ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Kingdom War Online สงครามแห่งอำนาจ

    ลำดับตอนที่ #105 : บทที่ 101 ตามหาคนสูญหาย

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 918
      5
      8 มี.ค. 60

    บทที่ 101

         ทวีปอเมริกาเหนือโดนทำลายย่อยยับ แต่ประเทศที่อยู่ในทะเลแคริเบียนยังปลอดภัยดี แต่เพราะสูญเสียประเทศใหย่ของทวีปไปในชั่วพริบตาด้วยอุกกบาต ทำให้ประเทศหมู่เกาะมีการพัฒนาที่้ล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ สินค้าที่ขายไปมีแต่ของราคาถูก และพอทวีปอเมริกาเหนือเต็มไปด้วยรังสีจากอุกกาบาต คลองปานามาก็ใช้ไม่ได้ การค้าขายกับต่างประเทศป็นไปอย่างยากลำบาก เศาฐกิจของประเทศต่างๆตกต่ำลง ทุกประเทศกลายเป็นเผด็จการไม่ก็ใกล้เคียง มีโจรผู้ร้ายชุกชุมไปหมด


         แต่เดิมประเทศแถบแคระเบียนถูกปกครองโดยกลุ่มสองอิทธิพลที่คานอำนาจกัน คือประเทศฝักใฝ่ยุโรปซึ่งมีวิทยาการก้าวหน้ากว่า กับกลุมประเทศที่ฝักใฝ่อเมริกาใต้ เนื่องจากเห็นว่าเป็นคนทวปอเมริกาเหมือนกัน และหลายปีมานี้ทวีปอเมริกาใต้ก็ก้าวหน้า ทำให้อิทธิพลจากยุโรปลดน้อยลง พอผู้นำตระกูลโดรานุสตายไป เฟตก็ได้เข้าควบคุมประเทสแถบนี้โดยสมบูรณ์ เขาให้บรรดาผู้ปกครองเผด็จการทั้งหลายปกครองต่อไปได้ แต่มีการผ่อนปรนมากกว่าเดิมเพื่อให้ประชาชนพอใจ บรรดาผู้นำประเทสต่างๆของแคริเบียนก็ไม่อยากสูญเสียอำนาจ และถ้าทำให้ประชาชนเลิกต่อต้านเขาได้ก็เป็นเรื่องดี จึงยอมรับการปกครองของเฟต และกลายเป็นรัฐบาบลหุ่นเชิดของเฟตโดยตรง


         แต่ก็มีกลุ่มใหม่เข้ามาแทนที่ยุโรป นั่นคือกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออก ที่เป็นประเทศในเขตอิทธิพลของโบมูดัส และลูกชายโรมูดัส


         ประเทสคิวบาเรียกได้ว่าเป็นประเทสที่อันตรายที่สุดในบรรดาประเทศแถบแคริเบียนทั้งหมด แม้ว่าเศรษฐกิจจะดีที่สุดในประเทศทั้งหมด และจัดอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว แต่มีคณะรัฐบาลเผด็จการเป็นผู้ปกครองประเทศ ใครที่ตคิดต่อต้านจะถูกประหาร คิวบามีทรัพยากรมากกว่าประเทศอื่นๆในแถบนี้ ทำให้ฝ่ายเฟตและโบมูดัสต่างอยากได้มาครอบครอง


         โบมูดัสเริ่มแผ่อิทธิพลเข้ามาในคิวบา ด้วยการใช้พลังประชาชนที่สนบัสนุนประชาธิปไตย กลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกแสดงท่าทีแข็งกร้าวต่อรัฐบาลประเทศแถบแครีเบียน ว่าประชาชนไม่มีเสรีภาพ และรัฐบาลเป็นหุ่นเชิดของเฟต โดรานุส ชาวเมืองย่อมชอบระบบการปกครองที่ดีกว่าอย่างประชาธิปไตย ทำให้เกิดการต่อต้านในหลายประเทศ ไม่ใช่แค่คิวบาเท่านั้น เกิดการก่อการร้าย ก่อวินาศกรรม การลอบสังหารไปทั่วไม่เส้นแต่ละวัน


         ปัญหาที่เกิดขึ้นทำให้บรรดาผู้นำประเทศแถบแคริเบียนต้องขอความช่วยเหลือจากเฟตให้ส่งทหารมาช่วย


