คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Phase 4 : Phase Shift Down
เฟส 4 : เฟสชิฟดาวน์
25 มกราคม , CE 71
อาร์คแองเจิ้ล
“เซ็ตสึนะ คริส คิระ พวกเธอได้ยินไหม”เฟลท์พูดอย่างกังวลใจ”ได้โปรด ถ้าได้ยินล่ะก็ช่วยตอบทีเถอะ”
“นี่เซ็ตสึนะ”เสียงหนุ่มผมพำดังขึ้นมา”ได้ยินแล้ว”
น้ำเสียงเด็กหนุ่มแหบพร่า เฟลท์ไม่ต้องถามว่าทำไมเสียงเขาเป็นแบบนั้น
“เห็นสไตรค์ไหม”
เซ็ตสึนะมองไปรอบๆเศษซาก เขาเห็นอาร์คแองเจิ้ลแต่ไม่เห็นสไตรค์
“ไม่ ผมไม่เห็นเขา”
“ดี ถ้างั้นก็รีบกลับมา”เฟลท์กล่าว”และดูว่าเธอติดต่อคิระได้ไหม”
“รับทราบ”
จากนั้นเธอหันไปสนใจเจ้าหน้าที่สะพาน
“นั่นเซ็ตสึนะ จะพยายามติดต่อคนอื่น”
มูพยักหน้าและหันไปสนใจเศษซาก
“เฮลิโอโปลิส....ไม่อยากเชื่อว่ามันจะถูกทำลายเอาง่ายๆ”
ที่อื่น คิระได้ยินเสียงเฟลท์ แต่เขาหวั่นไหวกับภาพตรงหน้าจนจิตใจเขาไม่รับรู้อะไร
“X-105สไตรค์ X-305 เรเวน”จนกระทั่งเสียงนั้นสิ้นหวังมากขึ้น
“นี่สไตรค์ ทราบแล้วเปลี่ยน”
เฟลท์ถอนหายใจโล่งอก
”รู้ตำแหน่งยานสินะ กลับมาได้ไหม”
“ครับ”
“ถ้างั้นก็รีบกลับมาซะ”
แต่คิระไปอาร์คแองเจิ้ลได้เพียงครึ่งทาง เขาเห็นแสงระยะไกลและเข้าไปตรวจสอบ พบว่าเป็นกระสวยกู้ภัยของเฮลิโอโปลิสที่เสียหาย
คิระคว้ายานชูชีพก่อนมุ่งหน้าไปอาร์คแองเจิ้ล
“อาร์คแองเจิ้ล ผมพบกระสวยที่ชำรุด จะนำมันเข้าไป”
“ว่าไงนะคิระ ไม่ได้นะ”เฟลท์คัดค้าน”การนำกระสวยขึ้นยานจะเป็นอันตรายต่อทุกคน เธอจะนำพวกเขาเข้ามาเจอสงครามเต็มรูปแบบเหมือนพวกเรา”
“แต่ส่วนขับเคลื่อนและสื่อสารไม่ทำงาน”คิระโต้แย้ง”ปล่อยไว้แบบนี้จะแย่กว่าที่เธอพูด”
ไม่มีเสียงตอบเขา
@@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
เฟลท์พยายามติดต่อหาเอ็กเซียที่ไม่มีสัญญาณ
"GN001 เอ็กเซีย ตอบกลับด้วย"เธอกล่าว"นีล....ถ้าได้ยินแล้วตอบด้วยนะ"
"เซ็ตสึนะรับทราบแล้ว"เสียงหนุ่มผมเงินดังขึ้น"ขอโทษด้วยฉันได้ยินก่อนหน้านี้แล้ว แต่ฉันไม่เข้าใจเกี่ยวกับสงครามอิเล็กทรอนิกซ์ เมื่อพิจารณาว่าฉันอยู่ใกล้ยานซาฟท์แค่ไหน ฉันกังวลว่าพวกเขาจะตรวจพบ"
"เธอเห็นยานซาฟท์เหรอ?"เฟลท์ถามอย่างสนใจ
"ใช่"เซ็ตสึนะตอบ"ฉันเห็นเขาเพิ่งรับอีจิสกับเซนติเนล ฉันต้องแน่ใจว่าพวกเขาไม่เห็นฉัน"
"เธอสามารถยืนยันจำนวนศัตรูได้ไหม? ร้อยเอกฟลาก้าบอกมียานรบ2ลำ ยานนาสก้ากับโลราเซีย แต่เราต้องมั่นใจ"เฟลท์กล่าว
"ยานชั้นนาสก้ากับโลราเซียถูกแล้ว"เซ็ตสึนะตอบจากนั้นเสริม"ถ้าฉันจำไม่ผิด หน่วยสืบราชการลับของออร์บบอกว่าเรือธงลำใหม่ของราอูล เลอ ครูเซ่คือเวอซาเรียส"
"เธอสามารถเข้าถึงหน่วยข่าวกรองของออร์บได้เหรอ"เฟลท์ถาม มีสายตาตกตะลึงจากทุกคน
"ไม่อยู่แล้ว"เซ็ตสึนะพูด"มันเป็นเพียงเรื่องที่ฉันได้ยินมา ไม่ต้องไปสนใจ ยังไงก็ตามฉันใกล้จะถึงแล้ว แล้วเจอกันเมื่อขึ้นยาน"
หลังจากนั้นคิระมาถึงพร้อมกระสวยและเกิดการโต้เถียงกับเฟลท์ เสียงตะโกนของเฟลท์ดึงดูดความสนใจของเจ้าหน้าที่ที่พากันมองเธอ
สาวผมชมพูเข้มกดปุ่มปิดเสียงหันไปหาเจ้าหน้าที่
“กัปตัน คิระพบกระสวยชูชีพชำรุด”เธอกล่าว”ทั้งทรัสเตอร์และวิทยุใช้การไม่ได้ อนุญาติให้นำขึ้นยานรึเปล่าค่ะ”
นาทาลเปิดปาก แต่ไม่ว่าจะคัดค้านหรือเห็นด้วย พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงต่อ ทุกสายตาจับจ้องไปที่เมอริว แต่เธอหันไปหาเอซผมบลอนด์
“ในสถานการณ์นี้ฉันว่าควรนำพวกเขาขึ้นมา”เธอกล่าว”แต่...คุณมีประสบการณ์มากกว่าพันตรี ฉันยกการตัดสินใจให้คุณ”
“ไม่ต้องหรอกผมเห็นด้วยกับคุณ”มูกล่าว”ในสภาพแบบนั้นคนที่อยู่บนกระสวยคงตายก่อนความช่วยเหลือจะมา”
เฟลท์พยักหน้าเปิดช่องสื่อสาร
“คิระ เธอได้รับอนุญาติให้นำขึ้นยานได้”เธอกล่าวทั้งเปิดประตูยานสองด้านให้เอ็กเซีย เรเวนและสไตรค์เข้ามาได้”แต่เร็วๆหน่อยล่ะ”
@@@@@@@@@@@
ขาของอาร์คแองเจิ้ลเปิดให้สไตรค์เข้ามาพร้อมกระสวยกู้ภัย
“เรื่องมันเลวร้ายลงทุกที”มูพูดพร้อมกอดอก”นี่ไม่ใช่แค่เรื่องทางทหารอีกแล้ว แต่ยังเป็นเรื่องทางการเมืองด้วย”
“แย่ขนาดนั้นเลยเหรอค่ะ”นาทาลถาม
“ออร์บไม่ใช่ประเทศใหญ่ แต่มีมอเก้นเรทและแมสไดรเวอร์ ถ้าออร์บเลือกฝ่ายในสงครามครั้งนี้ มันจะชี้เป้าไปใครก็ตามที่เล่นงานพวกเขา”
“แต่ซาฟท์เป็นคนทำลายเฮลิโอโปลิส”นอยแมนด์กล่าว
“ก็จริง...แต่อาจเพราะอาวุธพวกคุณถูกสร้างขึ้นที่นี่”เฟลท์กล่าวดึงสายตาตกตะลึงจากคนอื่นๆ นาทาลมองเด็กสาว ขณะที่มูมองเธออย่างครุ่นคิด เด็กผมชมพูป้อนคำสั่งสุดท้ายบนคอนโซลลุกจากที่นั่ง”คิระกับเซ็ตสึนะกลับมาแล้ว ฉันจะไปหาคนอื่นๆ”
พวกเขาไม่ทันพูดอะไรเธอก็ออกจากสะพาน
“ก็นะ เถียงเธอไม่ได้จริงๆนั่นแหละ ที่จริงทั้งสองฝ่ายต่างมีส่วนรับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้ คำขอโทษใดๆที่เราส่งให้พวกเขาได้ล้วนมีค่า”
“พูดอีกอย่าง เราต้องปฏิบัติต่อชาวออร์บบนยานด้วยความเคารพ”เมอริวกล่าว
“ถ้ามันต้องเป็นแบบนั้นฉันจะบอกพวกลูกเรือเกี่ยวกับเรื่องนี้”นาทาลกล่าว
“แต่เราจะทำยังไงต่อดีครับ”นอยแมนด์ถาม”ความร้อนจากเศษซากโคโลนี่ซ่อนเราจากซาฟท์ชั่วคราว แต่คงอยู่แบบนี้ต่อไปไม่ได้”
"ฉันเข้าใจสถานการณ์ของเราดี แต่ว่าฉันไม่มีความคิดที่จะยอมแพ้นะ"ราเมียสพูดแล้วลูกเรือหันไปมองเธอทุกคน
"ฉันไม่มีวันยอมมอบยานลำนี้กับโมบิลสูททั้ง2ตัวให้กับซาฟท์เด็ดขาด พวกเราจะต้องหาทางนำพวกมันกลับไปที่ฐานดวงจันทร์โดยสวัสดิภาพให้ได้"เมอริวกล่าว
"กัปตันค่ะ ฉันขอเสนอให้เราไปแวะที่อาร์เทมิสก่อนค่ะ"นาทาลกล่าวขึ้น
"อาร์เทมิสเหรอ เป็นดาวเทียมสังกัดกองทัพยูราเซียนี่นา"เมอริวกล่าว
"ร่มแห่งอาร์เทมิสงั้นเหรอ"มูหันเก้าอี้มา
นาทาลพยักหน้า จากนั้นเธอก็มองไปที่หน้าจอหลัก มันฉายภาพแผนที่อวกาศขึ้นมา
"ตอนนี้มันเป็นเส้นทางที่สามารถไปถึงได้ง่ายที่สุดจากเส้นทางของเรานะค่ะ"
"แต่ว่า ทั้งGและยานลำนี้ยังไม่ได้รับรหัสรับรองจากพันธมิตรนะ แล้วจะนำไปที่ยูราเซียเหรอ?"เมอริวถาม
"ฉันทราบดีค่ะ ว่าทั้งยานลำนี้ สไตรค์กับเรเวนเป็นความลับยอดของกองกำลังเรือรบแอตแลนติกของเรา แต่ว่า ขืนเรามุ่งหน้าไปยังดวงจันทร์ทั้งแบบนี้ละก็ ดิฉันไม่คิดหรอกว่ามันจะไปได้ราบรื่นปราศจากการต่อสู้ระหว่างทางนะค่ะ แถมพวกเรายังมีเสบียงและยุทธโธปกรณ์ไม่เพียงพอ ถ้าจะออกเดินทางพวกเราก็ต้องหาสิ่งเหล่านี้มาให้เร็วที่สุด"
"เข้าใจแล้ว"ราเมียสกล่าว
"ดิฉันคิดว่าทางยูราเซียก็คงจะเข้าใจสถานการณ์ของพวกเราดี ฉะนั้นเราน่าจะเลี่ยงการต่อสู้และก็ไปขอความช่วยเหลือจากอาร์เทมิสก่อนนะค่ะ จากนั้นเราค่อยหาทางติดต่อกับศูนต์บัญชาการที่ดวงจันทร์ ฉันคิดว่ามันเป็นแผนที่เหมาะที่สุดค่ะ"
"อาร์เทมิส มันจะไปได้สวยเหมือนที่คิดรึเปล่านะ"มูพูดขึ้น
"แต่ว่าตอนนี้ พวกเราไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วสินะ"เมอริวกล่าว
@@@@@@@@@
ในโรงเก็บ
เซ็ตสึนะออกจากค็อกพิทเอ็กเซียและลงมาตามแรงโน้มถ่วง เขา
หันไปเห็นสไตรค์ที่เข้ามาในอาร์คแองเจิ้ล ในมือมีกระสวยกู้ภัยลำนึงอยู่ เขาวางมันลงพื้น
"ตอนนี้เรามีพลเรือนเพิ่มขึ้นในยานที่ขาดแคลนลูกเรือ ให้ตายสิ"ภายในใจเซ็ตสึนะไม่อยากให้คิระรับคนพวกนี้เข้ามาเพราะเพิ่มภาระชัดๆ
คิระเปิดค็อกพิทออกมาจากสไตรค์ ในขณะที่พลเรือนลงมาทีละคน มีเด็กสาวผมแดงสวมชุดสีชมพูออกมาจากกระสวย เขาจำเธอได้ดี
"พระเจ้าเกลียดฉันมากนักใช่ไหม"เซ็ตสึนะคิดในใจ
ตอนนั้นเองเจ้านกโทริบินออกจากเสื้อคิระลงไปทางที่เฟรย์อยู่ คิระส่งตัวเองไปทางนั้นเพื่อจะจับสัตว์เลี้ยงเขา
"เธอ เพื่อนของไซนี่นา"เฟรย์ลอยเข้าไปหาคิระโอบกอดเขาไว้
"เฟรย์ อัสตาร์จริงๆเหรอ ทำไมมาอยู่ในยานเนี่ย"คิระถาม
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นเหรอ เฮลิโอโปลิสเป็นอะไรไปเหรอ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉันน่ะนะ พลัดหลงกับเจสซี่และซิก้าที่ร้านฟอเรนต์ แล้วก็หนีเข้ามาในเชลเตอร์คนเดียว"
“เฮลิโอโปลิส...ถูกทำลายไปแล้ว”คิระพูดเบาๆ เฟรย์อ้าปากค้าง
"นี่เป็นยานของพวกซาฟท์ใช่ไหม แล้วทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ”
“นี่เป็นยานของกองทัพโลก”
“โกหก มีโมบิลสูทอยู่ด้วยนี่”
“ไม่ใช่ เฟรย์ อัลตาร์”เซ็ตสึนะลอยเข้าไปหาทั้งสองคน
“เซย์เอย์!!!”
