ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fate Ragnarok : GOD VS Heroic Spirit

    ลำดับตอนที่ #7 : ความสิ้นหวังของมนุษย์ชาติ

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 64


    โอดินยังมีสีหน้ามืดและอีกาสองตัวเงียบไม่กล้าพูดอะไร

    "ใครจะไปคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นได้ ว่าในที่สุด ในคู่ที่2ของสงครามแร็กนาร็อค ฝั่งมนุษย์ชาติจะสามารถคว้าชัยชนะมาจากฝั่งทวยเทพได้ ตำนานเทพไร้พ่ายของเวเรทรัคนะถูกทำลาย"

    เสียงตะโกนเฉลิงฉลองของฝั่งมวลมนุษย์ยินดีต่อชัยชนะครั้งแรก เทพเจ้าเสียศักดิ์ศรีด้วยการพ่ายแพ้มนุษย์และสูญเสียเทพเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุดของเปอร์เซีย

    แจนน์และแอสโทโฟรกอดกันเพราะชัยชนะของซิก

    "ฉันรู้ว่านายทำได้"กรรณะแสดงความเห็นด้วยรอยยิ้ม

    "สิ่งนี้บอกว่าซิกเป็นมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก"เชคสเปียร์เขียนหนังสือเมามัน แต่ทุกคนแปลกใจเมื่อเซมิรามีสหันไปจูบอามาคุสะ ชิโร่อย่างดูดดื่ม

    "ไม่อยากเชื่อเลย...ท่านเวเรทรัคนะ"

    "เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้ยังไง"

    "ชนะแล้ว เราชนะแล้ว"แกรอาร้องยินดี

    "เห็นหรือยังเหล่าเทพ...นี่คือพลังของมวลมนุษย์"บรินฮิลด์มีรอยยิ้มใหญ่ด้วยสีหน้ามั่นใจ

    ซิกเช็ดฝุ่นที่เลอะเสื้อตรวจดูร่างกายหลังการต่อสู้กับเทพเจ้าสายฟ้าก่อนได้ยินเสียงจากด้านข้าง เขาสังเกตเห็นวัลคีรี่ที่เป็นอาวุธของเขาระหว่างต่อสู้มีบาดแผลแต่ไม่ร้ายแรงมาก

    "ขอแสดงความยินดีกับชัยชนะท่านซิก"แรนกริซยิ้มให้โฮมุนครูส

    "เพื่อปกป้องแจนน์และเพื่อนของผม ผมต่อสู้กับเทพเจ้าทั้งหมดในที่แห่งนี้โดยไม่สนผลที่ตามมา”

    "ไปกันเถอะ"วัลคีรี่เสนอมือให้ซิกซึ่งเขายอมรับมันและทั้งสองเริ่มเดินออกจากสนามกีฬา

    แต่ขณะกำลังเดินออกไปเขาสัมผัสถึงสายตารุนแรงเพ่งมองเขามองไปรอบๆ

    “มีอะไรเหรอครับ?”ไฮม์ไดม์ถาม

    “เปล่า”ซิกรีบออกไปและมุ่งหน้าไปห้องพยาบาลเพื่อรักษาแผลก่อนไปพบแจนน์

    สายตานั้นยังจ้องมองโฮมุนครูสที่หายไปจากสายตา

    “เตรียมการให้พร้อมนะ”

    “รับทราบครับ”

    @@@@@@@@@

    ในสนามประลองทุกคนเห็นเวเรทรัคนะตาย มนุษย์และเทพเจ้าเชื่อเช่นนั้น แต่ในความจริงชิ้นส่วนร่างของเวเรทรัคนะยังเหลือพลังพอจะกระเสือกกระสนออกมาจากลานประลองได้ มันไม่ใช่ความต้องการของ(อดีต)เทพไร้พ่าย แต่เป็นเพราะคำสาปไม่ให้เขาตายในการต่อสู้

    “เวเรทรัคนะเป็นยังไงบ้าง”เซฟานีถาม

    แอสเครพิอุสลุกขึ้นพร้อมกับรายงานทางการแพทย์

    “สภาพโคม่า เขากำลังจะตาย”

    “แต่เจ้าช่วยเขาได้ใช่ไหม”มิตราถามอย่างกังวล

    เทพเจ้ากรีกส่ายหัว

    “เขาอยากตาย ซุสเองก็อนุญาติให้เขาพักผ่อนชั่วนิรันดร์ในนิฟเฮม”

    “ทำไมทำอย่างนั้น!!”

