คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : การทดสอบที่ 2.5 กำแพงชินซู
เราถูกเคลื่อนย้ายมาสนามสอบที่สองขณะจับมือกัน เราอยู่ในห้องโถงใหญ่เพื่อรอการทดสอบครั้งต่อไป เชอรี่มองไปรอบๆมีพวกปกติที่ผ่านเกินร้อยคน พวกเขาดูแข็งแกร่ง
"มาดวลกับข้าเจ้าเต่าดำ"
"ไม่เอาครับ"
"ข้าบอกให้มาดวลกับข้าไง"
คูนหันมาเตือนว่าถ้าโชว์แบล็คมาร์ชแบมได้ตกเป็นเป้าหมายแน่และหยิบช็อกโกบาร์ให้"ฉันยกนี่ให้ มาพักรบกันเถอะนะ"
เร็คกินไปและติดใจขอเพิ่มอีก คูนเทมันออกมาจากกระเป๋าเป็นภูเขา เร็คนั่งกินมัน
“ใช่ ฉันมีเรื่องจะถามแบม”เชอรี่กล่าว มีเรื่องหนึ่งที่เธอน่าจถามแต่แรกแล้ว”นายมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทำไมไม่อยู่ในถ้ำ”
“ถ้ำ?”คูนสงสัย
“ฉันไม่รู้เหมือนกัน ฉันตามราเชลไปแล้วจู่ๆก็มีแสง”
“ราเชล”
“ใช่ ราเชล เธอบอกว่าเธอจะไป ผมเลยตามเธอไป”แบมพูดอีกครั้ง
ยูราเซีย”…..”
“ราเชลอีกแล้ว ทุกทีสิน่า แต่ทำไมผู้หญิงคนนั้นถึงจากไป? ฉันคิดว่าเธอคือคนที่อยากให้แบมอยู่ในถ้ำ ผู้หญิงคนนี้น่าสงสัยขึ้นเรื่อยๆ ฉันไม่ชอบเธอเลยสักนิด”
เสียงตะโกนดังขึ้นมา
“ในที่สุดก็เจอจนได้ ฉันจะฆ่าแก”
มีการทะเลาะวิวาทระหว่างพวกปกติ2คน
“เป็นเพราะแกแขนฉันเลยมีสภาพแบบนี้ จะชดใช้ยังไง”
ชายผมแดงที่เสียแขนข้างหนึ่งและเด็กหนุ่มผมดำที่ตัดแขนเขาไม่สนใจแม้แต่น้อย
“ไม่รู้สิ คงซื้อกาวมาติดมั้ง”
“แก!!!”
“พวกเขากำลังสู้กัน”ยูราเซียยืนขึ้นและมองอย่างตื่นเต้น
“ไม่นึกว่าเธอจะมีความสุขกับเรื่องนี้”
เซเลสเต้กำลังมองการวิวาทเช็ดดาบด้วยผ้าขาว”ดูเหมือนจะมีเรื่อง”
“ไม่ใช่เรื่องของเราจริงมั้ย”อัลเทร่าถาม
ไม่นานเกิดการทะเลาะระหว่างพวกปกติทีมอื่น ทีมของเรานั่งดู ชายผมบลอนด์ตัวสูงสวมชุดสีขาวเดินมาข้างหน้าหยุดการวิวาท
“ผมคือผู้คุมสอบ ลีโร โร ครับ”
ทุกคนเหงื่อไหลกับคำพูดของลีโร โร แต่พวกเขาพูดไม่ได้เพราะอีกฝ่ายเป็นแรงเกอร์
“ผู้ผ่านการทดสอบมีเยอะกว่าที่คาดไว้ ผมขอคัดสรรเล็กน้อยนะครับ”
“คัดสรร?”