“นี่เป็นโมบิลสูทของกองทัพโลก
"ใช่ แล้วก็ที่นี่มีทั้งไซและมิลลี่อยู่ด้วยนะ ไม่ต้องห่วงแล้วล่ะ"คิระปลอบใจเธอ
@@@@@@@@
เวอซาเรียส
"ไม่นึกเลยว่าจะกลายเป็นแบบนี้ จะทำยังไงต่อไปครับ เราทำลายโคโลนี่ของประเทศเป็นกลางแบบนี้ ทางสภาจะ..."อาเดสพูดอย่างกังวล
"นั่นเป็นที่เก็บซ่อนอาวุธใหม่ล่าสุดของสหพันธ์โลก ที่ว่าเป็นกลางน่ะโกหก”
"แต่ว่า.."
"พลเมืองหนีออกไปได้หมดแล้ว มันก็ไม่มีปัญหานี่ ถ้าเทียบกับโศกนาฎกรรมวาเลนไทน์เลือดแล้วละก็.."
ราอูลพูดแค่นั้นแล้วอาเดสก็ยอมเงียบ แพลนท์จำเรื่องนี้ไม่มีวันลืม ราอูลหันไปถามทหารที่คุม
"ยังหาพิกัดของศัตรูไม่ได้อีกเหรอ"ราอูลถาม
"ครับ สภาพนี้คงไม่ไหว"
"ยังคิดจะตามมันไปอีกเหรอครับ แต่ว่าโมบิลสูทของพวกเราน่ะมัน..."
"ก็ยังมีอีกไม่ใช่เหรอ 6ตัวที่แย่งมาจากกองกำลังโลกไงล่ะ"
"จะใช้เจ้าพวกนั้นเหรอครับ แต่ว่า.."
"ถ่ายโอนข้อมูลเรียบร้อยแล้วนี่นา ไม่เป็นไรหรอก เอาไปใช้เลย ส่งแผนที่อวกาศมาหน่อยซิ ให้กาโมฟขยายเขตพื้นที่จัดการค้นหาออกไปให้กว้างที่สุดเลยนะ"
"ทราบแล้วครับ"
ขณะเดียวกันอัสรันสวมชุดปกติของเขาลอยไปตามทางเดินเวอซาเรียส เขาหยุดที่หน้าต่างมองออกไปในอวกาศ
“คิระ...”
@@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
เซ็ตสึนะ เฟรย์และคิระไปตามทางเดินที่ผู้ลี้ภัยนั่งอยู่ พวกเขาเปิดประตูเข้ามาในห้องที่นักเรียนเฮลิโอโปลิสพักอยู่ พวกเขามองทั้งสามอย่างตกใจ
“ไซ”เฟรย์ร้องวิ่งเข้าไปกอดเขา
“เฟรย์”ไซตกใจที่เธออยู่ที่นี่ คิระยิ้มอ่อนๆส่ายหัว เซเรน่าก็วิ่งเข้าไปกอดเซ็ตสึนะ
“เซ็ตสึนะ อย่าทำอะไรโง่ๆอีกนะ”
@@@@@@@@@
ขณะเดียวกันที่บริดจ์
"เตรียมเป้าลวง เมื่อปล่อยออกไปแล้วพวกเราจะมุ่งหน้าไปยังอาร์เทมิส เพื่อไม่ให้ศัตรูค้นพบยานของเรา เปลี่ยนเป็นระบบนำร่องด้วยแรงดึงดูด เข้าสู่สถาวะสงครามระดับ2 เตรียมยานให้พร้อมในเวลาที่น้อยที่สุดนะ"ราเมียสสั่งการ
"ไปที่อาร์เทมิสด้วยวิธีเซลเดรันดิ้ง ใช้เวลาประมาณ2ชั่วโมงสินะ ที่เหลือต้องพึ่งดวงแล้วล่ะ"มูกล่าว
@@@@@@@@@@@
สะพานเวอซาเรียส
ราอูลก็ได้สั่งให้ยานเตรียมเดินทางไปอาร์เทมิส
"แต่ว่าถ้าพวกมันมุ่งหน้าไปฐานทัพที่ดวงจันทร์ละครับ"อาเดสกล่าวอย่างกังวล
"พบสัญญาณความร้อน มันมุ่งหน้าไปยังดวงจันทร์ครับ"ทหารคนนึงพูดขึ้น
"นั่นคงเป็นเป้าลวงแน่ๆ"ราอูลกล่าว
"แต่ว่าเราให้กาโมฟไปดูเพื่อความแน่ใจ"อาเดสกล่าว
"ไม่ต้อง ที่ผ่านมามันทำให้ฉันแน่ใจ เวอเซอเรียสออกยานได้ เรียกกัปตันกาโมฟมาทีซิ"
@@@@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
เจ้าหน้าที่ในอาร์คแองเจิ้ลสองสามคนตรวจพลเรือนทุกคนจากกระสวยชูชีพ ซึ่งคนนึงเป็นหมอ พวกเขาจึงขอให้ไปดูแผลที่ไหล่ของกัปตัน
ที่ห้องพัก
คริสนอนอยู่บนเตียงข้างหนึ่ง ขณะที่คิระ ลิซและคนอื่นๆคุยกัน
"ต่อจากนี้ยานลำนี้จะเป็นยังไงละเนี่ย"คาสึอิพูดขึ้น
"ยานเปลี่ยนเส้นทางแล้วนี่นา หรือว่าจะมีพวกซาฟท์มาอีกแล้ว"ไซกล่าว
"มันกำลังไล่ตามยานลำนี้กับโมบิลสูทอยู่ใช่ไหมล่ะ ถ้างั้นก็อาจโดนไล่ตามมาอยู่ก็ได้"ทอลล์พูด
"ถะ..ถ้างั้นมาอยู่บนยานลำนี้ก็ยิ่งอันตรายน่ะสิ ไม่เอาแล้วนะแบบนั้นน่ะ"เฟรย์กอดแขนไซ
คิระมองเฟรย์และรู้สึกผิดเพราะเขาพาเธอขึ้นมา
"อยู่บนกระสวยกู้ภัยพังๆแบบนั้นดีกว่างั้นเหรอ"มิลี่ถาม
“อาจจะโดนพวกซาฟท์จับหรือขาดออกซิเจนจนตาย”เฟลท์เสริม
"คือมันไม่ใช่อย่างงั้นหรอก"เฟรย์ตอบพิงไหล่ไซ
“พวกพ่อแม่คงจะปลอดภัยนะ”คาสึอิพูด
“มีคำสั่งอพยพแล้วนี่นา คงไม่เป็นไรหรอก”ไซกล่าว
"คิระ ยามาโตะและคริสโตเฟอร์ ดันเต้"มูเดินเข้ามาเรียกทำให้พวกเขาหันไปมอง"สิบโทเมอร์ด็อกกับโจแอนนาเรียกตัวทั้งคู่ไป คนของเรามีไม่พอ เขาบอกว่าหุ่นของพวกเธอก็ขอให้ไปดูแลเองด้วย"
"หุ่นยนต์ของเรางั้นเหรอ เดี๋ยวก่อนสิ หุ่นของผมงั้นเหรอ"คิระพูดอย่างตกใจ
“ผมต้องเห็นด้วยกับคิระ กันดั้มเป็นของทางมอเก้นเรทกับกองทัพโลกไม่ใช่เหรอ?“คริสถามลุกขึ้นนั่ง
"ตอนนี้มันกลายเป็นแบบนี้ไปซะแล้วล่ะนะ ที่จริงเพราะมีแต่พวกเธอที่บังคับมันได้ แล้วจะให้ทำยังไง"มูกล่าว
"ผมยอมขึ้นบังคับมันเป็นครั้งที่2 เพราะคิดว่าจำเป็นต้องทำ แต่ผมเป็นแค่พลเรือนไม่ใช่ทหารนะครับ"คิระกล่าว
"ตอนที่เกิดสงครามอีกครั้งน่ะ เธอจะอ้างเรื่องนี้ไม่ยอมบังคับมันและจะยอมตายสินะ"มูกล่าว คิระพูดไม่ออก"ตอนนี้น่ะคนที่จะสามารถปกป้องยาน2ลำนี้ได้ก็มีแต่พวกเราและเซ็ตสึนะ 4คนเท่านั้นแหละ"
"แล้วเซ็ตสึนะล่ะ?"คริสถาม
"อยู่ในโรงเก็บแล้วกำลังดูแลเอ็กเซีย"มูกล่าว"เขาดูค่อนข้างผูกพันกับมัน"
"แต่ว่าผม.."