    ประเทศคิวบา,เมืองหลวงฮาวานา


         ภายในคฤหาสน์แห่งหนึ่งในเมืองฮาวานา หญิงสาวร่างสูงโปร่ง ผมสีน้ำตาลยาวสลวยและดวงตกลมโตสีมรกต กำลังนั่งดูรายการข่าวอยู่


         "หลังจากถูกกดดันจากประชาชนมานาน ผู้นำประเทศโดมินิกันได้ยอมสละตำแหน่งประธานาธิบดี และกำลังจะมีกาสรเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ ภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ในอีก5วันข้างหน้า มีพรรคการเมืองต่างๆลงสมัครแข่งขันกันมากมาย มีพรรค.........."


         หญิงสาวนั่งดูข่าวที่มีประเทศเผด็จการอีกประเทศหนึ่งถูกประชาชนโค่นอำนาจไป


         "แอ๊ด!!"เสียงเปิดประตูดังขึ้นมา พ่อบ้านชราเดินเข้ามาและวางแก้วชาลง ก่อนจะชงน้ำชาใส่แก้ว


         "น้ำชาได้แล้วครับ"


         "ขอบคุณค่ะ"หญิงสาวกล่าวและหยิบชาขึ้นมาดื่ม


         "พ่อบ้าน คุณคิดว่าศึกทายาทนี่จะจบลงยังไง"


         "ไม่ว่าใครจะชนะก็ต้องมีคนตายเป็นจำนวนมาก"พ่อบ้านกล่าว เป็นคำที่ทุกคนบนโลกรู้ดี ทายาทที่ชนะไม่มีทางยอมปล่อยทายาทที่พ่ายแพ้ให้เป็นเสี้ยนหนามต่อไปแน่นอน และคงจะกำจัดไปพร้อมกับลูกน้องนับแสนนับล้าน


         "แล้วเรื่องแบบนี้มันควรเกิดขึ้นเหรอ"


         หญิงสาวมองภาพบนทีวี ฉายภาพตำรวจและประชาชนกำลังตะลุมบอลกันอย่างดุเดือด มีคนบาดเจ็บล้มตายมากมาย


         "ที่ประชาชนต่อต้านก็เพราะไม่พอใจการปกครองแบบเผด็จการของผู้นำประเทศครับ"


         "แต่ประชาธิปไตยในยุคนี้เป็นแค่ภาพลวงตา ทุกคนรู้ดีว่าชะตากรรมพวกเขาอยู่ในมือตระกูลโดรานุส การกระทำนี่เป็นการกระทำที่สูญเปล่ามาก"


         "คุณหนูเซร่าจะบอกว่าการปกครองของญาติคุณหนูถูกต้องเหรอครับ"


         "ใช่"เซร่าตอบเสียงแน่วแน่


         "แต่ประชาชนส่วนมากคงไม่คิดแบบคุณหนูแน่"


         "เพราะโดนหลอกด้วยคำพูดของพวกดีแต่ปากน่ะสิ"เซร่าพูดด้วยน้ำเสียงเคียดแค้น ก่อนที่จะกดเปลี่ยนช่อง ภาพเปลี่ยนมาเป็นช่องที่โรมูดัสกำลังกล่าวปราศัยแทนผู้เป็นพ่อ


         "เฟต โดรานุส น้องชายของผมถือเป็นอัจฉริยะที่ร้อยปีจะมีสักคน แต่น่าเสียดายที่เขาใช้วิธีการปกครองแบบเผด็จการ เราจะยอม..."เซร่าเปลี่ยนช่องทันที


         "ถึงแม้เฟตจะเลือกใช้วิธีเผด็จการ แต่ก็ยังดีกว่าประชาธิปไตยจอมปลอมที่พวกโบมูดัสอ้างถึง มันเป็นแค่เสรีภาพจอมปลอม พอพวกมันชนะ พวกมันก็จะหันมาปกครองแบบเผด็จการอยู่ดี ถ้าให้โลกมีผู้นำที่โง่เขลาอย่างมันโลกนี้ถึงคราวอวสานแน่"


         "หึหึ ท่าทางคุณหนูเซร่าจะเกลียดเขามากนะครับ ก็มควรเกลียดอยู่หรอก เขาเป็นอดีตคู่หมั้นของคุณนี่นา"พ่อบ้านกล่าว


