ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate Ragnarok : GOD VS Heroic Spirit

    ลำดับตอนที่ #3 : หลับไหลชั่วนิรันดร์

    • อัปเดตล่าสุด 3 ก.พ. 64


    มาร์ดุกมองไปที่หน้าจอมือถือที่ภรรยาเขารับมือ รายชื่อนักสู้ของทั้งทวยเทพและมนุษย์ เทพธิดาแห่งดวงจันทร์มองผู้เข้าร่วมด้วยความกังวลโดยเฉพาะแม่มดแห่งดันสไกฟ์หรือสัตว์ร้ายของอลายา”

    เขาจะจัดการสิ่งที่เขาเริ่มต้นเมื่อนานมาแล้ว

    ในทางกลับกันเทพเจ้าในเงามืดบางคนมองโทรศัพย์มือถือดูรายชื่อนักสู้

    ดวงตาของเทพเจ้าสว่างขึ้นด้วยเปลวไฟสีทอง

    “โอ้ ดูเหมือนข้าจะได้สนุกมากกว่าที่คิด”

    ขณะเดียวกันเทพเจ้าทั้งหมดตกตะลึงมองราชาแห่งเซลติกได้รับบาดเจ็บ มนุษย์ชาติโห่ร้องด้วยความยินดี

    “เจ้ามนุษย์นั่นสร้างบาดแผลให้แก่ท่านแด็กดางั้นเหรอ”ดาร์นุคร้อง ภรรยาของเทพเจ้าแห่งความรู้ตะโกนด้วยควาทตกใจและโกรธ

    “บ้าน่า นี่ไม่ได้ล้อเล่นกันใช่ไหม”เซอร์นอนัส เทพเจ้าแห่งธรรมชาติของเซลติก มีหัวเหมือนกวางมูส

    ในจังหวะนั้นทั้งอีวานและแด็กดาต่างก็คิดตรงกัน

    “เจ้าไพร่นี่กล้าท้าทายยุคสมัยของข้าได้ยังไง”

    สำหรับพวกเขาการต่อสู้เพื่อความอยู่รอดหรือล้างบางมนุษย์ชาติเป็นเรื่องเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความขุ่นเคืองและตื่นเต้นที่พวกเขาแสดงอำนาจตนในฐานะกษัตริย์ จักรพรรดิหรือผู้ปกครอง

    อีวานและแด็กดาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง

    “ข้าเข้าใจแล้ว”มาร์ดุ๊คพูด”ข้าจะต่อสู้ มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

    การต่อสู้ดำเนินไปมีบางสิ่งดึงดูดความสนใจราชาแห่งเทพเจ้าซุส ผู้ซึ่งครุ่นคิดดึงดูดความสนใจฮาเดสและหนุ่มพ่อบ้านข้างๆ


    เทพเจ้าแห่งการโจรกรรมและการสื่อสารของโอลิมปัส เฮอร์มิสที่เห็นสีหน้าพ่อก็ตะโกนข้างหู

    “ท่านซุส!!! มีอะไรเกี่ยวกับเขาที่ท่านสนใจงั้นหรือครับ”

    “มีบางอย่างที่ไม่น่าเป็นไปได้เกิดขึ้นน่ะสิ”

    “ท่านกำลังสงสัยว่าทำไมมนุษย์ถึงสามารถสู้ทัดเทียมเทพเจ้าได้!!“เฮอร์มิสตะโกนอีกครั้งทำให้ซุสโกรธ

    “เฮ้ย หุบปากได้แล้ว อย่ามาตะโกนข้างหูข้าสิ ข้าไม่ได้แก่ขนาดที่จะหูหนวกหรอกนะ”

    “เอาเถอะ อีกอย่างที่ข้าสงสัยก็คือมันกำลังสู้กับคันธนูของแด็กดาเลยนะ อาวุธที่สร้างโดยมนุษย์น่ะเทียบกันไม่ได้หรอก แค่ปะทะก็พังแล้ว”ซุสแสดงความเห็น

    “อาวุธที่สร้างโดยมนุษย์น่ะไม่มีทางเทียบศาสตราเทพ...เดี๋ยวก่อนนะหรือว่า”ซุสจ้องไปยังบรุนฮิลด์ที่ส่งยิ้มให้ราชาแห่งทวยเทพ


    ย้อนอดีต

    ก่อนหน้านี้บรินฮิลด์และแกรอารวมตัวกับพี่น้องวัลคีรี่คนอื่น

    “ข้าได้เลือกเขาคนนี้เป็นตัวแทนคนแรกของมนุษย์ชาติ”

    “แต่ว่าพี่สาว ไม่มีทางเลยที่มนุษย์จะชนะเทพศาสตราได้”

    “แหงอยู่แล้ว”

    “แหงอยู่แล้ว!!!?”

