คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ผู้ล้มเหลว
โพล คูน เดินผ่านวิหารเจไดพยักหน้าต่อผู้ที่เดินผ่านไป เคลดอร์เคลื่อนไหวอย่างมีจุดหมายเข้าใกล้สถาบันของวิหารซึ่งเขาไปหลายครั้งในช่วงหลายปี
อาจารย์ช๊าค ทีทักทายเขาที่ทางเข้าด้วยการโค้งคำนับสั้นๆและรอยยิ้ม
"อาจารย์โพล คูน ดีใจที่ท่านมาเยือนที่นี่อีกครั้ง มาเพื่อสังเกตกลุ่มคลาวน์เมาส์"
"ท่านรู้จักข้าดีอาจารย์ที"โพลตอบ นับแต่เขาส่งอาโซก้า ทาโน่น้อยเข้าวิหารเขาได้ตรวจสอบเธอเป็นระยะๆเพื่อดูว่าเธอมาไกลแค่ไหน บางครั้งก็พูดคุยกับเธอเป็นการส่วนตัว แต่ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการเฝ้าดูบทเรียนเธอจากระยะไกล มันจะไม่ทำให้คนอื่นเชื่อว่าเธอได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
"ตอนนี้พวกเขาอยู่ระหว่างฝึกไลท์เซเบอร์"อาจารย์ทีพูดพร้อมกับหันนำทางไปยังสนามประลองแห่งหนึ่ง โพลเดินตามไปตามทางเดินที่เขาเคยวิ่งผ่านเมื่อหลายสิบปีก่อน
พวกเขาเข้ามาในห้องฝึกซ้อม มีเสียงไลท์เซเบอร์ปะทะพร้อมเสียงตื่นเต้นมากมาย ถ้าเขาจำไม่ดี การประลองเด็กฝึกหัดประจำปีกำลังจะเริ่มในไม่ช้า กลุ่มอาโซก้าเพิ่งอายุถึงวัยที่พวกเขาได้รับอนุญาติให้แข่งขัน พวกเขาต้องใช้ไลท์เซเบอร์จริงเพื่อให้เด็กได้ประสบการณ์มีค่า สร้างความประทับใจให้ผู้ชมและหลีกเลี่ยงการตกไปอยู่ชั้นบริการ
เด็กวัย12ปีกำลังต่อสู้กันเป็นคู่ ไลท์เซเบอร์กระพริบไปมาด้วยทักษะที่ต่างกัน ด้านข้างอาจารย์ซิน ดาริคเฝ้าดูการดวลทั้งหมดด้วยหน้าที่ผู้พิทักษ์วิหาร
อาโซก้าในฐานะโทกรูตาคนเดียวในกลุ่มสามารถสังเกตได้ง่ามาก ตอนนี้เธอกำลังดวลกับเด็กหนุ่มชาวอโตลัน เขาสามารถสรุปได้รวดเร็วว่าโทกรูตาใช้รูปแบบที่5และใช้พลังทำให้คู่ต่อสู้เสียเปรียบ อโตลันวัยเยาว์ถูกปัดออกไปอย่างง่ายดายและอาโซก้าฟาดฟันเข้าที่ลำตัวเขาอย่างรวดเร็ว
"ยุติได้"เจ้าหน้าที่บอก"ศิษย์ทาโน่เป็นผู้ชนะ"
โพลเฝ้าดูอาโซก้าช่วยคู่ต่อสู้ลุกขึ้นพร้อมพูดสองสามคำก่อนพวกเขาจะแยกย้ายไปข้างสนามเพื่อชมการแข่งที่เหลือ เป็นเรื่องน่าสบายใจที่เห็นว่าโทกรูตาน้อยที่เขาช่วยไว้หลายปีก่อนกำลังก้าวหน้าในวิถีเจได
"แล้วอาจารย์โพลคิดยังไง?"ช๊าค ทีถามด้วยรอยยิ้มภาคภูมิใจ
"ศิษย์ทาโน่เติบโตได้ดี"เคลดอร์ตอบ"ยังลิงทุกคนที่นี่ ข้ามั่นใจว่าพวกเขาจะเป็นพาดาวันที่ดีในไม่กี่ปี อาจารย์ในอนาคตจะโชคดีที่ได้พวกเขา"
อาจารย์ทีมองเขาด้วยรอยยิ้มขบขัน
