คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : วางแผนฆ่า
@@@@@@
@@@@@@
ไม่ว่าจะโลกเดิมหรือโลกแพนเจีย มนุษย์ไม่สามารถทำทุกอย่างได้ด้วยตัวเอง
ไอน์ตั้งใจทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อรวบรวมพรรคพวกที่แข็งแกร่ง ดังนั้นพฤติกรรมเขาจึงเริ่มเปลี่ยนไป
ถึงแม้การฝึกจะยากลำบากแต่เขาก็อดทนโดยไม่ปริปากบ่น แม้จะอยู่ในการควบคุมของอาจารย์ห้องCที่รุนแรงกว่าห้องอื่นก็ยังว่านอนสอนง่าย
ข่าวเรื่องไอน์ได้เลื่อนเป็น2ดาวเริ่มแพร่ไปในหมู่นักเรียน เมื่อมีคนมาถามเขาก็ตอบไปตามตรงว่าเพราะได้หินเลื่อนขั้น เรื่องนี้ทำให้นักเรียนหลายคนไปที่กิลด์นักผจญภัย แต่แน่นอนว่าต้องผิดหวัง เพราะต้องรับราชการอย่างน้อย2ปี หรือทำหน้าที่แบกสัมภาระให้ปาร์ตี้ ซึ่งพวกเขามีค่าSTRไม่เพียงพอ
สิ่งเหล่านี้เชื่อมโยงกับผลการฝึกที่โดดเด่น พวกอาจารย์ก็มองด้วยสายตาเป็นมิตร ผู้ดูแลหอพักก็เปลี่ยนเป็นเมดสาวใช้ส่วนตัว
ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมชั้นก็เปลี่ยนไปด้วย คนที่อยากเป็นเพื่อนกับไอน์หรือสร้างสัมพันธ์ดีค่อยๆ มันไม่ได้พุ่งพรวดแต่ค่อยเป็นค่อยไปทีละขั้น
มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ปรับตัวได้ อาจมีความแตกต่างในช่วงเวลา แต่การปรับตัวเป็นเรื่องสำคัญที่จะอยู่รอดในโลกนี้
สัปดาห์แรกๆมีหลายคนทนการฝึกไม่ไหวถอนตัวไป แต่ค่อยๆลดลง และไม่มีใครออกไปสักคนในเดือนที่3 หมายความว่าผู้กล้าที่เหลือคือคนที่ผ่านการคัดกรองแล้ว
แน่นอนว่าคนที่เหลืออยู่ไม่ได้แปลว่าจะอยู่รอด และคนที่ออกไปก็ไม่ได้แปลว่าต้องตายเช่นกัน มีตัวแปรหลายอย่างที่ชี้เป็นชี้ตายผู้คน
ในโลกนี้การฟาร์มมอนสเตอร์ไม่ช่วยให้แข็งแกร่งขึ้น ค่าสเตตัสจะเพิ่มจากการฝึกฝนและประสบการณ์
หลังผ่านไป1ปี ถ้านักเรียนที่ถอนตัวจากอคาเดมี่ยังมีชีวิตอยู่ก็อาจเสียดายที่ไม่ได้20พ้อยต์นี่
โชคดีกลุ่มของไอน์ปรับตัวเข้ากับการฝึกนี้ได้ไว
คนแรก คาวามูระ โจอี้เลือกจะเป็นนักดาบ ต่างจากตอนแรกที่ไอน์คิดว่าเขาจะเป็นนักธนู นอกจากค่าพลังเวท สเตตัสของเขาเหมาะกับอาวุธดี แต่ก็เสียดาย
แต่ไอน์สงสัยอยู่ดีว่าทำไมเขาเลือกนักดาบ
"อ๋อ เรื่องนั้น หลังได้ยินว่าพวกนายหายเข้าไปในดันเจี้ยนไม่กลับมา ฉันถามนักบวชไปว่าพวกเขารอดมั้ย แต่พวกเขาเลี่ยงที่จะตอบแต่พูดเรื่องอื่นแทน ตอนนั้นฉันโมโหสุดๆ เพราะงั้นตอนเธอบอกว่าฉันควรเป็นนักธนู ฉันประชดว่าจะเป็นนักดาบ"
ทามินที่นั่งฟังข้างๆพูดขึ้น"หึๆ ตอนแรกโจอี้บอกว่าจะเป็นนักเวท นางฟ้าทำหน้าเหวอเลยล่ะ"
