เฟส 6 : รอยแผลเป็นแห่งอวกาศ
27 มกราคม , CE71
อาร์คแองเจิ้ล
คริสถอนหายใจด้วยความโล่งอกขณะปิดเรเวน การต่อสู้ในพื้นที่ปิดกั้นเป็นเรื่องลำบาก ไม่ต้องพูดถึงฐานทั้งหมดกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ มันเป็นปาฏิหาริย์ที่พวกเขารอดมาได้
คริสเปิดค็อกพิทและก้าวออกมาขณะที่คิระกับเซ็ตสึนะทำเช่นเดียวกัน
“เฮ้ เด็กๆ”มูตะโกนจากระเบียง”ต่อสู้ได้ประทับใจทีเดียว”
“ขอบคุณ”เขาตะโกนกลับ
ในขณะนั้นเฟลท์ก้าวออกมาจากห้องนักบิน
“เกรซ”มูประหลาดใจ”ไปทำอะไรในห้องนักบิน”
“เรื่องมันยาวค่ะ”เฟลท์ตอบ
คริสหันไปหาเฟลท์”อยากให้ช่วยไหม"
“อะ…อื้อ”
คริสโอบแขนรอบเฟลท์พาออกจากห้องนักบิน พวกเขาลอยลงมาที่พื้นโรงเก็บ เมื่อถึงพื้นเขาปล่อยเด็กสาวผมชมพูเข้ม
“เอาล่ะ ไปหาพวกมิลี่เถอะ ฉันว่าตอนนี้ทุกคนคงเป็นห่วงเธอมาก”
“ขอบคุณ”เฟลท์ยิ้มให้ออกจากโรงเก็บ
“แล้วเธอเป็นแฟนนายเหรอ”มูถาม
“อะไรนะ?”คริสตะโกนหน้าแดงเล็กน้อย”ไม่ เฟลท์ไม่ใช่แฟนผม”
“ยังไงก็เถอะ ฉันประทับใจสิ่งที่เธอทำในการต่อสู้กับทีมอลาริค”
“อะไรนะ?”เซ็ตสึนะตะโกนแปลกใจ”คุณบอกว่านั่นคือทีมอลาริคเหรอ”
“ใช่”มูยืนยัน”พวกเขาคือกองยานที่11”
“กองยานที่11…ผมไม่เคยได้ยืนชื่อเลย”คิระกล่าว
“ผมก็เหมือนกัน”คริสกล่าว
“เอาจริงเหรอ?”มูพูดประหลาดใจกับปฎิกิริยาของพวกเขา”กองยานที่11เป็นเอซชั้นยอดที่โฆษณาชวนเชื่อของซาฟท์มักพูดถึงและโม้อยู่เสมอ และมีเหตุผลด้วย พวกเขาเป็นกำลังหลักในอวกาศและฝันร้ายของเรา”
“จริงเหรอ”คิระถาม”พวกเขาแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ใช่ พวกเขาชนะกองทัพโลกหลายครั้ง ฉันเคยสู้กับพวกเขาหลายครั้ง ฉันทำได้เพียงยิงหนึ่งในนั้น แม้ฉันจะดวลกับผู้นำหน่วยเสมอไปก็ตาม”
ย้อนอดีต
28พฤษภาคม CE70
มูสบถขณะดึงโมเบียสซีโร่ของเขาให้เลี้ยวซ้ายหลบกระสุนจากจินน์สีขาวดำ
"ในบรรดานักบินทั้งหมดที่ฉันเคยพบ ฉันต้องเจอกับแบล็กฮอว์ค"เขาพูดหลบมากขึ้น
มูรู้ว่าเขากำลังมีปัญหาร้ายแรง เขายิงจินน์ได้5ตัวก่อนหน้านี้ หนึ่งในนั้นคือจินน์สีม่วงเข้มของกองยานที่11 แต่จินน์นั้นทำลำกล้องปืนสองกระบอกเขาออก และกระสุนใกล้จะหมด ที่แย่กว่านั้นคือเขารู้ว่าซีโร่ช้ากว่าจินน์ เหยี่ยวกำลังเล่นกับเขา เขาสามารถตามเขาทันและปิดฉาก ไม่มีทางที่มูจะชนะเขาได้
"รอเดี๋ยว บางทีฉันไม่จำเป็นต้องหนีเขา"มูคิดในใจ
มูลดความเร็วหยุดกระทันทำให้แบล็คฮอว์คล้ำหน้าไป เขาเปลี่ยนทิศทางไปเหนือเขาแทน มูส่งกันบาเรลแยกไปและยิงไปไม่กี่นัดก่อนสัญญาณเตือนภัยจะดัง กระสุนหมดแล้ว ขณะที่จินน์ยิงปืนโดนกันบาเรลเขาพังอีกอัน
จินน์หมุนไปรอบๆและเหนี่ยวไกปืน แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จินน์ยืนอยู่ที่นั่นครู่นึง พวกเขาทั้งคู่ไม่มีกระสุน แต่มูรู้ว่ายังตกอยู่ในอันตราย ซีโร่ไม่มีอาวุธแล้วแต่จินน์ยังมีดาบอยู่
ทันใดนั้นแขนซ้ายจินน์ก็ยกมือขึ้นและไหว้เขา มูประหลาดใจก่อนจินน์จะบินจากไป
“นั่นฟังดูเหมือนเขาเลือกถอนตัวและไว้ชีวิตคุณมากกว่าสู้จนเสมอ”คริสกล่าว
“ผมเห็นด้วยกับเขานะร้อยเอกฟลาก้า”
“เฮ้”
เซ็ตสึนะส่ายหัวและเหลือบมองโมบิลสูทเครื่องหนึ่งซึ่งไม่ได้ขยับตั้งแต่นำขึ้นเครื่อง
"ถ้าเราจะเผชิญหน้าคนอย่างทีมอลาริค เราจำเป็นต้องให้การ์เดี้ยนทำงาน"เซ็ตสึนะกล่าว ดึงความสนใจคนอื่นๆไปยังเครื่องที่ยังไม่สมบูรณ์
"ใช่ แต่ใครจะขับมัน"คริสพูด แต่เขารู้คำตอบทันที"ไม่...ล้อเล่นใช่ไหม"
"ฉันจริงจังคริส"เซ็ตสึนะกล่าว
"แต่..."
"หรือจะให้เราตายกันหมด"
คำพูดนั้นปิดปากคริส
@@@@@@@@@
ยานเวอซาเรียสของราอูลเดินทางกลับมาถึงแพลนท์ และกำลังจะเข้าเทียบท่าจอดยาน
"การประชุมสอบสวนน่ะ จะให้อัสรัน ซาล่ากับเอเลน่า จูลด์ไปด้วยเหรอครับ"
"ใช่ พวกเขาอยู่ในเหตุการณ์ด้วยนี่นา เพราะงั้นก็คงจะวิเคราะห์ได้อย่างรอบคอบแน่ๆ"
"รู้สึกว่าทางออร์บก็มีท่าทีต่อต้านอย่างรุนแรงมากนะครับเนี่ย"
"ปัญหาสำหรับก็คือ สำหรับพวกเราแล้ว อะไรเป็นสิ่งสำคัญมากกว่านะ อาเดส"
"ครับ"
"รีบซ่อมแซมเวอซาเรียสให้เร็วที่สุดนะ ถึงจะมีเวลาพัก แต่เราไม่มีเวลาให้นอนเล่นหรอก"
@@@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
ยานอาร์คแองเจิ้ล ทุกคนโล่งใจที่หนีจากกาโมฟและเหยี่ยวดำกองยานที่11ของซาฟท์มาได้ แต่ยังแก้ปัญหาไม่ได้สักอย่างเพราะไม่ได้เติมเชื้อเพลิงเลย
ในโรงอาหารของยาน เฟรย์ ทอลล์และไซกำลังคุยกัน
"หา มันจำเป็นด้วยเหรอ"เฟรย์พูดอย่างเบื่อหน่าย
"ถึงเธอจะถามแบบนั้นก็เถอะนะ แต่ฉันว่ายังไงก็น่าจะไปขอโทษพวกเขาดีกว่านะ"ไซแนะนำ
"เพราะคำพูดของเธอคนเดียว พวกนั้นก็เลยต้องเจอเรื่องแย่ๆแบบนั้นไง"ทอลล์กล่าว
"แต่ว่า ฉันก็แค่...."เฟรย์อยากแย้งว่าเธอแค่พูดความจริงเท่านั้น
"เราน่ะชินกันแล้วนะเรื่องที่คิระกับลักซ์ เป็นโคออร์ดิเนเตอร์น่ะ มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่หรอก"ทอลล์กล่าว
“ยังไงก็เถอะ ขอโทษพวกเขาซะ เรายังต้องอยู่ที่นี่ด้วยกันอีกนาน เดี๋ยวจะเข้าหน้ากันไม่ติด"ไซกล่าว