"เธอน่ะมีพลังที่จะสามารถลงมือทำได้ไม่ใช่เหรอ ถ้างั้นก็จงทำมันซะสิ เราไม่มีเวลาเหลือพอให้เธอมาลังเลหรอกนะรู้ไหม"มูพูดเดินจากไป
“เอ่อ ยานลำนี้จะเป็นยังไงเหรอครับ”ไซถาม
“ป้อมปราการทหารของยูราเซีย ก็ถ้าพวกเขายอมให้เราเข้าไปน่ะนะ”มูตอบเดินออกไป
“คิระ ลงที่ไปโรงเก็บเถอะ"คริสมองคิระ
"ฉันขออยู่คนเดียว"คิระพึมพำและวิ่งออกไปจากห้อง
"อ้าว เฮ้ คิระ!!!"ทอลล์เรียก
"ฉันตามไปเอง"คริสออกจากห้องไป
"อะไรกันเหรอ เรียกที่คุยมันเมื่อกี้น่ะ?"เฟรย์ถาม
"กระสวยที่เธอนั่งมาโดนโมบิลสูทเก็บมาใช่ไหมล่ะ คนที่บังคับมันคือคิระไงล่ะ"ไซตอบ
"ตะ แต่ทำไมเธอสองคนไปขับโมบิลสูทได้ล่ะ...?"เฟรย์ถาม
"คริส น้องสาวเขาและคิระเป็นโคออดิเนเตอร์น่ะสิ เขาจึงขับมันได้แบบสบาย"คาสึอิกล่าว
"คาสึอิ!!!"ทอลล์ตะโกน
"พวกคิระเป็นโคออดิเนเตอร์ แต่ไม่ใช่พวกซาฟท์"ไซกล่าว
"พวกเขาเป็นเพื่อนของเรา เพื่อนคนสำคัญ"มิลี่กล่าว
"อย่างงั้นเหรอ"เฟรย์พูดเบาๆ”แล้วเซ็ตสึนะล่ะ เขาเป็นโคออดิเนเตอร์ด้วยเหรอ”
“นั่นเป็นสิ่งที่แปลกที่สุด เขาไม่ใช่”ทอลล์ตอบยักไหล่
“ขะ เขาไม่ใช่เหรอ?”เฟรย์พึมพำตกตะลึง โล่งอกเล็กน้อยที่มีคนอย่างเซ็ตสึนะที่ไม่ใช่โคออดิเนเตอร์
@@@@@@@@@
โรงเก็บ
คิระยืนอยู่หน้าสไตรค์ คำพูดของมูดังอยู่ในหัว
"เพียงเพราะขับโมบิลสูทได้ ใช่ว่าจะทำสงครามได้นี่"
เซ็ตสึนะเดินเข้ามาหาคิระ
“เอล”คิระประหลาดใจที่เห็นเพื่อนเขาและเรียกชื่อจริง
"ฉันคิดว่านายตัดสินใจแล้ว"
"ฉันคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ร้อยเอกฟลาก้าพูด...และฉันคิดว่าฉันไม่ควรหนี ถ้าฉันมีพลังที่จะทำได้ ก็ควรทำมันซะใช่มั้ยล่ะ"
เซ็ตสึนะพยักหน้าให้คิระ
"ถูกแล้ว แต่จำไว้ว่าให้ทำตามความเชื่อของนายไม่ใช่ของใคร"
"เมื่อเราจะไป....เราควรไปหาชุดนักบินไหม"คิระกล่าวเสริมเดินไปที่ล็อกเกอร์ มองหาชุดที่เหมาะกับเขา
เซ็ตสึนะกำลังเถียงว่าเขาควรสวมชุดใดชุดหนึ่งหรือแค่เสี่ยงขับโดยไม่สวมชุด เขานึกภาพตัวเองไม่ออกที่จะเป็นหนึ่งในนั้น แม้เขาจะคิดว่ามันฟังดูงี่เง่า
"เฮ้ เซ็ตสึนะ นายจะไม่ใส่เหรอ?"
"ฉันจะไปดูที่เอ็กเซียเพื่อดูว่ามีชุดนักบินไหม"เซ็ตสึนะตอบเดินไปที่ประตู
"แต่ทำไมล่ะเมื่อมีชุดอยู่ที่นี่?"คิระถามอย่างไม่เข้าใจ
"อย่าโกรธนะคิระ แต่ฉันจะไม่ตายโดยสวมชุดนักบินแบบนั้น"เขาพูดเดินออกไปที่โรงเก็บ
@@@@@@@@@@
เวอซาเรียส
อัสรันถูกเรียกตัวไปพบพันเอกที่สำนักงาน(และห้องนอน)เพราะเรื่องที่เฮลิโอโปลิส
"อัสรัน ซาล่า มาพบตามคำสั่งครับ"
"อืม เข้ามาสิ"
อัสรันเข้ามาและเห็นราอูลกำลังคีร์ข้อมูลอยู่หน้าคอม
"กำลังวุ่นวายเรื่องการทำลายเฮลิโอโปลิสอยู่พอดี ก็เลยคุยกับเธอช้าไปหน่อย"ราอูลหยุดพิมพ์แล้วหันมามองอัสรัน
"ครับ การต่อสู้ครั้งที่แล้ว ผมต้องขออภัยด้วยครับ"
"ฉันไม่คิดจะตำหนิเธอหรอกนะ แต่ว่าอยากฟังเรื่องราวไว้หน่อย เพราะว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมกับเธอเลยนี่นา อัสรัน"ราอูลกล่าวอย่างสุภาพ อัสรันมีท่าทางเจ็บปวดและลังเลจะตอบ"ตอนที่หุ่นพวกนั้นเคลื่อนไหว เธอก็อยู่ใกล้ๆด้วยสินะ"
"ขออภัยด้วยครับ มันเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นมาก่อน จึงไม่สามารถรายงานให้ทราบได้ หุ่น2ตัวสุดท้ายนั้นน่ะ คนที่บังคับมันก็คือคิระ ยามาโตะและเซ็ตสึนะ เอฟ เซย์เอย์ครับ ทั้งคู่เป็นเพื่อนสมัยเรียนอยู่ที่ดวงจันทร์ครับ"อัสรันอธิบาย
"งั้นเหรอ?"ราอูลสนใจมาก
"ไม่คิดเลยว่าเราจะต้องมาพบกันอีกครั้งในที่แบบนี้ ก็เลยอยากจะออกไปดูให้แน่ใจน่ะครับ"
"งั้นเหรอ...สงครามนี่ช่างโหดร้ายซะจริงๆนะ"ราอูลพูดพลางลุกขึ้นยืน"ที่เธอทำไปก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ คงเป็นเพื่อนที่สนิทกับมากละสิ?"
"ครับ"อัสรันพยักหน้า
"เข้าใจแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ละก็จะถอดเธอออกจากปฏิบัติการครั้งต่อไป"
"หา?"
"เธอเองก็คงจะหันปืนไปทางพวกเขาไม่ได้แน่ๆ ฉันเองก็ไม่อยากให้เธอต้องทำแบบนั้น"
"ไม่นะครับท่าน คือว่าผม..."
"ถึงพวกเขาจะเคยเป็นเพื่อนของเธอ แต่ตอนนี้เราต้องกำจัดศัตรูของเราก่อน ฉันคิดว่าเธอคงเข้าใจนะ"
"คิระน่ะ...หมอนั้นน่ะถูกพวกเนเชอรัลหลอกใช้อยู่แน่ๆครับ ถึงเขาจะฉลาดแต่ก็เป็นคนใจอ่อน คงไม่รู้ตัวว่ากำลังถูกหลอกแน่ๆเลยครับ และเอล แม้เขาจะฉลาดและช่างสังเกตแต่ก็คล้อยตามคิระง่ายไป เพราะงั้นผมอยากจะไปเกลี่ยกล่อมพวกเขาครับ คิระเป็นโคออดิเนเตอร์นะครับ เขาจะต้องเข้าใจพวกเราได้แน่ๆเลยครับ ผมรับรองได้"อัสรันพยายามโน้มน้าวให้หัวหน้ายอมให้เขามีโอกาสพาเพื่อนคนสำคัญเขากลับมา
"ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอนะ แต่ว่าถ้าหากพวกเขาไม่ยอมฟัง?"ราอูลถาม
อัสรันนิ่งเงียบมองลงไปด้วยสีหน้าเศร้า
"ถึงตอนนั้น...ผมจะจัดการเองครับ"
@@@@@@@@@
ทางด้านอิซาคได้คุยกับเอเลน่าและรู้ว่าใครขับหุ่นฟ้า
"เอล ทำไมนายถึงช่วยกองทัพโลก? โดยเฉพาะสหพันธ์แอตแลนติก"
"เธอโอเคนะ?"อิซาคถามน้องสาวที่สีหน้าเศร้า
"ฉันแค่ไม่เข้าใจ เอลเกลียดกองทัพโลกโดยเฉพาะสหพันธ์แอตแลนติก เขาบอกเลี่ยงความบ้าคลั่งของประธานซาล่า แต่นั่นไม่อธิบายว่าทำไมเขาช่วยยานของสหพันธ์แอตแลนติก"
"เราจะได้รู้กัน"อิซาคกล่าว
@@@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
ที่สะพานเดินเรือของยานอาร์คแองเจิ้ล ทหารที่คุมเรดาห์ตรวจจับสัญญาณได้
"จับคลื่นสัญญาณความร้อนขนาดใหญ่ได้ครับ คาดว่าเป็นเครื่องยนต์ยานรบ ระยะ200 เยลโล่3317 มาร์ค02ชาลี"
"ด้านข้าง มันกำลังมุ่งหน้าไปทางเดียวกับเรานี่?"มูกล่าว
"รู้ตัวแล้วงั้นเหรอ?"
"แต่ว่ามันอยู่ไกลมากนะค่ะ"นาทาลกล่าว
"เป้าหมายกำลังนำหน้าพวกเราไปครับ เป็นยานรบชั้นนาสก้าครับ"
"เชอะ มันคิดจะอ้อมไปเพื่อดักหน้าพวกเราสินะเนี่ย"มูกล่าว
"ชั้นโลราเซียล่ะ?"นาทาลถามCIC เจ้าหน้าที่รีบทำการตรวจ
"มีกลุ่มความร้อนเคลื่อนที่อยู่ในทิศทาง300ของยานเรา ตั้งแต่เมื่อไหร่เนี่ย"
ภายในสะพานเดินเรือเกิดความเครียดขึ้นมาทันที
"แบบนี้โดนโลราเซียไล่ทันแน่ ถึงใช้ความเร็วสูงหนีก็โดนนาสก้าจับได้อยู่ดี นี่ ขอข้อมูลยาน2ลำกับแผนที่อวกาศซิ"มูกล่าวขึ้น
"มีแผนอะไรค่ะ"นาทาลถาม
"นั่นน่ะผมกำลังคิดเดี๋ยวนี้"
ภายในห้องพักของผู้ลี้ภัย เสียงประกาศดังขึ้นมา
"ตรวจพบข้าศึกๆ เปลี่ยนเป็นภาวะสงครามระดับ1 ขอให้ลูกเรือทุกคนประจำตำแหน่ง นักบินขอให้ไปที่สะพานเดินเรือด้วย
แชนดร้าและแจ็กกี้ออกจากห้องรีบไปที่บริดจ์บ่นว่าพึ่งเข้านอน ในโรงอาหารมีเด็กผู้หญิงกอดแม่เธอไว้ ทุกคนต่างก็วิตกกังวล คนส่วนใหญ่คร่ำครวญที่ยานลำนี้จะทำสงครามแม้จะมีพลเรือนอยู่ด้วย
