NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    One piece Another Nakama 1

    ลำดับตอนที่ #4 : ลูกเรือ

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 66


    เมื่อเรากำลังจะออกเดินทาง ฉันรีบไปที่โรงแรมเพื่อหยิบเป้สัมภาระ ฉันต้องการมันสำหรับการเดินทาง

    ถุงมือของฉัน ตะขอเกี่ยว แว่นมองกลางคืน หน้ากาก อุปกรณ์ปลอมตัว ปืน และสมุดบันทึก

    ฉันสวมถุงมือไว้เสมอ เพราะมันมีกรงเล็บหินไคโรแบบยืดหดได้ รวมทั้งข้อนิ้วและฝ่ามือไคโร ช่วยจัดการสายโรเกียที่ฉันอาจต้องสู้

    งานหลักของฉันเป็นบอดี้การ์ด แต่บางครั้งงานก็เป็นการค้นหาของ เจ้านายของฉันเอาแต่ใจมาก เขาคิดว่าตัวเองเป็นจ้าวโลก

    หลายครั้งที่ฉันได้นำภาพวาด สิ่งประดิษฐ์ แม้กระทั่งคน มีหลายครั้งที่ฉันตกเป็นเชลยและช่วยคน แม้ฉันไม่ชอบเป็นโจร แต่ก็เป็นหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญการปล้น พวกตำรวจเรียกฉันว่าจิ้งจอก เพราะฉันใส่หน้ากากจิ้งจอก

    ฉันถามกัปตันว่าเขาต้องการให้ฉันขโมยอะไรไหม ได้ยินว่าโจรสลัดต่อสู้เพื่อแย่งชิงโพเนกลีฟ

    ฉันใช้คาราเต้เงือกเพราะกฏที่แมรี่จัวร์ซึ่งไม่อนุญาติให้พกอาวุธ

    ฉันเก็บของและจ่ายเงินให้เจ้าของโรงแรม แล้วฉันก็วิ่งไปด้วยความเร็วสูงจนเจ้าของอ้าปากค้าง

    แมรี่แล่นออกมาได้สักพักแล้ว ลูฟี่กำลังโวยวายเรื่องสมาชิกใหม่ที่หายไป

    แต่แล้วฉันก็โดดขึ้นมาจากทะเลขึ้นมาบนเรือได้

    “นายหายไปไหนมา”ลูฟี่ถาม

    “ขอโทษ…ฉันต้องไปเอาข้าวของของฉัน”

    สาวผมส้มตะโกน”ครั้งต่อไปที่มาสายฉันจะเรียกเก็บเงิน10000เบรี”

    ฉันหัวเราะมองลูกเรือ2คนที่ฉันไม่เคยเจอ

    สาวผมส้มสั้นและดวงตาสีน้ำตาล กำลังย่างเข้าวัยผู้ใหญ่ เธอมีหน้าอกใหญ่กว่าปกติซ่อนอยู่ใต้เสื้อเชิ้ต ฉันสงสัยว่าเธอจะหน้าตาเป็นไงเมื่อโตขึ้น

    ฉันถอนหายใจ ฉันควรหยุดคิดแบบนี้แต่ฉันก็เป็นผู้ชาย ฉันมั่นใจว่าเธอต้องมีเสน่ห์เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ แต่เธอไม่ใช่สเป็คฉัน สาวในอุดมคติของฉันต้องเป็นคนเงียบๆ

    เด็กหนุ่มจมูกยาวโดดเด่น

    “ซอเยอร์ D เท็ด ฝากตัวด้วยครับ”ฉันโค้งคำนับ

    “ฉันกัปตันอุซป”จมูกยาวพูดทำให้ฉันสับสน

    “เขาเป็นพลซุ่มยิง”สาวผมส้มทุบหัวเขา

    “โอ๊ย…นามิ”จมูกยาวคร่ำครวญ

    “นี่แหละนามิซัง ต้นหนเรือที่สวยงามของเรา เธอบอกเราว่าพายุกำลังจะมา”ซันจิตะโกนตาเป็นรูปหัวใจ

    นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเธอดูเครียด เธอรู้ว่าพายุกำลังจะมาและต้องรีบออกไป ฉันไม่เคยเจอคนที่ทำนายสภาพอากาศได้ ลูฟี่อาจตาดีกว่าที่คิด

    “เราจะไปไหน”

    “แกรนไลน์”

    นามิชี้ทิศทาง”มุ่งหน้าไปที่ริเวิร์สเมาเท่น”

    @@@@@@@@

    ขณะเรือโกอิ้ง แมรี่กำลังแล่นไป ลูกเรือเริ่มแนะนำตัว

    ลูฟี่ เด็กหนุ่มที่กินผลโกมุโกมุ

    โซโลเป็นนักดาบที่ใช้วิชา3ดาบและเหมือนเป็นรองกัปตันอย่างไม่เป็นทางการ เขาอยากเป็นนักดาบอันดับ1ของโลก

    นามิคือนักเดินเรือที่ทำนายสภาพอากาศได้แม่นยำ เธอยังเป็นหัวขโมยและโลภเงินที่สุด ซันจิเป็นคนเดียวที่บูชาเธอเหมือนนางฟ้า

    อุซปเป็นพลซุ่มยิงแต่ใช้หนังสติ๊ก เขาเล่าเรื่องที่มีลูกน้อง8000คนแต่เห็นชัดว่าโกหก

    ซันจิเป็นกุ๊กที่ใช้ขาในการต่อสู้ ความฝันเขาคือการตามหาออลบลู ลูฟี่บอกว่าเขาทำอาหารได้อร่อยที่สุด โซโลบอกว่าเขาเจ้าชู้ที่สุดในโลก

    ฉันมองลูฟี่ เขาห่วงใยพรรคพวกของเขาจริงๆและประทับใจในตัวลูกเรือ

    ลูฟี่ช่วยพวกเขาไม่ทางใดทางหนึ่ง ทำให้พวกเขาภักดี เขามีเสน่ห์ที่ทำให้เป็นที่ชื่นชอบ ทำให้คนอยากช่วยเขา

    ฉันไม่เคยรู้สึกแบบนั้น โดยปกติบอดี้การ์ดจะทำงานร่วมกันแต่ก็ยากจะใกล้ชิดกับคนที่ทำงานด้วย ชีวิตของเราตกอยู่ในอันตรายจากโจรสลัดหรือนักฆ่า

    “ฉันเติบโตในแกรนไลน์ครึ่งหลังที่เรียกว่านิวเวิร์ล ฉันเป็นอดีตบอดี้การ์ด ฉันชอบเรียนรู้และฝึกฝนศิลปะต่อสู้ประเภทต่างๆ งานอดิเรกคือฝึกฝน อ่านหนังสือพิมพ์และสเก็ตรูปภาพ ฉันมีพลังพิเศษในการใช้เสียงโจมตี”

    “เสียง?”

    ฉันเปิดประตูเดินออกไปและจากนั้นอ้าปาก คลื่นโซนิคยิงออกไปเป็นกระสุน กลุ่มหมวกฟางบอกได้ว่ามันรุนแรงไม่เบา

    “นายเป็นผู้กินผลปีศาจ”อุซปตกใจ

    “ไม่ใช่ เขาว่ายน้ำได้ไม่ใช่เหรอ”นามิพูดโต้แย้ง

    “ฉันมีพรสวรรค์ใช้เสียงโจมตี เพิ่มความเร็วและยังทำให้เกิดภาพติดตาหลอกศัตรู คนที่เห็นความสามารถนี้มักจะเชื่อว่าฉันกินผลปีศาจ มันช่วยให้งานฉันง่ายขึ้นเพราะศัตรูจะกลัวจนหนีไปหรือซัดฉันตกทะเล”

    “นายไม่ได้กินผลปีศาจจริงเหรอ”โซโลถามอีกครั้ง

    “ไม่มีทางที่ฉันจะกินผลปีศาจ ฉันว่ายน้ำเก่งมาก และถ้ากัปตันเราตกทะเลต้องมีคนช่วยไปพาขึ้นมา”