"ถ้าไซพูดแบบนั้นละก็ ฉันไปขอโทษก็ได้"เฟรย์ยอมในที่สุด
"แต่ว่าจากนี้ไปยานลำนี้จะเป็นยังไงล่ะเนี่ย"ทอลล์กล่าว
"อืม สุดท้ายตอนอยู่อาร์เทมิสก็ยังไม่ได้เติมเชื้อเพลิงซะด้วยสิ"ไซกล่าว
"พวกซาฟท์ยังไล่ตามมารึเปล่าก็ไม่รู้"ไซกล่าว
@@@@@@@@@
แพลนท์
อัสรัน เอเลน่าและราอูลเข้ามาในกระสวยเพื่อไปยังอะพิลิอุสและพบผู้บัญชาการทหารสูงสุด แพทริก ซาล่า นั่งอยู่ในด้วย นักบินทั้งสามรีบทำความเคารพ
"ขอเดินทางไปด้วยคนนะครับ ท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุดซาล่า"ราอูลกล่าว
"ไม่ต้องทำอย่างงั้นหรอก ฉันน่ะไม่ได้อยู่ในกระสวยลำนี้หรอกนะ เข้าใจไหมอัสรัน"
"ทราบแล้วครับท่านพ่อ ไม่ได้พบกันนานเลยนะครับ"อัสรันกล่าว
อัสรันมองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ด้านหลังพ่อสองแถว หน้าตาเผยว่าเขาอายุประมาณ18-20 ดวงตาสีทองและผมสีเขียวสั้น
“อ๊ะ สเลน ฉันว่างานที่เธอได้รับมอบหมายคงจะสำเร็จนะ”
“ครับ ทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว”
“ดีมาก อัสรัน เอเลน่า ฉันว่าพวกเธอยังไม่รู้จัก นี่สเลน ทรอยยาร์ท ศิษย์เก่าของฉัน เขาจะเข้าหน่วยหลังเวอซาเรียสซ่อมเสร็จและสะสางปัญหาทำลายเฮลิโอโปลิสกับทางสภา”
“ยินดีที่รู้จัก”อัสรันกับสเลนทักทายจับมือ เอเลน่าไม่พูดอะไรแต่ยังจับมือเขา
กระสวยเริ่มแล่นออกจากท่าเรือมุ่งหน้าไปยังปลายทาง
"ความเห็นของเธอที่รายงานไปฉันเองก็เห็นด้วยนะ ปัญหาก็คือการที่มันสามารถสร้างหุ่นที่มีสมรรถภาพสูงได้ ส่วนนักบินน่ะช่างเถอะ ตรงส่วนนี้น่ะฉันจัดการตัดออกไปให้แล้ว"
อัสรันจ้องมองพ่อด้วยความประหลาดใจ การปกปิดข้อมูลจากทางสภาอย่างน้อยก็มีโทษฐานทรยศ เอเลน่าหรี่ตาลง เธอคิดอยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้ต้องเกิดขึ้น
"ขอบคุณมากครับ ผมคิดแล้วว่าท่านต้องพูดแบบนี้แน่นอน"ราอูลกล่าว
"ที่ว่าเครื่องที่เหลือของพวกนั้นเป็นโคออร์ดิเนเตอร์น่ะ ถ้ารายงานไปละก็มันจะทำให้เสียเวลาในการสรุปผลไปเปล่าๆนะ"
อัสรันเงียบ ครูเซ่รู้แค่ว่าคิระกับเอลเนสตี้เป็นนักบินเท่านั้น และแต่นักบินรายสุดท้ายเขายังไม่แน่ใจจึงไม่ได้รายงานไป ไม่งั้นแพลนท์จะยิ่งวุ่นวายหนัก
"เธอเองก็คงไม่อยากจะรายงาน ว่าเพื่อนสนิทของเธออยู่กับกองทัพโลกจริงไหม"ราอูลกล่าว
"เจ้าพวกนั้นน่ะพัฒนาโมบิลสูทที่ทำให้แม้แต่เนเชอรัลก็สามารถขึ้นบังคับมันได้ ก็สามารถแสดงสมรรถนะได้สูงสุด พูดแค่นี้ก็พอ เข้าใจนะอัสรัน“
“ครับ”
“พวกเราเองก็ต้องเอาจริงบ้างแล้วล่ะ เพื่อให้สงครามนี้สงบลงเร็วขึ้น ฉันสั่งกองยานตามล่ายานมีขา เวอร์ซาเรียส , กาโมฟ และหน่วยอโลบัส”อัสรันกล่าว
“ผู้บัญชาการเคสเซลต้องไม่พอใจแน่ครับ”แม้ราอูลจะพูดเตือนแต่เขายิ้มเยาะ
“ไม่แน่นอน แต่พวกเขาจะทำหน้าที่นี่”แพทริกกล่าว
“ไม่สำคัญ ในที่สุดเราจะจัดการยานและโมบิลสูทพวกนั้น ผู้ทรยศทุกคนสมควรตาย”
@@@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
ภายในโรงอาหาร ทอลล์อาหารติดขอและขอน้ำ แฟนเขามิริอาเรียยื่นน้ำส่วนของเธอให้ทอลล์ดื่ม แต่ยังไม่พอ
"แฮ่กๆๆ ขอน้ำอีก.."ทอลล์ร้องชกตีหน้าอก
"พอทีเถอะ จะเล่นก็ดูสถานการณ์หน่อยสิ"ไซที่ได้อาหารแล้วเดินเข้ามา
"นี่ไม่ใช่มุขนะเพื่อน ให้ตายสิ"ทอลล์กล่าว
ไซมานั่งข้างเฟรย์ เธอเขยิบออกห่างจากเขา พอไซขยับเข้ามาเธอก็ขยับออกไปอีก
"เป็นไรไปน่ะเฟรย์?"ไซถาม
"ก็เขาจำกัดการใช้น้ำ ฉันก็เลยไม่ได้อาบน้ำตั้งแต่เมื่อวานแล้ว"เฟรย์กล่าว
เมื่อไม่ได้รับเสบียงและเชื้อเพลิงเพิ่มจากอาร์เทมิสรวมถึงน้ำ ทำให้ต้องปันส่วนไว้ สิ่งที่ต้องการที่สุดคือน้ำ ซึ่งตอนนี้แจกจ่ายให้ดื่มได้ครึ่งถ้วยต่อ1มื้อและห้ามอาบน้ำ
ตอนนั้นเองคิระ เซ็ตสึนะและคริส ก็เดินเข้ามาในห้อง
"ซ้อมสไตรค์เสร็จแล้วเหรอ"ทอลล์ถาม
"อืม แต่ถูกห้ามใช้เครื่องทำความสะอาด ก็เลยเหนื่อยหน่อย เสียเวลาไปเยอะเลย"คิระกล่าว
"เฟรย์"ไซเข้าเขย่าแขนเฟรย์ให้ขอโทษ
เฟรย์ลังเลและเดินเข้าไปหาพวกคิระ
"คิระ คริส เซ็ตสึนะ เรื่องคราวก่อนนะฉันขอโทษนะ คือฉันพูดเรื่องนั้นออกไปโดยไม่ทันคิดน่ะ...ที่อาร์เทมิสน่ะ ที่บอกว่าเธอเป็นโคออร์ดิเนเตอร์น่ะ"เฟรย์หันมาทางพวกเขา
"ไม่เป็นไรหรอก เรื่องนั้นน่ะฉันไม่คิดอะไร เพราะมันเป็นเรื่องจริงนี่"คิระกล่าวแล้วถูศรีษะ
"ฉันไม่ได้โกรธอะไรค่ะ"เฟลท์พูดเสียงเป็นกลางมองคริสพูดแกมบังคับ"ใช่มั้ยคริส"
"อืม"คริสพูดอย่างไม่เต็มใจนัก เพราะอัลตาร์เกือบทำพวกเขาถูกฆ่า
"ขอบใจนะ"เฟรย์ยิ้ม แต่ทว่า...
“ใช่ คิระพูดถูก”เซ็ตสึนะพยักหน้าทำให้เฟรย์โล่งใจ”เพราะเฟลท์เห็นแก่เพื่อนๆ แต่มันก็เป็นความจริงที่เธอเกือบฆ่าพวกเรา บางทีเธออาจโง่เกินกว่าจะเข้าใจสถานการณ์หรือเธอไม่สนใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโคออดิเนเตอร์อย่างคิระกับคริสหรือแม้แต่คนอื่นๆ”
ตอนนี้เซ็ตสึนะตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนๆ คริสยิ้มเล็กน้อยที่เพื่อนตัวน้อยเขาพูดได้ตรง และมีคนอยากเถียงเธอโดยเฉพาะคิระ ซึ่งเรียกชื่อเล่นเขา
“เอล!!...”
