คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : การทดสอบที่ 3 ประตูสีแดง
@@@@@@@@@
“รู้แล้วๆ ท่านมาเรียได้รับเลือกใช่ไหมล่ะ”
“งั้นท่านอาเกวโร่จะเป็นยังไงต่อ”
“มันก็ต้องแน่อยู่แล้วน่ะสิ”
“พี่สาวแท้ๆของตัวเองไม่ถูกเลือกเป็นเจ้าหญิง ถ้าไม่ถูกเลือกเป็นเจ้าหญิงก็ต้องถูกไล่ไปทั้งครอบครัวและวงศ์ตระกูลก็จะล่มสลายไงล่ะ”
“ลูกชายสุดที่รักของแม่ ฟังให้ดีนะ”แม่พูดขณะคำพูดดังก้องในหัวเขา”ห้ามเชื่อคำพูดของใครเด็ดขาดค่ะ วินาทีที่แสดงความอ่อนแอออกมา พวกเราจะตายค่ะ”
เธอถูกหลอกใช้นะรู้ไหม
เด็กชายเอื้อมมือไปหาเด็กสาวแต่แม่ห้ามไว้“มีแต่ตัวเองเท่านั้นที่เชื่อได้ ปิดหู ปิดหัวใจ และต้องเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดเท่านั้นค่ะ”
“ครับ ท่านแม่”
@@@@@@@@
POV เชอรี่
การทดสอบต่อไปอยู่ในห้องปิด แรงเกอร์ชื่อเยลโล่สั่งให้ทีมเข้าไปในห้องตามลำดับ พวกเขาต้องรอจนกว่าจะถึงตาของเขา
ฉันมองคูนอย่างครุ่นคิด นัยน์ตาสีฟ้าเหม่อลอย ฉันสงสัยว่าข่าวลือเกี่ยวกับเขาเป็นความจริงหรือไม่
เร็คนิ่งเงียบจนน่าแปลกใจ
แบมกำลังมองท้องฟ้าและหลอดไฟที่เหมือนจะเป็นสิ่งน่าสนใจที่สุดสำหรับเขา คูนสลัดความคิดตัวเองออกไปและสังเกตเห็นเช่นกัน
“มีอะไรน่าสนใจรึไงแบม”
“เปล่า ก็แค่…ผมไม่เคยอยู่ในที่สว่างมาก่อน”แบมตอบแปลกๆ”คุณเชอรี่ ไอ้สีฟ้าๆนั่น เขาเรียกท้องฟ้าใช่ไหม”
ฉันจ้องเขาด้วยความตกตะลึง
“ใช่…ทำไมนายถามเรื่องที่รู้กันดีอยู่แล้วล่ะ”
“ท้องฟ้า!?”เขาร้องเหมือนจะประหลาดใจ
“นี่เจ้าไม่รู้จักท้องฟ้างั้นเหรอ!?“เร็คหัวเราะหนักขึ้น
“สีฟ้าๆนี่คือท้องฟ้าเหรอครับ”
เร็คชะงักและหัวเราะอีกครั้ง“คนบ้า!! ตรงนี้มีเต่าบ้าอยู่ด้วย”
“ถ้างั้น…พอถึงกลางคืนมันจะส่องประกายเหรอครับ? ดาวน่ะครับ”
“ดาว?”ฉันกับคูนงง ขณะเร็คหัวเราะต่อไป
“เอ๊ะ แต่ราเชลบอกว่าถ้าไม่ขึ้นไปยอดหอคอยก็จะมองไม่เห็น”ราเชล ต้องเป็นผู้หญิงที่เขาตามหา
“สิ่งที่ถูกเรียกว่าท้องฟ้านั่น เป็นของปลอมที่ถูกสร้างขึ้นจากชินซูโดยเลียนแบบจากตำนานน่ะ”ฉันพูดไม่สนใจเสียงหัวเราะของเร็ค
“ของปลอม?”
