ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เกิดใหม่ครั้งนี้ขอให้ร่ำรวยเงินทอง (จบแล้ว) มีE-BOOK

    ลำดับตอนที่ #9 : หัวหน้าครอบครัวคือข้า 1

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 66


    บทที่ 6 หัวหน้าครอบครัวคือข้า

    เหลียนฮวาตื่นเพราะเสียงของตกซึ่งดังมาก ๆ สัญชาตญาณป้องกันตัวจึงทำให้นางรีบลุกขึ้นนั่งตั้งท่าป้องกัน หันมองซ้ายขวาไม่เจออะไร มองขึ้นไปบนหลังคาก็เห็นแต่ ท้องฟ้า…

    “หลังคาบ้านข้าหายไปไหน!!”

    คนตัวเล็กตื่นเต็มตามองหลังคามีรูโบ๋ สงสัยจะถูกลมพัดไปตอนนอนกลางวัน นางได้ยินเสียงลมพัดแรงมาก สงสัยจะดังจนกลบเสียงหลังคาแตกหักแล้วปลิวหายไป งานเข้าแล้วเรา...

    หญิงสาวรู้สึกเหมือนมีอะไรรั้งเอวไว้อยู่ พอก้มลงมองก็เห็นสามีนอนถอดเสื้อมือรั้งเอวบางไว้แน่น สีหน้าเขาดูมีความสุขมาก ปากหนาอมชมพู ผิวของเขาขาวราวกับหิมะ ขาวเสียจนสตรียังอาย ทั้งยังให้ความรู้สึกน่าปกป้อง?

    ข้าจะเป็นหัวหน้าครอบครัวเอง…

    หุ่นของมู่เฉินยามที่สวมใส่เสื้อผ้า เขาดูสูงโปร่งผอมแห้งเหมือนคนขาดสารอาหาร ยิ่งมองใบหน้าซีดเซียวเหมือนคนป่วย ใครเห็นเป็นต้องคิดว่าเขาน่าสงสารยิ่งนัก ยิ่งใส่ชุดหลวมโพรกยิ่งเหมือนหุ่นก้างปลาไม่มีมัดกล้าม ทว่าที่ไหนได้! เขาแข็งแรงกว่าที่คิดอีก เกินคาดเสียจริง...

    ‘หุ่นดี หน้าคม คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากน่าจุ๊บ ยามนอนด้วยกันต้องหักห้ามใจตัวเองไม่ให้ไปลักหลับเขาแล้วสิ

    คนอะไรน่ากินชะมัด เอ๊ย! ไม่ใช่ ๆ ขนาดตอนนอนก็ยังหล่อ ใช้คำว่าหล่อได้เปลืองมากสามีใครก็ไม่รู้ อ๊าย!!'

    เหลียนฮวาไล่สำรวจใบหน้าผู้เป็นสามี สังเกตดูดี ๆ ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับภาพวาดนี่มันอะไรกัน ช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก…

    คนตัวเล็กลองเปรียบเทียบความสูงของตัวเองกับสามี ยามที่ยืนข้างกันหัวของนางสูงเพียงอกเขาเท่านั้น ยามพูดคุยกันก็ต้องแหงนหน้าจนปวดคอ ดีที่เขารู้ตัวกลัวภรรยาเมื่อย ตอนที่ยืนคุยกันเขาถึงได้กางขาออก หรือไม่ก็ยื่นหน้ามาระดับเดียวกัน เป็นคนที่เอาใจใส่ทุกรายละเอียดจริง ๆ

    มือเล็กลูบไล้ตามร่างกายสมส่วนจนมาหยุดบนแผงอกกว้าง นางใช้ปลายนิ้วมนจิ้ม ๆ ดูก็พบว่ามันแข็งมาก ความแข็งแกร่งนี้เหมือนคนออกกำลังกายมาอย่างหนัก ผิดกับภาพลักษณ์อ่อนแอของเขา

    ‘คงเป็นเรื่องปกติสินะ บุรุษยุคนี้ต้องทำงานหนัก ก่อนแต่งงานเขารับจ้างทำงานทุกอย่างย่อมใช้ร่างกายเยอะ ไม่แปลกที่จะมีกล้ามเนื้อ เพิ่งจะมาพักเอาตอนป่วยนี่เอง น่าสงสารเสียจริงสามีข้า'

    “ฮ่า ๆ ภรรยาข้าจั๊กจี้ เจ้าอย่าจิ้มแรงนัก”

    มู่เฉินตื่นตอนไหนไม่รู้ ขณะที่กำลังถูกภรรยาตัวน้อยใช้มือลูบไล้ตามร่างกาย เขาพยายามอดทนจนในที่สุดก็ทนไม่ไหว รีบคว้าหมับ! จับมือภรรยามากุมไว้ไม่ให้นางได้ซุกซนอีก

