ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate Ragnarok : GOD VS Heroic Spirit

    ลำดับตอนที่ #6 : ตำนานใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 17 มี.ค. 64


    เทพเจ้าจ้องมองด้วยความกลัวเมื่อเห็นร่างเวเรทรัคนะที่โดนเพลิงเผาไหม้

    พวกเขาเกิดความรู้สึกกลัวและลังเล

    มันไม่สำคัญว่าพวกเขาจะใช้พลังทั้งหมดของตัวเองหรือศาสตราเทพ พวกเขามั่นใจว่าพวกเขาส่วนมากไม่ใช่คู่ต่อสู้ของโฮมุนครูสที่เกิดจากมนุษย์

    “เกิดอะไรขึ้น”

    ไม่มีใครคิดว่าโฮมุนครูสจะใช้ร่างมังกรตอบโต้ท่าไม้ตายของธอร์

    คางุสึจิขบขันกับภาพที่เห็นความโชคร้ายของเทพเจ้า

    “ไอ้เด็กจองหองควรระวังมากกว่านี้ ถ้าบินใกล้ดวงอาทิตย์มากไปจะถูกเด็กปีกร่วงลงสู่พื้น”

    ด้านหลังเทพเจ้าแห่งไฟ ซูซาโนโอะส่งสายตาที่ฆ่าทุกคนบนสวรรค์ได้ แต่เขาทำอะไรพี่ชายได้แค่เล็กน้อย สำหรับคางุสึจิแล้วมันเหมือนเสียงหมาเห่าเท่านั้น

    แทบไม่มีใครทำอะไรได้เมื่อต้องเผชิญลูกชายที่ทรงพลังที่สุดของอิซานางิและอิซานามิ

    มาดุคมองไปที่การต่อสู้ระหว่างเทพไร้พ่ายและโฮมุนครูสด้วยความเฉยเมย แต่ดวงตาฉายประกายความดีใจ เซฟานีภรรยาของเขามองการต่อสู้อย่างกังวลเหมือนรอบก่อน เธอมองเห็นอนาคตอันใกล้

    และเธอไม่ชอบมันเลย

    ไกอา มารดาแห่งแผ่นดินผู้ยิ่งใหญ่โกรธมากและไม่นึกว่าโฮมุนครูสธรรมดาจะสามารถก้าวข้ามเทพเจ้าอย่างเวเรทรัคระได้

    เซธ เทพแห่งความโกลาหลมีสีหน้าเยาะเย้ยและขบขัน เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นมากนักและไม่สนใจแร็กนาร็อค เขาปรารถนาเพียงการต่อสู้และแสดงให้ทุกคนเห็นพลังที่แท้จริงของทะเลทรายที่เขาครอบครอง

    เขาจะสั่งสอนให้พวกมันรู้ถึงการต่อต้านและความโหดร้าย

    ในทางกลับกัน เทพธิดาเฟรย่ามองด้วยรอยยิ้มเย้ายวนที่ภาพเงาของตัวแทนมนุษย์ชาติ วิธีการต่อสู้ พลังออร่าของเขา ทั้งหมดเป็นสิ่งที่ทำให้เธอหลงใหล เธออยากได้มังกรตัวน้อยเป็นหนึ่งในนักรบของเธอ

    เขาจะเป็นหนึ่งในคนโปรดของเธอแน่นอน

    อีกด้านหนึ่งของอัฒจันทร์ นักบุญรู้สึกไม่สงบด้วยสิ่งที่เรียกว่าลางสังหรณ์ของผู้หญิง

    “ทำไมฉันรู้สึกว่ามีคนจะแย่งของของฉันไป”เธอตะโกนด้วยความไม่พอใจ

    “ของเรา”เธอได้ยินเสียงดังขึ้นแม้จะอู้อี้นิดหน่อย

    “ผมไม่รู้พวกเธอกำลังพูดเรื่องอะไร”แอสโทโฟรมองนักบุญ

    กลับมาฝั่งเทพ

    ชายหนุ่มผมบลอนด์ที่มีใบหน้าอันหล่อเหลาสวมชุดเสื้อผ้างดงามและมีพิณในมือ

    เทพลำดับที่8ของโอลิมปัส อะพอลโล่ เทพแห่งสุริยะและการรักษา

    (รอจนกว่าrecord ragnarokจะลงรูปของอะพอลโล่)

    “อะไรกันเนี่ย?โฮมุนครูสแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ยังไง! อะไรทำให้เขาคู่ควรเป็นเป็นฟาฟเนียตนใหม่”อะพอลโล่พูดเสียงสั่นเทาด้วยความโกรธ สีหน้าของเทพแห่งสุริยะเทพยุ่งจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา การเห็นเพื่อนเขาถูกบดขยี้ทำให้เขาหดหู่ใจ

    โดยเฉพาะเมื่อเขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้ แล้วโฮมุนครูสที่มนุษย์สร้างทำได้ยังไง

    “พลังของโฮมุนครูสที่เจ้าพูดถึงอย่างน่าสมเพชเกินความคาดหมายของเรา เขาก้าวข้ามเทพเจ้าด้วยพลังแห่งเจตจำนง”เทพแห่งไฟพูดอย่างเหนื่อยใจราวกับกำลังพูดกับเด็ก”แต่เจ้าก็ยังไม่เข้าใจ คนที่มีค่าเพียงพลังเดรัจฉานอย่างเจ้ายากจะเข้าใจ”

    “คางุสึจิ”เทพแห่งดวงอาทิตย์รู้สึกไม่พอใจกับคำพูดของเทพเจ้าญี่ปุ่นคว้าคอเสื้อคลุม”อย่าเหลิงไปนักไอ้เทพที่ถูกเนรเทศ แม้แต่เบล มาดุกก็ไม่สามารถช่วยเจ้าจากความโกรธของข้า”

    “โอ้ ข้าขอพูดแบบเดียวกันอะพอลโล่จัง”คางุสึจิเรียกเสียศักดิ์ศรี

    “อะไร?”

    แขนของเขาที่ยกเทพเจ้าญี่ปุ่นถูกตัดขาด ทำให้เลือดของสุริยะเทพพุ่งเหมือนก๊อกน้ำแตก

    “อ๊าก!!!”อะพอลโล่กุมแขนด้วนของเขา สุริยะเทพมองด้วยความเจ็บปวดและหวาดกลัวเทพเจ้าญี่ปุ่นที่ตัดแขนเขา

    “เลือดที่น่าขยะแขยงเปื้อนดาบของข้า...มันเปื้อนเสื้อผ้าข้าด้วย รู้ไหมการทำความสะอาดเลือดจากชุดยูกาตะนั้นยากแค่ไหน?“เทพเจ้าแห่งไฟพึมพำทำความสะอาดดาบคาตานะที่เปื้อนเลือดสีทองที่ปลายคมทำให้เหมือนดาบเหล็กร้อน

    เลือดที่หม่มีค่าจะกระเซ็น

    ดาบของคางุสึจิดูเหมือนดาบคาตานะธรรมดา...ยกเว้นใบดาบสีแดง

    คาดว่าจะมีบางอย่างที่เกิดขึ้นเพราะผู้ที่ถือดาบคือเทพเจ้าแห่งไฟของญี่ปุ่น เปลวไฟของเขาเผาผลาญทุกสรรพสิ่ง

    เทพเจ้าทั้งหมดที่อยู่รอบระเบียงพยายามออกไปให้พ้นทางหลีกเลี่ยงความโกรธเกรี้ยวจากเทถเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุดของญี่ปุ่น แม้แต่อิซานางิ ซูซาโนะและอามาเทราสึก็ถูกกดดันจากพลังของเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่

    คางุสึจิเก็บดาบคาตานะขณะที่มาดุก เซฟานี ไกอา วิษณุและเซธเฝ้าดูกางบาเรียป้องกันเพลิง

    การแสดงออกของเขาดูคาดเดาไม่ได้กว่าปกติ

    และคางุสึจิเป็นเทพเจ้าที่เอาแน่เอานอนไม่ได้เลย

    “ที่นี่...”