“เอาเถอะ มีท้องฟ้าจริงๆอยู่ไหมก็น่าสงสัยเหมือนกัน”
“นั่นสินะครับ”แบมดูผิดหวัง
“อยากเห็นดาวขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“เปล่าครับ ไม่ใช่ผม แต่เป็นราเชล เธอมาที่หอคอยเพราะอยากเห็นดาว”
“ฉันคาใจมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เด็กที่ชื่อราเชลคนนั้น ทำไมถึงทิ้งแบมเอาไว้แล้วปีนหอคอยไปคนเดียวกันนะ เดิมทีที่คอยดูแลแบมอยู่ตลอดมันแปลกดีนะ”
“ราเชลไม่แปลกนะ”
“เจ้าเต่าน้ำเงินทำให้เต่าดำโกรธแล้ว”เร็คกล่าว
มีพวกปกติมากขึ้นเรื่อยๆ แต่โอล่าไม่สนใจ เธอมองไปรอบๆ เซเลสเต้ยุ่งกับธุระตัวเองและออกไปเพราะมีคนโทรหาเธอผ่านพ็อกเก็ต อัลเทร่าไม่มีคนคุยด้วยและถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้
ไม่นานเซลิสเทียก็กลับมา อัลเทร่าดีใจถามเธอ"เธอคุยกับใคร"
เซลิสเทียแค่มองโดยไม่แสดงท่าทีใดๆ อัลเทร่าเม้มปากเมื่อเขาทำให้เธอรำคาญ เขาหันหน้าหนีไม่พูดอะไรอีก
สามนาทีต่อมา พวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องจากในห้องทดสอบ
ทุกคนประหลาดใจที่ได้ยิน บางคนก็ลุกขึ้น อัลเทร่าประหลาดใจเหมือนคนอื่น.....แต่เขาก็ยิ้ม
"ยังเหมือนเดิม"
"เสียงร้องความตาย"โอล่าคิดขณะที่มีพวกปกติเข้ามาหา
เป็นหญิงผิวขาวผมยาวสีส้ม เดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
"กังวลเรื่องอะไรอยู่เหรอ"เธอถาม
"คุณเป็นใคร"อัลเทร่าถาม
"ฉันเหรอ ฉันเป็นพวกปกติธรรมดา"เธอนั่งข้างๆเขาด้วยรอยยิ้ม"แต่....เสียงกรีดร้องนั่นฟังดูน่ากลัว นายว่าไหม"
อัลเทร่ายิ้ม"ใช่ มันน่ากลัวจริงๆ"
เซลิสเทียเบ้ปากเมื่อเห็นอัลเทร่าเจ้าชู้ใส่ผู้หญิงแปลกหน้า
"คนเจ้าชู้"
"แต่ทำไมเธอถึงดูสงบและมั่นใจ"อัลถามขึ้น
เมื่อได้ยินคำถาม เซลิสเทียก็รู้สึกว่าอัลเทร่าสงสัยผู้หญิงคนนี้
"ไม่ชัดเจนเหรอ ยิ่งพวกปกติตายมากเท่าไหร่ ศัตรูของเราก็ยิ่งน้อยลงเท่านั้น"หญิงผมส้มกล่าว
อัลเทร่ารักษารอยยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ
"คุณมาที่นี่....เพื่อบอกว่าเสียงกรีดร้องนั้นน่ากลัวเท่านั้นเหรอ"
"ไม่อยู่แล้ว ฉันมาเพื่อให้เบาะแส"
"สิ่งที่คุณต้องการพูดคือไม่ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน เราต้องทำให้เสร็จใน5นาที"
"ใช่"เธอปรบมือ"คุณฉลาดมาก"
ไม่ใช่ว่าโอล่าไม่รู้ว่าทำไมจู่ๆผู้หญิงคนนี้มาใกล้พวกเธอ เธอกำลังใช้พวกเขาเพื่อพิสูจน์ทฤษฏีของเธอ หากพวกเขาสอบผ่านใน5นาที ข้อสัญนิษฐานของเธอก็ถูก แต่หากพวกเขาล้มเหลวเธอจะมองหาทางอื่น
