ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate Ragnarok : GOD VS Heroic Spirit

    ลำดับตอนที่ #4 : ผู้อ่อนโยนและผู้หยิ่งผยองที่สุด

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.พ. 64


    “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าเจ้าจะได้รับบทเรียนแด็กดา และสิ่งที่ข้าพูดเป็นจริงเสมอ”มาดุคกล่าว

    แต่แด็กดาไม่ได้ยินเขา

    แม้จะได้รับชัย แต่สายตาเขาจ้องมองไปที่แขนเขาที่หายไป

    แม้กลับมายืนในลานประลองแต่เขาไม่เหมือนเดิม

    มันไม่ใช่สีหน้าของผู้ปกครองอีกต่อไป

    แม้ลึกลงไปเขารู้ว่าเขาไม่เคยเป็น

    เขาไม่ได้สูงส่งอย่างเทพเจ้าลู้ดหรือมีเกียรติอย่างนาดาล

    เป็นเพียงเทพเจ้าที่โลภมากและเห็นแก่ตัวเมื่อเห็นความเป็นไปได้ที่จะคว้าอำนาจ

    เขาฆ่าเทพเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุดและทำตัวเป็นราชา

    “นี่เป็นกรรมเหรอ”

    เขาไม่สนใจการจ้องมองของทุกคนเริ่มถอนตัว แต่เขาได้สบตากับคนสุดท้ายที่เขาต้องการเผชิญหน้า

    ลู้ด เทพแห่งแสงของไอร์แลนด์

    เขาจ้องมองแด็กดาอย่างว่างเปล่า

    “ข้าเดาว่าตอนนี้ข้าคือราชาคนใหม่ของเทพเจ้าเซลติก”

    แด็กดาไม่ตอบ นั่นคือสิ่งที่ลู้ดต้องการ

    แล้วเทพเจ้าเซลติกองค์เก่าก็จากไป

    แด็กดาเป็นปราชญ์ของเทพเจ้าอีกครั้งและไม่มีใครพบเห็นเขาอีกเลย

    ขณะที่เทพเจ้าเซลติกยกย่องราชาองค์ใหม่ของพวกเขา เทพเจ้าองค์อื่นมีปฎิกิริยาต่อการต่อสู้

    “ข้าให้10คะแนนสำหรับความพยายาม”คาคุสึจิยิ้มกว้างให้มนุษย์ พวกเขาพยายามอย่างเต็มที่และเขาก็ชื่นชมสิ่งนั้นมาก

    แม้เขาจะรู้สึกเศร้าอย่างแท้จริงกับความพ่ายแพ้ของมนุษย์ชาติ แต่เขาจะไม่แสดงความรู้สึกออกมา

    ยังไม่ถึงเวลาแสดงความตั้งใจจริงของเขา

    วิษณุไม่พูดอะไร แต่สังเกตได้ว่าเขาไม่ชอบผลการต่อสู้คู่แรกเทพเจ้าทุ่มสุดกำลังเพื่อเอาชนะมนุษย์....นั่นทำให้เขาขุ่นเคือง

    “นานแล้วสินะ ที่จะได้เจออะไรที่ทำให้เครื่องร้อนแบบนี้”พระศิวะเครื่องร้อน

    “ผู้ชนะคู่แรกได้แก่ฝ่ายทวยเทพ และแล้วมนุษย์ชาติก็ได้เข้าใกล้จุดจบไปอีกก้าว”

    ริทสึกะ ริเสะและมาชูร้องไห้เพราะความตายของอีวาน

    เมอร์ลิน อาโอโกะและอลายาขมวดคิ้วเมื่อเซลเรซถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า ดาวินชี่มองที่สุดท้ายที่จักรพรรดิสายฟ้ายืนอย่างเศร้าๆ

    กอร์ดอล์ฟก้มศีรษะลงคำนับวิญญาณวีรชนผู้ไปจากบัลลังก์วีรชน....ชั่วนิรันดร์

    ฝ่ายเทพชนะก็จริงแต่ก็สูญเสียหนัก

    เทพเจ้าโห่ร้องยินดีโดยไม่ได้นึกถึงการสูญเสียพลังของบิดาแห่งความรู้

    "เห็นไหมล่ะเจ้าพวกมนุษย์ นี่แหละพลังของเทพเจ้า"

    "พวกแกคิดว่านักรบของพวกแกจะสู้เทพได้งั้นเหรอ"

    "นี่แหละความห่างชั้น"

    "สังเวยชีวิตเซ่นพวกเราซะ!!"

