนกลายเป็นสีแดง อาเดลเห็นแล้วก็ใช่ร่างที่สองของเธอบ้าง

         เทพน้ำแข็งจุดติ

         "ซูมมมมมม!!!!!!"ร่างเทพธิดาน้ำแข็งอันงดงามที่จัดการเมเดสอย่างง่ายดายมาแล้วปรากฎตัวขึ้นอีกครี้ง ไตตัสแค่นเสียง

         "เปล่าประโยชน์ น้ำแข็งไม่มีทางชนะไฟได้หรอก และฉันก็ไม่มีทางโดนแบบเจ้าเมเดสแน่"

         "ชนะให้ได้ก่อนแล้วค่อยพูด"

         ไตตัสได้ยินแล้วโกรธจัดฟาดขวานลงพื้น คลื่นออร่าสีแดงพุ่งมาตามพื้นตรงเข้าใส่เธอ อาเดลเอี้ยวตัวหลบแต่ก้โดนออร่าไปนิดหน่อย ทำให้ขาเธอถูกไฟคลอก แต่ก็ถูกดับอย่างรวดเร็ว ไตตัสพุ่งเข้ามาประชิดและตวัดขวานใส่

         "เปรี้ยงๆๆเคร้งๆๆ..../บรึ้มมมมมม!!!!!"

         ขณะที่ทั้งสองกำลังสู้กันอยู่ เสียงระเบิดและเสียงโหยหวนของทหารไทโรเนียทำให้ไตตัสชะงักไป เขาถอยร่นและมองเห็นเรือรบลำใหญ่ของไทโรเนียหลายลำโดนกระสุนเวทระเบิดขนาดใหญ่ยิงทำลายไป ด้วยฝีมือของเรือธงสีดำแห่งกองทัพคาออส

          ไม่ใช่แค่นั้น เมื่อเขากวาดตามองไปที่เรือรบลำอื่น ก็เห็นว่าทหารของเขากำลังเพลี้ยงพล้ำทั้งที่มีจำนวนเยอะกว่า

         สีหน้าของขุนพลหนุ่มเต็มไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด เดิมทีแล้วไทโรเนียจะบุกตีโฟเกสม่า ที่ตอนนี้ส่งทัพโจมตีซามูเรีย ทำให้การป้องกันอ่อนกำลังลง แต่เพราะเจ้าโกอัน จอมประจบสอพลอมันพูดยุยงหัวหน้าของพวกเขา ทำให้ไทโรเนียจัดทัพเรือบุกคาออสแทน ทั้งที่กองทัพเรือของไทโรเนียไม่เข้มแข็ง เน้นแต่ปริมาณ คนเหนือของทวีปเรเซียคุ้นชินกับการขี่ม้า เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง และไม่คุ้นเคยกับการเดินเรือ ทำให้เมาเรือได้ง่าย พวกที่ไม่เมาก็มีแต่พวกทหารที่เป็นชาวประมงเท่านั้น

         "เจ้าโครอน...."ไตตัสมองชายหนุ่มที่เริ่มหันมามองทางนี้ เขาเริ่มร่ายมนตร์อีกครั้ง

         "บ้าที่สุด ถอยทัพเดี๋ยวนี้"ไตตัสหันหลังวิ่งถอยกลับเรือ

         "คิดหนีเหรอ"อาเดลยิงน้ำแข็งไล่หลัง แต่ไตตัสไม่สนคำพูดยั่วยุของหญิงสาว

         ไตตัสตะโกนแล้ว เหล่าทหารไทโรเนียที่กำลังสู้อยู่ บางคนก็รีบกลับไปขึ้นเรือ แต่เรือก็ยังขยับไปไหนไม่ได้ บางคนก็เลือกกระโดดลงน้ำ ทหารคาออสกลับมาขึ้นเรือและพยายามขยับเรือให้หนีห่างจากเรือไทโรเนีย ไตตัสถอยกลับมาที่เรือธงและรีบผนึกพลังปราณเพื่อเตรียมทำลายน้ำแข็งเบื้องล่าง

         "เปรี้ยงๆๆ...เปรี๊ยะๆๆ....!!!"ในตอนนั้นอาเดลก็บินตามมา แล้วยิงกระสุนน้ำแข็งใส่ไตตัส เท้าของเขาถูกจับแช่แข็งทำให้ขยับไปไหนไม่ได้

         "อย่ามาขวาง!!!!"ไตตัสหันมาตวัดขวานใส่อาเดลแทน

         ดาบเพลิงปรภพ

         เกราะเทพน้ำแข็ง

         "เปรี้ยงงงงง............ตูมมมมม!!!!"41,648!