    “คำพูดสุดท้ายของเขาคือการพบคู่ปรับของเขา...ฉันจะทิ้งรายละเอียดและสิ่งจำเป็นให้คุณ”ลูกชายของอพอลโล่เดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ

    ใครจะคิดว่าโฮมุนครูสจะสามารถเปลี่ยนโชคชะตาของเวเรทรัคนะได้

    “ข้าเข้าใจความรู้สึกนั้น”คางุสึจิพึมพำเศร้าอย่างประหลาด”ข้าอยากตาย ข้าเป็นหนี้มากมายให้เทพยอน บิซามอนเทนและหมอนี่”

    เทพเจ้าอัคคีชี้ไปยังเด็กน้อยผมฟ้าที่เพิ่งมาถึงวัลฮาล่าเข้าร่วมประชุมของเหล่าเทพ ตัวเด็กน้อยนั่งอยู่บนตักเทพีแห่งความงามพิงหน้าอกใหญ่เธออย่างสบาย

    “และข้ารวย”เทอร์ร่ายิ้มล เขาลงพนันได้ถูกว่าซิกจะชนะ

    “มันไม่ยุติธรรม เจ้ามีพลังมองดูอนาคต”คางุสึจิชี้จักรพรรดิแห่งกาลเวลา”การเดิมพันนี้ไม่นับ”

    “ข้าดูเวลาว่าผลการต่อสู้จะออกมาแบบไหนบ้าง มีถึง115แบบ ซิกมีโอกาสชนะแค่3% ข้าเดิมพันซิกเพราะเขามีสองสิ่งที่มนุษย์มีเหนือเทพเจ้า”

    “มันคืออะไร?”โอดินถาม

    “มนุษย์ปรับตัวได้และไม่เคยยอมแพ้ ต่างจากเทพเจ้า พวกเจ้าเคยก่อสงครามทั้งสามโลกเพื่อแย่งชิงอำนาจกัน พอจบเรื่องกลับไม่รับบทลงโทษใดๆและยังอยู่อย่างผาสุก”

    “เจ้า...”โอดินแผ่จิตสังหาร เหล่าเทพเจ้าต่างก็ไม่พอใจ

    “อย่าโมโหไปเลยท่านโอดิน เทอร์ร่าก็แบบนี้แหละ”อโฟรไดรฟ์พูดเสียงทรงเสน่ห์ใช้ความงามล่อลวงให้คล้อยตาม แต่ทุกคนที่นี่ต่างเป็นเทพระดับสูงจึงไม่ได้ผล

    แต่ไม่มีใครทำอะไรเทอร์ร่าอยู่ดี ทุกคนต่างรู้ฝีมือของเขา แม้แต่เทพชั้นสูงก็ไม่อยากไปหาเรื่องเขา

    แต่เพราะแบบนั้นแหละ เขาจึงเป็นหนึ่งตัวแทนฝั่งเทพเจ้า

    และซุสยืนยันจะเก็บเทอร์ร่าไว้รอบหลังๆ

    “พวกท่านกำลังหัวร้อนกันอยู่ ข้าจะกลับไปพักที่วิหารข้า”เทอร์ร่าพูด และอโฟรไดท์อุ้มเขาเหมือนแม่อุ้มลูกเดินออกจากห้อง

    “เดี๋ยวเทอร์ร่า เฟรย่าอยู่ไหน”โอดินถามถึงเทพีที่ไม่มาร่วมประชุม เขารู้ว่าหลานสาวเขาเป็นคู่นอนเทอร์ร่าและอาจอยู่ในห้องนอนเขา

    “อ้อ นางไม่ได้อยู่ห้องข้าปู่โอดิน เฟรย่ามีธุระนิดหน่อย”เทอร์ร่าพูดยิ้มเลศนัย

    เทพเจ้าบางคนรู้บางอย่าง ขณะที่คางุสึจิหัวเราะพูดว่า”หนุ่มผู้โชคดี”

    หลังเทอร์ร่าออกจากห้องไปพวกเทพเจ้าประชุมต่อ

    “ถึงตาข้าแล้ว”พระศิวะตะโกนอย่างกระตือรือร้น

    “ไม่”เสียงทรงอำนาจปกคลุมห้องเหมือนตอนเวเรทรัคนะ

    “หา อะไรอีก!!”พระศิวะมองรอบๆ”อยากมีเรื่องก็เข้ามาสิวะ!”