    “ต่อหน้าเทพศาสตราแล้วอาวุธของมนุษย์ก็ไม่ต่างไปจากของเล่นหรอก หากปะทะกันก็คงจะแหลกในไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำ”

    “พวกเราจบสิ้นแล้ว”แกรอาทรุดลงร้องไห้โฮ

    “งั้นข้าขอถามเจ้า ถ้าหากมนุษย์ก็มีเทพศาสตราเหมือนกันล่ะ”

    “เอ๋?”

    “ใช่แล้ว มีเพียงเทพศาสตราที่จะสามารถต่อกรกับเทพศาสตราด้วยกันได้”

    “เรียกข้างั้นหรือคะ ท่านพี่ พวกเราเหล่าพี่น้องวัลคีรี่ ได้มาปรากฎกายตามคำบัญชาของท่านแล้วค่ะ”


    “นี่เป็นครั้งแรกเลยที่พวกเราได้อยู่กันพร้อมหน้าเลยนะคะเนี่ย แต่ทำไมกันล่ะ”

    “เดินมาข้างหน้าสิ แรนกริช”


    “เทพศาสตราที่ท่านแด็กดาถืออยู่นั้น เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในเทพศาสตราที่โกงที่สุดเลยก็ว่าได้ ในการจะเอาชนะท่านนั้น เราจำเป็นจะต้องหาวิธีรับมือเทพศาสตราให้ได้ก่อน”บรินฮิลด์อธิบายก่อนจะจ้องมองแรนกริช

    “แรนกริช เจ้านั้นจะพลีกายเพื่อข้าได้หรือไม่?“

    “ได้ค่ะท่านพี่ ด้วยความยินดี”

    “พลีกาย?”แกรอาไม่เข้าใจ

    จบการย้อนอดีต

    อาวุธทั้งสองแยกกัน และคทาของจักรพรรดิรัสเซียก็เปล่งแสง

    “นี่มัน คทาของอีวานกำลังส่องแสง”

    “หืม อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด”

    “อาวุธนั่นมันอะไรกัน?”เฮอร์มิสภาม

    “นี่แหละคือพลังที่พวกเราเหล่าวัลคีรี่นั่นถือครองอยู่ เพื่อที่จะต่อกรกับเทพศาสตราของเหล่าทวยเทพ ต้องใช้เทพศาสตราของพวกเราเอง ร่างของวัลคีรี่นั้นสามารถแปรเปลี่ยนเป็นอาวุธให้แก่มนุษย์ได้ เท่ากับว่ามนุษย์คนนั้นจะได้เทพศาสตรามาใช้ พลังนั้นก็คือ...โวลุนก์”


    “เทพศาสตราของแด็กดาถูกทำลาย?”เขาตะโกนอย่างตกตะลึงขณะที่ซุสลูบคาง ฮาร์เดสมองภาพนี้ด้วยความสนใจ เซธมองด้วยความแข็งกระด้าง โพไซดอนโผล่ขึ้นมาบนอัฒจันทร์เพื่อดูภาพนี้


    บรินฮิลด์มองออกไปจากการต่อสู้ไปที่ดวงอาทิตย์ซึ่งเกือบจะเที่ยงแล้ว

    “ไม่มีโล่ใดที่จักรพรรดิผู้นี้ทำลายไม่ได้”

    “ดูเหมือนว่าจะได้เวลาสนุกแล้วสินะ”

    “คทาของอีวานได้ทำลายอุลเทีย”

    “เยี่ยมมาก”

    “เห็นหรือยังเจ้าพวกเทพ นั่นแหละนักรบที่แกร่งที่สุดของพวกเรา”กูดาโกะตะโกนใส่พวกเทพเจ้า

    “รุ่นพี่ใจเย็นๆค่ะ”มาชูพยายามห้ามแต่มีรอยยิ้มเล็กๆ

    “จักรพรรดิ”ปาร์ตี้และยากะ

    “อีวาน!!!”