         "พูดเรื่องบ้าอะไรค่ะคุณพ่อบ้าน สมองเสื่อมแล้วรึไง นั่นมันกาเรียที่ตายไปแล้ว"เซร่าไม่ได้มีแววตาตื่นตระหนกเลย แต่ตอบไปเหมือนไม่รู้เรื่องสักนิด และแสดงได้สมจริงโดยที่ทำแววตางุงงง


         "แหม แต่ตอนนี้มีข่าวว่าตัวละครเกรเซียของคุณกาเรียยังเล่นเกมส์ตามปกติอยู่นะครับ"


         "คงมีใครไปเล่นตัวละครเธอแทนละมั้ง แหงอยู่แล้ว ตัวละครสวยขนาดนั้นใครก็อยากได้ เจ้าของก็ตายไปแล้วด้วย คนที่ซื้อไปใช้อาจเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ แต่ผู้ชายน่าจะมีมากกว่า"เซร่าพูดเหมือนไม่สนใจ


         "แต่ผมว่าเป็นคนเดิมนะครับ ได้ยินว่าเกรเซียนอนกับอาโรนตลอดเลย มีคนด่าเธอในโลกจริงด้วยซ้ำ ว่าทิ้งสามีไปอยู่กับกิ๊กตัวเอง"


         "พวกเขายังไม่ทันได้แลกจูบ คุณกาเรียก็ปฎิเสธไปแล้ว เท่ากับว่าทั้งสองคนไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน โรมูดัสนั่นแหละที่หน้าด้านแถมยังตามืดตามัว ตามหาผู้หญิงที่ตายแล้วไม่ลดละ"


         "น่าสงสารโรมูดัสนะครับ"


         "ไม่เห็นน่าสงสารสักนิดเดียว กาเรียรักกับเฟตมาก่อน โรมูดัสอ้างเรื่องคู่หมั้น อย่างว่าแหละ คนที่ไม่ได้คู่กัน จะชาตินี่หรือชาติไหนก็ไม่มีทางได้คู่กันอยู่ดี คุณกาเรียต่างหากที่น่าสงสาร ที่ต้องหมั้นหมายกับคนที่ไม่ได้รักเพราะพ่อแม่ตัวเอง"


         "ถ้าเกิดคุณหนูเป็นกาเรียขึ้นมาจะทำยังไงครับ"พ่อบ้านถามขึ้น หญิงสาวยิ้มอย่างมีเลศนัย


         "ถ้าฉันมีหนุ่มน่ารักแถมรวยแบบนั้นมาจีบละก็ ฉันไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือแน่ เฟตน่ะน่ารักกว่าโรมูดัสตั้งเยอะ"เซร่าพูดเสียงดัง


         เธออาจรู้หรืออาจไม่รู้ว่ามีเครื่องดักฟังติดอยู่ในห้องนี้ และเครื่องนี้ก็กำลังส่งสัญญาณกลับไปที่โรงแรมที่พักของคนตตระกุลโดรานุสที่เช่าพักอยู่ห่างออกไป


         ชายหนุ่มผมสีทองงาม กำลังนั่งฟังเสียงจากเครื่องดักฟัง รวมถึงพ่อแม่ของกาเรีย ยิ่งชายหนุ่มได้ยินเธอพูดเท่าไหร่ยิ่งรู้สึกเจ็บปวด ส่วนพ่อของกาเรียก็นั่งฟังเงียบๆ


         "พ่อของกาเรียก็นึกถึงแต่ผลประโยชน์ของบริษัทตัวเองนั่นแหละ ไม่สนใจความสุขของลูกตัวเองเลย ส่วนแม่เลี้ยงใจร้ายนั้น คงอยากขับเธอออกจากครอบครัวใจจะขาด ท่าทางมันจะสมหวังแล้วละมั้ง"


         "กาเรีย ทำไมพูดกับแม่แบบนี้ ฮือๆๆ........."