    เสียงเหยียดหยามและดูถูกจากเทพเจ้าพุ่งเข้าใส่มนุษย์ชาติ  ซึ่งทำได้เพียงปิดปากและโศกเศร้ากับการตายของจักรพรรดิ

    "เสียงพวกนั้นมันอะไรกัน"กูดาโกะถามอย่างตกตะลึงต่อปฎิกิริยาของเทพเจ้า

    "พวกเขาไม่ต่างอะไรจากเด็กเลย ทำไมยังกล้าเรียกตัวเองว่าเทพเจ้าได้อีก"ริทสึกะกล่าว

    อลายาหันกลับไปนั่งโต๊ะทำงานที่มีคอมเปิดไว้ไม่สนใจพันธมิตร

    "อลายา?"เมอร์ลินมองผู้นำ

    เขาคิดว่าเทพธิดาแห่งมนุษย์ชาติจะรู้สึกแย่มากกับการพ่ายแพ้ศึกแรกในแร็กนาร็อค แต่พวกเขาทำได้ดีกว่าที่มหาจอมเวทคิด

    การทำลายศาสตราเทพและทำให้เทพเจ้าเสียแขนเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แต่...

    พวกเขาต้องทำได้ดีกว่านี้ถ้าอยากชนะเทพเจ้า

    "อลายาซัง"มาชูเรียก"คุณอีวาน..."

    "ศึกนี้เป็นการต่อสู้ของวิญญาณ ถ้าวิญญาณถูกทำลายแล้วก็ไม่สามารถกลับไปเกิดใหม่ได้อีก หรือก็คือ เขากลายเป็นเถ้าธุลีส่วนนึงของจักรวาลไปแล้วไงล่ะ"

    "เถ้าธุลี"

    "นิลฟ์ไฮฟ์(นรกความเชื่อนอร์ส)มันไม่มีต่อจากนี้ของพวกเขาแล้ว"บรินฮิลด์กล่าว

    "เอ๋?"

    วัลคีรี่ที่อายุน้อยที่สุดนึกถึงแรนกริชและที่พี่บรินฮิลด์บอกว่าพลีกาย

    "ทำไมท่านพี่ถึงยืนนิ่งเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ล่ะคะ ไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ? พวกเราจะไม่ได้เจอท่านพี่แรนกริชอีกแล้วนะ"

    "แกรอา..."บรินฮิลด์หันมามองด้วยสีหน้าโมโห"เจ้าคิดว่ามันจะมีทางอื่นที่จะสามารถฆ่าเจ้าพวกนั้นได้โดยไม่ต้องเสี่ยงอะไรเลยหรือยังไง"

    "ฮือๆๆ"แกรอาได้แต่ร้องไห้

    "ศึกแรกนั้นได้จบลงไปแล้ว หน้าที่ของพวกเราคือการเลือกตัวแทนสำหรับคู่ต่อไป"อลายาพูดเสียงไร้อารมณ์

    "แต่แม้แต่อีวานยังแพ้ จะยังมีใครอีก"

    "ถ้าอย่างนั้นคงจะต้องเป็นเขาแล้วล่ะ"อลายายิ้มแตะรูปนั้น"ผู้ที่กำเนิดจากมนุษย์ แต่ไม่ใช่มนุษย์ และกลายเป็นสัตว์ประหลาดเพื่อกอบกู้โลก"

    ทุกคนเฝ้าดูการเลือกนักสู้คนต่อไปของอลายาจนกระทั่งมองชื่อตัวแทนคนที่สองของมนุษย์ชาติ

