คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : โชคร้ายของมือใหม่(🍋ขืนใจ)
@@@@@@
@@@@@@
วันนี้ที่กิลด์นักผจญภัยเต็มไปด้วยชายหญิงต่างเผ่าพันธุ์และอายุ ถืออาวุธและคุยกันในกลุ่ม
หน้าโต๊ะมีคนต่อแถวยาวเหยียด มีคนเข้ามายื่นเควส รายงานเควส และยื่นคำร้อง
“เห็นว่าพักนี้ผู้กล้าที่เมืองหลวงสามารถปราบปีศาจได้จำนวนมากเลยล่ะ”
“อิจฉาพวกที่ได้ใช้ชีวิตในปราสาทจัง”
“ถ้าเป็นปีศาจระดับต่ำก็คงพอจัดการได้อยู่นะ”
เมื่อได้ยินบทสนทนาของพวกเขา นักบวชหญิงก็ตกตะลึง เรื่องราวของผู้กล้าที่ถูกอัญเชิญมาเมื่อ1ปีก่อนเป็นที่พูดถึงมาก เพราะเป็นการกลับมาของผู้กล้าแห่งแสงในรอบพันปี
“สวัสดี มีธุระอะไรค่ะ”
ขณะนักบวชสาวกำลังจมอยู่ในความคิด ก็ถึงคิวของเธอ
พนักงานต้อนรับที่เคาเตอร์เป็นหญิงท่าทางอ่อนโยนและมีอายุมากกว่าเธอเล็กน้อย สวมชุดยูนิฟอร์มสะอาดเรียบร้อย
แค่มองฝูงชนก็รู้แล้วว่าพนักงานต้อนรับต้องทำงานหนักแค่ไหน
อลิซกลืนน้ำลายเมื่อรู้สึกว่าความกังวลของเธอคลายลงบ้างแล้ว
“ฉัน…ฉันอยากเป็น…นักผจญภัยค่ะ”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
สีหน้าที่อธิบายไม่ถูกปรากฏให้เห็นสั้นๆ อลิซรู้สึกว่าเธอกำลังถูกประเมินตั้งแต่หัวจรดเท้า และอดไม่ได้ที่จะก้มหัวด้วยความเขินอาย
แต่พนักงานต้อนรับหญิงก็ยิ้มอย่างมืออาชีพเพื่อคลายความกังวลก่อนหน้านี้
“สามารถอ่านเขียนหนังสือได้รึเปล่าค่ะ”
“ค่ะ เรียนมาจาก…วิหาร”
“ถ้าอย่างนั้นรบกวนกรอกสิ่งนี้ด้วยค่ะ”
พนักงานยื่นเอกสารข้อมูลให้เธอเขียน
ชื่อ เพศ อายุ อาชีพ ผม ตา ขนาดร่างกาย สกิล คาถา พร
แบบฟอร์มสมัครเรียบง่าย
กรุณาเว้นส่วนเควสที่ทำสำเร็จไว้ เราจะกรอกให้หลังประเมินคุณแล้ว
“โอเค”อลิซพยักหน้าถือปากกาด้วยมือที่สั่นเทา
เธอเริ่มกรอกแบบฟอร์มโดยจุ่มปากกาขนนกลงในขวดหมึก
หลังกรอกเสร็จและส่งให้พนักงานหญิง เธอก็ตรวจสอบและพยักหน้าเป็นระยะ
จากนั้นพนักงานก็หยิบการ์ดขนาดเท่าฝ่ามือออกมาและมอบเข็มให้อลิซจุ่มเลือดลงไป เกิดแสงสว่างชั่วครู่ กลายเป็นการ์ดที่มีชื่อ เลเวล สกิล ตามที่เขียนไว้ในเอกสาร