    “ข้าจะเป็นคนที่เข้าประลอง”ทั้งห้องสั่นสะเทือนเมื่อได้ยินเสียงมาร์ดุก”ข้ารู้ดีกว่าใครถึงเจตจำนงของมนุษย์ชาติ...ข้าเป็นคนเดียวที่บดขยี้มันได้”

    เทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ปลดปล่อยพลังทำให้อาณาจักรเทพสั่นสะเทือน

    แม้แต่คางุสึจิและวิษณุก็ตัวสั่น เซฟานีมองสามีอย่างกังวล แต่ไม่ได้พูดขัดความต้องการของเขา

    เทพเจ้าอัคคีขมวดคิ้วยกโทรศัพย์มือถือรุ่นล่าสุดขึ้นมา เขาพิมส์ส่งข้อความด่วนแล้วถอนหายใจ

    “ที่นี่เจ้าจะจัดการเรื่องนี้ยังไงอลายา?“

    @@@@@@@@@

    ด้านผู้นำฝ่ายมนุษย์...ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปด้วยดี

    พวกเขาอาจชนะ1ครั้ง แต่ครั้งต่อไปจะไม่มีการออมมือใดๆอีก เทพเจ้าต้องการทำให้มนุษย์ชาติสิ้นหวัง

    เทพธิดาแห่งมนุษย์ชาตินั่งอยู่ที่โต๊ะหันหลังให้ทุกคน

    ออร่าในห้องหนักอึ้ง แม้แต่อาโอโกะ อัลเคว เซลเรซ ก็ยังสั่นกลัวกับความโกรธของซาตาน

    “โอ้ ดูเหมือนทุกคนกำลังเครียดกันอยู่นะ”มีเสียงใหม่ดังเข้ามา

    ทุกคนต่างตกใจเมื่อเห็นว่าใครมา หมาจรจัดเดินผ่านเข้ามาในห้องบุคคลประวัติศาสตร์มนุษย์

    “เจ้าคือ...”อลายาบ่นอุบอิบเมื่อเห็นเธอ

    “ท่านสามารถเรียกฉันชิกิได้ ฉันไม่มีปัญหา”หญิงผมน้ำตาลยิ้มขบขัน”เป็นการต่อสู้ที่ดีมาก แต่ฉันต้องการมากกว่านี้”

    ทุกคนสะดุ้งกับเสียงที่เปลี่ยนไปเป็นเสียงเหมือนอลายา

    “หึๆๆ ตอนนี้ฉันอยากรู้ว่าท่านจะเลือกมนุษย์คนไหน”

    ในตอนนั้นโทรศัพย์ของอลายาดังขึ้น ดูเหมือนฝ่ายทวยเทพจะกดข้อความท้าทายมาเพื่อทวงคืนการประลองรอบก่อน มันต้องเป็นชื่อนักสู้คนต่อไปของฝ่ายเทพ

    ฉันหวังว่ามันจะไม่ใช่...

    “ตัวแทนในการประลองรอบที่3ของเทพเจ้าคือเบล มาร์ดุก”

    เมื่อข้อมูลนั้นเข้ามาทั้งห้องก็ตกสู่ความวุ่นวาย

    “เป็นไปไม่ได้”มาชูอุทาน

    “เขาออกมาเร็วมาก”โซโลมอนหน้าบึ้ง

    “เขาเอาชนะเทียแมทด้วยตัวเอง”ริทสึกะเหงื่อไหล”เราต้องการคนช่วยมากมาย แต่เขาแค่คนเดียว”

    “ระ เราจะทำยังไงกันดี”อัลเควถามอย่างหวาดกลัว

    “ใช่ เราจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ว่าไงอลายา”ชิกิถามเสียงดังโดยมายืนหน้าเทพี

    มันใกล้มากจนหน้าผากพวกเธอสัมผัสกัน อลายาทำได้เพียงมองเข้าไปในเนตรมารที่รับรู้ถึงความตายที่ชิกิครอบครองด้วยความกลัวและสิ้นหวัง