“คิระ ถ้าตามใจหล่อนมากเธอจะเสียคน ฉันรู้เธออยากช่วยไซนั่นเป็นข้อดี แต่นั่นหมายถึงความเป็นความตายของพวกเรา และยิ่งไปกว่านั้นเสียใจด้วยนะเฟรย์ ฉันยอมรับเฉพาะคำขอโทษที่มาจากใจจริง เธอไม่ได้ขอโทษเพราะรู้สึกว่าตัวเองผิด แต่เพราะไซกับทอลล์บอกเธอใช่ไหม เธอไม่จำเป็นต้องฝืนก็ได้ แต่ทีหลังจะทำอะไรก็ระวังหน่อย ฉันจะรอจนกว่าเธอจะขอโทษเพื่อนฉันจากใจจริง"
เซ็ตสึนะพูดอย่างจริงจังและหันไปมองไซ
“ไซ ทอลล์ ขอบคุณที่พยายามให้เราคืนดีกัน ฉันขอบคณมาก ฉันชอบที่เธอยังยอมรับความจริงแทนที่จะบ่ายเบี่ยงด้วยความเห็นแก่ตัว ขอโทษด้วยถ้าทำร้ายความรู้สึก แต่ฉันไม่สามารถเชื่อใจคนที่เสแสร้งได้"เซ็ตสึนะพูด เขาไม่อยากทำร้ายจิตใจเพื่อน แต่เขายอมรับคำขอโทษที่ไม่จริงใจนี่ไม่ได้
ก่อนหน้านี้มันไม่เป็นไรเพราะพวกเขาไม่ได้คุยกันมาก แต่ตอนนี้พวกเขาต้องอยู่ด้วยกันและเนื่องจากความสัมพันธ์เธอกับไซกับมิลี่และคิระรู้สึกยังไงกับเธอ ทุกอย่างมันจะไม่เหมือนเดิม
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องคิดมากก็ได้”ไซกับทอลล์จับบ่าเขา พวกเขารู้บุคลิกเขาดี
"ฉันขอไปกินที่ห้องแล้วกัน"เซ็ตสึนะรับอาหารมาจากเชฟมองคริสกับเฟลท์ที่รู้ว่าไม่พอใจเช่นกัน"จะไปด้วยกันไหมค่ะ"
"ไปค่ะ"เฟลท์พยักหน้าและคริสก็ตามไปเพราะกลัวโดนทิ้งไว้ ทั้งสามออกจากห้องโถง
เฟรย์จ้องมองเซ็ตสึนะ เมื่อกี้มันอะไรกัน? แม้เธอจะขอโทษแต่เพื่อนโคออดิเนเตอร์ผมเงินก็ทำเหมือนเธอเป็นหญิงเลวและทำให้ตัวเองเหมือนนักบุญ
@@@@@@@@@@@
ที่สะพานเดินเรือ ลูกเรืออาร์คแองเจิ้ลกำลังหาเส้นทางที่สั้นที่สุดเพื่อไปดวงจันทร์
"นี่เต็มที่แล้วอย่างงั้นเหรอ หาเส้นทางที่ดีกว่านี้ไม่ได้รึไงกัน"นาทาลถาม
"ได้แค่นี้ละครับ ถ้าเฉียดใกล้โลกมากเกินไป เราจะเข้าไปในขยะอวกาศนะครับ"
"ฝ่าไปตรงๆไม่ได้สินะ"
"ฝ่าไปในขยะอวกาศเหรอครับ ถ้าเราไปด้วยความเร็วแค่นี้ ยานของเราคงเน่าอยู่ในนั้นไปด้วยแน่ๆ"
"เดี๋ยวก่อนสิ ขยะอวกาศเหรอ....ผมคงเป็นคนที่ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นจริงละมั้งเนี่ย"มูยิ้ม
@@@@@@@@@@@
แพลนท์ แอพิลิอุสวัน
เมืองหลวงอพิลิอุสวัน เมืองหลวงของแพลนท์ หลังแยกจากแพทริกแล้ว อัสรัน เอเลน่าและราอูลอยู่ในลิฟท์ที่กำลังลงไปด้านล่างเพื่อไปยังสภาสูง ทีวีในลิฟท์มีรายงานข่าวฉายอยู่
"ข่าวต่อไป กรณีครบรอบ1ปีของเหตุการณ์ยูนิอุสเซเว่น ท่านประธานสภาการปกครองไคลน์ ได้เปิดงานแถลงข่าวในค่ำคืนนี้"
หน้าจอทีวีเปลี่ยนเป็นภาพงานแถลงข่าว ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายงานของพิธีระลึกครบรอบ1ปี
"โศกนาฎกรรมในครั้งนั้นเป็นสิ่งที่ไม่อาจลืมเลือนได้ มันเป็นความเศร้าถึงที่สุดเลยครับ"
มีบางคนหายไปซึ่งก็คือลักซ์ ไคลน์ ลูกสาวของซีเกลที่ควรยืนอยู่ข้างๆเขา แต่ไม่เจอหญิงสาวผมสีชมพูเลย
"โอ้ ลูกสาวซีเกล ไคลน์ คู่หมั้นของเธอสินะ เห็นว่าป่วยหนักไปไหนไม่ได้"ราอูลกล่าว"น่าเสียดายเธอไม่มีเวลาไปเยี่ยม"
อัสรันรู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องโกหก บางทีถ้าเขาคิดถูกลักซ์อาจไม่ได้อยู่ที่แพลนท์
"ลูกสาวของประธานไคลน์และผบ.ซาล่าจะแต่งงานกัน คงเป็นแสงสว่างสำหรับยุคต่อไปนะ ฉันน่ะคาดหวังในตัวเธอนะอัสรัน"
"ขอบคุณครับ"
@@@@@@@@@@@
ภายในสภาสูงแห่งแพลนท์
"ต่อไปนี้เราจะเปิดการประชุมสหพันธ์ ว่าด้วยความพินาศของเฮลิโอโปลิส ก่อนอื่น ราอูล เลอ ครูเซ่ ขอเชิญคุณมารายงานก่อน"
"ครับ"
จากนั้นราอูลก็อธิบายโดยโยนความผิดให้กองทัพโลก
"เท่าที่ผมรายงานมาคิดว่าทุกท่านคงจะเข้าใจ การกระทำของพวกเราไม่ได้ต้องการทำลายเฮลิโอโพลิส แต่ส่วนใหญ่ของความพินาศนั้นเกิดขึ้นจากกองทัพโลก"
อัสรันรู้ว่าผู้บัญชาการกำลังโกหก มีการต่อสู้กับยานรบรุ่นใหม่ แต่ความผิดส่วนใหญ่เป็นของซาฟท์ ที่ใช้อุปกรณ์แบบD ซึ่งอันตรายมากในโคโลนี่
"นี่ออร์บร่วมมือกับสหพันธ์โลกจริงๆเหรอ คนที่ละเมิดสัญญาก่อนก็คือพวกนั้นสินะ"
"แต่ว่าผู้แทนอัธฮา..."
"คำพูดของคนที่อยู่บนโลกใครจะไปเชื่อให้โง่"
“แต่ออร์บไม่ใช่คนสร้างซะหน่อย มอเก้นเรทต่างหาก และมอเก้นเรทเป็นบริษัท พวกเขาแค่หากำไรตามปกติ”เอียน เคสเซลกล่าว คำพูดนี้เหมือนปกป้องออร์บ
“แต่มอเก้นเรทเป็นบริษัทของออร์บ”เอซาเลีย จูลด์แย้ง
“ใช่ แต่มอเก้นเรทเป็นบริษัทเอกชนไม่ใช่ของรัฐบาลออร์บ เรามีสนธิสัญญากับรัฐบาลออร์บไม่ใช่มอเก้นเรท”
เมื่อเห็นทั้งคู่จะโต้เถียงมากขึ้นแพทริกขัดขึ้นมา
"แล้วที่ว่าข้อมูลผิดพลาดและมีโมบิลสูทที่ไม่รู้จักโผล่มาล่ะ"
"ใช่ครับ มีโมบิลสูทตัวที่10ที่โรงงานมอเก้นเรท แม้จะไม่เข้าใจ แต่เรารู้ตัวนักบินเนเชอรัลที่ขับหุ่นตัวนั้นได้ตั้งแต่ขึ้นบังคับครั้งแรก จากการแฮ็กข้อมูลเฮลิโอโปลิสของซาอูล เคสเซล เขาใช้นางแฝงว่าเซ็ตสึนะ เอฟ เซย์เอย์ ปกปิดชื่อจริง"
“แล้วเขาเป็นใคร?”
สายตาครูเซ่หันไปมองเอซาเลีย จูลด์
“เด็กหนุ่มที่ชื่อเออร์เนสตี้ เอชวาเรียครับ”
ใบหน้าเอซาเลียซีดลงแม้ปกติจะเป็นสีขาวอยู่แล้ว ขณะที่อัสรันกับเอเลน่าต่างก้มหน้าลง
“คุณแน่ใจหรือ”เธอเบิกตากว้างด้วยความกลัว
“เกรงว่าจะเป็นอย่างนั้นครับ”เขายืนยัน”อิซาคและเอเลน่าโต้เถียงกับเขาอย่างหนักในการต่อสู้”
“เอล ทำไม? ทำไมเธอถึงเลือกจะช่วยกองทัพโลก”เอซาเลียคิดในใจ
“เขาพูดไหมว่าต้องการอะไร”
“ตามที่เอเลน่าแจ้งมา เขามีความไม่พอใจต่อผู้บัญชาการซาล่า ไม่ต้องพูดถึงการกระทำของผมที่เฮลิโอโปลิส และเหตุผลที่เขาช่วยยานรบนั้น กัปตันยานเป็นเพื่อนสนิทของเขา ผมว่าเขาคงไม่บอกให้เธอเป็นศัตรูกับครอบครัวตัวเอง”
“อาจมีเหตุผลอื่นอีก”เอซาเลียกล่าว”ฉันได้ยินว่ามู ลา ฟลาก้าก็อยู่ด้วย”
ครูเซ่พยักหน้า
“เอลชื่นชมเหยี่ยวแห่งเอ็นดีเบี่ยนเสมอ ฟลาก้าเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่กองทัพโลกไม่กี่คนที่ฉันพูดได้ว่าเยี่ยม หนึ่งในคนที่ไม่ได้มองโคออดิเนเตอร์เป็นสัตว์ประหลาด”
“น่าเสียดายเขาอยู่ฝ่ายตรงกันข้าม”เท็ด เอลฟ์แมน พ่อของดีอัคก้ากล่าว
มีการผงกหัวไปทั่ว(ยกเว้นซาล่า) แม้เป็นความจริงที่เขาเป็นเนเชอรัล แต่มู ลา ฟลาก้าไม่ได้เป็นที่เกลียดชังในแพลนท์นอกจากกลุ่มหัวรุนแรง ส่วนใหญ่รวมทั้งซาฟท์เห็นว่าเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่น่าชื่นชม
“มองว่าโคออดิเนเตอร์เป็นคน นั่นเป็นเหตุผลที่คิระให้ความร่วมมือกับพวกเขาเหรอ”อัสรันคิดไม่ได้พูดออกมาดังๆ พ่อของเขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่ามิตรภาพของเขากับนักบินสไตรค์และเรเวนเป็นความลับ อัสรันคิดว่าเรื่องนั้นโง่มากเพราะหน่วยครูเซ่ทุกคนรู้
“เอลอาจจะถูกก็ได้ ยานมีขาไม่ได้เหมือนพวกกองทัพโลกที่เหลือ”
แม้พ่อจะไม่เห็นด้วย อัสรันก็เริ่มคิดว่าลูกเรือของยานมีขาที่รอดจากการระเบิดแค่พยายามเอาตัวรอด หลังไปเรียนที่ดวงจันทร์ ที่ทุกคนรู้ว่าเขาเป็นโคออดิเนเตอร์ เขารู้ว่าไม่ใช่เนเชอรัลทุกคนที่เกลียดพวกเขา
"แต่ว่าผู้บัญชาการครูเซ่ โมบิลสูทของกองทัพโลก มันมีค่าถึงขนาดเสียสละเพื่อให้ได้มาถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?"