    “มาดูการต่อสู้ต่อไป”คางุสึจิยิ้มกว้างโดยไม่สังเกตสีหน้าที่มืดมนของเขาขณะปกคลุมด้วยคราบเลือดทำให้เทพเจ้าส่วนใหญ่รู้สึกหนาวสั่น”อลายาจัง”

    เทพเจ้าพูดเมื่อเห็นเทพธิดาของมนุษย์ชาติกำลังมองมาที่เขา ผู้พิทักษ์แห่งมนุษย์ชาติเสียใจมากที่เห็นเขาเป็นครั้งที่2

    มือสังหารในเงามืด ผู้เป็นอมตะ

    ความหายนะของคางุสึจิเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขา...การสังหารเทพ

    วิธีที่เทพเจ้านอกรีตกระทำนั้นโหดร้ายและไร้ปราณีมากจนไม่มีใครพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นได้เลยและที่เลวร้ายที่สุด...มารดาของเทพเจ้าแห่งไฟ

    ผู้ให้กำเนิดเขา

    ผู้ที่เขาสังหาร

    วันนั้นเป็นวันที่เลวร้ายที่สุดของเทพเจ้าของญี่ปุ่น

    ไม่มีใครรู้เหตุผลและไม่มีใครอยากรู้ พวกเขาจำได้เพียงคราบเลือดบนร่างที่มีควันของเทพปีศาจเผยรอยยิ้มกว้างแต่ไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

    มันเป็นเปลือกนอกของเทพเจ้าหนุ่มที่กล้าหาญที่ชอบปลอมและทดสอบอาวุธ ตอนนี้คางุสึจิเป็นเพียงเงาของตัวเองในอดีต

    และเขาไม่สนใจแม้แต่น้อย

    หลังดำรงอยู่มาหลายชั่วอายุคน อลายาพบว่าความสามารถในการสังหารเทพไม่เพียงเป็นสิ่งที่หายากในหมู่เทพชั้นสูงเท่านั้น ตอนนี้เธอรู้แล้วว่าเทพสามารถตายด้วยมือมนุษย์ได้เช่นกัน

    และในศึกแร็กนาร็อคนี้เธอจะทำให้สำเร็จ พวกเขาต้องทำให้ได้7ครั้ง...เธอจะทำให้มันเป็นจริง

    โชคดีที่ผู้สังหารเทพบางคนอยู่เคียงข้างเธอในการแข่งขันครั้งนี้

    และตอนนี้เมื่อมองไปที่ซิก ร่างใหม่ของฟาฟเนีย อลายาก็มั่นใจบางอย่าง...ตัวแทนมนุษย์ชาติคนที่สองจะไม่หยุดจนกว่าจะสังหารเทพแห่งชัยชนะ

    และแสดงให้เห็นว่าใครเป็นผู้โหดเหี้ยมไร้ปราณีที่จะได้รับชัยชนะในการต่อสู้

    "ผมเตือนคุณแล้วว่าจะตายในไม่ช้าจำได้มั้ย"โฮมุนครูสมองพื้นดินที่ถูกแผดเผา

    "เวเรทรัคนะผู้ไร้พ่ายแพ้แล้ว เขาถูกเผาทั้งเป็น ดูเหมือนเป็นเรื่องตลกสำหรับทุกท่าน แต่มันเป็นความจริง"

    ในแผ่นดินที่ไหม้เกรียมไม่มีใครมองเห็นบางอย่างที่เล็กมาก แต่ต้องขอบคุณลมประดิษฐ์ของสนามที่สามารถกำจัดขี้เถ้ามากมายออกไปได้

    ที่นั่นมีหินตั้งอยู่.....ร่างสกปรกและถูกเผาของเทพไร้พ่าย

    มันไม่ขยับ

    ร่างถูกเผาไหม้เกรียมเหมือนถ่านหิน

    "ไม่ลุกขึ้นแล้วเหรอ"ไฮม์ไดม์ผิดหวังเพราะเขาอยากเห็นการต่อสู้ดุเดือดต่อไป

    เทพเจ้าอย่างมาร์ดุกและวิษณุจ้องมองภาพไหม้เกรียมของเทพไร้พ่าย คนแรกดูเหมือนไม่สนใจชะตาของเวเรทรัคนะแต่คนที่สองสามารถเห็นความขุ่นเคืองและหงุดหงิดกับผลลัพย์ที่น่าอับอายของเหล่าเทพ

    "เขาล้มลงแล้ว"ไฮม์ไดม์ประกาศ ทำให้เทพเจ้าเช่นเซฟานี มิธีร่า ไกอาและอีกมากมายมองภาพนี้ด้วยความกังวล สิ้นหวังหรือโกรธแค้นรุนแรง

    ขณะที่มนุษย์ตะโกนและเชียร์มังกรฟาฟเนียใหม่สำหรับชัยชนะต่อเทพเจ้าแห่งเปอร์เซีย

    "ยอดมากซิก"

    "มังกรตัวโปรดของฉัน"

    "เอาเลือดหรือน้ำกามมาให้ฉัน ฉันต้องการสร้างโฮมุนครูสของเขา นั่นคือลูกชายของฉัน"

    แต่ไม่ใช่แค่มนุษย์ชาติที่ฉลองกับเหตุการณ์นี้ 

    หนึ่งในคนเหล่านั้นคือเฟรย่าผู้ยิ่งใหญ่และเทพเจ้าผู้ชั่วร้ายคางุสึจิซึ่งแม้เขาจะไม่พูดอะไรและยืนดูห่างๆ แต่พวกเขาก็มีรอยยิ้มบนใบหน้าอันสวยงามและหลอเหล่าตั้งแต่เกิด

    ภายในใจเฟรย่ากรีดร้องอย่างบ้าคลั่งจ้องซิกตาเป็นมัน เธอจะให้เขาเสกลูกเข้าท้องเธอให้ได้

    คางุสึจิดูเหมือนจะเป็นมหาเศรษฐีแล้ว แต่ไม่ใช่เศรษฐีด้านการพนัน

    บิซามอนเทนเป็นหนี้เขาก้อนโต

    "เรากำลังเป็นพยานถึงปฎิหาริย์ของมนุษย์ชาติ"

    "ไม่นึกว่าซิกคุงจะมีพลังมากขนาดนี้"กูดาโกะกล่าวด้วยความประหลาดใจ"เมื่อกลับไปคาลเดียฉันจะไปขอโทษกรรณะ  เขาบอกว่าทำลายรูปภาพของฮีโร่ที่ได้รับจากการกุศล"

    เธอมอบความเจ็บปวดให้กับมหาวีรชนอินเดียที่คุกเข่าราวกับการโจมตีที่ทะลุผ่านไม่สนการป้องกันของเกราะสีทองของเขา

    น่าแปลกที่ความเจ็บปวดนี้คล้ายกับที่เกิดจากโฮมุนครูสในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายเมื่อเขาแทงด้วยดาบประดับที่ไรเดอร์ดำมอบให้เขาในมหาสงครามจอกศักดิ์สิทธิ์