    ตอนนี้เทพธิดาแห่งมนุษย์ชาติอยากตายจริงๆ

    แต่เขาจะไม่ยอมแพ้

    มันจะเป็นการดูหมิ่นอีวานและซีกที่สละตนเองปกป้องมนุษย์ชาติ ดังนั้นอลายาจะทำเช่นเดียวกัน

    แต่ตอนนี้เธอต้องเลือกว่าจะส่งใครไปเผชิญหน้ากับเทพเจ้าที่แข็งแกร่งที่สุด

    แม่มดแห่งดันสกาย

    เจ้าบ้าแห่งโอวาริ

    ศาสดาองค์สุดท้าย

    ทั้งหมดเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม แต่ตอนนี้เธอต้องการตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบ ความกลัวและความสิ้นหวังทำให้เธอไม่สามารถตัดสินใจได้

    “โฟว”ดวงดาวแห่งความหวังปรากฎขึ้น

    สัตว์วิเศษโดดขึ้นไปตัดสินใจเลือกตัวแทนคนต่อไปของมนุษย์ชาติ

    ชื่อปรากฎต่อหน้าพวกเขา

    สัตว์ร้ายของอลายา

    “ฉันเห็นแล้วๆ”ชิกิยิ้มอย่างพอใจ”ทางเลือกที่น่าสนใจ ฉันจะรอดูผลลัพย์อลายาจัง”

    เธอออกจากที่แห่งนี้ราวกับสายลม

    อลายามองโฟวอย่างระมัดระวัง

    “นายวางแผนไว้ใช่มั้ย”

    “โฟว”

    “คุณหมายถึงอะไร?”ริเนะถาม

    “เมื่อเจ้าโจมตีเมอร์ลิน...ที่ซึ่งสัตว์ร้ายของอลายาถูกเลือก...แกวางแผนไว้แล้วใช่มั้ยคาร์พาลุส”เธอตั้งคำถามสัตว์วิเศษ

    ดวงตาโฟวเปล่งประกายด้วยความฉลาด บางสิ่งบางอย่างที่ครั้งหนึ่งเคยคิดว่าหายไป แต่เช่นเดียวกับการมาถึงของโซโลมอน ปาฎิหาริย์กำลังก่อตัวขึ้น

    “ฉันเข้าใจแล้ว”อลายาถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ”ฉันหวังว่านายจะรู้วิธีนำเขามาที่นี่เพราะฉันไม่รู้จะทำยังไง”

    “โฟวๆๆ”โฟร้องก่อนหายไป

    มาชูเริ่มเชื่อแล้วว่าโฟร์ไม่ธรรมดาอย่างที่เธอคิด

    แต่เริ่มมีความคิดใหม่ในห้องนี้

    แสงสว่างที่ปลายอุโมงค์

    @@@@@@@@@@

    “เมื่อกี้นี่มันสุดยอดไปเลยเนอะ เจ้านั่นเป็นแค่โฮมุนครูสแท้ๆ”

    “ใช่ หลายล้านปีแล้วนะเนี่ยที่ข้าไม่ได้ตื่นเต้นแบบนี้ ข้าอดใจรอศึกต่อไปไม่ไหวแล้วด้วย”

    ซึ่งพวกเขาไม่ต้องรอนาน

    “ฝ่ายเทพและมนุษย์ต่างชนะ1รอบ การประลองรอบที่สามได้เริ่มขึ้นแล้ว”ไฮม์ไดม์พูดมีเสียงโห่ร้อง

    “ฝั่งทวยเทพ เขานั้นคือเทพในหมู่เทพ เทพที่ทรงพลังที่สุด ตัวแทนฝ้ายเรารอบนี้ ผู้ปีนขึ้นไปด้วยเจตจำนงอันมั่นคงของตัวเองสู่จุดสูงสุด เหนืออานุ เออา และเอนคิ เมโสโปเตเมียและทริบูติ มันคือ...เขาผู้นี้”

    ชายคนนั้นเดินเข้าสู่สนามประลอง

    “เขาสู้กับมารดาแห่งชีวิตและลูกๆที่น่ากลัวทั้งหมดของเธอ ชัยชนะถูกสร้างขึ้นมาด้วยกงล้อแห่งโชคชะตา บัลลังก์แห่งเมโสโปเตเมีย ผู้มีพระคุณของชาวบาบิโลน”

