คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : รุ่นพี่
@@@@@@
@@@@@@
เช้าวันต่อมา เราทุกคนมารวมกันที่ลาน นักบวชบอกว่าพวกเขาจะได้รู้จัก"รุ่นพี่"
ชายที่แต่งตัวคล้ายทหารลากผู้ชายที่มีบาดแผลเต็มตัวขึ้นมากลางจตุรัส ทันทีที่พวกเขาก้าวเข้ามา เสียงกระซิบก็หายไป
และเขาก็โยนชายคนนั้นด้วยแขนเดียวขึ้นไปบนเวที
“อ๊ากกกกก”
“โว้ววววว”
ผู้ชายคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน ฟุคุยามะนั่นเอง มีฟองไหลจากปากและแขนขวาบิดเบี้ยว เป็นสภาพที่น่าสมเพช เขายังไม่ได้สติ ร่างกายกระตุกเป็นระยะ ดูจากสีหน้าคงเจ็บปวดมาก
“ผมชเวคังมินจากเกาหลีใต้ ก่อนอื่นขอต้อนรับสู่ต่างโลก ขอเข้าประเด็นเลยนะ ผมมั่นใจว่านักบวชได้บอกพวกคุณไปเกือบหมดแล้ว”
เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ทุกคนจดจ่อกับคำพูดของเขา
“พวกเราก็มาจากดาวโลกเหมือนพวกคุณ ถูกอัญเชิญมาเหมือนกัน มีเพียงสิ่งเดียวที่แตกต่างกัน คนที่มาก่อนและคนที่มาทีหลัง สิ่งที่ฉันจะพูดก็คือ…”
เพราะผลจากเวทมนตร์ขยายเสียง เสียงของเขาจึงดังก้องไปทั่วบริเวณ พอให้คนหลายร้อยได้ยินอย่างชัดเจน เขาไปยืนหน้าฟุคุยามะ
“พวกเราไม่ใช่คนที่จะส่งพวกคุณกลับบ้านได้”
มีแรงกดดันจากคำพูด เหล่าเด็กม.ปลายกระสับกระส่าย
แม้ได้ยินจากราชาแล้วว่าต้องปราบจอมมารให้ได้ แต่เมื่อเปิดเผยว่าคนที่มาก่อนหลายปียังทำไม่สำเร็จก็ทำให้เกิดความรู้สึกผิดหวังและท้อใจ
“พวกเรารู้ดีถึงความสับสนและโศกเศร้าของทุกคน พวกคุณถูกพามาที่นี่อย่างไม่เต็มใจ พวกเราเคยผ่านมันมาก่อนและพวกเราก็ผ่านมันไปได้ มีแค่เหตุผลเดียวที่เรานำพวกคุณมาที่นี่ เพื่อช่วยให้ทุกคนทำความคุ้นเคยกับโลกนี้”
เขาก้มมองฟุคุยามะ ซึ่งเมื่อสบตากับชเวคิงมินก็ก้มหน้าลงทันที ไอน์ยิ้มเยาะอยู่ในใจ
“อยากให้ทุกคนคิดว่านี่คือการช่วยเหลือผู้เล่นใหม่จากผู้เล่นเก่าเหมือนในเกมออนไลน์ แต่ทว่าชายคนนี้…”
หญิงสาวคนนึงบนเวทีเดินเข้ามาและเตะฟุคุยามะเข้าที่ท้องอ้วนๆทำให้เขาร้องลั่น
“ได้ทำการดูถูกและคุกคามทางเพศต่อผู้หญิงเพราะคิดว่าเขาเป็นผู้กล้า อย่าคิดว่าพวกเธอเป็นเด็กม.ปลายแล้วเราจะใจดีด้วย เพราะโลกนี้ไม่ใจดีกับพวกเธอ”
“ถ้าคุณไม่เชื่อใจหรือไม่ต้องการความช่วยเหลือจากพวกเราก็สามารถออกไปได้ทันที นั่นเป็นสิทธิของคุณ เราสัญญาว่าจะไม่มีใครทำร้ายพวกคุณ”
เขาพูดจบแล้วแต่ไม่มีใครเอ่ยปากคัดค้าน แน่นอนไม่มีใครลุกขึ้น มีความเงียบปกคลุมจตุรัส
“ไม่มีใครถอนตัวสินะ? งั้นฉันถือว่าทุกคนต้องการอยู่ที่นี่และศึกษาเล่าเรียนในอาคาเดมี่ หากมีใครทำอันตรายต่อผู้อื่นด้วยการกระทำที่ออกนอกลู่นอกทาง เราจะทำการลงโทษในระดับ1 ถ้างั้นขอเวลาสักครู่…ยูบิน ยกเลิกเวทมนตร์ได้”
นักเวทย์ที่ชื่อยูบินหยุดใช้เวทมนตร์ขยายเสียง จึงไม่มีใครได้ยินเสียงพวกเขาอีก และควอนแจยอนเรียกคนที่เหมือนนักบวชมา
“คืนสภาพ”
แว็บ!