    ซิกฟรีดและอรชุนมองกรรณะที่คุกเข่าเหงื่อตกว่าดูเลยเถิดไป ขณะที่ซิกการ์ดถูกแทงด้วยหอกของบรินฮิลด์ แต่แทงด้วยความรักและวีรชนของนอร์สยอมรับด้วยความจริงใจ

    อัศวะทามาถอยหายใจอยากนั่งที่อื่นให้ห่างจากสหายโง่ๆและคู่รักของนอร์ส อรชุนอัลเทอร์เฝ้าดูการกระทำของทุกคนด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    "เขาสมควรได้รับมันอย่างแน่นอน"ริทสึกะแสดงความเห็นด้วยรอยยิ้ม"โฮมุนครูสธรรมดาซ่อนพลังยิ่งใหญ่นั่นไม่ได้ทำให้เขาธรรมดาเลย"

    "ไม่เพียงแต่เขาดูดซับมานาในอากาศได้แต่ยังพัฒนาได้อย่างต่อเนื่องในการต่อสู้....สุดยอดจริงๆ"มาชูอุทานด้วยความประหลาดใจ

    "ใช่ มันน่าประทับใจ"โซโลมอนกล่าวด้วยรอยยิ้มนั่งถัดจากเดมิเซอร์แวนท์"ฉันรู้สึกว่าผู้กำกับคนเก่าของคาลเดียจะชอบสร้างเดมิเซอร์แวนท์แบบนั้น”

    พวกเขามองราชาจอมเวทเมื่อคิดถึงการทดลองของพ่อของออลก้า มารี ผู้อำนวยการคนแรกของคาลเดีย

    "และพ่อของฉันสร้างโฮมุนครูสที่มีความสามารถแบบนั้น"กอดอร์ฟพึมพำ

    "มันช่างอัศจรรย์"

    "โฟ"โฟวพูดเห็นด้วยกับอัจฉริยะโลลิก่อนจะคำรามและพุ่งเข้ากัดหัวของจอมเวทแห่งบริเตนที่ยกคทามาบัง

    แจนน์บนอัฒจันทร์จ้องผู้เป็นที่รักที่ยืนอยู่ต่อหน้าเทพไร้พ่าย

    “ซิกสุดยอดเลยใช่ไหมเคาเรส”แอสโทโฟรอุทานชื่นชมมาสเตอร์ของเขา

    ชายหนุ่มผมสีน้ำตาล ดวงตาสีฟ้าและสวมแว่นยิ้มเห็นด้วย ข้างๆเขาคือหญิงสาวที่คล้ายกันมากและหญิงสาวอีกคนที่มีผมสีแดงและสวมชุดแต่งงาน

    “ใช่ ยอดมากเลยซิก”

    “ใครจะคิดว่าเขาสามารถโค่นเทพเจ้าได้”ฟิโอเร่ร้องด้วยรอยยิ้ม มันเหลือเชื่อจริงๆ

    แฟรงเกนสไตน์พยักหน้าพอใจกับการแสดงของน้องชายเธอ ไม่รู้ทำไมแต่แบล็คเบอเซิร์กเกอร์เริ่มเห็นโฮมุนครูสเป็นน้องเล็ก

    “ภารกิจของเจ้าสิ้นสุดแล้ว”ไฮม์ไดม์ตะโกน”ซิกได้แสดงพลังที่แท้จริงของมนุษย์ชาติ”

    อลายาถอนหายใจอย่างโล่งอก เพื่อนของเธอก็เช่นกัน แม้เซลเรซกับโซโลม่อนจะมีท่าทีจริงจังอยู่ด้านหลังกลุ่ม

    “ใช่”

    “เราชนะรอบที่2แล้วรุ่นพี่”

    เมอร์ลินถอนหายใจแม้มีรอยฉีกขาดหลายจุดและชุดเขาฉีกขาดเพราะสู้กับโฟวแต่เขาก็โล่งใจ

    “ข้าต้องยอมรับล่ะนะว่าการปรากฎตัวของเวเรทรัคนะทำให้ใจหายเลยล่ะ แต่ก็หายห่วงได้แล้วสินะ”จอมเวทแห่งคาเมล็อตกล่าว

    “แต่ที่ยิ่งไปกว่านั้นคือเห็นเด็กนั่นร่วงไป”อลายาร้องอย่างมีความสุข จำภาพที่ซิกตีเวเรทรัคนะซ้ำแล้วซ้ำเล่า”อดทนไม่ไหวแล้ว อยากจะหัวเราะดังๆสักที”

    “เธอดูเหมือนคางุสึจิ”พวกเขาทุกคนคิดเมื่อเห็นการกระทำของเทพธิดาของมนุษย์ชาติ

    “นั่นแหละโฮมุนครูสที่เยี่ยมที่สุดของเรา”

    “ไงล่ะเจ้าพวกเทพเจ้า”

    “สุดยอดไปเลย”

    ซิกถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้าก่อนจะเริ่มเดินถอย โรมาเนียเหมือนจะหายไปอย่างช้าๆ

    “กลับมาที่ผลประกาศดีกว่า ศึกการประลองรอบที่สองของแร็กนาร็อค ผู้ชนะก็คือ...”

    “ฮ่าๆๆๆ”

    ทุกคนแข็งทื่อเมื่อเสียงหัวเราะดังก้อง

    มันคือเขา

    เวเรทรัคนะ

    ดวงตาสีทองของเขาเปล่งประกายเจิดจ้า ผิวหนังที่โดนไฟไหม้เริ่มลอกคราบออกมาเผยให้เห็นกล้ามเนื้อศักดิ์สิทธิ์ของเขา

    “เป็นไปไม่ได้”อัลเควพึมพำ

    เซลเรซกัดฟันนี่เป็นสังหรณ์ไม่ดีที่เขารู้สึกมานาน

    “ข้ายังไม่แพ้”

    หนึ่งในอวตารของเวเรทรัคนะ ผิวหนังที่โดนไฟไหม้ทั้งหมดลอกคราบออกไป ผิวหนังและเส้นผมใหม่แทนที่ที่โดนเผาด้วยมังกรชั่วร้าย

    “เหมือนใหม่”ริทสึกะอุทาน เขารู้ความสามารถเช่นโนเบิลแฟนทาสม์ของเฮอร์คิวลิสที่ฟื้นฟูความเสียหายที่ได้รับ ไม่นึกว่าเวเรทรัคนะจะมีความสามารถนั้น

    “ใช่ ข้ารู้เว้รทรัคนะจะกลับมา”อะพอลโล่อุทานทั้งที่เสียแขนไปข้างหนึ่ง

    “ข้าว่าแล้วเขาไม่แพ้ง่ายๆหรอก”อาเรสกล่าว

    “ก็อาจจะเป็นอย่างงั้นนะ แต่ว่า...”เฮอร์เมสกล่าว สังเกตเวเรารัคนะที่หอบหายใจ

    “ดูเหมือนเขาก็เสียพลังไปมากในการฟื้นฟูแผลที่ได้รับจากซิกคุงเหมือนกัน”อาเธน่าคิดด้วยสีหน้าไม่ยินดียินร้ายมองทุกอย่างด้วยการวิเคราะห์

    “อ้าว อย่าฝืนตัวเองดีกว่าน่า”ซิกพูดตั้งท่าสู้อีกครั้ง

    “ไม่ต้องมาบอกข้าเรื่องนั้นหรอก ตอนนี้ข้าเห็นพลังที่แท้จริงของเจ้าแล้ว”ดวงตาเทพเจ้าเปอร์เซียวาวโรจน์