         อาเดลกระเด็นตกจากเรือและตกลงไปในทะเล ไตตัสรู้ว่าอาเดลจงใจ เพราะสัตว์อสูรในทะเลไม่มีทางฆ่าอาเดลได้อยู่แล้ว มีแต่จะโดนจับทำเป็นน้ำแข็งใส เขารีบหันไปจัดการน้ำแข็งใต้ท้องเรืออีกครั้ง แต่ไม่ทัน เพราะคราวนี้กระสุนเวทมังกรน้ำของโครอนยิงออกมาแล้ว

         The Water Dragon Emperor

         "ซูมมมมม.......บรึ้มมมมมมม!!!!!!"381,586!Critical!

         เรือธงไทโรเนียแตกเป็นเสี่ยงๆ พวกทหารไทโรเนียไม่ตายก็ตกมะเลจมน้ำตาย เมื่อเรือธงถูกทำลาย กองเรือไทโรเนียก็แตกหนีกระเจิดกระเจิง โดนกองเรือคาออสรุกไล่ฆ่าฟัน โครอนมองดูผิวทะเลที่ทหารไทโรเนียตกลงไป เขารับรู้ได้ว่าไตตัสยังรอดชีวิตอยู่ แต่เขาก็ไม่คิดจะติดตามไป

         กองเรือคาออสที่ได้รบชัยชนะนำทัพเรือกลับไปที่เมืองนอร์ธฟาเมีย หัวเมืองทางตอนเหนือสุดของคาออส ตั้งอยู่ในบนคาบสมุทรเล็กๆ ที่ตั้งของเมืองนี้อยู่ในบริเวณที่ราบสูง และหมอกก็ลงก็น้อยมาก ทำให้แทบจะสามารถมองเห็นได้ทั้งทะเลสาบ ขอเพียงมีเอลฟ์สักคนช่วยเรื่องนี้

         มีชาวเมืองมาต้อนรับตั้งแต่ที่ท่าเรือ โครอน อาเดลและมาริคขี่ม้านำเหล่าทหารคาออสกลับเข้าไปในเมือง ทหารช่วยกันลำเลียงคนเจ็บและศพคนตายออกไป ครอบครัวของทหารที่เสียชีวิตต่างพากันร้องห่มร้องไห้ ทหารคาออสทั้งหลายถูกพาไปจัดสรรอาวุธยุทธภันฑ์อีกครั้ง เพื่อเตรียมสู้รบในวันต่อไป

         กองทัพคาออสตั้งค่ายอยู่ใกล้กับท่าเรือ เพื่อให้ออกศึกได้รวดเร็ว  เหล่าแม่ทัพกำลังประชุมกันอยู่ในกระโจม โครอนกำลังพูดคาดการณ์ถึงการบุกของกองทัพไทโรเนียในครั้งต่อไป

         "ครั้งหน้าพวกมันคงไม่ทะลวงบุกเข้ามา แต่จะรักษาระยะห่างและโจมตีด้วยธนู....."