“กิลการ์ดถือเป็นเครื่องยืนยันตัวตน กรุณาอย่าทำหายนะคะ”
หากเกิดเหตุอะไรขึ้น
นักบวชหญิงไม่เข้าใจว่าเธอหมายถึงอะไร แต่ก็เข้าใจ
เธอเข้าใจว่ากิลการ์ดจะถูกใช้ระบุว่าเธอเป็นใครหากศพของเธอถูกทำลายจนจำไม่ได้
“บอร์ดเควสอยู่ด้านนั้น เลือกที่เหมาะกับแรงค์ตอนนี้เลยค่ะ”
เธอชี้กระดานเควสที่อยู่ด้านหลังอลิซ
แต่เนื่องจากนักผจญภัยได้ดึงเควสออกไปจำนวนมาก เควสที่เหลือจึงมีน้อย
“แต่ฉันขอแนะนำว่าคุณควรเริ่มด้วยการทำความสะอาดท่อระบายน้ำเสียก่อน”
“เอ๊ะ นักผจญภัยไม่ควรปราบมอนสเตอร์เหรอ”
“การล่าหนูท่อก็เป็นการกำจัดมอนสเตอร์เช่นกัน ถือว่ามีส่วนช่วยเหลือสังคมอย่างมาก”
“การลงทะเบียนเสร็จสิ้นแค่นี้ค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ”
“ขอบคุณมากค่ะ”
นักบวชหญิงก้มหน้าขอบคุณและเดินออกจากเคาเตอร์และไปดูที่บอร์ด
“เฮ้ เธอน่ะ มาผจญภัยด้วยกันมั้ย”
มีเสียงเรียกทำให้นักบวชสาวหันไปเห็นชายหนุ่มผมน้ำตาลในชุดเกราะ ข้างหลังมี3สาว ดูจากเสื้อผ้าอาชีพพวกเธอคือนักธนู นักเวทและนักสู้
“ฉันชื่อซาซากิ”นักดาบหนุ่มแนะนำตัวเขาและคนอื่นๆ”อยากทำเควสด่วนกับเราไหม”
เควสด่วนนั้นจะไม่จำกัดแรงค์แม้เป็นมือใหม่ก็ตาม เป็นวิธีหนึ่งในการเลื่อนแรงค์อย่างรวดเร็ว แต่จะทำเควสสำเร็จไหมนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
“เควสเร่งด่วนเหรอคะ”
“กำจัดก็อบลินไง”
จากคำอธิบายของเขา ก็อบลินได้สร้างรังในถ้ำใกล้หมู่บ้าน โจมตีหมู่บ้านชิงสัตว์ที่เลี้ยงไว้กินและเสบียง และลักพาตัวหญิงไปด้วย
สถานการณ์ดังกล่าวทำให้ชาวบ้านไม่มีทางเลือก
พวกเขารวบรวมเงินน้อยนิดและเดินทางเข้าเมืองเพื่อยื่นเควสให้นักผจญภัย
“เอ่อ…ทุกคนเป็นมือใหม่ที่ได้รับจดหมายรับรองสินะคะ”
พนักงานกิลด์ไม่อาจทนได้ขัดจังหวะ แม้จดหมายรับรองจะทำให้พวกเขาได้เป็นแรงค์Dและสามารถรับเควสปราบมอนสเตอร์ได้ทันที แต่ก็ไม่มีประสบการณ์
“คาดว่าอีกไม่นาน นักผจญภัยท่านอื่นก็จะมาแล้วค่ะ”
“อย่างก็อบลินแค่พวกเราก็พอแล้วล่ะ”
นักดาบมองไปที่ปาร์ตี้พูดด้วยเสียงร่าเริง
“ไปกันเถอะ”
“รีบไปดีกว่า สาวๆกำลังรอให้พวกเราไปช่วยอยู่”
อลิซรู้สึกไม่สบายใจ
.
.
.