    ทุกย่างก้าวทำให้ผืนดินสั่นสะเทือน ทำให้น้ำกระเพื่อม ทำให้สวรรค์สั่นสะท้าน

    เทพและมนุษย์ต่างคุกเข่าด้วยสัญชาตญาณ...คุกเข่าต่อหน้าผู้อยู่บนจุดสุดยอด

    แม้แต่เทพเจ้าก็ต่อต้านคำพูดเขาไม่ได้ คำพูดของเขาคือกฎหมาย บุตรแห่งอานุที่เมื่อกำเนิดมาก็แซงหน้าพ่อไปแล้ว

    “ไม่”

    “ล้อเล่นใช่มั้ยเนี่ย?”

    มนุษย์ชาติเริ่มตระหนักถึงผู้ที่เขาเผชิญหน้าครั้งนี้...และความสิ้นหวังบดขยี้พวกเขาเหมือนแมลงสาบ

    “จักรพรรดิแห่งทวยเทพ! อธิปไตยของจักรวาล! เทพแห่งสุริยะ!”

    “นามของเขาก็คือ...”

    “เบล มาร์ดุก!”

    เทพเจ้าองค์อื่นก้มหัวยังเกรงกลัวต่อความโกรธของเขา

    “มาแล้วเบล มาร์ดุก”เทพธิดาองค์หนึ่งที่มีผิวสีแทนและผมสีบลอนด์กล่าว เธอสวมเสื้อผ้าสีแดงประดับทองคำมีลักษณะเหมือนกระดูกมนุษย์

    เอเรซติกัล เทพธิดาแห่งยมโลกของเมโสโปเตเมียน

    ในทางเทคนิคแล้วเธอเป็นป้าของมาร์ดุคแต่ทั้งคู่แทบไม่มีสัมพันธ์กัน

    ถัดจากเธอคือคู่แฝดของเธอ...ที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง อิชทาร์มีผมสีม่วงเข้มแม้มีผิวสีแทนแต่ชุดของเธอเปิดเผยมากกว่า


    “และอีกฝั่งนึง”ไฮม์ไดม์ยกมือขึ้น”ผู้ที่จะเผชิญหน้ากับผู้ทรงพลังที่สุดคือ...เขา”

    ชี้ไปที่อีกฝั่งของสนามที่มีบางอย่างออกมาจากประตู

    กระรอกขาวน้อย

    “โฟว”

    “อะไรน่ะ?”ทุกคนคิด

    โฟร์กระโจนไปข้างหน้าเพื่อเข้าใกล้เทพเจ้าแม้ต้องรับแรงกดดันจากมาร์ดุกยังพุ่งใส่เขา นอกจากนี้คาร์พาลุสยังยอมรับว่าเทพเจ้าสูงสุดในฐานะนักฆ่าสัตว์วิเศษ เพราะเขาได้ดับลมหายใจของเทียแมท

    “เกิดจากเปลวไฟแห่งความสิ้นหวังที่พังทลายไปเปล่าๆ เขาตระหนักถึงความอ่อนแอของมนุษย์และความเข้มแข็งของกพวกเขาด้วย”

    โฟร์กระทืบเท้าลงสนามด้วยพลังทั้งหมด

    มีวงเวทอัญเชิญขนาดใหญ่

    “ในการเป็นผู้พิทักษ์ความสมดุล เราต้องรู้ถึงความชั่วร้ายที่สุดของนรก เพื่อจะบรรลุคุณธรรมทั้งหมดของสวรรค์”

    มนุษย์ทุกคนตัวสั่นโดยเฉพาะโซโลมอน เมอร์ลิน ฮัซซันคนแรก และโรมูรุส-คิวรินุส ในฐานะผู้สมัครหรือผู้มีตำแหน่งแกรนเซอร์แวนท์ พวกเขามีความอ่อนไหวต่อความชั่วร้ายของมนุษย์ชาติ

    “ด้วยเหตุนี้เขาจึงต่อสู้ต่อไปในการต่อสู้ที่ไร้ที่สิ้นสุด ถูกโลกประฌาม...แต่เป็นอีกก้าวสู่อุดมคติ อาศัยอยู่ในดินแดนที่เหนือกาลเวลาและอวกาศ จนถึงตอนนี้มีเพียงคำอธิษฐานของมนุษย์ ปีศาจและเทพเจ้าเท่านั้นที่สามารถเข้าถึงเขาได้ เขายังก้าวต่อไป”