         "ทหารจากไอโรเนียขอเข้าพบครับ!!!"เสียงทหารหน้ากระโจมร้องขึ้นทำให้โครอนชะงักไป โครอนพยักหน้าให้เรียกทหารคนนั้นเข้ามาได้ ทหารคนนั้นเข้ามาแล้วคุกเข่าส่งสาส์นให้โครอนแล้วกล่าวว่า

         "ในตอนนี้ท่านอาโรนสามารถยึดหัวเมืองเหนือทั้ง2เมืองเอาไว้ได้แล้วครับ เดิมทีท่านขุนพลคิดว่าจะนำทัพมาช่วยท่านที่นี่เลย แต่พวกเจ้าเมืองไอโรเนียทางใต้กำลังระดมพลเพื่อเตรียมยึดเมืองทั้งสอง ท่านจึงต้องตั้งรับอยู่ที่นั้นต่อไป พร้อมทั้งขออภัยที่ส่งสาส์นไปขออาวูธ เสบียงและกำลังคนจากเมืองซิสการ์ดล่วงหน้าก่อนแล้ว"

         มาริคก็แววตาวาวโรจน์ขึ้นมา อาเดลดวงตาลุกวาว

         ชายชราฟังแล้วกำหมัดแน่นขึ้นเล็กน้อย อาโรนสามารถตีเมืองได้เร็วกว่าที่เขาคิดซะอีก และตอนนี้อาโรนก็กำลังหาข้ออ้างเพื่อสร้างฐานที่มั่นตัวเองให้มั่นคงกว่านี้ ขอทหารจากคาออสไปเพื่อทำให้ตัวเองเข้มแข็งขึ้น ขณะที่โครอนก็มีทหารน้อยลง ตอนนี้ถึงเขาอยากลดอำนาจอาโรนก็ทำไม่ได้ จริงอย่างที่มาริคพูดไว้ นี่เป็นการปล่อยเสือเข้าป่าแท้ๆ แถมตอนนี้ส่งสาส์นมาเพื่อดักเขาไว้ไม่ให้เข้าไปแทรกแซง

         "บอกอาโรนด้วยว่า ให้เขาทำงานของตนให้ดี ถ้ามีความชอบข้าจะให้รางวัล แต่ถ้าล้มเหลวข้าคงต้องลงโทษเขาจากโทษที่พ่ายศึกและทำอะไรโดยพลการ"

         โครอนพูดตำหนิเป็นเชิงเตือน ทหารคนนั้นก้มหัวแล้วเดินออกจากกระโจมไป การประชุมดำเนินต่อไป แต่ทว่า....

         "ท่านอาโรนนี่ยอดเยี่ยมไปเลย"
         "มันขัดคำสั่งท่านโครอนและขอทัพเสริมไปตอนที่ท่านโครอนไม่อยู่ แบบนี้มันข้อหากบฎชัดๆ แค่นี้ก็ดูไม่ออกเหรอไอ้พวกโง่!!!"
         "ว่าไงนะพวกแก พูดแบบนี้หาเรื่องใช่ไหม!!!!"
         "..................."

         หัวข้อสนทนากลายเป็นเรื่องที่อาโรนยึดหัวเมืองทั้งสองได้ แม่ทัพทั้งหลายพูดคุยยกย่องในชัยชนะของอาโรน ขณะที่บางคนก็ไม่พอใจ จนเริ่มหันมาทะเลาะกัน ทำให้การประชุมดำเนินต่อไปไม่ได้

         "เลิกประชุม"โครอนพูดเสียงเรียบ แม่ทัพสองฝ่ายเขม็งมองกันด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะพากันเดินออกจากกระโจมไป

         โครอนกับมาริคหันไปสบตากันด้วยสีหน้าเคร่งเครียดไม่น้อย แม่ทัพเหล่านี้ขัดแย้งกันเรื่องอาโรน ตอนนี้เรื่องที่อาโรนตีเมืองทั้งสองได้กำลังทำให้กองทัพทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง กองทัพที่ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันย่อมพินาศต่อศัตรู ไม่ใช่แค่โครอนที่คาดหวังให้อาโรนแพ้ศึก อาโรนก็กำลังหวังกับเขาแบบนั้นอยู่เหมือนกัน

         "อาเดล ช่วยไปคุยกับพวกนั้นที อย่างน้อยอย่าให้พวกนั้นทะเลาะกันตอนออกศึก"