"คิระ ยามาโตะ, คริสโตเฟอร์ ดันเต้ , เซ็ตสึนะ เอฟ เซย์เอย์ มาที่สะพานเดินเรือด้วย"
"คิระจะทำยังไงก็ไม่รู้"มิลี่พูดขึ้น เธอรู้ว่าเพื่อนเธอลังเลจะสู้
"ถ้าเขาไม่ต่อสู้ละก็กลายเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ"ไซกล่าว
"แต่อย่างน้อยเซ็ตสึนะก็อยู่ด้วย"เฟรย์กล่าว
"นี่ทอลล์ พวกเราน่ะได้แต่อยู่ที่นี่แล้วให้พวกคิระปกป้องงั้นเหรอ"มิลลี่ถามขึ้น
"ถ้ามีกำลังพอจะทำได้ก็จงลงมือทำซะ อย่างงั้นเหรอ"ทอลล์พูดคำพูดของมูขึ้นมา เขามองไปทางไซ เซรีน่าและคาสึอิ พวกเขาพยักหน้าเห็นด้วย
ที่สะพานเดินเรือ ลูกเรือก็เอาข่าวมาแจ้ง
"กัปตันครับ พลเรือนบอกว่ามีเรื่องจะพูดกับกัปตันครับ"
"ตอนนี้เรากำลังยุ่งอยู่นะ ถ้าจะต่อว่าเอาไว้ทีหลังเถอะ บอกให้พวกเขาอยู่เงียบๆไปก่อน"นาทาลหันหลังไปบอก
"เปล่าครับ พวกนักเรียนที่มาจากเฮลิโอโปลิส เขาขอมาช่วยงานบนยานของเรานะครับกัปตัน"
"ห๊ะ..."ราเมียสหันไปมอง
@@@@@@@@@@@
เวอซาเรียส
"นั่นเหรอครับ"อาเดสพูดพลางแสยะยิ้ม มองไปที่ดาวเทียมอาร์เทมิสข้างหน้าไกลออกไป มีม่านสีเขียวคลุมมันอยู่
"ร่มแห่งอาร์เทมิสไง พวกมันคงรู้แล้วว่าพวกเรามา ก็เลยกางออกมาไงล่ะ"ราอูลพูดแล้วยิ้มเล็กน้อย
"เรามาถึงที่นี่โดยไม่พบยานรบรุ่นใหม่ของกองทัพโลกเลยนะครับเนี่ย"อาเดสกล่าว
"ใจเย็นๆไว้เถอะน่า เราจะกำจัดมันที่นี่แหละ"
"หันหัวเรือ180องศา ปรับความเร็วให้เท่ากับอาร์เทมิส เดินเครื่องลดความเร็ว"อาเดสสั่งการ
ยานวาเซเรียสหันหัวยานกลับไปด้านหลังเพื่อรอให้อาร์คแองเจิ้ลมาถึง
@@@@@@@@@
ห้องล็อกเกอร์
มูเข้ามาในล็อกเกอร์รูมสวมชุดนักบินสีม่วงและค่อนข้างแปลกใจกับสิ่งที่เห็น
ด้านหน้าเขาเซ็ตสึนะ คริสและคิระสวมชุดนักบินที่มีเอกลักษ์ คิระสวมชุดกองทัพโลกสีฟ้าโดดเด่น คริสสวมชุดกองทัพโลกสีส้ม และเซ็ตสึนะสวมชุดสีน้ำเงินดำที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แต่บอกได้ว่าชุดดูดีกว่าของกองทัพโลกมาก
"โห่ แต่งตัวแบบนี้แสดงว่ามีใจจะทำแล้วสินะ"มูกล่าว
"คุณพูดเองนะว่าตอนนี้คนที่จะปกป้องยานลำนี้ได้มีแต่พวกเราเท่านั้นน่ะ ผมไม่อยากต่อสู้สักหน่อย แต่ผมต่อสู้เพื่อปกป้องยานลำนี้ เพราะมีเพื่อนผมอยู่ด้วย"คิระกล่าว
"เอาล่ะ งั้นฉันจะอธิบายแผนให้ฟังนะ แต่ก่อนหน้านั้น เซ็ตสึนะ นายใส่ชุดบ้าอะไรเนี่ย"
"ผมเจอมันในเอ็กเซีย ผมคิดว่ามันเหมาะกับผมมากกว่าชุดของกองทัพโลก"นักบินผมดำตอบ
เมื่อมูอธิบายแผนจบ พวกเขาออกมาจากห้องเตรียมตัวของนักบิน มาที่โรงเก็บโมบิลสูท ซึ่งเตรียมจะส่งโมบิลสูทออกไป
"ยังไงก็ตาม ขอให้คิดถึงการป้องกันยานและตัวเองไว้ก็พอ"มูบอกทั้งคู่
"ผู้กองเองก็ระวังตัวด้วยนะครับ"คิระพูดและลอยไปที่สไตรค์
“อัสรัน นายจะมาอีกรึเปล่านะ มาเพื่อจมยานลำนี้”คิระคิดในใจ
“พวกเขาจะส่ง6ตัวนั่นมาโจมตีเรา”เซ็ตสึนะตอบสิ่งที่เขาสงสัยก่อนจะเข้าไปในเอ็กเซีย
"ยานโมเบียสซีโร่ เครื่องฟลาก้า เข้าสู่ห้องดีดตัวออก"
ยานโมเบียสซีโร่ถูกส่งเข้ามาที่ขาด้านซ้ายของยาน
"มู ลา ฟลาก้า ออกปฎิบัติการ อย่าถูกจมก่อนฉันกลับมาล่ะ"มูปิดฝากระจกของเขา และเครื่องซีโร่ก็พุ่งออกไป
"ยานชั้นโลราเซีย กำลังเข้ามาทางทิศ50ครับ"พาลบอกในสะพานเดินเรือ
"อีก2นาทีให้เดินเครื่องยนต์หลัก สไตรค์ เอ็กเซีย เตรียมพร้อมปฎิบัติการ"ราเมียสสั่ง
สไตรค์ถูกส่งไปที่เครื่องดีดตัวทางขาขวา เอ็กเซียทางขาซ้าย
ด้านในเอ็กเซีย เซ็ตสึนะกำลังนึกถึงแผนการที่มูวางเอาไว้
"คุณมูจะบุกไปเพื่อจัดการศัตรูข้างหน้าก่อน ในขณะที่พวกเราปกป้องยานจากศัตรู ต้องดึงความสนใจศัตรูไว้ให้ได้"เขาคิดในใจและปิดฝากระจกหมวกเขา
ตามแผนคือ มูจะบุกไปโจมตีเวอซาเรียส พวกเขาต้องปกป้องยานจากศัตรูให้ได้
หลังจากนั้นสไตรค์ถูกติดตั้งอุปกรณ์เสริมแบบไอน์เป็นโล่สีแดงเหลืองและอีกข้างเป็นบีมไรเฟิล57มม
"เร่งเครื่องยนต์เต็มที่ เตรียมยิงปืนใหญ่โลเอนกรินไปพร้อมกันด้วย เป้าหมายคือยานชั้นนาสก้าด้านหน้า"เมอริวสั่ง
ปืนใหญ่พลังงานไฟฟ้าโผล่ออกมาจากขาทั้งสองข้างของอาร์คแองเจิ้ล
"โลเอนกรินยิงได้!!!!"นาทาลสั่ง จากนั้นปืนใหญ่ก็ทำการยิงคลื่นแสงไฟฟ้ายักษ์ออกไป
@@@@@@@@@@
วาเซอเรียส
"มีกลุ่มความร้อนขนาดใหญ่พุ่งเข้ามาทางด้านหน้าครับ ด้านหลังมีกลุ่มความร้อนขนาดใหญ่ เป็นยานรบครับ"เจ้าหน้าที่ซาฟท์กล่าว
"เปลี่ยนเส้นทางทันที"อาเดสสั่ง
"เห็นพวกเรามาก็เลยยิงโจมตีอย่างงั้นเหรอ"ราอูลกล่าว
จากระยะไกลโมเบียสซีโร่กำลังเคลื่อนไปหาเวอซาเรียส
@@@@@@@@@@@@
กาโมฟ
"ตรวจพบแหล่งความร้อนได้ครับ เป็นยานรบของศัตรูครับ"ทหารซาฟท์กล่าว
"เตรียมส่งโมบิลสูทออกไป"
ด้านในโรงเก็บโมบิลสูทของกาโมฟ มีเครื่องบัสเตอร์ ดูเอล บลิทซ์และโซล
@@@@@@@@@
เวอซาเรียส
"คำพูดที่เธอพูดเอาไว้น่ะ ฉันเชื่อนะอัสรัน ซาล่า"ราอูลกล่าว
"ครับ"อัสรันกล่าว จากนั้นอีจิสก็พุ่งออกไปตามด้วยเซนติเนล
รัสตี้อยู่ในจินน์สีส้มของมิเกลทำการแก้ไขระบบOSเล็กน้อย
"มิเกล ฉันสัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อเป็นเกียรติแก่ความทรงจำของนาย"เขาคิดและจินน์พุ่งออกไป
@@@@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
"มีโมบิลสูทออกมาจากยานนาสก้าครับ จำนวน2เครื่องครับ"แชนโดร่ากล่าว
"กัปตันค่ะ"นาทาลมองกัปตัน
"ฝากด้วยนะ"เมอริวกล่าว นาทาลหันไปมองมิลลี่
"ให้สไตรค์และเอ็กเซียไปได้"นาทาลกล่าว
"คิระ เซ็ตสึนะ"
ประตูทางออกทั้งสองเปิดออก คิระดึงคันเร่งขณะหน้าจอแสดงเป็นสีเขียว
"คิระ ยามาโตะ , กันดั้มสไตรค์ จะไปล่ะ"สไตรค์ถูกเครื่องดีดตัวพุ่งออกไปข้างนอก
"กันดั้ม ชื่อนี้น่าสนใจ นำอักษรตัวแรกในแค่ละคำของระบบOSมาตั้ง"คริสคิดในใจ
"คริส ดันเต้ , กันดั้มเรเวน จะออกไปล่ะ"
"เซ็ตสึนะ เอฟ เซย์เอย์ , กันดั้มเอ็กเซีย ออกตัวได้"เอ็กเซียพุ่งตามออกมาทิ้งร่องรอยของอนุภาคด้านหลังกันดั้ม
อัสรันเข้าหาอาร์คแองเจิ้ลจากด้านหน้า หน้าจอซูมภาพโมบิลสูทศัตรู สไตรค์บินมาพร้อมกับเอ็กเซีย
"คิระฝากอีจิสด้วย"เซ็ตสึนะกล่าว"ฉันจะจัดการ4คนที่เหลือ อย่าลืมทำตามแผน"
เขาพูดบินตรงไปยังโมบิลสูทของศัตรู
ในขณะเดียวกัน
ดูเอล บัสเตอร์ บลิตซ์ และโซลบินกระจายไปในอวกาศ
"เฮ้ อิซาค"
"อะไร"
"อัสรันกับเลช่าจะเจอกับ3ตัวนั้นสักพัก พวกนายจัดการยานนั่นไปแล้วกัน ฉันจะไปช่วยพวกเขาก่อน"ซาอูลพูดขึ้น
"นายพูดอะไรซาอูล นายไม่มีทางไปถึงที่นั่นได้เร็วกว่าพวกเรา"อิซาคถาม
ซาอูลได้ยินแล้วหัวเราะเบาๆ ก่อนจะถามขึ้น
"รู้ไหมอิซาค ทำไมหุ่นยนต์ตัวนี้ถึงได้ชื่อว่าโซล?"