    ผู้ชายขี้เหงา

    ขณะเดียวกันก็เป็นมิตร

    กลายเป็นสัตว์ประหลาดเพื่อช่วยโลก

    เขาเฝ้ารอ...หวังว่าจะได้พบคนรัก

    แต่ก่อนอื่น

    เขาต้องโค่นเทพเจ้า

    @@@@@@@@@@

    ขณะเดียวกันฝั่งเทพเจ้า

    ทั้งหมดรวมตัวอยู่ในห้องหรืออย่างน้อยเหล่าเทพองค์สำคัญเช่นซุส, มาดุค, โอดิน, พระศิวะ , อิซานางิ , เซธ , วิษณุ เป็นต้น

    ฮาเดสกำลังมองแท็ปเล็ตผู้เข้าร่วมประลองด้วยรอยยิ้มพลางหันไปมองสหายเทพด้วยสีหน้าจริงจัง

    "เห็นแล้วใช่ไหม? พวกมนุษย์แข็งแกร่ง พวกเจ้าไม่ควรประมาทหรือจะสภาพแย่กว่าแด็กดา"

    "พูดถึงตาแก่นั้นเขาอยู่ไหน?"เซธหาวหวอดๆ

    "หลังพบกับลู้ดเขาก็หายไป บางทีเขาอาจซ่อนตัวอยู่ใต้ก้อนหินหรือฆ่าตัวตาย ไม่ว่ากรณีใดข้าชอบการต่อสู้นี้"คางุสึจิกล่าว

    เทพเจ้าบางองค์มองเทพเจ้าแห่งไฟอย่างรำคาญ

    "ต่อไปใครจะไป"ซุสถามเรื่องสำคัญ

    "อืม..."เซธลืมตาขึ้น ดวงตาสีแดงเปล่งประกาย"ข้าจะขอดูสถานการณ์ไปก่อน ถ้ารอดไปถึงรอบ6แล้วมาดูกัน"

    "ฮ่าๆๆๆ ต่อไปต้องตาข้าตาแก่"พระศิวะกล่าว เขากระตือรือร้นจะสู้หลังดูการต่อสู้สุดมันส์

    "โอเค งั้นเจ้าไปพระศิวะ"ซุสยอมรับ

    เทพเจ้ามองมหาเทพแห่งอินเดียออกจากห้องไป

    "ส่งพระศิวะออกไปเลยจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอ?"ฮาเดสถาม

    "เราต้องแสดงให้พวกมันเห็นความต่างชั้น"โพไซดอนกล่าว"เราคือเทพเจ้า ตัวตนที่สมบูรณ์แบบ"

    "ข้าไม่เห็นด้วยนะเมื่อมนุษย์ลูบคมเราได้ในรอบแรกน้องชาย"ฮาเดสกล่าว"เจ้าควรระวังไว้...ไม่งั้นเดี๋ยวได้ตายด้วยน้ำมือมนุษย์แน่"

    ทุกคนตกใจกับคำพูดของราชาแห่งยมโลก

    ไพไซดอนเหลือบมองพี่ชายแผ่จิตสังหารรุนแรง แต่ด้วยความที่เป็นเทพเจ้าระดับเดียวกันจึงไม่มีผล

    "งั้นไปนั่งดูการแข่งกันเถอะ"อโฟรไดท์พูดคลายความตึงเครียด

    "นั่นสินะ เลิกกัดกันซะทีเถอะค่ะท่านลุง"อาเธน่ากล่าว

    คำพูดจากสองเทพธิดาแห่งกรีกทำให้โพไซดอนยอมลุกขึ้นจะเดินออกจากห้อง ทว่า...

    "ครืนนนน!!!!"

    ทุกคนตกใจเมื่อสัมผัสได้ถึงพลังคุ้นเคย

    "รอบนี้เป็นตาของข้าต่างหาก"


    เทพเจ้าเฝ้ามองสัญลักษณ์วงกลมรูปสัตว์หลากหลายที่ปรากฎขึ้นเหนือหัวทุกคนและไม่ยอมปรากฎตัวต่อหน้าเหล่าเทพชั้นสูงด้วยกัน แสดงถึงความหยิ่งยโสเหนือทุกคน

    เทพเจ้าทุกคนรู้ดีว่าเขาเป็นใคร

    "งั้นก็ไปขอจากพระศิวะซะสิ"ซุสบอก

    จากนั้นรูปนั้นก็หายไป

    "ว้าว นี่มันน่าตกใจจริงๆ"ฮาเดสยิ้ม

    "บอกพวกมนุษย์ดีไหมว่าพวกมันไม่มีโอกาสชนะ"มาดุคกล่าว

    "ข้าไม่คิดงั้น"คางุสึจิกล่าวกับราชาแห่งบาบิโลเนีย"เจ้าจะทำยังไงล่ะอลายา?"