อาชีพของทามินไม่ผิดจากที่คาดไว้ เขาเลือกนักรบ การเป็นแทงค์เหมาะสำหรับเขาที่สุด
ยุยกะ เธอตัดสินใจอยู่นาน แต่ในที่สุดก็เลือกนักรบ ต่างจากทามินที่ใช้อาวุธขวานเล่มโต เธอเลือกดาบกับโล่
และครูพยาบาล โซฟี เธอเลือกนักบวช เธอไม่ชอบจับอาวุธ ไม่ต้องการทำร้ายใคร ดังนั้นนักบวชเหมาะสำหรับเธอที่สุดแล้ว
ด้านห้องA
มิยาโมโตะที่เป็นผู้นำกำลังรวบรวมผู้กล้าแรงค์สูงไปเข้าร่วมจักรวรรดิซามาฟอร์ส
คาเรนไม่ได้เข้าเรียนหลายครั้ง แต่ก็มาช่วยฝึกซ้อมภาคสนาม จึงพบคนอื่นสัปดาห์ละครั้ง
มิยาโมโตะถามว่าคาเรนได้คลาสอะไร แต่เธอก็ตอบกลับอย่างเย็นชา
"เมื่อกี้เธอเพิ่งบอกว่าอย่าบอกข้อมูลของตัวเองให้คนอื่นนี่"
"เธอพูดถูกแล้วแหละ เธอนี่รอบคอบจริงๆ"
เจ้าชายอาซัสหัวเราะอย่างเคอะเขิน ไม่นึกว่าหญิงสาวคนนี้จะกล้าเถียงกลับโดยไม่ให้เกียรติเขาขนาดนี้
"นี่เธอเป็นอะไรไป ทำเหมือนพี่เขาเป็นคนอื่นคนไกลไปได้”ชินจิกล่าว ราวกับพวกเขาสนิทกัน
"ฉันได้อาชีพนักฆ่า ฉันมีธุระขอตัวก่อนนะ"
"มิยาโมโตะคุงไม่ต้องสนใจเด็กคนนั้นหรอก ยัยนั่นอยู่คนละหอพักกับฉัน แล้วเราแทบไม่ได้คุยกันเลยด้วยซ้ำ แค่ปล่อยไปตามทางเถอะ ที่จริงฉันไม่ค่อยชอบรองประธานมาตั้งแต่แรกแล้ว"สาวแว่นกล่าว
หลังเลิกเรียน
คาเรนกำลังจะกลับที่พัก แต่นักเรียนชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเธอ
“มิยาโมโตะคุง"
“ชั้นมีบางอย่างจะพูดกับเธอ”ชินจิกล่าว
"มีอะไรเหรอ"
“เธอคิดยังไงกับฉัน”
“แน่นอนก็แบบเพื่อนไง”
“แต่ชั้นอยากเป็นมากกว่านั้น”เขาตอบเชิงสั่ง
“อย่าพูดอะไรเล่นๆสิ”
“ฉันไม่ได้พูดเล่นๆนะ ฉันสังเกตมานานแล้ว ฉันไม่ต้องการให้เธอเข้าใกล้เจ้าโทซากะ”
“แต่สำหรับฉันทั้งนายและโทซากะเป็นเพื่อนของฉัน ทำไมนายถึงคิดแบบนั้นล่ะ”
“เพราะเธอเป็นของฉันคนเดียว เพราะเธอเป็นผู้หญิงของฉัน เพราะงั้นห้ามไปคุยกับผู้ชายคนอื่น และฉันไม่ต้องการให้เธอไปกินข้าวกับพวกมันอีก”ชินจิเดินเข้าไปใกล้
“หยุดทำแบบนี้สักที นายทำให้ฉันกลัว”คาเรนถอยห่างไป
“ทำให้เธอกลัว”เขาแสยะยิ้ม
“เพียงแค่เพราะนายทั้งหล่อและเก่งงั้นเหรอ? นายคงมีผู้หญิงมาชอบเยอะเลยสิท่า”คาเรนเปิดประเด็นว่าเขามีผู้หญิงเข้าหาเยอะแยะ
“แล้วเธอล่ะ เธอชอบชั้นไหม”
“ไม่ ชั้นไม่ชอบนาย”คาเรนส่ายหัว
“ทำไม”
“ชั้นไม่ชอบคนที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนาย นายคิดว่าผู้หญิงทุกคนจะชอบคนแบบนายงั้นเหรอ และชั้นไม่ต้องการเป็นผู้หญิงของนายด้วย"
ชินจิมองคาเรน ด้วยอำนาจของเขา เขาไม่ปล่อยให้ผู้หญิงที่เขาเลือกไปง่ายๆหรอก
.