    นามิหรี่ตาลงกับคำพูดนั้น ทักษะพิเศษที่ได้มาโดยไม่ต้องกินผลปีศาจ…

    “ฉันน่ะได้ชื่อว่านักดำน้ำ”อุซปพูดและโดนทุบหัว

    “ความสามารถแฝงฉันคือหัวขโมย แต่ฉันชอบเรียกตัวเองว่านักดึงข้อมูลมากกว่า ฉันใช้ฮาคิสังเกตได้ด้วย”

    คำพูดของฉันทำให้เกิดคำถาม

    “โจรเหรอ”

    ฉันพยักหน้าหยิบกระเป๋าเงินของอุซปและไฟแช็คของซันจิ

    อุซปร้องอุทาน ซันจิก็ร้องดังๆ เมื่อฉันทำแบบนั้น โซโลยิ้มขณะที่นามิส่ายหัว

    “ว้าว ยอดเลย”

    “ฉันบอกแล้วว่าเร็วมากกัปตัน”จากนั้นฉันคืนหมวกฟางของลูฟี่ให้

    ทุกคนตกใจมาก พวกเขาไม่สังเกตว่าหมวกฟางของลูฟี่หายไป

    “อย่าแตะหมวกฉัน”ลูฟี่โกรธมาก ดูเหมือนหมวกใบนี้สำคัญกับเขา แต่เขาถามอย่างรวดเร็ว”นายทำงั้นได้ไง ฉันแน่ใจว่าตอนนั่งลงหมวกฟางยังอยู่”

    ฉันหัวเราะและพูดติดตลก”เวทมนตร์”

    การขโมยง่ายมากเมื่อเป้าหมายเพ่งความสนใจไปที่สิ่งอื่น เมื่อทุกคนประหลาดใจที่ฉันขโมยของจากอุซปกับซันจิ

    ลูฟี่ตอบรับด้วยคำชื่นชม อุซปปรบมือ นามิกับโซโลถอนหายใจ ซันจิยิ้ม”เหมือนนายจะคิดเร็วนะ”

    “เหมือนตอนที่นายจับอาวุธสโม๊คเกอร์เมื่อผ่านเขาไป”

    “ฉันฟันมันได้แน่

    ซันจิเถียงทันที”ไม่เจ้าหัวมอส ลูกเตะของฉันกับหมัดของลูฟี่พุ่งผ่านเขาไปหมด

    “แกเรียกฉันว่าอะไรนะ”

    ฉันยกมือห้าม เหมือนทั้งสองจะเข้ากันไม่ได้”ใจเย็นๆ…”

    นามิถอนหายใจ”ดีใจจัง ฉันไม่ใช่เพียงคนเดียวบนเรือที่รู้จักใช้หัว

    ฉันเหงื่อตก นี่เป็นเหตุการณ์ปกติใช่ไหม

    “ซันจิพูดถูก พอแตะอาวุธนั้นฉันก็รู้สึกไม่มีแรง”

    “เพราะมันทาด้วยหินไคโร”

    “หินไคโร”

    ฉันเริ่มสงสัยว่าคนพวกนี้ไม่รู้อะไร”หินไคโรเป็นหินที่มีคุณสมบัติเหมือนน้ำทะเล ผู้มีพลังสัมผัสหินนี้จะหมดแรง มันแข็งดุจเพรช สามารถอยู่ในรูปแบบของอาวุธ กระสุน กุญแจมือ อาคาร หรือเรือ การติดหินไว้ที่ใต้ท้องเรือทำให้ผ่านคามเบลได้อย่างปลอดภัย”

    “คามเบลคืออะไร”

    นามิอธิบาย”คามเบลเป็นอีกเส้นทางในการเข้าสู่แกรนไลน์ ที่นั่นไม่มีลม เป็นที่อยู่ของอสูรยักษ์”

    “อสูรยักษ์น่ากลัวขนาดนั้น”โซโลถาม

    “มันคือเหล่าเจ้าทะเล มีพวกมันนับพันตัวในคามเบล”

