NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ตัวตลกดวงเฮงตะลุยต่างโลกLUCK9999(กำลังRewrite)

    ลำดับตอนที่ #16 : โชคร้ายของมือใหม่(🍋ขืนใจ)

    • อัปเดตล่าสุด 16 ต.ค. 67


    @@@@@@

    @@@@@@

    วันนี้ที่กิลด์นักผจญภัยเต็มไปด้วยชายหญิงต่างเผ่าพันธุ์และอายุ ถืออาวุธและคุยกันในกลุ่ม

    หน้าโต๊ะมีคนต่อแถวยาวเหยียด มีคนเข้ามายื่นเควส รายงานเควส และยื่นคำร้อง

    “เห็นว่าพักนี้ผู้กล้าที่เมืองหลวงสามารถปราบปีศาจได้จำนวนมากเลยล่ะ”

    “อิจฉาพวกที่ได้ใช้ชีวิตในปราสาทจัง”

    “ถ้าเป็นปีศาจระดับต่ำก็คงพอจัดการได้อยู่นะ”

    เมื่อได้ยินบทสนทนาของพวกเขา นักบวชหญิงก็ตกตะลึง เรื่องราวของผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมาเมื่อ1ปีก่อนเป็นที่พูดถึงมาก เพราะเป็นการกลับมาของผู้กล้าแห่งแสงในรอบพันปี

    “สวัสดี มีธุระอะไรค่ะ”

    ขณะนักบวชสาวกำลังจมอยู่ในความคิด ก็ถึงคิวของเธอ

    พนักงานต้อนรับที่เคาเตอร์เป็นหญิงท่าทางอ่อนโยนและมีอายุมากกว่าเธอเล็กน้อย สวมชุดยูนิฟอร์มสะอาดเรียบร้อย

    แค่มองฝูงชนก็รู้แล้วว่าพนักงานต้อนรับต้องทำงานหนักแค่ไหน

    อลิซกลืนน้ำลายเมื่อรู้สึกว่าความกังวลของเธอคลายลงบ้างแล้ว

    “ฉัน…ฉันอยากเป็น…นักผจญภัยค่ะ”

    “เข้าใจแล้วค่ะ”

    สีหน้าที่อธิบายไม่ถูกปรากฏให้เห็นสั้นๆ อลิซรู้สึกว่าเธอกำลังถูกประเมินตั้งแต่หัวจรดเท้า และอดไม่ได้ที่จะก้มหัวด้วยความเขินอาย

    แต่พนักงานต้อนรับหญิงก็ยิ้มอย่างมืออาชีพเพื่อคลายความกังวลก่อนหน้านี้

    “สามารถอ่านเขียนหนังสือได้รึเปล่าค่ะ”

    “ค่ะ เรียนมาจาก…วิหาร”

    “ถ้าอย่างนั้นรบกวนกรอกสิ่งนี้ด้วยค่ะ”

    พนักงานยื่นเอกสารข้อมูลให้เธอเขียน

    ชื่อ เพศ อายุ อาชีพ ผม ตา ขนาดร่างกาย สกิล คาถา พร

    แบบฟอร์มสมัครเรียบง่าย

    กรุณาเว้นส่วนเควสที่ทำสำเร็จไว้ เราจะกรอกให้หลังประเมินคุณแล้ว

    “โอเค”อลิซพยักหน้าถือปากกาด้วยมือที่สั่นเทา

    เธอเริ่มกรอกแบบฟอร์มโดยจุ่มปากกาขนนกลงในขวดหมึก

    หลังกรอกเสร็จและส่งให้พนักงานหญิง เธอก็ตรวจสอบและพยักหน้าเป็นระยะ

    จากนั้นพนักงานก็หยิบการ์ดขนาดเท่าฝ่ามือออกมาและมอบเข็มให้อลิซจุ่มเลือดลงไป เกิดแสงสว่างชั่วครู่ กลายเป็นการ์ดที่มีชื่อ เลเวล สกิล ตามที่เขียนไว้ในเอกสาร

    “กิลการ์ดถือเป็นเครื่องยืนยันตัวตน กรุณาอย่าทำหายนะคะ”

    หากเกิดเหตุอะไรขึ้น

    นักบวชหญิงไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ก็เข้าใจ

    เธอเข้าใจว่ากิลการ์ดจะถูกใช้ระบุว่าเธอเป็นใครหากศพของเธอถูกทำลายจนจำไม่ได้

    “บอร์ดเควสอยู่ด้านนั้น เลือกที่เหมาะกับแรงค์ตอนนี้เลยค่ะ”