เมื่อนักบวชพูดคืนสภาพ แสงสว่างพุ่งขึ้นไป แล้วแขนผิดรูปก็ค่อยๆกลับคืนดังเดิม
เหล่าเด็กๆอุทานด้วยความตื่นเต้น ฟุคุยามะกระพริบตาแปลกใจที่ได้รับการรักษา เขายันตัวขึ้นอย่างโอดครวญ ลองขยับแขนขวาดูเหมือนจะคืนสภาพได้สมบูรณ์
ควอนแจยอนมองฟุคุยามะอย่างเฉยชา ก่อนจะพูดเสียงเรียบ
“ลุกขึ้นมา”
ฟุคุยามะลุกพรวดขึ้นทันที เขาเป็นคนประเภทนอบน้อมต่อผู้แข็งแกร่งกว่า และอวดเบ่งกับผู้ที่อ่อนแอกว่า ชเวคังมินเบ้ปากราวกับไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก
“แม้จะเป็นเด็กใหม่ แต่ในเมืองนี้ การต่อต้านกองทัพเป็นการกระทำที่บ้าบิ่นมาก ครั้งนี้ฉันจะปล่อยผ่านไป ถ้ามีครั้งหน้าละก็…”
ทุกคนสัมผัสได้ถึงความน่ากลัวในคำพูดของเขา ฟุคุยามะก็คงรู้สึกถึงกลิ่นอายของจิตสังหารรีบพยักหน้า
จากนั้นนักบวชก็พาฟุคุยามะไปรวมกับกลุ่มนักสู้ระยะประชิด
เขาเงยหน้าขึ้นมองพวกเด็กม.ปลายหลังใช้เครื่องขยายเสียงอีกครั้ง
“ฉันรู้ว่าทุกคนได้ฟังจากราชามาแล้วแน่นอน รู้ว่าทุกคนมีเรื่องสงสัยเต็มไปหมด แต่ถ้าเราตอบทุกข้อสงสัย ใช้เวลาตลอดสัปดาห์ก็คงไม่พอ”
ก็แน่ละ ไอน์อยากจะเข้าอาคาเดมี่เร็วๆ เห็นด้วยอย่างยิ่ง
ทันทีที่เขาพูดจบ อาจารย์หญิงคนนึงก็ยกมือขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอลุกขึ้นจากที่นั่งแล้วถามอย่างระมัดระวัง
“พวกเรา…จะได้กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม…มั้ยคะ”
เป็นคำถามที่น่าผิดหวังตามคาด ช่างเป็นคำถามที่ไร้สาระอะไรแบบนี้ ไอน์เดาะลิ้นกับคำถามงี่เง่าของอาจารย์สาวเหลือบมองสีหน้าของนายแว่น และเป็นอย่างที่คิดไว้ เขาจ้องเธอด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
“พวกเราไม่ใช่ผู้ที่จะส่งพวกคุณกลับบ้านตามที่ได้บอกไปในตอนต้น ถ้ารู้วิธี จะมายืนอยู่ที่นี่แบบนี้งั้นเหรอ วันข้างหน้านี่เป็นสิ่งที่ผู้มาใหม่เองก็ต้องทำและร่วมกันแก้ปัญหา”
เมื่อรู้สึกถึงสายตาเวทนาจากชเวคังมิน ผู้หญิงก็หน้าแดงก่ำและรีบนั่งลง ความเงียบปกคลุมครู่หนึ่ง แต่ชายหนุ่มอีกคนก็ยกมือขึ้น
“ผมเข้าใจว่าเราเรียกโลกนี้มีชื่อว่า”แพนเจีย” เราถูกเรียกว่าคนต่างโลกหรือมนุษย์ดาวสีฟ้า แล้วเหมือนจะเรียกเมืองนี้ว่าบาเบล แต่คนจากโลกเหมือนเราอาศัยอยู่แค่ที่นี่รึเปล่าครับ”
“ไม่ใช่แบบนั้น อาจได้ฟังจากราชาแล้ว แพนเจียแบ่งออกเป็น4ทวีป เมืองนี้เป็นศูนย์กลางของคริสจักร มีชาวต่างโลกที่ถูกอัญเชิญมาแบบเดียวกับเรากระจายอยู่ทั่วไป ลือว่ามีพวกที่กลับชาติมาเกิดใหม่ด้วย”
