คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : PROLOGUE(2) - Trojan War
อคิลลิส ยืนอยู่หน้ากองทัพกรีกซึ่งทุกคนตื่นเต้นที่จะได้ต่อสู้ ทหารทรอยก็ประหม่าเมื่อเจอทัพใหญ่หน้าประตูเมือง มือธนูบนกำแพงเตรียมพร้อมปล่อยธนูใส่กองทัพผู้รุกราน
สองพี่น้องอยู่คนละฝั่งของสนามรบ พวกเขาไม่จำเป็นต้องคุยเพื่อเข้าใจความคิดอีกฝ่าย
พวกเขาไม่แน่ใจว่าใครจะเคลื่อนไหวก่อน
ทั้งสองต่างร่ำเรียนมาจากอาจารย์คนเดียวกัน ด้านความแข็งแกร่งเทอร่าอาจสู้อคิลลิสไม่ได้ แต่ด้านสติปัญญาอคิลลิสก็ไม่อาจสู้เทอร่าได้เหมือนกัน
อคิลลิสรู้ว่าเทอร่ารู้ทันความคิดเขา เพราะงั้นเขาไม่ต้องเสียเวลาคิด
”เมอร์มิดอน”อคิลลิสตะโกน”เราจะเป็นทัพหน้า บุก!!!”
ความคิดอคิลลิสก็คือบุกทะลวงเข้าไปก็พอ
อคิลลิสวิ่งไปข้างหน้าพร้อมเมอร์มาดอนที่วิ่งตามผู้ครองนครไป
อากาเมน่อนมองด้วยความอาฆาตเมื่ออคิลลิสไม่รอคำสั่งตน เขาคิดว่าจะแก้แค้นโดยการหยุดกองทัพกรีกที่เหลือให้อคิลลิสและเมอร์มิดอนโดนสังหาร น่าเสียดายที่การนำทัพของสองพี่น้องทำให้โอดีสซุสและอาแจ็กซ์ร้องคำรามและนำทัพตามเขาร่วมการโจมตี
อากาศตอนเช้าชื้น หมอกยังปกคลุมสนามรบขณะที่ชาวทรอยยิงธนูจากกำแพงเมือง
แน่นอนพวกเขาไม่รู้ว่าบุตรแห่งเธติสกำลังทำสิ่งใดอยู่
บนกำแพง สกาฮะกำลังร่ายเวทมนตร์ใส่หมอกหนาที่ปกคลุมสนามรบ
เมื่อลูกธนูพุ่งผ่านอากาศหมอกก็หนาขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อ และไอเย็นได้เข้าแช่แข็งให้กลายเป็นธนูน้ำแข็งระเบิดแตกเป็นหนามแหลมกระจาย
"ยกโล่เร็ว!!!"อคิลลิสร้อง
ทหารฝ่ายกรีกต่างพากันยกโล่กันไว้แต่มีทหารหลายพันไม่เร็วพอโดนทิ่มแทงไป อคิลลิสอยู่ในกำแพงโล่ของทหารเมอร์มิดอน
"ลันต้า ต่อไปตาเจ้า"สกาฮะกล่าว
"เข้าใจแล้ว....ข้าขอวิงวอนต่อเทพอาร์เทมีส"
อตาลันต้ายิงศรขึ้นสู่ท้องฟ้าและโอดิเซียสเคยเห็นพลังนี่ที่ท่าเรือ
"เฟี้ยว.....ตูมๆๆๆ"
ระเบิดธนูเวทที่พุ่งลงมาระเบิดทำลายกำแพงโล่ของทหารกรีกตายไปอีกหลายพัน
"พลธนูเตรียม....ยิง!!!!"อกาเมน่อนสั่ง
ทหารกรีกยิงธนูใส่ทหารทรอยบนกำแพง แต่ทัศนวิสัยแย่อีกทั้งเทอร่ากำลังควบคุมหมอกนี้อยู่ เขาลดความเร็วมันให้หยุดก่อนถึงทหารทรอย
"ยิงบ้าอะไรของพวกแกวะ!!"อกาเมน่อนโกรธ
"ท่านครับ พวกทรอยบุกมาแล้ว"
"หมอกหนาเต็มไปหมด!!!"
ทหารกรีกเริ่มหวาดกลัวเมื่อศัตรูซ่อนอยู่ในหมอกหนาและกำลังมุ่งหน้ามาหาพวกตน
ท่ามกลางหมอกหนาคือเฮคเตอร์และเทอร์ร่า ทหารสองนายพยายามขวางไม่ให้พวกเขาบุกทำลายแนวทัพ แต่เทอร์มิสใช้มือจับหักคอเขาและพุ่งแทงคอทหารอีกคนด้านหลังโดยที่ร่างทหารคนแรกยังไม่ทันตกพื้น
เขายกดาบปัดหอกสองเล่มที่ฟาดเข้ามา ผู้โจมตีไม่มีโอกาสตีเพราะกองกำลังเมอร์มาดอนตามเข้าจู่โจมจากด้านหลังผู้บัญชาการทั้งสอง ผลักดันให้แนวทัพแรกทรอยแตกถอยร่นไป
ไม่ช้าทหารทรอยพุ่งเป็นหอกทะลวงเข้ากลางกองทัพกรีกและความโกลาหลก็เริ่มขึ้น
อคิลลิสโต้กลับอย่างเร็ว หอกตวัดสังหารทหารทรอยรอบๆ ก่อนชักหอกใต้โล่เขาไปตีทหารทรอยทีเดียว3คนปลิวไปด้วยแรงมหาศาลที่มนุษย์ธรรมดาเทียบไม่ได้ และหันโล่ไปทางขวารับหอกขณะแทงดาบเขาไปทางซ้ายแทงอกทหาร และค่อยหยกมือขวาขึ้นแทงหอกสังหารคนที่พึ่งแทงหอกใส่เขา
เวลาผ่านในสนามรบผ่านไป1-2ชั่วโมงอย่างรวดเร็ว
เทอร่าดึงดาบออกจากอกทหารกรีกขณะมองดูสนามรบ ชาวทรอยเป็นนักรบที่เก่งกาจด้านการตั้งรับ การรบเหมือนอยู่สภาพชะงักงัน จำนวนผู้สูญเสียทั้งสองฝ่ายมากพอๆกัน
สิ่งที่ทำให้ฝ่ายกรีกได้เปรียบคือเมอร์มิดอนเริ่มตั้งหลักใหม่และบุกทะลวงโดยอคิลลิสเป็นหัวหอก
เทอร่าอยู่ทางฟากปีกซ้ายและควงหอกสีแดงฟาดฟันอย่างร้ายกาจ ทหารกรีกลังเลที่จะโจมตี ไม่มีใครสร้างรอยข่วนบนร่างเขาได้เพราะเขาเป็นอมตะ แต่พวกเขาไม่รู้เพราะไม่มีอาวุธไหนสัมผัสโดนเขาได้เลย
ขณะที่เขาฟาดคมหอกเฉือนคอทรอยอีกราย เทอร์มิสเบิกตากว้างเมื่อเฮคเตอร์กำลังสู้กับอคิลลิส แม้เขาเป็นยอดนักรบแต่เขาอยู่คนละระดับกับพี่ชายเขา
เทอร์มิสเอาโล่ไว้ที่หลังและกวัดแกว่งหอกมารของเขาฆ่าทหารรอบทิศ ก่อนจะขว้างหอกแดงและใช้เชือกเกี่ยวบินไปกับหอก เมื่อทหารกรีกเห็นเทอรร่าบุกทะลวงตีฝ่ามาก็ตั้งกำแพงไม่ให้ไป แต่เทอร่ากลับโดดจากบนหอกลงไปแทรกระหว่างที่เฮคเตอร์กำลังจะพลาดท่าชักดาบขวางทางอคิลลิสไว้
"จงมา"
"เฟี้ยว!!!"มีเสียงแล่นผ่านอากาศและหอกแดงก็พุ่งกลับมาอยู่ในมือเทอร่า
"เปรี้ยงๆๆๆเคร้งๆๆ"
อคิลลิสตวัดหอกรับมือหอกแดงของเทอร่า เขารู้พิษสงหอกแมงป่องแดงของน้องชายดีและโดดถอยไปมองเขา
”โทษทีพี่ชาย แต่เฮคเตอร์เป็นพี่เขยข้าแลข้าปล่อยให้ท่านฆ่าเขาไม่ได้"
”ยุติธรรมดีเทอร่า แต่เจ้าจะไม่อาจขวางข้าจากเส้นทางแห่งเกียรติยศได้"
”เกียรติยศ ท่านตกต่ำจนยอมเป็นเครื่องมือให้อกาเมน่อนเลยหรือ?"