ลีโร โร รวบรวมชินซูที่ฝ่ามือขว้างออกไปกลายเป็นคลื่นน้ำผลักเราออกแต่ไม่ใช่ทุกคน
@@@@@@@@@
POV คูน
“ชินซู”ฉันมองกำแพงขวางระหว่างพวกปกติและผู้คุมสอบ
“ชินซูเป็นต้นกำเนิดของพลังของหอคอย ที่พวกเราสามารถหายใจกันได้ก็เพราะน้ำนี้ ภายในหอคอยทุกคนจะใช้น้ำนี้และต่อสู้กัน ทีมที่ผ่านกำแพงนี้มาได้ โดยที่ไม่พ่ายแพ้ให้แก่น้ำชินซูจะผ่านการทดสอบ นอกเหนือจากนั้นสอบตก”
“ทีมงั้นเรอะ? งั้นถ้ามีใครสักคนผ่านไม่ได้จะเป็นไง”
“สอบตกครับ”
“มั่วซั่วสิ้นดี”
เชอรี่มองดูพวกเขาอย่างเย็นชา
“พวกนั้นกังวลว่าเพื่อนร่วมทีมจะลากพวกเขาตก…แต่คิดบ้างไหมว่า พวกเขาจะเป็นคนลากเพื่อนร่วมทีมตก”
“สิ่งจำเป็นที่สุดในการปีนหอคอยก็คือดวงครับ ดวงที่เกิดมาพร้อมร่างกายและมันสมองที่เป็นเลิศ ทรัพสมบัติ รอดตาย และได้เพื่อนร่วมทีม เลิกเถียงแล้วทดสอบซะพวกปกติ”
เชอรี่และโอล่าไม่พูดอะไรสักคำ ทั้งสองมีความคิดเดียวกันหลังได้ยินคำพูดของลีโร โร
เชอรี่เริ่มคิด ถ้าเป็นชินซูระดับแค่นั้น เจ้าจระเข้คงผ่านไปได้ง่ายๆ คูนก็แข็งแกร่ง ปัญหาคือแบม…แบมล่ะ?
“คือว่า…ผม ไม่รู้ทำไมไม่ถูกซัดไปน่ะครับ”
แรงเกอร์จ้องด้วยสีหน้าประหลาดใจและตกตะลึง แบมหัวเราะอย่างประหม่า”ขอโทษครับ จะออกไปข้างนอกเดี๋ยวนี้ครับ”
“ไม่ครับ คุณสอบผ่านแล้ว”
“เอ๋?”
“อาจจะเกิดความผิดพลาดขึ้นก็เป็นได้ แต่นั่นก็เป็นดวงเช่นก้นครับ”
“ว่าไงนะ”
“ขี้โกง”
“สมเป็นเจ้าเต่าดำของข้า”เร็คพูดอย่างภาคภูมิใจ
เป็นไปไม่ได้ที่จะพลาด ขนาดฉัน คูนและจระเข้ยังโดนซัดมาแท้ๆ เขาไม่ได้ถูกผลักต่างหาก
"งั้นพวกเรารีบเดินข้ามไปกันเถอะ"ฉันบอกขณะที่คนอื่นผลักกำแพง
"มาดูฝีมือของคนอื่นกันก่อนเถอะ"คูนตอบจับหลังผ้าเร็คที่เดินไปที่กำแพง
ฉันดูแบมกับลีโร โรคุยกัน พวกเขาชี้ไป ฉันมองตามนิ้วไปสาวผมม่วงตาสีแดงผ่านไปง่ายๆ ตามด้วยหนุ่มผมฟ้าและผู้หญิงผมขาว
ต่อมาเป็นสาวผมบ๊อบสีน้ำตาลผิวเขียวและชายผมดำที่เหน็บดาบไว้
อีกกลุ่มที่ฉันสังเกตคือชายหัวเขียวที่มาจากตระกูลสาขาของยูราเซียข้ามกำแพงไปและล้มตัวนอน ชายในชุดวอร์มกับหญิงผมสั้นที่ทะเลาะกันขณะพยายามฝ่ากำแพง
ความคิดเธอถูกขัดจังหวะด้วยเสียงดัง
"โธ่เว้ย ทำไมฉันต้องมาตกรอบกับการทดสอบไร้สาระนี้ด้วย"
คนที่ตะโกนเป็นชายวัยกลางคนอายุราวๆ50-60
"ฉันไม่รู้หรอกว่าสิ่งกีดขวางนี้ทำจากอะไร แต่ฉันเก่งมากเลยนะเว้ย พวกปกติทั้งหมดที่นี่ฉันนี่แหละแข็งแกร่งที่สุด ไม่ผ่านการทดสอบโง่ๆแล้วถูกตัดสิทธิ์งั้นเหรอไร้สาระ ไอ้เด็กเหลือขอพวกนั้นผ่านเพราะดวงดี แกล้อเล่นอยู่รึไง คนที่เก่งที่สุดอย่างฉันทำไมต้องถูกตัดสิทธิด้วยฟะ"