"ฉันจะไปรู้ได้ยังไง มันไม่สำคัญสักหน่อย"อิซาคพูดอย่างรำคาญ
"ฉันจะให้พวกนายเห็น"ซาอูลยิ้ม
เครื่องไอพ่นด้านหลังโซลถูกเร่งถึงขีดสุด ทำให้โซลพุ่งออกไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง
'ฉันรู้ว่าเครื่องนี้เร็วมากแต่....นี่มันสุดยอดเลย'
อิซาค ดิอัคก้า นิโคลมองอย่างตกตะลึงไม่น้อย
ไม่กี่นาทีต่อมาเขาตามอัสรันกับเอเลน่ามาได้ ขณะที่จินน์ของรัสตี้แยกตัวไปช่วยโจมตียาน อีจิสไล่ตามสไตรค์ เซนติเนลไล่ตามเอ็กเซีย หุ่นตัวที่3ไปช่วยเพื่อน แต่ซาอูลไม่ยอมให้อัสรันถูกรุม ซาอูลเล็งและยิงเตือนไป3นัด ไม่ได้คิดจะทำลายเรเวนโดยไม่รู้ตัว นั่นเป็นสิ่งที่คนขี้ขลาดและสไนเปอร์ทำไม่ใช่เขา
เรเวนหยุดหันมาเผชิญหน้าเขาและเปิดฉากยิงด้วยเรลกันคู่ แต่ซาอูลใช้ความเร็วที่เหนือกว่าของโซลหลบทุกนัด และยิงกลับด้วยบีมไรเฟิลของเขา หุ่นทั้งสองเลี่ยงการยิงของอีกฝ่าย
“ผู้ชายคนนี้เก่ง มาลองดูกัน”
แขนซ้ายของโซลพุ่งขึ้นและยิงกรงเล็บเจาะไฮเคนฟรุส เรเวนหลบกรงเล็บและเปลี่ยนเป็นโมบิลอาเมอร์ เปิดฉากยิงปืนกลขณะบินเข้าหาเขา ซาอูลพุ่งไปทางซ้าย หลบกระสุนส่วนใหญ่ ไม่กี่นัดที่โดนเขา แทบไม่สะเทือนเกราะเฟสชิฟ
เรเวนบินผ่านเขา ซาอูลหมุนโซลไปรอบๆและยิงอีกครั้งขณะที่เรเวนหันไปทางอื่น ซาอูลยิงปืนไรเฟิลไปเรเวนหลบได้ แต่น่าแปลกที่มันไม่ยิงกลับ มันเกือบจะอยู่ด้านบนเขาแล้ว เท้านกหักมุมเล็กน้อยและมีบีมพลังงานที่เท้ามัน
“เวร”ซาอูลแทบจะบินหลบไม่ทัน
เรเวนบินผ่านเขาแล้วเปลี่ยนกลับเป็นโมบิลสูทบินไปรอบๆยิงเรลกันใส่เขาอีกครั้ง
“ทำไมเราไม่ลองทำอะไรที่แตกต่างออกไปบ้าง”
เขาเก็บปืนยาวและชักดาบพุ่งเข้าใส่ เรเวนดึงบีมซอร์ดทั้งสองมาป้องกัน
“นายเก่งจัง”ซาอูลพูดกับเรเวน”ฉันแปลกใจที่เนเชอรัลขับหุ่นได้ดีแบบนั้”
“ฉันไม่ใช่เนเชอรัล”
จากเสียง นักบินน่าจะอายุราวๆเขา
“ฉันเป็นโคออดิเนเตอร์เหมือนนักบินสไตรค์”
“อะไรนะ ทำไมพวกนายสองคนอยู่บนยานกองทัพโลก”
“เรื่องค่อนข้างยาว สั้นๆคือครอบครัวและเพื่อนของฉันที่เป็นพลเรือนอยู่บนยานลำนั้น ดังนั้นฉันแค่ปกป้องพวกเขา”
ซาอูลยอมรับว่านั่นเป็นเหตุผลที่ดีมาก
“เสีนใจที่ได้ยินแบบนั้น นี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ฉันได้รับคำสั่งและฉันจะไม่ดูถูกด้วยการออมมือ”
“เหมือนกันนั่นแหละ”
ในขณะนั้นอิซาค นิโคลและดีอัคก้ามาถึง
“นิโคล ไปช่วยซาอูลจัดการหุ่นนั่น ดีอัคก้าทำลายยาน ฉันจะช่วยอัสรัน”
บลิตซ์ปรากฎตัวขึ้นยิงใส่เรเวนทำให้มันถอยหนี
“ซาอูล โอเคไหม”
“ฉันสบายดี”
“ขอโทษนะเพื่อน แต่ฉันมีงานต้องทำ”
@@@@@@@@@@
ขณะนั้นเอ็กเซียยังพัวพันนักบินซาฟท์คนอื่นแล้วเห็นโซลแยกตัวไปที่ยาน เขาพยายามจะไล่ตาม
"หยุดนะเอล"ดูเอลมาขวางด้านหน้าไว้
แต่ในCIC บาจิรูลเห็นทั้งสองตัวกำลังเข้ามา
"แวเรียต ยิงได้"เธอบอกแล้วไซกับมิริอาเรียพิมพ์คำสั่ง ปืนใหญ่ด้านหลังก็ยิงใส่ซาอูลทำให้เขาต้องหลบ
อิซาคยิงอีเกลสเตลังใส่เรเวนแม้รู้ว่ามันไร้ประโยชน์ต่อหน้าเกราะเฟสชิฟ
“สหพันธ์แอตแลนติกฆ่าแม่ของนายนะ!!“
“มันไม่เกี่ยวกัน กัปตันของอาร์คแองเจิ้ลเป็นร้อยเอก ฉันไม่คิดว่าเธอจะมีส่วนอะไรด้วย“เอลชักบีมเซเบอร์ปะทะโล่ดูเอล”ถ้านายพยายามให้ฉันเห็นว่าทำผิดพลาดก็ไม่ต้องห่วง ซาฟท์ภายใต้แพทริค ซาล่าถูกลดให้เป็นเพียงโคออดิเนเตอร์ที่คิดเหมือนพวกบลูคอสมอส”
“นั่นมันบ้าแล้ว บลูคอสมอสอยากกำจัดโคออดิเนเตอร์!!”
“และแพทริค ซาล่าอยากฆ่าเนเชอรัลทั้งหมด ฉันไม่เห็นว่ามันจะต่างกันตรงไหน บอกหน่อยซิ นายต้องการให้เนเชอรัลทั้งหมดตายหรือไง”
อิซาคจะพูดแล้วปิดปาก ซาฟท์มีพันธมิตรในโอเชียเนียและแอฟริกา พวกเขาเป็นเนเชอรัลแต่เขาไม่เคยคิดว่าพวกเขาเป็นเหมือนพวกสหพันธ์โลก
“ไม่แน่นอน”อิซาคพูดขึ้น”แต่ประธานซาล่าก็ไม่เช่นกัน”
“นายคิดผิดแล้ว ฉันพยายามเตือนป้าเอซาเลีย แต่เธอบอกฉันระแวงไป”
“เธอพูดถูก พวกมันต่างหากพยายามกำจัดเรา”
“แพทริค ซาล่าก็พยายามกำจัดฉันทิ้ง!!!”เอลตะโกนและอิซาคเบิกตากว้าง เขาโดนแรงดาบเรเวนส่งกระเด็นออก
“พวกนายพยายามฆ่าเนเชอรัลทั้งหมดเพราะเรื่องที่ยูนิอุสเซเว่น”คิระถามจริงจังใส่อัสรัน
“เราไม่ได้พยายามฆ่าเนเชอรัลทั้งหมด”อัสรันประท้วง
“จริงเหรอ?”เอลเข้ามาแทรก”นายไม่เห็นโฆษณาชวนเชื่อมาจากกองบัญชาการของพ่อนาย”
อัสรันไม่ตอบ เพราะสุนทรพจน์ของพ่อทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆนับตั้งแต่วาเลนไทน์เลือด เขาไม่ได้สนใจ เพราะมุ่งมั่นจะเอาชนะกองทัพโลก ปลดปล่อยแพลนท์และล้างแค้นการตายของแม่
เซนติเนลตวัดบีมเซเบอร์ใส่เรเวน เอ็กเซียก้มหลบการโจมตีและแทงบีมเซเบอร์กลับ
"ฉันบอกแล้วไงว่าถึงใช้กำลังก็จะพาพี่ไป"เอเลน่าตะโกนฟาดกรงเล็บอุโรโบรอส เอ็กเซียหลบไปด้านข้างเปลี่ยนเป็นโมบิลอาเมอร์ยิงปืนกล เธอยกโล่ป้องกันแต่ยังโดนกรงเล็บกระแทกโล่อย่างแรง เซนติเนลกระเด็นขณะที่เอ็กเซียพุ่งผ่านเปลี่ยนกลับเป็นโมบิลสูทหันมายิงบีมแคนน่อน เซลติเนลลุกกลับมาบินหลบโต้ด้วยบีมไรเฟิล
"ชิ...ทำไมฉันเล่นตามเกมส์เขา"เอเลน่าคิดในใจ เซนติเนลไม่ได้ถูกสร้างสำหรับการยิง มันมีอาวุธระยะประชิดหลายอันทำให้ได้เปรียบศึกระยะประชิด
เอเลน่าเก็บบีมไรเฟิลของเซนติเนลและใช้งานบีมเซเบอร์คู่พุ่งเข้าหาเรเวนยกแขนขวาฟาด เอ็กเซียชักบีมเซเบอร์GNออกมา โมบิลสูททั้งสองฟาดฟันดาบใส่กันดุเดือด
"ซาอูล นายมัวทำอะไรอยู่? พวกนายจัดการเรเวนซะ ฉันจะไปช่วยอัสรัน"อิซาคสั่งและบินไป
อิซาคไม่กังวลเรื่องเอเลน่านักเพราะเอลไม่ฆ่าเธออยู่แล้ว ความจริงแล้วน้องสาวเขากับอัสรันเป็นคนที่เก่งที่สุดในซาฟท์ชุดแดงของหน่วยครูเซ่ แต่อิซาคไม่อยากให้อัสรันเอาความชอบไปหมด ความชอบนั้นเขาจะรับไปเอง
คิระหันกลับไปเห็นอาร์คแองเจิ้ลกำลังแย่และเอลพยายามรับมืออีก3ตัวอยู่ เขาไปทางนั้นแต่อีจิสบินขวางทาง
"หยุดนะคิระ"
"อัสรัน"
"ทำไมนายถึงไปอยู่กับกองทัพโลก"อัสรันถาม คิระพยายามผ่านแต่อัสรันยังขวางเขา
"ฉันไม่ใช่คนของสหพันธ์โลก เพื่อนของฉันอยู่บนยานลำนั้น นายนั่นแหละทำไมถึงไปอยู่กับซาฟท์ นายเองก็เคยบอกว่านายเกลียดสงครามนี่นา ทำไมถึงทำลายเฮลิโอโปลิสล่ะ"คิระถาม
"เพราะพวกเนเชอรัลงี่เง่า มันสร้างของแบบนี้ขึ้นมาน่ะสิ"
"เฮลิโอโปลิสเป็นกลางนะ ฉันก็เหมือนกัน"
"คิระ แม่ของฉันตายในวันวาเลนไทน์เลือด ฉันก็เลย--"
ตอนนั้นเองที่ดูเอลพุ่งเข้ามายิงบีมไรเฟิลใส่สไตรค์ พวกเขารีบหลบ
"มัวโอ้เอ้อะไรอยู่น่ะอัสรัน!!!!"ดูเอลตะโกน
"อิซาค"อัสรันตกใจ
เอลยิงบีมพิสทอลความเร็วสูงใส่บัสเตอร์และโดนบริเวณลำตัวหุ่น แม้ไม่ถึงกับฆ่าแต่ก็หยุดหุ่นไว้
"หนอย น่ารำคาญชะมัด"ดีอัคก้าสบถ บัสเตอร์ลอยขึ้นบนและยกปืนพลาสม่ามารวมกันเป็นปืนใหญ่ระยะไกล
"ยิงเฮลดาร์ทและอีเกลสเตลัง!!"บาจิรูลสั่ง ปืนกลและมิสไซล์ยิงใส่โมบิลสูทศัตรู
"ผมจะโจมตีส่วนขับเคลื่อนท้ายยานช่วยคุ้มกันด้วย"นิโคลบอกซาอูล
"เข้าใจล่ะ"
นิโคลบินลงไปใต้ท้องเรือ เอลเปลี่ยนเป็นโมบิลอาเมอร์พุ่งตามไปโดยเร็วแต่โซลแซงหน้ามาบล็อกเขาไว้ได้
"โมบิลสูทของข้าศึก มุ่งไปยังท้ายยานแล้วครับ"แชนดร้ากล่าว
"อีเกลสเตลังส่วนท้ายเตรียมรับการโจมตี"บาจิรูล ปืนกลที่จุดอ่อนของยานยิงใส่บลิตซ์
"ใช้ก็อตฟรีตทางด้านซ้าย30องศา พิกัดหางเสือ20"เมอริวสั่ง ยานหันและยิงปืนใหญ่ทำให้บลิตซ์กับโซลหลบ
@@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
ลูกเรือพยายามดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด นอยแมนหัน เอียงและหมุนยานเพื่อเลี่ยงการยิงจากบัสเตอร์และจินน์ ขณะที่นาทาลพยายามยิงโมบิลสูททั้งสอง