"ข้าสู้เพื่อตัวเอง นักรบสู้เพื่อแสวงหาชื่อเสียงเทอร่า ข้าไม่ใช้ผู้นำอย่างเจ้านี่"
อคิลลิสแทงหอกไปข้างหน้า เทอร่ายกหอกตนเองรับและแทงกลับแต่อคิลลิสหมุนตัวหลบ
เทอร่าควงหอกด้วยความเร็วมากขึ้น ซึ่งอคิลลิสบล็อกอย่างรวดเร็วหรือตอบโต้
เทอร่าฟันต่ำแต่อคิลลิสอ่านทางออกก้าวเท้าหลบและตีหอกทางขวา เทอร่าสังเกตยกหอกรับก่อนต้องก้าวเท้าถอยไปเพื่อหลบดาบที่แทงจากด้านข้าง
"ครั้งนี้จะไม่เหมือนที่สู้กันคราวก่อน"
"ข้าก็คิดเช่นนั้น"
เกิดพื้นที่โล่งเล็กๆเพราะไม่มีใครไปขวางการต่อสู้ของเจ้าชาย
เทอร่ามองนักรบตรงหน้าด้วยความยำเกรง แม้เขาจะไม่เกรงกลัวแต่มองออกว่าอคิลลิสมีทักษะสูงกว่าเขา
พริบตานั้นอคิลลิสดึงโล่ออกจากหลังเหวี่ยงมันเหมือนบูมเมอแรง เทอร่าพยายามหลบไปทางขวาแต่โดนฟาดเข้าที่ซี่โครงเข่าทรุด อคิลลิสพุ่งเข้าไปหวังสังหารศัตรู
เทอร่าฟื้นตัวเร็วตวัดหอกทำให้อคิลลิสต้องก้าวถอยหลังไป เขาเฉือนและแทงหอกด้วยความเร็วสูง แต่เทอร่าได้เห็นการหลบหลีกโดยไม่เคลื่อนไหวเกินจำเป็นและอคิลลิสก้มไปทางขวาใช้หอกแทงกระชอกผืนทรายขึ้นมากระเด็นใส่หน้า
เทอร่าตาบอดไปครู่นึงและอคิลลิสยกหอกแทง เขาหมุนตัวกลิ้งหลบก่อนชักดาบฟันเฉียดคอแต่อีกฝ่ายหลบได้
มือหอกทั้งสองเดินวนไปรอบๆก่อนจะพุ่งใส่กันและประกายไฟจากเหล็กกระทบเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง เทอร่าพยายามผลักดันไปข้างหน้าแต่อคิลลิสยังตั้งมั่นได้และเตะเข้าที่ท้องซ้ำแผลเก่าให้เทอร่าชะงักและยกปลายด้ามจับตีมือให้ดาบหลุดจากมือเทอร่าและยกหอกฟาดให้เขาล้มลงพื้น
อคิลลิสยกเท้ากระแทกอกตรึงเทอร่าไว้ ก่อนที่เขาจะแทงหอกสังหาร สัญญาณถอยจากฝั่งกรีกก็ดังขึ้น
”ศึกวันนี้ดูท่าจะจบแล้ว”อคิลลิสยังตรึงเทอร่าไว้
อคิลลิสจ้องดวงตาเทอร่าที่เต็มไปด้วยความกลัวแต่ใบหน้าไม่แสดงออก ก่อนที่เขาจะลดหอกลง
”ครั้งก่อนเจ้าไม่ฆ่าข้าหลังการประลอง ข้าติดหนี้เจ้าอยู่ ไปซะ แต่เจอกันครั้งหน้าจะไม่มีแบบนี้อีก"
อคิลลิสมองไปบนกำแพง เขารู้ว่าแมวสาวกำลังเล็งธนูเล็งส้นเท้าเขาถ้าคิดแทงหอกปลิดชีพ
"เจ้ามีภรรยาที่ดี"
อคิลลิสพูดทิ้งท้ายแล้วตามกองทัพกรีกกลับไปค่ายขณะที่เทอร่ายังนอนหมดสภาพเพราะเจ็บหนัก อตาลันต้ารีบโดดลงจากกำแพงเข้ามาดูสามีเธอ
"เทอร่า เจ้าไม่เป็นไรนะ"
"อืม กลับกันเถอะ"เทอร่ายิ้มและอตาลันต้าพยุงเขาขึ้นกลับเข้าเมือง
@@@@@@@@@@@@@@
พระราชวังทรอยในท้องพระโรงมีการประชุมสภาสงคราม
"ถ้าพวกมันอยากรบเราก็จะให้พวกมันได้รบ ข้าพร้อมยกทัพกรุงทรอยเพื่อสู้กับกรีกได้ทุกเมื่อเชื่อยาม"เท็คทอนเอ่ยขึ้นและหลายคนพากันตรบมือ
"กรีซมีกำลังทหารมากกว่าทรอยถึง2เท่า"อีกคนนึงแย้งขึ้น
"แล้วจะแนะนำเช่นไร จะให้เรายอมจำนนงั้นรึ?"กลาวคัสถาม"จะปล่อยให้พวกกรีกฆ่าแกงคนของเรา ขืนใจเมียของเราอย่างนั้นรึ?"
"ข้าแนะนำให้เจรจาต่อรอง พวกกรีกมาที่นี่เพื่อสิ่งเดียว พูดกันตรงๆสหายข้า ตอนนี้พวกเราชาวทรอยกำลังเผาไหม้อยู่บนกองฟืน เพียงเพราะความไม่ระมัดระวังอ่อนต่อโลก"
เมื่อเขาพูดแล้วทำให้แทบทุกสายตามองเจ้าชายปารีส
"กลาวคัส เจ้ารบเคียงบ่าเคียงไหล่กับข้ามา40ปี ศึกนี้เราจะชนะได้ไหม?"พริแอมถาม
"กำแพงเมืองเราไม่เคยถูกใครตีแตก เรามีพลธนูมือฉมังที่สุดในโลก และเรามีเฮ็คเตอร์และเทอร่า ซึ่งทหารพร้อมจะตามลงขุมนรกทาทารัสหากพวกเขาบัญชา แน่นอน เราต้องชนะ"
"ข้าได้คุยกับชาวนา2คนวันนี้ พวกเขาเห็นอินทรีบินมาพร้อมขยุ้มอสรพิษไว้ในกรงเล็บ นี่คือสัญญาณจากเทพอพอลโล่ เราจะชนะสงครามในวันพรุ่งนี้"
"นกบอกเหตุเหรอ"เฮคเตอร์เย้ยหยัน"ท่านวางยุทธศาสตร์สงครามโดยพึ่งสัญญาณจากนกงั้นรึ"
"เฮคเตอร์ ระวังมารยาทหน่อย ราชครูเป็นผู้รับใช้เทพเจ้า"
"แต่ข้าเป็นผู้รับใช้กรุงทรอย ข้าเคารพยำเกรงเทพเสมอท่านพ่อก็ทราบ วันนี้ข้าประมือกันนักรบกรีซผู้ทำลายเทวูปอะพอลโล่ พระองค์ไม่ได้ลงโทษเขาผู้นั้น"เฮคเตอร์เลือกจะเลี่ยงพูดชื่อของอคิลลิสในที่ประชุม"นั่นแปลว่าศึกนี้เทพไม่อยู่ข้างเรา"
"จะไม่มีสงคราม นี่ไม่ใช่ข้อพิพาทระหว่างชาติ แต่เป็นความขัดแย้งระหว่างคนสองคน ข้าไม่อยากเห็นชาวทรอยต้องล้มตายเพราะข้าอีก"
"ปารีส"
"พรุ่งนี้ข้าจะท้าประลองเพื่อชิงตัวเฮเลน ผู้ชนะจะได้ตัวนาง ผู้แพ้จะถูกเผาทั้งเป็นก่อนพลบค่ำ"ปารีสพูดจบแล้วเดินออกไป
เทอร่ารู้ว่าเรื่องนี้ไม่มีทางหยุดอกาเมน่อนให้บุกตีทรอยได้ แต่ถ้าสามารถถ่วงกองทัพกรีซให้ทรอยรวบรวมทัพหนุนได้ก็จะดีมากจึงไม่ได้พูดอะไร
@@@@@@@@@@@@@@
วันรุ่งขึ้นอากาเมน่อนนำกองทัพมหึมาประชิดกำแพงข่มขวัญพวกทรอยและออกไปเจรจาพร้อมกษัตริย์องค์อื่นๆ ขณะที่ฝ่ายทรอยนำมาโดยเจ้าชายแห่งทรอยทั้งสองและเทอร่า
”ข้าเห็นแล้วว่าเจ้าไม่แอบอยู่หลังกำแพง เจ้ามีความกล้า ไม่ฉลาดเท่าไหร่แต่ห้าวหาญดี”อกาเมน่อนกล่าว
”ไม่มีใครเชิญให้ท่านมาที่นี่ จงไปเรือท่านและกลับไปซะ”เฮคเตอร์พูดไล่
”กลับไม่ทันแล้วเจ้าชายเฮ็คเตอร์”อกาเมน่อนปฎิเสธ
”เจ้าชายเหรอ เจ้าชายที่ไหนจะรับน้ำใจกษัตริย์ผู้อื่น กินอาหารเขา ดื่มสุราเขา คบหาเขาเป็นสหาย พอตกกลางคืนก็ชิงเมียเขาไป”เมเนลาออสพูดขึ้นมา
”แดดออกจ้าตอนนางทิ้งเจ้ามา”ปารีสกล่าวทำให้เมเนลาออสชักดาบ
”นางนั่งดูอยู่บนนั่นใช่มั้ย ดี ข้าอยากให้นางได้เห็นเจ้าตาย”เมเนลาออสจะชักดาบฟันแต่อกาเมน่อนจับแขนเขาไว้
”ยังก่อนน้องข้า ลองดูรอบๆสิเจ้าชายเฮ็คเตอร์ เทอร่า ข้าพาเหล่านักรบแห่งกรีกมาเหยียบแผ่นดินเจ้า ข้าประสงค์สองสิ่ง หากเจ้ายอมตกลงคนของเจ้าก็ไม่ต้องล้มตาย ข้อแรก เจ้าต้องคืนเฮเลนให้แก่น้องชายข้า ข้อสาม ทหารทรอยและอาคาเดียต้องอยู่ใต้อาณัติข้า ร่วมรบกับข้าทุกครั้งที่ข้าเรียก”
“จะให้ข้ายอมก้มหัวต่อกองทัพท่านและยกน้องสาวให้น้องชายท่านด้วยเหรอ ข้าเห็นทหาร50,000คนมารบที่นี่เพราะความโลภของคนคนเดียว”เฮคเตอร์กล่าว
“ระวังปากให้ดี ความเมตตาข้ามีจำกัด”อกาเมน่อนกล่าว
”ข้าเห็นข้อจำกัดในเมตตาท่านแล้ว และบอกเดี๋ยวนี้เลยว่าสายเลือดแห่งทรอยไม่มีวันก้มหัวให้ผู้ปกครองต่างชาติ”
”งั้นสายเลือดแห่งทรอยทุกคนเตรียมตัวตายได้”
”ยังมีทางเลือกอีกทาง ไม่ต้องมีสงคราม เราสู้กันตัวต่อตัว คนชนะจะได้เฮเลน”ปารีสพูดทำให้เฮคเตอร์หน้าบึ้งกับความโง่เขลาของน้องชาย
“ก็ดี มาสิเจ้าชายน้อยเมืองทรอย สู้กับข้าเพื่อชิงตัวนาง”เมเนลาออสยอมรับ
”ข้ามาเพื่อกรุงทรอยไม่ใช่เพราะเมียเจ้า”อกาเมน่อนกระซิบบอก
”งั้นให้ข้าได้แก้แค้นก่อน แล้วท่านค่อยสั่งบุก”
”งั้นตกลง”อกาเมน่อนหันไปมองปารีส”เจ้าว่าไง”
”ข้ายอมรับคำท้าของเจ้า”
เฮคเตอร์เอื้อมมือไปที่ดาบแต่ปารีสหยุดไว้
”ข้านำสิ่งเหล่านี้มาให้ผู้คนของเรา มันเป็นหน้าที่ข้าที่จะต่อสู้เพื่อพวกเขาและนาง”เขาพูดชักดาบออกมาถือในมือที่สั่นเล็กน้อย
เฮ็กเตอร์ไม่แน่ใจว่าจะทำยังไงดี เขามองเมเนลาออสที่ไม่ยอมถอยแล้วค่อยๆถอยกลับอย่างช้าๆ
ปารีสสวมหมวกเกราะและโล่ชักดาบออกไปสู้กับเมเนลาออส
เริ่มแรกปารีสพยายามยกโล่ต้านดาบใหญ่ของกษัตริย์แห่งสปาตา เมเนลาออสยกขาเตะโล่ทำให้เจ้าชายล้มลงก่อนจะลุกขึ้น
”มาสิเจ้าหนู ข้าจะฆ่าเจ้าต่อหน้านางซะ”
ปารีสโกรธเข้าฟันแทงตีด้วยทุกอย่างที่มี แต่เมเนลาออสมีฝีมือพอตัวหลบหลีกทุกอย่างที่พุ่งใส่และตีเจ้าชายปารีสเป็นครั้งคราวพอให้เขาขายหน้าก่อนจะจบชีวิตเขาซะ
เมื่อปารีสฟันดาบเข้าที่หัว เมเนลาออสยกมือขึ้นมาคว้าแขนและบีบทำให้ดาบหลุดจากมือปารีสทรุดลง เขาเอาดาบทาบคอเตรียมฟัน แต่แล้วปารีสเอียงหัวหลบและวิ่งหนีไปหาพี่ชายและเทอร่า
”นี่น่ะเหรอคนที่เจ้าทิ้งข้าไปหามัน!!!!“เมเนลาออสตะโกนให้เฮเลนบนกำแพงได้ยิน
ปารีสคลานไปเกาะขาพี่ชายขณะที่เมเนลาออสเดินเข้ามาหา
”สู้ข้าสิ เจ้าตาขาว เราตกลงกันไว้แล้วไง”
”ฝ่ายทรอยทำผิดข้อตกลง เคลื่อนพลเข้าปะทะ”อกาเมน่อนเห็นโอกาสตะโกนขึ้นมา
”ไอ้คนไม่มีศักดิ์ศรี ไม่ใช่คนมีค่าให้จงรักภักดี หากเขาไม่ยอมสู้ข้า ทรอยต้องพินาศ”เมเนลาออสกล่าว
”การต่อสู้จบแล้ว”เฮ็คเตอร์พูด
”การต่อสู้ยังไม่จบ ข้าจะฆ่าเขาแทบเท้าเจ้าข้าไม่สนหรอก”
”เขาเป็นน้องชายข้า”
เมเนลาออสยกดาบจะฟันปารีส แต่เฮคเตอร์ชักดาบออกมาแทงทะลุท้องเมเนลาออสและชักออก เขาทรุดล้มลงสิ้นใจตาย
”ฆ่า!!!!!!”อกาเมน่อนตะโกนด้วยความโกรธ
กองทัพกรีกเริ่มบุกขณะที่เฮคเตอร์และปารีสรีบขึ้นขี่ม้ากลับไปหลังทหาร พวกทหารแยกเปิดทางให้ผ่านและปิดตามเดิม
”เข้าไปข้างในปารีส”เฮคเตอร์สั่ง เจ้าชายองค์รองเข้ากำแพงไป
"พลธนู ยิง!!!"