ความตึงเครียดเริ่มปกคลุม
ยกเว้นคนเดียวที่ยิ้มได้กับสถานการณ์นี้
“เฮ้”อัลเทร่าสะกิดเซเลสเต้”มีการแสดงดีๆ”
เชอรี่รู้สึกว่าเลือดเดือดพล่านลุกขึ้นจากที่นั่งด้วยท่าทางไม่พอใจ นึกถึงคำสอนของท่านย่า
“ถ้าเสือไม่แสดงพลังจะถูกมองเป็นแมว”
แต่ก่อนเธอจะเดินไปหรือลีโร โรจะพูดอะไร โอล่าที่เงียบตลอดเวลาเคลื่อนไหว
เด็กสาวผมม่วงหายไปจากจุดนั้น โผล่ไปหน้าชายคนนั้น เขาสูงใหญ่กว่าเธอมาก แต่ความสูง อายุและร่างกายไม่มีความหมายพิเศษอะไรในหอคอยนี้
ผู้ชนะชัดเจน
“แกเรียกใครว่าเด็กน้อย”โอล่าถาม
“แกต้องถามด้วยเหรอ”ชายคนนั้นพูดโดยไม่รู้สถานการณ์ตัวเอง”แกเป็นเด็กเหลือขอที่ผ่านเพราะดวงดี แกมีสิทธิอะไรมาขวางทางฉัน ไสหัวไปซะ”
โอล่ายิ้ม
“แกไม่เข้าใจความหมายของดวงตาสีแดงทั้งสามนี้ด้วยซ้ำ”โอล่ากล่าว”แล้วแกอ้างว่าตัวเองแข็งแกร่งที่สุด หยิ่งเกินไปรึเปล่า”
“ฮะ?”
จู่ๆแรงกดดันมาจากข้างบนบังคับให้เขาคุกเข่าตรงหน้าสาวผมม่วง
เชอรี่ประหลาดใจกับพลัง
พวกปกติที่อ้างว่าแข็งแกร่งที่สุดคุกเข่าต่อหน้าเธอโดยไม่มีโอกาสสู้แรงกดดันที่เธอมอบให้ ใบหน้าเธอแสดงอารมณ์เดียวคือความโกรธและเบื่อหน่ายพวกกระจอกที่เห่าหอน
แต่ความเย่อหยิ่งของโอล่าต่างจากชายคนนั้น หากความเย่อหยิ่งของชายคนนั้นมาจากการประเมินตัวเองสูงไป ความหยิ่งของโอล่ามีไว้สำหรับผู้ที่สมควรได้รับความเคารพ เธอรู้ว่าถ้าโอล่าพบบุคคลที่คู่ควร เธอจะปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพ
แต่ชายตรงหน้าไม่สมควรได้รับความเคารพจากเธอแม้แต่น้อย
“น่าสมเพช”
ชายคนนั้นถูกพลังของเธอกดดันจนพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงและทำได้แต่เพียงร้องไห้ขณะมองโอล่าด้วยความกลัว
โอล่าคุกเข่าลงบีบหน้าให้เขามองเธอ
“คนต้องรู้จักสถานะของตัวเอง ผู้แข็งแกร่งกลืนกินผู้อ่อนแอ เพื่อความอยู่รอดพวกอ่อนแอควรหุบปาก ระวังคำพูดและการกระทำ รู้ไหมทำไม”
เขาพูดอะไรไม่ออก แต่โอล่าไม่สนใจ
“เพราะพวกขี้แพ้ไม่มีสิทธิพูด คนแพ้ไม่มีสิทธิตัดสินใจ ถ้ารู้ว่าชีวิตสำคัญแค่ไหน เขาต้องเข้าใจว่าควรทำยังไง แกไม่รู้ว่าทำยังไงถึงจะเป็นผู้ชนะ อะไรทำให้แกมีสิทธิมาเห่าหอนและอ้างว่าแข็งแกร่งที่สุด”
เธอโยนเขาลงพื้น
แรงกดดันหายไป แต่ความตกใจของพวกปกติไม่หายไป ทุกคนบอกได้เลยว่าโอล่าอันตรายมาก
โอล่าทิ้งชายคนนั้นไว้ ไม่ใช่เพราะเธอสงสาร แต่การลงโทษเป็นอำนาจของแรงเกอร์