"อาจารย์ในอนาคต หืม ข้าคิดว่าท่านวางแผนจะรับอาโซก้าเป็นศิษย์ใช่มั้ยอาจารย์โพล"
"ข้าแค่อยากให้แน่ใจว่าทาโน่ดีอาจารย์ช๊าค"โพลตอบจริงจังแม้ไม่ได้ซ่อนความสนุกของตัวเอง ข้อสัญนิษฐานของเขาเป็นเหตุผลโดยเฉพาะเขาสังเกตกลุ่มของเธอหลายครั้งช่วงหลายปีมานี้"ข้าไม่เชื่อว่านางจะพัฒนาเต็มศักยภาพถ้าอยู่ใต้การดูแลของข้า โชคชะตาของนางอยู่กับผู้อื่น"
ขณะที่พูดสายตาเขามองไปที่อีกคู่หนึ่ง ซึ่งมนุษย์กับซาบัคกำลังจับคู่กันอยู่ ซาบรัคเป็นชายหนุ่มผิวสีแทนมีเขา3อันที่หน้าผากกำลังใช้รูปแบบที่3 แต่เป็นเด็กมนุษย์ที่สวมแจ็กเก็ตสีดำที่ดึงดูดสายตาโพล
เหมือนอาโซก้าเขาใช้รูปแบบที่5ที่เน้นการโจมตีเพื่อทำลายการป้องกันฝ่ายตรงข้าม แต่นั่นคือจุดที่ความคล้ายคลึงหมดลง เขาหมุนตัวรอบๆคู่ซ้อมโดยใช้การเคลื่อนไหวกายกรรมเพื่อปกปิดการโจมตีของเขา เด็กมนุษย์ก้มหลบดาบของซาบรัคก้มลงกวาดขาตามด้วยแกว่งดาบของเขา คู่ต่อสู้แทบไม่สามารถป้องกันทั้งคู่ได้ ก่อนจะหลบการโจมตีที่3 เคลดอร์เห็นการกระโดดและเตะจากรูปแบบที่4 แต่เขาแทบไม่สามารถตรวจจับการใช้พลังใดๆจากมนุษย์ได้เลย มันห่างไกลจากจำนวนที่แม้แต่ผู้ใช้อาตารุเยาว์วัยมักจะใช้สำหรับการเคลื่อนไหวของพวกเขา ไม่ นี่เป็นความเป็นนักรบอย่างแท้จริงที่กระตุ้นเด็กชาย ไม่ใช่อะไรอื่น
"มนุษย์ตรงนั้น"โพลพูดดึงดูดความสนใจช๊าค"เขาชื่ออะไร"
สายตาโทกรูตาติดตามการจ้องมองของเขาและยิ้มขณะที่เขาเห็นผู้ที่สะดุดตาเคลดอร์
"เด็กคนนั้นคือจาริก ชานจากคราวเมาส์และเป็นเด็กที่ข้าพาตัวมายังวิหารด้วย ท่านถามทำไม"
โพลชะงักไปเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำว่า"ชาน" เป็นปฏิกิริยาที่คาดการณ์ได้ เขาสืบทอดเชื้อสายของดาร์ธเรวาน แต่ถึงอย่างงั้น....
"เขาแตกต่าง"โพลตอบ"ข้าแทบไม่รู้สึกถึงพลังของเขา แต่เขาก็เคลื่อนไหวอย่างมั่นใจ"
ช๊าคนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งขณะที่การดวลดำเนินต่อไป ซาบรัครับการโจมตีของมนุษย์หลายครั้งและโดนตีเข้าที่ไหล่
"เมื่อศิษย์ชานได้ทดสอบศักยภาพด้านพลัง ค่ามิดิคอเรี่ยนเขามีเพียง7100เท่านั้น"
ดวงตาโพลเบิกตากว้างใต้หน้ากากของเขา
"7100เหรอ นั่นแทบจะไม่เพียงพอจะได้รับการพิจารณาให้เข้ารับการฝึกด้วยซ้ำ"
"และมันก็แสดงให้เห็น"ช๊าคกล่าวต่อ"เขามีปัญหามากมายในการเชื่อมต่อกับพลังและแม้แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถใช้มันได้ระดับเดียวกับคนอื่นๆ แม้เขาจะมีความสัมพันธ์กับการเห็นอนาคต แต่สิ่งที่เขาได้รับมากที่สุดคือคำพูดที่ไม่มีใครเข้าใจได้"