ทหารกรีกบุกใส่ แต่พวกทหารทรอยบนกำแพงเริ่มโปรยห่าฝนธนูลงมาเพราะกองทัพกรีกอยู่ใกล้กำแพงมากไป
และแน่นอนอตาลันต้าบนกำแพงแผงศรธนูยิงธนูแห่งแสงลงมาฆ่าพวกกรีกไปนับร้อยและบาดเจ็บนับพัน
"เข้าประจำที่!!!"โอดิเซียสสั่งให้ทหารจัดแถว
"แถวหน้า บุก!!!!"เฮ็คเตอร์สั่ง
ทหารทรอยเริ่มผลักดันศัตรูกลับไป ขณะที่เงาสีดำพุ่งผ่านเข้าทลายกำแพงโล่ทหารกรีก
"วอเตอร์กันต์!!!"เทอร่ายิงคลื่นน้ำออกไปทลายกำแพงโล่
สกาเล็ตวิ่งมาเหยียบโล่ที่แผ่นหลังเทอร่าเป็นฐานเหยียบลอยขึ้นฟ้าลงไปกวางวงล้อมกรีก
"ดูถูกกันเกินไปแล้ว"
"ฆ่ามัน...ฉึกๆๆๆ"
สกาเล็ตสร้างช่องว่างมิติเรียกหอกแดงออกมาทิ่มแทงร่างพวกกรีก
สกาเล็ตหลบฉากออกไปและพวกเขาหอกแดงของเทอร่า
"แย่แล้ว รีบหนีเร็ว"
"สกาเล็ต นีเดิ้ล"เข็มสีแดงพุ่งจากหอกพุ่งเข้าทิ่มแทงร่างทหาร
"โอ๊ย!!!....อ๊ากกกก!!!!"พวกเขาลงไปนอนร้องเจ็บปวดทรมาณก่อนโดนทหารทรอยฆ่า
ทางด้านเฮ็คเตอร์เห็นอาแจ็กซ์กำลังฆ่าทหารทรอยไปเรื่อยๆจึงพุ่งไปสู้กับเขา
”ฉัวะๆๆๆๆ”เทอร์ร่าและสกาเล็ตเป็นหัวหอกฆ่าฟันทหารกรีกไปนับร้อยนับพันทำให้ฝ่ายกรีกเกรงกลัว
"เทอร่า!!!"อคิลลิสอยู่บนรถม้าวิ่งตะลุยเข้ามาหาเขา
"อคิลลิส!!"เทอร่าตะโกน เขาโดดพุ่งเข้าหารถศึก
"เคร้งงง!!!"คมหอกทั้งสองพุ่งปะทะกัน แม้แค่ชั่วครู่เดียวแต่ทั้งสองฟาดฟันหอกใส่กันถึงสิบครั้งก่อนพุ่งผ่านกันไป
อคิลลิสเลี้ยวกลับมาใหม่ ขณะที่เทอร่าลงพื้นมาและเอี้ยวตัวหลบรถศึกและยกปืนติดดาบสีแดงยิง
"ชิ้ง!!!"อคิลลิสปัดมันทิ้งและแทงหอกแต่เทอร่าหมุนตัวหลบไปพร้อมเรียกหอกน้ำหลายเล่มพุ่งใส่รถศึก
"ตูมๆๆ"รถศึกถูกระเบิดทำลาย อคิลลิสโดดหนีออกมาลงพื้นปลอดภัยและพุ่งเข้าแทงหอก เทอร่ากันไว้ด้วยโล่แล้วทั้งสองเริ่มฟาดฟันหอกใส่กัน
"เคร้งๆๆเปรี้ยงๆๆตูมๆๆๆ"เสียงเหล็กกระทบและระเบิดดังต่อเนื่อง ทหารที่เข้ามาในระยะต่างโดนฟันแทงตายไป จนทหารทั้งสองฝ่ายเว้นระยะให้ทั้งสองสู้กัน
"เราเจอกันแบบนี้เสมอพี่ชาย"เทอร่ากล่าว
"ใช่ มันเป็นเรื่องน่าเศร้า"
"แต่คราวนี้ข้าได้เปรียบเล็กน้อย"เทอร่าชี้ไปยังพวกกรีกที่กำลังถอยกลับ"
"ชิ!!"อคิลลิสแค่นเสียง ทั้งหมดต้องโทษอกาเมน่อนที่บุ่มบ่ามโจมตี
"เฮๆๆ"ทันใดนั้นก็เกิดเสียงโฮ่ร้องจากทหารทรอย
"เกิดอะไรขึ้น?"อคิลลิสถาม เทอร่าใช้สายตาเขาสังเกตสนามรบ
"อาแจ็กซ์โดนเฮ็คเตอร์ฆ่าแล้ว งานข้าทางนี้เสร็จแล้ว"
เทอร่าโดดถอยห่างจากพี่ชายและเร่งฝีเท้าวิ่งฝ่าออกจากวงล้อมทหารกรีกโดยพวกที่ขวางทางต่างโดนฆ่า ด้านอคิลลิสดูสถานการณ์โดยรอบ กำแพงของทรอยแข็งแกร่งสมคำร่ำลือ กองทัพกรีกสูญเสียมากขึ้นเรื่อยๆ
”เราต้องถอยก่อน”โอดิเซียสบอกเมเนลาออส
”ไม่ ต้องแก้แค้นให้น้องข้า กองทัพข้ามีมหาศาล”เมเนลาออสตะโกน
”ท่านจะไม่เหลือทหารอีกเลยถ้าไม่ถอย”โอดิเซียสกล่าว
เมเนลาออสมองสายฝนธนูที่ยังยิงลงมา ฝ่ายทรอยก็กำลังตีผลักทหารกรีกถอยภายใต้ผู้นำทัพอย่างเฮ็คเตอร์กับเทอร่า ไม่มีทางที่เขาจะยึดเมืองได้ในวันนี้
"ถอยกลับไปที่เรือ!!!"
กองทัพกรีกถอยและกองทัพทรอยไล่ตามบดขยี้สังหารพวกที่หนีไม่ทันจนกระทั่งพวกกรีกไปปักหลักบนเนินเขาและยิงธนูหยุดพวกทรอยไว้
"หยุด!!!"เทอร่าสั่ง
"แต่เราต้อนพวกมันได้แล้ว"
"เราอยู่ในรัศมีธนู ถอยกันได้แล้ว"เทอร่าบอก
"ออกคำสั่งให้เก็บศพทหารของเรา ส่งม้าเร็วไปทางโน้นให้มาเก็บศพทหารของพวกเขาได้"
"แล้วพวกมันจะปฎิบัติเช่นเดียวกันนี้กับเรามั้ย"
เฮ็คเตอร์ไม่ได้ตอบอะไร
"ไป ถอย"เฮ็คเตอร์สั่ง ทหารยกทัพกลับเมือง
@@@@@@@@@@@@@@@
สงครามปิดล้อมกรุงทรอยผ่านไปนานเป็นเดือนเป็นปี แต่กองทัพกรีกก็ไม่อาจฝ่ากำแพงเมืองทรอยได้ กองทัพทรอยและอาคาเดียที่มีเฮคเตอร์กับเทอร่านำทัพได้ตีกองทัพกรีกพ่ายถอยไปหลายครั้ง แต่พวกเขาก็พ่ายศึกย่อยหลายแห่งเพราะจอมกลอุบายอย่างโอดิเซียส นักรบอมตะ อคิคิส ผู้พิทักษ์ศิลา อาแจ็กซ์ และคนอื่นๆ
สิ่งที่เห็นชัดสุดคือฝ่ายทรอยล้มตายไปหมื่น ฝ่ายกรีกล้มตายกว่า2หมื่น สงครามจึงเป็นการลิดรอนกำลังลงเรื่อยๆ ขณะที่พวกทหารกรีกก็เริ่มขวัญกำลังใจลดลงเพราะอยากกลับบ้านไปหาลูกเมีย
และวันหนึ่งก็เกิดเรื่องที่นำไปสู่จุดเปลี่ยนของสงคราม สายของอาคาเดียในทัพเมอร์มิดอนสืบข่าวมาได้ว่าอกาเมน่อนแย่งตัวไบรเอซิสที่ตกเป็นเชลยของพี่ชายเขา ทำให้อคิลิสประกาศไม่ยอมนำทัพเมอร์มิดอนร่วมศึก
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
นับตั้งแต่นั้นอคิลลิสรักษาคำพูด ไม่ว่าคนของเขาจะขอร้องให้ต่อสู้ แม้กองทัพกรีกไม่ได้เสียกองกำลังใหญ่นัก แต่การเสียยอดนักรบสองคนทำให้ขวัญกำลังใจชาวกรีกตกต่ำและถูกชาวทรอยบดขยี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก กองทัพทรอยได้ย้ายมาตั้งค่ายนอกเมืองและทำให้กองทัพกรีกต้องถอยกลับมาที่ชายฝั่ง
แต่ความดื้อรั้นของเขาก็เปลี่ยนโลกทั้งโลกและชะตากรรมของผู้นำสำคัญในสงครามกรุงทรอย
อกาเมน่อนกำลังประชุมเหล่ากษัตริย์และขุนนางหลังไม่มีอะไรคืบหน้ามาหลายเดือน
"พวกมันกำลังหัวเราะเยาะข้าอยู่ในกรุงทรอย กำลังดื่มให้กับชัยชนะ พวกมันคิดว่าเราจะรีบเผ่นกลับบ้าน"
"บางทีเราก็ควรจะ"โอดิเซียสพูด
"หนีเหมือนหมาจนตรอกงั้นหรือ"
"พวกทหารคิดว่าเรามาที่นี่เพื่อชิงตัวราชินีของเมเนลาออส นางไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว"
"เลือดของน้องชายข้ายังนองอยู่ที่พื้น เจ้าหยามเขา!!"