ขณะที่เธอกำลังจะหันกลับ เธอก็พูดว่า
"ผู้แพ้เป็นผู้แพ้ตลอดกาล ถ้าเข้าใจที่ฉันพูดแล้ว กลับไปยังที่ที่แกจากมาซะ เศษสวะอย่างแกไม่เหมาะจะอยู่ที่นี่"
“ใครว่าคนขี้แพ้ต้องขี้แพ้ตลอดไป”
โอล่าเหลือบมองคนที่พูดคำนั้น เชอรี่
ความแตกต่างระหว่างพวกเขาคือเชอรี่ไม่โหดร้ายและเย็นชาเหมือนโอล่า บางอย่างที่เธอไม่มีอีกต่อไป…สิ่งที่ผู้คนในหอคอยสูญเสียไป
“ฉันพูดไป เธอมีปัญหาอะไรไหม”
“ผู้แพ้ไม่ขี้แพ้เสมอไป ตราบใดที่พวกเขาพยายามหนักและฝึกฝนตัวเองอย่างเข้มแข็ง พวกเขามีโอกาสทะยานเหมือนนกฟินิกส์”
โอล่ายิ้มเยาะเย้ย”เธอคิดจริงๆเหรอว่าความอุสาหะจะได้รับความตอบแทน”
“ใช่”เชอรี่กล่าว"ฉันเชื่อมั่นอย่างแรงกล้า"
“ช่างไร้เดียงสาเหลือเกิน”โอล่ากล่าว"อะไรทำให้เธอคิดว่าโลกนี้สวยงาม"
"เพราะบาป"เชอรี่กล่าว"คุณเก็บเกี่ยวสิ่งที่คุณหว่าน ฉันไม่เชื่อว่ามีความทุกข์สำหรับคนที่ทุ่มเทเพื่อไล่ตามความฝัน
โอล่าพ่นลม
"บาปอะไร ในหอคอยนี้ มีเพียงพลังและความแข็งแกร่งเท่านั้นที่กำหนดระดับชั้น ตราบใดที่เธอแข็งแกร่งก็ไม่มีใครต่อต้าน ไม่มีใครชนะเธอได้"
เชอรี่มองเธอ แววตาของเธอเศร้าสร้อย
"เธอคิดแบบนั้นจริงๆเหรอ"
"แน่นอน"
".........."
ทั้งสองจ้องมองกันไม่สนสายตาของพวกปกติ
"เชอรี่"
เสียงของแบมทำให้เธอเสียสมาธิ
เชอรี่เหลือบมองเพื่อนของเธอก่อนจะมองโอล่า หันกลับเดินมานั่งข้างแบม
"ไม่เป็นไรหรอก"
"เธอเป็นแบบนี้ตลอดเลยเหรอ เธอโกรธง่ายจัง"
เชอรี่ตอบด้วยรอยยิ้ม"ทั้งหมดฉันเรียนรู้จากเธอ"
"อะไรนะ ฉันไม่ใช่คนแบบนั้น"
เชอรี่เพียงยิ้มและหลับตา
ด้านทีมชิบิสึ
“เฮ้ เพื่อน ดูสิ สาวสวย”
“ไม่”
“เถอะน่า เงยหน้าขึ้นเถอะ”
“ให้ตายสิชิบิสึ ถ้านายทำฉันเสียเวลา…”
ฮัตซ์เงียบไป ผมสีชมพูทรงทวินเทล ใบหน้ากลมและดวงตาสีเหลืองคล้ายกับแมว
“ฮิๆ ฉันบอกนายแล้วไงฮัตซ์”
พวกปกติยังพยายามฝ่ากำแพงมา
"ไปกันเถอะ"
อัลเทร่าผ่านกำแพงชินซูยื่นมือไปหาโอล่าที่มองเขาด้วยความเกลียดชัง เขายิ้มยื่นมือให้แต่โอล่าปัดทิ้ง เธอยืนขึ้นและเดินไปไม่พูดอะไรสักคำ
ขณะเดียวกัน คูนกับเร็คก็ผ่านการทดสอบเช่นกัน แม้คูนจะมีปัญหาเล็กน้อยกับกระเป๋าของเขาที่ติดกำแพง
เขายิ้มและโบกมือให้แบม
"แบม"
"คูนซัง เร็คซัง!!!"แบมเรียกลุกจากที่นั่ง
"ผมจะตั้งตารอที่จะได้พบกันใหม่ครับ"ลีโร โรบอกแบม
"ขอบคุณมากครับ"
"แล้วก็อย่าไปสนิทกับคุณคูนเขามากจะดีกว่า"ลีโร โรเตือน
"เอ๊ะ?"แบมเอียงคอสงสัยขณะเขาเดินจากไป
ความคิดเห็น