         "คุณอย่าร้องไห้ไปเลย"


         หญิงสาวกำลังร้องไห้ราวกับเสียใจมากที่ลูกไม่รักตัวเอง สามีพยายามปลอบใจ มาเรียโผเข้ามาซุกอกสามี แม้จะทำเป็นเสียใจ แต่ภายใต้แววตาของแม่เลี้ยงกาเรียมีแต่ความเคียดแค้นที่กาเรียมีความสุข ในขณะที่เธอตกอยู่ในสภาพต้องนั่งรถเข็นตลอดชีวิต


         โรมูดัสปิดเสียงไปหลังทนฟังต่อไปไม่ได้


         "ว่าไงครับคุณเบอนาร์ด"


         "ถึงเค้าโครงหน้า สีผมและเส้นผมจะเปลี่ยนทรงไป แต่ผมมั่นใจว่าเธอคือกาเรียลูกสาวผมแน่นอน"เบอร์นาร์ดพูดเสียงแน่วแน่


         "ใช่จริงๆสินะ"โรมูดัสพึมพำเบาๆ มองข้อมูลของหญิงสาวที่ชื่อเซร่า ฟอเรียส ซึ่งเป็นลูกตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวยและมีเส้นสายในคิวบา


         หลังจากที่กาเรียหายสาบสูญไป และปรากฎตัวแค่เกรเซียในเกมส์ โรมูดัสทวงกาเรียในเกมส์ก็ไม่สำเร็จ แถมเฟตยังแพร่ข่าวเรื่องนอนกับเธอ ทำให้เขาต้องอับอายขายหน้า โรมูดัสตามหาเธอทั่วโลกแทบพลิกแผ่นดิน เขามั่นใจวาเฟตไม่กล้าซ่อนกาเรียไว้ในทวีปอเมริกาใต้แน่ แต่จะต้องซ่อนที่อื่น เขาพยายามหาในทวีปเอเชีย แอฟริกาและยุโรป แม้จะมีข่าวลือว่าเป็นคนโน้น คนนี้บ้าง แต่ก็ไม่ใช่สักราย ก่อนที่เขาจะได้เจอคนนี้ที่มีหลายอย่างเหมือนกาเรีย จนเขาต้องเรียกพ่อแม่ของเธอมาดูเพื่อยืนยัน


         "เราไปตามตัวเธอกลับบ้านเถอะค่ะ"มาเรียกล่าว ในใจคิดว่าถ้าได้ตัวกลับมาเมื่อไหร่จะทรมาณให้สาสม


         "ทำอย่างนั้นไม่ได้ครับคุณมาเรีย"


         "ทำไมค่ะ"มาเรียถามอย่างขัดใจ ที่มีคนมาขวางทางแก้แค้นของเธอ


         "ตอนนี้กาเรียเป็นบุคคลหายสาบสูญ การที่เราไปหาเซร่าและบอกว่าเป็นกาเรียก็ไม่ต่างจากเป็นคนบ้า"


         "ถ้าใช้วิธีพิสูจน์DNAละครับ"เบอนาร์ดถามขึ้น


         "ไม่ได้เหมือนกันครับ เซร่าเป็นลูกสาวของตระกูลฟอเรียสอย่างถูกต้อง บางทีเฟตอาจจะให้เธอสวมรอยแทนตัวจริง แต่เราไม่มีหลักฐาน ซึ่งเฟตคงทำลายมันทิ้งไปหมดแล้ว เราก็ไม่มีสิทธิไปขอตรวจเลือดเธอ กาเรียก็คงระวังตัวเรื่องนี้แน่ และที่นี่ก็เป็นประเทศเผด็จการ ทางการสามารถจับเราได้ตลอดนะครับ"


         โรมูดัสพูดแล้วทำให้สองสามีภรรยาเครียด ชายหนุ่มก็เครียดไม่แพ้กัน เฟตพากาเรียมาอยู่ประเทศอันตรายแบบนี้ เพราะรู้ดีว่าสักวันเขาต้องตามรอยจนเจอ และถ้าเขาคิดนำตัวเธอคืนก็ต้องเดิมพันด้วยชีวิต ถ้าเกิดโรมูดัสตายขึ้นมา ทางรัฐบาลก็อ้างได้ว่าเขาทำผิดกฎ โธมัสก็ไม่มีสิทธิว่าหรือลงโทษอะไร


         "แล้วจะทำยังไงดีครับ รอให้ประเทศนี้เปลี่ยนเป็นประชาธิปไตยเหรอ"เบอนาร์ดถาม ที่จริงเขาไม่อยากมาที่นี่เลยถ้าไม่ใช่เพราะอยากได้ลูกสาวคืน