         โครอนพูดขึ้น เพราะในบรรดาขุนพลทั้ง4 อาเดลเป็นคนเดียวที่เหล่าทหารทุกหน่วยไม่มีความอคติด้วย และเธอก็ถนัดเรื่องแบบนี้มาก

         "วางใจได้ค่ะ อาโรนทำได้เยี่ยมไปเลยนะค่ะ"

         อาเดลพูดแล้วเดินฮัมเพลงออกไปอย่างอารมณ์ดี

         เมื่ออาเดลไปแล้วมาริคก็มองโครอนด้วยสายตาตำหนิและไม่พอใจมาก ก่อนที่จะเดินออกไปอีกคน

         "นายห้ามลงมือทำอะไรเด็ดขาด ไม่งั้นอาจเข้าทางอาโรน"โครอนเตือน เพราะเขาไม่รู้ว่าอาโรนกำลังยุยงเขารึเปล่า และตอนนี้เขาก็ไม่พร้อมจะเผชิญศึกสองด้าน

         มาริคเดินกระแทกพื้นเสียงดังออกไปเป็นการประท้วงและระบายความโกรธ

         อาเดลพูดคุยกำชับเหล่าแม่ทัพว่าห้ามขัดขากันตอนสู้รบ ทั้งไม้อ่อนไม้แข็ง พวกแม่ทัพเกรงใจอาเดลจึงยอมตามแม้จะยังขุ่นเคืองกันอยู่ จากนั้นอาเดลก็เข้าไปพักผ่อนและเลือกกดออฟไลน์






         อานิลตื่นขึ้นมาตอนตี5  เธอออกมาก่อนเพราะไม่อยากวุ่นวายกับเรื่องที่พวกทหารทะเลาะกัน โดยเฉพาะเมื่อมันเกี่ยวกับเฟต

         ช่วง1อาทิตย์ที่กลับมาจากญี่ปุ่น เธอนอนพักอยู่บ้านเฟตตลอดไม่ยอมกลับบ้าน เพราะมิร่าไม่ยอมกลับ ตอนแรกพ่อแม่ก็มาตาม แต่หลังพ่อแม่รู้ดีว่าเป็นปัญหาเรื่องความรักก็ไม่ขอยุ่งเกี่ยวด้วย ยอมให้อยู่ที่นี่ไป

         อานิลเดินลงมาชั้นล่างเพื่อหาอะไรกิน เธอเห็นแสงไฟจากในห้องนั่งเล่น เมื่อเข้าไปเธอก็เห็น เฟตกำลังนั่งดูรายงานข่าวในยุโรปอยู่ โดยมีมิร่านั่งอยู่ข้างๆ

         "วันนี้ตื่นเร็วจังนะครับพี่อานิล"เฟตยิ้มทักทาย มิร่ามองเธอตาเขียวและขยับตัวนั่งชิดเฟตแสดงความเป็นเจ้าของ

         "พี่จะทำคุกกี้ให้กินนะ"อานิลเดินเข้าห้องครัว และทำขนมที่เฟตชอบกิน มันไม่ใช่ของที่เขาชอบมากที่สุด แต่เหตุผลเพราะมิร่าไม่ชอบคุกกี้

         การทำอาหารในยุคนี้ง่ายแสนง่าย โดยเฉพาะถ้ามีเงินซื้อเครื่องครัวราคาดี ตัวเครื่องไมโครเวฟสีดำในห้องครัวกับหลอดแก้วใหญ่ที่ใส่สารสีต่างๆไว้ เป็นน้ำที่ผลิตด้วบเทคโนโลยีชั้นสูง สามารถทำอาหารง่ายๆออกมาได้ภายใน30วินาที ถ้าเป็นอาหารราคาแพง วัตถุดิบที่ใส่ก็แพงตามและใช้เวลานานขึ้นด้วย สูงสุดก็5นาที ที่คนทำต้องทำก็แค่กดวัตถุดิบและเมนูอาหารเท่านั้น

         "ครืนๆๆๆ....!!!!"