"เขายังไม่ยอมแพ้"โพลแสดงความเห็นประทับใจ มีเด็กจำนวนมากที่ถอนตัวจากนิกายหลังจากพบปัญหาคล้ายกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออายุน้อยและสายตาจากคนรอบข้าง ทุกวันจะยิ่งแย่ลง สำหรับหนุ่มชานที่ผ่านการทดสอบเริ่มต้นด้วยข้อเสียดังกล่าวได้แสดงถึงความมุมานะของเขา
"ยิ่งกว่านั้นเขาชดเชยได้อย่างน่าชื่นชม"เพื่อนอาจารย์เจไดกล่าวพร้อมแสดงท่าทางให้กลับไปสนใจการดวล
พวกเขาเห็นชานกระโจนเข้าใส่แจนน์ หนุ่มซาบรัคแสยะยิ้มพร้อมจะเหวี่ยงมนุษย์ตก แต่การเคลื่อนไหวต่อไปทำให้โพลประหลาดใจ มนุษย์ใช้พลังผลักทำให้เท้าของแจนน์สะดุดล้มลง ชานลงพื้นอย่างง่ายดายปัดดาบของแจนน์ด้วยไลท์เซเบอร์สีเขียวและยกดาบทาบที่คอซาบรัค
"ยุติได้"อาจารย์ดาริคกล่าว"ศิษย์ชานเป็นผู้ชนะ เป็นการต่อสู้ที่ดีมากทั้งคู่"
ขณะที่ชานดึงแจนน์ขึ้นมา ช๊าคหันไปหาโพล
"เห็นแล้วใช่ไหม"เธอถาม"แม้พลังของเขาจะอ่อนแอเมื่อเทียบกับคนส่วนใหญ่ แต่เขาเรียนรู้จะใช้มันอย่างชาญฉลาดและสร้างสรรค์แทน"
"แน่นอน"โพลตอบขณะมองหนุ่มชานกลับเข้ากลุ่ม อาโซก้าทักทายเขาอย่างกระตือรือร้น"รูปแบบดาบของเขาไม่เหมือนใคร ชดเชยข้อเสียของเขาใช่หรือไม่?"
"ใช่ มันดัดแปลงจากอาตารุมาตรฐาน"
"ข้าเกรงว่าต้องไปแล้วอาจารย์ที สภาสูงจะประชุมเร็วๆนี้และข้าไม่ควรไปสาย"
"หน้าที่เรียกเหมือนอย่างเคย"ช๊าค ทีพยักหน้าและโค้งคำนับให้เคลดอร์"ลาก่อนเช่นเคยอาจารย์โพล ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่าน"
"ท่านก็ด้วย"โพลตอบเดินไปห้องประชุมสภา
@@@@@@@@@@@
หลังจากนั้นไม่กี่เดือนต่อมา
"มานี่ยังลิ่ง"อาจารย์อดิ กัลเลียเรียกขณะไปที่ยานลำเลียงที่ลงจอด เด็กๆรีบวิ่งมาหาอาจารย์โทโลเธียน เด็กหลากหลายสายพันธุ์คุยกันเจี้ยวจ้าว อาจารย์เจไดกระแอมสรุป"การชุมนุม"ให้เด็กๆฟัง มีเด็กสองคนทะเลาะกันขณะคนอื่นฟังอย่างตั้งใจ
"อาโซก้า ข้าจะต้องได้คริสตัลก่อน"
"ใช่ เจ้าเคยชนะข้าได้เหรอ"
"มาก เหมือนครั้งนั้น เอ่อ..."เด็กชายคิดไม่ออกและมีเสียงหัวเราะจากสาวโทกรูต้า
"อาโซก้า ทาโน่ , จาริก ชาน การชุมนุมเป็นการทดสอบสำหรับเด็กที่โตแล้ว หากเจ้าขาดสมาธิ บางทีพวกเจ้าอาจยังไม่พร้อม"
"ขออภัยอาจารย์กัลเลีย"ทั้งสองตอบอย่างเขินอาย อาจารย์เจไดพูดต่อและแสดงไลท์เซเบอร์สีฟ้า
เด็กๆรู้สึกทึ่ง แต่อาจารย์เตือนครั้งสุดท้าย"หากพวกเจ้าล้มเหลว เจ้าจะไม่ได้เป็นเจได"
จากนั้นอาจารย์กัลเลียก็ให้ขึ้นยาน
....
.....
......