    เจ้าทะเลไมาได้น่ากลัว แต่ถ้าต้องจัดการ10ตัวทุกนาทีมันน่ารำคาญ

    อุซปร้องไห้ขาสั่น”ไม่มีทางที่ปลอดภัยกว่านี้”

    “อีกวิธีในการเข้าสู่แกรนไลน์คือผ่านแมรี่จัวร์แต่ต้องเจอทหารเรือ”

    อุซปส่ายหัว นามิร้องไห้ ลูฟี่ โซโลและซันจิยักไหล่

    เมื่อบรรยากาศตึงเครียดฉันก็ผ่อนคลาย

    “ต้นหนเรือของเราต้องเป็นคนเลือกว่าเส้นทางไหนดีที่สุด”

    “ขอบคุณเท็ด”

    เท็ดยิ้มกลับ”ก็…อย่างที่บอกฉันเกิดที่แกรนไลน์”

    “แล้วที่นายว่ามาจากแกรนไลน์ ที่นั่นเป็นไงบ้าง? มีคนแข็งแกร่งเยอะมั้ย”โซโลถาม ยิ้มเกี่ยวกับการหาคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง

    “มีคนแข็งแกร่งอยู่ทั่วแกรนไลน์”ฉันมองพวกเขาเห็น2อารมณ์ หวาดกลัวและตื่นเต้น

    ฉันนึกเรื่องสำคัญออก

    “ใช่ ผู้แข็งแกร่งจะใช้พลังฮาคิ”

    อุซปถาม”นายบอกว่าใช้ฮาคิสังเกตได้ ว่าแต่นั่นมันอะไร”

    “ฉันบอกได้ว่ามันเป็นพลังงานภายใน ฮาคิมี3ประเภท ฮาคิเกราะและฮาคิสังเกต”

    “แสดงให้เราดูหน่อย”

    “ฉันยังไม่ชำนาญนัก ขอเวลาหน่อย”ฉันหลับตาชั่วคราวตั้งสมาธิ”ซันจิ ไปยืนข้างหลังฉันหน่อย ฉันจะสาธิต”

    ซันจิทำตามขณะที่ฉันสวมผ้าปิดตา

    “ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นแล้ว ซันจิ เตะฉันเลย”

    นามิกับอุซปร้องด้วยความกลัว โซโลกับลูฟี่มองอย่างสนใจ

    “โอเค”เขาเตรียมเตะฉัน

    “เตะกวาดต่ำ”ฉันกระโดดและซันจิเตะวืด ซันจิปิดความตั้งใจไม่ได้ทำให้เดาง่ายมาก

    ฉันลงพื้น”ต่อเลย”ฉันรู้สึกว่าซันจิพยักหน้า”เตะที่ไหล่ซ้าย”ฉันหลบได้ ซันจิเริ่มเตะเร็วขึ้น

    “กระแทกหลัง”ฉันหลบไปทางขวา

    “สะโพก”ซันจิพยายามเตะสะโพกถูกฉันบล็อกไว้ แต่การ์ดเกือบพัง”นี่แหละคือฮาคิสังเกต”ฉันถอดผ้าปิดตา

    “เธอหลบการโจมตีได้ทั้งที่ปิดตาอยู่”นามิถาม

    “ฉันรู้ว่าเขาโจมตีมาจากทางไหน”ฉันตอบ

    ซันจิประทับใจ”นายพูดก่อนฉันจะเตะด้วยซ้ำ”

    โซโลเข้าใจได้”นายมองเห็นอนาคตได้”

    ฉันหัวเราะ”ไม่เชิง”มีเรื่องราวของโจรสลัดคนนึงที่ฝึกฮาคิสังเกตชำนาญจนเห็นอนาคตได้เสี้ยวนึง ฉันกลับไปนั่ง”ฮาคิเป็นพลังที่สถิตในทุกสิ่งมีชีวิต พืช สัตว์และมนุษย์ต่างก็มีฮาคิ นายแค่ต้องปลุกมันให้ตื่น”

    ฉันมองไปและได้รับความสนใจจากทุกคน

    “อย่างที่บอกไป ฮาคิเป็นเหมือนเจตนารมณ์ของคนคนนั้น สามารถเพ่งสมาธิเพื่อรับรู้ความตั้งใจของคนอื่น ฉันฝึกใช้มันจนรู้ว่าคนอื่นอยู่ไหน”