อัสรันสังเกตได้ว่าแพทริก ซาล่าไม่สนใจเรื่องนักบินเป็นใครหรือ อัสรันกำหมัดแน่น
"เกี่ยวกับสมรรถนะอันน่าตกใจของมัน ผมอยากจะขอให้ผู้ที่เป็นคนขึ้นบังคับมัน และเป็นคนที่เคยต่อสู้กับหุ่น2ตัวสุดท้าย ซึ่งก็คือ อัสรัน ซาล่า และเอเลน่า จูลด์มาเป็นผู้รายงานให้ทุกท่านทราบแทนครับ"
แพทริกเหลือบไปมองซีเกล เขาพยักหน้า
"อนุญาติให้อัสรัน ซาล่า และเอเลน่า จูลด์มารายงานได้"ซีเกลกล่าว
อัสรันกับเอเลน่าลุกขึ้นเดินไปใกล้โต๊ะประชุมยกมือทำความเคารพ เอเลน่าหยิบฮาร์ดไดฟ์มาเสียบและพิมพ์แป้นพิมพ์ จอภาพมอนิเตอร์ฉายภาพหุ่นออกมา
"ก่อนอื่นผมจะขอเริ่มอธิบายรายละเอียดอีจิสตัวนี้ก่อน ความพิเศษของมันก็คือระบบเปลี่ยนรูปร่างนี่แหละครับ GAT-X303 อีจิส เป็นหุ่นที่สร้างเฟรมต่างจากหุ่นตัวอื่นอย่างน้อย7ตัว เพราะมันเปลี่ยนเป็นโมบิลอาเมอร์ได้ และอาวุธหลักก็เป็นปืนพลังแสงขนาด580มม.ที่ชื่อว่าสคิวร่า และก็เป็นเหมือนกับหุ่นตัวอื่นๆ เพราะเจ้าตัวนี้เองก็มีเกราะป้องกัน ที่เรียกว่าเฟสชิฟท์อยู่ด้วย ซึ่งตอนนี้เราพยายามดึงสมรรถนะออกมาให้มากที่สุด แต่ตามสเป็คแล้ว ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะหรือพลังมัน มันก็เหนือกว่าหุ่นจินของซาฟท์ทั้งสิ้น"
หน้าจอเปลี่ยนภาพเป็นดูเอล
"GAT-X102 ดูเอล ตัวนี้เป็นหุ่นที่ใช้รบแบบประชิดตัว จึงไม่มีความสามารถพิเศษใดๆ แต่มันมีความสมดุลมากที่สุด ผมคิดว่ามันน่าจะเป็นต้นแบบของหุ่นที่เหลือทั้ง8ตัว ติดตั้งอาวุธต่อต้านอากาศยานเช่นวัลแคนซิสเต็ม อีเกลสเตลังค์75มม., บีมเซเบอร์, แอนตี้บีมชิลด์"
หน้าจอเปลี่ยนเป็นบัสเตอร์ที่ยิงปืนไรเฟิลพลังงานสูง
"GAT-X103 บัสเตอร์ เป็นหุ่นที่ใช้เล็งโจมตีหวังผลระยะไกล เป็นหุ่นสนับสนุน ผมคิดว่ามันถูกออกแบบมาเพื่อการเล็งยิงสนับสนุนจากด้านหลังครับ มันไม่ได้ติดตั้งโล่ไว้ แต่อุปกรณ์ที่ติดตั้งมาคือ ปืนอิมพัลส์ ปืนไรเฟิลยิงระยะไกล และมีปืนเจาะเกราะขนาด350มม. กันลอนเชอร์ รวมทั้งปืนไรเฟิลพลังงานสูงติดตั้งไว้ด้วย"
หน้าจอเปลี่ยนเป็นภาพบลิตซ์ที่ยิงลูกดอกแลนเชอร์ดาร์ทออกไป
"GAT-X207บลิตซ์ สามารถใช้เกราะพรางตาที่มาจากการปล่อยแก๊ซที่เรียกว่ามิราจ คอลลอยด์ ทำให้สามารถล่องหนจากการสายตาและตรวจจับได้เกือบจะ100% แต่ว่าเมื่อใช้ความสามารถนี้ ทำให้มันไม่สามารถใช้เกราะเฟสชิฟท์ได้ ดังนั้นจึงใช้วิธีแอบเข้าประชิดเพื่อทำลาย เพราะมันเป็นหุ่นที่ใช้ลอบโจมตีโดยเฉพาะครับ และยังมีไทเครอสกับแลนเชอร์ดาร์ทที่เป็นอาวุธเฉพาะของมันติดตั้งเอาไว้ด้วย
ภาพหน้าจอเปลี่ยนเป็นโซลที่พุ่งตัวด้วยความเร็วสูง
"GAT-X204โซล หุ่นตัวนี้เป็นหุ่นตัวที่เร็วที่สุด ความเร็วเหนือกว่าโมบิลสูททั้งหมด ข้อเสียคือผลของการใช้ความเร็วสูง จะทำให้พลังงานหมดอย่างรวดเร็ว ผมเชื่อว่ามันถูกสร้างเพื่อตอบโต้โมบิลสูทความเร็วสูงของหน่วยอโลบัส มันมีอาวุธเป็นบีมไรเฟิลขนาด55มม, อีเกลสเตลลัง75มม, บีมเซเบอร์และกรงเล็บโฮเคนฟรุต"
หน้าจอเปลี่ยนเป็นภาพเซนติเนลที่เริงระบำรองบีมไรเฟิลที่ยิงมาจากแพนเธอร์และยิงกรงเล็บอุโรโบรอส อัสรันเปลี่ยนให้เอเลน่าขึ้นมาพูดแทน
“นี่คือหุ่นตัวสุดท้ายที่เราเอามาได้ GAT-209 เซนติเนล เราเชื่อว่าเครื่องนี้ถูกสร้างเพื่อสนับสนุนความเร็วของโซล มีอาวุธระยะประชิดมากมาย อาวุธหลักของมันคือกรงเล็บอุโรโบรอส ตัวกรงเล็บสามารถเจาะเกราะหรือโล่แอนตี้บีม กรงเล็บแต่ละอันมีบีมเซเบอร์สั้นใส่ไว้ มีปืนพลาสม่าสั้น2คู่ไว้ใช้งานเมื่อคู่ต่อสู้ถูกจับด้วยกรงเล็บ บีมไรเฟิล60มม บีมเซเบอร์สั้นสองเล่มรวมกันเป็นบีมเซเบอร์คู่ได้ ความเร็วและความคล่องตัวทำให้มันเป็นอาวุธน่ากลัวในระยะประชิด”
ภาพหน้าจอเปลี่ยนเป็นเรเวนยิงเรลกัน
“ตัวแรกที่หลุดมือเราไปได้ GAT-X305 เรเวน เหมือนกับอีจิส มันสามารถเปลี่ยนเป็นโมบิลอาเมอร์ได้เหมือนเครื่องบินรบ ร่างโมบิลอาเมอร์เหมือนจะเพิ่มพลังการบินเป็น2เท่าและเป็นแท่นสำหรับโมบิลสูทอื่น อาวุธหลักคือปืนเรลกัน52มมติดโล่ อาวุธหลักในร่างโมบิลอาเมอร์คือปืนกล76มม และอาวุธบีมอาชูร่าติดตั้งที่เท้าของโมบิลอาเมอร์ เราคิดว่าเครื่องนี้ถูกออกแบบมาสำหรับการต่อสู้ในชั้นบรรยากาศและอวกาศ”
ภาพหน้าจอเปลี่ยนเป็นภาพของสไตรค์ที่ตวัดดาบฟันจินขาด
"GAT-105 สไตรค์ จากการต่อสู้กัน ทำให้เราทราบว่ามันสามารถติดตั้งและสามารถใช้อาวุธทั้งลอนเชอร์, ซอร์ด และไอล์ 3 รูปแบบเลยทีเดียวครับ จากข้อมูลภาพที่ได้มา ตอนที่มันติดตั้งลอนเชอร์ จะเป็นปืนอิมพัลส์ขนาด320มม. นอกจากนั้นยังใช้ปืนวัลแคนขนาด120มม. ดาบที่เจ้านั้นใช้มีความยาว15 เมตร มีบูมเมอแรงและมีดสั้นประจำตัวอีก2เล่ม ผมคิดว่ามันเป็นตัวที่มีสมรรถนะสูงที่สุดครับ"
หน้าจอเปลี่ยนเป็นโมบิลสูทที่นอนอยู่บนพื้นของเฮลิโอโปลิส
"ตัวที่3ซึ่งหลุดมือเราไป จากสิ่งที่เห็นและข้อเท็จจริงที่มันยังไม่ถูกนำมาใช้ในการต่อสู้ เราเชื่อว่ามันยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้นเราไม่รู้ความสามารถของมันเลย แต่จากภาพที่เรามี เราเชื่อว่ามันติดเครื่องยิงลูกระเบิดที่ปลายแขนและบีมเซเบอร์ นอกจากนั้นเราไม่รู้อะไรเลย จนกว่าจะถูกเราจับหรือเสร็จสมบูรณ์และกองทัพโลกใช้มัน"
หน้าจอเปลี่ยนเป็นเอ็กเซียพร้อมGNซอร์ดที่กางออก ดูเหมือนเตรียมโจมตี
"นี่เป็นโมบิลสูทที่เราไม่มีข้อมูลใดๆยกเว้นสิ่งที่เราเคยเห็นในการต่อสู้ หุ่นตัวนี้มีชื่อว่าเอ็กเซียซึ่งแสดงอาวุธเพียง4อย่างเท่านั้น นั่นคือซอร์ด/ไรเฟิล, บีมเซเบอร์, วัลแคน มีความเร็วและความคล่องตัวเหลือเชื่อมาก เมื่ออยู่ใกล้พอหุ่นนี้สามารถขัดขวางการสื่อสารและเรดาห์ มันไม่ได้ติดเกราะเฟสชิฟ จากที่ดูเหมือนจะมีพลังงานมากกว่าGตัวอื่น และยังมีสิ่งเหล่านี้ อนุภาคที่ออกมาจากกรวยด้านหลัง"