    ในวินาทีนั้นเหล่ามวลมนุษย์ต่างก็ยินดี เมื่อสัมผัสได้ถึงความหวัง

    เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ไม่สิ เป็นครั้งแรกในการมีอยู่ของมวลมนุษย์ชาติ ที่มนุษย์สามารถก้าวข้ามผู้ที่สร้างสรรค์ตนเองขึ้นมาได้

    อดัม มนุษย์คนแรกต้องภูมิใจ

    “หน้าที่อันทรงเกียรติของเหล่าวัลคีรี่นั้นคือการนำทางให้แก่เหล่าวิญญาณ พวกเธอลงไปยังโลก นำพาเหล่าวีรชนมายังวัลฮัลล่าเพื่อปกป้องสรวงสวรรค์จากภัยคุกคาม พวกเธอก็จะสร้างกองทัพเพื่อเหล่าเทพขึ้นมา”

    “ยังไงก็ตามแต่ ในอดีตนั้นมีข่าวลือว่ากันว่าเป้าหมายที่แท้จริงของวัลคีรี่นั้นไม่ใช่การนำพาวิญญาณมาสร้างกองทัพเพื่อปกป้องสรวงสวรรค์ แต่ทว่าเป็นการผูกสายสัมพันธ์กับเหล่าวีรชนที่ถูกเรียกมายังวัลฮัลล่า และวัลคีรี่เหล่านั้นก็แปลงกายเป็นอาวุธที่เหมาะสมที่สุดกับวีรชนผู้นั้น เพื่อแลกกับพลังของเทพเจ้า วีรชนผู้นั้นเองก็จะต้องทุ่มเททุกอย่างให้กลับไปเช่นกัน...การแลกเปลี่ยนนั้นถูกเรียกว่าโวลุนถ์”


    “วิญญาณที่ถูกนำพามาโดยเหล่าวัลคีรี่นั้นก็จะได้พลังทัดเทียมเทพเจ้า นั้นคือแก่นแท้ของแร็กนาร็อค”ฮาเดสกล่าว

    “ท่านขโมยคำพูดข้า”

    หลังพูดจบเฮอร์มิสหันไปดูการต่อสู้ อีวานฟันขวานไปเต็มกำลัง แด็กดาหลบช้าไปหน่อยเฉี่ยวไหล่เรียกเลือด

    ซุสเริ่มสั่นจากคำพูดของเฮอร์มิส ฮาร์เยิ้มเมื่อได้ยินเสียงกัดฟันของอะพอลโล่ หลานชายของเขา

    “อะพอลโล่ดูเหมือนจะไม่ชอบชายที่ชื่ออีวาน”เทพแห่งยมโลกคิดในใจ

    “เจ้าพวกนั้น...บังอาจ...กับทวยเทพแล้ว...นี่มันการปฎิวัติชัดๆ”ซุสตัวสั่นเทาด้วยความโกรธ

    “แต่ว่านะการที่วัลคีรี่พวกนั้นจะหันมาแว้งกันพวกเรา...น่าตื่นเต้นสุดๆไปเลยไม่ใช่รึไง ยิ่งกว่าตอนเกิดบิ๊กแบงซะอีก”


    “ใช่มั้ยล่ะ อลายาจัง”ซุสเริ่มผิวปากเรียกชื่ออลายาที่ไม่แสดงกิริยาแต่รู้สึกรังเกียจ ฮาร์เดสยิ้มขบขันกับการแสดงตลกของพี่ชาย เฮอร์มิสรู้สึกอึดอัดและหวังว่าเขาจะเป็นลูกชายของโพไซดอน


    “เทพธิดาที่ถูกเกลียดชังที่สุดและเทพเจ้าที่น่ารังเกียจที่สุด”อาโอโกะยิ้มเย้ยหยัน”พวกเขาเป็นคู่ที่เหมาะสม”

    อลายายิ้มน่ากลัวให้เรียวกิชิกิ

    “ข้าไม่ทำลายเจ้าเพราะเจ้าจำเป็น”