.
.
ตอนนี้นักเรียนทั้ง3ห้องได้เดินทางออกจากเมืองหลวง 1สัปดาห์ต่อมา พวกเขามาอยู่ที่ดันเจี้ยนป่าวงกต
ไอน์จินตนาการถึงทางเข้าที่มืดมิดและอึมครึม แต่ประตูทางเข้าเหมือนกับประตูพิพิธภัณฑ์และมีพนักงานต้อนรับด้วย พี่สาวหน้าตายิ้มแย้มคอยตรวจสอบผู้เข้าออกจากดันเจี้ยน
“แน่ใจแล้วเหรอ”
“ใช่”
อาจารย์ห้องCกำลังถามนักผจญภัย แม้จะได้รับแจ้งล่วงหน้าแต่พอถึงเวลาก็กังวล อาจารย์ไม่มีอำนาจหรือความกล้าที่จะโต้แย้ง นี่เป็นการตัดสินใจของเบื้องบน
“จากนี้ไปคนคนนี้จะทำหน้าที่คุ้มกันห้องDในดันเจี้ยน”
“คนเดียว?”
“ปล่อยให้เป็นหน้าที่ฉันเอง ฉันจะไม่ให้มอนสเตอร์เข้ามาแม้แต่คนเดียว”
นักผจญภัยที่ดูแลห้องDดูจะมั่นใจมาก
“เราจะแบ่งออกเป็น5กลุ่ม แต่อย่าออกห่างกันมากนัก”
ทุกคนทำตามคำสั่งจัดปาร์ตี้
เมื่อเข้ามาในดันเจี้ยนแล้วก็ราวกับอยู่ในโลกอีกใบ มันเป็นป่าขนาดใหญ่ มีท้องฟ้าและแสงอาทิตย์ด้วย แต่มันเป็นสิ่งที่สร้างจากหินเวทที่ฝังอยู่ในกำแพง
นักเรียนจัดกลุ่มกันเป็นแถวและเดินหน้า ไม่มีอะไรน่าสนใจ จนกระทั่งมาถึงที่ราบโล่ง
“โอเค ชินจิและปาร์ตี้ก้าวไปข้างหน้า คนอื่นถอยไป เราจะผลัดกันเข้าแนวหน้า มอนสเตอร์ตรงหน้าคือเกรย์วูล์ฟ
เกรย์วูล์ฟกระโจนมาข้างหน้า ดวงตาของพวกมันมีสีแดงก่ำ
แนวหน้าคือกลุ่มของมิยาโมโตะ
เกรย์วูล์ฟส่งเสียงคำราม ชินจิ คาเรนและเก็นโซเป็นแนวหน้าสกัดพวกเกรย์วูล์ฟ ด้านหลังเมย์เตรียมร่ายเวท
มิยาโมโตะถือดาบสีทองจัดการมอนสเตอร์อย่างรวดเร็วจนแทบมองตามไม่ทัน ดาบของเขาเป็นอาร์ติแฟคที่อาณาจักรมอบให้ ดาบเล่มนี้เป็นธาตุแสง ศัตรูที่โดนแสงที่ดาบสร้างจะอ่อนแอลงและเพิ่มความแข็งแกร่งให้ผู้ถือดาบ
โอนิสึกะใช้อาวุธเป็นถุงมือและสนับแข้ง ของเหล่านี้เป็นอาร์ติแฟค พวกมันสามารถสร้างคลื่นกระแทกรุนแรงได้ โอนิสึกะสู้โดยการเตะต่อยที่คุ้นเคย แม้เขาจะไม่มีโล่ แต่เขาก็เหมือนปราการที่แข็งแกร่ง
ตอนนี้อาชีพของคาเรนคือ”นักฆ่า”แต่ทั้งอาจารย์และเพื่อนร่วมชั้นห้องSพูดได้เลยว่าอาชีพของเธอคือ”นักดาบ” เธอชักดาบอย่างฉับไว ศัตรูทั้งหมดถูกฟันทันที การชักดาบนั้นรวดเร็วมากจนอัศวินตกตะลึง