"คนตายไปแล้วไม่มีอะไรให้หยามได้"
"ถ้าเราไปตอนนี้ เราก็หมดความน่าเชื่อถือ"เนสเตอร์กล่าว"พวกทรอยเอาชนะเราได้โดยง่าย อีกนานแค่ไหนกว่าที่พวกฮิตไทต์จะมารุกราน"
"ถ้าเราจะอยู่ เราต้องอยู่ที่นี่เพื่อเหตุผลอันควร เพื่อปกป้องกรีกไม่ใช่ความหยิ่งผยองของท่าน สงครามเย็นระหว่างท่านกับอคิลลิสกำลังทำลายเรา"
"อคิลลิสก็แค่คนคนหนึ่ง"
"เทอร่าก็เช่นกัน ดูสิเขาทำอะไรเราในวันนี้"
"เทอร่ารบเพื่อประเทศของเขา อคิลลิสรบเพื่อตัวเองเท่านั้น"
"ข้าไม่สนเรื่องความจงรักภักดี ข้าสนเรื่องความสามารถของเขาเพื่อให้ชนะศึก"
"เขาพูดถูก กำลังใจของทหารเริ่มอ่อนแอ"เนสเตอร์กล่าว
"อ่อนแองั้นหรือ พวกเขาพร้อมที่จะว่ายน้ำกลับบ้าน"
"ถึงข้าจะประสานไมตรีกับอคิลลิสได้ มันก็คงไม่ยอมฟังข้าหรอก มันอยากจะเอาหอกแทงข้ามากกว่าที่จะคุยกับข้า"
"ข้าจะคุยกับเขาเอง"โอดิเซียสกล่าว
"เขาต้องการผู้หญิงคนนั้นคืน"เนสเตอร์กล่าว
"มันอยากได้ก็เอาไป"อกาเมน่อนกล่าว
โอดิเซียสกับเนสเตอร์มองเขาเงียบๆ
"ข้าไม่ได้แตะต้องนาง"
"นางอยู่ที่ไหน"
"ข้ามอบนางให้พวกทหารไป พวกเขาต้องการความรื่นรมย์หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้น"
อคิลลิสได้ไปช่วยไบรเอซิสจากพวกทหารและพานางไปพักที่กระโจมเขา
@@@@@@@@@@@@@@
สภาสงครามในกรุงทรอยกำลังประชุมกัน
"ลางบอกเหตุกำลังเข้ามา คำบัญชากระจ่างชัดแจ้ง"
"สู้เพื่อชาตินั่นคือคำบัญชาเพียงหนึ่งเดียว"
"ครั้งสุดท้ายที่ราชครูคุยกับเรา เขาทำนายถึงชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของทรอย ให้เขาได้พูดเถอะ"พริแอมบอกเฮ็คเตอร์"ท่านมีแนวปฎิบัติเช่นไร?"
"เทพเจ้าอยู่ข้างเรา ถึงเวลาถล่มกองทัพกรีกแล้ว"
"กลาวคัส"พริแอมถามแม่ทัพคนสนิท
"พวกมันกำลังเสียขวัญ ถล่มพวกมันตอนนี้ ถล่มให้หนัก พวกมันจะได้เผ่นหนีไป"
"ข้าต้องยอมรับว่าประเมินพวกกรีกสูงไป พวกมันขาดวินัยและความกล้าหาญ"
"ความประมาทเป็นหนทางสู้ความตาย"เทอร่าแย้งขึ้น
"ทหารเมอมิดอนไม่ได้ร่วมรบ ต้องมีความขัดแย้งอะไรสักอย่างในกองทัพกรีก แต่ถ้าเราโจมตีเรือพวกมัน พวกมันจะกลับมาสามัคคีกัน ถ้าพวกมันตัดสินใจตอบโต้ ก็ปล่อยมัน มันตีกำแพงเมืองเราไม่แตกแน่ เราจะโจมตีมันกลับไปอีก"
"เจ้ามั่นใจในความหมายของลางร้ายพวกนี้หรือ"พริแอมถามราชครู
"การทำลายวิหารศักดิ์สิทธิ์ทำให้เทพอพอลโล่พิโรธ เทพเจ้าได้สาปแช่งพวกกรีกแล้ว กษัตริย์ของพวกมันล้มตายไปแล้วสอง"
"เตรียมกองทัพให้พร้อมเราจะโจมตีเมื่อฟ้าสาง"
"ท่านพ่อ เรากำลังทำผิดพลาด"เฮ็คเตอร์พยายามห้าม
"เตรียมกองทัพ"พริแอมสั่ง
@@@@@@@@@@@@
ช่วงฟ้าสางกองทัพทรอยได้โจมตีสายฟ้าแลบ พวกมันยกลูกบอลฟางยักษ์ที่จุดไฟกลิ่งลงเนินไปใส่ค่ายกองทัพกรีกบาดเจ็บล้มตายมากมาย
กองทัพกรีกรีบจัดทัพเตรียมสู้ขณะที่กองทัพทรอยยกทัพหน้าบุกเข้ามาและทหารยกหอกกระแทกโล่ส่งเสียงดังข่มขู่ให้กรีกขวัญเสีย
"อคิลลิสๆๆ"
เสียงโห่ร้องดังขึ้น พวกทหารเห็นอคิลลิสวิ่งมาเข้าร่วมทัพ
"บุก!!!!"เฮ็คเตอร์สั่ง
"เดินหน้า!!!"โอดิเซียสตะโกน
กองทัพกรีกและทรอยพุ่งเข้ารบราฆ่าฟันกันและในที่สุดเฮ็คเตอร์ได้ปะทะกับอคิลลิส
สกาเล็ตที่เฝ้ามองดูนักรบทั้งสองสู้กันเห็นว่าอคิลลิสโดนไล่ต้อนทำให้เธอประหลาดใจ และในที่สุดเฮ็คเตอร์ตวัดดาบฟันคออคิลลิสล้มลงพื้น ทำให้พวกทรอยโห่ร้องขณะที่พวกกรีกเงียบไป
เฮ็คเตอร์มองอคิลลิสที่นอนใกล้ตายแต่เมื่อเอาหมวกเกราะออกปรากฎว่าเป็นเพโตรคัส
"เทอร่าจะต้องไม่พอใจแน่"สกาเล็ตพึมพำ
เฮ็คเตอร์ที่รู้ว่าฆ่าผิดคนก็ได้แต่ลงดาบจบชีวิตเพโตรคัสไปและเข้าไปคุยกับโอดิเซียส
"วันนี้พอแค่นี้"
"ได้"โอดิเซียสพยักหน้า"กลับไปที่เรือ!!!"
@@@@@@@@@@@@
ตอนนี้อคิลลิสขี่รถม้าศึกมาใกล้กำแพงเมือง
“เฮคเตอร์!!!”เสียงอคิลลิสกึกก้องแต่ไม่มีการตอบรับจากด้านใน
เขาหันไปมองและเทอร์มิสคว้านักโทษทรอยคนนึงมาคุกเข่าฟันแขนหลุดจากร่างส่งเสียงกรีดร้อง
”เจ้าชายแห่งทรอย”อคิลลิสตะโกน”ข้าจะฆ่าทหารพวกนี้อย่างช้าๆและเจ็บปวดจนกว่าเจ้าจะออกมาเจอหน้าเรา”
อคิลลิสมองทหารคนนั้นเสียเลือดและให้นำตัวอีกคนมาคุกเข่า เขาเงยหน้ามองกำแพงรอเฮคเตอร์มา เขารู้เจ้าชายมีศักดิ์ศรีเกินกว่าจะยอมให้คนของเขาตายอย่างช้าๆและทรมาณ
”เจ้าต้องการอะไร”เฮคเตอร์โผล่มาบนกำแพง
”เจ้าฆ่าเพโตรคัส พี่ชายของข้า เจ้าต้องรับคำท้าประลองกับข้าอคิลลิสตัวต่อตัว ถ้าเจ้าเห็นด้วยข้าจะคืนคนของเจ้ากลับไปหาครอบครัว หากไม่ข้าจะประหารทุกคนจนคนสุดท้าย และข้าจะรอการรบครั้งหน้าจับคนของเจ้าเพิ่มมาประหารหน้ากำแพงทรอยให้ครอบครัวพวกเขาเฝ้าดู ถ้าเจ้ายอมรับ เจ้ามีเวลา1ชั่วโมงบอกลาครอบครัว เพราะเจ้าจะแพ้ศึกนี้”
เฮคเตอร์หันไปมองเมืองและกลับไปมองทหารที่ถูกจับก่อนมองอคิลลิส
”ข้ายอมรับตราบเท่าที่เจ้ายอมปล่อยคนของข้าและข้าขอเวลา1ชั่วโมง
"ตกลง"
จากนั้นเฮคเตอร์ใช้เวลา1ชั่วโมงที่เหลือร่ำลาครอบครัวและเข้ามาคุยกับเทอร่า
"เฮ็คเตอร์ ขอโทษด้วยเรื่องพี่ข้า เขาสนิทกับเพโตรคัสมาก"
"เป็นข้าที่โง่เอง หากข้าเป็นไรไปขอฝากเรื่องภรรยาและลูกข้าด้วย อย่าให้พวกเขาต้องตาย"
เทอร่าพยักหน้า
@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ประตูเมืองทรอยเปิดออก เฮ็คเตอร์เดินออกมาพร้อมทหารทรอยรอบข้าง บนกำแพงกษัตริย์พริแอมมาเฝ้ามองดูลูกชายเขาเดินออกไปซึ่งอาจเป็นการเดินไปหาความตาย
ข้างกษัตริย์คืออันโดรมาเช ภรรยาของเฮคเตอร์และเจ้าหญิงแห่งทรอย ถัดจากเธอคือเฮเลน ภรรยาของเมเนลอสและปารีสที่หน้าขาวซีดขณะมองพี่ชายเขา
เทอร่าไม่ได้เฝ้าดูบนกำแพงเมืองเพราะทนมองดูไม่ได้
เฮ็คเตอร์เดินออกจากกลุ่มทหารยืนห่างจากอคิสลีส10หลาตรงหน้าอคิลลีสที่เต็มไปด้วยไฟแห่งความโกรธ
”ข้าคงแพ้แน่ แค่ให้เกียรติข้าโดยให้ครอบครัวฝังศพข้าตามธรรมเนียม”