ไม่มีทางที่อัลเทร่าจะไม่รู้เรื่องนี้ เขาเกิดในตระกูลคูน ไม่ใช่ทุกคนใน10ตระกูลใหญ่จะมีชีวิตที่สุขสบาย อย่างน้อย ผู้ชายคนนี้ก็ไม่ได้โชคดี
"ถึงตาเราแล้ว"เธอพูดและเดินนำไป
เซลิสเทียเดินตามไปมองอัลเทร่าที่ยิ้มและโบกมือให้สาวผมส้มก่อนตามพวกเขาไป
เซลิสเทียไม่พูดอะไรเรื่องนี้และหันหน้าหนี
ทันใดนั้นทุกคนได้ยินเสียงกรีดร้องจากในห้องทดสอบทำให้ทุกคนตกใจ
“เสียงร้องเมื่อกี้มันอะไรกัน”ชายในชุดวอร์มพูด
เพื่อนร่วมทีมที่มีดาบสองเล่มกล่าว“คงเป็นเสียงร้องวาระสุดท้ายนั่นล่ะ”
“ดังมาจากในนั้นสินะ”เร็คกล่าว
“หรือว่าการทดสอบต่อไปจะอันตรายมากๆเลย”แบมพูดอย่างประหม่า
หญิงในชุดสีเหลืองยิ้มหวาน”เชิญทีมต่อไปเลยค่ะ”
“เจ้าเต่าน้ำเงินขอช็อกโกบาร์หน่อย”เร็คนอนหงายบนพื้น เราสามคนนั่งบนตัวเขา เขาหายใจพัดผมไปด้านข้าง
@@@@@@@@
เราเข้าไปมาห้องมืด สิ่งแรกที่เห็นคือนาฬิกา แปลกมากเราดูเวลาได้จากพ็อกเก็ตเราอยู่แล้ว ฉันเห็นประตู12บาน และชายผมเหลืองที่ฉันเกือบคิดว่าเป็นผู้หญิงจิบกาแฟอยู่
"คุณคือผู้คุมสอบเหรอ"โอล่าถาม
“ผมชื่อว่ายูฮันซอง เป็นผู้คุมสอบของพวกเธอ”
“อ่า ทำไมคนระดับนั้นถึงมาอยู่ที่นี่”อัลเทร่าจ้องยูฮันซอง
“เงื่อนไขในการผ่านการทดสอบคือการเปิดประตูบานที่ถูกต้องเพียงแค่นั้น มีโอกาสเปิดได้แค่ครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าเกิน10นาทีการทดสอบจะถูกบังคับให้สิ้นสุดลง”
“บังคับให้สิ้นสุด?”
วงกลมขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นกลางห้องเป็นศพพวกปกติ
"ถ้างั้นเริ่มการทดสอบได้"
"ไม่มีเบาะแสแล้วเหรอ"เซลิสเทียถาม
“ผมบอกเบาะแสทั้งหมดไปแล้ว”ยูฮันซองยิ้ม
“.........."
ยูฮันซองสังเกตว่าทีมนี้สงบไม่เหมือนทีมก่อน ดูเหมือนพวกเขาจะเชื่อว่าเมื่อเขาบอกว่าให้เบาะแสไปแล้วก็ถือว่าเป็นความจริง พวกเขาแค่ต้องค้นหามัน
ดวงตาของโอล่าจับจ้องที่นาฬิกา นึกถึงคำพูดของสาวผมส้ม
"ฉันควรเชื่อเธอไหม"
เซลิสเทียเดินไปที่ประตูบานหนึ่ง เธอยกมือขวาไปแตะประตูขณะมองประตูอีกบาน อัลเทร่าเดินมาหาเธอ
"ทุกบานเหมือนกันหมด ไม่มีความแตกต่าง"
"ดูเหมือนจะเป็นอย่างงั้น"
"ไม่ต้องคิดมาก"โอล่าก้าวไปข้างหน้าและเปิดประตู
อัลเทร่ายิ้มคาดไว้แล้วขณะที่เซลิสเทียสับสน
"เปิดประตูทำไม"เธอถาม
แม้ผลที่ตามมาของความล้มเหลวคือความตาย แต่โอล่าไม่มีความลังเลเมื่อเปิดประตู เป็นเพราะเธอเชื่อใจเพื่อนร่วมทีมรึเปล่า
ไม่ใช่