ขณะที่นักเรียนกำลังให้ความสนใจการต่อสู้กลุ่มมิยาโมโตะ เสียงร่ายคาถาก็ดังขึ้น
“เปลวเพลิงทมิฬ จงเผาไหม้ศัตรูของข้าให้กลายเป็นขี้เถ้ากลับสู่ดิน”
นักเวท3คนร่ายมนตร์พร้อมกัน เปลวไฟ3ลูกรวมตัวเป็นเพลิงกลืนพวกหมาป่า
ฝูงเกรย์วูล์ฟ50ตัวถูกกวาดล้าง นักเรียนคนอื่นไม่มีโอกาสเลย ดูเหมือนมอนสเตอร์ในชั้นแรกจะอ่อนแอไปสำหรับพวกมิยาโมโตะ
“ทำได้ดีมาก ครั้งหน้าพวกเธอก็ลองทำดู แต่อย่าลดความระมัดระวังล่ะ”
อาจารย์ห้องSไม่ได้บอกแค่พวกนักเรียนแรงค์Sแต่เตือนทุกคน ประสบการณ์ในดันเจี้ยนครั้งแรก ใบหน้าของนักเรียนยิ้มแย้ม
“แม้นี่จะเป็นแค่การฝึกซ้อม แต่อย่าลืมคำนึงถึงหินเวทด้วย เจ้านี้ใช้การไม่ได้แล้ว…โดยเฉพาะกลุ่มนักเวท เวทโจมตีเมื่อกี้ก็ดีอยู่ แต่ใช้มานาเปลืองไป”
เมื่อได้ยินคำพูดของอาจารย์ กลุ่มนักเวทของซุซุเนะก็หน้าแดง
เมื่อไปถึงชั้น10 พวกเขาตั้งแคมป์พักผ่อน มิยาโมโตะได้เข้าไปคุยกับนักผจญภัยที่ทำหน้าที่ช่วยสอนผู้กล้า
“คุณเข้าใจที่ผมพูดใช่ไหมรุ่นพี่”ชินจิเน้นย้ำคำสั่ง
“แต่…”
“สบายใจได้เลย ฉันไม่บังคับนายหรอก”
“มิยาโมโตะคุง”สาวแว่นคนหนึ่งวิ่งเข้ามา
“นายไปได้แล้ว”ชินจิไล่เขาไปและหันไปหาเด็กสาว
เธอคือนาโทริ มิยูกิ เป็นสมาชิกสภานักเรียนและเป็นเลขาผู้ช่วยประธานนักเรียน ซึ่งก็คือเขา เธอมีพรแห่งการป้องกันและอาชีพหายาก[ผู้สร้างเขตแดน]ทำให้เป็นหนึ่งในสมาชิกปาร์ตี้หลักของเขา
“ไอน์ เขาปรุงอาหารได้อร่อยมากและตอนนี้มีคนแห่ไปดูเยอะแยะเลยล่ะ คนแรกที่ได้ลองกินคือคาเรน ไอ้คนขี้อายนั่นมันอะไรกัน”
ชินจิรู้สึกโกรธในใจที่คาเรนไปอยู่กับไอน์อีกแล้ว…แต่มันจะจบแค่วันนี้
“ทำไมเธอถึงมาหาชั้นล่ะ"เขาถามหญิงสาว
"เอ่อ..."
"เธอควรจะเพลิดเพลินกับอาหารของพวกเขาสิ”
“ตะ แต่ชั้นอยากกินข้าวกับนายนี่”สาวแว่นตอบอย่างเขินอาย
“แล้วทำไมเราไม่ไปกินข้าวกันสองคนล่ะ”ชินจิเอ่ยชวน
“โอเคเลย ชั้นก็คิดแบบนั้นแหละ”เธอตามไปราวกับสุนัขที่ซื่อสัตย์
.
.
.