    “เจ๋งมาก”ลูฟี่อุทาน

    “ฮาคิที่พบมากที่สุดเรียกว่าฮาคิเกราะ สามารถใส่ลงไปที่มือหรืออาวุธเพื่อโจมตี พลังนี้สำคัญเพราะสามารถใช้ต่อกรกับผู้มีพลังผลปีศาจอย่างสโม๊คเกอร์ได้”

    ฉันชี้ที่ซันจิกับลูฟี่”จำคนที่หยุดสโม๊คเกอร์ไม่ให้โจมตีลูฟี่ได้ไหม เขาใช้ฮาคิเกราะ”

    ลูฟี่กับซันจิตกใจมาก ดราก้อนคว้ามือของสโม๊คเกอร์ พวกเขารู้สึกไร้พลังเมื่อแตะต้องเขาไม่ได้

    “รู้วิธีปลดมันไหม”

    ฉันส่ายหัว”มันค่อนข้างครุมเครือ ฉันแค่คิดว่าต้องมีความตั้งใจแรงกล้า ฉันไม่ได้ซ้อมมา6เดือนแล้ว”

    ลูฟี่กับซันจิจมอยู่ในความคิด นามิกับอุซปไม่สนใจนัก

    “คิดแบบนี้…มันเป็นความสามารถที่เราใช้ทำร้ายลูฟี่ได้เพราะเขาเป็นยาง การต่อยหรือเตะไม่ได้ผลเว้นแต่มีหินไคโร”

    ทุกคนหัวเราะขณะลูฟี่ทำหน้าบึ้ง”อา นั่นเป็นสาเหตุที่หมัดของปู่เจ็บมาก เขาใช้ฮาคิเกราะ”

    ทุกคนสับสนว่าใครคือปู่ของลูฟี่

    อุซปพูดขึ้น”ถ้าคนในแกรนไลน์มีพลังแข็งแกร่งแบบนี้จะฝ่าฟันไปได้ยังไง”

    ฉันหัวเราะ”นั่นไม่จริง ฮาคิมีจุดอ่อน ฮาคิเป็นพลังงานที่หมดได้และต้องพักฟื้น สอง ฮาคิต้องแข็งแกร่งกว่าศัตรู 3 ฮาคิเกราะเป็นเครื่องป้องกันแต่มันก็แตกได้ 4 ฮาคิไม่ได้ผลเสมอไป”ฉันพักหายใจ ซันจิเอาน้ำให้ ฉันรับไป

    ฉันเกือบลืมอันสุดท้ายไป

    “และชนิดที่3 ฮาคิราชัน”

    “นั่นฟังดูแกร่ง”ซันจิกล่าว”มันทำอะไรได้”

    “ผู้ใช้ความตั้งใจตัวเองเพื่อปราบผู้คน ฉันเคยเห็นคนใช้มันทำให้คนนับร้อยล้มเพียงแค่จ้องมอง และยังทำใหเคนอื่นรู้สึกกดดัน”

    โซโลพูดขึ้น”จะใช้มันได้ยังไง”

    ฉันยิ้มพูดสิ่งที่น่าผิดหวัง”ฮาคิประเภทนี้ไม่สามารถฝึกฝนได้ มีเพียง1ในล้านคนที่มีฮาคิชนิดนี้ติดตัวแต่กำเนิด ผู้ที่มีคือผู้มีคุณสมบัติราชา จริงๆฉันคิดว่าลูฟี่มีสิ่งนี้ เขาคล้ายกับคนที่ฉันเคยเจอ”ฉันไม่บอกว่านั่นคือเอส

    “ฉันด้วย ฉันคิดว่าฉันก็มีเหมือนกัน”อุซปยกมือ

    ฉันหัวเราะ”ถ้านายมีมันนะอุซป ฉันจะเรียกนายว่าGOD อุซป”