ไม่ใช่เพราะมิตรภาพหรืออะไรทั้งนั้น ไม่ได้สนิทกันจนเรียกว่าเพื่อน ไม่ใช่เพราะความเชื่อใจเช่นกัน เซลิสเทียรู้โอล่าจะไม่ตัดสินใจโดยไม่ระวัง โดยเฉพาะตำแหน่งเธอในฐานะเจ้าหญิงจาฮาด เธอแบกรับความคาดหวังของผู้คนและศักดิ์ศรีต้องปกป้อง
ยูฮันซองได้ให้คำแนะนำสองข้อกับเรา อย่างแรกเสียงกรีดร้องและสองคือเวลา ที่ได้ยินเสียงกรีดร้องมีแต่ทีมที่อยู่เกิน5นาทีเท่านั้น ประตูไหนไม่สำคัญ....สิ่งสำคัญคือเราจะรวบรวมความกล้าที่จะนำชีวิตแขวนบนเส้นด้ายไหม"
ยูฮันซองหลับตาและปรบมือ"ยินดีด้วย สมเป็นเจ้าหญิงจาฮาด"
โอล่าไม่ตอบและหันหน้าไปทางออก
"ก็เลยสุ่มประตู"อัลเทร่าพูดกอดอก"เธอไม่กังวลเหรอว่าจะพลาด"
"ถ้าฉันกลัวที่จะต้องตาย ฉันคงไม่ได้เป็นเจ้าหญิงจาฮาด"
ทีมของโอล่าเดินออกไป
@@@@@@@@@@
ต่างจากทีมของโอล่า ทีมของแบมลำบากมากกว่า
เร็คหงุดหงิดและเริ่มปีนกำแพงและแบมพยายามทำให้เขาใจเย็นลง คูนคิดหาคำตอบอย่างหนัก
เชอรี่กำลังนึกถึงคำพูดของถุงพลาสติกที่เข้ามาบอกข้อสันนิษฐานของเขา
เด็กสาวขี้เซาเดินไปที่ประตู เธอเปรียบเทียบดูแล้วไม่มีความแตกต่าง
"ดูเหมือนเขาจะพูดถูก"เธอคิด ท้ายที่สุดมันไม่มีเบาะแสอื่นแล้ว
เธอจึงจับลูกบิดประตูและกำลังจะเปิดมัน แต่ก็มีมือกระแทกผนังข้างๆ เธอสะดุ้งหันไปมองคูน
"ทำอะไรน่ะ!!!"
"อ๋อ...."เธอพูดเสียงเหน่อๆตามปกติ"ฉันตั้งใจจะเปิดประตู"
มือที่อยู่บนผนังพุ่งมาจับข้อมือเธอดึงออกจากลูกบิดประตู"บ้าไปแล้วเหรอ ยังคิดคำพูดมันอยู่อีกเหรอ"
ตอนนี้ทั้งสองโต้เถียงกัน
เชอรี่รู้ว่าคูนไม่เชื่อว่าถุงพลาสติกบอก
เชอรี่ถอนหายใจและพูดอย่างใจเย็น"ฟังนะ ฉันเข้าใจว่านายไม่ไว้ใจเขา แต่ถ้าเขาพูดจริงล่ะ นายไม่คิดว่ามันคือคำตอบของการทดสอบนี้เหรอ"
"แล้วเธอคิดบ้างไหมว่าถ้าข้อสัญนิษฐานนั่นผิดเราทุกคนจะตาย"
เขากำข้อมือเธอแน่นขึ้น เชอรี่จ้องกลับโดยไม่แสดงความเจ็บปวด
ยูฮันซองมองการต่อสู้ของพวกเขาด้วยรอยยิ้ม
"หนึ่งในนั้นรู้คำตอบ....แต่เพื่อนร่วมทีมรั้งเธอไว้"
แบมมองเชอรี่กับคูนทะเลาะกันเดินไปหาพวกเขา เขาผลักแยกทั้งสองยืนขวางหน้า เชอรี่และคูนประหลาดใจ แม้จะรู้ว่าคูนแข็งแกร่งแค่ไหน แบมก็มองตรงไปยังดวงตาสีน้ำเงินของคูน
"คุณคูน อย่าทำร้ายเชอรี่"เขากล่าว"มีอะไรก็ค่อยๆคุยกัน อย่าทะเลาะกันเลย"
เมื่อเห็นแบมยืดหยัดเพื่อเธอ เชอรี่อดไม่ได้ที่จะยิ้ม ข้างในเธอคิดว่าเธอเลือกเพื่อนดีจริงๆ ทว่าสิ่งนี้กลับทำให้คูนยิ่งขุ่นเคือง
ก่อนเขาจะโต้เถียง พวกเขาได้ยินเสียงประตูเปิด และหันไปก็เห็นว่า....เร็คเตะประตูจากความเครียดที่เขามี
"..........."