ภายในถ้ำมืดสนิทมีเพียงแสงไฟจากคบเพลิง
คน5คนยืนเรียงแถวเข้าไป โดยมีนักดาบซาซากิอยู่ข้างหน้า ตามด้วยนักสู้ คนที่3คืออลิซ ปิดท้ายด้วยนักเวทและนักธนู
ตราบใดที่ไม่มีทางแยก พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลการซุ่มโจมตีจากด้านหลัง
“จะไม่เป็นไรแน่เหรอจู่ๆเข้ามาแบบนี้ กลับไปเตรียมการก่อนไม่ดีกว่าเหรอ”อลิซกล่าว
“หา มาถึงที่นี่แล้วพูดอะไร”นักเวทสาวผมแดงใส่แว่นตาพูด
“ก็อบลินเนี่ยอ่อนแอที่สุดในเกมเลยนะ ฉันเคยฝึกสู้ในวิหารแล้ว”
นักดาบ”ซาซากิ”อวดมาตลอดทางว่าเขากับนักสู้”มิราโตะ”เป็นผู้กล้าจากต่างโลก ไม่รู้ว่าจริงมั้ย แต่การปราบก็อบลินที่ใช้ในสนามฝึกเป็นเรื่องที่ภูมิใจได้ด้วยเหรอ หยุดอวดสักที
“นายฆ่าไม่ได้สักตัวไม่ใช่เหรอ”มิราโตะกล่าว
มิราโตะล้อเลียนซาซากิเสียงต่ำ แต่ซาซากิตอบว่า”ฉันไม่ได้พูดอะไรผิด”
“พกยาหรือโพชั่นมาด้วยหรือเปล่าคะ”อลิซถาม
“ไม่เลย เพราะไม่มีทั้งเงินและเวลาในการซื้อของ”ซาซากิตอบราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่
มิราโตะเข้าไปหานักบวชและวางมือบนไหล่เธอพูดปลอบใจว่าอย่ากังวล
“เป็นห่วงเด็กผู้หญิงที่ถูกจับตัวมาด้วย ถึงจะบาดเจ็บเธอก็รักษาให้ได้ไม่ใช่เหรอ”ซาซากิกล่าว
“ก็จริงที่สามารถใช้ฮีลและแสงศักดิ์สิทธิ์ได้แต่…ใช้ได้แค่3ครั้ง”
ในตอนนั้นพวกเขาเห็นป้ายสัญลักษณ์ติดกระโหลกอยู่ด้านข้างถ้ำ พวกเด็กๆวิ่งเข้าไปดู
นักบวชหญิงเดินตามหลังทั้งสองคนโดยกำคทาพลางสวดมนตร์อธิษฐานต่อพระเจ้า
“เอ้า ช้าแล้วนะ สองคนนั้นล่วงหน้าไปแล้ว”
“ขอโทษค่ะ”
นักเวทสาวเข้ามาเร่งเธอ เธอรีบวิ่งตามให้ทันสองคนที่แถวหน้า
ครึกๆๆ
เสียงเบาๆเหมือนหินกลิ้งดังเข้าหูนักบวช
“อะไรอีกเนี่ย”
นักเวทบ่นเมื่ออลิซหยุดอีกครั้ง
เธอจบการศึกษาจากอคาเดมี่ด้วยคะแนนสูง
อลิซทั้งประหม่าและขี้ขลาด ความประทับใจของเธอที่มีต่อนักบวชแย่มาก และยิ่งแย่ลงเมื่อเข้าถ้ำ
“ฉันได้ยินเสียง”
“จากไหน”
“ด้านหลังคะ”
นี่ไม่ได้เรียกว่าระมัดระวัง แต่เรียกว่าอ่อนแอ ไม่เหมาะจะเป็นนักผจญภัย
เนื่องจากนักบวชหญิงหยุดเคลื่อนไหว ทำให้ระยะห่างกับสองคนข้างหน้าเพิ่มขึ้น แหล่งกำเนิดแสงเคลื่อนห่างออกไปทำให้สภาพแวดล้อมมืดลง
“เราเดินเป็นเส้นตรง จะมาจากข้างหลัง…”
กรี๊ดดดด!!!!
นักเวทพูดด้วยความหงุดหงิดและต้องเบิกตากว้างเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของนักธนู…เธอหันไปมองข้างหลัง
“ก็อบลิน”
มอนสเตอร์สีเขียวที่มีขนาดเท่าเด็กหลายตัวกำลังรุมแทงร่างของนักธนูสาวที่โดนกระบองทุบร่างเละไปหลายส่วน
“มันมาอยู่ข้างหลังได้ยังไง”
เซฮาล อินฟิกาล
เซจิยกคทาขึ้นมาร่ายเวทไฟใส่ฝูงก็อบลิน ทำให้มันกรีดร้อง
“จัดการได้แล้ว”