เฟลท์จับตาดูทุกอย่าง การต่อสู้ของโมบิลสูท ความผันผวนของพลังงาน กระสุน สถานการณ์สิ้นหวัง แต่ในขณะเดียวกัน เธอตระหนักถึงปัญหาอย่างรวดเร็ว นาทาร์ลยิงดุเดือดเกินไป
“ร้อยตรีบาจิรูล ทั้งก็อตฟรีตและแวเรียตมีความร้อนสูงเกินไป”เฟลท์ร้องทำให้หลายคนตกใจ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ควบคุมการยิงขณะที่ยานสะเทือน”ลำแสงจากบัสเตอร์ ความร้อนของเกราะ23%”
“23%จากการโจมตีครั้งเดียว”เมอริวอ้าปากค้าง
“เราสร้างความร้อนจากการยิงอาวุธมากไป”เธอกล่าว”ฉันพยายามกระจายความร้อน แต่มันเพิ่มเร็วไป”
“ร้อยตรีบาจิรูล”เมอริวหันไปทางCIC”คุณต้องผ่อนคลายการยิง ใช้อีเกลสเตลลังต่อต้านโมบิลสูท อย่ายิงก็อตฟรีตหรือแวเรียตมากไป”
“รับทราบค่ะ”นาทาร์ลพูดปรับอาวุธอย่างรวดเร็ว
“กัปตัน ถ้าเราถอนปืนใหญ่ชั่วคราว ฉันสามารถถ่ายเทความร้อนเข้าไปในตัวถังได้”เฟลท์กล่าว”จากนั้นฉันสามารถกระจายความร้อนโดยใช้ระบบระบายเพื่อถ่ายเทเข้าสู่เครื่องยนต์ เราต้องลดความเร็วให้เหลือ1ใน4แล้วเปลี่ยนไปใช้การขับแบบขับดันเพียงอย่างเดียว และฉันสัญญามันจะไม่สร้างความเสียหายให้เครื่องยนต์ แต่ทำให้อาวุธพร้อมยิงภายใน1นาที”
เจ้าหน้าที่กองทัพโลกทั้งสามหันมามองเธอด้วยความตกใจ ขณะที่ทหารอาสามองเธอด้วยความงงงวย
จากนั้นทั้งยานสั่นสะเทือน
“ลงมือเลย”เมอริวตะคอก”สิบเอกนอยแมน คุณได้เวลามากขึ้นในการเตรียมให้พร้อม”
@@@@@@@@@
โดยที่นักสู้ไม่รู้ CGUEที่ได้รับการดัดแปลงและจินน์ที่ถูกดัดแปลงสังเกตการณ์จากระยะไกล
“นั่นคือโมบิลสูทรุ่นใหม่และยานมีขาจากเฮลิโอโปลิส”ผู้บัญชาการไดอาน่า เคสเซลกล่าวขณะเฝ้าดูการต่อสู้”ค่อนข้างน่าประทับใจ”
“ใช่ พวกออร์บรู้จักสร้างหุ่นที่ดูสง่างาม”อาเจย์ คอลเตสกล่าว
“แน่นอน”ลูเซียส เรฟชอว์”แม้ฉันสงสัยว่าการได้หุ่นพวกนี้มาคุ้มกับการทำลายเฮลิโอโปลิสหรือไม่”
“ใช่ พวกเขาน่าจะส่งพวกเรามา ไม่ใช่ราอูล เลอ ครูเซ่และเด็กน้อยพวกนั้น”
“ฉันต้องเตือนนายไหมอาเจย์ว่าหนึ่งในเด็กน้อยพวกนั้นคือน้องชายของฉัน”ไดอาน่าพูดกับลูกน้องเธอ
“ขอโทษครับกัปตัน ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”อาเจย์พูดอย่างรวดเร็วเพื่อเลี่ยงความโกรธของผู้บัญชาการ
“อย่ากังวลไปเลย น้องชายของฉันเป็นเด็กขี้เกียจและโง่เขลา แต่เขาเป็นคนเดียวที่บอกได้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เฮลิโอโปลิส”
“คุณสงสัยว่าครูเซ่จะโกหกเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่นำไปสู่การทำลายเฮลิโอโปลิสหรือไม่”
“แน่นอน ครูเซ่เป็นแค่งูเท่านั้น เขาจะบอกซาล่าว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นซาล่าจะจัดการกับข้อเท็จจริงทำให้ออร์บกับกองทัพโลกดูเหมือนคนร้าย ในขณะที่ครูเซ่กลายเป็นผู้บัญชาการที่ทำทุกอย่างเพื่อป้องกันการทำลายเฮลิโอโปลิส”
“คุณจะคาดหวังอะไรจากงูตัวนั้น”อาเจย์กล่าวอย่างรังเกียจ”มันเป็นแนวคิดว่าพวกเขาและคนทรยศที่ผู้บัญชาการจากไป”
ทั้งสามเงียบอยู่ครู่หนึ่ง
“กัปตัน เราจะมีส่วนร่วมในการรบครั้งนี้หรือไม่”ลูเซียสถาม
“ไม่ เราจะคอยดูว่าผลออกมาเป็นยังไง”
@@@@@@@@@
คริสหลบบีมไรเฟิลจากโซลและบลิตซ์ยิงกลับอย่างสุดความสามารถ
“สไตรค์ เรเวน เอ็กเซีย พวกเธออยู่ที่ไหน ทางนี้ต้องการความช่วยเหลือ”
“เรางานยุ่งนิดหน่อย”คริสตอบขณะหลบการโจมตีจากบลิตซ์และโซลขณะยิงกลับ
“ทางนี้ก็ด้วย เว้นแต่คุณต้องการให้เซนติเนลยิงใส่ยาน”เซ็ตสึนะกล่าว เขารับมือเซนติเนลและจินน์สีส้มได้ง่าย
“ให้ตายสิ ลูกพี่ลูกน้องเธอเก่งมาก”รัสตี้พูดอย่างรำคาญ แม้จินน์ติดบีมไรเฟิลก็ยิงไม่โดน ปัญหาใหญ่สุดคือหุ่นตัวนี้มีพลังงานสำรองเท่าไหร่ มันมีแสงพลังงานแปลกๆไหลจากกรวยด้านหลัง
“ใช่ พี่เอลของฉันเก่งอยู่แล้ว”เอเลน่ายิ้มขณะที่ฟาดฟันดาบกับเอ็กเซียอีกครั้ง รัสตี้เกือบจะขนลุกกับบุคลิกที่เปลี่ยนไปของนักบินสาว
คริสไม่รู้ว่าพวกเขาจะอยู่ได้นานแค่ไหน เขาแทบไม่สามารถต้านศัตรูคนไหนได้เลย ตอนนี้ถูกบังคับให้สู้กับสองตัวเวลาเดียวกัน และคนพวกนี้ไม่เหมือนจินน์คราวก่อน หุ่นพวกนี้คู่คู่กับสไตรค์ เอ็กเซียและหุ่นของเขา มันเหนือกว่าจินน์
ทั้งบลิตซ์และโซลยิงอาวุธกรงเล็บใส่เขา คริสหลบเลี่ยงมันและยิงปืนเรลกัน2-3นัดใส่พวกเขา มีเสียงเตือนในห้องนักบิน กระสุนเขากำลังจะหมด
“แย่แล้ว ต้องระวังไว้แล้ว”เขาพึมพำ
บลิตซ์พุ่งเข้าใส่เขาด้วยบีมเซเบอร์ คริสปัดป้องการโจมตีด้วยดาบขวาและเตะบลิตซ์กลับ โซลโจมตีด้วยดาบ คริสเอาโล่บล็อกผลักดันออกไป
“เตรียมยิงโลเอนกริน ระวัง”
คริสมองไปรอบๆอย่างรวดเร็ว คิระกำลังต่อสู้กับอีจิสและดูเอล เซ็ตสึนะกำลังดวลดาบกับเซนติเนล พวกเขาทั้งหมดอยู่นอกเขตอันตราย
ไม่หี่นาทีต่อมา ปืนใหญ่โลเอนกรินก็โผล่มาและยิงออกไป พลังงานจำนวนมหาศาลพุ่งไปหายานชั้นนาสก้า
“ดูเหมือนร้อยเอกฟลาก้าจะทำสำเร็จ”
ซึ่งหมายความว่ายานนาสก้าได้รับความเสียหายร้ายแรงและน่าจะถอยเรียกโมบิลสูทกลับ
ทันใดนั้นลำแสงบีมจากสไตรค์พุ่งผ่านเขาไป
“เฮ้ คิระ ดูซินายยิงไปที่ไหน นายจะยิงฉันหรือแบตเตอรี่หมด”
“ขอโทษ”คิระเล็งคู่ต่อสู้และยิง
แต่ไม่มีอะไรออกจากปืนไรเฟิล ครู่ต่อมาเกราะเฟสชิฟของสไตรค์ก็หยุดทำงาน
“ไม่นะ พลังงานกำลัง…”คิระตะโกนลั่น
ในตอนนั้นดูเอลก็ยกปืนไรเฟิลเล็งที่สไตรค์
“เดี๋ยวก่อนคิระ”คริสตะโกนเปลี่ยนเป็นโมบิลอาเมอร์พุ่งไปหาสไตรค์ที่หมดพลัง
แต่อีจิสอยู่ใกล้กว่าเปลี่ยนเป็นโมบิลอาเมอร์ใช้4ขาจับกุมสไตรค์ไว้ก่อนดูเอลจะยิงทิ้ง
"ทำอะไรของนายน่ะอัสรัน"อิซาคตะโกน
"หุ่นตัวนี้น่ะเราจะเอากลับไปด้วย"อัสรันตอบ
"คำสั่งคือทำลายมันนะ อย่าทำอะไรตามใจตัวเองสิ"ดีอัคก้ากล่าว
"ถ้าจับกลับไปได้ละก็ แบบนั้นจะดีกว่านะ ถอยกันได้แล้วล่ะ"อัสรันบอก
"อัสรัน!!!!!"อิซาคตะโกน
แม้ไม่พอใจแต่ทุกคนก็ถอยกลับยาน
"อัสรัน นายคิดจะทำอะไร?"คิระถาม ตอนนี้พวกเขาคุยกันได้โดยตรง
"ฉันจะพานายกลับไปที่กามอฟ"
"อย่าพูดบ้าๆน่า ฉันไม่ยอมไปที่ยานของซาฟท์หรอกน่า"
"นายอย่าดื้อนักเลยน่าคิระ ไม่งั้นละก็ฉันจำเป็นต้องยิงนายทิ้งซะ"
"อัสรัน"
"แม่ฉันตายในวาเลนไทน์เลือด ฉันก็เลย...."
เรดาห์ตรวจจับโมบิลสูทสองตัว เรเวนพุ่งตรงมาพร้อมกับจินน์ นักบินซาฟท์ทุกคนได้ยินจากผบ.ครูเซ่ว่าจินน์ตัวนึงถูกขโมยไป
"ทำอย่างนั้นฉันจะตัดคุณเช่นกันค่ะ"เซเรนพูด
"เธอเป็นใคร"อัสรันถามหัวขโมยจินน์"เธอได้เครื่องนั้นไปได้ยังไง?"
"อัสรัน ซาล่า มิตรภาพของคุณกับเอลเนสตี้และคิระเป็นเหตุผลเดียวที่ฉันปล่อยให้คุณรอดชีวิตไป สำหรับคำตอบของคำถามคุณ ฉันตัดสินใจว่าต้องการเจ้านี่มากกว่านักบินคนเก่า ฉันเลยฝังมีดลงคอเขา คุณได้คำตอบที่ต้องการหรือยัง?"
การโต้เถียงของพวกเขาถูกหยุดโดยบัสเตอร์ที่พยายามจะยิงจินน์ที่โดนขโมยไป
เซเรนขาดประสบการณ์สู้ด้วยโมบิลสูท แต่เธอรู้ดีว่าต้องทำยังไงและหลบลำแสงได้อย่างง่ายดาย เธอหยิบดาบที่ไหล่ออกมาฟันบัสเตอร์
"เอาล่ะ เดาว่านั่นคือดีอัคก้า เอลฟ์แมน์ใช่มั้ย?"
ดีอัคก้าถอยกลับเล็กน้อย นักบินจินน์ทำให้เขาสับสนได้
"ยานชั้นโลราเซียเข้ามาในระยะ280"
"กัปตันค่ะ"นาทาลร้อง
"เฟลท์ ได้ยินไหม"ด้านเฟลท์ที่ช่องCICได้รับการติดต่อจากเอล
"เซ็ตสึนะ มีอะไรเหรอ"ลักซ์ถามและฟังแผนการก่อนจะบอกพวกกัปตัน
"มีการติดต่อจากเซ็ตสึนะค่ะ เขาบอกว่าให้เตรียมเปิดช่องยิงลันเชอร์สไตรค์เกอร์ เขา คริสและร้อยเอกฟลาก้าจะช่วยคิระเอง"เฟลท์กล่าว
"คิดจะทำอะไรน่ะ?"เมอริวถาม
และเฟลท์ก็บอกแผนการบ้าบิ่นของเซ็ตสึนะทำให้ทุกคนอึ้ง
"จะบ้ารึไงกัน ถ้าพลาดไปล่ะก็..."