อัสรันทำความเคารพและเดินกลับไปนั่งที่ตนเอง
"สร้างของแบบนี้ขึ้นมาเหรอเนี่ย ไอ้พวกเนเชอรัล"
"แต่ว่ามันยังอยู่ในขั้นทดสอบไม่ได้ใช่เหรอ แค่โมบิลสูท10ตัวจะทำอะไรได้"
"แต่ว่ามาถึงขนาดนี้แล้วมันต้องเพิ่มจำนวนอีกแน่ๆ แล้วท่านจะบอกให้เราไปจัดการตอนนั้นอย่างงั้นเหรอ"เอซาเลียถาม
เอียน เคสเซล หัวเราะออกมา ทำให้ทุกคนหันไปมองเขา
"ขอโทษด้วย แต่มันเป็นเรื่องน่าขำ พวกคุณเรียกพวกนี้ว่าสิ่งน่ารังเกียจของเนเชอรัล แต่กองทัพโลกเพียงแค่ทำในสิ่งที่ต้องทำ ในสงครามถ้าศัตรูมีอาวุธที่ดีกว่า คุณก็ต้องสร้างอาวุธที่ดีกว่าตอบโต้ ฉันประหลาดใจที่พวกเขาใช้เวลานานในการสร้างโมบิลสูทของตัวเอง อีกอย่าง พวกคุณคิดว่าพวกนั้นคิดยังไงเมื่อเห็นโมบิลสูทของเรา"
"คุณพูดแบบนั้นได้ยังไง"เลโอตวาด"มันเป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นธาตุแท้ของพวกเนเชอรัล พวกมันน่ะคิดจะจุดไฟสงครามขึ้นมาอีกแน่ๆ"
"มีเพียงไม่กี่คนทั้งเนเชอรัลและโคออดิเนเตอร์ที่กระหายสงครามนี้อย่างจริงจัง และคุณบอกว่าโคออดิเนเตอร์ต้องการสันติภาพ เนเชอรัลเหมือนพวกบลูคอสมอสสมควรถูกกำจัด"เอียนเว้นช่วงแล้วพูด"ความคิดคุณก็ไม่ต่างจากบลูคอสมอส"
อัสรันเฝ้าดูสภาที่เริ่มถกเถียงกัน เขาเบื่อหน่ายกับการเมือง
"กรุณาอยู่ในความสงบด้วยครับทุกท่าน"ซีเกลพยายามห้ามปรามแต่ไร้ผล
"ไม่มีใครอยากทำสงครามหรอก"แพทริคพูดแล้วลุกขึ้น"มีใครในพวกเราบ้างที่ชอบออกไปสู่สมรภูมิ พวกเราเพียงแค่อยากใช้ชีวิตอย่างสงบกันทั้งนั้น สิ่งที่พวกเราหวังมีแค่นั้นจริงๆ แต่ว่าใครกันแน่ที่ทำลายความหวังนั้นจนย่อยยับ ใครกันที่ผูกมัดโคออดิเนเตอร์อย่างเรา เพื่อความละโมภของตนเองและหาประโยชน์จากเราเรื่อยมา?"
พวกเราไม่มีวันลืม วาเลนไทน์เลือดครั้งนั้น โศกนาฎกรรมของยูนิอุสเซเว่นนั้น 243,721คน ความสูญเสียอย่างใหญ่หลวงที่ล่วงเลยมาแล้วกว่า11เดือน แต่ถึงอย่างงั้นพวกเราก็อดทนและอดกลั้นที่จะตอบโต้ให้น้อยที่สุดเพื่อให้สงครามยุติโดยเร็วที่สุด เจ้าพวกเนเชอรัลมันก็มองไม่เห็นความพยายามของพวกเราเลย
"พวกเราจะต้องสู้เพื่อปกป้องพวกเราเอง หากต้องสูญเสียเพราะไม่ต่อสู้ละก็ เราก็จำเป็นต้องสู้กันล่ะ"
"ท่านพ่อ"อัสรันพูดเบาๆ มันเป็นการพูดปลุกใจของพ่อตนให้ทำสงครามอีกครั้ง
'แพทริค ซาล่า ตั้งใจจะทำลายเนเชอรัลทั้งหมด'
คำพูดของเอลดังเข้ามาในหัวเขา อัสรันหันไปและตกตะลึงเมื่อเห็นรอยยิ้มของราอูล
"เลอ ครูเซ่ ฉันไม่สนหรอกว่าต้องทำยังไง แค่จับโมบิลสูท3เครื่องนี้ โดยเฉพาะไอ้เจ้าเอ็กเซีย"ซาล่าสั่ง นายทหารสวมหน้ากากทำความเคารพ
ทั้งสภาเงียบ ไม่มีใครโต้แย้งคำพูดของซาล่า แต่มีชาย2คนยืนขึ้นต่อต้านคำพูดของแพทริค
"คุณมีไหวพริบในการแสดงละครเหมือนเดิมซาล่า แต่การใช้เหยื่อของยูนิอุสเซเว่นเพื่อทำสงครามต่อไป เป็นสิ่งน่ารังเกียจและดูหมิ่นพวกเขา"
เอียนหัวเราะเยาะเย้ยซาล่า ก่อนจะหยุดและหันไปมองเหล่าสมาชิกสภา
"คุณกล้าพูดแบบนั้นได้ยังไง!!!!"แพทริคตะโกน"ภรรยาของฉันถูกฆ่าตายที่ยูนิอุสเซเว่น"
"นายพลเคสเซลอยากบอกว่าท่านไม่ควรปล่อยตัวตามอารมณ์ซาล่า"ซีเกลกล่าวขึ้น"ผู้นำต้องตัดสินใจด้วยความสุขุมรอบคอบ และพวกเขาต้องทำหน้าที่แก้ไขปัญหาเพื่อประโยชน์ต่อทุกฝ่าย พวกเขาต้องเต็มใจฟังการเรียกร้องสันติภาพ แม้จะมีโอกาสเพียงเล็กน้อย พวกเขาก็จะรับฟังเรา"
สหายสมาชิกสภาที่เคารพ อย่างที่ทุกคนรู้ดี ครอบครัวเคสเซลเป็นตระกูลทหารที่มีประวัติยาวนาน เขาทำหน้าที่อย่างแข็งขันในฐานะทหารซาฟท์ ก่อนจะได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนฝ่ายทหารของสภาสูง ภรรยาและลูกๆของเขากำลังรบในสงคราม เขารู้ว่าสงครามนี้มันเป็นยังไง เราต้องต่อสู้ในสงครามนี้ แต่เราต้องสู้โดยไม่สูญเสียจิตใจและเหตุผล เราต้องไม่ปล่อยให้ตนเองเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและเกลียดชัง เราต่อสู้เพื่อการอยู่ร่วมอย่างสันติกับเนเชอรัลและประเทศต่างๆทั่วโลก การแก้แค้นมีแต่จะนำไปสู่ความสูญเสีย ความเจ็บปวดและความเกลียดชังที่เพิ่มขึ้น"
"เผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดกำลังตาบอด"เอียนเสริม"ประธานสภาไคลน์และฉันได้พูดคุยกันแล้ว สงครามครั้งนี้ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว สงครามนองเลือดนี้ไม่มีทางจบลงถ้าเราไม่ทำอะไร เราจะถูกทิ้งให้อยู่ในวงล้อของความเกลียดชังไม่มีสิ้นสุด นี่คือสิ่งที่เราต้องทำเพื่ออนาคตของเด็กๆ ทั้งของเราและพวกเขา จะไม่เผชิญกับความผิดพลาดแบบเรา"
แพทริค ซาล่ามองเคสเซลด้วยสายตาไม่พอใจ รวมทั้งราอูล เลอ ครูเซ่
อัสรันและเอเลน่ารออย่างอดทน ในที่สุดการประชุมสภาสูงก็จบลง เหล่าประธานสภาทยอยเดินออกจากห้อง
"อัสรัน ไม่ได้เจอกันนานนะ"ซีเกลทักทาย
"ท่านประธานไคลน์"ทั้งสองรีบยกมือทำความเคารพ
"อย่าทำเป็นเหมือนคนอื่นคนไกลแบบนั้นสิ "
"เปล่าครับ คือว่า ...."อัสรันจะพูด ซีเกลส่ายหัวและนำเขาไปยังห้องโถงฟอสซิล01จากดาวพฤหัสที่อยู่อีกด้านของห้องโถง
“ดีใจที่เธอกลับมานะ แต่ว่าคราวนี้ลักซ์ต้องไปทำงานซะนี่ ให้ตายสิ ทำไมพวกเธอถึงไม่ว่างตรงกันบ้างนะ”
“ครับ ขอโทษครับ”
“ฮะๆ ไม่ต้องขอโทษหรอก แต่ว่าดูเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ซะแล้วสินะ”
ตอนนั้นอัสรันก็ถูกราอูลเรียก พ่อเดินตามหลังมา พวกเขาจะรีบตามล่ายานรุ่นใหม่กับโมบิลสูท อีก72ชั่วโมงเวอซาเรียสจะออกยาน
หลังพวกเขาไปแล้ว แพทริคเข้ามายืนข้างซีเกล
“พวกเราไม่มีเวลามากนักหรอก ถ้าไฟสงครามมันแผ่ขยายออกไปจะทำยังไง”
“เพราะงั้นคนที่จะมาขัดขวางพวกเรา เราถึงยกโทษให้ไม่ได้ยังไงล่ะ”
@@@@@@@@@@@