นักเวทสาวแสยะยิ้มมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น
“เซฮาล อินฟิ…อั๊ก”
ก่อนนักเวทสาวจะร่ายเวทเสร็จ ขาถูกก็อบลินจับไว้และดึงให้ล้มลง แว่นตาของเธอหลุดและแตกเป็นชิ้นๆ สายตาพร่ามัว และไม้เท้าก็ถูกแย่งไป
“เอาคืนมานะ นั่นมันของฉัน…”
ไม้เท้าหรือแหวนที่ใช้เวทมนตร์หรือลดเวลาการร่ายเป็นสิ่งสำคัญของนักเวท
ทันใดนั้นก็อบลินก็ได้ทำการหักไม้เท้าเสียงดัง”กร็อบ”ทำให้นักเวทโกรธ
“ไอ้พวกเวร…ปล่อยนะ”
เธอคำราม ดิ้นรนด้วยแขนขาที่ไม่เคยฝึกฝนร่างกายและเตะก็อบลินทำให้พวกมันโมโหใช้มีดแทงเข้าที่ท้อง
“อ๊ากกกกก”
เสียงกรีดร้องของนักเวทสาวดังก้องไปทั่วถ้ำ
แน่นอนว่าเพื่อนที่เหลือ…อลิซไม่ได้อยู่เฉยๆ
“ออกไปห่างๆเธอนะ”
อลิซฟาดคทาอย่างสิ้นหวังไล่ก็อบลินออกไป
จะโชคดีหรือร้ายพวกก็อบลินก็ถอยไป
พวกเขาคงคิดว่าเธอเป็นพระหรือไม่อยากโดนฟาด
และโชคดีซาซากิกับมิราโตะที่รู้ถึงความผิดปกติรีบวิ่งกลับมาปกป้องเพื่อนปาร์ตี้
เขาโยนคบเพลิงออกไปและถือดาบยาวแทงทะลุคอก็อบลิน
“หนอยแน่ ไอ้พวกเวร”
เขาเหวี่ยงดาบด้วยความโกรธ ดาบฟันใส่ก็อบลินผ่าสองท่อนทันที
“มัวรออะไรอยู่ รีบฮีลสิ”มิราโตะบอก
“ค่ะ…ฮีล”
อลิซใช้เวทฮีลกับนักเวทสาว
“ฉันจะช่วยเอง”มิราโตะพยายามจะช่วยซาซากิ แต่เขาเหวี่ยงดาบไปมาทำให้เธอเข้าใกล้ไม่ได้
“อย่าเหวี่ยงดาบไปรอบๆสิ เข้าใกล้ไม่ได้”
ซาซากิเหวี่ยงดาบไปรอบๆเพื่อกำจัดก็อบลิน แม้จะเป็นมือใหม่แต่เขาก็ฆ่าก็อบลินได้หลายตัว
ในที่สุดเขาก็ได้มาต่างโลกที่เขาใฝ่ฝัน
เหมือนกับตัวเอกในนิยาย ช่วยหญิงสาว กำจัดจอมมารและช่วยโลกไว้
เสียงเตือนของเพื่อนสาวไม่ได้เข้าหูของซาซากิเลย
ทันใดนั้นมีดก็แทงต้นขาของซาซากิ
“อ๊ากกก ไอ้สารเลว”
ผู้ที่ทำร้ายนักดาบคือก็อบลินที่มีแผลใหญ่ที่หน้าอก ดาบยาวของซาซากิทื่อจากเลือดทำให้ฆ่ามันทันทีไม่ได้
ในตอนนั้นก็อบลินวิ่งเข้ามาจากข้างหลัง
“เกะกะ”
ซาซากิยกดาบฟันก็อบลิน แต่ได้ยินเสียงเคร้งเมื่อดาบฟาดผนังถ้ำทำให้ดาบหลุดมือ
และมันก็นำมาซึ่งจุดจบของเขา
เขาไม่มีเงิน เด็กหนุ่มม.ปลายจึงไม่มีทั้งโล่หรือหมวกเหล็ก อุปกรณ์ป้องกันเพียงอย่างเดียวคือเกราะหน้าอกบางๆ
เขาโดนผลักล้มลงและถูกแทงซ้ำๆจนตาย
มิราโตะเข้าไปช่วยไม่ทัน เธอยืนแข็งทื่อขณะมองดูเพื่อนของเธอตายต่อหน้า
เธอกำหมัดแน่นตั้งท่าต่อสู้
“ทั้งสองคนหนีไปเร็ว”
“แต่ว่า…”
อลิซเข้าใจสถานการณ์ เธอจึงพานักเวทสาวที่หอบหายใจโรยรินหนีไป
พวกก็อบลินปิดล้อมเหยื่อที่เหลือ
ตอนแรกพวกมันระมัดระวังนักสู้สาวๆ ก่อนจะเข้ารุมล้อมเธอ
มิราโตะวิ่งเข้าต่อสู้กลางฝูงก็อบลิน
แขนขาเธอมีความแข็งแรงจากการเป็นนักกีฬาคาราเต้ เมื่อมาต่างโลกเธอก็ได้รับการเสริมพลังด้วยพิธีเปลี่ยนสภาวะ
เธอยกหมัดที่หุ้มมานาชกเข้าที่หน้าก็อบลินแหลกเป็นชิ้นๆ
“ปัง!!!”