"เราไม่มีเวลาแล้วค่ะ เราจะต้องทำให้สำเร็จเท่านั้น!!!"เฟลท์โต้เถียงกับร้อยตรีทำให้นาทาลผงะไป
"เราไม่มีทางเลือกอื่น ฉันอนุญาติ"เมอริวกล่าว
คริสกับมูต่างได้รับข้อความแผนของเซ็ตสึนะ มันบ้าแต่มีแต่ต้องทำเท่านั้น
"ขอให้ทันทีเถอะเจ้าหนู"โมเบียสซีโร่กำลังพุ่งไปข้างหน้าเต็มกำลัง
การต่อสู้ระหว่างกันดั้มกำลังยุ่งเหยิง ดูเอล เซนติเนลและโซลกำลังยิงเรเวนที่บินไปมาไม่ให้เข้ามาช่วยสไตรค์ได้ แต่อย่างที่รู้ว่าอิซาคกับเอเลน่าไม่ต้องการฆ่าลูกพี่ลูกน้องตัวเอง
การปรากฎตัวของจินน์สร้างความสับสนให้ทุกคน และดีอัคก้าก็พลาดเพราะประมาทหัวขโมยจินน์เกินไป เขายอมรับเลยว่านักบินหญิงคนนี้มีฝีมือ
ทันใดนั้นเรเวนก็บินเลี้ยวกลับพุ่งไปหาบลิตซ์ นิโคลยิงไทเครอสแต่เรเวนหลบใช้กรงเล็บตัดแขนสองข้างทิ้งเข้ามาด้านหลัง เขาเปลี่ยนกลับเป็นโมบิลสูท บีมเซเบอร์ฟันตัดหัวบลิตซ์ ทำให้จอภาพใช้ไม่ได้แถมไม่มีอาวุธและชักปืนพิสทอลจ่อคอกพิท
"เอล!!!"ดูเอลพุ่งเข้ามาพร้อมบีมเซเบอร์
เรเวนใช้มืออีกข้างดึงบีมเซเบอร์มาป้องกันและผลักดูเอลออกไป
"เปรี้ยง!!"เรเวนยิงบีมใส่ค็อกพิททีนึง มันเป็นบีมขนาดเล็กจึงเจาะไม่ถึงห้องนักบิน แต่ก็ทำให้ค็อกพิทสะเทือน
ดูเอลหยุดโจมตีและนักบินซาฟท์คนอื่นหยุดทุกอย่าง ตอนนี้ชีวิตนิโคลอยู่ในกำมือเรเวน
"เอล นายคิดจะทำอะไร!!"อัสรันถาม"นายไม่ใช่ทหาร--"
"โอ แน่นอน"เพื่อนเก่าของเขาแย้ง"ผมไม่ใช่ตอนเราแยกกัน แต่มีหลายอย่างเกิดขึ้นใน1ปีที่ผ่านมา"
"ฉันไม่เข้าใจ"
"แน่นอนไอ้หนูถีบจักร"เอลเรียกฉายาเดิมสมัยเรียน"ถอยทัพซะไม่งั้นผมจะฆ่าเพื่อนคุณ"
"แต่--"
โมเบียสซีโร่มาถึงปล่อยกันบาเรลยิงจากทุกทิศทาง ในสภาพนี้ความเร็วอีจิสตกลงมาก เซเรนก็ยิงบีมไรเฟิลใส่อีกคน อัสรันไม่มีทางเลือกนอกจากเปลี่ยนเป็นร่างโมบิลสูทและปล่อยสไตรค์
"ขอบคุณมาก ตัวประกันผมคืนให้แล้วกัน"เรเวนจับบลิตซ์โยนไปทางเซนติเนลกระแทกโดนสะเทือนทั้งสองเครื่องและบินไปหาสไตรค์
"ร้อยเอกฟลาก้า"
"หนีไปเร็วเข้า อาร์คแองเจิ้ลจะยิงลันเชอร์ล่ะนะ แต่ว่าจะมีของใหญ่ตามหลังมาด้วย รีบๆเตรียมตัวติดตั้งให้ดีล่ะ"
เรเวนเปลี่ยนเป็นโมบิลอาเมอร์และเป็นแท่นเหยียบให้สไตรค์นั่งพาหนีไป
"คิระ เอล!!!"อัสรันตะโกน
"เจ้าหมอนั้น"อิซาคโกรธที่ติดกับ
"เจ้าบ้าเอ๊ย"ดีอัคก้าสบถ
โมบิลสูททั้ง6เครื่องไล่ตามมายิงบีมใส่แต่ไม่โดน
อาร์คแองเจิ้ลกับอาร์โกนอทช์ยิงปืนและมิสไซล์เพื่อคุ้มกันโมบิลสูททั้ง3โดยเฉพาะสไตรค์
"อย่าให้มันเข้าใกล้สไตรค์ได้นะ"นาทาลสั่ง
"สิบโทเมอร์ด็อก พร้อมหรือยัง"เมอริวถาม
"พร้อมทุกเมื่อเลย"เมอร์ด็อกตอบ ในช่องปล่อยตัว ลอนเชอร์สไตรค์เกอร์ถูกใส่แท่นปล่อยตัวแล้ว"แต่ว่าไอ้นี้มันเกินไปหน่อยละมั้ง เกิดไปตกหล่นระหว่างทางละก็แย่แน่"
"ฉันทราบดีค่ะว่ามันเสี่ยงไปหน่อย แต่ว่าจำเป็นต้องทำนี่ค่ะ"เมอริวโต้ตอบมองไปที่CIC"ร้อยตรีบาจิรูล คุณช่วยกะจังหวะให้ทีนะ"
"รับทราบ โอนการควบคุมยานมาที่นี่เลย"นาทาลพูดและสั่งลูกเรือในCIC"เลเซอร์ดิจิเนเตอร์ออนไลน์ ปรับความเร็วให้เข้ากับสไตรค์ คำนวนแรงเฉื่อยของการยิงลงไปยังคอมพิวเตอร์ของลอนเชอร์สไตรค์เกอร์ทันทีเลย"
เรเวนกำลังสู้กับดูเอลและบัสเตอร์
“ไปเลยคิระ”
“ขอบใจเอล”
ตอนนั้นเองสไตรค์โดดจากเรเวนบินไปใกล้ยานรอรับของแล้ว
"ไม่มีทางหรอกน่า!!!!"ดูเอลพุ่งเข้าไป
"ดูเอลใกล้เข้ามาแล้ว"แชนโดร่ารายงาน
ในเวลาเดียวกันสไตรค์ก็เดินหน้าไปอยู่แนวเดียวกับช่องปล่อยตัว สไตรค์แยกไอล์สไตรค์เกอร์ออกและเริ่มเปลี่ยนรูปแบบ
โซลสลัดจินน์ด้วยความเร็วพุ่งเข้าใส่แต่โดนเรเวนขวางไว้ ขณะที่ดูเอลยกบีมไรเฟิลเล็งสไตรค์
เขายิงกระสุนบาซูก้าที่ติดกับบีมไรเฟิลของดูเอลออกไป
กระสุนพุ่งเข้าไปในจังหวะที่ลอนเชอร์แพ็คถูกติดตั้งลงไปพอดี
"บรึ้มมมม!!!"
ทุกคนต่างเฝ้ามองแสงดูว่าเกิดอะไรขึ้น
"สำเร็จไหม?"อิซาคพูดอย่างตื่นเต้น
"เปรี้ยง!!!!!!"ปืนอัคนีพุ่งออกมาจากกลุ่มควัน ปืนละลายแขนขวาของดูเอลไป
เมื่อควันจางหายไปอิซาคก็เห็นสไตรค์ที่พุ่งเข้ามาด้วยรูปแบบใหม่ที่เปลี่ยนไป
ซึ่งภาพที่เห็นทำให้นักบินซาฟท์ทั้ง6ตกใจ
"เปรี้ยงๆๆ..."คิระยิงลอนเชอร์ใส่อีจิสและคนอื่นๆ แพนเธอร์ก็ร่วมยิงด้วยบีมแคนน่อน ทำให้พวกเขาต้องรีบหลบ แต่พวกเขารู้ว่าไม่อาจหลบได้ตลอดไป
ตัวอื่นก็เสียหายเหมือนกัน บัสเตอร์เสียขีปนาวุธที่ไหล่ เซนติเนลเสียแขนซ้าย อีจิสเสียโล่ บลิตซ์เสียหอกกุงนีล โซลไม่เสียหายเลยเพราะความเร็วแต่พลังงานเกราะใกล้จะหมด
ขณะเดียวกันสไตรค์มีพลังเต็มที่ จินน์ เรเวนและโมเบียสซีโร่กำลังลอยอยู่ใกล้ยานขวางพวกเขากับยานมีขา
"ถอยก่อนเถอะ อิซาค ดีอัคก้า ถึงสู้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรขึ้นมาหรอก"อัสรันกล่าว
"ว่าไงนะ!?"อิซาคถาม
"เวอซาเรียสถูกยิง"ซาอูลกล่าว”หรือนายไม่สนใจคำสั่ง”
“แบตเตอร์รี่ก็กำลังจะหมดแล้ว”เอเลน่ากล่าว
“ผมเห็นด้วยกับอัสรัน”นิโคลเสริม
"ใช่ หุ่นฉันเต็มไปด้วยควัน เราต้องถอยแล้ว"ซาอูลเห็นด้วย
"โธ่เว้ย!!!"อิซาคคำราม
คิระโล่งใจเมื่อหุ่นทั้ง6เครื่องล่าถอยไป พวกเขาชนะ เขาสงสัยว่าพวกนี้จะไล่ล่าพวกเขาอีกนานไหม
บางอย่างบอกเขาว่าจะต้องเจอกับพวกมันหลายครั้ง
@@@@@@@@@
กาโมฟ
ซาฟท์ชุดแดงทั้ง7คนกลับเข้ามาในห้องนักบินของยานกามอฟด้วยความอัปยศ เพราะรู้ว่าศึกครั้งนี้พวกเขาแพ้ บลิตซ์เข้าโรงเก็บเป็นตัวสุดท้าย
"นี่แกคิดจะทำอะไรกันแน่!!!"อิซาคกระแทกอัสรันใส่ตู้เก็บ"ถ้านายไม่ทำเรื่องบ้าๆแบบนั้นละก็ป่านนี้"
"ทำงานผิดพลาดไปหมดเลยนะเนี่ย เพราะนายขัดคำสั่งแท้ๆเลย"ดีอัคก้ากล่าว
"อิซาค ใจเย็นหน่อย มันไม่ใช่ความผิดของอัสรันนะ"เอเลน่ากล่าว ขณะเดียวกันนิโคลเข้ามาเห็นพอดี
"ทำอะไรน่ะครับ อย่านะครับดูสถานที่บ้างสิ"นิโคลกล่าว
"เราใช้หุ่นตั้ง7ตัวรุมมัน3ตัวนะ แต่ก็ยังจัดการมันไม่ได้ มีเรื่องงี่เง่าแบบนี้ได้ยังไงกัน"อิซาคกล่าว
"ถึงงั้นก็เถอะ เราจะโทษอัสรันคนเดียวน่ะไม่ได้นะครับ"นิโคลกล่าว
"นอกจากนี้นายกับเลช่าก็ทำใจยิงโมบิลสูทปล่อยแสงนั่นไม่ได้"ซาอูลชี้
อิซาคกัดฟันกรอดออกจากห้องไป ดีอัคก้าและเอเลน่าตามเขาไป
"ไปพักผ่อนกันเถอะ"รัสตี้พูดและออกไปอีกคน
"อัสรัน ผมเองก็คิดว่าไม่สมกับเป็นคุณเลยนะ แต่ว่า..."