    เธอชี้กระดานเควสที่อยู่ด้านหลังอลิซ

    แต่เนื่องจากนักผจญภัยได้ดึงเควสออกไปจำนวนมาก เควสที่เหลือจึงมีน้อย

    “แต่ฉันขอแนะนำว่าคุณควรเริ่มด้วยการทำความสะอาดท่อระบายน้ำเสียก่อน”

    “เอ๊ะ นักผจญภัยไม่ควรปราบมอนสเตอร์เหรอ”

    “การล่าหนูท่อก็เป็นการกำจัดมอนสเตอร์เช่นกัน ถือว่ามีส่วนช่วยเหลือสังคมอย่างมาก”

    “การลงทะเบียนเสร็จสิ้นแค่นี้ค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ”

    “ขอบคุณมากค่ะ”

    นักบวชหญิงก้มหน้าขอบคุณและเดินออกจากเคาเตอร์และไปดูที่บอร์ด

    “เฮ้ เธอน่ะ มาผจญภัยด้วยกันมั้ย”

    มีเสียงเรียกทำให้นักบวชสาวหันไปเห็นชายหนุ่มผมน้ำตาลในชุดเกราะ ข้างหลังมี3สาว ดูจากเสื้อผ้าอาชีพพวกเธอคือนักธนู นักเวทและนักสู้

    “ฉันชื่อซาซากิ”นักดาบหนุ่มแนะนำตัวเขาและคนอื่นๆ”อยากทำเควสด่วนกับเราไหม”

    เควสด่วนนั้นจะไม่จำกัดแรงค์แม้เป็นมือใหม่ก็ตาม เป็นวิธีหนึ่งในการเลื่อนแรงค์อย่างรวดเร็ว แต่จะทำเควสสำเร็จไหมนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    “เควสเร่งด่วนเหรอคะ”

    “กำจัดก็อบลินไง”

    จากคำอธิบายของเขา ก็อบลินได้สร้างรังในถ้ำใกล้หมู่บ้าน โจมตีหมู่บ้านชิงสัตว์ที่เลี้ยงไว้กินและเสบียง และลักพาตัวหญิงไปด้วย

    สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวบ้านไม่มีทางเลือก

    พวกเขารวบรวมเงินน้อยนิดและเดินทางเข้าเมืองเพื่อยื่นเควสให้นักผจญภัย

    “เอ่อ…ทุกคนเป็นมือใหม่ที่ได้รับจดหมายรับรองสินะคะ”

    พนักงานกิลด์ไม่อาจทนได้ขัดจังหวะ แม้จดหมายรับรองจะทำให้พวกเขาได้เป็นแรงค์Dและสามารถรับเควสปราบมอนสเตอร์ได้ทันที แต่ก็ไม่มีประสบการณ์

    “คาดว่าอีกไม่นาน นักผจญภัยท่านอื่นก็จะมาแล้วค่ะ”

    “อย่างก็อบลินแค่พวกเราก็พอแล้วล่ะ”

    นักดาบมองไปที่ปาร์ตี้พูดด้วยเสียงร่าเริง

    “ไปกันเถอะ”

    “รีบไปดีกว่า สาวๆกำลังรอให้พวกเราไปช่วยอยู่”

    อลิซรู้สึกไม่สบายใจ

    .

    .

    .

    ภายในถ้ำมืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากคบเพลิง

    คน5คนยืนเรียงแถวเข้าไป โดยมีนักดาบซาซากิอยู่ข้างหน้า ตามด้วยนักสู้ คนที่3คืออลิซ ปิดท้ายด้วยนักเวทและนักธนู

    ตราบใดที่ไม่มีทางแยก พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลการซุ่มโจมตีจากด้านหลัง

    “จะไม่เป็นไรแน่เหรอจู่ๆเข้ามาแบบนี้ กลับไปเตรียมการก่อนไม่ดีกว่าเหรอ”อลิซกล่าว

    “หา มาถึงที่นี่แล้วพูดอะไร”นักเวทสาวผมแดงใส่แว่นตาพูด

    “ก็อบลินเนี่ยอ่อนแอที่สุดในเกมเลยนะ ฉันเคยฝึกสู้ในวิหารแล้ว”