ในขณะเดียวกันแพทริคกับราอูลกำลังคุยกันในห้องทำงานของแพทริค
"เจ้านั้นมันดื้อดึง เขาไม่เห็นว่าเราต้องทำอะไร เขาจะทำลายทุกอย่าง เราต้องกำจัดเขาไปให้พ้นทาง"
ราอูลถอนหายใจขณะที่ซาล่ากำลังพูดอย่างบ้าคลั่งเกี่ยวกับศัตรูทางการเมืองของเขา เอียน เคสเซลเป็นอุปสรรคใหญ่ในแผนการของแพทริค ซาล่า แม้เขาจะเป็นทหารที่รบในสงคราม แต่เขาก็ต่อต้านความคิดที่รุนแรงของแพทริค ซาล่า และพยายามยุติสงครามด้วยการเจรจาสันติภาพ
"เราควรทำครับ แต่น่าเสียดายที่ผู้บัญชาการเคสเซลมีสัมพันธ์กับฝ่ายทหารมาก ทหารจำนวนมากสนับสนุนเขา ภรรยาและลูกๆของเขาเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของซาฟท์ ลูกสาวเขายังบัญชาการหน่วยรบที่ดีที่สุด ถ้าเราทำอะไรลงไปอาจจะเกิดผลเสียต่อเราได้"
"มันจะไม่เป็นแบบนี้ถ้ามือสังหารของนายทำงานได้สำเร็จครูเซ่"แพทริคตวาด"ถ้าเขาจัดการอโลบัสได้อย่างที่ควรเป็น เราจะนำหน่วยของเขามาอยู่ใต้การควบคุมของเราได้และทำให้เคสเซลสูญเสียชื่อเสียงและความไว้วางใจ"
จอน อลาริค เป็นสัญลักษ์ความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญและความภูมิใจของซาฟท์ แต่เขาต่อต้านแนวคิดของแพทริค ซาล่าและราอูล เลอ ครูเซ่อย่างรุนแรง และตั้งแต่เริ่มสงครามเขาก็สงสัยซาล่าและครูเซ่มากขึ้นเรื่อยๆ เขาพยายามหาข้อมูลที่พวกเขาพยายามซ่อนไว้ โชคดีที่พวกเขามีสายในหน่วยอโลบัสรายงานข้อมูลทั้งหมด
พวกเขาได้ให้สายของเขาลอบฆ่าอลาริคและโยนความผิดให้ไดอาน่า เคสเซล ว่าเป็นสปายของโลก เพื่อให้พวกเขาควบคุมหน่วยอโลบัสได้ จากนั้นตระกูลเคสเซลจะสูญเสียชื่อเสียงและถูกสงสัยว่าทรยศหักหลังและเสียผู้สนับสนุน
แต่ไดอาน่าหาตัวมือสังหารเจอและฆ่าเขาได้ เขาถูกตั้งข้อหาว่าเป็นสปายของกองทัพโลก และทำให้ไดอาน่าได้ตำแหน่งผู้บัญชาการหน่วยอโลบัสคนใหม่
แม้ว่าไดอาน่าจะไม่ชอบและไม่ไว้ใจทั้งแพทริค ซาล่าและราอูล เลอ ครูเซ่ แต่เธอไม่สนใจจะหาข้อมูลที่ผู้บัญชาการคนเก่าของเธอริเริ่มไว้ หรืออย่างน้อยเธอก็ไม่สามารถทำอะไรได้ในตอนนี้
@@@@@@@@@@
ที่แห่งหนึ่งในอวกาศ
"แกคิดจะทำอะไร จะเป็นคนทรยศหรือ"นักบินจินน์ติดอาวุธด้วยบีมไรเฟิลกำลังยิงตะโกนCGUEสีดำที่มีหน้าอกสีแดงยกบีมเซเบอร์เฉือนปืนไรเฟิลขาดครึ่งก่อนจะตอบ
"ฉันและเพื่อนร่วมงานไม่ใช่คนของซาฟท์ เราเป็นแค่ทหารรับจ้าง"
CGUEตวัดดาบแต่จินน์บินไปทางซ้ายหลีกเลี่ยง
"นายไม่รู้หรือว่ายานที่นายกำลังโจมตีไม่ได้ยานรบ หรือคุณไคลน์อยู่บนยาน"
นักบินCGUEยิ้ม"ใช่ ฉันทราบดี อันที่จริง การมาของมิสไคลน์เป็นเหตุผลที่เราถูกว่าจ้างมา"
CGUEเคลื่อนเข้าหาจินน์แกว่งไลท์เซเบอร์ จินน์ถอยแต่โดนตัดแขนซ้าย
"แกมันบ้า!? ประธานจะให้กองทัพซาฟท์ทั้งหมดไล่ล่าแกถ้าแกทำแบบนั้น"
"น่าเสียดายที่มันจะไม่เกิดขึ้นเพราะไม่มีใครรอดชีวิตไปบอก"
CGUEพุ่งเข้าไปแทงดาบทะลุค็อกพิทฆ่านักบิน
"ตอนนี้ได้เวลาส่งเจ้าหญิงตัวน้อยของแพลนท์ลงหลุม"
บนยานชั้นโลราเซีย เจ้าหน้าที่และพลเรือนจำนวนมากกำลังวิ่งอย่างบ้าคลั่งไปที่สะพานหรือยานชูชีพ ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาอยู่ประเภทไหน
ในหมู่หลังมีเด็กสาวผมสีชมพูถือฮาโล่สีชมพู
หญิงสาวไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงโจมตีโลราเซีย แม้ว่ายานลำนี้เป็นยานของซาฟท์และมีจินน์2-3ตัว แต่ยานนำอาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ทหารมาทำงานไว้อาลัยผู้เสียชีวิตของยูนิอุสเซเว่นและจินน์คอยคุ้มกันโจรสลัดอวกาศ
แต่ผู้โจมตีกลุ่มนี้เป็นคนที่ได้รับการฝึกฝนทำสงครามเป็นอย่างดี
ยังคงจับตาดูว่าใครเป็นคนโจมตีและสิ่งที่พวกเขาต้องการจากคนบนยานที่เพียงต้องการแสดงความเคารพต่อเหยื่อสงคราม
"คุณต้องมากับผม"เจ้าหน้าทีบอกเธอ
"แต่คนอื่นๆล่ะ"เด็กสาวตามเจ้าหน้าที่ไปห้องโถงยาน
"เราทำทุกอย่างที่ทำได้ แต่เราต้องมั่นใจในความปลอดภัยของคุณ"
"ค่ะ"เด็กสาวยอมรับว่าเธอไม่ต้องการได้รับความสำคัญเช่นนี้ ในความคิดเธอ ชีวิตพลเรือนคนอื่นๆมีค่าพอๆกับชีวิตของเธอ
ในไม่ช้าเด็กสาวถูกขังอยู่ในพ็อดลี้ภัยอันเล็ก
"ขอถามได้ไหมว่ากำลังทำอะไรให้คนอื่นปลอดภัย"
"เราพาทุกคนไปยานกู้ภัยเพื่อความปลอดภัยแล้ว"
"ขอบคุณค่ะ"เด็กสาวกล่าว
"อย่ากังวล พลเรือนคนอื่นๆจะไม่เป็นไร"เจ้าหน้าที่พูดปิดพ็อดและยิงออกไป
เจ้าหน้าที่หัวเราะอย่างขมขื่นและเกลียดตัวเอง"ถ้ามันมีนะ"
ทุกสิ่งที่เขาบอกเด็กสาวเป็นเรื่องโกหก ความจริงคือ ยานกู้ภัยที่เธออยู่เป็นอันเดียวที่ยังทำงานอยู่
เนื่องจากระบบยานได้รับความเสียหาย ทำให้ไม่สามารถปล่อยพ็อดอื่นได้ ชีวิตเด็กสาวคนนี้ต้องมาก่อนอันดับแรก ไม่งั้นสงครามจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
"ขอโทษมิสไคลน์ แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น คุณต้องมีชีวิตอยู่"
ครู่ต่อมายานโลราเซียถูกระเบิดจม
@@@@@@@@@
วงโคจรขยะอวกาศ
2 กุมภาพันธ์ ,CE71
คริสถอนหายใจขณะที่เรเวนบินผ่านเศษซากและขยะทั้งหมดที่กลายเป็นขยะอวกาศ เขา เซ็ตสึนะและคิระแยกกันออกค้นหาเสบียงที่พวกเขาต้องการมาก เมื่อพบบางอย่าง พวกเขาจะติดต่ออาร์คแองเจิ้ลและส่งทีมไปรับเสบียง แต่ตอนนี้ยังไม่พบอะไรเลย
"เฮ้ คริส หาอะไรเจอหรือยัง?"ลิซถาม
"ไม่ ไม่มีอะไรเลยจริงๆ"เขาตอบขณะหลบเศษซาก"นี่เริ่มจะดูเหมือน--"
คริสแข็งทื่อในวินาทีที่เขาเคลื่อนที่ไปรอบเศษซากและเห็นสิ่งที่อยู่ข้างหน้า
"ไม่...มันเป็นไปไม่ได้"
"คริส มันคืออะไร นายอยู่ที่นั่นไหม ช่วยตอบที"ลิซพูดอย่างเมามัน
"บ้าน"คริสตอบเสียงแผ่วเบา"ลิซ...บ้านน่ะ"
ใบหน้าของลิซซีดในทันทีและเหมือนพี่ชายของเธอ เธอเป็นอัมพาตเพราะตกใจ
"เขากำลังพูดถึงอะไร?"กัปตันราเมียสถาม"เขาพบอะไร?"