    “ข้ายอมรับว่าเจ้าปลุกความสนใจเทพเจ้าที่ไร้คู่ปรับได้สำเร็จ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าสงสัยอยากถามเจ้า”

    เวเรทรัคนะยกดาบสีทองชี้ไปที่โฮมุนครูส

    “เจ้าไม่ใจดี ไม่มีความเมตตา ข้ารู้สึกได้ถึงไฟแห่งความทะเยอทะยานในตัวเจ้า เจ้าเห็นแก่ตัวเหมือนมนุษย์ ไม่ เจ้าเห็นแก่ตัวยิ่งกว่ามนุษย์ซะอีก นั่นทำให้เจ้าเป็นมนุษย์ที่แท้จริงในหมู่มนุษย์ อะไรคือเหตุผลที่เจ้ามาร่วมศึกครั้งนี้กันล่ะ?“

    ซิกถอนหายใจยิ้มเศร้าๆ

    “ท่านเองก็คิดงั้นเหมือนกันเหรอ 

    ข้าใจดี

    ข้าเป็นวีรชน

    หรือเป็นแค่โฮมุนครูส

    “ไม่ใช่ทั้งนั้น ข้าไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้นเลย แต่ว่า...มันผิดหรือไงที่จะสู้เพื่ออนาคตของมนุษย์ชาติ...เพื่อเธอแล้ว...ข้ายินดีตายนับครั้งไม่ถ้วน”

    เมื่อได้ยินคำพูดของโฮมุนครูสที่ต่อสู้เพื่อมนุษย์ชาติ ทุกคนต่างรู้สึกซาบซึ้ง

    โดยที่ไม่ต้องมีการชี้นำใดๆ มนุษย์ชาติเริ่มสวดภาวนาตามความเชื่อของตนเอง ในจังหวะนั้นเอง ไม่ว่ามีความแตกต่างกันเพียงใด ทั้งเพศ ศาสนา เชื้อชาติ ผู้คุมกฎ โจร คนรวย คนจน คนชั่ว คนดี 

    เป็นครั้งแรกที่เหล่ามวลมนุษย์ชาตินั้นรวมเป็นหนึ่งเดียว ทุกคนต่างก็ภาวนาในเรื่องเดียวกัน...ปาฎิหาริย์ที่คู่ควรต่อจอกศักดิ์สิทธิ์

    ชัยชนะของซิก

    “สุดยอด ในเวลานี้นั้นมนุษย์ชาติเป็นหนึ่งเดียว”

    ขณะเดียวกันเทพเจ้ามีปฎิกิริยาตรงกันข้าม

    “รู้งี้ข้าออกไปแทนเด็กนั่นดีกว่า”พระศิวะพูดมองจากทางออกฝั่งทวยเทพ

    “เด็กนั่นน่ารำคาญจริงๆ”ไกอาตะคอก

    “โอ้ คำพูดที่ไพเราะ”เฟรย่าพูดแทบลืมหายใจ หัวใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะเพราะคำพูดโฮมุนครูส

    “ซิกเท่มาก”กูดาโกะตะโกน

    ทุกคนรอบตัวเธอเหงื่อตก แต่ตัดสินใจดูการแข่งต่อ...ไม่สนใจเธอ

    “ทำให้ผู้ชมตื่นเต้นใช้ได้นี่นา...เจ้าต้องได้รับความเคารพแน่...ถ้าทำได้สำเร็จ”

    แม้รามสามารถฟื้นฟูเขาได้ แต่อวตารขาดความสามารถในการฟื้นความเหนื่อยล้า 

    “คุณน่าจะยอมแพ้ไปนะ ถ้าโดนเจ้านี่อีกรอบล่ะก็ถึงตายเชียวนะ”ซิกเตือน

    “หึๆๆ บลัฟกันไม่ได้แล้วน่า ข้าขอยอมรับว่าเจ้าแข็งแกร่ง”

    “หมายความว่าคุณยอมแพ้เหรอ ถ้างั้น...”

    “ข้าผิดเองแหละ ข้าผิดเองที่คิดว่าจะสามารถชนะในสภาพนี้ได้”

    ออร่าสีทองปกคลุมเวเรทรัคนะอย่างสมบูรณ์ขณะเขากอดตัวเอง

    “ถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากทำแบบนี้เท่าไหร่หรอก”เขาฉีกแขนทำให้ผู้ชมประหลาดใจโดยเฉพาะโฮมุนครูสที่อ้าปากค้าง”มันทำให้”ข้าจะแสดงพลังที่แท้จริงให้เห็น”

    เทพเจ้าเปอร์เซียฉีกเนื้อหนังด้วยมือเปล่าแสดงกล้ามเนื้อและกระดูกสีทองต่อผู้ชมที่ตื่นตกใจ

    “ท่านเวเรทรัคนะกำลังฉีกเนื้อตัวเอง”ไฮม์ไดม์ร้อง

    “นั่นมันอะไรน่ะ”

    "ขยะแขยง"

    “น่าเกลียดที่สุด”

    มนุษย์พึมพำกับการกระทำของเวเรทรัคนะ ขณะที่เทพเจ้ามองด้วยความตกตะลึง

    "เขาคู่ควรจริงๆเหรอเวเรทรัคนะ"มิตรากล่าว

    "เด็กนั่นเสียสติแล้วรึไง"อีกาของโอดินพูด

    "แกไม่เข้าใจหรอก"เสียงหนึ่งดังขึ้น

    "หา?"

    “หมับ!!”มือใหญ่คว้าอีกาทั้งสองตัว



    "เจ้าพวกอีกาโง่ที่ทำเหมือนตัวเองรู้ไปซะทุกเรื่อง อยากให้ข้าฉีกหัวแกรึไงห๊าา!"

    "ท่านธอร์!?"

    "ปะ ปล่อยข้านะเฟ้ย"


    "ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่รึไง ว่าห้ามแปลงเป็นร่างนั้นอีกเด็ดขาด"โอดินกล่าว

    "โธ่ท่าน ข้าก็แค่แกล้งเล่นๆน่ะ"ธอร์หัวเราะปล่อยอีกา แล้วร่างเขาก็เปลี่ยนไป ภาพลวงตา

    "เจ้าคือ...โลกิ!!!"

    "ข้าไม่มีทางทำร้ายสัตว์เลี้ยงตัวโปรดของท่านลุงอยู่แล้วน่า"เด็กหนุ่มผมสีเขียวและมีส่วนแหลมหน้าผากเป็นสีขาว


    เทพเจ้าแห่งคำลวง โลกิ

    "หึ"โอดินเย้ยหยันขณะที่โลกินั่งลงที่ตัวเอง

    "แต่ข้าไม่ได้เห็นเด็กนั่นเอาจริงมาหลายปีแล้ว เจ้าโฮมุนครูสนั่นน่าอิจฉาเหลือเกิน ช่างเป็นคนโชคดีจริงๆ"

    "หา ทำไมกันล่ะ"

    "เพราะว่าเด็กนั่นในโหมดเอาจริงน่ะ มันโคตรหายากเลย"

    “เวเรทรัคนะ...กำลังเปลี่ยนร่าง”ริทสึกะกล่าว

    มาสเตอร์ของคาลเดียมองดูร่างของเทพไร้พ่ายกำลังขยายใหญ่ขึ้น

    "ท่านเวเรทรัคนะกำลังกรีดร้องขณะที่กำลังปรับร่างตัวเองอยู่"

    คลื่นสั่นสะเทือนเขย่าโรมาเนีย ฝุ่นและควันกระจายไปทั่ว ซิกฟันผ่าก้อนหินใหญ่ที่พุ่งมาหาเขา

    แต่อันตรายที่แท้จริงคือศูนย์กลางแรงกระแทก

    “นี่คือร่างที่แท้จริงของเวเรทรัคนะ”อลายาประกาศ

    ซิกยกดาบขึ้นด้วยสัญชาตญาณ ฟาฟเนียและซิกฟรีดกรีดร้องในหัวเขา

    “ระวัง เพราะนี่คือ...”