    นักดาบ”ซาซากิ”อวดมาตลอดทางว่าเขากับนักสู้”มิราโตะ”เป็นผู้กล้าจากต่างโลก ไม่รู้ว่าจริงมั้ย แต่การปราบก็อบลินที่ใช้ในสนามฝึกเป็นเรื่องที่ภูมิใจได้ด้วยเหรอ หยุดอวดสักที

    “นายฆ่าไม่ได้สักตัวไม่ใช่เหรอ”มิราโตะกล่าว

    มิราโตะล้อเลียนซาซากิเสียงต่ำ แต่ซาซากิตอบว่า”ฉันไม่ได้พูดอะไรผิด”

    “พกยาหรือโพชั่นมาด้วยหรือเปล่าคะ”อลิซถาม

    “ไม่เลย เพราะไม่มีทั้งเงินและเวลาในการซื้อของ”ซาซากิตอบราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่

    มิราโตะเข้าไปหานักบวชและวางมือบนไหล่เธอพูดปลอบใจว่าอย่ากังวล

    “เป็นห่วงเด็กผู้หญิงที่ถูกจับตัวมาด้วย ถึงจะบาดเจ็บเธอก็รักษาให้ได้ไม่ใช่เหรอ”ซาซากิกล่าว

    “ก็จริงที่สามารถใช้ฮีลและแสงศักดิ์สิทธิ์ได้แต่…ใช้ได้แค่3ครั้ง”

    ในตอนนั้นพวกเขาเห็นป้ายสัญลักษณ์ติดกระโหลกอยู่ด้านข้างถ้ำ พวกเด็กๆวิ่งเข้าไปดู

    นักบวชหญิงเดินตามหลังทั้งสองคนโดยกำคทาพลางสวดมนตร์อธิษฐานต่อพระเจ้า

    “เอ้า ช้าแล้วนะ สองคนนั้นล่วงหน้าไปแล้ว”

    “ขอโทษค่ะ”

    นักเวทสาวเข้ามาเร่งเธอ เธอรีบวิ่งตามให้ทันสองคนที่แถวหน้า

    ครึกๆๆ

    เสียงเบาๆเหมือนหินกลิ้งดังเข้าหูนักบวช

    “อะไรอีกเนี่ย”

    นักเวทบ่นเมื่ออลิซหยุดอีกครั้ง

    เธอจบการศึกษาจากอคาเดมี่ด้วยคะแนนสูง

    อลิซทั้งประหม่าและขี้ขลาด ความประทับใจของเธอที่มีต่อนักบวชแย่มาก และยิ่งแย่ลงเมื่อเข้าถ้ำ

    “ฉันได้ยินเสียง”

    “จากไหน”

    “ด้านหลังคะ”

    นี่ไม่ได้เรียกว่าระมัดระวัง แต่เรียกว่าอ่อนแอ ไม่เหมาะจะเป็นนักผจญภัย

    เนื่องจากนักบวชหญิงหยุดเคลื่อนไหว ทำให้ระยะห่างกับสองคนข้างหน้าเพิ่มขึ้น แหล่งกำเนิดแสงเคลื่อนห่างออกไปทำให้สภาพแวดล้อมมืดลง

    “เราเดินเป็นเส้นตรง จะมาจากข้างหลัง…”

    กรี๊ดดดด!!!!

    นักเวทพูดด้วยความหงุดหงิดและต้องเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของนักธนู…เธอหันไปมองข้างหลัง 

    “ก็อบลิน”

    มอนสเตอร์สีเขียวที่มีขนาดเท่าเด็กหลายตัวกำลังรุมแทงร่างของนักธนูสาวที่โดนกระบองทุบร่างเละไปหลายส่วน 

    “มันมาอยู่ข้างหลังได้ยังไง”

    เซฮาล อินฟิกาล

    เซจิยกคทาขึ้นมาร่ายเวทไฟใส่ฝูงก็อบลิน ทำให้มันกรีดร้อง

    “จัดการได้แล้ว”

    นักเวทสาวแสยะยิ้มมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น

    “เซฮาล อินฟิ…อั๊ก”

    ก่อนนักเวทสาวจะร่ายเวทเสร็จ ขาถูกก็อบลินจับไว้และดึงให้ล้มลง แว่นตาของเธอหลุดและแตกเป็นชิ้นๆ สายตาพร่ามัว และไม้เท้าก็ถูกแย่งไป

    “เอาคืนมานะ นั่นมันของฉัน…”