    ภายในแสงสว่างมีเงาค่อยๆโผล่ออกมาจากวงเวท

    “ทุกอย่างเริ่มต้นจากความปรารถนาเห็นแก่ตัวซึ่งเกิดจากจิตใจที่สิ้นหวัง เขาไล่ตามฝันอันยาวนานของมนุษย์ชาติ ฝันที่อยู่ไม่ไกลอีกต่อไป เป็นแสงหนึ่งเดียวที่ส่องผ่านสมรภูมินับไม่ถ้วน

    และเขาคือ

    สัตว์ร้ายอลายารุ่นที่4

    ชายหนุ่มออกมาจากวงเวท ศีรษะสวมผ้าโพกหัวสีแดงไม่เห็นผมเขา ผิวสีขาวและดวงตาสีเหลือง สวมเสื้อเชิ้ตแขนกุดสีดำและเสื้อสีแดงกับกางเกงสีดำ

    ทุกคนพูดไม่ออกเมื่อเห็นสัตว์ร้ายของอลายา พวกเขาคาดหวังอะไรมากกว่านี้...เช่นเทียแมท? ปีศาจโกลเทีย? ไม่ใช่วงเวทอัญเชิญ

    ชายหนุ่มมีรอยยิ้มบนใบหน้าและโฟวบนหัว

    แม้หลังเขาจะเงียบเหงาไปหน่อยก็ตาม

    “แล้ว...ท่านคิดว่ายังไง”ชายสวมเสื้อคลุมขาวและมีผมสีเขียวพูดหันไปมองเพื่อนของเขา

    กิลกาเมซ กษัตริย์แห่งบาบิโลเนียหลับตากอดอก เขาเห็นการต่อสู้ของมนุษย์ชาติหลายครั้งและครั้งนี้จะเหมือนรอบก่อนๆ

    มนุษย์บางคนบ่นพึมพำ

    “ผู้คนดูไม่มั่นใจแม้ตัวแทนเราจะเป็นสัตว์ร้ายของเทพก็ตาม”อาโอโกะแสดงความเห็นเคี้ยวหมากฝรั่ง

    “ข้าเชื่อมั่นในความพยายามอันไม่สั่นคลอน”อลายากล่าว”ไล่ตามความฝัน...และเขาจะสานต่อความฝันของมนุษย์ชาติ”

    “ขอยกย่องที่กล้ามาเผชิญหน้าข้า ถ้างั้น...ขอทดสอบดูหน่อย”

    แรงกดดันของมาร์ดุกแข็งแกร่งขึ้น

    เทพเจ้าแห่งบาบิโลเนียตระหนักถึงตัวตนที่ทัดเทียมเขานอกเหรือซุส

    และนั่นยอมรับไม่ได้

    บรรยากาศตึงเครียดและหนักหน่วงมากขึ้นจนหายใจได้ลำบาก

    สายลมที่เต็มไปอำนาจของผู้ทรงพลังที่สุด

    มนุษย์คนนี้ฝ่าลมเข้าไป 

    ราวกับแขนขาเขาเป็นดาบ ไม่สิ ราวกับทั้งร่างเขาเป็นดาบ ชายคนนี้ทะลุผ่านแรงกกดดันไปยืนเผชิญหน้ากับเบลมาร์ดุก

    เป็นครั้งแรกตั้งแต่สู้กับเทียแมทที่เขาสบตากับใครสักคน

    นั่นไม่ได้หมายความว่าเขาไม่มองใครเลย เขามีนิสัยเสแสร้งมองเข้าไปในตาหรือมองข้ามไหล่หรือมองผ่านไป แต่ไม่เคยมีใครอยู่ในสายตา

    ช่วงเวลานี้

    ดวงตาที่ผิดปกติและเย็นชาราวกับเหล็กกล้า แต่อบอุ่นราวกับไฟ

    ดวงตาสีแดงเปิดออก เทพบาบิโลนยิ้มเย้ยหยัน ราวกับเขาได้พบสิ่งที่น่าสนใจหลังชีวิตอันยาวนานที่เต็มไปด้วยความเบื่อหน่าย