”ไม่ ด้วยความพิโรธของข้า ข้าจะสับร่างเจ้าเป็นชิ้นๆและกินดิบๆ”เขาพูดแล้วพุ่งใส่ทายาทแห่งกรุงทรอย
เฮคเตอร์ดึงดาบเพื่อสกัดดาบอคิลลิสที่กระแทกมาอย่างรุนแรง เฮ็กเตอร์เจ็บแต่ฟื้นเร็วพยายามตอบโต้ แต่ไม่มีใครต้านความแข็งแกร่งและความโกรธของอคิลลิสในวันนี้ได้
เฮคเตอร์หลบและพยายามโจมตี แต่อคิลีสเร็วเกินไปและเข้ามาด้านหลังฟังขาให้เฮ็กเตอร์ทรุดลงพื้น
ก่อนเขาจะฟื้นตัวอคิลีสเตะเขาอย่างแรงให้เฮ็กเตอร์กลิ้งไปด้านข้างและดาบอคิลลีสฟันลงมา เขาโดดพลิกกลับมาพยายามโจมตีฉับพลัน
อคิลิสปล่อยให้ดาบเฮคเตอร์แทงเข้ามาในอกเขาทำให้เขาถูกผลักถอย เฮคเตอร์เบิกตากว้างตกใจก่อนอคิลลิสจะแทงดาบทะลุท้องเขา
อคิลลิสดึงดาบออกมาแล้วเฮคเตอร์ทรุดลงเลือดไหลออกมาจากบาดแผลที่ท้อง
อคิลิสจับคอเสื้อขณะที่เฮคเตอร์ยิ้มเศร้าๆแล้วหอกก็แทงทะลุคอหอยรัชทายาทแห่งทรอย
เสียงร้องไห้ดังขึ้นจากกำแพงเมืองจากอันโดรมาเช่ที่โศกเศร้ากับการตายของสามี
ทหารทรอยก้าวไปเพื่อเอาศพเจ้าชายแต่ทหารเมอร์มิดอนก้าวเข้ามาขวางทางไว้
“นี่มันอะไรกัน”พริแอมตะโกนมองอคิลีสด้วยความโกรธ
“นี่คือสงคราม ขอบคุณลูกชายอีกคนของท่าน”อคิลีสสบถคว้าขาเฮคเตอร์ลากไปที่รถม้ามัดเชือกติดไว้
อคิลีสขึ้นไปบนรถม้าและแล่นรถไปข้างหน้ากรุงทรอยสองสามครั้ง ผู้หญิงและครอบครัวเริ่มร้องไห้เมื่อศพของเจ้าชายถูกปฎิบัติอย่างเหยียดหยาม ก่อนที่อคิลิสจะกลับค่ายทัพกรีกพร้อมศพเฮคเตอร์ที่โดนลากไปด้วย
@@@@@@@@@@@@@@@@
หลายวันผ่านไป เทอร์มิสเลี่ยงจะคุยกับอคิลิสซึ่งลากร่างเฮคเตอร์ไปรอบศพเพโตรคัสทำให้น้องชายโกรธ แทนที่จะโศกเศร้ากับการตายของสหาย อคิลลิสพยายามกลบความเศร้าด้วยความโกรธ ขณะที่เทอร่าแค่เสียใจร่วมกับมาชูที่ปลอบเขา
การใกล้ชิดกันและต้องการคนมาเยียวยาทำให้มาชูร่วมรักกับเทอร่าในที่สุด เทอร่ารู้สึกผิดแต่สัญญาว่าจะดูแลมาชูอย่างดีแม้จะเห็นเธอเป็นน้องสาวมากกว่า
7วันหลังการดวลระหว่างอคิลลิสกับเฮคเตอร์ เทอร่าออกนอกเมืองมาอยู่ที่ชายหาดไกลจากสมรภูมิ เขาอยากให้พี่ชายคลายความโกรธคืนศพเจ้าชายเพื่อส่งเขาไปยังยมโลก แต่พี่ชายเขาดื้อรั้นเกินไปและรู้ว่าเพโตรกัสและอคิลลิสใกล้ชิดกันมาก เขาเสียใจที่ญาติตาย แต่ตอนนี้อคิลลิสได้ล้างแค้นและควรให้กษัตริย์พริแอมและครอบครัวได้ฝังศพคนที่รัก
ขณะที่เขานั่งอยู่ชายหาด เขาสัมผัสได้ถึงแสงไฟด้านหลังและรู้ว่าโอลิมปัสติดต่อมาหา
”ป้าเฮสเทีย”เขาทักทายโดยไม่หันมามองข้างๆ เธอนั่งลงวางหัวบนไหล่เขา”ข้าไม่สามารถโน้มน้าวให้เขาคืนร่างเฮคเตอร์ได้”
”ข้ารู้ พริแอมจะยอมรับข้อเสนอ เจ้าแค่ต้องพาเขาไปพบกัน อคิลลิสฟังความเห็นเจ้ามากกว่าใคร ทำเช่นนี้เช่นเดียวกับการเผชิญหน้าพริแอม”
”ข้าประหลาดใจที่ท่านมา“เทอร่ากล่าว”ข้านึกว่าท่านไม่ยุ่งกับมนุษย์ ท่านไม่ได้ครองบัลลังก์อีกต่อไปแล้ว”
”ข้าไม่ได้มาที่นี่เพราะเรื่องมนุษย์ ข้าอาสามาเพราะเห็นว่าเรื่องนี้ทำเจ้าโศกเศร้า ไม่มีสงครามไหนจะทำเจ้าเสียใจเท่าครั้งนี้ ข้าไม่อยากให้เจ้าเจ็บปวดมาก”
”ขอบคุณท่านมากป้าเฮสเทียร์”เทอร์มิสกล่าว”เฮอร์มีสอยู่ที่ไหน”
”เฮอร์มีสกำลังติดต่อเขาขณะเราคุยกันอยู่แม้เขาจะไม่รู้ตัว”เฮสเทียบอกเขา”เราจะพบกันที่หน้าประตู เจ้าจะไปพบเขาที่นั่น”
”ขอบคุณมาก”เทอร์มิสพูดลุกขึ้นยื่นมือให้เธอ เธอรับมันและลุกขึ้นยืนอย่างสง่างาม
”ข้าต้องไปแล้ว แล้วพบกันใหม่เทอร่า"
@@@@@@@@@@@@@@
ในคืนวันหนึ่ง เกวียนที่ควบโดยเทพเฮอร์มิสได้นำคนลอบเข้ามาในค่ายเมอร์มิดอน คนหนึ่งเปิดผ้าคลุมเผยเรือนผมสีฟ้า
”เทอร่า”อคิลิสประหลาดใจที่น้องชายมาพบแต่ตอนนี้เขาเป็นศัตรูจึงหรี่ตาลง”เจ้ามาทำไม”
”มีคนอยากพบเจ้าอคิลลิส”เทอร่าเอ่ยเสียงเรียบ”ถ้าพี่ชักดาบข้าจะปกป้องเขา”
“ใคร เจ้าพาใครมา”อคิลลิสถาม แต่บริสเหมือนจะรู้หลีกทางด้วยความประหลาดใจ เทอร่าเปิดกระโจมขึ้นและกษัตริย์พริแอมเข้ามาทำให้อคิลิสตกตะลึง
”ฟังที่เขาพูดซะพี่ชาย”เทอร์มิสพูดเชิงสั่ง”แล้วตัดสินใจซะ”
@@@@@@@@@@@@@@
อคิลลิสยอมคืนศพเฮคเตอร์ให้ทรอยนำไปประกอบพิธี สิ่งที่ประหลาดใจสุดคือเขาคืนไบรเอซิสพร้อมร่างเฮคเตอร์เพื่อให้เธอไปพบครอบครัวก่อนศึกตัดสิน เขาบอกว่าจะพาเธอกลับมาเมื่อเมืองล่มสลาย มันไม่โรแมนติคในสายตาเทอร่า แต่สัญญาเป็นสัญญา
กองทัพกรีกโหมบุกตีทรอยและทหารทรอยต่อต้านอย่างหนัก การสูญเสียเฮคเตอร์จุดประกายไฟของชาวทรอยและมุ่งมั่นจะปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน และฝ่ายทรอยยังมีเทอร่าเป็นเสาหลักนำทัพแทนเฮคเตอร์
อคิลลิสและเทอร่าได้เผชิญหน้ากันในสนามรบอีกครั้งและก่อนทั้งสองฝ่ายจะปะทะกันมีชายคนนึงออกมาจากพวกทรอย พวกครึ่งเทพต่างรู้สึกถึงพลังเกินมนุษย์ ชายตรงหน้านี้เป็นเทพ
เทอร์มิสและอคิลลิสออกไปพบเทพเจ้าว่ามีธุระอะไรในสงครามของมนุษย์
”ข้าสคามานเดอร์ บุตรแห่งโอเชียนัสและเทียร์ เทพเจ้าแห่งแม่น้ำสกามานเดอร์ พวกเจ้าทั้งคู่ได้สำรอกแม่น้ำข้าด้วยเลือดและร่างกายคนที่เจ้าสังหารในสนามรบ”เทพแห่งแม่น้ำคำราม
”เจ้าเป็นเทพและถูกห้ามไม่ให้เข้ามายุ่งในสงครามของมนุษย์ จงไปซะก่อนซุสจะประหารเจ้าเพราะการกระทำของเจ้า”
เทพแห่งแม่น้ำมองบุตรแห่งเธติสด้วยสายตารุนแรง
”อาจจะใช่ แต่ก่อนหน้านั้นข้าจะแก้แค้นความโหดร้ายที่พวกเจ้าได้ทำต่อหน้าข้า บุตรแห่งเธติส”
”ถ้านี่คือการล้างแค้นข้าคือคนที่เจ้าต้องการ ข้าสังหารทหารกรีกและโยนศพลงแม่น้ำมากกว่าทหารคนใดในกองทัพทรอย เจ้าอยากแก้แค้นก็เข้ามาเลย“
”น้องข้าเราจะสู้ด้วยกัน”อคิลลิสไม่เคยคิดจะฆ่าน้องแม้เป็นศัตรู เขาจะฆ่าแม้แต่เทพต่อคนที่คิดฆ่าน้องชายตน
”สกาเล็ตเจ้านำทัพแทน ท่านพี่จงกลับไปยังทัพเมอร์มิดดอนซะ ข้ารับมือเทพชั้นต่ำได้”
สคามานเดอร์ได้ยินแล้วเดือดดาล
“ข้าจะให้เจ้าเห็นพลังเทพเจ้าชั้นต่ำมนุษย์!! ข้าจะเอาร่างเจ้าไหลลงแม่น้ำ ศพเจ้าจะไม่ได้รับการฝัง!!!”