         "กว่าประเทศนี้จะกลายเป็นประชาธิปไตย ผมเกรงว่าท่านอาจตายไปแล้วก็ได้ เฟตเลือกประเทศนี้ให้กาเรียซ่อนตัว รับรองว่ารากฐานของประเทศนี้ต้องแข็งแกร่งกว่าที่อื่น ล้มได้ยากมาก วิธีการเดียวคือหาโอกาสชิงเอาตัวอย่างเลือดมา"


         "ด้วยวิธีไหนค่ะ"


         "จังหวะที่เซร่าออกมาจากบ้านครับ"


         "แต่ว่าได้ยินว่าเธอสุขภาพอ่อนแอจนหมอสั่งไม่ให้ออกนอกบ้าน ไม่งั้นอาจเป็นอันตรายได้"


         "นั่นเป็นเหตุผลที่เฟตให้กาเรียสวมรอยเป็นเซร่าครับ และการที่จะให้กาเรียอยู่แต่ในบ้านเฟตต้องทนไม่ได้ ยังไงเขาก็ต้องมาหาเธอบ้าง ผมได้ยินว่าช่วงนี้มีหนุ่มคนนี้มาหาเซร่าเป็นระยะๆ นั่นต้องเป็นเฟตแน่ ตอนที่พวกเขาออกจากบ้านก็แค่หาทางเอาเลือดตอนนั้นก็พอ"


         "ได้ยินว่าทหารเดินเต็มเมืองนี่ค่ะ"


         "เฟตไม่ปล่อยให้เดตแย่ลงหรอกครับ เพราะหมอนั้นก็ชอบกาเรียเหมือนกัน ช่วงที่ออกจากบ้าน กำลังทหารจุดที่เขาพาเซร่าเดตจะลดน้อยลงมาก ส่วนนึงก็เพราะความมั่นใจในตัวเองของเขานี่แหละ"


         "ยอดเยี่ยมค่ะ งั้นเราจะรอให้เฟตมา จากนั้นถ้าเราได้ตัวอย่างเลือดในDNAมา เราจะจับได้ทั้งกาเรียและเฟต"มาเรียแสยะยิ้มด้วยความสะใจ


         "ขอบคุณสำหรับคำชมครับ"


         ไม่กี่วันต่อมา ชายหนุ่มร่างไม่สูง มีผมสีทองยาว ดวงตาสีแดงก่ำ ส่วมแว่นตา4เหลี่ยมก็เดินมาหาเซร่าถึงที่บ้านของเธอ เซร่าเข้ากอดชายหนุ่มด้วยความยินดี ได้ยินว่าชายหนุ่มคนนี้ชื่อคาลอส แต่เขาดูคล้ายเฟตอยู่ไม่น้อยเลย จากนั้นทั้งสองคนก็ออกไปเดทกัน


         คาลอสพาเซร่าไปเดินเที่ยว ทุกอย่างเป็นไปตามที่โรมูดัสคาดการณ์ไว้ ที่ๆเขาเดินไปมีทหารลดน้อยลงไปมาก ถึงคาลอสที่เป็นนามแฝงจะบอกว่าเป็นลูกชายของท่านผู้นำก็เถอะ แต่ผู้นำประเทสไม่มีทางเสี่ยงลดกำลังทหารตามจุดต่างๆของเมืองลงหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะคาลอสคือเฟตที่กุมอำนาจปกครองประเทศแถบนี้อยู่เบื้องหลังแล้วละก็ มันก็ไม่มีทางเป็นไปได้อย่างแน่นอน


         ในช่วงหลายวันมานี้ โรมูดัสได้ส่งหน่วยกล้าตายที่ไร้ชื่อ ไร้ประวัติ มาที่นี่เพื่อเอาตัวอย่างเลือดในDNAของเซร่าไป ไม่จำเป็นต้องส่งไปให้ถึงมือโธมัส แค่หาทางเอาเลือดมาสักหนดนึง และเอาใส่เครื่องวัดให้ตรวจสอบ จากนั้นส่งข้อมูลไปให้โรมูดัส เพียงแค่นี้ก็ใช้เป็นหลักฐานมัดตัวเฟตได้แล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาได้แต่ซ่อนตัว ยังไม่สบโอกาสลงมือ