    @@@@@@@@@@@

    สนามประลองวัลฮาล่า

    "เอาล่ะทุกท่านพร้อมสำหรับรอบ2กันรึยัง"ไฮม์ไดม์ถาม

    ผู้ชมทั้งสนามต่างโห่ร้อง

    "เปิดตัวด้วยตัวแทนที่สองของมนุษชาติ เขาคือความหวังของมนุษย์ทั้งมวล"กรรมการพูดแล้วยกมือปิดหู

    การกระทำนี้ทำให้ผู้ชมสับสน

    "โฮกกกกก!!!!"

    เสียงคำรามดังขึ้นจากบนนั้น ทำให้ทุกคนมองขึ้นไปบนฟ้า

    มังกรลงมาจากสวรรค์

    สัตว์มายาที่แข็งแกร่งที่สุด


    ตอนแรกเขาเป็นมนุษย์ที่กลายเป็นสัตว์ประหลาด ตอนนี้เขาเป็นมนุษย์ที่กลายเป็นมังกร

    ในมือมังกรถือวัตถุทรงกลมส่องแสง ภายในทรงกลมเป็นพลังที่ไม่อาจจินตนาการได้ 

    "ใครกันที่มา? ถูกสร้างด้วยน้ำมือมนุษย์ เป็นเพียงแค่โฮมุนครูสที่มีหน้าที่เป็นแหล่งพลังเวท แต่ทยานขึ้นสู่การเป็นมังกร"

    มังกรร่อนลงบนสนามประลอง

    "ด้วยหัวใจของวีรชน เขารู้ถึงความยากลำบากของชีวิต ชายที่เข้มแข็ง คู่แข่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบุตรแห่งพระอาทิตย์"

    แสงเข้าปกคลุม มังกรตัวเล็กลงจนเผยร่างชายหนุ่มคนหนึ่ง

    "เขาเป็นมนุษย์ที่สุดในหมู่มนุษย์! ใจดี! ช่วยเหลือคนอื่นโดยไม่ลังเล! เพื่อเป็นฮีโร่! ผิดแล้ว! เขาเพียงทำตามหัวใจตัวเอง!!"

    ชายหนุ่มผู้มีผมสีขาวและดวงตาสีฟ้ามองไปที่ชายหนุ่มที่เป็นมังกร เขาสวมชุดเกราะสีทอง

    เขาคือกรรณะ

    มหาวีรชนแห่งอินเดียยิ้ม

    "นายก็มาด้วย...ฉันไม่ไว้ใจให้ตำแหน่งนี้กับคนอื่นได้นอกจากคู่ปรับของฉัน"

    "เขามีจิตใจที่ไม่ย้อท้อและรอเวลาที่จะระเบิดออกมา เกิดมาเพื่อเป็นแบตเตอรี่ แต่ก้าวข้ามไปเหนือกว่าวิญญาณวีรชน ตอนนี้...ไปไกลเกินขีดจำกัด เขาคือมังกรฟาฟเนียใหม่ มังกรที่ชั่วร้ายที่สุด"

    "ซิก มังกรผู้ชั่วร้ายของมนุษย์ชาติ ใจดีและโดดเดี่ยว"


    เขาคือตัวแทนที่2ของมนุษย์ชาติ ถือดาบประดับเอว ใบหน้าหล่อเหลาของเขามองไปที่เทพเจ้าและเทพเจ้ามองดูเขา

    "...."เทพเจ้าและมนุษย์เงียบมองชายหนุ่มที่ไม่มีกล้ามเนื้อ

    "เขาอาจมาผิดที่ก็ได้"

    "นั่นคือนักสู้ของเราเหรอ"มนุษย์หลายคนถาม เทพเจ้าหลายคนปิดปากหัวเราะ

    "เราตายแหงแก๋!!"