“มีสองสิ่งที่จะช่วยให้พวกคุณแข็งแกร่งขึ้น เลเวลและพร เลเวลเพิ่มด้วยการรับค่าEXPจากการฆ่ามอนสเตอร์”
“แล้วอีกวิธีล่ะครับ”
“อีกวิธีคือได้รับดีไวน์สกิลจากเทพเจ้า”
ไม่ใช่ว่านักเรียนทุกคนจะตั้งใจฟัง
“เสียเวลาเปล่าชะมัด”
สำหรับยูมะแล้วนี่เป็นความรู้ทั่วไป จึงแสดงทัศนคติหยิ่งยโส
“ท่านเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่โปรดประทานพรแก่ผมด้วยเถิด ผมคือคนมีความสามารถที่ทุกท่านตามหาอยู่”
มิยาโมโตะพยายามพูดคุยกับเทพเจ้าอยู่เสมอ
“มันไม่ได้เรื่องง่ายที่เราจะได้รับพลังพิเศษจากเทพเจ้า พวกเขาต้องการสิ่งแลกเปลี่ยน เช่นกลายเป็นอัครสาวกของเขา”
“อัครสาวก”
“พูดง่ายๆคือกลายเป็นข้ารับใช้ของเทพเจ้า คุณจะได้ค่าสเตตัสและสกิลเพิ่มตามพลังของเทพตนนั้น แต่นั่นหมายความมันจบแล้ว เพราะคุณต้องทำตามคำสั่งของเทพเจ้าผู้เป็นเจ้านาย หากทำภารกิจไม่สำเร็จ เทพเจ้าอาจปลดคุณหรือลงโทษ”
“รุ่นพี่ค่ะฉันมีคำถามค่ะ”
“เชิญครับ”
“นั่นหมายความว่าเทพเจ้าจะเฝ้าดูเราอยู่ตลอดถูกไหมคะ”
คนที่ยกมือขึ้นถามคังมินที่อธิบายราวกับเครื่องจักรคือไซโจ คาเรน
รองประธานนักเรียน
แม้ตำแหน่งจะไม่มีความหมายเมื่อเข้าสู่โลกแฟนตาซี แต่สถานะเธอไม่ได้หายไป
เธอเป็นนักเรียนดีเด่น แม้แต่ตอนนี้ก็ฟังและจดบันทึกไม่ให้พลาดรายละเอียดแม้แต่อย่างเดียว
“ถูกต้องแล้วครับ”
ชเวคังมินตอบอย่างใจเย็นโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“พวกท่านจะเฝ้าดูเราขณะกำลังซักผ้าหรือแม้แต่ตอนอาบน้ำเหรอคะ”
“ไม่มีข้อยกเว้นครับ”
“ว่าไงนะ”
“เอาจริงดิ๊”
เหล่าเด็กม.ปลายเริ่มตื่นตระหนกโดยเฉพาะผู้หญิง
“ท่านผู้กล้า ตัวตนเหล่านั้นไม่ใช่มนุษย์ครับ โปรดอย่าตัดสินเทพเจ้าด้วยมาตรฐานเดียวกับมนุษย์เพราะมันหยาบคายครับ”
“ถึงจะพูดแบบนั้น…”
“เทพเจ้าองค์หนึ่งบอกว่าอย่าไปสนใจพวกเขา”
“เทพเจ้าบางองค์บอกว่าพวกเขาไม่สนว่ามันจะหยาบคายหรือไม่”
“เทพีแห่งการล่าอ้างว่าไม่มีความแตกต่างจากอากาศ”
“มันโอเคแล้วจริงๆเหรอคะ”คาเรนมองดูข้อความจากผู้ที่เรียกว่าเทพเจ้า
“คุณรองประธานคะ ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นพระเจ้าหรือไม่ อย่างน้อยพวกเขาก็ให้พลังแก่ผู้ที่พวกเขาพบว่าน่าสนใจไม่ใช่เหรอคะ”เมกุมิกล่าว
“ปีศาจตนหนึ่งสรรเสริญคุณพร้อมยกนิ้วโปงให้”
“เทพีแห่งความรักประทับใจต่อการตัดสินใจที่เด็ดขาดของคุณ”
“โอ้ คำเชิญเป็นอัครสาวก…จากเทพีอโฟรไดรฟ์ ฮูเร่!!”