ห้องเงียบสงัด
"โอ้ ค่อยโล่งหน่อย"
“เฮ้ย เจ้าจระเข้ ทำไมถึงเปิดประตูบานนั้น”คูนถามด้วยแววตาสิ้นหวัง
“ลางสังหรณ์”เร็คตอบ ปฏิกิริยาของคูนตลกจริงๆ
“จบสิ้นแล้ว"เขาคิด
ผู้คุมสอบปรบมือ“ยินดีด้วย พวกคุณผ่านการทดสอบแล้ว”
“ผ่านเหรอ!? หมายความว่าไง!”คูนไม่อยากเชื่อผลลัพย์
“ทำไมล่ะ? ไม่ชอบรึไง?”
“ชอบสิ...ไม่ใช่งั้นหรอก...แต่ว่า”คูนกระอักกระอวน
“เงื่อนไขในการผ่านการทดสอบนี้ นั่นก็คือการเปิดประตูออกภายใน5นาที”
“งั้นไม่ว่าเปิดประตูบานไหนก็ถูกต้องงั้นเหรอครับ”แบมถาม
“ใช่”
เร็คหัวเราะอย่างมีชัย”เห็นพลังการสันนิษฐานของข้ารึยัง”
“แต่เมื่อกี้บอกว่าเป็นลางสังหรณ์”เชอรี่ถาม
“ไปได้แล้ว ตามสุดยอดอัจฉริยะท่านเร็คคนนี้มา”เร็ควิ่งออกไป
“แต่ว่าดีจังเลยนะครับ…คูนซัง?”แบมหันไปมองคูนที่ยืนโต้เถียงกับผู้คุมสอบ
“จะประเมินอะไรในการทดสอบแบบนี้กัน?“
“บาดแผลที่ได้รับจากเจ้าหญิงลึกน่าดูเลยรึ?“
“เจ้าหญิง?”
“เธอที่หัวใจได้รับบาดเจ็บจะไม่ยอมเชื่อในสิ่งใดอีก ถ้าไม่มั่นใจก็ทำอะไรไม่ได้”
“ถ้างั้นแล้วมันทำไม”
“โลกไม่รอให้เธอมั่นใจก่อนหรอกนะ เธอจำเป็นต้องมีพวกพ้องที่กล้าเปิดประตูออกอย่างไม่ลังเล แล้วอีกอย่าง…”
“คูนซัง”
“ไม่อยากลองปกป้องดวงตาที่ไม่รู้จักสงสัยนั้นดูหน่อยรึ?“
ฉันรู้ว่าเขากำลังพูดถึงแบม
ฉันได้ยินความคิดที่เขาไม่ได้พูดออกมา ใช่
ยูฮันซองยิ้มและมีเสียงตะโกนจากเร็ค”ไอ้พวกเต่า มัวชักช้าอะไรกันอยู่”
“ไปกันเถอะ”
“ครับ”แบมตอบ ฉันตามพวกเขาไป
“รักษาตัวด้วยนะครับ เพราะของในกระเป๋าดูจะหนักน่าดู”
คูนหยุด ดวงตามีประกายความโกรธ”ไอ้จิ้งจอกสอดรู้สอดเห็น”
“คนประเภทเดียวกันเข้ากันไม่ได้สินะ”ฉันบอกยูฮัน
“ผมอยากเห็นว่าคุณจะไปได้ถึงไหน ยูราเซีย เชอรี่ เบลมอนท์”
นั่นทำให้ฉันชะงัก”นายไปรู้มาจากไหน…”
“เรียกพวกปกติกลุ่มถัดไปมา”ยูฮันกลับไปนั่งประตูกลายเป็นสีแดงอีกครั้ง
ข้างหน้าแบมเรียก”ยูราเซียซัง?”
“จะไปเดี๋ยวนี้แหละ”ฉันมองยูฮันก่อนรีบตามเพื่อนร่วมทีมไป
…
….
…..
……
หลังการทดสอบสิ้นสุด กลุ่มคนเดินเข้ามาหายูฮันซอง ในกลุ่มมีหญิงผมส้มและถุงพลาสติก
ความคิดเห็น