แต่ก็อบลินยักษ์ตรงหน้าเธอจับเท้าไว้ได้ ความแข็งแรงของแขนทำให้มิราโตะส่งเสียงร้อง
”โอ๊ย…เจ็บนะ”
“โฮกกกก”
ฮ็อบก็อบลินจับเท้าเธอไว้และโยนไปกระแทกผนังถ้ำ
มิราโตะเจ็บปวดมาก แต่ฮ็อบก็อบลินโยนเธอไปกระแทกผนังถ้ำซ้ำอีกครั้ง
“แค่กๆๆ”เธอกระอักเลือดและอาเจียนออกมา
ก็อบลินที่เหลือรุมล้อมเธอและทุบตีจนร่างกายขยับไม่ได้ และฉีกเสื้อผ้าเธอออก
“มะ ไม่”มิราโตะพยายามสู้กับมอนสเตอร์ แต่ร่างกายเธออ่อนแอเกินกว่าจะทำแบบนั้น
ก็อบลินตัวนึงจับบั้นท้ายเธอและเข้าไปใกล้ช่องสวรรค์ของเธอต่อหน้านักบวชที่หวาดกลัว
“กรี๊ดดดดด!!!!”
หญิงสาวกรีดร้องเมื่อโดนพรากพรหมจรรย์ไป
“หนีไป”เสียงเธอแทบไม่ได้ยิน
“ขอโทษนะคะ”
อลิซหลบหนีพร้อมนักเวทหนุ่มที่อยู่บนหลัง เธอปิดหูเพราะไม่อยากได้ยินเสียงร้องของมิราโตะที่โดนทำให้มีมลทิน
ต่อหน้ามนุษย์ที่เข้ามาปราบ พวกก็อบลินไม่เมตตา
หญิงสาวที่ใช้ชีวิตในสังคมญี่ปุ่นที่สงบสุขได้ถูกปฏิบัติอย่างโหดร้ายร้องไห้ออกมา
ก็อบลินรุมยำหญิงสาวคนหนึ่ง ส่ายสะโพกเป็นจังหวะ พวกมันครางและบางครั้งก็ตบบั้นท้ายของหญิงสาวทำให้เธอครางดังขึ้น
“อื้อๆๆๆ”แต่เธอพูดไม่ได้เพราะมีแท่งของก็อบลินในปากเธอ
ก็อบลินจากด้านล่าง ด้านหลัง และด้านหน้าหัวของหญิงสาว พวกมันเพลิดเพลินกับการแสดงนี้
ตัวสุดท้ายจับผมสีดำของหญิงสาวไว้และยัดแท่งเข้าปาก ขยับแกนไปตามเข็มนาฬิกา เพลิดเพลินไปกับคอของหญิงสาวที่บีบแท่งของมัน บางครั้งมันก็บีบจมูกและสนุกกับน้ำตาที่ไหลรินของเธอ มันรู้สึกตื่นเต้นขึ้นเรื่อยๆ
ก็อบลินที่อยู่ใต้ร่างกำลังเพลิดเพลินกับรูของเหยื่อ ซึ่งบีบรัดแท่งอย่างประหลาด และรู้สึกถึงแรงเสียดทานของแท่งอีกอันที่เข้ามาทางรูทวาร
เมื่อหน้าอกคัพGขยับไปมาต่อหน้า ก็อบลินก็ทนไม่ไหวจับยอดภูเขาสีชมพูและดูดด้วยลิ้น
“อ๊ายยยยยย”
หญิงสาวกรีดร้อง ช่องคลอดหดตัวและตาเหลือก ก็อบลินทั้งสามกระแทกสะโพกอย่างเมามันส่งเสียงครางอย่างมีความสุข
น้ำขาวพุ่งเข้าไปในปากทำให้แก้มของเธอบวม และบางส่วนไหลออกมาทางจมูก
หญิงสาวครางดังอีกครั้งขณะที่ช่องคลอดและก้นของเธอโดนแท่งสองอันฉีดน้ำรักเข้ามาจำนวนมาก
“อึกๆๆๆ…”เด็กสาวกลืนเข้าไปท้ังหมด จากนั้นก็โดนทิ้งลงพื้นหมดสภาพ
เธอคิดว่านรกจบแล้ว แต่ก็อบลินยิ้มซาดิสและขึ้นคร่อมเธออีกครั้ง หญิงสาวไม่คาดคิด พยายามต่อต้านแต่ไร้ผล
ก็อบลินรุมโทรมและน้ำใส่เธอ เด็กสาวอยากกรีดร้อง แต่ก็อบลินบีบเธอจากทุกด้าน เติมเต็มท้อง ก้นและดอกบัว มอนสเตอร์ครางออกมาอีกครั้งและน้ำพุ่ง
ก็อบลินดึงแท่งออกมา หญิงสาวล้มลงราวกับตุ๊กตา ของเหลวสีเหลืองและน้ำขาวไหลออกมาจากช่องคลอดและก้น
จากนั้นก็อบลินก็ลากหญิงสาวเข้าไปด้านในถ้ำ
.