    เหลียนฮวายกมือปิดปากกระแอมไอเล็กน้อย แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ รีบชักมือกลับทำลายหลักฐานว่าไม่ได้ลวนลามสามียามหลับแต่อย่างใด

    “ท่านพี่ตื่นก็ดีแล้ว เราไปที่แม่น้ำกันเถอะ ข้ากลัวว่าไปช้าจะไม่มีอะไรมาทำอาหารเย็นเอาได้”

    มู่เฉินรีบลุกขึ้นนั่ง ยกมือเสยผมที่ปรกหน้าออก เหลียนฮวามองรูปร่างฟ้าประทานของสามีแวบหนึ่งก็รีบเบือนหน้าหนีทันที นางลุกขึ้นเดินออกไปล้างหน้า ไม่ลืมหยิบมีดเล่มเดียวที่มีอยู่ในบ้านใส่ถังไม้ ส่วนขวานพี่ชายมาขอยืมไปใช้ตอนที่นางนอนหลับอยู่

    เหลียนฮวาชี้หลังคาที่เป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่ให้สามีดู แต่เขาเพียงบอกว่ากลับมาค่อยซ่อมก็ได้ ที่ห้องเก็บฟืนพอจะมีไม้ที่ใช้ได้อยู่ อีกอย่างตรงจุดนั้นมันพังทุกวัน เขาเห็นและซ่อมจนชินแล้ว

    “เอาแบบนั้นก็ได้เจ้าค่ะ” สามีว่าอย่างไรภรรยาย่อมว่าตามนั้น

    ยามบ่ายคล้อยสองสามีภรรยาเดินมาถึงแม่น้ำสายเดียวที่ตัดผ่านทั้งหมู่บ้าน ชาวบ้านทุกคนล้วนมาใช้น้ำที่นี่ทั้งดื่มกินและใช้ประโยชน์

    ชาวบ้านบางส่วนที่เพิ่งกลับจากการทำไร่ ต่างมาชำระร่างกายอยู่ริมน้ำโดยแบ่งแยกบุรุษสตรีชัดเจน บางคนมาตักน้ำไปใส่โอ่งไว้ใช้ ทว่าทันทีที่เห็นเหลียนฮวาเดินมาพร้อมกับสามี ทุกคนต่างตกใจกับภาพที่เห็น

    “นั่นใครกัน ข้าไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”

    “บุตรสาวตระกูลหยางอย่างไรเล่า ข้าได้ยินมาว่านางแต่งงานกับเจ้าหนุ่มหน้าขาวเมื่อสองเดือนก่อน”

    “นั่นนางยิ้มให้สามีอยู่อย่างนั้นหรือ?”

    “ข้าก็เห็นเหมือนกัน”

    “หากจำไม่ผิด ข้าไม่เคยเห็นหน้าบุตรสาวผู้เฒ่าหยางมาก่อน แต่เคยได้ยินว่านิสัยของนางเลวร้ายนัก อีกอย่างที่คนตระกูลนั้นมีเคราะห์เรื่องสตรี ก็เป็นเพราะนางนั่นแหละ”

    “ข่าวลือก็คือข่าวลือน่า...”

    “แต่เอ...เหตุใดข้าถึงรู้สึกเหมือนเห็นคู่รักอยู่เล่า ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่เห็นย่ำแย่เหมือนที่คนเขาลือสักนิด”

    หมู่บ้านหนีหรู่ เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่มีประชากรมากกว่าห้าพันคน เปรียบเสมือนอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งแต่อยู่ห่างไกล หากต้องการเข้าเมืองต้องนั่งเกวียนถึงสามวัน แต่หากเดินทางทางน้ำอาจร่นระยะเวลาได้รวดเร็วขึ้นอีกหน่อย

    แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา หมู่บ้านหนีหรู่มีทุกอย่างครบครันตั้งแต่ร้านค้าไปจนถึงตลาด ไม่ต้องห่วงเรื่องปากท้องสักนิด ขอแค่มีเงินซื้อก็พอ

    แซ่หยางของเหลียนฮวาเป็นที่รู้จักของคนในหมู่บ้านมานาน อดีตของคนตระกูลนี้ล้วนยากจนข้นแค้น ทว่าด้วยความขยันของผู้นำตระกูลคนปัจจุบัน ทำให้เขามีที่ดินมากที่สุดในหมู่บ้าน มีบุตรชายสืบทอดตระกูลถึงหกคน ส่วนญาติมิตรไม่มี...

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×