    แต่มนุษย์พากันเงียบเมื่อเห็นสีหน้าเคารพของวีรชนเช่นกรรณะ ซิกฟรีด ซีเกิร์ด ไครอน หรือแม้แต่อคิลลิส

    ด้านเทพเจ้าเริ่มพึมพำ

    "เขาคู่ควรจะเป็นคู่ต่อสู้จริงๆเหรอ"

    "ดูอ่อนแอไปหน่อย ร่างมังกรน่าประทับใจกว่า"

    "แต่เขาน่ารัก"

    "เขาไม่ใช่มนุษย์แต่ถูกสร้างโดยมนุษย์ชาติ และในที่สุดเขาก็เหนือกว่าพวกเขา น่าสนใจ"

    “รูปลักษณ์ใหม่ของฟาฟเนียทำให้เทพเจ้าสนใจ แต่ได้เวลาพบคู่ต่อสู้เขา...ตัวแทนฝั่งเทพเจ้า ผู้ที่จะเผชิญหน้ากับมังกรร้าย มหาเทพที่แข็งแกร่งที่สุดจากทางฝั่งของฮินดู จะมาปรากฎกาย ณ สนามประลองแห่งนี้"

    "......."

    แต่กลับมีเพียงความเงียบจากประตูฝั่งทวยเทพ

    "เอ๋?"ไฮม์ไดม์งุงงง

    "กริ๊ง!!"เสียงเหมือนโทรศัพย์ดัง ไฮม์ไดม์มองวงเวทติดต่อ

    "พวกเขามีปัญหาอะไรงั้นเหรอ?"มนุษย์ถาม

    "อะไร? เปลี่ยนกำหนดการเรอะ? แล้วใครเป็นคนต่อไปล่ะ? หะ...ใครนะ?....ไม่มีทาง"

    เสียงแตรดังสนั่น ฝีเท้าของเทพเจ้าดังขึ้นเรื่อยๆ

    "ขออภัยทุกท่านดูเหมือนจะมีเหตุขัดข้องทางเทคนิคนิดหน่อย ขอให้กระผมนำเสนอตัวแทนฝั่งเทพเจ้าใหม่อีกรอบนะครับ"

    “ผู้เดียวที่จะเผชิญหน้ากับชายที่มุ่งมั่นไม่ย้อท้อ...เป็นใครไม่ได้นอกจากเทพที่หยิ่งยโสที่สุด ผู้ไร้พ่าย ความแข็งแกร่ง ความดุดันและความสามารถของเขาไม่มีใครในโลกเทียบได้...มีแต่เขาเท่านั้น”

    ร่างเล็กก้าวผ่านประตู...เดินไปเผชิญหน้าซิก


    เขาดูอายุแค่10ขวบ ผมสีฟ้าอมม่วงและผิวสีขาว สวมเสื้อคลุมที่มีสัญลักษณ์ต่างๆของเปอร์เซีย แต่สิ่งที่น่าทึ่งที่สุดของเด็กคนนี้คือ...

    ความหยิ่งผยองและความมั่นใจตัวเองอย่างที่สุด

    “มาสู้กันอย่างแฟร์ๆ”เด็กที่ถูกเรียกว่านักรบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเหล่าเทพเจ้า

    “ไม่จริงน่า”อลายาเหงื่อไหล่เต็มไปหมด

    “อะไรกันเนี่ย?”

    “ท่านผู้นั้นออกมาในรอบสอง”

    เทพเจ้าหลายคนพูดไม่ออก

    “การต่อสู้รอบก่อนทำให้เขาตื่นเต้นมาก ต้องยอมยกให้เขา”คางุสึจิพูดด้วยรอยยิ้ม

    “เด็ก? เอาจริงเหรอ?”

    “เทพสักองค์ละมั้ง”

    “เขาจะสู้ไหวเหรอ?”