เราไปถึงดาวไอลั่มและพบอาจารย์โยดาในถ้ำ หลังบรรยายเสร็จ อาจารย์โยดาใช้ฟอร์ซเปิดเลนที่ซ่อนอยู่เพดานวิหาร แสงสีเหลืองส่องลงมาละลายน้ำแข็ง
"ถ้าอยากเป็นเจได เข้าไปในถ้ำคริสตัล เจ้าต้องเชื่อในตัวเอง เชื่อในกันและกัน และเชื่อว่าจะสำเร็จ เจ้าก็จะสำเร็จ"อาจารย์โยดาถ่ายทอดปรัชญาครั้งสุดท้าย
"ไปซะยังลิ่ง หาคริสตัลของเจ้า แต่ระวังด้วยล่ะ ถ้าเจ้าไม่กลับมาก่อนตะวันตก น้ำตกจะกลายเป็นน้ำแข็งปิดทางเข้าและเจ้าจะออกมาไม่ได้"
"แล้วถ้าเราติดอยู่ในนั้นล่ะ"อาโซก้าถาม
"เจ้าจะติดอยู่ในนั้น1ดวงจันทร์ คนที่ติดอยู่....ไม่ได้ออกมาเป็นๆ"อาจารย์กัลเลียตอบอย่างใจเย็น ปฏิเสธจะตอบคำถามเพิ่มเติม เธอให้คำแนะนำสุดท้าย"เจ้าจะรู้ว่าคริสตัลอันไหนเป็นของเจ้าเมื่อเห็นมัน"
พวกเราจึงเข้าสู่ถ้ำน้ำแข็ง
หลังเข้าไปในถ้ำ เราส่วนใหญ่แยกกัน ฉันกลัวที่จะอยู่คนเดียวเลยตามติดอาโซก้า
"จาริก เจ้าหยุดตามข้าสักทีได้ไหม"
"อาโซก้า เราต้องเอาชนะบททดสอบหรืออุปสรรคบางอย่างใช่ไหม บางทีเจ้าอาจต้องดีกับข้าเพิ่มขึ้นอีกหน่อยแล้วคริสตัลจะปรากฏขึ้น"ฉันตอบอย่างประชดประชัน
"บางทีข้อบกพร่องของเจ้าคือ--"อาโซก้าเริ่ม แต่ก่อนเธอจะพูดจบเราเข้าไปในถ้ำที่ใหญ่มาก ตรงกลางมียอดแหลมหินแนวตั้งสูงขึ้นไป มีบางอย่างดึงดูดสายตาของโทกรูต้า เธอเริ่มปีนขึ้นไป
"เฮ้ อาโซก้า เจ้าจะไปไหน?"
"ไปเอาคริสตัลของข้า เจ้าโง่"เธอตะโกนก่อนจะหันกลับและปีนต่อไป หลังถอนหายใจหนักฉันหันกลับและเริ่มตามหา ฉันต้องเผชิญหน้ากับความกลัว และบางทีคริสตัลของฉันจะเผยตัวออกมา
ฉันเดินไปเรื่อยๆ บางครั้งก็ผ่านแคลนคนหนึ่ง ชั่วโมงหนึ่งผ่านไป มันยากจะบอกเวลาที่แน่นอน ที่ฉันรู้คือฉันรู้สึกแน่นท้องขึ้นทุกนาทีที่ผ่านไปโดยไม่พบคริสตัล ฉันไม่เห็นอาโซก้าเลย เธอน่าจะได้คริสตัลแล้ว
ฉันเดินเตร่อย่างไร้จุดหมายเป็นเวลานาน ในที่สุดก็กลัวที่จะล้มเหลว เกลียดที่อ่อนแอ เมื่อเห็นซอกเล็กๆในถ้ำ ฉันก็นั่งเอนหลังพิงเอามือปิดหน้าไว้ และเริ่มร้องไห้ ฉันพยายามสัมผัสถึงฟอร์ซ แต่ไม่มีอะไรเลย ไม่มีคริสตัลเรียกหาฉัน ในที่สุดน้ำตาก็หยุดไหล่ ความโศกเศร้า....มันหายไป ใช่ ฉันคิดอย่างงั้น ตอนนี้ไม่มีอะไร ไม่ผิดหวัง ไม่กลัว ไม่โกรธ ฉันแค่รู้สึก....ทำอะไรไม่ถูก อ่อน โดดเดี่ยว ว่างเปล่า
@@@@@@@@
POV อาโซก้า
ฉันทนไม่ไหว ประตูปิดสนิทนานแล้ว ทุกคนกลับมา....ยกเว้นจาริก ชาน เขาจะไม่เป็นไร ไม่ต้องกังวล เขาคงจะสบายดี
"อาจารย์ เราทำอะไรไม่ได้เลยหรือ"ฉันขอร้องอาจารย์เจไดทั้งสองที่ซุบซิบกัน