"ให้ฉันอยู่คนเดียวสักพักได้ไหม นิโคล"อัสรันตัดบทแล้วออกไป
อัสรันมาที่ห้องกระแทกหมัดใส่ผนัง
"คิระ นีล"
@@@@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
เอ็กเซียเข้ายานมาตามด้วยสไตรค์ เซ็ตสึนะเปิดค็อกพิทออกมาแล้วเห็นมูโบกมือจากโมเบียสซีโร่ลอยมาหาเขา
“พวกเธอทำได้ดีมาก”มูกล่าวเบาๆ เซ็ตสึนะพยักหน้า
“ขอบคุณครับร้อยเอก”
“สำหรับอะไร”
“ที่ช่วยเราด้วยกลยุทธ์ของคุณ”เขากล่าว”และคุณอาจช่วยผมไว้เมื่อคุณจัดการจินนั้น ผมคิดว่าราอูล เลอ ครูเซ่ อยู่ในนั้น แต่ทำไมเขาไม่ใช้หุ่นกันดั้มที่ขโมยไป”
มูส่ายหัว
“ไม่หรอก ครูเซ่อยู่บนยาน”เขากล่าว”คงไม่กล้าเสี่ยงบินเพราะสถานการณ์การเมืองซาฟท์ โมบิลสูทสีส้มขับโดยร้อยโทของเขา กระสุนแห่งอัสดง ฉันคิดว่าชื่อเขาคือไอแมนหรืออะไรทำนองนั้น”
"ผมเข้าใจแล้ว...นั่นสมเหตุสมผลจริงๆ”เซ็ตสึนะกล่าวก่อนจะนึกได้เอียงศีรษะ”คุณรู้ได้อย่างไรครับ”
มูทำหน้าบึ้ง
“มันอาจฟังดูแปลกไปหน่อย แต่...ฉันจะรู้สึกตัวถ้าครูเซ่อยู่ใกล้”เขากล่าว”ฉันมีสัมผัสที่6ด้านนั้น คิดว่ามันเกี่ยวกับความสามารถใช้กระบอกปืนของซีโร่”
ตอนนั้นพวกเขาเห็นพวกช่างไปมุงดูที่สไตรค์เลยพากันไปดู
"เฮ้ เราจะทำไงกันล่ะ?"
"เกิดอะไรขึ้น?"มูถาม
"เปล่าหรอก ก็เจ้าหนูไม่ยอมออกมาน่ะสิ"
มูไปที่บริเวณค็อกพิทที่มีสลักฉุกเฉินไว้ให้เปิดออกมาได้
"เฮ้ คิระ ยามาโตะ"มูเรียก มองด้านในเห็นคิระนั่งตัวสั่น
"มันจบแล้วนะ เอ้า รีบๆออกมาเถอะน่า"มูจับมือคิระที่ยังจับคันบังคับ"ทั้งเธอ ทั้งเซ็ตสึนะ ทั้งฉันรอดตายกันหมด ยานเราปลอดภัยด้วยนะ เธอทำได้ดีมาก"
"อาร์เทมิสรับทราบ เขาอนุญาติให้เราเข้าไปได้ จะส่งเจ้าหน้าที่มาที่นี่ครับ"
"เข้าใจแล้ว ขอบใจมาก"ราเมียสพูดด้วยความโล่งอก ในที่สุดพวกเธอก็มาถึงฐานทัพของพันธมิตร อาร์คแองเจิ้ลจะได้เติมเสบียงและเชื้อเพลิงแล้วมุ่งหน้าไปที่ดวงจันทร์
@@@@@@@@@@
“ว้าว แม้จะได้เปรียบจำนวน7ต่อ3 แต่พวกเขาไม่สามารถทำลายโมบิลสูทได้แม้แต่ตัวเดียว”อาเจย์กล่าว”และกลยุทธ์ที่ใช้ช่วยเหลือสไตรค์น่าประทับใจมากและความบ้าบิ่นด้วย”
“บางทีอาจเป็นข้อพิสูจน์ทักษะของนักบินโมบิลสูททั้งสามและลูกเรือ”ลูเซียสกล่าว
“หรืออาจเป็นแค่โชค”ไดอาน่ากล่าว”เราจะกลับไปที่โอดิน”
“ครับกัปตัน”
@@@@@@@@@@
เวอซาเรียส
"มีคำสั่งจากฐานทัพมาถึงท่านนายพลครูเซ่ครับ"
ราอูลอ่านข้อความที่ได้รับแล้วยื่นให้อาเดส
"คำสั่งเรียกกลับจากสภาสูงเหรอครับ อะไรกัน เราอุตส่าห์ไล่ตามมันมาจนถึงที่นี่แล้วแท้ๆ"อาเดสบ่นและประหลาดใจ
"เรื่องความพินาศของเฮลิโอโปลิส ทางสภาคงกำลังถกเถียงกันอยู่แน่ๆ ทำไงได้ล่ะ เจ้านั้นน่ะให้กามอฟรับหน้าที่ล่ามันต่อไปละกัน ให้อัสรันกลับมาที่นี่ พอซ่อมแซมเสร็จแล้ว เวอซาเรียสจะมุ่งหน้ากลับแพลนท์ทันที"
ความจริงราอูลไม่อยากไป แต่ทางสภาสูงต้องการฟังเรื่องจากเขาโดยตรง และเขายังรู้สึกสนใจนักบินของสไตรค์กับเอ็กเซียมากยิ่งกว่าโมบิลสูทซะอีก
"กัปตัน มีการติดต่อมาจากกองยานที่11ครับ"
ทุกคนในบริดจ์มีปฏิกิริยา กองยานที่11นำโดยยานนาสก้า - แอเรียส หน่วยอโลบัส เป็นกองยานที่แข็งแกร่งที่สุดของซาฟท์ พวกเขาทำลายล้างกองยานของสหพันธ์โลกไปมากมายและรบชนะเวแกนหลายครั้ง
"ต่อสายมาเลย"ราอูลกล่าว
จากนั้นจอภาพของหญิงสาวผู้นำกองยานแองเจิ้ลคนปัจจุบันก็ปรากฏขึ้น เธอคือพันตรีไดอาน่า เคสเซล และเป็นพี่สาวของซาอูลนั่นเอง
"ผู้บัญชาการเคสเซล ผมประหลาดใจจริงที่คุณติดต่อมาหาเรา"ราอูลกล่าวด้วยรอยยิ้ม"ท่านมีเรื่องใดให้ผมช่วยเหลือ?"
"เราติดตามความล้มเหลวและความไร้ความสามารถของคุณพันเอกครูเซ่"ไดอาน่ากล่าวเสียงเรียบ
สมัยแองเจล่า โครวี่ เป็นผู้บัญชาการหน่วยแองเจิ้ลอยู่ เขาพูดเรื่องแย่เกี่ยวกับครู่เซ่ให้กับไดอาน่าฟัง ซึ่งผู้บัญชาการซาฟท์หลายคนก็ไม่ชอบครูเซ่
"เรื่องแรก ความล้มเหลวในการทำลายยานรบรุ่นใหม่ในท่าจอดยาน ประการที่2 มีความผิดฐานทำลายโคโลนี่ของประเทศเป็นกลาง ประการที่3 ล้มเหลวในการยึดหุ่นรุ่นใหม่ถึง3เครื่อง ประการที่ 4 เสียยานนาสก้าลำนึงในการรบกับเวแกน ประการที่5 คุณไม่บอกถึงความล้มเหลวเรื่องยานรบหรือโมบิลสูท และประการสุดท้าย คุณมียานรบ2ลำและหุ่นรุ่นใหม่6เครื่อง คุณก็ยังถูกบังคับให้ถอยหนีด้วยฝีมือของยานรบรุ่นใหม่ โมบิลอาเมอร์และหุ่นรุ่นใหม่2เครื่องในเวลาไม่ถึง24ชั่วโมง ฉันไม่คิดว่าคุณจะหนีการลงโทษใดๆได้ ไม่ว่าแพทริค ซาล่าจะช่วยคุณหรือไม่"
"ผมได้รับคำสั่งเรียกตัวกลับไปรายงานต่อสภาแล้วครับ"ราอูลพูดเสียงโกรธ"ผมต้องซ่อมแซมเวอซาเรียสและเขายังต้องการให้นักบิน2คนของฉันรายงานเรื่องโมบิลสูทต่อสภา ผมสั่งให้กาโมฟและนักบินหุ่นรุ่นใหม่อีก4คนติดตามยานมีขาต่อไป แต่ถ้าคุณต้องการ คุณอาจเข้าไปบัญชาการและลองจับกุมยานลำนั้น"
ไดอาน่ารู้ว่ามันคือการท้าทายของครูเซ่อย่างไม่ต้องสงสัย ราอูลต้องการให้ทีมอโลบัสล้มเหลว ถ้ามันเกิดขึ้น ราอูลจะรักษาหน้าไว้ได้และไดอาน่าจะเสียหน้า แต่มันก็เป็นการพนันกัน ถ้าทีมอโลบัสสามารถทำลายยานมีขาและโมบิลสูทได้ ราอูลต้องรับความอัปยศไป
"เราจะเล่นเกมของคุณครูเซ่ แต่ฉันต้องการข้อมูลทั้งหมดของยานมีขาและโมบิลสูท ฉันต้องการข้อมูลทั้งหมด"
"แน่นอนครับ ผมจะส่งข้อมูลทั้งหมดไปให้"ราอูลกล่าวด้วยรอยยิ้ม"ตอนนี้ยานมีขาเข้าไปในอาร์เทมิสแล้ว ขอให้คุณโชคดี"
"ฉันไม่ต้องการโชค ราอูล เลอ ครูเซ่"
"อีกอย่างหนึ่งผู้บัญชาการเคสเซล เหยี่ยวแห่งเอนดีเบี่ยน มู ลา ฟลาก้าก็อยู่บนยานลำนั้น"
ลูกเรือยานแอเรียสต่างมองไดอาน่า เธอเป็นนักบินคนที่5ที่โดนฟลาก้ายิงตกในศึกที่เอนดีเบี่ยน พวกเขารู้ว่าเธอปราถนาจะแก้แค้นความพ่ายแพ้และความอัปยศนั้น
"ฉันไม่ต้องให้คุณบอกฉันราอูล"ไดอาน่าตอบเสียงเย็นชา"มีโมเบียสซีโร่ลำเดียวเท่านั้นที่ใช้งานกันบาเรลแบบนั้นได้คือมู ลา ฟลาก้า จำคำพูดฉันไว้ ฉันจะทำลายอาร์เทมิสและจับยานมีขากับโมบิลสูทของมัน"
จากนั้นจอภาพก็ดับไป
"เอาล่ะ ทำให้ดีหน่อยล่ะยานมีขา ฉันพนันข้างพวกนายนะ"ราอูลยิ้ม
@@@@@@@@@@@@
อาร์คแองเจิ้ล
“เฟลท์ เกรซ?”
สาวผมชมพูเงยหน้าขึ้นจากที่ทำงานมองเหยี่ยวแห่งเอนดีเบี่ยน
“ฉันมีเรื่องอยากจะถามเธอหน่อย”เขากล่าว”มาด้วยกันหน่อยได้ไหม”
“ได้ค่ะ”เธอกลับไปที่คอนโซลป้อนคำสั่ง2-3คำ”ยังไงก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว”
“ฉันจะรับช่วงการติดต่อกับอาร์เทมิสเอง”นาทาลกล่าว
มูและเฟลท์พยักหน้าขอบคุณขณะวัยรุ่นปลดเข็มขัดและตามมูออกจากสะพาน
ไม่กี่นาทีต่อมา ทั้งสองอยู่ในห้องที่เฟลท์คิดว่าเป็นสำนักงานที่มีไว้สำหรับหัวหน้ายาน
“มีอะไรหรือค่ะร้อยเอก”
“ฉันอยากจะขอบคุณสำหรับทุกอย่างที่เธอทำ ได้ยินจากกัปตันและเด็กๆ เธอช่วยเหลือมากระหว่างการรบ”
“ฉันแค่ทำในสิ่งที่ฉันทำได้”
“อาจจะ แต่เธอฝีมือเยี่ยมมาก”มูกล่าว”ฟังนะ ไม่ได้ถือสาอะไร อย่างที่พูดฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่เธอทำ อดีตก็คืออดีต แต่ฉันจำเป็นต้องรู้”
เธอยิ้มออกมาเล็กน้อยไม่ได้คิดจะซ่อนมัน เธอรู้อยู่แล้วเขาจะถามเรื่องอะไร
“บอกมาตรงๆ เธอเคยเป็นทหารซาฟท์ใช่ไหม”
ความคิดเห็น