    “นักรบผู้ถือครองคำสาปแห่งชัยชนะ”


    “นั่นคือ...”

    “ท่านเวเรทรัคนะเหรอ”

    เป็นคำพูดของเทพเจ้าที่ไม่เคยเห็นร่างที่แท้จริงของเทพไร้พ่าย

    แต่ปฎิกิริยาของมนุษย์ตรงข้ามกับเทพเจ้าอย่างสิ้นเชิง

    ความกลัว

    “อะไรเนี่ย ร่างกายมันสั่นไปหมดเลย”แกรอากล่าวตัวสั่นระริก

    “ความรู้สึกนี้มันคืออะไร”กูดาโกะถามสั่นไม่แพ้กัน

    “ดูเหมือนมันจะเป็นสัญชาตญาณ”บรินฮิลด์กล่าว

    “ยังแข็งแกร่งอย่างที่ข้าจำได้”อลายากล่าว

    “เฮ้ ไอ้หนู”พระศิวะกล่าว”อย่าเผลอทำลายสวรรค์ไปด้วยล่ะ”

    “คนชั่วและผู้ทรงอำนาจเกรงกลัวปีกของข้า”เทพเจ้าเปอร์เซียร่ายบทสวดอีกครั้งวางแผนปลดปล่อยพลังทั้งหมดของร่างอวตารของเขา”ไม่พ่ายแพ้ให้แก่ใคร ไม่มีใครเทียบได้”

    ฟีนิกซ์


    การระเบิดครั้งใหญ่ปะทุขึ้น เสาไฟพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของเหล่าเทพ

    เขาพุ่งเข้าหาซิกด้วยความเร็ว

    และมังกรร้ายก็ตอบโต้

    คลื่นกระแทกและแผ่นดินแตกเป็นเสาสีเขียวลอยขึ้นสู่ฟ้าเหมือนเวเรทรัคนะ

    แสงจากเสาหายไปเผยให้ซิกฟรีด วีรชนผู้ยิ่งใหญ่ที่สกัดดาบสีททองของเทพไร้พ่ายด้วยบัลมุงทำให้เกิดคลื่นกระแทกรุนแรงสั่นสะเทือนโลก

    ทุกอย่างเกิดขึ้นใน3วิ ผู้คนแทบไม่เชื่อในความเร็วและพลังที่พวกเขาเห็น

    ซิกฟรีดขบฟันขณะสู้กับเวเรทรัคนะซึ่งมีสีหน้าไม่ยินดียินร้าย

    “สุดยอด ทำลายกำแพงเสียงได้อย่างง่ายดาย การต่อสู้ที่แท้จริงเริ่มขึ้นแล้ว”

    เทพเจ้าเปอร์เซียยังโจมตีคู่ต่อสู้ด้วยท่าทางสงบนิ่งแต่แววตาดุดัน

    ต้องขอบคุณการจุติของฟินิกซ์ เวเรทรัคนะได้รับความเร็วเหมือนไฟที่ลุกโชน แต่ซีกตอบโต้ด้วยกระแสไฟฟ้าของเขา

    เทพเจ้าพยายามตัดศีรษะ แต่โฮมุนครูสเบี่ยงเบนการโจมตีและตอบโต้หั่นเกราะศักดิ์สิทธิ์ของเทพเจ้าเล็กน้อยที่หน้าอกแต่ว่าเรียกเลือดไม่ได้

    “สุดยอด ทั้งคู่สู้ไม่ถอยเลยครับ”

    ซิกปล่อยกระแสไฟฟ้าทำให้เทพไร้พ่ายชะงักไป2-3วิก่อนจะฟาดบัลมุงส่งเวเรทรัคนะถอยไปหลายก้าว ซิกคิดจะฟันที่ลำตัวแต่พายุเฮอร์ริเคนเหวี่ยงเขากลับไปหลายเมตร

    เวเรทรัคนะโจมตีด้วยความโกรธ มีสายลม เพลิงทมิฬ พละกำลังและความเร็ว

    เขาใช้อวตารทั้ง4ในเวลาเดียวกัน

    ลมเพลิงมหาศาลพุ่งใส่โฮมุนครูสที่สกัดด้วยกระแสไฟฟ้า แต่เทพเจ้าเปอร์เซียมาอยู่ตรงหน้าซิกฟันใส่หัวเขา ชายหนุ่มป้องกันได้ แต่แรงกระแทกทำเขากระอัก

    มังกรร้ายยกขาเตะท้องเทพเจ้าทำให้เขากระเด็นถอยไป เขาใช้เวทย์ยิงดาบหลายอันแทงลงไปในร่างเทพเจ้าแต่ไม่ลึก

    เมื่อฟื้นขึ้นมาเทพไร้พ่ายโจมตีอย่างดุเดือด

    "ทั้งสองโจมตีต่อไป ไม่ว่าเวเรทรัคนะโจมตีหนักแค่ไหน ซิกก็ปรับตัวตามได้"

    การต่อสู้ของทั้งคู่ได้เคลื่อนย้ายไปที่ต่างๆในโรมาเนียทำให้เกิดความโกลาหลและการทำลายล้าง ตึกอาคารบ้านเรือนถูกทำลายด้วยคลื่นกระแทก

    “ว้าว เวเรทรัคนะน่าประทับใจ แต่ไม่มีใครเทียบซิกได้”กูดาโกะอุทานด้วยความมั่นใจชัยชนะของโฮมุนครูส

    “ซิกซังสามารถปรับตัวและพัฒนาให้เข้ากับทุกสถานการณ์”มาชูกล่าว

    “ซิกจะชนะ”

    ในตอนนั้นบลินฮิลด์เหลือบเห็นซิกมีเหงื่อไหลเต็ม

    “แย่แล้ว”แต่มันสายไป

    เลือดพุ่งจากจมูกของโฮมุนครูส ธอร์ใช้โอกาสนี้กระแทกเขาโดนไหล่ ซิกฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็วและแทงหน้าอกเรียกเลือดเทพเจ้าสายฟ้า

    “โอ อยู่ๆซิกก็เลือดออกครับ มันยังไงกันเนี่ย?”

    “ซิก”แจนน์พึมพำอย่างกังวล ข้างๆเธอแอสโทโฟร เคาเรส ฟิโอเร่และแฟรงเกนสไตล์ก็เหมือนเธอ

    ซิกฟรีดและกรรณะไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

    "ทำไมเลือดออก"อาโอโกะอุทาน

    "เกิดอะไรขึ้น"อัลเควถาม

    อลายาสะดุ้งไม่ทันคิดเรื่องนี้

    “เขาเริ่มฝืนลิมิตตัวเองแล้ว”โซโลมอนกล่าว

    “ฝืนลิมิตตัวเอง?”