         ระหว่างที่รออานิลหันไปมองหน้าจอทีวี

         "ถ่ายทอดสดจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งได้ถูกผู้ก่อการร้ายกลุ่มใหญ่ทำการบุกยึดห้างเอาไว้บนชั้น10 โดยจับพลเมืองเป็นตัวประกันกว่า200คน ทางทางอังกฤษได้อพยพพลเมืองชั้นอื่นออกมาจากอาคาร มีการระดมกำลังทหาร ขณะนี้ได้ทำการล้อมห้างสรรพสินค้าไว้มากว่า1ชั่วโมงแล้ว..."

         เฟตมองด้วยสายตานิ่ง ยุโรปเป็นศูนต์กลางของตระกูลโดรานุส ผู้ก่อการร้ายเกือบทั้งหมดบนโลกก็เป็นพวกที่ต่อต้านตระกูลเขาซะด้วย มีคนของตระกูลโดรานุสไม่น้อยที่ต้องตายเพราะคนพวกนี้ แต่ถ้าพวกมันคิดว่าจะจับประชาชนเป็นตัวประกันไว้ แล้วฝ่ายโธมัสที่ดูแลยุโรปจะไม่ทำอะไรก็คิดง่ายไปแล้ว

         "ครืนๆๆ....ตึงๆๆ...บรึ้มๆๆๆ.....!!!!!!"

         ตึกห้างสรรพสินค้าสูงกว่า30ชั้น เกิดการถล่มลงมาภายในเวลาไม่ถึง20วินาที และเกิดการระเบิดขึ้นที่ชั้น10 เปลวไฟจาการระเบิดลุกท่วมจนพุ่งออกมาด้านนอก อาโรนแน่ใจได้ว่าพวกคนร้ายและตัวประกันตายหมดแล้ว และคงไม่ต้องบอกว่าเป็นฝีมือใคร ทางด้านมิร่ามีน้ำตาคลออกมาเล็กน้อย เธอเคยเห็นเรื่องนี้มาตั้งแต่เด็ก เพราะตระกูลเธออยู่ในวังวนแย่งชิงอำนาจนี้เช่นกัน แต่เธอก็ไม่อาจรับได้

         "ทำเกินไปแล้ว..."มิร่าพูดเบาๆ แต่เฟตก็ได้ยิน

         "พวกมันโง่เอง ส่วนชาวเมืองก็ทั้งโง่และโชคร้ายที่ไปอยู่ที่นั้น"น้ำเสียงเฟตเรียบเฉย ดูไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องผิดหรือเสียใจแม้แต่น้อย มิร่าถอนหายใจ ตระกูลโดรานุสโดนสอนมาให้เลือดเย็นแบบนี้ทุกคนนั่นแหละ

         "ยังโหดเหี้ยมไม่เปลี่ยนเลยนะ ลุงโธมัส"อานิลที่เดินถือจานคุกกี้มาวางและนั่งดูข่าวด้วยพูดขึ้น มิร่าลืมนึกไป เธอคนนี้ก็ด้วย

         "แหงสิ ถ้าเขาไม่เป็นแบบนี้ละก็ เขาคงโดนยึดตำแหน่งไปนานแล้ว"เด็กหนุ่มกล่าว

         ภายในตระกูลโดรานุส พวกลูกน้องที่ทำงานให้ก็แก่งแย่งชิงอำนาจกันเอง แม้แต่คนที่มีเจ้านายคนเดียวกันก็ตาม โธมัสมีตำแหน่งเป็นมือขวาของพ่อเฟต มีอำนาจรองจากพ่อเขาตั้งแต่รับตำแหน่งจนถึงปัจจุบัน มีหลายครั้งไม่น้อย ที่โธมัสถูกใส่ร้ายจนพ่อเขาสงสัยคิดฆ่าตัดไฟซะแต่ต้นลม หรือไม่ก็โดนวางยา ลอบสังหาร แต่ไอ้แก่นี่ก็ยังรอดมาถึงวันนี้

         "นี่เฟต ถ้าเฟตได้ตำแหน่งผู้นำตระกูลละก็ สนใจรับพี่เป็นมือขวาไหม"อานิลยกแขนขึ้นมากอดคอเฟตถามขึ้นด้วยเสียงหวาน