ทุกอย่างราบรื่น พวกเขาต่อสู้แบบเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนมาถึงชั้น20
จนถึงตอนนี้ไอน์ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ เขาจัดการมอนสเตอร์ที่อัศวินทำให้อ่อนแอลง เขาใช้เวทสร้างดินโคลนให้มอนสเตอร์ตกลงไปและแทงมันให้ตาย
ไม่มีใครอยากได้เขาร่วมปาร์ตี้ เขายืนอยู่แนวหลังที่พวกอัศวินจัดไว้ให้ น่าสมเพช แต่ดูเหมือนการใช้เวทมนตร์จะทำให้พลังเวทเขาพัฒนาขึ้น
ตอนนี้มอนสเตอร์ที่มีร่างเป็นคนและหัวเป็นสุนัขปรากฏขึ้น แวร์วูล์ฟนั่นเอง
“เอาล่ะ มอนสเตอร์ของจริงโผล่มาแล้ว”
แม้จะเผชิญหน้ามอนสเตอร์ระดับBแต่ชายคนนี้ที่เป็นนักผจญภัยแรงค์Bไม่กลัวเลย
“อาจารย์ คุณจะสู้กับมันเหรอ”นักเรียนคนนึงถาม
“อาจารย์”
“ผมไม่เคยได้ยินชื่อคุณเลยเรียกแบบนั้น”
“อ๋อ จริงสิ เรียกฉันไลโอเนลก็ได้”
“เข้าใจแล้วครับ”
“แวร์วูล์ฟไม่ใช่มอนสเตอร์ที่น่ากลัวขนาดนั้น มันก็แค่รูปร่างใหญ่โตเท่านั้น”
และไลโอเนลก็สาธิตด้วยการก้าวไปข้างหน้า เมื่อแวร์วูล์ฟกระโจนใส่ เขาก็หลบและฟันลำตัวเลือดสาด มันร่วงลงพื้นร้องโอดครวญ
ดาบไลน์ฟันคอมันจากข้างหลัง หัวของมอนสเตอร์กลิ้งลงพื้น
“ก็ประมาณนี้”
“สุดยอดไปเลยครับ”
นักเรียนต่างพากันยกย่องไลน์ที่จัดการมอนสเตอร์ระดับBอย่างง่ายดาย
“อาวุธของแวร์วูล์ฟคือกรงเล็บและเขี้ยวของมัน อย่างที่เห็นมันโจมตีด้วยการกระโดด เราแค่รอจังหวะฟันและจัดการในคราวเดียว”
สิ่งที่ไลโอเนลอธิบายเหมือนกลยุทธ์จัดการกับแวร์วูล์ฟ นักผจญภัยคนใดที่เคยรับเควสปราบรู้เรื่องนี้ดี
“คราวนี้พวกเธอสู้เอง ฉันจะคอยระวังหลังให้”
หลังจากอธิบายวิธีสู้กับแวร์วูล์ฟแล้วทั้งกลุ่มก็มุ่งหน้าเข้าไปในป่า ไม่นานก็พบกับมอนสเตอร์
มันคือแมวปีศาจสีดำที่มีร่างใหญ่เท่าเสือและมีเพลิงลุกไหม้บนร่างกาย เป็นมอนสเตอร์แรงค์B
“ฮึ่ม พลาดอีกแล้ว”
“ปล่อยให้ฉันจัดการเอง”นักเวทพูดแล้วร่ายเวทสายฟ้ายิงใส่ แต่แมวปีศาจโดดหลบและหันมาโจมตีนักเวท
“สู้ห่าไรล่ะ เดี๋ยวฉันล่อมันให้เอง”ไลโอเนลพูดวิ่งเข้าไปฟัน แต่พลาด และมันวิ่งเข้าหาคนอื่นในปาร์ตี้
“ทำไมมันถึงโจมตีฉันเนี่ย”นักรบที่หวาดกลัวพยายามวิ่งหนี
ไลโอเนลวิ่งเข้าโจมตี แต่มันกระโจนหนีทัน
“ให้ตายเหอะ ปกติก็ตีไม่โดนนี่ยังวิ่งไปวิ่งมาอีก ฮีลหน่อยเร็ว”
“ลากมอนไม่ติดต่อเนื่องเลย ฮีลให้หมอนั้นก็ตื่นกลัวหมดแล้ว”ไอน์คิดในใจ
“กำลังรวบรวมพลังเวทอยู่”ไอน์อ้างแบบนั้น
ในที่สุดคนในปาร์ตี้ก็ตายหมดเหลือพวกเขา2คน
“ดีล่ะ เหลือแค่จัดการตามที่มิยาโมโตะสั่ง”ไลโอเนลคิดในใจ
“รุ่นน้อง ตอนนี้เหลือแค่เราสองคนแล้วนะ ดีที่มันบาดเจ็บหนักใกล้ตายแล้ว”