    ทุกคนหัวเราะ

    แต่แล้วทันใดนั้นเรือก็เกิดการสั่นไหว เมื่อออกมาข้างนอกก็พบ

    “คลื่นสึนามิข้างหน้า”

    นามิรีบออกไปที่ดาดฟ้า พบกำแพงน้ำใหญ่

    “เราไม่สามารถหนีมันพ้นได้”นามิกำหมัดกระแทกกับราวบันได”ลูฟี่ โซโล ไปปลดเชือก อุซป ซันจิ ถือหางเสือเรือตามที่ฉันสั่ง”

    เนื่องจากนามิไม่รู้ว่าเท็ดมีทักษะใดนอกจากการต่อสู้ เธอจึงไม่สั่งงานใดๆกับเด็กใหม่ และที่สำคัญ….เขาเป็นมนุษย์เงือก

    พายุเข้าโจมตีทำให้ดาดฟ้าและลูกเรือเปียกโชก เรือปีนฝ่าคลื่นยักษ์ เกิดภาวะไร้น้ำหนักก่อนที่แมรี่จะตกลงไปในทะเลเบื้องล่าง

    “อุซป หันไปทางขวา”นามิร้องท่ามกลางลมที่พัดแรง

    “พยายามอยู่”พลซุ่มยิงตอบกลับเธอ”คลื่นแรงเกินไป เราไม่สามารถขยับหางเสือได้เร็วพอ”

    “มาอีกแล้ว”ซันจิตะโกน

    คลื่นลูกใหม่กำลังมา ทั้งสองพยายามขยับหางเสือ

    “อุซป อย่าดึงเรือไปหาคลื่น”นามิเตือนเมื่อเรือสั่นอีกครั้ง

    กุ๊กและนายจมูกยาวพยายามดึงหางเสือตามคำสั่งต้นหน

    พลั๊ก

    ฉันคว้ามือชายทั้งสองผลักพวกเขาออกจากไม้หัวแกะ ทั้งสองเงยหน้าตกใจ ฉันถือหางเสือเรือ

    มือจับท่อนไม้ไว้ เขาจ้องมองผ่านประตูที่เปิดอยู่ของห้องครัวและตั้งสมาธิจดจ่อกับคลื่นที่ซัดเข้ามา นามิที่ระเบียงไม่ได้สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลง”คลื่นกำลังมา เลี้ยวขวา”

    คลื่นเข้ามายกแมรี่ไปใกล้ยอด ฉันเมินคำสั่งต้นหน หันเรือไปตามทิศทางลมเพื่อให้เคลื่อนตัวลงผ่านคลื่น แทนที่จะเป็นมุมตรง ขณะเรือแล่นผ่านคลื่น ฉันเปลี่ยนเส้นทางอีกครั้ง

    อุซปและซันจิกรีดร้องตื่นตระหนกพยายามแย่งที่คุมหางเสือคืน แต่ไม่มีทางสู้แรงเงือกได้ เขามุ่งความสนใจไปที่คลื่นต่อไป 

    พลซุ่มยิงและกุ๊กมองด้วยความตกตะลึงขณะที่เด็กใหม่นำเรือแมรี่ให้เหาะเหินผ่านคลื่นอย่างชำนาญ

    ในที่สุดพวกเขาก็ฝ่าพายุมาได้และท้องฟ้าก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีฟ้า ด้วยการโยกครั้งสุดท้ายแมรี่ก็แล่นไปตามทะเลสงบ มีเสียงไชโยบนดาดฟ้า และนามิก็ทรุดด้วยความโล่งใจ

    “ทำได้ดีมากอุซป”เธอยิ้มหันกลับมาที่ห้องครัว”ไม่นึกว่านายจะ…”

    เท็ดนอนทรุดพิงหางเสือ อุซปกับซันจิยืนอยู่ด้านข้าง ต้นหนเรือประมวลผลครู่นึงและเข้าใจ

    “เดี๋ยวก่อน เขาเป็นคนพาเราฝ่าพายุ”

    “เขาทำคุณนามิ”ซันจิพูดตรวจสอบเด็กหนุ่มที่เหนื่อยล้า

    “เธอน่าจะได้เห็นมัน”อุซปยังแช่แข็งกับที่”เขาไม่สะดุ้งเลย แย่งหางเสือจากมือเราและคุมเอง เขายังปล่อยหางเสือและให้แมรี่ไหลไปเอง”