    "แค่ดูเฉยๆอาจจะไม่รู้ แต่พลังสูงสุดของเวเรทรัคนะสามารถทำลายทั้งทวีปได้"

    "หรือก็คือซิกใช้วงจรเวทเกินขีดจำกัดเพื่อเลี่ยงความตายอยู่ตลอด"

    “แม้โฮมุนครูสจะมีวงจรเวทย์คุณภาพสูง พลังเวทย์สะสมและใช้เพื่อปรับตัวและพัฒนาเพื่อเผชิญหน้าเวเรทรัคนะ มากพอเทียบกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของประเทศหนึ่งได้"ดาวินชี่อธิบายอย่างจริงจัง"และซิกยังเพิ่มพลังงานจากจอกศักดิ์สิทธิ์เพื่อให้ตามเวเรทรัคนะได้”

    มาสเตอร์คาร์เดียและมาชูเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนจะมองไปที่การต่อสู้ของโฮมุนครูสที่ฝืนตัวเองไปเรื่อยๆ

    ด้วยดาบบัลมุง ซิกเฉือนลำตัวของเวเรทรัคนะได้ แต่เวเรทรัคนะตอบโต้โดยฟันด้านข้างทำเขาเจ็บหนัก มีเลือดไหลจากจมูกซิกมากขึ้นและดวงตาเขากลายเป็นสีแดง

    วงจรย์พลังเวทย์ของเขาถูกทำลายด้วยปริมาณพลังงานที่เขาดึงมาจากจอกศักดิ์สิทธิ์

    “ไม่นึกว่าการต่อสู้ครั้งนี้จะกลายเป็นการแข่งความอดทน”คางุสึจิกล่าว

    “ความอดทน”เฟรย่าถาม

    “ใช่ โฮมุนครูสเก็บพลังงานไว้มากพอจะระเบิดออกมา แต่เวเรทรัคนะก็ได้รับบาดเจ็บหนักและใกล้จะร่วงแล้วเหมือนกัน...ทั้งคู่ถึงขีดจำกัดแล้ว”

    ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของเทพเจ้าญี่ปุ่นหนาวสั่นไปทั่วร่างกาย

    ชัยชนะจะเป็นของผู้ที่อดทนได้นานที่สุด

    ทั้งสองต่อสู้ด้วยศาสตราและความมุ่งมั่นฝืนลิมิตตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ราวกับกำลังเต้นระบำกันอยู่ ผู้ชมทั้งสองฝั่งต่างก็คิดเป็นอย่างเดียวกัน

    “เฮอร์เมส”อาเรสพูด

    “มีอะไรรึท่านพี่”

    “ข้าไม่เคยคิดว่าการต่อสู้มันจะสามารถงดงามได้ถึงเพียงนี้”

    “นั่นสินะ ช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ”

    “ทำไม...”ริทสึกะสงสัยขณะหลั่งน้ำตา”ทำไมเขาหยุดร้องไห้ไม่ได้”

    ไม่มีใครตอบเขาเพราะทุกคนกำลังอยู่ในสถานการณ์เดียวกันหรือทำได้เพียงเฝ้าดูราวกับต้องมนตร์

    “ท่านเวเรทรัคนะ”

    “เขาคือเทพเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุด”

    “ยอมแพ้ได้แล้วเวเรทรัคนะ”

    “ลุยเลยซิก!!”

    ทั้งมนุษย์และเทพเจ้าต่างโห่ร้องสนับสนุนตัวแทนของพวกเขา

    “ไอ้หนู!”เซธคำราม ใบหน้าเทพเจ้าแห่งทะเลทรายเปลี่ยนเป็นสีแดง”อย่าได้หยุดเชียวนะ”

    “เขาไม่มีทีท่าจะหยุดเลย”ฟิโอเร่ถูกสะกดด้วยการต่อสู้

    “ยอมแพ้ซะทีเวเรทรัคนะ”แอสโทโฟรตะโกน

    “ล้มลงไปๆๆๆ”เคาเรสอ้อนวอนเมื่อเห็นบาดแผลของซิก

    แจนน์เฝ้าดูสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยความกังวล เธอขอเพียงสิ่งเดียวจากพระเจ้าของเธอ

    “ซิกคุงชนะให้ได้...ก่อนจะสายเกินไป”

    @@@@@@@@

    ในดินแดนแห้งแล้งอันห่างไกล ชายคนหนึ่งเฝ้าดูการต่อสู้มีรอยยิ้มเล็กน้อยบนใบหน้า แม้จะเป็นรอยยิ้มที่ว่างเปล่าก็ตาม

    ชายคนนี้รู้จุดอ่อนของมนุษย์ชาติในฐานะสัตว์ร้ายของมนุษย์ชาติ

    แต่เขาก็รู้ถึงความแข็งแกร่งด้วย

    @@@@@@@@

    "เจ้าได้ยินไหม"เวเรทรัคนะถามซิกท่ามกลางการโจมตีอันรวดเร็ว

    โฮมุนครูสไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดเรื่องอะไรแต่ไม่ลดการ์ดลง

    "หัวใจของผู้คนเจ้าไม่ได้ยินเหรอ?"เทพเจ้าเปอร์เซียชี้ให้คู่ต่อสู้ที่สับสน"ดูเหมือนเจ้าจะไม่รู้จริงๆ...ข้าจะแสดงให้ดู"

    มังกรชั่วร้ายไม่เข้าใจว่าเทพไร้พ่ายพูดถึงอะไรจนกระทั่งเขาใช้อวตารใหม่

    "เทพพิทักษ์แห่งคุณธรรม ข้าขออัญเชิญท่านและถวายเครื่องบูชา แด่เทพแห่งความเที่ยงธรรม ข้าขอสรรเสริญท่านและอธิษฐาน แด่เหล่าผู้ศรัทธาทั้งสวรรค์และโลกข้าจักเป็นควาทยุติธรรม โปรดชี้เส้นทางที่ถูกต้องและแสงสว่างแก่ข้า"

    ด้วยบทเพลงของเทพเจ้าแห่งชัยชนะทำให้ท้องฟ้าอึมครึมน่ากลัว

    "ข้าคือผู้พิชิตที่เอาชนะหนึ่งพันด้วยหนึ่งร้อย เอาชนะหนึ่งหมื่นด้วยหนึ่งพัน เอาชนะหนึ่งแสนด้วยหนึ่งหมื่น ตอนนี้เพื่อประโยชน์ของผู้เคียงข้างความยุติธรรม ดลบันดาลแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์แก่ข้า"

    จากนั้นซิกก็ได้ยิน

    "ซิกคุง"

    "เอาชนะเวเรทรัคนะ"

    แต่มีเสียงหนึ่ง 

    "เราจะได้พบกันอีกครั้งซิกคุง รอฉันนะ"

    นั่นเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของซิก

    "ตอนนี้จงรับทัณฑ์จากทวยเทพ"เวเรทรัคนะประกาศ

    ทันใดนั้นสายฟ้าผ่าลงมาใส่โฮมุนครูส ปกติสายฟ้านี้ทำอะไรซิกไม่ได้ 

    แม้มีร่างวิญญาณวีรชนหรือมังกร แต่ร่างกายมีลิมิตพลังที่กักเก็บได้ และซิกใช้เกินขีดจำกัดแล้ว

    การระเบิดครั้งใหญ่เขย่าโรมาเนียและเผยให้เห็นซิกยืนอยู่ใจกลาง

    แต่เขาสะบักสะบอม เสียร่างฟอร์มของซิกฟรีดไปเกือบหมด

    เขากระอักเลือดออกมา ดวงตาเขาเริ่มมีเลือดออก จมูกและรอยคล้ำเขาเริ่มมีของเหลวไหลออกมา