เมกุมิกระโดดโลดเต้นเมื่อเธอได้รับเชิญจากเทพเจ้า
ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินชื่อเทพีแห่งความรักและความงาม 1ใน12เทพแห่งโอลิมปัส
“เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์มองดูราวกับทะเลทรายที่แห้งผาก”
“เทพเจ้าบางองค์รู้สึกไม่สบายใจ”
“เทพีผู้บริสุทธิ์ตนนึงมองอย่างไม่พอใจ”
แม้เหล่าเทพจะดูชอบหรือไม่ชอบต่างกันไป แต่ไม่ต้องสงสัยว่าเมกุมิก้าวนำคนอื่น
หน้าต่างสเตตัส
คัตสึรางิ เมกุมิ เลเวล 1 แรงค์ 4ดาว
อาชีพ นักปราชญ์
พร อัครสาวก F , เสน่ห์ F
“อะไรนะ”
“นี่”
นักเรียนชายสองคนที่กระหายพลัง มิยาโมโตะและทาเคนากะดูเสียความเป็นผู้นำ
“กลิ่นอะไรเนี่ย”
“กลิ่นดอกไม้เหรอ”
“มันหอมมากจริงๆ”
ผู้กล้าเริ่มหาที่มาของกลิ่น
อัศวินและนักบวชดูไม่พอใจเมื่อผู้กล้าไขว้เขวกับพลังของมนตร์เสน่ห์
“ฮุๆๆ”
เมกุมิยิ้มเยาะ
เพราะนี่คือพรที่เธอได้รับจากเทพ
มนตร์เสน่ห์
ร่างกายของคุณจะปล่อยกลิ่นตัวที่มีเสนห์ออกมาตลอดเวลา โอกาสในการครอบงำและดึงดูดใจเพศตรงข้ามเพิ่มขึ้นมาก
แม้ไม่ใช่พรที่ช่วยในการต่อสู้ แต่เป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดสำหรับเมกุมิ ซึ่งคาดหวังนิยายโรแมนติกมาตั้งแต่ถูกอัญเชิญ
“เธอเยี่ยมที่สุด”
นักเรียนชายครึ่งหนึ่งเสียสติและหัวเราะ
“เมกุมิซัง กรุณาหยุดใช้พรแห่งเสน่ห์เดี๋ยวนี้ครับ”ชเวคังมินเตือน
“โอ้ ขอโทษคะ แต่ฉันควรทำยังไง เพราะฉันไม่รู้วิธีหยุดมัน”
เมกุมิตอบกลับอย่างชำนาญ
“เทพธิดาผู้บริสุทธิ์บางองค์ไม่ชอบการกระทำที่ผิดศีลธรรม”
“สายไปแล้ว”
“มีอะไรรึเปล่าค่ะ ผู้ชายจะตกหลุมรักเสน่ห์ของฉันโดยสมบูรณ์อย่างงั้นเหรอคะ”
“ดูหน้าต่างสเตตัสอีกครั้งแล้วคุณจะเข้าใจครับ”
“มีอะไรเกี่ยวกับหน้าต่างสเตตัสของฉัน…หืม”
หน้าต่างสเตตัส
เมกุมิ เลเวล 1 แรงค์ 4ดาว
อาชีพ นักปราชญ์
พร อัครสาวก F , เสน่ห์ F
คำสาป การลงโทษ F
“คำสาปการลงโทษนี่มันอะไรกัน!?”เมกุมิร้อง
“คำสาปเมื่อเราเป็นผู้กล้าเหรอ”
“ทำไมถึงโดนคำสาปล่ะ”
“อาจจะเป็นฝีมือพวกปีศาจก็ได้”
“พรไม่ใช่สิ่งเดียวที่เทพเจ้ามอบให้กับทุกคนได้ พวกเขายังให้คำสาปแก่ผู้กล้าที่พวกเขาไม่ชอบได้ด้วยครับ”
“แต่ฉันเป็นอัครสาวกของเทพีอโฟรไดรฟ์นะคะ”เธอคิดว่านั่นเป็นเกราะป้องกันของเธอ
“ใช่ค่ะ ดังนั้นเทพที่ลงโทษคุณจะต้องเป็นเทพลำดับชั้นสูงกว่าเช่นดีมีเทอร์ เฮร่า เฮสเทีย"
ไอน์ที่ฟังอยู่เข้าใจทันที ทั้งสามเป็นบุตรของโครนอส มีอำนาจสูงกว่าอโฟรไดรฟ์