    ไม้เท้าหรือแหวนที่ใช้เวทมนตร์หรือลดเวลาการร่ายเป็นสิ่งสำคัญของนักเวท

    ทันใดนั้นก็อบลินก็ได้ทำการหักไม้เท้าเสียงดัง”กร็อบ”ทำให้นักเวทโกรธ

    “ไอ้พวกเวร…ปล่อยนะ”

    เธอคำราม ดิ้นรนด้วยแขนขาที่ไม่เคยฝึกฝนร่างกายและเตะก็อบลินทำให้พวกมันโมโหใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง

    “อ๊ากกกกก”

    เสียงกรีดร้องของนักเวทสาวดังก้องไปทั่วถ้ำ

    แน่นอนว่าเพื่อนที่เหลือ…อลิซไม่ได้อยู่เฉยๆ

    “ออกไปห่างๆเธอนะ”

    อลิซฟาดคทาอย่างสิ้นหวังไล่ก็อบลินออกไป

    จะโชคดีหรือร้ายพวกก็อบลินก็ถอยไป

    พวกเขาคงคิดว่าเธอเป็นพระหรือไม่อยากโดนฟาด

    และโชคดีซาซากิกับมิราโตะที่รู้ถึงความผิดปกติรีบวิ่งกลับมาปกป้องเพื่อนปาร์ตี้

    เขาโยนคบเพลิงออกไปและถือดาบยาวแทงทะลุคอก็อบลิน

    “หนอยแน่ ไอ้พวกเวร”

    เขาเหวี่ยงดาบด้วยความโกรธ ดาบฟันใส่ก็อบลินผ่าสองท่อนทันที

    “มัวรออะไรอยู่ รีบฮีลสิ”มิราโตะบอก

    “ค่ะ…ฮีล”

    อลิซใช้เวทฮีลกับนักเวทสาว

    “ฉันจะช่วยเอง”มิราโตะพยายามจะช่วยซาซากิ แต่เขาเหวี่ยงดาบไปมาทำให้เธอเข้าใกล้ไม่ได้

    “อย่าเหวี่ยงดาบไปรอบๆสิ เข้าใกล้ไม่ได้”

    ซาซากิเหวี่ยงดาบไปรอบๆเพื่อกำจัดก็อบลิน แม้จะเป็นมือใหม่แต่เขาก็ฆ่าก็อบลินได้หลายตัว

    ในที่สุดเขาก็ได้มาต่างโลกที่เขาใฝ่ฝัน

    เหมือนกับตัวเอกในนิยาย ช่วยหญิงสาว กำจัดจอมมารและช่วยโลกไว้

    เสียงเตือนของเพื่อนสาวไม่ได้เข้าหูของซาซากิเลย

    ทันใดนั้นมีดก็แทงต้นขาของซาซากิ

    “อ๊ากกก ไอ้สารเลว”

    ผู้ที่ทำร้ายนักดาบคือก็อบลินที่มีแผลใหญ่ที่หน้าอก ดาบยาวของซาซากิทื่อจากเลือดทำให้ฆ่ามันทันทีไม่ได้

    ในตอนนั้นก็อบลินวิ่งเข้ามาจากข้างหลัง

    “เกะกะ”

    ซาซากิยกดาบฟันก็อบลิน แต่ได้ยินเสียงเคร้งเมื่อดาบฟาดผนังถ้ำทำให้ดาบหลุดมือ

    และมันก็นำมาซึ่งจุดจบของเขา

    เขาไม่มีเงิน เด็กหนุ่มม.ปลายจึงไม่มีทั้งโล่หรือหมวกเหล็ก อุปกรณ์ป้องกันเพียงอย่างเดียวคือเกราะหน้าอกบางๆ

    เขาโดนผลักล้มลงและถูกแทงซ้ำๆจนตาย

    มิราโตะเข้าไปช่วยไม่ทัน เธอยืนแข็งทื่อขณะมองดูเพื่อนของเธอตายต่อหน้า

    เธอกำหมัดแน่นตั้งท่าต่อสู้

    “ทั้งสองคนหนีไปเร็ว”

    “แต่ว่า…”

    อลิซเข้าใจสถานการณ์ เธอจึงพานักเวทสาวที่หอบหายใจโรยรินหนีไป

    พวกก็อบลินปิดล้อมเหยื่อที่เหลือ

    ตอนแรกพวกมันระมัดระวังนักสู้สาวๆ ก่อนจะเข้ารุมล้อมเธอ

    มิราโตะวิ่งเข้าต่อสู้กลางฝูงก็อบลิน

    แขนขาเธอมีความแข็งแรงจากการเป็นนักกีฬาคาราเต้ เมื่อมาต่างโลกเธอก็ได้รับการเสริมพลังด้วยพิธีเปลี่ยนสภาวะ 

    เธอยกหมัดที่หุ้มมานาชกเข้าที่หน้าก็อบลินแหลกเป็นชิ้นๆ

    “ปัง!!!”