    ตอนนั้นเองอีวานกับแด็กดาก็เริ่มเคลื่อนไหวดึงดูดความสนใจทั้งเทพและมนุษย์

    มันเหมือนบางอย่างกระแทกพื้นซ้ำๆจนแผ่นดินสะเทือน

    ค้อนของแด็กดาส่งแรงสั่นสะเทือนนั้นออกมา

    “โอ้”คางุสึจิยิ้ม”เจ้าจะใช้พลังที่เผชิญหน้าลู้ดคุงแล้วหรือท่านแด็กดา? หรือจะโกง? หึๆๆๆ”

    มาร์ดุกจัองค้อนแด็กดาครู่หนึ่งก่อนจะหลับตาไม่สนใจ

    วิษณุมองราชาเซลติกอย่างเคร่งขรึม

    “เจ้าตื่นแล้ว”

    แด็กดายิ้มเดินไปที่ค้อนของเขา

    เทพเซลติกยกมันขึ้น เทพศาสตราของเขามีอักษรรูนลุกเป็นไฟ

    “ข้ายังเด็กเกินกว่าจะใช้พลังของท่าน แต่แกนกลางนี้...แด็กดากลืนโลหะทรงกลมเข้าไป

    พลังแด็กดาเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล แผ่นดินสั่นสะเทือน สวรรค์สั่นคลอน ทะเลเดือด....ความพิโรธของเทพเจ้า

    ทุกคนมองด้วยความประหลาดใจ เมื่อเทพเจ้าผู้แก่ชราดูเด็กลงไปหลายสิบปีและเส้นผมของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดง

    เขายกค้อนขึ้นอย่างสบาย ค้อนที่หนักเท่าภูเขา

    “และไม่นึกว่ามนุษย์ทำให้ข้าต้องใช้พลังทั้งหมด”แด็กดายิ้มให้จักรพรรดิรัสเซีย”มีเพียงลู้ดที่ทำให้ข้าต้องใช้มัน จงภูมิใจซะเถอะจักรพรรดิสายฟ้า”

    เทพเจ้าที่ถูกพูดถึงมองราชาเซลติกอย่างไม่เต็มใจ เขาไม่มีอะไรจะพูดกับบิดาแห่งความรู้

    เขารู้แค่ว่าจะได้ในสิ่งที่เขาสมควรได้

    “อย่าตายเร็วนักล่ะจักรพรรดิมนุษย์”แด็กดายกค้อนขึ้นเตรียมใช้การโจมตีที่ทรงพลังที่สุด

    ร่างของอีวานปกคลุมไปด้วยสายฟ้า

    “ในที่สุดดูเหมือนราชาแห่งเซลติกได้ตัดสินใจเอาจริงแล้วครับ บทสรุปของศึกนี้กำลังจะมาถึงแล้วอย่างงั้นหรือ?“

    “ถะ...ถ้าตอนนี้เขาพึ่งคิดที่จะเอาจริงแล้วไอ้ท่าก่อนหน้านี้มันอะไรกัน”ปาร์ตี้ถาม

    “ก่อนหน้านี้ก็แข็งแกร่งสุดๆไปเลยไม่ใช่หรือยังไง”ยากะกังวลแทนจักรพรรดิของเขา

    “โอ้ แด็กดากำลังจะเอาจริง ข้าไม่ได้เห็นมาซะตั้งนาน”เซธยิ้มกว้าง

    “แด็กดาจะเอาจริงงั้นหรือ? ข้าเองก็เพิ่งจะเคยเห็นนะเนี่ย”พระศิวะกล่าว

    เทพเจ้าทั้งหมดเฝ้ารอจะได้เห็นพลังของแด็กดา แม้เป็นสิ่งมีชีวิตเก่าแก่ แต่ภาพนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่หาดูได้ยาก

    ออร่าของจักรพรรดิสายฟ้าแผ่ไปทั่วดินแดนของเขา แผ่นดิสแตกและแรงสั่นสะเทือนมากขึ้นเรื่อยๆ

    “งั้นข้าก็ต้องเอาจริงเหมือนกัน”อีวานพึมพำพร้อมกับมีสายฟ้าล้อมรอบ

    เขาเปลี่ยนร่างเป็นแมมมอธขนาดเท่าภูเขาเตรียมเผชิญหน้ากับภัยพิบัติที่เทพเจ้าจะเรียกมา

    แด็กดามองด้วยความประหลาดใจและยินดีกับร่างใหม่ของซาร์

    “วันหนึ่งข้าจะเดินทางไปถึงสวรรค์”

    แล้วเทพเจ้าก็เหวี่ยงค้อนของเขา

    “ซเวอรี่ เครสนีย์โคลด์”

    สัตว์ร้ายที่มาพร้อมกับข้าในการเดินทางของข้า

    “ลอร์กมอร์!!”