         คาลอสพาเซร่าไปดูหนัง ช๊อปปิ้งและกินข้าว เท่าที่ดูก็เหมือนแฟนหนุ่มสาวร่ำรวยธรรมดาทั่วไป คำพูดก็ไม่มีหลุดพิรุธให้เห็นเลย แม้พวกลูกน้องของโรมูดัสจะไม่ค่อยเชื่อว่าอีกฝ่ายเป็นตัวปลอมใช้นามแฝง แต่ในเมื่อเจ้านายพวกเขาสั่งมาพวกเขาก็ต้องทำตามคำสั่งสถานเดียว


         ตอนนี้เวลาผ่านมาถึงช่วงเย็นแล้ว ทั้งคู่กำลังทานอาหารอยู่ที่ร้านสปาเก็ตตี้


         "เซร่าครับ กินเสร็จแปล้วเดี๋ยวไปที่หนึ่งด้วยกันหน่อยนะครับ"


         "อ๊ะ..แต่พรุ่งนี้ฉันมีเรียนที่มหาวิทยาลัย....."


         "ไม่เป็นไรครับ เดี่ยวพรุ่งนี้ให้คนขับรถมารับได้ เราไปหาเวลาอยู่กันสองต่อสองดีกว่า"ชายหนุ่มยิ้มให้ พวงแก้มสองข้างของหญิงสาวหน้าแดงแปร๊ดขึ้นมา


         ทั้งสองมุ่งหน้ามาที่โรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ลูกน้องของโรมูดัสหลายคนกัดฟนด้วยความอิจฉาพวกลูกคนรวย ส่วนคนเป็นหัวหน้าไม่ได้คิดเรื่องนั้น แต่ที่นี่แทบไม่มีทหารเลย ส่วนใหญ่เป็นคนของทางโรงแรมซะมากกว่า


         "นี่แหละโอกาสที่รอคอย"


         พวกเขาขับรถตามแฟนหนุ่มสาวคู่นี้เข้าไปในโรงจอดรถ


         วันนี้เป็นวันหยุดและโรงแรมนี่ก็อยู่ใกล้กับทะเล จึงไม่ได้มีแต่คู่รักเท่านั้น ยังมีครอบครัวมาพักผ่อนอีกจำนวนมาก ทำให้ตึกจอดรถของโรงแรมเต็มเกือบหมด กว่าคาลอสจะหาที่จอดได้ก็มาถึงชั้นบนสุดที่ไม่มีคน


         "พร้อมหรือยัง"


         "พร้อมแล้วค่ะ อื้อ!!!!!"ทั้งสองกอดจจูบกันอย่างไม่อายใคร


         แต่ก่อนพวกเขาจะเดินไปที่ลิฟท์ก็มีรถ3-4คันมาจอดขวางด้านหน้า ชายชุดดำหลายสิบคนลงมาจากรถ ลงมายืนล้อมพวกเขาไว้ทุกด้าน


         "พวกคุณต้องการอะไร"คาลอสถาม


         ชายร่างใหญ่เป็นหัวหน้าเดินขึ้นมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่ชื่อคาลอส ซึ่งโรมูดัสเชื่อว่าเป็นเฟต


         "ท่านโรมูดัส โดรานุสต้องการได้คุณหนูเกรเซีย เอโดราส คืน จงส่งตัวเธอมาให้เราซะ"หัวหน้าสั่ง มันเป็นความต้องการของโรมูดัสที่ต้องการเอาตัวเซร่าคืนไปด้วย เขาเลยสั่งว่าถ้ามีโอกาสก็ลักพาตัวมาด้วยเลย


         สองหนุ่มสาวแสดงท่าทีงุงงง ถ้าเกิดเป็นอย่างที่โรมูดัสบอก พวกเขาก็แสดงได้สมจริงจนเกินไป ผมยินดีมอบรางวัลนักแสดงดีเด่นให้เลย


         "พวกคุณเข้าใจผิดแล้ว ผมขอพูดตรงๆเลยละกัน....."คาลอสเดินเข้ามาประชิดมองหน้าหัวหน้ากลุ่ม


         "เซร่า(กาเรีย)น่ะ ของชั้นวะ!!!!"


         "เปรี้ยงงงง/อุ๊ก!!!!"