    “เด็กนั่นใครน่ะ”กูดาโกะถาม แต่ดูเหมือนเซลเรซและอลายาเพราะมีสีหน้าเครียดมาก

    มนุษย์ประเมินอะไรต่ำไปเช่นเคย ผิดพลาดเช่นเคย

    ไม่ว่าสัตว์ประหลาดแบบไหนอยู่ตรงหน้าพวกเขา

    เขาแข็งแกร่งกว่าแด็กดาเป็นร้อยเป็นพันเท่า

    ถ้าซิกเป็นมิตรและอ่อนโยนที่สุด เทพองค์นี้ก็โหดร้ายและหยิ่งผยองที่สุด

    “ผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ไม่เคยได้รับความปราชัย ขมขื่นจากชัยชนะอันยาวนาน แสวงหาความท้าทายที่แท้จริงที่ทำให้เลือดเร่าร้อน”

    “ผู้แสวงหาชัยชนะต่างขนานนามเขาว่า...เทพไร้พ่าย"

    “เวเรทรัคนะ เทพเจ้าผู้พิชิตของเปอร์เซีย”

    “นั่นมัน...”มนุษย์อ้าปากค้างไม่นึกว่าเทพเจ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเปอร์เซียอยู่ตรงหน้าพวกเขา

    เขามีหน้าตาเหมือนกับเด็ก

    “ข้าเองก็ไม่นึกเลยว่า...เขาจะออกมาเร็วขนาดนี้”อลายาคิดเหงื่อไหล่เต็ม

    @@@@@@@@

    ไม่กี่นาทีก่อนที่ทางเดินเข้าสู่ลานประลอง

    "หึๆ ต้องใจเย็นลงสักหน่อยแล้วแฮะ ถ้าออกไปทั้งๆที่ยังเครื่องร้อนแบบนี้ล่ะก็ เจ้านั่นมีหวังได้กลายเป็นฝุ่นไปในพริบตาเดียวแหงๆ"

    ในตอนนั้นก็มีมือเล็กๆมาแตะหลัง

    พระศิวะหันไปเห็นร่างเล็กของเวเรทรัคนะ

    "อ้าว? มีอะไรหรือไอ้เปี๊ยก มาเชียร์ข้าถึงนี่เลยงั้นเหรอ?"

    "รอบนี้เป็นตาของข้า"

    "พูดอะไรน่ะไอ้เปี๊ยก...ต่อไปมันตาข้านะ"

    "รอบนี้เป็นตาของข้า"

    "เราตกลงกันแล้วนี่นาว่าเจ้าออกรอบท้ายๆ ถ้าเจ้าจะให้ข้านั่งรอล่ะก็ไม่มีทาง ข้าไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนี้มาหลายพันปีแล้ว...เอามือออกไปนะเฟ้ย"พระศิวะขู่

    "รอบนี้เป็นตาของข้า"

    "หูหนวกรึไงไอ้เด็กเวรตะไล ชั้นบอกแล้วว่า...!"

    "รอบนี้เป็นตาของข้า!!!"เวเรทรัคนะใช้มือเล็กดึงไหล่ทำให้พระศิวะทรุดลงไป

    "เอางี้สินะไอ้บ้านี่"พระศิวะลุกขึ้นมา"ถ้าอย่างนั้นคงไม่ติดใจอะไรถ้าจะต้องสู้กับข้าที่นี่ตอนนี้ใช่ไหมล่ะ?"

    เทพเจ้าทั้งสองสบตากันแผ่จิตสังหาร

    "ดูเหมือนข้าจะไม่มีทางเลือกสินะ"

    พระศิวะพูดแล้วหลีกทางให้เวเรทรัคนะ

    "เชิญเลยไอ้เปี๊ยก ยังไงเจ้าก็เป็นรุ่นพี่ล่ะนะ"

    @@@@@@@@

    เวเรทรัคนะโดดเข้าใกล้คู่ต่อสู้ ซิกต้องก้มลงเพื่อสบตาเขา

    “ถ้างั้นเจ้าช่วย...”เทพเจ้าเปอร์เซียแสยะยิ้มชั่วร้ายทำให้นึกถึงคางุสึจิและอลายา”ทำให้ข้าสนุกหน่อยล่ะ”

    ซิกจ้องมองคู่ต่อสู้เขาอย่างไม่สบอารมณ์

    “อย่ารีบตายล่ะ”

    เทพเจ้าอ้าปากค้างกับคำพูดของโฮมุนครูส

    "ฮ่าๆๆๆ แน่นอน"

    ศึกที่สองของแร็กนาร็อค

    เวเรทรัคนะ VS ซิก

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×