    การกำเนิดของการบดขยี้แห่งความตาย(แปลไม่ถูกเหมือนกัน)

    แมมอธยิงสายฟ้าขณะที่ค้อนปลดปล่อยคลื่นทำลายล้างออกมา

    ขณะที่แด็กดายิ้มอย่างมีความสุขที่ได้เอาจริง

    ก็เป็นช่วงเวลาที่อีวานตกอยู่ในสถานะลำบากที่สุดเช่นกัน

    คลื่นกระแทกกว้างมากและทำลายสิ่งแวดล้อมทั้งหมด 

    ทั้งมนุษย์และเทพเจ้าต่างเฝ้ามองด้วยความตกใจและลุ้นว่าใครจะเป็นผู้ชนะ

    แต่ชายในชุดสูทดำแข็งทื่อ พวกเขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่เลวร้าย

    เมื่อควันจางลงก็เห็นแด็กดาที่เหนื่อยล้า ผมสีแดงเริ่มเปลี่ยนกลับเป็นสีขาว แต่คนที่สภาพแย่ที่สุดคืออีวาน

    ร่างที่แหลกสลายของเขานอนราบกับพื้น

    “อีวาน”ริทสึกะและกูดาโกะร้องขึ้น

    “จักรพรรดิ”ยากะตะโกน

    “จะจบศึกแรกเช่นนี้หรือ ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของฝั่งทวยเทพ”

    คางุสึจิยิ้มเยาะ เขาเพลิดเพลินตลอดเวลาที่ได้เห็นมนุษย์ทำอะไรโง่ๆ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันรักพวกเขา เทพเจ้านอกรีตยิ้ม พวกเขามักทำสิ่งที่อยู่เหนือสามัญสำนึกของทวยเทพ

    แด็กดายกค้อนขึ้น มันจบแล้ว

    แต่ก่อนที่เขาจะทุบร่างซาร์ให้แหลกลูกธนูก็แทงเข้าที่ไหล่

    “อั๊ก”ลูกธนูมีพลังแบบเดียวกับคทาอีวานก่อนหน้านี้

    “ยังเร็วเกินไปที่จะยอมแพ้นะแกรอา”บรินฮิลด์กล่าว

    พวกเขาปรากฎตัวในดินแดนรัสเซียเมื่อจักรพรรดิหลับไหล เหล่าราชองครักษ์ของเขา

    “เรามีผู้บุกรุก”ไฮม์ไดม์ตะโกน


    ชายสวมหน้ากากสีดำปรากฎตัวบนผืนหิมะ ถือขวานและหน้าไม้พร้อมปกป้องจักรพรรดิที่กำลังนิทรา

    “พวกเขายังไม่ยอมแพ้ เจ้าก็อย่าถอดใจ”บรินฮิลด์กล่าว

    ไซโคนิส โอเพียซ

    สุนัขโค๊ทดำในความฝัน

    “แม้ข้าเองก็อยากเห็นเขาสู้ต่อ แต่คงมาได้แค่นี้แหละ เขาแทบจะไม่หายใจแล้ว”ไฮม์ไดม์คิดในใจ

    “เขาจะตายที่นี่ พวกเจ้าเห็นด้วยไหม”

    สุนัขดำไม่ตอบแต่วิ่งเข้าต่อสู้

    บอกาแห่งความรู้ตอบสนองด้วยการเหวี่ยงค้อน ผืนดินสั้นสะเทือนทุกครั้งที่เขาโจมตีบดขยี้นักรบเหล่านั้น

    “ช่างโหดร้ายซะจริง”เซธพูดอย่างขบขัน  

    “มนุษย์เสียสละเพื่อโอกาสเล็กๆ”คางุสึจิหัวเราะ”เมื่อแสงนั้นมอดดับ ก็จะเหลือแต่...ความสิ้นหวัง”