         พริบตานั้น คาลอสก็ยกเท้าขึ้นเตะโดนเจ้าโลกของมันเต็มแรง คาลอสเห็นชัดเจนเต็มสองตาว่ามีน้ำมูกทลักออกมาจากจมูกของมัน น้ำลายพุ่งจากปากและอ้าค้างไว้ ใบหน้าเขียวอี่และทรุดลงไปกับพื้นเอามือกมตำแหน่งที่โดนเตะ ส่วนลูกน้องก็อึ้งกับที่หัวหน้าตัวเองโดนเล่นงาน และเผลอเอามือกุมของตัวเองด้วยความกลัวนิๆ หลงลืมหน้าที่ตัวเองไปเสี้ยวสินาที


         "พรึ่บ!!!!"แทบจะในทันที คาลอสเข้าไปกระชากแขนเซร่าให้วิ่งผ่านหัวหน้าที่ล้มลงไป


         "พวกแกมัวทำอะไรอยู่ รีบตามไปสิโว๊ย อุ๊ก!!!!"หัวหน้ายังไม่หายเจ็บตะโกนสั่งลูกน้อง พวกมันได้สติและรีบวิ่งไล้ตามมา


         คาลอสกับเซร่ารีบวอ่งไปที่ลิฟท์ให้เร็วที่สุด กแต่เซร่วิ่งได้ช้า และพวกลูกน้องของโรมูดัสก็วิ่งตามมาได้เร็วมาก ทำให้ไม่นานก็ไล่ทันและล้อมพวกเราไว้


         "เปรี้ยงๆๆผัวะๆๆ......"คาอลสเริ่มออกหมัดเตะต่อยพวกมันด้วยวิชาทะเลาะวิวาทไป3คน ภายในไม่กี่วินาที


         "กรี๊ดดดดด!!!!!!"เสียงร้องเซร่าดังขึ้น เธอโดนลูกน้องของโรมูดัสจับตัวและกำลังโดนพาตัวไป


         คาลอสสวมวิญญาณปีสาจ พุ่งเข้าไปด้วยความเร็วสูง ลูกน้องเป็น10คนก็หยุดเขาไม่ได้ โดนอัดร่วงไปกันหมด เฟตยกหมัดอัดเข้าเต็มหน้าชายที่จับตัวเซร่าไว้ มันกระเด็นตามแรงชกไปกระแทกเสาอย่างแรง ก่อนจะล้มลงพื้นแน่นิ่งไป ส่วนลูกน้องโรมูดัสคนอื่นก็ร้องดอดครวญด้วยความเจ็บปวดขยับไปไหนไม่ได้อีก


         "ไปกันเถอะ"คาลอสยื่นมือ


         "ค่ะ"


         สองหนุ่มสาวหนีเข้าลิฟท์ กดไปที่ชั้นอื่นของโรงแรม หัวหน้าของพวกมันตามมาถึงและเห็นเป้าหมายหนีไปได้กโกรธลูกน้องมาก


         "ลุกได้แล้วพวกแก เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ ผู้ชายคนเดียวก็ไม่มีปัญญาชนะ ไม่สิ มันยังเป็นแค่เด็กหนุ่มด่วยซ้ำ"หัวหน้าใช่เท้าเตะสะกิดลูกน้องให้ลุกขึ้นยืน


         "หัวหน้า แต่เจ้านั้นมันเทพส่งมาเกิดของจริงเลยนะครับ"


         "หุบปากไป ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องเอาตะวอย่างเลือดของเซร่ามาให้ได้"


         "นั่นใครน่ะ!!!!!!!"เสียงนึงดังขึ้น ที่พวกเขาเห็นคือพนักงานของโรงแรมนี่นั่นเอง


         "ซวยแล้ว รีบเผ่นก่อนเร็ว"


         พวกลูกน้องของโรมูดัสพากันขึ้นรถหนี โชคดีที่สลัดรถของพวกทหารและพวกตำรวจได้สำเร็จ แต่ก็ออกห่างจากโรงแรมมาไกล


         "แล้วที่นี่ต้องเริ่มต้นกันใหม่อีก!!!!!"หัวหน้าสบถ


         "หัวหน้าครับ"ลูกน้องคนนึงเรียก


         "หนวกหูกำลังคิดแผนอยู่"หัวหน้าโบกมือไล่อย่างรำคาญ


         "อะไร!!!!!"คราวนี้หัวหน้าหันมาถามเสียงดัง แต่ก็เห็นข้อมูล4เหลี่ยมที่อยู่ในมือลูกน้องมีตัวอย่างเลือดปรากฎแล้ว


         "ผมแค่จะบอกว่าเราเอาเลือดจากแขนของยัยนั้นมาได้แล้วครับ"