จากนั้นไลโอเนลก็ใช้สกิลดาบฟันใส่มันจนเจ็บหนัก
“ร่วมมือกันฆ่าปีศาจแมวไม่ใช่ปัญหา เชื่อใจฉันต้านมันได้ มานายังเหลือใช่ไหม ฮีลให้ที”ไลโอเนลบอก
“นายต่างหากที่ต้องต้านมันไว้”ไอน์พูดเดินหนีไป
“ไม่ต้องห่วงมอนไม่หลุดหรอก มันโจมตีแต่ฉัน ฮีลเร็ว”ไลโอเนลตื่นตระหนก
“ฮีลไม่ได้เดี๋ยวมอนหลุดมา”ตอนนี้ไอน์พิงต้นไม้สบายๆ
“แก…”
“พูดไปเทคนิคการเล่นของนายเปลี่ยนไปนะ เมื่อกี้ยังกับมือสมัครเล่น งั้นนายสู้ไปคนเดียวเถอะ”
ไอน์สังเกตการต่อสู้และเข้าใจว่าไลโอเนลต้องการฆ่าทุกคนในปาร์ตี้
“นายแกล้งทำเป็นแกล้งโง่ปล่อยสกิลยั่วมอนเมื่อจำเป็น รอโอกาสแล้วทำเป็นหลุดเพื่อจัดการเพื่อนในปาร์ตี้ทิ้งซะ…พอเพื่อนร่วมทีมตายหมดนายก็จะฆ่าบอสที่ใกล้ตายและเอารางวัลทั้งหมดไป”
มอนสเตอร์ไม่ได้รอขณะพวกเขากำลังสนทนา แมวปีศาจเข้ามาและโจมตีไลโอเนล
ไลโอเนลก็ไม่ได้อ่อนหัด เขารอจังหวะและเหวี่ยงดาบจัดการแวร์วูล์ฟ3ตัว
“สมเป็นนักผจญภัยระดับB น่าประทับใจมาก”ไอน์ยิ้ม
“แก…แกจะฮีลให้ฉันไหม”
“ฮีลคืออะไรเหรอ ฉันเห็นแต่นายก็เจ็บหนักเหมือนกัน”
“ไอ้ห่านี่ไม่ใช่พวกรับมือได้ง่ายๆ”
“มาถึงขนาดนี้อย่าคิดเล็กคิดน้อยเลยน่า ยังไงเราก็ไม่รู้จัก3คนนั้นตอนนี้เรามารวมพลังจัดการปีศาจแมวดีกว่า เราแบ่งของกัน50-50เป็นไง”เขาเสนอ
“50/50 แต่ฉันอยากได้ทั้งหมด”ไอน์แสยะยิ้ม
“ปีศาจแห่งความโลภหัวเราะให้กับความชั่วร้ายของคุณ”
“อาเธน่าชื่นชมในสติปัญญาของคุณ”
“อาร์เทมิสไม่ชอบเล่ห์เหลี่ยมของคุณ”
พวกเทพและปีศาจที่เฝ้ามองมีความเห็นต่างกันไป แต่ไอน์ไม่สนใจ
“ถ้างั้น…ปกติแล้วของไม่ได้ดรอปแค่ชิ้นเดียว ถ้ามีของดีตกนายเลือกก่อน ส่วนของที่เหลือเรามาทอยลูกเต๋ากัน พวกอาวุธ เกราะ ฉันก็ไม่เอา ให้นายหมดเลย แบบนี้โอเคไหม”
“ฟังดูก็ไม่เลว…แต่การแสดงของนายไม่น่าเชื่อถือพอให้ฉันเชื่อ”
“งั้นนายจะเอายังไง”
“นายไม่ต้องห่วงหรอกว่าฉันคิดยังไง ตายอย่างสงบเถอะ”
“นาย…นายบ้าไปแล้ว ฉันตายนายก็ไม่รอดเหมือนกัน ไม่มีใครได้ประโยชน์หรอก”
“ประโยชน์คือฉันจะได้เงิน อาวุธและชุดเกราะจากศพของนายและคนอื่นๆ”
ในที่สุดไลโอเนลก็พลาดท่าโดนแมวปีศาจตรึงไว้กับพื้น
“ช่วยฉันด้วย ฉันจะยกของทุกอย่างให้เลย”
ไอน์ไม่คิดจะช่วยเขา และในที่สุดไลโอเนลก็ตายเพราะแมวปีศาจ
“ขอรับทุกอย่างไปล่ะ”
ไอน์ได้ใช้เวท”หอกสายฟ้า”ยิงเข้าใส่แมวปีศาจที่ใกล้ตายสิ้นลม และรวบรวมของมีค่าจากศพของไลโอเนลและเพื่อนนักเรียนก่อนจะถอนตัวกลับ
[เหล่าเทพและปีศาจเฝ้ามองคุณเพิ่มเป็น100คน]
@@@@@@@@@
หลังจากขับไล่ฝูงมอนสเตอร์ไปได้ พวกมิยาโมโตะก็ตัดสินใจฝากให้นักผจญภัยจัดการที่เหลือและถอยไปด้านหลังที่พวกนักเรียนแรงค์Cอยู่
“3คน”
“3?”