    แต่ก็อบลินยักษ์ตรงหน้าเธอจับเท้าไว้ได้ ความแข็งแรงของแขนทำให้มิราโตะส่งเสียงร้อง

    ”โอ๊ย…เจ็บนะ”

    “โฮกกกก”

    ฮ็อบก็อบลินจับเท้าเธอไว้และโยนไปกระแทกผนังถ้ำ

    มิราโตะเจ็บปวดมาก แต่ฮ็อบก็อบลินโยนเธอไปกระแทกผนังถ้ำซ้ำอีกครั้ง

    “แค่กๆๆ”เธอกระอักเลือดและอาเจียนออกมา

    ก็อบลินที่เหลือรุมล้อมเธอและทุบตีจนร่างกายขยับไม่ได้ และฉีกเสื้อผ้าเธอออก

    “มะ ไม่”มิราโตะพยายามสู้กับมอนสเตอร์ แต่ร่างกายเธออ่อนแอเกินกว่าจะทำแบบนั้น 

    ก็อบลินตัวนึงจับบั้นท้ายเธอและเข้าไปใกล้ช่องสวรรค์ของเธอต่อหน้านักบวชที่หวาดกลัว

    “กรี๊ดดดดด!!!!”

    หญิงสาวกรีดร้องเมื่อโดนพรากพรหมจรรย์ไป

    “หนีไป”เสียงเธอแทบไม่ได้ยิน

    “ขอโทษนะคะ”

    อลิซหลบหนีพร้อมนักเวทหนุ่มที่อยู่บนหลัง เธอปิดหูเพราะไม่อยากได้ยินเสียงร้องของมิราโตะที่โดนทำให้มีมลทิน

    ต่อหน้ามนุษย์ที่เข้ามาปราบ พวกก็อบลินไม่เมตตา

    หญิงสาวที่ใช้ชีวิตในสังคมญี่ปุ่นที่สงบสุขได้ถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายร้องไห้ออกมา

    ก็อบลินรุมยำหญิงสาวคนหนึ่ง ส่ายสะโพกเป็นจังหวะ พวกมันครางและบางครั้งก็ตบบั้นท้ายของหญิงสาวทำให้เธอครางดังขึ้น

    “อื้อๆๆๆ”แต่เธอพูดไม่ได้เพราะมีแท่งของก็อบลินในปากเธอ

    ก็อบลินจากด้านล่าง ด้านหลัง และด้านหน้าหัวของหญิงสาว พวกมันเพลิดเพลินกับการแสดงนี้

    ตัวสุดท้ายจับผมสีดำของหญิงสาวไว้และยัดแท่งเข้าปาก ขยับแกนไปตามเข็มนาฬิกา เพลิดเพลินไปกับคอของหญิงสาวที่บีบแท่งของมัน บางครั้งมันก็บีบจมูกและสนุกกับน้ำตาที่ไหลรินของเธอ มันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ

    ก็อบลินที่อยู่ใต้ร่างกำลังเพลิดเพลินกับรูของเหยื่อ ซึ่งบีบรัดแท่งอย่างประหลาด และรู้สึกถึงแรงเสียดทานของแท่งอีกอันที่เข้ามาทางรูทวาร

    เมื่อหน้าอกคัพGขยับไปมาต่อหน้า ก็อบลินก็ทนไม่ไหวจับยอดภูเขาสีชมพูและดูดด้วยลิ้น

    “อ๊ายยยยยย”

    หญิงสาวกรีดร้อง ช่องคลอดหดตัวและตาเหลือก ก็อบลินทั้งสามกระแทกสะโพกอย่างเมามันส่งเสียงครางอย่างมีความสุข

    น้ำขาวพุ่งเข้าไปในปากทำให้แก้มของเธอบวม และบางส่วนไหลออกมาทางจมูก

    หญิงสาวครางดังอีกครั้งขณะที่ช่องคลอดและก้นของเธอโดนแท่งสองอันฉีดน้ำรักเข้ามาจำนวนมาก