"ใช่ ทาโน่ กฏระบุไว้อย่างชัดเจน"
"แต่ท่านปล่อยให้เขาเข้าไป ท่านรู้ว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นและท่านไม่ได้หยุดมัน"ฉันโวยวาย
"ควบคุมอารมณ์"อาจารย์ตอบทันที ฉันตัดสินใจวิ่งไปที่ประตูน้ำแข็ง
"สัมผัสถึงพลัง ปลดปล่อยมันออกมาอาโซก้า"ฉันสั่งตัวเองและเหวี่ยงแขนออกไปทำให้ประตูน้ำแข็งแตกเป็นเสี่ยงๆ
ก่อนที่ฉันหรือคนอื่นจะประมวลผลกับสิ่งที่ฉันทำลงไป ฉันก็หายไปแล้ว ฉันต้องไปหาจาริก
ถ้าอาโซก้ามองไปข้างหลัง เธอจะเห็นรอยยิ้มของอาจารย์กัลเลีย
@@@@@@@@
POV จาริก
ฉันคิดว่าความหนาวเย็นกำลังเข้าปกคลุม ฉันแทบไม่รู้สึกถึงมือฉันอีกต่อไป ฉันมาได้แค่นี้เหรอ? ฉันอยากทำให้ดีกว่านี้ ฉันไม่ได้อยากเกิดมาเป็นแบบนี้ ฉันไม่ได้มีความสามารถด้านนี้ ฉันไม่ได้ถูกเลือกโดยไคเบอร์คริสตัลด้วยซ้ำ ฉันอาจเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ตระกูลเรานับพันปีที่ล้มเหลว เมื่อฉันหลับตาฉันก็ได้ยินเสียงแผ่วเบา....อาโซก้า นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ฉันจำได้ ก่อนที่ทุกอย่างจะกลายเป็นสีดำ
ฉันตื่นขึ้นมาด้วยเสียงของไลท์เซเบอร์ ฉันลุกขึ้นยืน อาจารย์โยดาและกัลเลียจุดไฟไลท์เซเบอร์ของพวกเขาเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ฉัน ฉันมองไปรอบๆประเมินสถานการณ์
"จาริก ข้าดีใจที่เจ้าไม่เป็นไร"อาโซก้าร้องไห้
"กลับไปที่ถ้ำ เด็กทาโน่ทำ นางเป็นห่วงเจ้า"อาจารย์โยดาชี้ด้วยรอยยิ้ม
"ประตูเป็นแค่อุบาย มันเป็นการทดสอบ ถ้าเพื่อนของเจ้าไม่ไปตามหาเจ้าเราจะเข้าไปช่วยเจ้าออกมาหลังจากนั้น"อาจารย์กัลเลียตอบ
"ขอบคุณอาโซก้า"ฉันพูดอย่างอ่อนแรง
"เจ้าได้คริสตัลมารึเปล่า"เธอถามอย่างกระตือรือร้น
ทุกสายตาจับจ้องมาที่ฉัน ความกลัว ความอับอายและไร้กำลัง
"ไม่"
@@@@@@@@
POV อาโซก้า
ฉันวิ่งผ่านทางเดินในวิหารอย่างรวดเร็วเมื่อทราบข่าว
"ดูนั่นสิ ใช่เขาไหม"
"ทุกคนเรียกเขาว่าเจไดที่อ่อนแอที่สุด"
"เขาล้มเหลวในการชุมนุมจริงๆเหรอ"
ตรงหน้าฉันคือที่มาของเสียงกระซิบ จาริก เขาได้ยินทั้งหมด เขาได้ยินทุกวัน ไม่ว่าสถานที่ไหน เขาไม่แสดงออก
และวันนี้ดูเหมือนความอดทนเขาจะหมด
“จาริก เดี๋ยวสิ จาริก เจ้าจะไปไหน”
โทกรูต้าวิ่งมาหาเพื่อนร่วมแคลนที่กำลังจะเดินออกจากวิหารพร้อมเป้สะพายหลัง
“ข้าเลิกเป็นเจไดแล้วอาโซก้า”
“ทำไมล่ะ?”
“ข้าไม่เหมาะกับการเป็นเจได ข้าจะไปตามหาพ่อแม่ข้า อาจจะชีวิตที่เหมาะกับตัวข้ารออยู่ข้างนอกนั้น….ลาก่อนอาโซก้า”
วันนั้นโทกรูต้าต้องเสียเพื่อนสนิทไป
ความคิดเห็น