“คนที่โดนฆ่าโดยฝูงมอนสเตอร์”
“อะไรนะ!!?”
“โกหกใช่ไหม”
เมื่อรู้ข่าวการตายของเพื่อนร่วมชั้น นักเรียนก็พากันโศกเศร้า
“ใครตาย”ชินจิถามอย่างคาดหวัง
“คาเนดะคุง โคบายาชิและยูกิ”คาเรนหยิบการ์ดแพล็ตที่เหมือนบัตรผ่านดันเจี้ยนออกมาโชว์
“มันไม่ตาย!!!”มิยาโมโตะคิดในใจด้วยความโกรธเมื่อเห็นว่าไอน์รอดมาได้
มีเสียงกรีดร้องจากคนที่เป็นเพื่อนกับทั้ง3
“อย่างน้อยเธอก็จำชื่อเพื่อนร่วมชั้นได้”นักเรียนหญิงคนนึงพูดกับคาเรน
“ฉันจำชื่อได้ แต่ไม่รู้หรอกพวกนั้นหน้าตายังไง”คาเรนสารภาพ เธอไม่เคยจำหน้าพวกที่ไม่น่าสนใจ
“แล้วต่อจากนี้จะทำยังไง”
“ฉันคิดว่าเราจัดการพวกมันหมดแล้ว ก็ควรนำศพของพวกเขากลับมา”ชินจิกล่าว
“ขอโทษ แต่ฉันไม่มีเวลาสำหรับเรื่องนั้น”
“อะไรนะ”
มิยาโมโตะหงุดหงิดเมื่อมีคนพูดขัดใจ แต่เมื่อหันไปก็เห็นนักผจญภัยแรงค์Aที่เป็นหัวหน้าทีม
“หมายความว่ายังไง”
“เราจะออกจากดันเจี้ยนทันที ที่นี่อันตราย”
“ผมรู้ แต่ผมทิ้งศพเพื่อนไว้ไม่ได้”ชินจิกล่าว
“เธอคิดจะทำอะไรกับมัน”
“ทำหลุมศพและไว้ทุกข์”
“แน่ใจเหรอว่าจะขนไปที่เมืองหลวง”
“ใช่…”
“เราไม่สามารถเคลื่อนย้ายศพได้”
หากนักผจญภัยเสียชีวิต ศพจะถูกฝังทันที
“ทำไม่ไม่ได้ล่ะ”
“มันเน่า เราทนอยู่กับศพไม่ได้หรอก”
“แต่เพื่อนผม”
“นั่นไม่ใช่เพื่อนแต่เป็นศพ”
“อะไรนะ”
“หรือเธอเรียกศพว่าเป็นเพื่อนของเธอล่ะ”
นักผจญภัยไม่รู้ว่าทำไมคนจากต่างโลกถึงโกรธ
“ผมไม่ได้คิดแบบนั้น แต่ว่า…”
“นั่นขึ้นอยู่กับเธอ แต่เราจะไปทันที”
“อย่างน้อยก็ให้เราฝังพวกเขา”
เพื่อนๆคิดว่าอย่างน้อยก็ควรฝังศพ
“จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีมอนสเตอร์โผล่มา…กลิ่นเลือดจะดึงดูดพวกมัน เมื่อพวกมันกินหินเวทของมอนสเตอร์ที่ตายก็จะยิ่งแกร่งขึ้น พวกเธอแกร่งพอจะรับมือแต่คนอื่นล่ะ อยากให้เพื่อนตายเพิ่มหรือไง”
“เข้าใจแล้ว เราจะออกเดินทางทันที”
ระหว่างเดินทางกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนกลับถึงวิหารโดยสวัสดิภาพ
ความคิดเห็น