.
.
“แฮ่!!!”
สิ่งที่ทำให้อลิซกลัวคือเสียงฝีเท้าและคำรามของก็อบลินที่ไล่ตามมา
เธอไม่ได้หยุดวิ่ง ไม่หันกลับมามองด้วยซ้ำ
ตอนนี้เธอเข้าใจสีหน้าของพนักงานกิลด์สาวแล้ว
ก็อบลินอ่อนแอมาก แม้แต่นักผจญภัยมือใหม่ก็สามารถฆ่าได้เพียงลำพัง พวกมันมีขนาดและสติปัญญาเท่าเด็ก แต่ถ้ามีเด็ก10คนถืออาวุธด้วยเจตนาฆ่าจะทำยังไง
มือใหม่ไร้ประสบการณ์ ไม่มีเงินและโชคร้าย
เรื่องแบบนี้…เกิดขึ้นเสมอ
นักบวชหญิงสะดุดชายเสื้อคลุมล้มลง
“ขอโทษนะ ไม่เป็นไรใช่มั้ย”
“อั๊ก”
นักเวทสาวอาเจียนเป็นเลือดออกมา
“ฉึก”ธนูพุ่งมาปักไหล่เธอ
“กรี๊ดดด!!”เธอกรีดร้องล้มลง
สิ่งเดียวที่นักบวชหญิงทำได้คือกัดฟันแน่นมองก็อบลินพร้อมน้ำตาไหล
พวกมันน้ำลายไหลและยิ้มกว้าง
บางทีการฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้นอาจจะดีกว่า
เธออธิษฐานต่อเทพธิดาเพื่อความอยู่รอด แต่พระเจ้าคงไม่ช่วยอะไร เธอคงไม่รอดแล้ว
แต่แล้วพวกมันก็ชะงัก
มีแสงไฟจากด้านหลังดึงดูดความสนใจของก็อบลิน
เมื่อแสงเข้ามาใกล้เรื่อยๆก็เห็นร่าง3ร่าง
“ฉึกๆๆ”ธนูหลายดอกพุ่งมาพร้อมกันสังหารก็อบลินในพริบตา
เป็นฝีมือของหญิงสาวผมสีม่วงไว้ผมทรงหางม้า
ก็อบลินที่เหลือตกใจ แต่ก่อนจะหนีได้พวกมันก็รู้สึกว่าโลกหมุนติ้ว…หัวพวกมันหลุดจากบ่าด้วยฝีมือหญิงผมดำ เธอแสยะยิ้มเลียริมฝีปากราวกับมีความสุขที่ได้ฆ่าฟัน
นักบวชสาวมองผู้ที่ช่วยชีวิตเธอไว้ พวกเขาอายุราว16-18 สวมที่ห้อยคอที่เป็นสัญลักษณ์ระบุแรงค์ของนักผจญภัย
“ระดับC”
เธอรู้สึกถึงสายตาที่จ้องมองมาจากสมาชิกคนที่3ที่เป็นชายคนเดียวในกลุ่ม เขาสวมชุดสีดำทั้งตัว รองเท้าบู๊ท ถุงมือ ผ้าพันคอ เกราะอกสวมไว้ใต้เสื้อโค๊ท
“พวกคุณเป็นใครคะ”
“แบล็คคลาวน์”เขาตอบ
ความคิดเห็น