"บ้านของเราก่อนสงครามจะเริ่ม...ยูนิอุสเซเว่น"
@@@@@@@@@
หลังจากได้เห็นซากยูนิอุสเซเว่น ทุกคนได้กลับมารวมตัวที่สะพานเดินเรืออาร์คแองเจิ้ล
"จะเอาน้ำจากที่นั้นเหรอ เอาจริงเหรอครับ"คิระถาม
"ที่นั่นมีน้ำแข็งกว่าร้อยล้านตัน"นาทาลกล่าว
"คุณนาทาลก็เห็นแล้วนี่ครับ ที่นั้นเป็นสุสานคนกว่าแสนคนเชียวนะ"คิระยังคัดค้าน
"ใช่แล้วครับ"ทอลล์เห็นด้วยกับคิระทันที
"มันมีน้ำอยู่ที่นั่นที่เดียว"เซ็ตสึนะตัดบท ทำให้ทั้งสองเงียบ
"ไม่มีใครต้องการทำอย่างงั้นหรอกนะ แต่เราเจอน้ำแล้วก็แค่นั้น"มูกล่าว
"ร้อยเอกฟลาก้า"คิระกล่าวเงียบๆ
"ไม่ว่าใครถ้าทำได้คงไม่อยากเหยียบที่นั่นแน่ แต่มันช่วยไม่ได้นี่นา เรายังมีชีวิตนะ พูดให้ถูก พวกเราต้องรอดชีวิตต่อไปให้ได้"
"ฉันเห็นด้วยกับร้อยเอก"คริสกล่าว คิระมองเขาด้วยความตกใจ
"คริส"คิระมองเพื่อนที่มีสีหน้าลำบากใจ
"คนของแพลนท์นั้นรักสงบ ยูนิอุสเซเว่นเป็นโคโลนี่เกษตรกรรม ฉันมั่นใจว่าพวกเขาไม่ต้องการให้เราตายเพราะขาดน้ำ เราเอาน้ำจากข้างนอกแพลนท์ที่พวกเขาตายได้"คริสกล่าว
คิระได้ยินแล้วก้มหัวลง เซ็ตสึนะจับไหล่เพื่อนไว้
"ถ้างั้นรีบทำให้จบเถอะ"เซ็ตสึนะกล่าว คิระต้องยอมรับอย่างไม่เต็มใจ
บ้านครอบครัวจูลด์
“หนูขอโทษค่ะแม่ ฉันพยายามแล้วแต่....”
“ไม่เป็นไร ลูกทำดีที่สุดแล้ว”
“ฉันทำดีที่สุดแต่ก็ยังไม่พอ มอลเคย์ถูกทำลาและเวอซาเรียสเกือบจมในการต่อสู้แรก”เอเลน่าเงียบไปนานและถามแม่
“แล้วสไตรค์ หุ่นอีกตัวล่ะ”
“อัสรันไม่เคยสู้จริงจังเพราะเพื่อนรักเขาขับมันอยู่ แต่ชายคนนั้นทำให้นิโคลแพ้ที่อาร์เทมิส”
“เพื่อนรักที่สุดของเขา? เป็นเนเชอรัล?”
“ใครว่าเนเชอรัลค่ะ เขาเป็นโคออดิเนเตอร์รุ่นแรกชื่อคิระ ยามาโตะ”
“โคออดิเนเตอร์รุ่นแรก? ตามรายงานครูเซ่ไม่ได้พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ และอัสรัน ซาล่าก็เช่นกัน”เธอตรวจสอบหลักฐานที่ประชุม”ลูกแน่ใจนะว่ายามาโตะคนนี้ไม่ใช่เนเชอรัล”
“อัสรันสะเทือนกับเรื่องนี้ เพราะเขาไปเรียนกับพี่เอลและชายคนนี้ถึง7ปี เขาพยายามให้เขาร่วมกับเรา แต่เขาปฎิเสธ”
“ทำไมเขาปฎิเสธ?”เอซาเลียถาม”ถ้าเขาเป็นโคออดิเนเตอร์”
“ไม่ต่างจากพี่เอล เขาพูดเรื่องปกป้องเพื่อนๆและเขาไม่สนว่าพวกนั้นเป็นเนเชอรัล”
“มันคงมีความจริงอยู่บ้าง ออร์บเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่อนุญาติให้โคออดิเนเตอร์อยู่อาศัย ไคลน์พยายามเปิดประเทศต้อนรับเนเชอรัล แต่มันไม่ได้ผล”
“เพราะแบบนั้นพี่เอลถึงจากไป”เอเลน่าบ่นพึมพำ เอซาเลียเลือกจะแกล้งไม่ได้ยิน
“แล้วกองทัพโลกล่ะค่ะ”
“ถ้ามู ลา ฟลาก้าเกี่ยวข้องมันก็อธิบายเรื่องต่างๆได้”เอซาเลียตอบ”เขาไม่ได้เป็นเหมือนพวกเจ้าหน้าที่ระดับสูงและลูกรู้ว่าเอลชื่นชมเขา”
“ใช่”เอเลน่าอยากพูดมากกว่านี้แต่พยักหน้า”ฉันก็คิดแบบนั้น”
“ระวังตัวด้วย และคอยดูแลพี่ชายกับเอลคุง"เอซาเลียจับบ่าลูกสาว
"ค่ะ"
@@@@@@@@@
ยูนิอุสเซเว่น
เซ็ตสึนะ คิระกับคริสขับโมบิลสูทลาดตระเวณรอบๆ ในขณะที่ลูกเรือคนอื่นช่วยกันลำเลียงน้ำแข็ง อาหารและเชื้อเพลิงจากซากยาน
ผู้ลี้ภัยช่วยกันพับกระดาษ มิลลี่โยนกระดาษนกกระเรียนโปรยไปในยูนิอุสเซเว่นเพื่อทำการไว้อาลัยผู้เสียชีวิตของยูนิอุสเซเว่น
พวกเขารวบรวมน้ำได้มากพอและชิ้นส่วนอะไหล่กว่าที่คิดไว้ โมบิลสูทพวกนี้ไม่ได้ออกรบและภายในโมบิลสูทยังอยู่ในสภาพดี มีอาวุธมากมายของจินน์และเชื้อเพลิงแบตเตอรี่
เซ็ตสึนะคิดว่าถ้าป้าเอซาเลียรู้ว่าเขาช่วยกองทัพโลกกู้ของจากยูนิอุสเซเว่น เธออาจชักปืนยิงเขาได้เลย
ไม่ต้องสงสัยว่าสภาสูงแพลนท์ต้องประชุมเรื่องเฮลิโอโปลิส
และกันดั้มเอ็กเซียที่ติดตั้งGNไดรฟ์นี่ ไม่มีทางที่เขาจะมอบมันให้กองทัพโลกหรือซาฟท์
ความคิดเขาถูกขัดจังหวะเมื่อเซ็ตสึนะเดินเข้าไปในพื้นที่เปิดโล่งและเห็นสิ่งที่ดูเหมือนซาฟท์จินน์ต่อสู้กับCGUE
จินน์ยิงด้วยบีมไรเฟิลขณะที่CGUEหลบอย่างง่ายดายก่อนที่จะตอบโต้ด้วยอาวุธตัวเอง
เซ็ตสึนะสับสนอยู่ครู่หนึ่งจนกระทั่งสังเกตสีของCGUEต่างจากCGUEดั้งเดิมทั่วไปที่เป็นสีเทาอ่อน ตัวที่โจมตีจินน์มีสีดำและหน้าอกสีแดง
เซ็ตสึนะเปิดวิทยุและเปิดช่องสัญญาณ เขาอยู่ไกลจากเรดาห์อาร์คแองเจิ้ล ดั้งนั้นการติดต่อพวกเขาในตอนนี้ไร้ประโยชน์
ไม่ว่ายังไงก็ตาม เซ็ตสึนะไม่ตั้งจะแจ้งให้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่
"แกรู้ไหมว่าใครอยู่ในพ็อดกู้ภัย"
เซ็ตสึนะสังเกตว่ามีพ็อดอยู่ไม่ไกลจากโมบิลสูททั้งสองมากนัก
ได้ยินเสียงหัวเราะนักบินCGUE"ถ้านั่นใช่อย่างที่ฉันคิดตัดสินโดยแกกับคู่หู่ของแกที่พยายามปกป้องมัน ฉันคิดว่าใช่ น่าเสียดายที่หล่อนเป็นเป้าหมายของลูกค้าเรา"
CGUEยิงวัลแคนสองกระบอกยิงจินน์จนระเบิด
เซ็ตสึนะเฝ้ามองอย่างเงียบๆรู้สึกรังเกียจที่มีคนพยายามทำลายยานกู้ภัยเว้นแต่บุคคลที่อยู่ข้างในจะเหมือนการ์เซีย ไม่มีเหตุผลแน่นอนสำหรับสิ่งที่CGUEจะทำ
ไม่มีอะไรหยุดCGUEอีกต่อไปและเซ็ตสึนะสงสัยว่าอาร์คแองเจิ้ลจะเข้ามาแทรกแซง อย่างน้อยไม่ใช่ทันทีหากเขาติดต่อได้ มีเพียงทางเดียวเท่านั้น
CGUEหันความสนใจไปที่พ็อดกู้ภัยและเล็งด้วยปืนวัลแคน
"ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องกับสงคราม แต่เธอต้องตายที่นี่"
แต่ก่อนCGUEจะยิงได้ เขาถูกไรเฟิลGNยิงแขนซ้ายระเบิด
"อะไรวะเนี่ย?"