    เขากำลังจะตาย

    และเวเรทรัคนะใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบนั้น เทพเจ้าพุ่งด้วยความเร็วเท่าแสงมาอยู่ตรงหน้าโฮมุนครูสและฟันแนวทแยงมุม เลือดพุ่งเหมือนก็อกน้ำแตก

    “ซิกโดนฟันเข้าเต็มๆเลยครับ”

    ซิกถอยหลังก้าวหนึ่งแต่ฟื้นตัวทันทีและยกบัลมุง สิ่งเดียวของซิกฟรีดที่ยังอยู่ โฮมุนครูสยืนถือดาบปราบมังกรพร้อมฟันเทพเจ้า

    แต่เวเรทรัคนะตอบโต้เขาอย่างง่ายดายและเตะเขาหน้าท้อง

    ซิกทำได้เพียงอ้าปากค้างขณะร่างกายถูกทำลายด้วยพลังเวทของเขาเองทำให้เขาต้องเอาบัลมุงค้ำและพิงไม่ให้ล้มลง

    “ซิก!!”แจนน์และกูดาโกะร้องออกมา

    “ดูเหมือนว่าซิกจะเป็นฝ่ายหมดสภาพก่อนสินะ”โลกิกล่าว

    “ฟู่ว นี่น่าจะตัดสินได้แล้วมั้ง”อีกาขาวพูด

    “ใช่แล้ว แต่ว่านะ...เจ้านั่น เป็นคนที่สุดยอดใช้ได้เลย”อีกาดำพูด

    “ซิกคุง”เฟรย่าพูดน้ำตาร่วงหล่นจากดวงตาของเธอ

    “คงมาได้แค่นี้สินะ”อลายาพูดสีหน้าบึ้ง เธอรู้สึกผิดที่ส่งซิกมาทรมาณด้วยวิธีนี้

    หากโฮมุนครูสยังต่อสู้ต่อไปเขาจะหายจากโลกนี้ไปตลอดกาล

    พวกเขาทั้งหมดเห็นความจริงนั้นและเสียใจกับความจริง แจนน์ กรรณะ ซิกฟรีด แอสโทโฟร และคนอื่นๆอีกมากมายตระหนักดีและอยากให้ซิกยอมแพ้ก่อนตัวเองจะตาย

    “ซิกคุง...หยุดซะที”แจนน์อ้อนวอนขอให้พระเจ้าช่วยคนที่เธอรัก เธอไม่เคยขอสิ่งใดจากพระเจ้า แต่ตอนนี้เธอขอสิ่งที่เห็นแก่ตัว

    “นายทำเท่าที่ทำได้แล้ว...ไม่มีใครจะโทษถ้านายยอมแพ้”กรรณะพูดเสียงเศร้า ซิกฟรีด ซีเกิร์ดและอรชุนเห็นด้วย

    “รีบๆยอมแพ้แล้วกลับมาหาพวกเราได้แล้ว มาสเตอร์บ้า”แอสโทโฟรร้องทั้งน้ำตา

    “เราจะได้พบกันอีกครั้งซิก รอฉันนะ”

    นั่นเป็นความคิดเดียวที่ทำให้แกนพลังเวทและหัวใจมังกรเต้นต่อไป

    ความปรารถนาที่เห็นแก่ตัวแต่ซื่อสัตย์

    มันเป็นจุดอ่อนของเขา แต่...

    ขณะเดียวกันมันก็แข็งแกร่ง

    “อะไร มันคืออะไร?”

    “อะไร?”

    คางุสึจิลุกขึ้นจากที่นั่งพร้อมดวงตาสีทองที่เปล่งประกายด้วยความโกรธและรอยยิ้มใหญ่

    “แสดงให้พวกเขาเห็นถึงพลังการเดิมพัน! ข้าหมายถึงเจตจำนงของมนุษย์ชาติ”

    โฮมุนครูสยกบัลมุงขึ้นด้วยสองมือ ซิกกัดฟันขณะที่เลือดยังทะลักแต่ยังจับดาบนิเบอร์ลุงแน่น

    “ดาบมังกรอันยิ่งใหญ่ จงเติมเต็มด้วยสิ่งที่ถูกสาปในตัวข้า”

    เสาสีฟ้าพุ่งสูงเหนือโลก มันส่องไปถึงดวงดาว

    “นั่นมัน...”เมอร์ลินประหลาดใจ มันดูเหมือนรอนโกมีเนียต

    แต่นี่ไม่ใช่แสงธรรมดา ไม่ใช่อะไรแบบนั้น นี่คือพลังของโลก วัตถุที่สร้างขึ้นเพื่อรักษาสมดุลของโลก

    สมดุลของความดีและความชั่ว

    ความหวังและความสิ้นหวัง

    ซิกทุ่มพลังทั้งหมดใส่เทพเจ้าไร้พ่ายที่หยุดนิ่งจ้องมองด้วยความกลัว

    “บัลมุง”

    โฮมุนครูนตวัดดาบลงมา เวเรทรัคนะทำได้เพียงยกดาบใช้ร่างอวตารเพื่อปกป้องเขาจากการโจมตี

    การโจมตีทำลายล้างโรมาเนียไปหมด

    เมื่อการโจมตีสงบลง พวกเขาก็เห็นเทพไร้พ่ายในสภาพน่าสมเพชเหมือนคู่ต่อสู้ของเขา ชุดเกราะแหลกไปหมดเหลือเพียงผ้าไม่กี่ผืนปิดท่อนล่างของเขา มีบาดแผลไฟไหม้อย่างรุนแรงและหายใจลำบาก

    “การตัดสินครั้งสุดท้าย...เริ่มแล้ว”

    แม้ทั้งคู่จะเจ็บหนักแต่ไม่มีใครยอมแพ้

    ศัตรูทั้งหมดที่อยู่เบื้องหน้าจงหวาดกลัวข้า

    ยกเว้นเจ้า

    คนบาปทั้งหมดสั่นสะท้านต่อหน้าพลังของข้า

    ยกเว้นเจ้า

    ถึงเวลาแล้วที่ข้าจะได้รับความแข็งแกร่งของภูผา10ลูก แม่น้ำหลายร้อยสายและพลังของอูฐพันตัว ทุกคนหนีไปจากความโกรธของข้า

    ยกเว้นเจ้า

    “สัญลักษณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของข้าคืออูฐ”

    “อูฐเทพเจ้า”

    เมื่อเรียกร่างอวตารสุดท้าย เวเรทรัคนะก็ฟาดฟันซิกด้วยทุกอย่างที่มี

    โฮมุนครูสก็ตอบสนองแบบเดียวกัน

    “ข้าจะไม่แพ้แก”

    ร่างกายของซิกปรับตัวและพัฒนาขึ้นอีกครั้ง ผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวขณะที่บางคนเห็นวงจรเวทของเขาเรืองแสงสีแดงคล้ายตราบัญชา

    “ซิกเปลี่ยนร่างไปอีกแล้ว นี่เป็นครั้งสุดท้ายของเขาหรือไม่”

    “ใช่ เหมาะกับเจ้ามากกว่า”ผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนโฮมุนครูสในตอนนี้”เอาชนะเขาและนำเราไปสู่ความรุ่งโรจน์ลูกชายของข้า ซีก ฟอน ไอส์เบิร์น”

    ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเจสซิก้า ลีริช ฟอน ไอส์เบิร์น สาวน้อยแห่งเหมันต์ที่เฝ้าดูการต่อสู้ด้วยสีหน้าเคร่งขรึมและเยือกเย็นกว่าเทพน้ำแข็งใดๆ

    “ย๊ากกกกก!!!!”