         ลูกน้องรับไปดู และกดให้ตรวจเลือดที่เอามาจากเซร่าได้ เครื่องทำการประมวลผลว่าเป็นใครหลายวิ ก่อนที่ผลจะออกมาเป็นภาพของเซร่า หฺญิงสาวผมสีน้ำตาล


         "บ้าน่า เป็นไปไดยังไง"หัวหน้าตกใจ


         โรมูดัสคิดผิดเหรอ อีกฝ่ายเป็นตัวจริงไม่ได้โดนแฝงนาม


         "แกมั่นใจว่านี่เป็นเลือดยัยนั้นนะ"


         "แน่ใจครับ ผมใช้เข็มเจาะดูดเลือดจากแขนมานะครับ หลายคนเป็นพยานได้"เขาพูดแล้วลูกน้องอีกหลายคนก็พยักหน้า


         "เราต้องส่งข้อมูลนี่ให้ท่านโรมูดัส"


         ทางด้านคาลอสกับเซร่า พวกเขาต้องเข้าห้องน้ำเพื่อเช็ดคราบเลือดที่เปื้อนมือตัวเอง เซร่าเอาหนังแขนเทียมที่มีเลือดของเซร่าตัวจริงที่ผูกคอตายออกแล้วเผามันทิ้งไม่เหลือซาก


        พวกเขาเดินออกมายืนท่ามกลางผู้คนที่หน้าโรงแรม หลังเช็คอินพวกเขาก็ไม่รอช้า รีบขึ้นไปที่ห้องพักของโรงแรม จากนั้นชายหนุ่มก็ไม่รอช้า กอดจูบหญิงสาวและพาเธอมานอนคร่อมทับบนเตียง


         แต่หญิงสาวได้สติ พยายามผลักร่างเขาออกไป แต่ร่างเล็กแข็งแรงกว่าที่คิด


         "ไม่ได้นะค่ะ"


         "แต่ผมไม่สน โอกาสงามมาอยู่ตรงหน้าแล้วแท้ๆ"ชายหนุ่มพูดแล้วไซร้คอหญิงสาวใหญ่ มือก็เริ่มถอดชุดสาวงาม


         "อ๊ะ..อ๊า ไม่ได้นะค่ะ ถ้าเกิดฉันท้องขึ้นมาละก็....อ๊า!!!!"เธอครางเสียงดังเมื่อโดนจับหน้าอก


         "ผมจะรับผิดชอบเอง ตอนนี้คุณปล่อยตัวตามสัญชาตญาณดีกว่านะ"คาลอสจูบเซร่า


         หัวของเธอกลายเป็นสีขาวโพลน กว่าจะได้สติก็ตอนที่ทั้งสองเสร็จกิจกันแล้ว เซร่าเอาตัวชายหนุ่มมานอนซุกอกเธอไว้และกระซิบที่หู


         "เป็นสามีตามพฤตินัยแล้วนะ คาลอส"จากนั้นเธอก็ผลอยหลับตามเด็กหนุ่มไป






         ทางด้านโรมูดัสได้ข้อมูลตัวอย่างDNAก็เก็บอาการสั่นไว้ไม่อยู่ ตอนแรกเขาแทบไม่อยากเชื่อ แต่ก็มีแต่ต้องยอมรับมัน


         "จะทำยังไงต่อดีครับ"


         "ถอนตัวออกมาซะ"โรมูดัสพูดแล้วกดวางหูโทรศัพท์


         "โธ่เว้ย!!!!!"โรมูดัสโยนเครื่องตรวจDNAทิ้งลงพื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ ก่อนจะไปโวยใส่ลูกน้อง พกวลูกน้องที่ไม่โดนรีบเผ่นหนีออกจากห้องก่อนจะซวยไปด้วย

    ______________________

    ไรเตอร์มีงานโปรเจคของมหาลัยครับ 2เดือนนี้คงแต่งช้าลง แต่จะพยายามลงครับ


    ปล.หลังจบภาคแรกแล้ว ไรเตอร์จะพักนิยายไปแต่งเรื่องอื่นก่อนนะครับ เพราะต้องการเวลาคิด และภาค2จะสั้นกว่าภาคแรก แต่ไม่ลืมและแต่งจนจบแน่นอน


    ปล.ไรเตอร์อยากพักแต่งนิยายออนไลนครับช่วงนี้เบื่อๆ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×