”ไป!!”เทอร่าตะโกนและดึงหอกกับโล่มาถือไว้
อคิลลิสจ้องมองน้องชายแล้วสบถหันหลังไปยังทัพตน สกาเล็ตก็เช่นกัน และเธอสั่งให้ทหารอาคาเดียเข้าโรมรันกับทหารเมอร์มิดอน
อคิลลิสและสกาเล็ตเข้าปะทะกันฟาดฟันหอกใส่กัน ศึกเป็นไปอย่างดุเดือด แต่ไม่มีใครพลาดท่าในวันนี้
สคามานเดอร์พุ่งเข้ามาฟาดดาบแต่ต้องตกใจเมื่อเทอร่ายกหอกต้านไว้ การต่อสู้ด้านกำลังระหว่างเทพชั้นต่ำกับครึ่งเทพ
”เป็นไปไม่ได้”
เทอร่าเตะหน้าอกอย่างแรงทำให้สคามานเดอร์กระเด็นไปสองสามก้าว
“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ เจ้าต้องทำมากกว่านั้นถ้าอยากล้างแค้นข้า”
สคามานเดอร์เข้าโจมตีด้วยความเร็วที่มนุษย์ยากจะตามทัน แต่เทอร่าเร็วพอจะบล็อกก่อนจะสัมผัสโดนร่างเขา เทพเจ้ายังพยายามกดดันจนกระทั่งพยายามสังหารด้วยการแทงอย่างแรง
แต่เทอร่าอ่านทางออก เขาโดดและแกว่งโล่ฟาดหน้าแรงพอส่งเทพแห่งแม่น้ำล้มลงพื้น
เทอร่ายกดาบจะจัดการเขา แต่แล้วน้ำพุ่งออกมาจากร่างเทพเจ้า
เทอร่ากระเด็นออกมาก่อนจะตั้งสมาธิเบี่ยงน้ำออกไปให้พ้น เทพเจ้ามองด้วยความตกใจ
”ไม่จริง บุตรแห่งเธติสมีอำนาจควบคุมน้ำด้วยหรือ”
”เจ้าบอกว่าอยากแก้แค้นก็เลิกพล่ามและรีบเข้ามา เทพกระจอก”
สคามานเดอร์พุ่งใส่เขาอีกครั้งด้วยพลังที่มากขึ้นและคราวนี้เทพชั้นต่ำได้ฟันตัดมือของเทอร่าไปได้
"ซาฟคิเอล....ดาเล็ท"เทอร่ายกปืนขึ้นยิงตัวเองทำให้มือที่โดนฟันขาดต่อกลับไปใหม่
"นั่นมันพลังฟื้นฟูอะไรกัน"
"ไม่ใช่ฟื้นฟูซะหน่อย ย้อนเวลาต่างหาก"เทอร่ายิ้ม
"อวดดีนัก"
สคามานเดอร์และเทอร่าเข้าสู้กันและสคามานเดอร์อาศัยความเร็วที่เหนือกว่าพุ่งเข้าแทงด้านหลัง แต่กระสุนพุ่งเข้ามา เทพปัดมันทิ้งแต่ทำให้ตัวเขาหยุดนิ่งไป
"น่าเสียดายรุกฆาต"เทอร่าสร้างหอกน้ำขึ้นมาและขว้างแทงเจาะร่างเทพ
"อ๊ากกกก!!!"สคามานเดอร์กระอักเลือดพุ่งล้มลงพื้นเจ็บหนัก
"ถึงจะเป็นเทพแต่ก็กระจอกนี่นา"
"มันจะมากไปแล้ว!!!!"สคามานเดอร์เดือดจัดและปล่อยพลังเทพที่แท้จริงทำให้ร่างกายเขาขยายใหญ่ขึ้น
"ข้าจะให้แกได้เห็นที่แท้จริงของเทพเจ้า..."
"เปรี้ยงงงง!!!"
ลำแสงพุ่งตรงมายิงสคามานเดอร์ระเบิดทำให้เขากลับร่างมนุษย์ เขาลุกขึ้นหันไปมองคนที่ยิงเขาและต้องตกใจ
”เทพอิชตาร์”
"สคามานเดอร์ เจ้าบังอาจมากที่มายุ่งในสงครามของมนุษย์ จงรีบกลับลงน้ำไปซะไม่งั้นข้าจะทำลายเจ้าทิ้ง"
"ขะ ขออภัยด้วยครับ"สคามานเดอร์เกรงกลัวรีบกลายเป็นน้ำหายลงลำธารใกล้ๆไป
อิชตาร์หันมามองเทอร่าและยิ้ม
”เจ้าทำได้เยี่ยมมากที่สังหารเทพชั้นต่ำนั่นได้ อาเรสที่สนับสนุนกรีกรู้ว่าเจ้าเป็นขวากหนามใหญ่ จงต่อสู้และชนะศึกครั้งนี้ แล้วเจ้าจะเป็นตำนานจดจำของชาวกรีกไปอีกนานเท่านาน”
”นับเป็นเกียรติเทพอิชตาร์"
อิชตาร์ยิ้มก่อนหายตัวไปจากสนามรบ
เทอร่ากลับไปต่อสู้และเห็นทหารทรอยผลักพวกกรีกกลับอย่างช้าๆแม้มีจำนวนน้อยกว่า
เทอร่าถือหอกไว้แล้วพุ่งไปด้วยความเร็วสูง เขาโดดไปกลางวงล้อมทหารทรอยที่ต่างยกโล่และเอาหอกแทง แต่เทอร์ร่าแกว่งทวนไปรอบด้านฟาดหอกพวกนั้นหักหมดและแกว่งดาบฟันโล่ไปพร้อมตัดหัวทหารที่ตกใจ ก่อนกลิ้งตัวไปข้างหน้าฟันต่ำตัดขาทหารทรอยอีกหลายคน จากนั้นเหล่าทหารอาคาเดียก็โห่ร้องเข้าทะลวงแนวรับที่เสียขบวน
ฝ่ายทรอยสู้อย่างมีขวัญกำลังใจเมื่อเห็นเทอร่าได้สังหารเทพเจ้าและเทพอิชตาห์ช่วยเหลือ ฝ่ายกรีกที่เห็นเหตุการณ์ต่างสิ้นหวังและในที่สุดศึกวันนั้นจบด้วยชัยชนะของฝ่ายทรอย
@@@@@@@@@@@@
อคิลลิสกลับเข้ามากองทัพกรีกและสร้างขวัญกำลังใจให้ทหารอีกครั้ง และโอดิเซียสได้เสนอแผนม้าโทรจัน แผนเรียบง่ายคือซ่อนยอดนักรบไว้ในม้าไม้และให้กองทัพกรีกแล่นเรือออกไปและกลับมาเมื่อดวงอาทิตย์ตกดินขณะที่ทรอยฉลองชัยชนะพวกเขา
ชายที่ถูกเลือกเข้าไปอยู่ในม้าไม้ ขณะที่กองทัพกรีกแล่นเรือออกไปจนกว่าชาวทรอยจะงับเหยื่อ
อคิลลิสเป็นคนแรกที่เข้าไป เขาเอาโล่และหอกประจำตัว เขาแค่ต้องการเข้าไปในทรอยและล้างแค้นให้เพโตรคัส เขาแทบไม่ใส่ใจชะตากรรมของเมือง เขาต้องการฆ่าลูกน้อยของเฮ็คเตอร์ และเขาหวังว่าจะไม่ต้องเจอเทอร่า เพราะเขาไม่ยอมแน่
คนข้างในรอเงียบๆให้พวกทรอยมาตรวจค่ายและหวังว่าจะตกหลุมพราง เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง พวกเขาพูดกันเงียบๆแต่เทอร์มิสเงียบสนิท จนกระทั่งได้ยินชาย2-3คนคุยกันเรื่องสนุกกับหญิงทรอยเมื่อเข้าไปในเมือง
เหล่านักรบในม้าไม้เงียบลงเมื่อเขาส่งเสียงในลำคอ
”ขอเตือนไว้ ข้ามีแผนตัวเองเมื่อเข้าไปในทรอย แต่เมื่อพบเทอร่าและอตาลันต้า จงจับหรือให้ยอมจำนนซะ ใครสังหารพวกเขาข้าจะตัดหัวพวกเจ้าทิ้ง"
อคิลลิสยังให้ความสำคัญกับครอบครัวเขาเสมอแม้อยู่ฝ่ายศัตรู
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบก่อนคนส่วนใหญ่จะโต้เถียงอย่างรุนแรง แต่ก็เงียบเมื่ออคิลลิสกระแทกกำปั้นไปด้านข้างม้าไม้เกือบแตก
”ข้าไม่สนความเห็นหรือเหตุผล สำหรับใครที่คิดว่าหยุดข้าได้ก็ลองดู พวกเจ้าจะได้เห็นว่าการล้ำเส้นบุตรแห่งเธติสจะเกิดอะไรขึ้น ข้าแค่เตือนพวกเจ้าไว้ ถ้าเห็นข้าจะโจมตีโดยไม่สนตำแหน่งของพวกเจ้า ถ้าพวกเจ้าทำมันนอกสายตาข้าได้ก็ดีไปแต่เจ้าถูกเตือนแล้ว ข้าจะจ้องพวกเจ้าเขม็งเมื่อโผล่หน้ามา ข้าสูญเสียน้องชายคนหนึ่งจะไม่ยอมเสียอีกคน แหกกฎข้าแล้วข้าจะไม่สนว่าเจ้าเป็นกรีกหรือทรอย”
”เจ้าเป็นครึ่งเทพ”อาแจ็กซ์กล่าว
”แน่นอน ถามพี่ข้ายูโดรอส เขาได้พบแม่ข้ากับน้องผู้เป็นเทพ เทอร่าควบคุมน้ำและหายไปในหมอกได้อย่างไร”
”ใช่ เขาพูดความจริง เขาเป็นบุตรของเธติสที่ถูกเลี้ยงดูโดยเทพีเฮร่า ท้าทายเขาเท่ากับท้าทายแม่และนั่นเท่ากับท้าทายราชินีแห่งสวรรค์ ข้าขอให้พวกเจ้าโชคดีหากโง่พอจะเลือกหนทางอันตราย”
ทั้งกลุ่มเงียบ อคิลลิสวางมือบนไหล่ของเพื่อน