    และจากความสิ้นหวัง เขากำเนิดมา

    เสียงดังก้องเหมือนเซรามิกแตกดังขึ้น แต่ไม่รู้มาจากไหน

    ขณะเดียวกันทุกคนเฝ้าดูด้วยความสยดสยองเมื่อราชองครักษ์ของจักรพรรดิตายจากการโจมตีของราชาเซลติก

    “ท่านซุส แบบนี้มันโอเคเหรอ? ตามกฎของการประลองแล้วน่ะ”

    “ไร้สาระน่าเฮอร์มิส”ซุสกล่าว”ดูให้ดีๆสิ มนุษย์เหล่านั้นมอบชีวิตให้จักรพรรดิ ชีวิตพวกเขาไร้ความหมายหากไม่มีเขา”

    เสียงแตกดังขึ้นอีก

    “เร็วเข้า อีกนิดเดียว”อลายากัดฟัน

    พวกเขาต้องรออีกไม่กี่อึดใจ

    และเมื่อราชองครักษ์คนสุดท้ายตายลง

    ความโกรธของจักรพรรดิสายฟ้าดังก้องไปทั่วสนามรบอีกครั้ง

    ร่างที่แตกสลายของอีวานถูกทำลายจนหมด...และเกิดใหม่ด้วยรูปลักษณ์ใหม่

    เขาวิวัฒนาการ

    มนุษย์มีความสามารถในการวิวัฒนาการและเรียนรู้จากความล้มเหลว

    แต่ในกรณีของอีวาน เขามีวิวัฒนาการขณะนิทรา และในช่วงที่ราชองครักษ์ปกป้องเขา เขาก็ก้าวข้ามขีดจำกัดตัวเองได้


    ทุกคนหวาดกลัวกับรูปลักษณ์และพลังใหม่ของจักรพรรดิสายฟ้า

    “ต้องขอบคุณการซื้อเวลาของราชองครักษ์ จักรพรรดิสายฟ้าก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง การดวลครั้งสุดท้ายกำลังจะเริ่มขึ้น”

    อีวานพุ่งไปเร็วดุจสายฟ้าและคทาของเขาแทงด้านข้างของเทพเจ้า

    แด็กดาแสยะยิ้มชื่นชมพลังใหม่ของคู่ต่อสู้เขา

    “เอาล่ะ งั้นเริ่มกันเลย”

    บิดาแห่งความรู้ฟาดค้อน แต่มนุษย์หลบด้วยความเร็วสูงและเฉือนขาของแด็กดาหลายครั้ง

    แด็กดารำคาญวาดอักษรรูนหลายอันเกิดระเบิด จักรพรรดิสายฟ้าตอบโต้โดยเหยียบพื้นฟ้าผ่าผ่านรอยแยกปะทะเปลวเพลิงของเทพเจ้าและสลายไปทั้งคู่

    อีวานพุ่งเข้าหาเทพเจ้าเซลติกอีกครั้ง

    จักรพรรดิจะแทงเจาะหน้าอก แต่คราวนี้แด็กดาหยุดด้วยค้อนของเขา

    “ตายซะ”เขาปลดปล่อยระเบิดเพลิงผลักมนุษย์ไถลไปกับพื้น

    ค้อนฟาดพื้นสร้างคลื่นกระแทกใส่วีรชนที่ไม่อาจหลบและใช้ไฟฟ้าป้องกันตัวเอง แต่ก็ได้รับบาดเจ็บพอสมควร

    “แด็กดา”ดานุคกล่าว

    “อีวาน”อนาสตาเซียกล่าว

    ทั้งคู่แทบลืมหายใจเฝ้าดูการต่อสู้ เหล่าผู้ชมทั้งเทพและมนุษย์ก็ตกตะลึงพอๆกัน

    สายฟ้าและลมปะทะกัน พื้นดินแยกออก

    “ย๊าก”อีวานเหวี่ยงค้อนกระแทกไหล่แด็กดา

    การโจมตีหันเข้าไหล่ แต่บิดาแห่งความรู้คว้าแขนเขาไว้

    อักษรรูนหลายอันปรากฎขึ้นมา

    “บ้าเอ๊ย”จักรพรรดิตะโกน

    “จักรพรรดิ”ยากะอุทาน

    “อีวาน”ริทสึกะและกูดาโกะตะโกน

    เกิดระเบิดส่งทั้งแด็กดาและอีวานบินไปทิศตรงข้าม ร่างซีกซ้ายแด็กดาโดนเผา ขณะที่ซาร์มีแผลไหม้หลายแห่ง