    “ใครจะเป็นผู้ชนะ”

    ทั้งสองฝ่ายใช้เพียงสัญชาตญาณอดทนต่อความเจ็บปวดมีเสียงเหล็กปะทะดังก้อง เลือดที่ไหลรินและเจตจำนงของทั้งคู่ที่สั่นสะเทือนทั้งโลกและสวรรค์ ในหัวคิดเพียงเรื่องเดียวเท่านั้น

    “ฉันจะไม่แพ้แก”

    ซิกพุ่งตัวไปด้วยความเร็วระดับเทพและเวเรทรัคนะก็พร้อมรับการโจมตี

    หลังการต่อสู้อันดุเดือด คนหนึ่งจะได้รับชัยชนะและอีกคนจะได้พักผ่อนอย่างสงบ

    คลื่นช็อกกระจายไปทั่ว

    “แก...”

    “เจ้าแข็งแกร่งมาก”เวเรทรัคนะกล่าว

    ตรงหน้าพวกเขาคือภาพที่เลวร้ายที่สุด

    “ซีก”แจนน์ตะโกน

    ดาบทองคำของเทพไร้พ่ายได้แทงทะลุหัวใจของโฮมุนครูส

    แต่มีบางอย่างที่สวรรค์ไม่รู้ บางอย่างที่กรรณะรู้

    ซิกไม่เคยรู้จักการยอมแพ้

    “เวเรทรัคนะ”ไม่สนใจหัวใจที่โดนทำลาย ตัวแทนมนุษย์เปล่งแสงสีเขียวหายตัวไปด้านหลังชาติล็อคแขนสองข้างของเทพเจ้าไว้

    “อะไร?”เวเรทรัคนะประหลาดใจกับการเคลื่อนไหวของคู่ต่อสู้

    ซิกได้รับแผลฉกรรย์ถึงตาย

    มนุษย์หรือแม้แต่เทพเจ้าไม่อาจรู้ผลลัพย์ไม่คาดคิดนี้ได้ ยกเว้นชายหนุ่มคนนึง...ชายหนุ่มชาวญี่ปุ่นผิวสีแทนและผมสีขาวสวมชุดนักบวช

    ชายคนนั้นยิ้มขบขัน โอ้ เหล่าเทพผู้ยิ่งใหญ่ สิ่งนี้จะทำร้ายพวกเขา

    เสาพลังงานสีเขียวปรากฎขึ้นรอบซิกและธอร์มีรูปร่างเหมือนต้นไม้ใหญ่เกือบจะคล้ายต้นอิกดราชิล

    “ทะ ทำอะไรน่ะ”เทพเจ้าไร้พ่ายร้องด้วยความกลัว

    “ฉันจะไม่ปล่อยแกไป”

    ซิกพูดก่อนการระเบิดครั้งใหญ่จะกลืนกินพวกเขาทั้งสองและสั่นสะเทือนไปทั่วโลกและสวรรค์


    @@@@@@@@@

    ภายในห้องพักของผู้เข้าแข่งขัน เด็กน้อยวัย10ขวบผมสีฟ้านั่งบนเก้าอี้ไม้ดูการประลอง ดวงตาสีเหลืองทองแสยะยิ้มลุกออกไป

    “ดูเหมือนจะถึงตาข้าออกโรงแล้วสินะ”

    @@@@@@@@@

    เมื่อควันในสนามจางลงทุกคนก็เริ่มเห็นคนคนหนึ่งลุกขึ้นมา ขณะที่อีกคนนอนอยู่กับพื้น

    และคนผู้นั้นคือ

    “ฮ่าๆๆๆๆๆ ยอดมาก”เวเรทรัคนะลุกขึ้นยืนหัวเราะออกมายืนอยู่หน้าซิกที่ล้มแน่นิ่งไปแล้ว

    “อะไรกัน...”แอสโทโฟรกัดฟันกรอด

    “ผู้ที่ยืนขึ้นคือท่านเวเรทรัคนะครับ ซิกล้มลงแล้ว!!”

    "ท่านเวเรทรัคนะแข็งแกร่งที่สุด"

    “เป็นไงล่ะไอ้พวกมนุษย์!!”

    “เจ้าทำได้ดีมาก”

    เวเรทรัคนะยกดาบขึ้นกำลังจะปิดฉากโฮมุนครูส

    “ไม่นะ...”แจนน์ยกมือปิดปากเมื่อเห็นคนรักกำลังจะตาย

    เทพเจ้าโฮ่ร้องด้วยความยินดีกับชัยชนะ จนกระทั่งเหตุการณ์ต่อมา

    เวเรทรัคนะหยุดเคลื่อนไหว

    เขาแค่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยดวงตาวาวโรจน์ที่แสงจางหายไปจนดวงตาเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล

    "แก๊ง!!!"ดาบทองคำร่วงลงพื้นแตกเป็นเสี่ยงๆ

    “นี่สินะ...ความพ่ายแพ้”เทพไร้พ่ายหงายหลังล้มลงพื้น

    “เวเรทรัคนะ!!”

    "แม่งเอ๊ย/บัดซบ!!!"อีกาขาวดำที่ไหล่ของโอดินร้องอย่างโกรธแค้น

    "ไม่จริงใช่มั้ย?”อะพอลโล่อุทาน

    “นี่แหละคือมนุษย์”อาร์เทมิสยิ้มพอใจ

    ขณะที่แจนน์กับแอสโทโฟรกอดกันด้วยความยินดี

    เหล่าเทพเจ้ามองโอดินที่สีหน้ามืดลงมือกดที่นั่งอย่างแน่นหนา เทพเจ้าที่เหลือเบิกตากว้างในความพ่ายแพ้ของเทพไร้พ่าย

    "ศึกที่2ของแร็กนาร็อคจบลงแล้ว การดวลครั้งนี้ถือว่า..."เขาจะประกาศผลเสมอ แต่พูดไม่จบเพราะถูกแทรก

    "เดี๋ยวก่อน"เสียงตะโกนทำให้ทุกคนตกใจ

    "ฉันเป็นผู้ชนะ!!!"เขายืนขึ้นอย่างลำบาก ทำให้ทุกคนตกใจ

    “ทำไมมันยังไม่ตาย”อาเรสตกใจ

    “ดูให้ดีๆสิ”เฮอร์เมสกล่าว

    อาเรสสังเกตว่าหน้าอกที่โดนแทงมีรอยแผลโดนสมานไว้ ด้วยดวงตาเทพเขาเห็นหัวใจด้านในยังเต้นอ่อนๆ

    “เขาใช้พลังของจอกรักษาแบบลวกๆถึงรอดมาได้”เฮอร์เมสกล่าว

    "เหลือเชื่อ ซิก มังกรฟาร์ฟเนียใหม่รอดชีวิต และได้ชนะตำนานเทพไร้พ่ายได้ ผู้ชนะคู่ที่2คือซิก มนุษย์ชาติได้รับชัยชนะเป็นครั้งแรก"

    ร่างของเวเรทรัคนะและดาบทองคำแตกสลายจนกระทั่งระเบิดด้วยสายฟ้าสีเขียวเป็นฝุ่นและทำให้เทพเจ้าหลายคนที่ยังไม่เชื่อต้องยอมรับความจริงตรงหน้า

    (การต่อสู้คู่ที่2)

    เวเรทรัคนะ VS ซิก

    ระยะเวลา : 8นาที 10วินาที

    ท่าเผด็จศึก : Blasted Tree

    ผู้ชนะ : ซิก

    ชัยชนะของมนุษย์ชาติ : 1

    ชัยชนะของเทพเจ้า : 1



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×