    “อึกๆๆๆ…”เด็กสาวกลืนเข้าไปท้ังหมด จากนั้นก็โดนทิ้งลงพื้นหมดสภาพ

    เธอคิดว่านรกจบแล้ว แต่ก็อบลินยิ้มซาดิสและขึ้นคร่อมเธออีกครั้ง หญิงสาวไม่คาดคิด พยายามต่อต้านแต่ไร้ผล

    ก็อบลินรุมโทรมและน้ำใส่เธอ เด็กสาวอยากกรีดร้อง แต่ก็อบลินบีบเธอจากทุกด้าน เติมเต็มท้อง ก้นและดอกบัว มอนสเตอร์ครางออกมาอีกครั้งและน้ำพุ่ง

    ก็อบลินดึงแท่งออกมา หญิงสาวล้มลงราวกับตุ๊กตา ของเหลวสีเหลืองและน้ำขาวไหลออกมาจากช่องคลอดและก้น

    จากนั้นก็อบลินก็ลากหญิงสาวเข้าไปด้านในถ้ำ

    .

    .

    .

    “แฮ่!!!”

    สิ่งที่ทำให้อลิซกลัวคือเสียงฝีเท้าและคำรามของก็อบลินที่ไล่ตามมา

    เธอไม่ได้หยุดวิ่ง ไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ 

    ตอนนี้เธอเข้าใจสีหน้าของพนักงานกิลด์สาวแล้ว

    ก็อบลินอ่อนแอมาก แม้แต่นักผจญภัยมือใหม่ก็สามารถฆ่าได้เพียงลำพัง พวกมันมีขนาดและสติปัญญาเท่าเด็ก แต่ถ้ามีเด็ก10คนถืออาวุธด้วยเจตนาฆ่าจะทำยังไง

    มือใหม่ไร้ประสบการณ์ ไม่มีเงินและโชคร้าย

    เรื่องแบบนี้…เกิดขึ้นเสมอ

    นักบวชหญิงสะดุดชายเสื้อคลุมล้มลง

    “ขอโทษนะ ไม่เป็นไรใช่มั้ย”

    “อั๊ก”

    นักเวทสาวอาเจียนเป็นเลือดออกมา

    “ฉึก”ธนูพุ่งมาปักไหล่เธอ

    “กรี๊ดดด!!”เธอกรีดร้องล้มลง

    สิ่งเดียวที่นักบวชหญิงทำได้คือกัดฟันแน่นมองก็อบลินพร้อมน้ำตาไหล

    พวกมันน้ำลายไหลและยิ้มกว้าง

    บางทีการฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้นอาจจะดีกว่า

    เธออธิษฐานต่อเทพธิดาเพื่อความอยู่รอด แต่พระเจ้าคงไม่ช่วยอะไร เธอคงไม่รอดแล้ว

    แต่แล้วพวกมันก็ชะงัก

    มีแสงไฟจากด้านหลังดึงดูดความสนใจของก็อบลิน

    เมื่อแสงเข้ามาใกล้เรื่อยๆก็เห็นร่าง3ร่าง

    “ฉึกๆๆ”ธนูหลายดอกพุ่งมาพร้อมกันสังหารก็อบลินในพริบตา

    เป็นฝีมือของหญิงสาวผมสีม่วงไว้ผมทรงหางม้า

    ก็อบลินที่เหลือตกใจ แต่ก่อนจะหนีได้พวกมันก็รู้สึกว่าโลกหมุนติ้ว…หัวพวกมันหลุดจากบ่าด้วยฝีมือหญิงผมดำ เธอแสยะยิ้มเลียริมฝีปากราวกับมีความสุขที่ได้ฆ่าฟัน

    นักบวชสาวมองผู้ที่ช่วยชีวิตเธอไว้ พวกเขาอายุราว16-18 สวมที่ห้อยคอที่เป็นสัญลักษณ์ระบุแรงค์ของนักผจญภัย

    “ระดับC”

    เธอรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาจากสมาชิกคนที่3ที่เป็นชายคนเดียวในกลุ่ม เขาสวมชุดสีดำทั้งตัว รองเท้าบู๊ท ถุงมือ ผ้าพันคอ เกราะอกสวมไว้ใต้เสื้อโค๊ท

    “พวกคุณเป็นใครคะ”

    “แบล็คคลาวน์”เขาตอบ


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×