    “อุซป ช่วยฉันพาเขากลับไปนอนหน่อย เขาเหนื่อยแล้ว”ซันจิชวนเพื่อนพาออกไป

    เท็ดยังมีสติแต่รู้สึกอ่อนล้ามาก

    “ไม่ได้ทำแบบนี้มานานแล้ว…”

    ขณะเดียวกันด้านต้นหน นามินึกย้อนไปถึงพายุและวิเคราะห์สภาพอากาศ ถ้าไปตามทางที่เธอสั่ง โอกาสจะเจอคลื่นเล่นงานเพิ่มขึ้น10เท่า เรียกได้ว่าเท็ดช่วยพวกเธอไว้

    “มีอะไรเหรอนามิ”ลูฟี่ถามเห็นต้นหนใช้ความคิด

    นามิจ้องมองกัปตัน และพยายามอธิบายถึงคุมหางเสือช่วงที่เกิดพายุมีความสำคัญมากเพราะชี้เป็นชี้ตายเรือและชีวิตคนบนเรือได้ แต่การทำด้วยตัวคนเดียว เขาต้องเข้าใจเรือและให้เรือแล่นตามคลื่น ชายคนนี้อยู่บนเรือไม่กี่ชั่วโมง เขาคุ้นเคยกับการเคลื่อนไหวของแมรี่ได้ขนาดนั้น ทักษะทั้งหมดที่นำมาใช้ร่วมกันมีความหมายเดียว

    “คนถือหางเสือ”นามิพึมพำ

    ลูฟี่มองเธอและยิ้ม ไม่นานนักเท็ดก็ฟื้นและเดินออกมาที่ระเบียง

    “ตั้งแต่นี่ไปนายเป็นคนถือหางเสือ”

    “ด้วยความยินดีกัปตัน”

    เท็ดมีตำแหน่งเป็นทางการบนเรือ

    "ดูแสงนั่นสิ"นามิตะโกน มองแสงไฟจากประภาคาร"มันคือแสงนำทาง สุดแสงนั่นคือปากทางเข้าแกรนไลน์ล่ะ"

    "สุดแสงนั่นคือแกรนไลน์เหรอ"ลูฟี่มองด้วยรอยยิ้ม

    "จะเอาไงล่ะ?"นามิถาม

    "อยู่ท่ามกลางพายุแบบนี้พวดนายไม่รู้สึกอะไรเลยรึ!!!"อุซปตะโกนขณะกำลังเกาะเสากระโดงเรือแน่น

    "ไม่นี่"เท็ดตอบ คนอื่นแค่ยิ้มเป็นคำตอบว่าไม่กังวล 

    "ดีล่ะมาทำพิธีออกสู่มหาสมุทรอันกว้างใหญ่กันมั้ย"ซันจิเสนอ

    "นี่!!!!"อุซปร้องที่ไม่มีใครสนใจ

    "ดีเลย!!" 

    "มาทำกันเถอะ!" 

    "เอาด้วย!!!"

    ซันจิเอาถังไม้มาวางไว้ เขายกขาวางไว้บนถังไม้ 

    "สำหรับฉันเพื่อการค้นหาออลบลู"

    ลูฟี่ยกขาขึ้นบนถังคนต่อมา"ฉันจะเป็นราชาโจรสลัด"

    "ฉันจะเป็นยอดนักดาบ"

    "ส่วนฉันเพื่อการเขียนแผนที่รอบโลก"

    ต่อไปตาฉัน”ฉันจะเป็นสุดยอดนักล่าสมบัติ”

    อุซปเป็นคนสุดท้าย"ฉะ…ฉัน เพื่อเป็นนักรบแห่งท้องทะเลที่กล้าหาญ"

    "มุ่งสู่แกรนไลน์!!!!!!"ลูฟี่ตะโกน ทุกคนยกเท้าทุบถัง

    การผจญภัยได้เริ่มขึ้น

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×