    “จะ...จะ...เจ้ามนุษย์นั่นมันอะไรกัน?”อาเรสถาม

    “ช่างน่าตื่นตาตื่นใจเหลือเกิน”เฮอร์มิสยิ้ม

    “โห? ดูเหมือนว่ามนุษย์ชาติจะยังคงมีไพ่ตายซ่อนอยู่สินะ”โลกิพูดอย่างรำคาญ

    @@@@@@@


    @@@@@@@@

    ภายในห้องหรูหราของเทพเจ้าบนเตียงนอนคิงไซต์ เทอร์ร่ากำลังสนุกกับ3เทพธิดาโอลิมปัส

    ตอนนี้เขากำลังกดเฮสเทียแทงดาบเข้าไป

    “ชิ มายุ่งทำไมดีมีเทอร์”อโฟรไดรฟ์ถามขณะเธอกอดเขาให้หัวซุกหน้าอกมหึมา

    “ข้าไม่ได้ทำกับเทอร์ร่าจังนานแล้วนี่นา”ดีมีเทอร์กอดเขาจากอีกด้าน ร้องครางเมื่อเขาดูดหน้าอกแตงโมเธอ


    “อ๊ะ อย่าหยุดสิค่ะ”เฮสเทียร้องแต่เขาไม่สนใจมองหน้าจอทำให้เธอหน้ามุ่ย

    “แรงกดดัน”เทพเจ้าเด็กตกตะลึง”มันหายไปแล้ว”

    “เป็นฝีมือมนุษย์นั้นจริงๆเหรอเนี่ย”อโฟรไดร์ฟแปลกใจขณะกอดเทอร์ร่าด้านหลัง

    “ฮะๆ ตกใจอะไรกันนักหนา ไม่มีทางที่เขาจะทำแบบนั้นได้หรอก ใช่ไหมเทอร์ร่า”เฮสเทียหัวเราะ

    เทอร์ร่าโกรธล็อคแขนเทพีแห่งเตาไฟด้วยโซ่ตรวนที่แข็งแกร่ง

    “ขะ ขอโทษค่ะ”

    “ต้องโดนลงโทษ...ซาฟคิเอล”

    นาฬิกาปรากฎด้านหลัง เรียกปืนยิงที่หัว

    “ไม่...!”

    “ปัง!!”

    เฮสเทียโดนตัวหายไปจากห้อง และเทอร์ร่านั่งดูการแข่งกอดสองเทพธิดาอีกสององค์ไว้

    เฮสเทียถูกพาไปยังสถานที่ลับแห่งหนึ่ง ซึ่งระงมไปด้วยเสียงร้องครางของหญิงสาวที่ถูกจับมาไว้ในสถานที่แห่งนี้ฝากเธอไว้กับร่างแยกที่ดูแลสถานที่แห่งนี้

    เธอเห็นมอนสเตอร์มากมายหลายเผ่าพันธุ์ที่ไม่มีสติปัญญากำลังขมขื่นสาวเพื่อวางไข่

    ยิ่งเป็นเทพเจ้าจะได้ตัวที่แข็งแกร่ง

    และยิ่งสัตว์นั้นแข็งแกร่ง เทอร์ร่าจะสำรองมันไว้กลืนวิญญาณเพื่อฟื้นฟูตัวเองได้ง่ายขึ้น

    เทพธิดาหลายองค์ที่เป็นเพียงของเล่นถูกเทอร์ร่าส่งมาทำงานนี้

    และตอนนี้เธอโดนลงโทษฐานปากเสีย

    สำหรับเฮสเทียแล้วนี่คือหน้าที่ในฐานะภรรยา

    “หึ เชิญ...เข้ามาได้เลยยะ”เธอท้าทาย

    สัตว์ร้ายมากมายรุมฉีกทึ้งดึงแขนขาเทพโอลิมปัส

    @@@@@@@@

    กลับมาที่สนามประลองวัลฮาล่า

    “ถึงเวลาที่เจ้าต้องแสดงคุณค่าที่แท้จริงในฐานะวีรชน”กิลกาเมซพูดมีรอยยิ้มโหดร้ายบนใบหน้า”อย่าลืมข้าเป็นคนเดียวที่ฆ่าเจ้าได้เฟเกอร์”

    ตัวแทนที่3ของเทพเจ้า

    มาร์ดุก

    ตัวแทนที่3ของมนุษย์ชาติ

    สัตว์ร้ายของอลายารุ่นที่4

    “เริ่มการต่อสู้ได้”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×