”ข้าขอโทษสำหรับหลายวันที่ผ่านมา ข้าแค่ต้องการเวลาคลายความเศร้า”
“ไม่มีอะไรต้องอภัยนายท่าน”เขาพูดก่อนอคิลลิสตบหลังหัว
”เจ้าเป็นเหมือนพี่ชายข้า คนใกล้ชิดสุดที่ข้าเหลืออยู่ หากข้าเป็นอะไรไปจงให้ชาวเมอร์มิดอนจำนนต่อน้องข้าและทรอยเสีย อย่าให้เราต้องหลั่งเลือดมากกว่านี้"
อคิลลิสรู้ดี ถ้าตนตายเท่ากับชัยชนะจะเป็นของฝ่ายทรอย
“ตามที่ท่านต้องการ”ยูโดรอสยิ้ม
พวกเขาเงียบลงอีกครั้ง หลายคนไม่พอใจคำพูดเขาแต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งครึ่งเทพ พวกเขาเห็นแล้วว่าทั้งอคิลลิสและเทอร่าทำอะไรได้บ้าง
เวลาผ่านไปถึงกลางดึกและพวกเขาได้ยินเสียงเท้าเข้าใกล้ม้าไม้
”เจ้าได้ยินไหม ท่านเทอร่าบอกนี่เป็นอุบายบางอย่าง เราควรทำลายมันและกลับเมือง”
ทุกคนร้อนรนขึ้นมาทันทีแต่รังสีอำมหิตจากอคิลลิสสั่งให้พวกเขาอยู่นิ่งๆ
”กษัตริย์พริแอมบอกว่าเราต้องรับข้อเสนอนี้ พายุพัดไม่หยุดนับแต่เฮคเตอร์ตาย บางทีมันอาจระงับความโกรธของเทพแห่งท้องทะเล รีบเอามันกลับเข้าเมืองเราจะได้ไปร่วมงานฉลอง”
เมื่อได้ยินแล้วหลายคนโล่งอก
"อา กษัตริย์พริแอม เจ้าช่างโง่เขลาที่ไม่เชื่อน้องข้า"อคิลลิสส่ายหัว
ไม่ช้าม้าไม้ก็เริ่มเคลื่อนไหว นักรบด้านในยิ้มเงียบๆเมื่อม้าไม้ผ่านเข้ามาในเมือง
พวกเขาได้ยินเสียงฉลองในเมืองแต่ยังคอยต่อไป พวกเขารอจนเช้าตรู่เมื่องานเลี้ยงเลิกรา ทหารและประชาชนเมามายนอนหลับการป้องกันหละหลวม
โอดิเซียสมองรอบๆเห็นทุกคนพร้อมแล้วก่อนเปิดช่องด้านล่างม้าไม้และทุกคนเริ่มออกไปเงียบๆ
”ท่านต้องการให้เราทำอะไร”ยูโดรอสถามเมื่อทุกคนออกมาหมด
ก่อนเขาจะพูดอากาเมน่อนตะโกนขึ้นมา
”เผามันอย่าให้เหลือซาก”
บางคนนิ่งเฉยและมองอคิลลิสที่ยักไหล่
”เหมือนที่เขาพูด เผามันให้สิ้นซาก”
ภายในไม่กี่อึดใจ เมืองทรอยที่เงียบสงบก็ตกสู่ความวุ่นวาย ไฟเริ่มลุกลามและทหารขี้เมาวิ่งมาตามถนนเพื่อปกป้องเมือง แต่ก็สายเกินไป
อาแจ็กซ์และโอดิเซียสไปเปิดประตูเมืองและทหารกรีกก็หลั่งไหลเข้ามา
เมืองทรอยไม่มีโอกาสรอด
อคิลิสเดินไปในเมืองด้วยความเงียบ เขามีแค่ภารกิจเดียวและมุ่งหน้าไปยังพระราชวัง บ้านของกษัตริย์พริแอมและครอบครัวเขา ชาวทรอยที่ขวางทางต่างโดนเขาฆ่าก่อนจะรู้ว่าสู้กับใคร
ขณะเขาเดินไป ชายชราคนนึงผ่านมาตรงหน้ามองอคิลลิสด้วยความหวาดกลัว
”ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าเป็นเพียงนักบวช”
อคิลิสจะเดินผ่านไปแต่เห็นสัญลักษณ์ดวงอาทิตย์และพิณบนเสื้อเขา
”หวังว่าอะพอลโล่จะคุ้มครองเจ้า”อคิลลิสเย้ยหยันตัดคอนักบวช
@@@@@@@@@@@@
อันโดรมาเช่ ภรรยาของเฮคเตอร์และตอนนี้กลายเป็นแม่ม่ายกำลังดูแลลูกชายของเธอแอสเทียแนกซึ่งเป็นทารกและจะไม่มีวันได้รู้จักพ่อของเขา
ทันใดนั้นเธอก็เห็นเพลิงลุกไหม้เมืองและทหารทรอยวิ่งเข้ามา
"เจ้าหญิง พวกกรีกฝ่าประตูเมืองเข้ามาแล้วเราต้องรีบหนี"
อันโดรมาเช่ตกใจกับเหตุการณ์พลิกผันแต่รีบอุ้มลูกน้อยหนี
โชคร้ายพวกเขาไปเจอทหารเมอร์มิดอนนำโดยอคิลลิสและเมื่อเห็นกลุ่มอันโดรมาเช่ก็วิ่งเข้ามาฆ่าทหารตายและเมอร์มิดอนพาลูกน้อยไปจากอ้อมอกเธอ
"ข้าสงสัยเรื่องที่เล่าว่าทรอยเป็นบุตรของเทพอะพอลโล่และพวกเขาสามารถบินได้"อคิลลิสเดินไปที่สุดระเบียงหน้าต่างซึ่งสูงกว่า7เมตร"มาดูกันว่าจริงมั้ย"
ไม่ว่าแม่จะอ้อนวอนหรือทารกกรีดร้องแค่ไหน อคิลลิสโยนเด็กคนนี้ออกไปร่วงหล่นสู่ความตาย
@@@@@@@@@@@@
เทอร่าได้นำกองทัพอาคาเดียซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้ไปร่วมงานเลี้ยงเข้าต่อสู้กับทหารกรีก นำโดยอตาลันต้า สกาเล็ตและเมดูซ่า พวกเธอต่างปลดปล่อยพลังเต็มที่ และเทอร่ายังได้เรียกเหล่าโกเลมออกมาช่วยสู้
แต่แม้สังหารกรีกไปเกือบหมื่น กองทัพอาคาเดียก็สูญเสียกว่า3,000แล้ว การรบเป็นไปอย่างดุเดือด แต่ความต่างของกำลังเริ่มผลักพวกเขากลับ
"สกาเล็ต เมดูซ่า อตาลันต้าเจ้ารวบรวมชาวทรอยออกจากเมืองซะ"
"แล้วท่านล่ะ"สกาเล็ตถาม
"ข้ามีเรื่องต้องทำอยู่ เดี๋ยวข้ากลับมา"
"ระวังตัวนะ"
หลังแยกกันเทอร่าขี่ม้าไปใกล้พระราชวังและปีนขึ้นไปเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องของชาววังที่โดนฆ่า แต่เขามองข้ามเพราะมีเป้าหมายเดียว จนกระทั่งได้ยินเสียงกรีกร้องของหญิงสาวและเด็กทารก
"ไม่นะ"เทอร่าพยายามปีนให้เร็วขึ้นและเห็นอคิลลิสยกขาเด็กทารกอยู่ตรงระเบียงและทิ้งเด็กลงไป
เทอร่าตัดสินใจในวินาทีนั้นโดดไปคว้าตัวแอสทาแนกซ์กลางอากาศและลงพื้นได้อย่างสวยงาม เขาตรวจดูให้แน่ใจว่าทารกน้อยไม่มีบาดแผลภายในหรือภายนอก
"อย่าพยายามบินอีกครั้ง โอเคนะ"
"แอ๊ๆๆ"ทารกยิ้ม
"ฉันว่านั่นคือใช่"เทอร่าเอาทารกน้อยไว้ในกระเป๋าหลังขณะที่ได้ยินเสียงร้องทรมาณของอันโดรมาเช่เงียบไป เขาได้แต่ถอนหายใจ
เทอร่ารีบวิ่งหนีออกจากเมืองและผ่านเข้าบ้านหลังใหญ่เห็นทหารกรีกกำลังข่มขืนหญิงสาว
"กรีกร้องสิ ร้องให้ดังกว่านี้"
เทอร่าพุ่งเข้าไปและฟันคอให้พวกมันตายหัวหลุดร่างมองหญิงสาวกลุ่มนั้น
"รีบหนีออกจากเมืองซะ ตามหาทัพอาคาเดีย"
"ขอบคุณค่ะ"พวกหญิงสาวขอบคุณและรีบวิ่งออกไป ตอนนี้เขาไม่มีเวลาไปช่วยคนอื่น
เทอร่าวิ่งออกจากบ้านและฆ่าฟันสังหารทหารกรีกที่เข้ามาโจมตีเขา แต่กลับมีลางสังหรณ์ใจไม่ดี เขาพยายามฟาดฟันศัตรูหาตัวพี่ชายเขาซึ่งน่าจะออกจากวังไปไล่สู้กับทหารทรอยแล้ว
เทอร์ร่าหันไปมองรูปปั้นทองคำบนกำแพงกรุงทรอย อะพอลโล่ไม่คิดจะปกปิดตัวเองและชี้นำเจ้าชายปารีสชี้ไปยังพี่ชายซึ่งกำลังสู้กับทหารทรอยหลายร้อยที่พยายามล้อมสังหารเขา แต่ตายไปกว่า30และร่วงไปเรื่อยๆ
"ปารีสอย่านะ!!!"
เขาตะโกนพยายามเรียกและพุ่งไปข้างหน้า ปารีสเหมือนไม่ได้ฟังเสียงเขา
ทหารที่มาขวางทางโดนฟาดปลิวไม่สนว่าฝ่ายใด ลูกศรนึงพุ่งมาที่คอแต่เขาจับมันขณะวิ่งไปหาพี่ชายให้เร็วที่สุด
”อคิลลิส!!!!!”