"ถ้ารู้จักตำนานเทพกรีก แม้จะเป็น12เทพโอลิมปัส แต่ก็มีการจัดลำดับชั้นนะครับ ถ้าไม่อยากโดนลงโทษแบบนี้ การเป็นอัครสาวกของ3มหาเทพจะดีที่สุด"ชเวคังมินแนะนำ
“ฉันไม่เคยได้ยินเรื่องนั้นมาก่อนเลยค่ะ”เมกุมิประท้วง เธอไม่เคยเรียนเรื่องตำนานเทพกรีก
“แน่นอน เพราะผมกำลังจะอธิบายให้ฟัง”
“นี่มันไม่ถูกต้อง ลบออกไปเดี๋ยวนี้”
เมกุมิเงยหน้าตะโกนใส่ท้องฟ้า แต่คำสาปไม่ได้หายไป
การลงโทษ คุณจะได้รับการลงโทษที่น่ากลัวทุกครั้งที่คุณพยายามกระทำสิ่งที่ไม่ดี
“อ๊าาากกก เจ็บ เจ็บจังเลยคะ”
เมกุมิกรีดร้องออกมา แม้ไม่มีใครตีเธอและถูก้นอย่างแรง
“ฉันผิดไปแล้วคะ ฉันจะหยุดมันเดี๋ยวนี้ ได้โปรด”
“เทพธิดาผู้บริสุทธิ์บางองค์เฝ้ามองคุณอยู่”
“เทพแห่งสายลมเป่านกหวีด”
“เทพเจ้าบางองค์ยังเฝ้าดูอยู่ที่ไหนสักแห่ง”
“เมื่อท่านได้รับพรหรือคำสาปมันจะไม่หายไปจนกว่าจะสิ้นชีวิต เอฟเฟคจะเพิ่มขึ้นตามแรงค์ และเมื่อเพิ่มขึ้นจะไม่มีวันลดลง”
“เดี๋ยวก่อนนะ ในเมื่อคำสาปแรงค์Fทำร้ายฉันถึงขนาดนี้ จบแล้วตัวฉัน”
“คำสาปชดเชยได้ด้วยพร เมื่อร่างกายและจิตใจแข็งแกร่งขึ้นความเจ็บปวดจะบรรเทาลง”
“มันคือเรื่องจริงเหรอคะ”
“แน่นอนคะ อย่ายอมแพ้ง่ายๆสิคะ”
เมื่อเมกุมิสงบลง คำอธิบายของชเวคังมินยังคงดำเนินต่อไป
การอธิบายเรื่องพรของเทพเจ้าไม่จำเป็นอีกต่อไป เพราะเมกุมิแสดงตัวอย่างให้เห็นแล้ว
“การฝึกฝนจะเริ่มอย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้ครับ ผมจะเป็นคนสอนวิชาดาบ อัศวินสีขาวจะสอนเวทมนตร์ ท่านสามารถเลือกสายใดก็ได้ที่ท่านสนใจ”
“ผมขอเรียนทั้งสองอย่างได้รึเปล่าครับ”มิยาโมโตะ ชินจิถามอย่างมั่นใจ
“แน่นอน ท่านสามารถเลิกเรียนสายนั้นกลางคันตลอดการสอนได้ถ้ามันยากเกินไป”
“มันจะไม่เกิดขึ้นครับ”
“ผมจะเชื่อในตัวคุณครับ”
“ไม่เป็นไรใช่ไหมครับถ้าไม่เรียนสักอย่าง”ยูมะยกมือถาม
“หากไม่ต้องการเรียนวิชาดาบและเวทมนตร์ตลอด3เดือนในวิหาร ท่านสามารถทำอะไรก็ได้ที่ท่านต้องการ”
“ถ้าอย่างนั้นผมขอออกจากวิหารได้ตลอดเวลาใช่ไหมครับ”
“แน่นอนครับ”เขาพยักหน้า
“เยี่ยม”ยูมะดีใจมาก
“มีคำถามอีกรึเปล่าครับ”
“ไม่มีครับ”
ไอน์รู้ความคิดของยูมะที่ต้องการทำตามตัวเอกโลกแฟนตาซี ผจญภัยและได้ฮาเร็ม เขาคิดแล้วก็ส่ายหัว ของจริงไม่เหมือนกับในนิยายหรือมังงะ
เขาควรดีใจที่มีที่พักอาศัยในช่วง3เดือนนี้...แต่การออกไปสำรวจในเมืองก็เป็นความมคิดไม่เลว
ความคิดเห็น