         ตำแหน่งมือขวา นอกจากจะเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจเป็นรองแค่ผู้นำตระกูลแล้ว ยังเป็นตำแหน่งที่ได้อยู่ใกล้ผู้นำตระกูลที่สุดด้วย มิร่าได้ยินอานิลพูดถึงตำแหน่งนี่ก็หยุดร้อง หันมามองอานิลด้วยสายตาแข็งกร้าวและเย็นชา

         "เป็นได้ค่ะพี่ แต่ต้องในฐานะลูกน้องเท่านั้น"

         "หืม พี่เป็นมากกว่านั้นก็ได้นี่นา"อาเดลลูกแก้มเฟต เฟตเขินเล็กน้อย เขารีบจับมือเธอให้ถอยไป ไม่งั้นเขาโดนมิร่าทึ่จ้องตาเขม็งฆ่าแน่

         สองสาวจ้องตากันเขม็ง ไม่มีใครยอมใคร เฟตหนักใจว่าจะทำยังไงให้ทั้งคู่หยุดทะเลาะกันดี

         "ตรู๊ดๆๆ....!!!!"เสียงโทรศัพท์เฟตดังขึ้นมา เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาดูชื่อแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัยเล็กน้อย กดรับสายแล้วลุกขึ้น

         "ฮัลโหล สวัสดีครับพี่กาเรีย"มิร่ากับอานิลชะงักมองเฟตที่กำลังเดินออกไป

         "ว่าไงจ๊ะเฟต"อานิลหูดีได้ยินเสียงผู้หญิงเล็กน้อยก็เหงื่อตก เสียงกาเรียจริงๆด้วย

         "เฟตมีเบอร์กาเรียได้ไงx2!!!"สองสาวพูดพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย สีหน้ากังวลไม่น้อย เฟตกำลังสนุกอยู่ในใจ และดีใจที่พี่กาเรียโทรมา

         "ความลับ อย่าให้ฉันเห็นทะเลาะกันตอนกลับมานะ"เฟตพูดแค่นั้นก่อนจะออกจากห้องไป

         สองสาวนั่งอยู่ในห้อง เฟตไปหาที่ส่วนตัวคุยกับกาเรีย ผ่านมา2กว่า0นาที แต่ทั้งสองยังคุยกันไม่เสร็จสักที จากที่กาเรียชอบหว่านเสน่ห์เฟตทุกครั้งที่มีโอกาส ตอนนี้เธอก็คงทำแบบเดียวกันอยู่

         "มิร่า เธออยู่กับกาเรียก็คอยขวางไว้หน่อยสิ อย่าให้ยัยนั้นทำคะแนนนำได้"อานิลไม่ยอมที่เพื่อนสนิทเธอมาทีหลัง จะมาแย่งเฟตไป

         "พยายามอยู่ค่ะ"มิร่าตอบได้แค่นั้น เพราะเธอไม่ค่อยว่างจะหาเวลาอยู่กับเฟตสองคนในเกมส์นัก ทำให้กาเรียมีโอกาสมากกว่า นอกเกมส์ก็มีอาเดลอีก

         "ขออย่าให้มีใครมาเพิ่มอีกเลย"อาเดลปลงตก

         "คงยากแหละค่ะพี่ เฮ้อ!!!..."

         สองสาวนั่งเหม่อลอยกันอยู่ในห้องนั่งเล่น ตอนนี้พวกเธอรู้สึกว่ามีคู่แข็งเรื่องความรักตัวฉกาจโผล่มาอีกคนนึง





    ญี่ปุ่น,กรุงโตเกียว

         "ฮัดเช้ย!!!"

         กาเรียยกมือปิดปากและจามออกมาในตอนที่เธอโทรคุยกับเฟต แต่เธอยกหูโทรศัพท์ออกเพื่อไม่ให้เฟตได้ยิน ผู้หญิงมักไม่อยากให้ผู้ชายเห็นเรื่องน่าอายของตัวเอง

         "ใครพูดถึงเราอยู่นะ"
    _____________________________
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×