    ทั้งคู่เหน็ดเหนื่อยและอ่อนล้าแต่ยังลุกขึ้นและจับศาสตราของตน

    จักรพรรดิสายฟ้าจับคทาหอกที่ห่อหุ้มด้วยสายฟ้ารุนแรง

    “เหลือเชื่อมาก หลังการต่อสู้แสนดุเดือดในที่สุดทั้งคู่เตรียมจะโจมตีเต็มกำลังเพื่อตัดสินผลของศึกนี้”ไฮม์ไดม์ตะโกน

    แด็กดายิ้มอย่างดุดัน

    “เจ้ามนุษย์เอ๋ย ข้าชักถูกใจเจ้าซะแล้วสิ”

    เทพบิดาแห่งความรู้ยกค้อนด้วยมือทั้งสองข้างระเบิดพลังงานรุนแรง

    พวกเขาจะตัดสินด้วยทุกอย่างที่มี

    ลอร์กมอร์

    การกำเนิดแรงสั่นสะเทือนแห่งความตาย

    ซเวอนีย์ ไคโอนิส โคลด์

    ความฝันสุดท้ายในจุดจบของการเดินทาง

    จะไม่มีการออมมือ ตัวแทนทั้งสองรู้ดีว่าการโจมตีครั้งต่อไปจะเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในชีวิตของพวกเขา


    สองสัตว์ประหลาดปะทะกันด้วยศาสตราของพวกเขาในการโจมตีครั้งสุดท้ายที่จะตัดสินทุกอย่าง ซึ่งเป็นก้าวแรกของยุคใหม่

    ลองมอร์และอิมพีเรียล สเกปเตอร์ปะทะกัน แสงสว่างเจิดจ้าทำให้ทุกคนตาบอด

    ท้องฟ้าแยกออกด้วยคลื่นปะทะ


    และเมื่อแสงจางลงไปพวกเขาก็ได้เห็น

    อนาสตาเซียหลั่งน้ำตาออกมา

    ยากะร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด

    มนุษย์คนอื่นๆอ้าปากค้าง

    ริทสึกะ กูดาโกะและมาชูตกตะลึง สหายคาลเดียและคาลเดียมองภาพนั้นนิ่งๆ

    คทาของจักรพรรดิหักและวัลคีรี่ผู้กลายเป็นโวลุนด์ก็สลายเป็นฝุ่น

    ฝั่งเทพเจ้ามีสีหน้าคล้ายกัน

    เหล่าเทพเจ้าเซลติกอ้าปากค้างกับภาพตรงหน้า

    ค้อนอันเป็นศาสตราแตกละเอียด แขนขวาขาดหายไปและร่างซีกซ้ายถูกเผาไหม้เกรียมจนไม่น่าเชื่อว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่

    เพื่อเอาชนะมนุษย์คนนี้ แด็กดาต้องเสียศาสตราเทพและแขนของเขา

    อา...ได้เวลากลับไปนิทราแล้ว

    ข้านั้นทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว เพื่อไม่ให้ถูกจดจำในฐานะทรราช

    แต่ในฐานะมนุษย์

    ง่วงเหลือเกิน

    ร่างของจักรพรรดิสายฟ้าค่อยๆแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ สายลมพัดละอองหายไป ทุกคนมองอย่างตกตะลึง

    “คู่แรกของแร็กนาร็อค ทวยเทพเป็นฝ่ายชนะด้วยการโค่นศัตรูของแด็กดา การประลองคู่แรกได้จบลงแล้ว”

    ทวยเทพส่วนใหญ่โห่ร้องด้วยความตื่นเต้น ขณะที่ฝั่งมนุษย์เงียบกริบ

    แด็กดา VS อีวาน

    ระยะเวลา : 10นาที 47วินาที

    ท่าเผด็จศึก : ลอร์กมอร์

    ผู้ชนะ : แด็กดา


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×