อคิลิสที่กำลังสังหารทหารทรอยหันมาแล้วตอนนั้นลูกธนูแทงทะลุต้นเท้าซ้ายและทรุดลง เทอร่าวิ่งมาถึงและพี่ชายล้มลงบนตักเขา
”ทำใจดีๆไว้อคิลลิส ข้าจะเอาน้ำหวานและทิพย์มาให้ เรารักษาท่านได้”เทอร่าพูดอย่างตื่นตระหนก
เขาพยายามยืนขึ้นแต่อคิลิสจับแขนน้องชายไว้
”เราทั้งคู่รู้ว่ามันช่วยอะไรไม่ได้”เขากรีดร้องเมื่อเลือดพุ่งออกมาจากส้นเท้า
”ข้าไม่อยากเสียเจ้าไป คนที่ตายควรจะเป็นข้า”
”ไม่ เจ้าต้องมีชีวิตต่อไป อย่าตามข้าไปน้องชาย เมื่อถึงเวลาเราจะได้พบกันอีกครั้งและเจ้าจะสามารถเล่าเรื่องราวการผจญภัยของเจ้าให้ข้าได้ สัญญากับข้าเทอร่าว่าเจ้าจะไม่ทิ้งชีวิตตัวเอง”
เทอร่าจ้องมองพี่ชายต้องการจะบอกเขา เขาไม่ทันสังเกตเห็นอาคาเดียและเมอร์มิดอนนำโดยยูโดรอสเข้ามาปกป้องสองพี่น้องเมื่ออคิลลิสกำลังตายอย่างช้าๆ
”ข้าสัญญา ข้าจะจบสงครามนี้และทำให้ทุกคนที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ชดใช้
“ดีมาก สะสางสิ่งที่เราเริ่มต้นเพื่อทุกคนจะจดจำเราพี่น้อง บุตรทั้งสองของเธติสผู้พิชิตสงครามโทรจัน"
เทอร่าพยักหน้าอย่างช้าๆและน้ำตาไหลเมื่ออคิลิสสิ้นลมหายใจแล้ววิญญาณเขาก็เดินทางไปสู่ยมโลก เมื่อเขาจากไปความโศกเศร้าก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธ
เขาวางร่างพี่ชายลงคว้าหอกและโล่ของเขา เขาตะโกนกู่ร้องด้วยความโกรธ อตาลันต้า มาชู เมดูซ่าและยูโดรอสเบิกตากว้างด้วยความกลัว ดวงตาสีเขียวน้ำทะเลส่องประกายบนใบหน้าผู้บัญชาการ
เมฆเข้าปกคลุมและฝนเทลงมาเข้าดับเปลวเพลิงไปอย่างรวดเร็ว นี่ไม่ใช่ฝนทั่วไป
"นายน้อย"ยูโดรอสกล่าวเสียงเกรงกลัว
”ห้ามใครแตะต้องเขาจนกว่าข้าจะกลับมา”
”ขอรับ”เขารีบพยักหน้ารับคำสั่งเขา
จากนั้นเทอร่าก็กระโดดพุ่งขึ้นไปด้วยความตกตะลึงของทุกคน เป็นไปไม่ได้ที่มนุษย์จะโดดได้สูงขนาดนั้น ตอนนี้เทอร่ายืนอยู่หน้าปารีส
"เทอร่า ข้า--"
ก่อนปารีสจะพูด เทอร่าชักดาบจะฟันคอของเจ้าชายแห่งทรอยแต่เทอร่าเปลี่ยนมาฟันอกทำให้ปารีสทรุดลงพื้นจับแผลและมองพี่เขยด้วยความตกใจ
"มองดูสิปารีส นี่เป็นผลจากการไม่ยั้งคิดของเจ้า"
ปารีสมองดูเมืองที่ถูกเผาและรู้สึกผิดประดังเข้ามา เขาเป็นต้นเหตุทำให้เมืองทรอยโดนทำลาย
"ปารีส....ข้าไม่อาจยกโทษที่เจ้าสังหารพี่ชายข้าได้ จงไปซะ อย่าได้กลับมาให้ข้าเห็นอีก"
ปารีสพยักหน้าและวิ่งหนีหายไปและนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นปารีส
หลังจากนั้นเทอร่ารีบตามทหารของเขาออกจากเมือง
@@@@@@@@@@@@
ชาวทรอยหลายพันที่รอดมาได้รวมตัวอยู่บนเขาในค่ายทหารเฝ้ามองกรุงทรอยที่ถูกเผา กษัตริย์พริแอม อันโดรมาเช่ คาซานดร้าและไบรเอซิสต่างตายไปในการบุกปล้นทำลายเมือง เจ้าชายปารีสและเฮเลนน่าหายสาบสูญไป เหลือเพียงแอสเทียแนก ลูกชายตัวน้อยของเฮคเตอร์ที่เทอร่าช่วยไว้ได้
ตอนนี้เทอร่ากลายเป็นผู้นำฝ่ายทรอย แต่เขาหายไปทำให้ชาวทรอยเสียกำลังใจ แต่สกาฮะประคองให้ทัพตั้งอยู่ได้
"เทอร่าจะกลับมา และเขาจะช่วยล้างแค้นกรีก"
@@@@@@@@@@@@@
เทอร่าปรากฎตัวบนชายฝั่งหนึ่งของอนาโตเลีย เขาทรุดลงโดยร่างของอคิลลิสยังอยู่ในอ้อมแขน ก่อนจะมีคนโอบกอดจากด้านหลังและเขาเห็นแม่เขาที่ร้องไห้เช่นกัน พวกเขาอยู่แบบนั้นนานหลายชั่วโมงเศร้าต่อการจากไปของครึ่งเทพ
ในที่สุดเทอร่าก็กลืนความเศร้าและเจ็บปวดเอ่ยขึ้น
”ข้าขอโทษ มันควรจะเป็นข้า ข้าหักหลังชาวกรีก--"
”เพี๊ยะ”เขาโดนตบหน้าและเห็นแม่มีสีหน้าโกรธ
”เจ้าอย่าพูดอะไรโง่เขลาแบบนั้นอีก ข้าเสียลูกชายข้าคนนึงไปแล้ว ข้าจะไม่ยอมเสียอีกคน เราจะฝังศพพี่ชายเจ้าอย่างสมเกียรติ เขาจะชกเจ้าเช่นกันถ้าเจ้าพูดอะไรโง่เขลาแบบนี้ เขารักเจ้ามากกว่าใครในโลก”
แม่ของเขาดึงร่างพี่ชายไปวางบนผืนทรายอย่างนุ่มนวลและดึงเขามากอด
”เจ้าอย่าทำลายชีวิตตนเองโดยมุ่งแต่การล้างแค้น ข้ามีลูกชายที่ยอดเยี่ยมสองคน คนนึงจากไป แต่ข้าจะไม่ให้อีกคนทิ้งชีวิตเขาไปเพราะความเศร้า พี่ชายเจ้าจะไม่ให้อภัยเจ้า เราจะฝังศพและเจ้าจะกลับไปหาคนของเจ้า เจ้าจงพิชิตมหาศึกนี่เพื่อเป็นเกียรติแก่พี่ชายเจ้า”
เทอร่าผละออกจากแม่อารมณ์และสติเขาค่อยๆกลับมา
”แน่นอนท่านแม่ ข้าขอสาบานว่าจะพิชิตทั้งกองทัพกรีกและกรุงทรอย ข้าจะทำลายทุกวิหารที่บูชาเทพอะพอลโล่"
เธติสพยักหน้าดวงตาลุกโชนด้วยความเกลียดชังต่อเทพแห่งดวงอาทิตย์
“คำอธิฐานนั่นข้าจะช่วยให้เป็นจริง”
เสียงทรงเสน่ห์ดังขึ้นและเขาหันไปเห็นอโฟรไดท์ เธอเข้ามากอดจูบเทอร่าเหมือนทุกที เธติสส่ายหัว เธอไม่ชอบจริงๆที่เทพีหลายใจคนนี้มายุ่งกับลูกเธอ
“ท่านจะช่วยอะไรข้า”
“อำนาจของข้า”อโฟรไดท์ยิ้ม
@@@@@@@@@@@@@@
ภายในกรุงทรอยที่ถูกยึดและทำลายล้างจนแทบจะเป็นซากเมือง อกาเมน่อนกำลังเฉลิมฉลองชัยชนะเหนือทรอย ขณะที่โอดิเซียสและเพื่อนได้จัดงานศพให้อคิลลิส
หลังจากนั้นอกาเมน่อนประชุมสภาสงคราม เขาได้ยินว่าแอสเทียแนก ลูกชายของเฮคเตอร์และทายาทแห่งทรอยยังอยู่
"กองทัพอาคาเดียและทหารทรอยส่วนหนึ่งรอดไปได้ มีคนพบเห็นเทอร่าฆ่าปารีสและนำศพอคิลลิสออกไป"
"แล้วไงต่อ?"
"สงครามนี้เริ่มเพราะความทะเยอทะยานของท่านอกาเมน่อน ไม่ว่ายังไงท่านเป็นเหตุผลให้พี่ชายเขาตาย"
"เขาไม่มีกองทัพเหลือพอจะสู้กับเรา
"ก๊าซๆๆโฮกๆๆๆ"
เสียงคำรามน่ากลัวดังขึ้น ก่อนทหารจะรีบวิ่งเข้ามารายงาน
“ฝะ ฝ่าบาท สัตว์ประหลาด ละ แล้วก็....”
“แล้วอะไร?”อกาเมน่อนถาม
“ทะ เทอร่าครับ!!!”
พวกเขาตกใจรีบวิ่งออกมาก่อนจะพบภาพที่น่าเหลือเชื่อ
นอกกรุงทรอยตอนนี้มีกองทัพหลายพันของทหารอาคาเดียและทรอยวิ่งตะบึงมายังกำแพงเมืองที่ทรุดพังด้วยความโกรธแค้น
แต่นั่นยังไม่น่ากลัวเท่ากับเหนือหัวพวกเขาคือเทอร่าที่ถือหอกประจำตัวด้วยรูปร่างที่แปลกไปและยืนอยู่บนสัตว์ประหลาดรูปร่างแปลกที่คล้ายพืชที่มีชีวิต
ทหารฝ่ายกรีกและชาวทรอยผู้ตกเป็นเชลยตกใจ
"นั่นมันอะไรกัน"โอดิเซียสเบิกตากว้าง เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
จากนั้นเหล่าอสูรสัตว์ประหลาดเหล่านั้นก็เข้าโจมตีกองทัพกรีก
"บรึ้มๆๆๆ/ตูมๆๆๆ"
"อ๊ากกกก"
"ช่วยด้วย!!!!"
เทอร่าสะบัดมือและเกิดแสงสีทองแผ่ออกจากตัวเขา ด้านหลังเขาปรากฎเครื่องสีทองมีท่ออากาศมากมาย เป็นบางอย่างที่ชาวกรีกและทรอยไม่เข้าใจ
“อาาาาาา!!!!!”
เมื่อเขาร้องออกมาก็มีคลื่นเสียงแผ่ไปทั่วบริเวณได้ยินไปไกลโพ้น
แล้วก็เกิดเรื่องกับกองทัพกรีก พวกทหารกรีกต่างเริ่มฆ่าฟันกันเองขณะที่สัตว์ประหลาดยังฆ่าฟันทหารกรีกไปเรื่อยๆ
โอดิเซียสยกมือปิดหูและมองดูภาพกองทัพกรีกที่กำลังพินาศ
“ถอยทัพ ทุกคนรีบหนีไปขึ้นเรือ ไม่มีความหมายที่เราจะอยู่ในดินแดนต้องสาปนี่ต่อ”
โอดิเซียสพูดบอกเหล่าทหารที่ยังมีสติ ทุกคนรีบทำตามเขายกเว้นอกาเมน่อน
“อะไรนะ เราจะหนีไอ้พวกทรอยไม่ได้ สู้มันซะ”
“ฝ่าบาท รีบหนีเร็วเข้า”
ส่วนใหญ่ไม่สนใจอกาเมน่อนและหนีไป ในที่สุดหลังเห็นว่าไร้ทางชนะเขาก็หนีด้วย แต่เกิดเหตุผลัดหลงจนเหลือผู้ติดตามเพียงเล็กน้อย
“ข้ารออยู่นานแล้ว”
“เทอร่า....ฆ่ามัน!!!!”
เหล่าทหารพุ่งเข้าหาเทอร่าแต่เทอร่าตวัดหอกทีเดียวฆ่าพวกมันทั้งหมดในพริบตา อกาเมน่อนตกใจกลัวพยายามหนีแต่เทอร่าจับหัวไว้
“ดะ ได้โปรดเทอร่า ไว้ชีวิตข้าด้วย ข้าเป็นกษัตริย์ของเจ้านะ”
“ไม่ เจ้าแค่คนโลภและขี้ขลาด”
เทอร่าฟันตัดหัวอกาเมน่อนทิ้ง
สงครามม้าโทรจันจบลงด้วยชัยชนะของทรอยโดยที่เทอร่าได้ทำฟื้นฟูทรอย เขารวบรวมผู้รอดชีวิตและสร้างกรุงทรอยโดยเป็นเมืองที่เล็กลงและเหล่าเทพได้มอบความรู้ให้เขาสร้างเป็นเมืองลอยฟ้า
เทอร่าและเมืองลอยฟ้าเดินทางออกจากอนาโตเลียและมีกล่าวถึงตำนานของเมืองลอยฟ้านี่ในอีกหลายตำนาน
โอดิเซียสซึ่งกลับไปที่กรีกได้เขียนบทกวีเกี่ยวกับสงครามม้าโทรจัน และแน่นอนเรื่องเล่าขานสงครามที่ยิ่งใหญ่ของเหล่าครึ่งเทพและเทพเจ้ายังจดจำไปอีก3พันปี
ความคิดเห็น