CGUEหันไปเห็นกันดั้มเอ็กเซียพุ่งเข้าหาเขาพร้อมดาบสีมรกต
"อะไรเนี่ยแก คิดว่ากำลังหาเรื่องใครหา!?"
"ขยะที่ไม่มีอะไรดีกว่ากองทัพโลก"เอ็กเซียเข้าประชิดดาบGNตัดแขนอีกข้างที่เหลือของCGUE
"ฮึ้ย แบบนี้ก็ช่วยไม่ได้"นักบินCGUEพูดบินไปทิศตรงข้าม
เซ็ตสึนะถูกล่อลวงให้ไล่ตามไป แต่เขาตัดสินใจว่าการรายงานต่ออาร์คแองเจิ้ลว่ามีศัตรูที่ยูนิอุสเซเว่นและนำยานกู้ภัยไปขึ้นยานมีความสำคัญมากกว่า
เขาบินไปใกล้พ็อดคว้ามันไว้พยายามติดต่อเธอ
หน้าต่างแสดงไฟฟ้าช็อตทำให้เขาไม่มีทางรู้ว่าใครอยู่ข้างใน โชคดีที่จอภาพยังแสดงสัญญาณเชื่อมต่อ
"เซ็ตสึนะ เอฟ เซย์เอย์กำลังคุยกับคุณ คุณได้ยินผมไหม"
เสียงเด็กสาวตอบเบาๆ"เอ่อ คุณมาช่วยฉันเหรอ"
"ใช่ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าปลอดภัย"
"ขอบคุณ"เด็กสาวในพ็อดกู้ภัยร้องก่อนเสียงหุ่นยนต์ดัง
"เรารอดแล้วๆๆ"
เซ็ตสึนะพยายามกลั้นหัวเราะ"ฉันคิดว่าเป็นหุ่นฮาโล่"
"ใช่ คุณรู้จักด้วยเหรอค่ะ"หญิงสาวถาม
"โชคชะตาทำให้ฉันมีสัตว์เลี้ยงหุ่นยนต์ตัวหนึ่ง มันเป็นกระรอกหุ่นยนต์ที่อยู่กับฉันมา2-3ปีแล้ว"
"อย่างนั้นเหรอ? ฉันตั้งชื่อว่าพิ้งจัง แล้วของคุณล่ะ"
"ชาช่าตามที่มันชอบร้อง ฉันไม่เคยคิดชื่อเลยจริงๆ แต่มันเป็นเพื่อนที่ดี"
"เธออาจจะเป็นเพื่อนกังพิ้งจัง"
ถ้าเซ็ตสึนะไม่ได้ยินหูฟัง เขาคงเกาหัวตัวเองจินตนาการถึงภาพนั้น
"เธอน่าจะทำ ยังไงก็ตาม เราใกล้จะถึงยานแล้ว แล้วผมจะติดต่อกลับไป"
"ตกลงค่ะ"
"นี่คือเซ็ตสึนะจากเอ็กเซีย เรียกอาร์คแองเจิ้ล"
"เซ็ตสึนะ พบวัสดุที่เป็นประโยชน์ต่อยานไหม"เมอริวถามอย่างคาดหวัง
"ไม่ ฉันพบยานกู้ภัยของแพลนท์ได้"
เมอริวปวดหัวกับเหตุการณ์เดจาวู นาทาลก้าวขึ้นมา
”ปล่อยไว้ซะ นั่นมันยานกู้ภัยคนของแพลนท์นะ เดี๋ยวพวกซาฟท์ก็มาหามันเอง”
เซ็ตสึนะรู้สึกโกรธรองกัปตัน เขาจะทิ้งเธอได้ยังไงเมื่อมีคนพยายามฆ่าเธอ
“ไม่ ผมจะไม่ทิ้งเธอไว้ ถ้าให้ทิ้งไว้นี่ผมจะทิ้งยานไปเหมือนกัน”
นาทาลจะโต้แย้งแต่เมอริวแทรก
“ช่างเถอะ เซ็ตสึนะนำขึ้นยานได้ แต่รอให้เราลงไปที่นั่นก่อนจะเปิดมัน”
“ขอบคุณครับกัปตัน”เด็กชายกล่าวอย่างมีความสุข
@@@@@@@@@
"เธอสองคนนี้ชอบเก็บของตกมาซะจริงๆเลยนะ"นาทาลแสดงความเห็นมองคิระขณะที่เซ็ตสึนะลอยลงมาจากเอ็กเซีย
"นายพาใครขึ้นมาบนยาน"คริสถามขณะที่เขา คิระและเพื่อนคนอื่นยืนอยู่หน้าพ็อดกู้ภัยที่เซ็ตสึนะนำขึ้นมา
"อันที่จริงฉันไม่รู้"เซ็ตสึนะตอบ
"เธอปฎิเสธจะบอกชื่อเธอเหรอ"ทอลล์ถาม
"ไม่ ฉันลืมถาม"เขาตอบ
เสียงของมูแทรกขึ้นมา
"มันอาจจะเหมือนกระสวยลำอื่นๆ...แต่ความจริงที่ว่าจินน์มาไกลถึงนี่เพื่อค้นหามัน....หมายความว่าบุคคลสำคัญของอยู่บนยาน"
"เอาจริง นายอยู่กับเธอที่นั่นก่อนแบตจะหมด และนายไม่คิดจะถามว่าเธอเป็นใคร"คริสถาม
"ฉันฟุ้งซ่าน"
"โดยอะไร"
"จะเปิดล่ะนะ"เมอร์ด็อกปลดล็อกประตูไลฟ์พ็อด หน่วยรักษาความปลอดภัยถือปืนเตรียมพร้อม ประตูเปิดออกเผยให้เห็น
"อย่ายิงนะๆๆ"หุ่นยนต์ลูกบอลสีชมพูสดใส มันเคลื่อนตัวลอยไปหาเซ็ตสึนะก่อนเขาจะจับหุ่นยนต์และมองดูมัน
"ฮาโล่"เซ็ตสึนะมองดูหุ่นยนต์ตัวเล็กในมือเขา
"ขอบคุณนะค่ะ"
มันเป็นเสียงที่เซ็ตสึนะจำได้ มันเป็นเสียงที่แทบทุกคนรู้จัก เว้นแต่พวกเขาจะอยู่ใต้ก้อนหิน
เด็กสาววัยรุ่นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนกุดเปิดไหล่ กระโปรงยาวสีม่วงและผมสีชมพูยาวสลวย กิ๊บติดผมสีทองและตาสีฟ้า
ในบรรดาคนทั้งหมดที่เซ็ตสึนะช่วยได้ คนที่อยู่ในยานกู้ภัยไม่ใช่ใครนอกจากไอดอลชื่อดังและลูกสาวของประธานสภาแพลนท์ ลักซ์ ไคลน์
ความคิดเห็น